สงสัยเรื่องการตั้งเลขรถและการขานรับรถของสถานีต่างๆ

witoon1976 · 3rd Class Pass Joined: 13/06/2007 Posts: 189

ผมมีข้อสงสัยอยากจะถามว่า
1. ทำไมต้องมีการตั้งชื่อเลขรถด้วยครับ ยกตัวอย่าง ข.68 ทำไมไม่เรียกขานกันว่า ด่วน อุบลราชธานี, เร็ว อุบลราชธานีหรือว่ามันยาวไปก็เลขตั้งชื่อเลขรถเพื่อขานรับกันง่ายๆ
2. อีกเรื่องหนึ่งครับ การขานรับของสถานีกรณีมีการรอหลีกและไม่รอหลีกครับ ผมเคยได้ยินที่สถานีช่องแคขานรับว่า "ช่องแค 112 ทางสะดวก" แล้วถ้ามีการรอหลีกละครับ เขาจะขานรับกันยังไง

Wisarut · Posted: 02/07/2010 5:46 pm Post subject:

เรียกเป็นตัวเลขมันง่ายกว่านะครับ สั้นดีด้วย ยิ่งถ้าเป็นสมัยยุคโทรเลขก็จะซึ้งเลยหละว่าทำไมต้องเรียกกันสั้นๆแบบนี้

jojoja · 3rd Class Pass Joined: 04/02/2010 Posts: 133

ขานรับระหว่างสถานีต่อสถานีหรือว่าสถานีต่อพนักงานรถจักรครับ
_________________
เราโตมาได้ด้วยเงินจากรถไฟครับ

alderwood · Posted: 02/07/2010 6:21 pm Post subject:

สั้นๆ เป็นรหัสแบบนี้ เข้าใจได้ง่ายกว่าครับ แค่ 68 สามารถบอกได้ว่าเป็นขบวนรถด่วนอุบล - กรุงเทพ ขืนบอกแต่ชื่อขบวนนี่ จะลำบากเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง แล้วอีกอย่าง ยิ่งถ้าเป็นรถเร็วอุบลฯ จะบอกยังไงโดยที่ไม่ใช้เลขขบวน เที่ยวไปก็ล่อไป 4 ขบวนแล้ว เกิด 139 ช้าจนวิ่งทับเวลา 141 มันก็ไม่งงไปกันใหญ่สิแบบนี้ Embarassed

ขอโทษครับ ผมไม่แม่นสายอุบลฯครับ
V
V
_________________
รักรถไฟมั่นใจโคปเตอร์ || Railway Racing Team || Korat Spotter

CENTENNIAL · Posted: 02/07/2010 6:25 pm Post subject:

ผมเห็นว่าสองคำถามนี้ มันค่อนข้างจะตอบยากนะ โดยเฉพาะพวกเราๆ ที่ส่วนใหญ่ก็มีแต่คนรักรถไฟแต่ไม่ได้ทำงานการรถไฟ หรือไม่ก็มีน้อยสุดๆ โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ประจำสถานี หรือนายสถานีแล้ว คงจะไม่มีเลย

ถึงมีจริง เค้าจะตอบหรือเปล่าก็ยังไม่รู้เลยครับ เพราะเค้าเองอาจจะเห็นว่า เป็นข้อมูลภายในของ รฟท ก็ได้

แต่โดยส่วนตัวผม ในฐานะคนรักรถไฟแล้ว คำตอบของผมคือ

1.เพราะเลขขบวน ระบุได้ชัดเจนที่สุด
สมมติว่า ในอนาคต รถไฟไปอุบล ออกทุกครึ่งชั่วโมง เป็นรถด่วนทั้งสิ้น แล้วแบบนี้จะไม่สับสน วุ่นวายเหรอครับ เพราะมันก็ด่วนอุบลทั้งนั้น

2.ไม่ทราบจริงๆ เพราะไม่เคยได้ยินครับ

taweep · 2nd Class Pass Joined: 04/07/2006 Posts: 569

jojoja · 3rd Class Pass Joined: 04/02/2010 Posts: 133

สะดวกต่อการเรียกขานทั้งทางวิทยุ การเขียนรายงานต่างๆ โทรเลข โทรพิมพ์
ส่วนการเรียกขานที่ถามมาจะหมายถึงการเรียกขานระหว่างสถานีต่อสถานีหรือเปล่า
ถ้าเป็นสถานีต่อสถานี ที่ปฏิบัติอยู่ทุกวันนี้ ก็เวลาที่ช่องแคขอทางสะดวกขบวน 112 ต่อสถานีจันเสน ก็จะพูดโทรศัพท์ทางสะดวกว่า "จันเสนขอทางขบวน 112 เวลา 14.15 น." จันเสนก็จะขานรับคำว่า "ขบวน 112 ขอทาง 14.15 น.รับทราบ" เป็นทำนองนี้ครับ นี่คือคำที่ผมใช้เวลาทำงานนะครับ.
_________________
เราโตมาได้ด้วยเงินจากรถไฟครับ

suraphat · Posted: 02/07/2010 8:34 pm Post subject:

ปัญหาในข้อนี้ตอบได้ง่ายมาก สำหรับเลขของขบวนรถนั้นทั้งนี้ก็เนื่องมาจาก จะได้ไม่สับสนในการเดินรถกันนะครับ โดยเฉพาะในหมู่ของรถเร็วด้วยกันนะครับ

โดยเขาจะได้รู้นะครับว่าขบวนรถเร็วขบวนไหนควรที่จะปล่อยออกจากสถานีก่อนหลังนะครับ

สำหรับการขานรับรถกันตามสถานีต่างๆนั้น ก็เนื่องมาจากว่าขบวนรถทุกขบวนเขาก็จะต้องเดินรถได้ตามประกาศเดินรถนะครับ ซึ่งก็เป็นไปตามเวลามาตรฐาน(Standard Time)ของขบวนรถในแต่ละขบวนนะครับซึ่งก็จะไม่เท่ากันในแต่ละขบวนเช่นในขบวนรถชานเมืองใช้เวลาวิ่งจากกรุงเทพ-ดอนเมืองมาก็ร่วมชั่วโมง เนื่องจากมีจุดที่ต้องหยุดรถมากมายเช่นที่หยุดรถยมราช ที่หยุดรถโรงพยาบาลรามา นะครับ

แต่ถ้าเป็นขบวนรถด่วนก็จะใช้เวลาวิ่งจากกรุงเทพถึงดอนเมืองเพียง 40 นาทีเท่านั้นนะครับ ดังนั้นเมื่อขบวนรถได้เข้าจอดที่สถานีใดๆแล้ว เมื่อขบวนรถนั้นจะออกจากสถานีนั้นๆแล้ว เขาก็จะมีการตรวจสอบเวลาที่ขบวนรถนั้นออกจริงเทียบกับเวลาตามประกาศเดินรถนะครับ ทั้งนี้ก็เพื่อจะได้นำเอาข้อมูลเวลาเหล่านี้ไปใช้ในการจัดรอหลีกหรือรอทางที่สถานีถัดๆกันต่อไปนะครับ Wink

BanPong1 · Posted: 02/07/2010 11:13 pm Post subject:

อีกไม่กี่ปีถ้ารางคู่ทำเสร็จไปทั่วประเทศ คงจะมีการเปลี่ยนแปลงรห้สขบวนรถกันใหม่ขนานใหญ่อีกครั้งละครับ แต่ต้องมีรถพ่วง รถจักร มากขึ้นด้วยนะครับ

เราอาจจะมีรหัสรถ ICExxx, ICxxx, RExxx, Rxxx กันบ้างละครับ
ขออภัยถ้าฝันมากไปครับ Very Happy

_________________
Click on the image for full size

pasakorn · Posted: 03/07/2010 1:22 am Post subject:

เพราะตัวเลขขบวนนั้น สามารถบอกได้หมด(กำหนดแทน)ทุกอย่างนั่นเองครับ ไม่ว่าจะเป็นประเภทขบวนรถ เวลาออกเดินทางและเวลาถึงที่หมาย ต้นทางและจุดหมายปลายทาง ฯลฯ ทำให้ไม่สับสนครับ เพื่อความสะดวกรวดเร็วในการติดต่อสื่อสารด้วยครับ ประมาณว่าแค่บอกว่ารถขบวนอะไรก็จะทราบรายละเอียดทั้งหมด(หรือที่สำคัญๆ)เกี่ยวกับรถขบวนนั่นได้ทันที

ส่วนเรื่องของการขานรับตอบกลับของสถานีเวลารับ-ส่ง ขบวนรถ ไม่ว่าจะเป็นการให้รถวิ่งเข้าสถานีในทางประธาน,การจัดให้ขบวนรถใดขบวนหนึ่งวิ่งเข้าทางหลีกเพื่อรอให้ขบวนรถอีกขบวนหนึ่งวิ่งเข้ามาในทางประธาน,หรือการจัดให้ขบวนรถอะไรก็แล้วแต่เข้าไปจอดในย่านสถานีหรือรางหลีกรางตันใดๆก็แล้วแต่ อ่ะ ยกตัวอย่างเช่นว่า ถ้าจะให้รถวิ่งเข้าทางประธาน ก็แจ้งไปเลยว่า " (ขบวน)280 วิ่งเข้าทางประธานมักกะสันมาได้เลยครับ ทางดีประแจดีครับ" แต่ถ้าทางสถานีต้องการให้ขบวนรถเข้าไปทางหลีกเพื่อให้รถอีกขบวนหนึ่งเข้าสถานีในทางประธานได้ ก็จะแจ้งว่า "(ขบวน) 286 วิ่งเข้าทางหลีกมักกะสันนะครับ เดิ๋ยวจะให้(ขบวน)371 วิ่งเข้าทางประธานครับ"
เป็นการแจ้งระหว่างสถานีกับขบวนรถหน่ะครับ (อาจจะใช้ร่วมกับ กรฟ. หรือแจ้งไปยังสถานีก่อนหน้านั้นด้วย) ซึ่งผมเข้าใจว่าจุดประสงค์หลักที่จะต้องแจ้งให้ขบวนรถทราบเพื่อให้เจ้าหน้าที่พนักงานขบวนรถนั้นๆได้ทราบและเตรียมพร้อมที่จะปฏิบัติได้ถูกต้องก่อนที่จะนำรถเข้าสู่สถานี