รวมข่าวโครงการรถไฟทางคู่

nathapong · Posted: 14/11/2008 1:55 pm Post subject:

อ.หม่องครับ...
เรื่อง อ.ภาชี กับ อ.อุทัย... มันแว้บขึ้นมา
จำได้ว่า บนโฉนดที่ดินของที่ถือครอง (เก่ามาก) ขนาดกระดาษไซด์ เอ 3 ...
แปลงที่สร้างบ้านหลังอยู่ในปัจจุบัน(ที่อ.ภาชี) ระบุเป็น อำเภออุทัยใหญ่ ครับ...

ไม่แน่ใจว่าอ. อุทัยในสมัยก่อน มีอุทัยใหญ่ คือ อ.ภาชี ปัจจุบัน
ส่วนอีกส่วนจะเป้น อ.อุทัยในปัจจุบัน กับ อ.วังน้อย บางส่วน อะครับ

ปล.จากข่าว คาดเดาได้ว่า สายแก่งคอยคลองสิบเก้า จะตัดจาก วิหารแดงมาภาชี
อาจจะใช้แนว 1. ถนนสุวรรณศร หรือ 2.เลียบคลองระพิพัฒน์

ปล. ช่วงนี้ถ้าจะใช้ปี้บจะใช้เปลือง หน่อย

Mongwin · Posted: 14/11/2008 2:43 pm Post subject:

โอ้โห อำเภออุทัยใหญ่
หลังจากที่ค้นดูแล้ว เป็นชื่อเรียกสมัยรัชกาลที่ 5 โน่นแน่ะครับ
เมื่อครั้งอยุธยายังเป็นแขวงเมืองกรุงเก่า

ภาพข้างล่างเจอ ตำบลเปร็ง ด้วยไม่แน่ใจว่าที่เดียวกับสถานีเปรง ในปัจจุบันหรือไม่
แต่ที่น่าสนใจคือชื่ออำเภอที่ตำบลเปร็งสังกัดอยู่น่ะครับ Very Happy

วิหารแดง-ภาชี มีแต่ที่ราบ พื้นที่เกษตรกรรม ไม่มีแม่น้ำสายใหญ่ๆ คงจะใช้งบประมาณไม่มากเท่ากับสร้างทางเชื่อมสายเหนือสายใต้ผ่านสุพรรณบุรีครับ ซึ่งอุปสรรคสำคัญคือแม่น้ำสายต่างๆ

black_express · Posted: 14/11/2008 2:43 pm Post subject:

เวรกรรม เอาชื่ออำเภอเก่ามาพูดปนกับอำเภอยุคนี้ ผมก็สับสนน่ะสิ Laughing

อ.บางเหี้ย ปัจจุบันคือ อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ นั่นเอง

น่าจะวงเล็บปี พ.ศ.ด้วยหน่ะ Idea

saraburi · Posted: 14/11/2008 5:14 pm Post subject:

black_express · Posted: 14/11/2008 5:16 pm Post subject:

ทำสะพานลอยข้ามสิครับ แบบเดียวกับสะพานข้ามแม่น้ำบางปะกง

Wisarut · Posted: 26/11/2008 12:23 am Post subject:

เร่งสำรวจทางคู่ฉะเชิงทรา-คลอง19-แก่งคอย ร.ฟ.ท. เผยพื้นที่เสี่ยงตามแนวเพียบ

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 2377 23 พ.ย. - 26 พ.ย. 2551

การรถไฟฯ เร่งทบทวนผลศึกษางานก่อสร้างทางคู่ฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย 106 กม. เบื้องต้นพบผลกระทบทั้งแง่ดี-แง่ลบ ตลอดแนวเส้นทางในรัศมี 500 เมตรจากกึ่งกลางแนวเส้นทาง พบพื้นที่เสี่ยงเพียบ ทั้งชุมชนริมทางรถไฟ-วัด-โรงเรียน-โรงงานอุตสาหกรรม เร่งศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม ลุ้นโดนเวนคืนหรือไม่ คาดได้ข้อสรุปชัดเจนภายในเดือน ม.ค.52 ก่อนสรุปแผนงานขั้นต่อไป

แหล่งข่าวรายหนึ่งจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) กล่าวกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า จากที่ได้ว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาทบทวนผลการศึกษาความเหมาะสม ปรับปรุงแบบรายละเอียด เอกสารประกวดราคา และรายงานผลการวิเคราะห์ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม โครงการก่อสร้างทางคู่ในเส้นทารถไฟสายชายฝั่งทะเลตะวันออก ช่วงฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย ระยะทาง 106 กิโลเมตรนั้น ขณะนี้มีรายงานเบื้องต้นเกี่ยวกับผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมของโครงการแล้ว โดยข้อมูลระบุว่า ผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมในปัจจุบันที่เกิดขึ้นจากโครงการนั้นจะมีทั้งแง่บวกและแง่ลบ สำหรับสภาพแวดล้อมและชุมชนตลอดแนวเส้นทางโครงการในรัศมี 500 เมตร จากจุดกึ่งกลางทางรถไฟ

โดยได้แบ่งการพิจารณาจากพื้นที่ก่อสร้างทางคู่รถไฟ ช่วงฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย และพื้นที่ก่อสร้างทางคู่เลี่ยงเมือง (Chord Line) 3 แห่ง ซึ่งได้ผลการศึกษาในขั้นต้นว่า ในช่วงฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า มีระยะทางประมาณ 24 กิโลเมตร แนวเส้นทางจะพาดผ่านพื้นที่บางส่วนของ อ.เมือง และ อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งพื้นที่บริเวณสองข้างทางรถไฟส่วนใหญ่จะเป็นพื้นที่เปิดโล่งและพื้นที่ว่างเปล่า ยังไม่มีสิ่งปลูกสร้างอาคารบ้านเรือน ยกเว้นบริเวณชุมชนใกล้สถานีชุมทางฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นชุมชนเมืองขนาดใหญ่และมีอาคารบ้านเรือนหนาแน่น โดยมีพื้นที่อ่อนไหวและชุมชนที่อาจได้รับผลกระทบจากการพัฒนาโครงการ ได้แก่ โรงเรียนวัดนิโครธาราม โรงเรียนสะแกโดดประชาสรรค์ และโรงเรียนมุสลิมวิทยาคาร

ช่วงโคลงสิบเก้า-แก่งคอย มีระยะทางประมาณ 82 กิโลเมตร แนวจะพาดผ่านพื้นที่บางส่วนของ อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา อ.องครักษ์ จ.นครนายก อ.วิหารแดง และ อ.แก่งคอย จ.สระบุรี ซึ่งบริเวณโดยรอบส่วนใหญ่จะเป็นแหล่งนาและแหล่งน้ำเพื่อการเกษตร ส่วนพื้นที่อ่อนไหวและชุมชนที่อาจได้รับผลกระทบจากการพัฒนาโครงการ ประกอบด้วย โรงเรียนวัดเชี่ยวโอสถ ฟาร์มเลี้ยงไก่ และโรงงานอุตสาหกรรมริมทางรถไฟ ช่วงกอ่นถึงสถานีชุมทางแก่งคอย ที่สำคัญแนวเส้นทางช่วงนี้จะพาดผ่านพื้นที่ลุ่มน้ำชั้น A1 จึงต้องมีการศึกษารูปแบบของอุโมงค์ที่จะก่อสร้างอย่างละเอียดด้วย

ส่วนสภาพสิ่งแวดล้อมและชุมชนบริเวณพื้นที่ที่จะก่อสร้างทางคู่เลี่ยงเมือง (Chord Line) นั้น อาจจะมีบางส่วนที่จะได้รับผลกระทบด้านการเวนคืนที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง โดยในบริเวณชุมทางแก่งคอย จะตั้งอยู่ในเขตปกครองของตำบลตาลเดี่ยว มีสภาพเป็นที่ราบเรียบ ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่เปิดโล่ง อยู่ใกล้ทางยกระดับของรถไฟ บริเวณที่ตัดกับถนนพหลโยธิน ซึ่งพื้นที่อ่อนไหวที่อยู่ใกล้เคียงกับพื้นที่ก่อสร้างคือ แนวท่อก๊าซธรรมชาติ โรงงานอุตสาหกรรมเซรามิก และสถานีไฟฟ้าย่อย แต่ไม่มีบ้านเรือนที่อยู่อาศัยในบริเวณใกล้เคียง

ขณะที่ชุมทางฉะเชิงเทรา จะตั้งอยู่ในเขตการปกครองของตำบลท่าไข่ สภาพทั่วไปเป็นพื้นที่ราบเรียบและใกล้กับคลองท่าไข่ ซึ่งปัจจุบันมีสภาพรกร้าง พื้นที่อ่อนไหวที่อยู่ใกล้เคียงกับพื้นที่ก่อสร้าง ประกอบด้วยหมู่บ้านจัดสรร ชุมชนสะพานดำ รวมถึงแนวสายไฟและท่อส่งน้ำมันด้วย

ส่วนชุมทางบ้านภาชีนั้น ตั้งอยู่ในเขตการปกครองของตำบลดอนหญ้านาง และตำบลหนองน้ำใส สภาพทั่วไปเป็นพื้นที่ราบเรียบ และส่วนใหญ่เป็นพื้นที่โล่ง สำหรับพื้นที่อ่อนไหวจะประกอบด้วย บ้านเรือนที่อยู่อาศัยบริเวณริมทางรถไฟ ซึ่งเป็นชุมชนขนาดเล็กที่ตั้งถิ่นฐานในบริเวณดังกล่าวมาเป็นระยะเวลานาน รวมถึงมีแนวสายไฟและท่อน้ำมันแรงดันสูง รวมถึงวัดอุทการามด้วย

ทั้งนี้ ที่ปรึกษาจะต้องเร่งดำเนินการปรับปรุงแบบรายละเอียด สำรวจแนวเส้นทางและผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม รวมถึงการเวนคืนที่ดิน และสิ่งปลูกสร้าง ให้ชัดเจน รวมถึงกำหนดวงเงินลงทุนโครงการให้ชัดเจน และสรุปส่งให้การรถไฟฯ พิจารณาภายในช่วงเดือนมกราคม 2552 เพื่อสรุปแผนการดำเนินงานต่อไป แหล่งข่าวกล่าว

tong_sanam · Posted: 28/11/2008 1:20 pm Post subject:

ความคืบหน้า ณ ขณะนี้ บริเวณเนินดินก่อนขึ้นเขาพระบาท เลียบถนนสุขุมวิท
มีการถมดินเป็นแนวรางทางฝั่งอ่าวไทยแล้ว และคงจะเป็นไปตามคาดว่า
ที่หยุดรถเขาพระบาทจะอยู่ตรงกลางระหว่างรางใหม่และรางเก่า
โดยมีป้ายประเพณีอยู่ตรงกลาง รายงานจากการผ่านทางเมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2551
_________________
Click on the image for full size

"ที่นี่สถานีชุมทางสนามชัยเขต
ท่านที่จะเดินทางไป จันทบุรี ตราด
โปรดข้ามไปรอการโดยสารในชานชาลาที่ 2"