Airport Link เพื่อนใหม่จากแดนไกล มาแล้วจ้า

[CivilSpice]

สวัสดีครับทุกท่าน

เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้ว จากข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์ วิทยุ โทรทัศน์ ตลอดจนข่าวหน้าแรก ในเว็บรถไฟไทยดอทคอมของเราเองก็ตาม ที่เรตติ้งพุ่งกระฉูด ยิ่งกว่าราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก เกี่ยวกับการมาถึงประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ของ รถไฟฟ้าด่วนท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ หรือที่เรารู้จักกันดี ในชื่อว่า Airport Rail Link ชุดแรก จำนวน 8 คัน เมื่อ วันที่ 17 ตุลาคม 2550 ที่ผ่านมาอย่างสดๆ ร้อนๆ ณ ท่าเทียบเรือ A5 ในพื้นที่ของท่าเรือพาณิชย์แหลมฉบัง จ.ชลบุรี

โดยในวันดังกล่าว เวลาประมาณ 10.00 น. คณะผู้บริหาร จากการรถไฟแห่งประเทศไทย นำโดย คุณบัญชา คงนคร รักษาการในตำแหน่ง ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย พร้อมคณะทำงาน เจ้าหน้าที่ และสื่อมวลชน ได้เดินทางไปยังท่าเรือน้ำลึกแหลมฉบัง จ.ชลบุรี เพื่อร่วมในพิธีต้อนรับ และเปิดตัว รถไฟด่วนเชื่อมสนามบิน ซึ่งขบวนรถไฟ ชุดดังกล่าวนี้ ผลิตโดย บริษัท Siemens AG อยู่ในตระกูล DESIRO-UK Class 360/2 และเป็นตระกูลเดียวกับรถไฟฟ้าด่วน ที่วิ่งเข้าสนามบิน Heathrow ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ

การรถไฟแห่งประเทศไทย จะนำรถไฟด่วนชุดนี้ ให้บริการผู้โดยสาร ในเส้นทางรถไฟฟ้าด่วนท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ซึ่งวิ่งตรงระหว่าง สถานีมักกะสัน/อโศก ถึง สถานีสุวรรณภูมิ ภายในเวลา 15 นาที โดยจะนำมาพ่วงต่อกันเป็นแบบ 4 คัน/ชุด ความจุผู้โดยสาร 170 ที่นั่ง มีความเร็วสูงสุด 160 กม./ชม. ส่วนรูปแบบหน้าตาของขบวนรถไฟ และลายสกรีนนั้น กลุ่มวิศวกรผู้ร่วมออกแบบชาวไทย ต้องการจะสื่อให้เห็นถึงมิตรภาพ และรอยยิ้ม เพื่อให้สมกับคำว่า "สยามเมืองยิ้ม" เนื่องจากมองดูแล้ว เหมือนรถไฟกำลัง "ยิ้ม" อยู่ด้วยนั่นเอง

รถไฟด่วนชุดแรกนี้ ได้ออกเดินทางจากท่าเรือ เมืองเบรเมน (Bremenhaven) ในประเทศสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมัน ด้วย เรือ Pegasus Leader สัญชาติปานามา ในสังกัดของ บริษัท NYK Line RoRo จำกัด เมื่อวันที่ 10 เดือนกันยายน 2550 และมาถึงประเทศไทย ที่ท่าเรือแหลมฉบัง เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2550 เวลาประมาณ 17.00 น. ซึ่งเริ่มทำการขนถ่ายสินค้า และนำโบกี้รถไฟ จำนวน 7 คันแรก (หมายเลข 1031, 1032, 1033, 1034, 1042, 1043, 1044) ลงจากเรือ ตั้งแต่เวลา 21.00 น. แล้วเสร็จเมื่อเวลาประมาณ 03.00 น. ของวันที่ 17 โดยยังคงเหลือโบกี้รถไฟ จำนวน 1 คัน (หมายเลข 1041) เพื่อรอประกอบพิธีในช่วงสาย

เว็บไซต์รถไฟไทยดอทคอม ได้มีโอกาสเข้าไปมีส่วนร่วม กับภารกิจแห่งประวัติศาสตร์ในครั้งนี้ ด้วยการส่งทีมงานจำนวน 5 ชีวิต เข้าไปสังเกตการณ์ และบันทึกภาพบรรยากาศงานต้อนรับ และเปิดตัวรถไฟ Airport Rail Link ชุดแรก ถึงท่าเทียบเรือ A5 และบนเรือ Pegasus Leader โดยได้รับอนุญาตอย่างเป็นทางการ ซึ่งกำลังจะนำเสนอ ภาพบรรยากาศในวันนั้น ให้ทุกๆ ท่านได้รับชม อย่างเต็มอิ่มจุใจ ณ บัดนี้

หมายเหตุ:

- เบื้องหลังการถ่ายทำ และรวมเด็ดสะเก็ดข่าว เรื่องราวขำๆ ฮาๆ ในภารกิจดังกล่าว โปรดรอติดตามได้จาก จอมยุทธเบิร์นเทพ พี่ตุ้ย และท่านปรมาจารย์ด่วนดำ พี่ตึ๋ง ได้ในเร็วๆ นี้ครับ

[CivilSpice]

ภารกิจของเราเริ่มต้นขึ้นในเช้าวันพุธที่ 17 ตุลาคม 2550 หลังจากที่เตรียมตัวและได้รับการยืนยันข้อมูลแล้ว ว่าเรือของ NYK Roro ที่เดินทางข้ามน้ำข้ามทะเล พารถไฟแอร์พอร์ตลิงค์ เพื่อนใหม่ของเรา ออกจากประเทศเยอรมัน มาถึงเมืองไทยอย่างแน่นอน ตามกำหนดการที่ได้รับล่าสุด พร้อมทั้งรายละเอียดและเวลา ตามพิธีการต้อนรับและเปิดตัว ในช่วงสายๆ ณ ท่าเรือ A5 ที่แหลมฉบัง ซึ่งตามภารกิจนั้น เราจะเริ่มออกเดินทางจาก กทม. ด้วยรถยนต์ส่วนตัว พร้อมๆ กับ สมาชิกผู้ร่วมทีม ทั้ง 5 คน คือ ป๋านัท (Nathapong) พี่ตึ๋ง (Black Express) พี่ตุ้ย (Tuie) น้องฟาง (Main Reservoir) และ ผมเอง ในเวลาประมาณ 05.30 น. เพื่อไปให้ถึงท่าเรือแหลมฉบัง ให้ทันภายใน 08.00 น. ซึ่งที่นั่น ป๋านัท ได้ติดต่อประสานงานล่วงหน้ากับทาง NYK Logistics ที่จะพาคณะของเราเข้าไปถึงท่าเรือไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ตัดฉับด้วยเวลาประมาณ 2 ชั่วโมง (รวมเวลาพักทานข้าวที่จุดพักรถบางปะกงแล้ว) บนถนนมอเตอร์เวย์ กรุงเทพ-ชลบุรี ที่กำลังปรับปรุงเส้นทางอยู่โดยตลอด ประมาณ 07.30 น. เราก็มาถึงทางเข้าท่าเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี เป็นที่เรียบร้อย ..... โดยระหว่างนั้น ป๋านัทของเรา เกิดมีภารกิจเร่งด่วนกระทันหัน ชนิดที่ว่า ขืนช้าอีกวินาทีเดียว มีหวังรถแอคคอร์ดสีดำคันงาม ของนายสถานีบ้านตุ้ย มีหวังได้เลอะเทอะเปรอะเปื้อนเป็นแน่แท้ เลยต้องปล่อยให้แยกไปจัดการให้เรียบร้อยเสียก่อน ส่วนผม น้องฟาง และพี่ตึ๋ง เลยแยกตัวกันออกมาตั้งหลักกันที่นี่ครับ สถานีรถไฟแหลมฉบัง



อากาศยามเช้ากำลังเย็นสบาย ขบวนรถสินค้าที่แหลมฉบังก็ยังไม่คึกคักเท่าไหร่นัก แต่ก็ไม่ถึงกับว่างเปล่า เพราะในย่านสถานียังมีรถจักร จอดให้พวกเราชักภาพเล่น อยู่ 2 คัน โดยเป็น GEA และ Alsthom โดย GEA นั้น เป็นหมายเลข 4544 จอดอยู่หน้าทางเข้า บริเวณจุดขนถ่ายน้ำมันดิบ ของโรงกลั่นไทยออยล์



อีกมุมหนึ่ง แบบ Close up กับ GEA 4544 โดยน้องฟาง เซียนถ่ายภาพรถไฟ ระดับฝีมือหนึ่งในตองอู



บริเวณชานชาลาที่ 1 มีโบกี้ บทต. ถูกตัดทิ้งไว้ 1 คัน และบนนั้นก็แบกเพื่อน บทต. ที่ชำรุด ไว้อีก 1 คัน

[CivilSpice]

เดินถ่ายภาพกันได้สักพัก ป๋านัท และพี่ตุ้ย ก็ตามมาสมทบ พร้อมๆ กับขบวนรถสินค้าคอนเทนเนอร์ 1 ขบวนกำลังแล่นเข้าสู่สถานีแหลมฉบัง



ทำขบวนมาด้วย รถจักรดีเซลไฟฟ้า GEA หมายเลข 4546



พร้อมกับจอดเช็คความเรียบร้อยสักครู่ ก่อนที่จะมุ่งหน้าเข้าไปส่งสินค้า ณ ท่าเรือแหลมฉบัง เป็นลำดับต่อไป ในอีกไม่กี่อึดใจ

[CivilSpice]

ส่งท้ายก่อนไปปฏิบัติภารกิจที่สำคัญ กับภาพตู้คอนเทนเนอร์ ในริ้วขบวนของรถสินค้าขบวนนี้ ซึ่งเป็นตู้คอนเทนเนอร์ของ NYK Logistics ทั้งขบวน



ชักภาพเป็นที่ระลึกก่อน 1 ภาพ เดี๋ยวเขาจะหาว่า มาไม่ถึงแหลมฉบัง โดย ป๋านัท พี่ตึ๋ง และพี่ตุ้ย

[CivilSpice]

ออกจากสถานีรถไฟแหลมฉบัง เราก็มุ่งหน้าต่อไปยังสำนักงานของ BOI เพื่อนำรถยนต์ 1 คันไปฝากไว้ พร้อมทั้งเปลี่ยนถ่ายผู้โดยสาร และสัมภาระไปรวมอยู่ในรถของพี่ตุ้ย เนื่องจากว่า การจะเข้าไปในพื้นที่ของท่าเรือนั้น ไม่ใช่ว่ารถของบุคคลทั่วไปจะสามารถเข้าไปได้โดยง่าย เพราะจะต้องมีการขออนุญาตล่วงหน้า พร้อมทั้งมีเอกสารยืนยันการเข้าพื้นที่ และแจ้งหมายเลขทะเบียนรถ ให้ทางเจ้าหน้าที่ได้รับทราบก่อน จึงจะเข้าไปได้ .... ซึ่งบริเวณหน้าทางเข้าท่าเรือนี้เอง เราก็ได้พบกับ พี่สุรพล จาก NYK Logistics ซึ่งจะเป็นผู้พาคณะของเรา มุ่งหน้าเข้าสู่ท่าเรือ A5 เป็นลำดับต่อไป

เวลาไม่กี่อึดใจ หลังจากที่ผ่านด่านอรหันต์ มาจนถึงด่านสุดท้าย เพื่อเข้าท่าเรือ A5 คณะของเรา (ยกเว้นป๋านัท) ก็ต้องตกตะลึงกับความอลังการของสิ่งที่เรียกว่าเรือบรรทุกสินค้า ลำที่อยู่ตรงหน้า ซึ่งต้องเรียนตามตรงว่า เกิดมาจากท้องพ่อท้องแม่ ผมก็ยังไม่เคยเห็นเรือบรรทุกสินค้าลำใหญ่ขนาดนี้มาก่อน (แต่ป๋านัทคงเห็นจนชินซะแล้ว) ซึ่งเรือลำนี้ คือ เรือ Pegasus Leader สัญชาติปานามา ระวางขับน้ำ 57,566 ตันกรอส เรือลำเดียวกันกับที่พาเจ้ารถไฟ Airport Rail Link ทั้ง 8 คัน จากเยอรมัน มาถึงบ้านใหม่ที่เมืองไทย โดยสวัสดิภาพนั่นเอง



ขนาดมองดูอยู่ไกลๆ ยังใหญ่โตมโหฬารได้ขนาดนี้ .... เอ๊ะ เห็นอะไรแว่บๆ สีแดงๆ อยู่ในท่ามกลาง รถยนต์ที่จอดอยู่เป็นตับไหมครับ นั่นไง เพื่อนใหม่ของเรา เขามาแล้ว



ทราบความว่า เรือ Pegasus Leader มาถึงแหลมฉบัง เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม เวลาประมาณ 17.00 น. ซึ่งเร็วกว่าความคาดหมาย หลังจากนั้นในเวลา 21.00 น. จึงได้เริ่มดำเนินการขนสินค้า ลงจากเรือ พร้อมทั้งขนรถไฟฟ้า Airport Rail Link ชุดแรก จำนวน 7 คัน ลงมารอที่ด้านล่างก่อน แต่ยังเหลือไว้ 1 คัน บนเรือ เพื่อรอประกอบพิธีการต้อนรับ และเปิดตัว ในช่วงสายของวันที่ 17 ตุลาคม 2550 รถยนต์ที่เห็นในภาพ คือรถที่ประกอบในประเทศไทย แล้วจะนำขึ้นเรือส่งไปยังต่างประเทศ ตาม Order โดยมีปลายทางหลากหลายประเทศ ทั้ง รัสเซีย อินโดนีเซีย หรือไกลค่อนโลก อย่าง ประเทศคอสตาริกา ก็มีเช่นกัน



ลองเปรียบเทียบความใหญ่ ของ เรือ Pegasus Leader และเหล่าบรรดารถยนต์สิครับ เหมือนยักษ์ กับ มด ยังไงก็ไม่รู้

[CivilSpice]

หลังจากประสานงานกับทาง บริษัท Namyong Terminal ผู้ให้บริการท่าเรือ A5 แล้ว เราก็ย้ายรถมาจอดไว้ที่หน้าเรือ Pegasus จากนั้นคณะของเรา ก็เริ่มปฏิบัติภารกิจ เก็บรายละเอียดทั้งหมด เนื่องจากว่า ในช่วงเวลาที่ไปถึงนั้น คณะของ รฟท. และสื่อมวลชน รายอื่นๆ ยังมาไม่ถึง ก็เป็นโอกาสอันดีที่เราจะได้เก็บภาพและรายละเอียดต่างๆ ได้อย่างสะดวกโยธิน



ก่อนจะไปที่ตัวรถไฟ Airport Link ก็มาทำความรู้จักกับ เรือ Pegasus Leader กันสักนิดนะครับ โดยเรือ Pegasus Leader นี้ เป็นเรือแบบ RoRo (Roll-on/Rolloff) หนึ่งใน 78 fleet สังกัด NYK Line Roro จดทะเบียนที่ประเทศปานามา เริ่มใช้งานเมื่อปี 1999 Dimension : 199,23 x 32,26 x 15,27 m. ระวางขับน้ำ 57,566 ตันกรอส ความเร็วสูงสุด 19.3 Knots สามารถบรรทุกรถยนต์ได้สูงสุดถึง 6,000 คัน โดยเจ้าของเรือ คือ บริษัท PEGASUS MATRITIME SHIPHOLDING S.A. ส่วนบริษัทผู้สร้าง คือ Shin Kurushima Dockyard



มาดูภาพตัวเรือแบบเต็มๆ กันครับ (Image by http://www.shipphoto.net)



ภาพตัดด้านข้างเรือ แสดงให้เห็นสภาพการบรรทุก และรายละเอียดภายใน (Image by NYK Line Bulkship)

[CivilSpice]

ว่าแล้วก็อย่าเสียเวลาร่ำไร ขอเริ่มต้นภารกิจ ด้วยการเก็บรายละเอียด ของเหล่าบรรดารถไฟฟ้า จำนวน 7 คัน ที่จอดรออยู่แล้วทางด้านล่างกันก่อนเลยครับ
โดยมีหมายเลข 1031, 1032, 1033, 1034, 1042, 1043 และ 1044 ที่ทำการขนลงมาตั้งแต่ตี 3 ส่วนหมายเลข 1041 นอนรออยู่บนเรือเป็นคันสุดท้าย



เริ่มจากด้านหน้าก่อนเลยละกัน มีจอดรออยู่ 3 คัน จากซ้ายไปขวา หมายเลข 1044, 1042 และ 1043



ใกล้เข้ามาอีกนิด ชิดๆ เข้ามาอีกหน่อย



โดดเด่นเป็นสง่า และเป็นเอกลักษณ์ ด้วยรูปรอยยิ้มสีแดง ของหมายเลข 1042

[CivilSpice]

รถไฟฟ้าขบวน Express หรือสีแดง นี้ จะให้บริการผู้โดยสาร จากสถานีมักกะสัน/อโศก ไปยังท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ภายในเวลา 15 นาที มีความเร็วสูงสุด 160 กม./ชม.
ใน 1 ชุด จะประกอบไปด้วย รถจำนวน 4 คัน ความจุผู้โดยสาร 170 ที่นั่ง ล็อตที่มานี้ เป็น 8 คันแรก ส่วนรถคันที่เหลือ ทั้ง Express และ City Line จะทะยอยเดินทางตามมา
ในเดือนธันวาคม 2550 และ มกราคม 2551





มาชมภาพถ่ายหน้าตรง ไม่สวมหมวก กันดูบ้าง ภาพนี้เป็นหน้าตรง ของ 1042

[CivilSpice]

ส่วนภาพนี้ภาพถ่ายหน้าตรงไม่สวมหมวก ของหมายเลข 1032



ดูกันใกล้ๆ ว่าเหมือนรถไฟ "ยิ้ม" อย่างที่วิศวกรผู้ออกแบบ เขาคิดเอาไว้หรือไม่

[CivilSpice]

ภาพนี้เป็นของหมายเลข 1031







ประตูด้านข้าง สำหรับผู้โดยสาร ขึ้น/ลง



หมายเลข 1044 กับข้อความ Express ตัวโต ..... รับรองว่าไม่ขึ้นผิดขบวนแน่ๆ