รถไฟใต้ดินนครโฮจิมินห์ (ไซ่ง่อน)และ กรุงฮานอย

[Wisarut]

บริษัทจีนเสียบแทนรัสเซียนทำรถใต้ดินโฮจิมินห์

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 2 ตุลาคม 2549 11:56 น.




ในอนาคตอันใกล้นี้การเดินทางในเวียดนามโดยเฉพาะในนครโฮจิมินห์จะสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้นเมื่อรถไฟใต้ดินที่มีโครงการจะสร้างทั้ง 4 สายแล้วเสร็จ


กรุงเทพฯ - กลุ่มบริษัท ไชน่า เซี่ยงไฮ้ คอร์ปอเรชั่น (China Shanghai Corporation for Foreign Economic and Technological Cooperation) หรือ SFECO Group จากประเทศจีนได้รับเลือกจากคณะรัฐบาลนครโฮจิมินห์ให้เป็นผู้เข้ามาสานต่อโครงการก่อสร้างรถไฟใต้ดินสายที่ 4 ในนครโฮจิมินห์ แทนบริษัทร่วมทุนจากรัสเซีย

คณะบริหารนครโฮจิมินห์ได้อนุมัติให้ SFECO Group ดำเนินการศึกษาค้นคว้า และวางแผนโครงการเส้นทางรถไฟใต้ดิน เพื่อเป็นการปูทางไปสู่การพิจาณาการลงนามในข้อตกลงในบันทึกความเข้าใจที่กำลังจะมีขึ้นในเดือนนี้ (ต.ค.) สำหรับแผนการสร้างทางรถไฟใต้ดินระยะทาง 12 กม.แนวเหนือใต้

ถ้าบริษัทจากจีนรายนี้ได้รับการเห็นชอบและได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจ ก็จะกลายเป็นผู้ดำเนินการโครงการทั้งหมดทั้งการศึกษาความเป็นไปได้เพื่อออกแบบ และก่อสร้างทางรถไฟสายนี้ ซึ่งนับเป็นสายที่ 4 ในนครโฮจิมินห์ จากทั้งระบบที่มีความยาวกว่า 100 กิโลเมตร

นอกจากนี้คณะบริหารของนคร ยังได้เรียกร้องให้แผนกบริการการวางแผนและการลงทุนประกาศให้บทบันทึกความเข้าใจระหว่างบริษัทร่วมทุนรัสเซียและนครโฮจิมินห์ที่ได้ลงนามเมื่อปีที่แล้วนั้นสิ้นสุดลงด้วย ทั้งนี้เป็นรายงานของหนังสือพิมพ์ไซ่ง่อนไทมส์

ในเดือน พ.ค.ปีที่แล้วบริษัทร่มทุนรัสเซียซึ่งประกอบด้วย บริษัท Moscow Metrostroi บริษัท Jobrus Ltd. และ บริษัท Sistema Hals ได้ร่วมลงนามในบันทึกความเข้าใจกับนครโฮจิมินห์ เพื่อดำเนินการศึกษาความเป็นไปได้และแผนงบประมาณสำหรับโครงการรถไฟใต้ดินสายนี้ และ ถ้าได้รับการเห็นชอบจากรัฐบาลเวียดนาม กลุ่มร่วมทุนจากรัสเซียก็จะแสวงหาการสนับสนุนทางด้านการเงินจากในรัสเซียและประเทศอื่นๆ

อย่างไรก็ตาม บริษัทร่วมทุนจากรัสเซียนั้นไม่สามารถดำเนินการให้เป็นผลดีได้อย่างที่ต้องการ ทางนครโฮจิมินห์จึงได้เลือกให้กลุ่มบริษัท SFECO จากจีนเข้าดำเนินการแทนเพื่อให้โครงการสร้างรถไฟใต้ดินสายนี้ได้คืบหน้าต่อไปได้ โครงการนี้ต้องใช้งบประมาณกว่า 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐเลยทีเดียว

นายเจิ่นกวาง เฟือง (Tran Quang Phuong) ผู้อำนวยการแผนกบริการติดต่อสื่อสารและกิจการสาธารณะ (Service of Communications and Public Works) นครโฮจิมินห์ กล่าวว่า ในนครโฮจิมินห์มีแผนพัฒนารถไฟใต้ดิน 6 สาย ด้วยระยะทางทั้งหมด 107 กม. และ รถราง (Tramways) ระยะทางรวมอีก 37 กม.ให้แล้วเสร็จภายในปี 2563 โดยคาดว่าจะต้องใช้งบประมาณทั้งหมดกว่า 4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อที่จะให้โครงการบรรลุได้จริง

ส่วนอีก 3 เส้นทางนั้นวางแผนไว้ว่าจะเปิดให้นักลงทุนจากต่างชาติเข้าร่วมโครงการด้วย โดย
1) ในสายแรกนั้นได้แก่ ตลาดเบ๊นทัน-เสื่อยเตี๋ยน (Ben Thanh-Suoi Tien) ระยะทาง 19.5 กม. ได้รับการสนับสนุนด้านการเงินตามโครงการช่วยเหลือเพื่อการพัฒนาอย่างเป็นทางการ (ODA) ของรัฐบาลญี่ปุ่น

2) ส่วนสายตลาด เบ๊นทัน-ทามเลือง (Ben Thanh-Tham Luong) และ
3) ตลาดเบ๊นทัน-สถานีขนส่งเมียนเตย ( Ben Thanh-Mien Tay)

มูลค่า 850 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ได้รับการช่วยเหลือในรูปแบบเงินกู้จากเยอรมนี ธนาคารพัฒนาเอเชีย และแหล่งอื่นๆ

ตามรายงานของสื่อทางการเวียดนามก่อนหน้านี้ ไม่เพียงแต่การขนส่งมวลชนระบบรางเท่านั้น นครโฮจิมินห์ยังกำลังศึกษาความเป็นไปได้ของระบบรถบัสโดยสารขนส่งมวลชนความเร็ว

ตามแผนพัฒนาการคมนาคมขนส่งแล้วในช่วงเวลาเพียง 10 ปีข้างหน้า ในนครโฮจิมินห์กำลังจะมีมอเตอร์เวย์ผ่านตัวเมืองอีกสายหนึ่ง ข้ามแม่น้ำไซ่ง่อนไปฝั่งตะวันตก เชื่อมกับซูเปอร์ไฮเวย์รอบนอก เพื่อตัดไปยังจังหวัดในที่ราบปากแม่น้ำโขงทางตอนใต้สุดของประเทศ

เวียดนามมีแผนที่จะพัฒนาให้นครโฮจิมินห์เป็นชุมทางสำคัญในการคมนาคมขนส่งติดต่อกับกัมพูชา-ไทยและประเทศอาเซียนที่อยู่ทางใต้ของภูมิภาค.

// ------------------------------------------------------------------------------------
หวยออกซีเมนส์และเซี่ยงไฮเมโทรแฮะ

[Wisarut]

นี่ค้อแผนที่โครงการรถไฟฟ้าของนครโฮจิมินห์

[Wisarut]

ขอแถมรถไฟฟ้ากรุงฮานอยก็คงไม่ผิดกติกาน่อ เพราะ ไซ่ง่อนเป็นเมืองหลวงเวียตนามใต้ ส่วนฮานอยเป้นเมืองหลวงเวียตนามเหนือ

ตอกรางรถไฟฟ้าฮานอยสิ้นปีนี้เงินกูฝรั่งเศส-ADB

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 19 ตุลาคม 2549 23:50 น.



สถานีรถไฟฮานอยแออัดยัดเยียดอยู่แล้ว แต่อีกไม่นานจะขยายเป็นต้นทางรถไฟฟ้าสายแรก
(ภาพแสดงรถจักรดอยมอยสั่งจากจีนแดงตั้ง 60 หัว - เพื่อเป้นรถจักรมาตรฐานของบริษัทรถไฟเวียตนามจำกัด)


กรุงเทพฯ - คณะกรรมการประชาชนกรุงฮานอยวางแผนจะเริ่มการก่อสร้างทางรถไฟสายแรกในเดือน ธ.ค.นี้ โดยจะมีระยะทางในชั้นต้นเพียง 12 กิโลเมตร ทั้งช่วงที่อยู่บนพื้นกับช่วงที่วิ่งลงใต้ดิน ด้วยเงินกู้จากฝรั่งเศสจำนวนหนึ่งสมทบกับเงินงบประมาณ ทั้งนี้เพื่อช่วยบรรเทาการจรจาที่ติดขัด

คณะกรรมการประชาชนกรุงฮานอยได้ประชุมในวันพุธ (18 ต.ค.) ที่ผ่านมา พิจารณารายงานเกี่ยวกับแบบของโครงการ ก่อนจะยื่นเสนอโครงการไปยังนายกรัฐมนตรี คณะกรรมการเห็นชอบกับเส้นทางรถไฟสายนี้ ซึ่งจะวิ่งขนส่งผู้โดยสารในเขต 3-4 อำเภอ โดยมีต้นทางที่สถานีรถไฟฮานอย

รถไฟฟ้าสายแรกนี้มีระยะทาง 12.5 กม. แบ่งเป็นเส้นทางบนพื้นดิน 9.6 กม. และอีก 2.9 กม. เป็นช่วงใต้ดิน ประกอบด้วยสถานีบนพื้นดิน 11 แห่ง ใต้ดิน 4 แห่ง และมีสถานีกลางในเขตเญิน (Nhon) โดยได้เลือกตู้โดยสารขนาดความยาวประมาณ 19-20 ม. เข้าใช้การ สามารถสิ่งด้วยความเร็วสูงสุด 80 กม/ชม.

รถไฟฟ้าสายแรกนี้ใช้งบประมาณก่อสร้างประมาณ 504.22 ล้านยูโร (633.73 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) โดยเป็นเงินกู้จากรัฐบาลฝรั่งเศส 200 ล้านยูโร จากองค์การพัฒนาฝรั่งเศส (French Development Agency -AFD) หรือ เอเอฟดี 80 ล้านยูโร และ เงินงบประมาณของรัฐบาลอีกอีก 225 ล้านยูโร

"กรุงฮานอยจะพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อให้สามารถเริ่มการก่อสร้างสถานีในเมืองเญินได้ในปลายปีนี้ เพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 1,000 ปี เมืองแถ่งลอง (Thang Long) หรือกรุงฮานอยในปัจจุบัน" นายเหวียนง็อกเจียว (Nguyen Quoc Trieu) ประธานคณะกรรมการประชาชนกรุงฮานอยกล่าวกับสำนักข่าวเวียดนามเน็ต

รถไฟฟ้าสายแรกนี้เป็นโครงการหนึ่งในโครงการก่อสร้างระบบขนส่งมวลชนกรุงฮานอย ซึ่งในแผนพัฒนาการขนส่งในของนครหลวงนั้น ยังจะมีรถไฟฟ้าอีก 1 สายที่วิ่งจากในกลางเมืองไปยังเมืองห่าไต (Ha Tay) ที่อยู่ห่างออกไปราว 30 กิโลเมตร

นอกจากนั้นในกรุงฮานอยยังมีโครงการก่อสร้างระบบรถราง (Tramway) ซึ่งเป็นระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนขนาดเบา โดยนายกรัฐมนตรีเวียดนามได้อนุมัติโครงการเมื่อต้นปี 2548 ปัจจุบันอยู่ระหว่างการศึกษาความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจและการเจรจากับผู้ลงทุนอีกด้วย

ทางการเวียดนามได้ผ่านการถกเถียงในเรื่องความเหมาะสม-ไม่เหมาะสมนับครั้งไม่ถ้วน ก่อนจะเลือกระบบรถรางไฟฟ้าไปแก้ปัญหาขนส่งมวลชนในเมืองหลวง โดยศึกษาจากหลายเมืองและนครใหญ่ที่มีใช้ในขณะนี้ รวมทั้งเมืองซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์

แต่ระบบรถรางของกรุงฮานอยจะมีทั้งช่วงที่วิ่งบนพื้นดิน และช่วงที่อยู่ใต้ดิน ในอาณาบริเวณที่ถนนคับแคบด้วย ทั้งนี้เป็นรายงานของสื่อทางการเวียดนาม.

[Wisarut]

*เวียดเปิดหวูดรถใต้ดิน-โมโนเรล 4 สายประเดิม WTO*
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 26 ธันวาคม 2549 11:20 น.




*โมโนเรลในกรุงโตเกียว ที่นี่มีสารพัดทั้งที่เป็นรถไฟฟ้าชุมชนเมืองและรถสายนอกเมือง และนอกเมืองเข้าสู่ตัวเมือง ขนส่งมวลชนระบบรางใช้กันอย่างแพร่หลายในญี่ปุ่น*

ผู้จัดการรรายวัน- ทางการนครโฮจิมินห์ ได้ประกาศเชิญชวนนักลงทุนต่างชาติที่สนใจเข้าร่วมในโครงการก่อสร้างและให้บริการการขนส่งมวลชนระบบรางขนาดใหญ่ ทั้งรถไฟฟ้าใต้ดินและรถไฟฟ้ารางเดี่ยว รวมเป็นเงินลงทุนกว่า 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในเฟสแรก

นักวิเคราะห์กล่าวว่า นี่เป็นครั้งแรกที่เวียดนามได้เปิดภาคการคมนาคมขนส่งในประเทศให้ต่างชาติสามารถเข้าลงทุนและเข้าแข่งขันได้ อันเป็นไปตามเงื่อนไขหนึ่งในพันธสัญญาที่เวียดนามให้ไว้ เพื่อเข้าเป็นสมาชิกองค์การการค้าโลก หรือ WTO ( World Trade Organization )

ทางการเวียดนามได้ประกาศชวนนักลงทุนต่างชาติเข้าร่วมการประกวดราคา สำหรับการก่อสร้างระบบไฟฟฟ้ารถใต้ดิน 2 สาย กับรถไฟฟ้ารางเดี่ยวเหนือดินอีก 2 สาย ในนครใหญ่ศูนย์กลางเศรษฐกิจแห่งภาคใต้ ซึ่งจะเป็นสายแรกของประเทศด้วยเช่นเดียวกัน

ระบบรถไฟฟ้าใต้ดินโฮจิมินห์สายแรกที่เรียกว่า "สาย 5" ในแผนการพัฒนาระบบขนส่งมวลชน จะมีความยาวเพียง 17 กิโลเมตร ทอดยาวจากสะพานไซ่ง่อน ( Saigon Bridge ) ในเขตบิงแท็ง (Binh Thanh) หรือ "บึนเทิน" ไปยังเขต 8 ของนคร กับ "สาย 6" ที่จะสร้างพร้อมกันนี้ มีความยาวเพียง 6 กม.อยู่ในเขตเติ่นบึน ( Tan Binh ) กับ เขตเติ่นฝู ( Tan Phu )



*โมโนเรลที่เมืองท่าโกเบ ใช้มานานหลายสิบปี ดูเก่าทั้งดีไซน์และสภาพทั่วไป แต่ก็ยังใช้การได้ดี*

ส่วนระบบรถไฟฟ้ารางเดี่ยวทั้งสองสาย คือ "สายที่ 2" กับ "สายที่ 3" มีความยาวรวมกัน 35 กม. สายแรกจะเชื่อมทางหลวงเลข 50 - ถนนเหวียนวันลิง ( Nguyen Van Linh ) หรือ " งวีง วัน ลึน " ไปยังเขตอุตสาหกรรมแปรรรูปเติ่นทวน ( Tan Thuan ) กับ อีกสายหนึ่ง จากเขตสวนอุตสาหกรรมซอฟท์แวร์ไซ่ง่อน ในเขต 12 ไปยังถนนเหวียนแอว็ง ( Nguyen Oanh ) ในเขตสอวับ ( Go Vap )

ตามรายงานของหนังสือพิมพ์เตื่อยแจ๋ ( Tuoi Tre ) กับหนังสือพิมพ์ไซ่ง่อนหย่ายฝอง ( Saigon Gia Phong ) ที่อ้างตัวเลขประมาณการของแผนกการขนส่งนครโฮจิมินห์ การก่อสร้างรถไฟฟ้าใต้ดินจะใช้เงินทุนประมาณ 40 ล้านดอลลาร์ต่อระยะทาง 1 กม. และประมาณ 20 ล้านดอลลาร์ต่อ กม. ในส่วนที่โผล่ขึ้นเหนือพื้น

ส่วนเงินลงทุนสำหรับระบบรถไฟฟ้าโมโนเรลที่แล่นอยู่เหนือพื้นนั้นจะใช้ทุนน้อยกว่ามากคือ เพียงประมาณ 7 ล้านดอลลาร์ต่อระยะทาง 1 กม.

ตามรายงานของสื่อทางการเวียดนาม รถไฟฟ้าใต้ดินและรถไฟฟ้ารางเดี่ยวจะเปิดให้บริการพร้อมกันในปี 2554 หรือ อีก 5 ปีข้างหน้า ทั้งนี้เพื่อบรรเทาการจราจรที่แออัดในนครใหญ่ที่เป็นเหสมือนเครื่องจักรนำการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของทั้งประเทศ Image:



*มีรางเดี่ยวระบบแขวนด้วย ห้อยต่องแต่งในย่านตัวเมืองที่ความสูงตามท้องถนน ถูกบดบังหรือมีสิ่งกีดขวาง ยังไม่ทราบว่านครโฮจิมินห์ต้องการแบบไหน*



*เปิดไฟสว่างแต่เช้ามืด ขนส่งชาวกรุงโตเกียวมานานหลายสิบปี ทำงานเป็นระบบโยงใยไม่กีดขวางเส้นทางจราจร แก้ปัญหารถติดได้เฉียบขาด*



*"รถไฟหัวจรวด" โมโนเรลอีกระบบหนึ่งในญี่ปุ่น ดูใกล้ๆ มองเห็นภายในตกแต่งให้นั่งสบาย แม้จะในชั่วเวลาแค่พริบตา*

ตามแผนการนั้นในนครโฮจิมินห์จะมีรถไฟฟ้าใต้ดินอีก 4 สาย ที่มีจุดเริ่มจากบริเวณ 6 แยก ตลาดเบ๊นแท็ง ( Ben Thanh ) หรือ "เบ๊นทัน" ในสำเนียงของชาวใต้ ออกสู่ย่านนอกเมือง

นอกจากนั้นก็ยังจะมีโมโนเรลอีก 1 สาย หรือ "สายที่1" ความยาว 13 กม. เริ่มจากตลาดเบ๊นแท็ง ไปยังถนนฮำหงิ ( Ham Nghi ) ถนนโตนดึ๊กถัง ( Ton Duc Thang ) เลียบแม่น้ำไซ่ง่อน และวกออกถนนฮายบ่าจุง ( Hai Ba Trung ) ในเขตที่ 1 ไปถึงทางหลวงสาย 1A ( เหนือ-ใต้ ) ในเขตที่ 12 ที่อยู่ชานเมือง

ทางการเวียดนามได้มอบหมายให้บริษัทเมรุเบนนี ( Merubenni ) จากญี่ปุ่นให้ทำการศึกษาความเป็นไปได้ของระบบรถไฟฟ้าโมโนเรลสายที่1 นี้ ซึ่งคาดว่าจะต้องใช้เงินทุนในการก่อสร้างทั้งสิ้นกว่า 700 ล้านดอลลาร์ เนื่องจากจะเป็นโมโนเรลที่แล่นอยู่ใต้ดินเกือบตลอดทั้งสาย

ยังไม่มีความเห็นจากบริษัทต่างชาติต่างๆ ที่ได้ให้ความสนใจต่อโครงการพัฒนาระบบคมนาคมขนส่งพื้นฐานในเวียดนามมาตั้งแต่ 2-3 ปีที่แล้ว ซึ่งรวมทั้งบริษัทซีเมนส์จากเยอรมนี และอาร์ลสตรอม ( Alstrom ) จากฝรั่งเศส รวมทั้งบริษัทจากญี่ปุ่น และ จากรัสเซีย ที่ได้เสนอขอเข้าลงทุนรถไฟฟ้าใต้ดินจำนวน 3 สายก่อนหน้านี้

นักวิเคราะห์กล่าวว่าการเปิดให้ต่างชาติเข้าลงทุนในการก่อสร้างโครงร่างพื้นฐานต่างๆ จะทำให้การลงทุนของต่างชาติในเวียดนามเติบโตอย่างรวดเร็วมากในปีข้างหน้านี้

กระทรวงแผนการและการลงทุน ได้นำสถิติใหม่ออกเปิดเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งระบุว่า ในปี 2549 การลงทุนของต่างชาติมีมูลค่ารวมถึง 9,500 ล้านดอลลาร์ เกินเป้าหมายที่คาดเอาไว้เพียง 8,500 ล้านดอลลาร์ ทางการนครโฮจิมินห์กำลังศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการรถบัสด่วนขนส่งมวลชน หรือ BRT ( Bus Rapid Transit ) อีก 1 สาย โดยจะลงทุนเองทั้งหมด



*โมโนเรลดีไซน์ใหม่ ในกรุงโตเกียว กระทั่งบริษัทรถไฟสหรัฐฯ และแคนาดา ยังต้องไปดูงานที่นั่น ขึ้นอยู่กับว่าเวียดนามจะเลือกแบบไหน*

ส่วนในกรุงฮานอยก็กำลังอยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการรถไฟฟ้ารางเดี่ยวสายแรกความยาวเพียง 15 กม. ระหว่างฮานอย - ห่าดง ( Ha Dong ) ใน จ.ห่าไต ( Ha Tay ) ซึ่งมีพื้นที่ติดกันไปทางทิศตะวันตก คาดว่าจะต้องลงทุนประมาณ 300 ล้านดอลลาร์

รัฐบาลเวียดนามได้ขอความช่วยเหลือในรูปเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำจากจีน เพื่อลงทุนเองทั้งหมด ทั้งนี้เป็นรายงานของไซ่ง่อนหย่ายฝอง

ขณะเดียวกันก็กำลังมีการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการรถรางขนส่งมวลชน ( Tramway ) สำหรับกรุงฮานอย โดยจะมีทั้งช่วงที่อยู่บนดินและมุดลงใต้ดิน พร้อมกับรถไฟฟ้าชุมชน ( Community Electric Train ) ซึ่งจะเป็นระบบรถไฟใต้ดินอีก 1 สาย

สื่อของเวียดนามรายงานว่า โครงการก่อสร้างขนาดใหญ่เหล่านี้ จะเริ่มการก่อสร้างในช่วงปี 2548-2554 ทั้งสิ้น.***************

[Wisarut]

ให้กู้ $900 ล้านญี่ปุ่นเฉือนเยอรมันชิงรถใต้ดินโฮจิมินห์

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 10 เมษายน 2550 22:27 น.



รถสามล้อถีบ "ซิกโคล่" พาโดยสารเข้าโค้งวงเวียนในยามบ่ายที่เงียบสงบบริเวณ 6 แยกตลาดเบ๊นแท็ง อีก 4-5 ปีไปจนถึงปี 2563 จะไม่เงียบอีกต่อไป ที่นี่เป็นต้นทางของระบบขนส่งมวลชนขนาดใหญ่ซึ่งประกอบด้วยรถไฟฟ้าใต้ดินถึง 6 สาย



ผู้จัดการรายวัน-- โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าใต้ดินสายแรกในจำนวน 6 สายของนครโฮจิมินห์ได้กลายเป็นความจริง ทางการนครใหญ่แห่งนี้ได้ลงนามอนุญาตโครงการก่อสร้างมูลค่าราว 1,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐในวันอังคาร (10 เม.ย.) ที่ผ่านมา ในนั้นเงินทุนราว 83% เป็นเงินกู้จากธนาคารเพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศญี่ปุ่น หรือ JBIC (Japan Bank for International Cooperation)

นับเป็นความสำเร็จของฝ่ายญี่ปุ่นในยกแรก ในการแข่งขันกับบริษัทจากยุโรป โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือ กลุ่มบริษัทซีเมนส์ (Siemens AG) จากเยอรมนีที่เข้าไปมีบทบาทสำคัญอย่างสูงในการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนขนาดใหญ่ในภูมิภาคแถบนี้ รวมทั้งในกรุงเทพฯ ด้วย

ยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดใดๆ เกี่ยวกับเงื่อนไขเงินกู้ก้อนใหญ่ แต่สื่อทางการเวียดนาม ระบุว่าส่วนหนึ่งในนั้นเป็นความช่วยเหลือ ในขณะที่ทางการนครโฮจิมินห์เองจะใช้เงินทุนเพียง 186.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เข้าในโครงการก่อสร้าง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในแผนพัฒนาระบบขนส่งมวลชนเขตเมืองในนครที่ใหญ่ที่สุดทางภาคใต้ของประเทศ

นครโฮจิมินห์ซึ่งมีประชากรกว่า 8 ล้านคน มีโครงการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนที่สลับซับซ้อนและทันสมัยหลายโครงการ ตั้งแต่ปีนี้จนถึงปี 2563 ทั้งระบบรางใต้ดินและลอยฟ้า รถไฟฟ้ารางเดี่ยว หรือ “โมโนเรล” (Monorail) และ ยังมีรถเมล์ด่วนขนส่งมวลชนอีกด้วย

ทางการนครโฮจิมินห์ได้ประกาศเชิญชวนนักลงทุนที่สนใจเข้าลงทุนก่อสร้างระบบรถไฟฟ้าโมโนเรล ตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว

คณะกรรมการประชาชนนครโฮจิมินห์ได้ระบุในคำแถลงฉบับหนึ่งที่ออกเมื่อวันอังคาร แจ้งว่าการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายตลาดเบ๊นแท็ง-เสื่อยเตี๋ยน (Ben Thanh- Suoi Tien) ความยาว 19.7 กิโลเมตร จะเริ่มในปลายปี 2550 หรือ ต้นปี 2557 และคาดว่าจะเปิดใช้การได้ในปี 2556

ยังไม่มีการเปิดเผยเกี่ยวกับบริษัทผู้รับเหมาก่อสร้าง วัสดุอุปกรณ์และเทคโลโลยีที่ใช้ แต่เป็นที่แน่นอนว่าทุกอย่างจะดำเนินการโดยบริษัทจากญี่ปุ่น

เมื่อปีที่แล้วบริษัทสุมิโตโม ได้แสดงความสนใจเข้าลงทุนในโครงการรถไฟฟ้าใต้ดินนครโฮจิมินห์ โดยยื่นเสนอการก่อสร้างและบริหารภายใต้สัญญาแบบ BTO (Build-Transfer-Operate)

บริเวณ 6 แยกตลาดเบ๊นแท็งของนครโฮจิมินห์ ซึ่งเป็นตลาดค้าปลีก-ค้าส่ง ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาตินั้นกำลังจะเป็นจุดเริ่มต้นของระบบขนส่งมวลชนทันสมัย ในปัจจุบันที่นั่นก็ยังเป็นที่ตั้งของสถานีรถโดยสารของนคร

จากตลาดเบ๊นแท็งรถไฟฟ้าสายแรกนี้จะมุดลงบนดินรวมความยาว 2.6 กม.ไปตามถนนสายหลัก ผ่านโรงละครโอเปราเฮ้าส์ (Opera House) เข้าอุโมงค์ลอดแม่น้ำไซ่ง่อนก่อนจะโผล่ขึ้นพื้นดินกลายเป็นทางรถไฟฟ้ายกระดับ ไปสิ้นสุดลงที่ จ.บิ่งเยวือง (Binh Duong) ซึ่งเป็นศูนย์อุตสาหกรรมและการลงทุนของต่างประเทศขนาดใหญ่

ตามรายงานของสื่อทางการเวียดนาม เดือน ส.ค.ปีที่แล้ว บริษัทซีเมนส์ ทรานสปอร์ตซีสเต็มกรู๊ป หรือ STS (Siemens Transport System Group) ในเครือซีเมนส์อีจี (Siemens AG) จากเยอรมนีได้เสนอแผนเข้าดำเนินการก่อสร้างรถไฟฟ้าใต้ดินจำนวน 2 เส้นทางในนครโฮจิมินห์

ผู้บริหารของ STS แถลงในนครโฮจิมินห์เมื่อเดือน ส.ค. ระบุว่าได้ขอความช่วยเหลือจากรัฐบาลเยอรมนีทุ่มเงิน ODA (Official Development Assistance) หรือ เงินช่วยเหลืออย่างเป็นการเพื่อการพัฒนา แก่เวียดนาม เป็นมูลค่า 100 ล้านยูโร เพื่อเป็นทุนในการเริ่มต้น

กลุ่มซีเมนส์ได้เสนอตัวเข้าเป็นผู้จัดหารถไฟฟ้าและวัสดุอุปกรณ์ตลอดจนเทคโนโลยีควบคุมให้กับโครงการ ที่มีมูลค่ากว่า 800 ล้านยูโร

นายเจิร์น เอฟ.เซ็นส์ (Joern F. Sens) รองประธานกรรมการของเอสทีเอสประกาศเรื่องนี้ในวันที่ 2 ส.ค. หลังเข้าพบหารือกับนายเลแท็งหาย (Le Thanh Hai) เลขาธิการพรรคสาขานครใหญ่แห่งนี้ กับนายเลฮว่างก๊วน (Le Hoang Quan) ประธานคณะปกครองของนคร

ตามรายงานของหนังสือพิมพ์ไซ่ง่อนไทมส์ กลุ่มซีเมนส์ยังรับปากจะผลักดันเพื่อขออนุมัติงบ ODA อีกราว 20 ล้านยูโรจากรัฐบาลออสเตรีย และ เจรจาเงินกู้อีกราว 300 ล้านดอลลาร์จากธนาคารพัฒนาเอเชียหรือเอดีบี เพื่อโครงการก่อสาร้างรถไฟฟ้าใต้ดินนครโฮจิมินห์ทั้ง 2 สาย

ยังไม่มีรายงานความคืบหน้าเกี่ยวกับการดำเนินการของกลุ่มบริษัทจากเยอรมนีแห่งนี้อีก

เมื่อปีที่แล้วบริษัทไชน่าเซี่ยงไฮ้คอร์ป (China Shanghai Corporation) จากจีนได้เข้าศึกษาความเป็นไปรถไฟฟ้าใต้ดินอีกโครงการหนึ่ง รวมความยาว 12 กม. จากเขตสอว๊าป (Go Vap) ไปยังเขตที่ 4 ซึ่งตามกำหนดการแล้วบริษัทจีนจะต้องยื่นรายงานผลการศึกษาตั้งแต่เดือน ก.พ.ที่ผ่านมา

ยังมีข่าวความคืบหน้าเกี่ยวกับการดำเนินการของบริษัทจีนเช่นเดียวกัน

ตามแผนพัฒนาระบบขนส่งมวลชนจนถึงปี 2563 นั้น นครโฮจิมินห์ยังจะมีระบบรถไฟฟ้ารางเดี่ยวจำนวน 3 สาย รวมความยาว 37 กม. กับรถไฟฟ้าใต้ดิน-ยกระดับทั้ง 6 สาย ซึ่งจะมีความยาวรวมกันถึง 107 กม.

ในเดือน ก.พ.ที่ผ่านมาทางการญี่ปุ่นยังได้ให้คำมั่นจะให้การสนับสนุนโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ต่างๆ ในเวียดนามอย่างกว้างขวาง รวมทั้งการก่อสร้างทางรถไฟเหนือ-ใต้ความยาวเกือบ 2,000 กิโลเมตร และ การก่อสร้างทางหลวงอีก 3 สาย

การก่อสร้างรถไฟฟ้าความเร็วสูงฮานอย-นครโฮจิมินห์ คาดว่าจะใช้งบประมาณในการก่อสร้างไม่น้อยกว่า 32,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

สื่อของทางการเวียดนามรายงานว่า ผู้เชี่ยวชาญจากญี่ปุ่นกำลังจะเข้าเวียดนามในเร็วๆ นี้ เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ระบบรถไฟความเร็วสูงและโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่อื่นๆ อีกจำนวนหนึ่ง.

[prettyboy]

สร้างอู่จอดปีนี้ อีก 3 ปีรถใต้ดินโฮจิมินห์ฉึกฉัก

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 4 พฤษภาคม 2550 21:56 น.

http://www.manager.co.th/IndoChina/ViewNews.aspx?NewsID=9500000051449



ลานกว้างบริเวณ 5 แยกตลาดเบ๊นแทง (เบ๊นทัน) แห่งนี้กำลังจะเป็นสถานีจอดใหญ่ของรถไฟฟ้ารวม 6 สาย ที่มีระยะทางความยาวกว่า 100 กม. ทางกkรนครโฮจิมินหก์มีกำหนดจะเปิดให้บริการ 2 เส้นทางแรกในปี 2553



กรุงเทพฯ-- คณะกรรมการประชาชนนครโฮจิมินห์ได้อนุมัติงบประมาณอีก 2.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เข้าในโครงการก่อสร้างระบบรถไฟฟ้า-รถไฟใต้ดินมูลค่า 5,000 ล้านดอลลาร์ในนครใหญ่ศูนย์กลางทางเศรษฐกิจทางภาคใต้แห่งนี้

เงินงบประมาณจำนวน 1.7 ล้านดอลลาร์ เป็นเงินช่วยเหลือแบบ non-refumdable fund ของธนาคารพัฒนาเอเชียหรือ เอดีบี อีก 500,000 ดอลลาร์เป็นงบประมาณช่วยเหลือจากรัฐบาลกลาง ที่เหลือเป็นเงินงบประมาณของทางการนครโฮจิมินห์เอง กับเงินทุนจากนักลงทุนในโครงการ

การก่อสร้างทางเทคนิคต่างๆ เพื่อรองรับระบบรถไฟฟ้าที่ใหญ่โตสายสั้นและยาวจำนวน 6 สาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรงซ่อมบำรุงกลาง มีกำหนดแล้วเสร็จในปี 2551 นี้ ทั้งนี้เป็นรายงานของสำนักข่าวเวียดนามเอ็กซ์เพรส สำนักข่าวออนไลน์ภาษาเวียดนามของทางการ

ตามแผนแม่บทที่ได้รับอนุมัติจากรัฐบาลกลางเรียบร้อยแล้วนั้น ในนครโฮจิมินห์จะมีรถไฟฟ้ารวมระยะทาง 54 กิโลเมตร ประกอบด้วย 22 สถานี โดยมีสถานีจอดกลางใต้ดินสวนสาธารณะ 23 กันยายน ในเขต 1 ของนคร แต่เมื่อรวมระยะทางทั้งหมดรวมทั้งส่วนที่อยู่นอกเขตนครก็จะมีความยาวกว่า 100 กม.

การก่อสร้างจะเริ่ม 2 สายแรกก่อน โดยมีกำหนดเปิดให้บริการในปี 2553 ที่เหลือจะดำเนินต่อไปจนถึงปี 2563 จึงจะแล้วเสร็จทั้งระบบ ซึ่งจะทำให้การสัญจรในนครใหญ่ที่มีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจสูงที่สุดในประเทศมีความคล่องตัว ไม่ติดขัดเช่นในปัจจุบัน

ตามแผนการนั้นคาดว่า ระบบรถไฟฟ้าจะสามรรถลดการใช้รถจักรยานยนต์ลงได้ประมาณ 25% ในปีแรกที่เปิดให้บริการ และ เมื่อทั้งระบบแล้วเสร็จจะสามารถลดจำนวนการใช้รถจักรยานยนต์ลงได้ประมาณครึ่งหนึ่ง เป็นการลดการติดขัดการจราจรได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ทางการนครได้ประกาศเชิญชวนนักลงทุนต่างชาติเข้ามีส่วนร่วมในการก่อสร้างระบบรถไฟฟ้าตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว

กลุ่มซีเมนส์เอจีจากเยอรมนีได้เสนอเข้าลงทุนใน 2 สายแรก ซึ่งมีมูลค่าก่อสร้างราว 800 ล้านยูโร โดยในนั้นทางการนครโฮจิมินห์จะลงทุนประมาณ 30% เป็นเงินช่วยเหลือแบบ ODA จากรัฐบาลเยอรมันกับรัฐบาลออสเตรีย 20 ล้านยูโร กับเงินกู้อีก 100 ล้านยูโร

ตามแผนการเบื้องต้นนั้นรถไฟฟ้าสายนี้จะประกอบด้วยรถ 5-6 ขบวน แล่นให้บริการทุกๆ เวลา 5 นาที คาดว่าจะมีผู้โดยสารใช้บริการราว 1.6444 ล้านคนต่อปี ในช่วงปีแรกๆ ที่เปิดบริการ เวียดนามเอ๊กซ์เพรสกล่าว



ใต้ถนนเหวียนเหว (Nguyen Hue) แห่งนี้จะเป็นช่วงที่รถไฟฟ้ามุดลงดิน ไปลอดไม่น้ำไซ่ง่อนที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกลทางเบื้อง ซึ่งอีกฝั่งหนึ่งกำลังพัฒนาเป็นย่านธุรกิจการเงินแห่งใหม่ของตัวเมือง


ในวันที่ 10 เม.ย.ที่ผ่านมา ทางการนครโฮจิมินห์ได้อนุมัติโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าอีก 2 สาย มูลค่าราว 1,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในนั้นประมาณ 83% เป็นเงินกู้จากธนาคารเพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศญี่ปุ่น หรือ JBIC (Japan Bank for International Cooperation)

ยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดใดๆ เกี่ยวกับเงื่อนไขเงินกู้ก้อนใหญ่ แต่สื่อทางการเวียดนาม ระบุว่าส่วนหนึ่งในนั้นเป็นความช่วยเหลือ ในขณะที่ทางการนครโฮจิมินห์เองจะใช้เงินทุนเพียง 186.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เข้าในโครงการก่อสร้าง

นครโฮจิมินห์ซึ่งมีประชากรกว่า 8 ล้านคน มีโครงการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนที่สลับซับซ้อนและทันสมัยหลายโครงการ ซึ่งเริ่มการก่อสร้างตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นไปทั้งระบบรางใต้ดินและลอยฟ้า รถไฟฟ้ารางเดี่ยว หรือ “โมโนเรล” (Monorail) และ ยังมีรถเมล์ด่วนขนส่งมวลชนอีกด้วย

ตามคำแถลงของทางนั้น การก่อสร้างรถไฟฟ้าสายตลาดเบ๊นแท็ง-เสื่อยเตี๋ยน (Ben Thanh- Suoi Tien) ความยาว 19.7 กิโลเมตร จะเริ่มในปลายปี 2550 นี้ หรือ ต้นปี 2557 และคาดว่าจะเปิดใช้การได้ในปี 2556

ยังไม่มีการเปิดเผยเกี่ยวกับบริษัทผู้รับเหมาก่อสร้าง วัสดุอุปกรณ์และเทคโลโลยีที่ใช้ แต่เป็นที่แน่นอนว่าทุกอย่างจะดำเนินการโดยบริษัทจากญี่ปุ่น

เมื่อปีที่แล้วบริษัทสุมิโตโม ได้แสดงความสนใจเข้าลงทุนในโครงการรถไฟฟ้าใต้ดินนครโฮจิมินห์ โดยยื่นเสนอการก่อสร้างและบริหารภายใต้สัญญาแบบ BTO (Build-Transfer-Operate)

สำหรับรถไฟฟ้าสายญี่ปุ่นนี้จะมีส่วนที่มุดดินรวมความยาว 2.6 กม. จากตลาดเบ๊นแท็งไปตามถนนสายหลัก ผ่านโรงละครโอเปราเฮ้าส์ (Opera House) เข้าอุโมงค์ลอดแม่น้ำไซ่ง่อนก่อนจะโผล่ขึ้นพื้นดินกลายเป็นทางรถไฟฟ้ายกระดับ

ปลายทางของขบวนอยู่ที่ จ.บิ่งเยวือง (Binh Duong) ซึ่งเป็นศูนย์อุตสาหกรรมและการลงทุนของต่างประเทศขนาดใหญ่อีกแห่งหนึ่ง.

[Wisarut]

สาย 1 - สาย 2 กรุงฮานอย
http://www.ketcau.com/forum/attachment.php?attachmentid=5329&stc=1&d=1178777509

Line 1 -- 12.5 km with 15 stations, including 2.9 km/4 stations underground
LRT system, construction started in Dec 2006 for completion in 2010

Line 2 -- 15.2 km with 14 stations, fully underground
Construction to start by end of 2007 for completion in 2014


สาย 2 กรุงฮานอย
http://www.ketcau.com/forum/attachment.php?attachmentid=5330&stc=1&d=1178777509

[Wisarut]

วันนี้ไปเจอ Comment ของฝรั่งที่ไปเวียตนามมา แล้วเล่าความจริงเกี่ยวกะรถไฟเวียตนามไว้ดังนี้

[Wisarut]

โมโนเรลโฮจิมินห์อีก 2 สายใกล้เป็นจริง

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 10 ตุลาคม 2550 11:20 น.


รถไฟฟ้ารางเดี่ยวสายเดียวในมาเลเซียแล่นเลื้อยไปในย่านที่ผู้คนพลุกพล่านของกรุงกัวลาลัมเปอร์ ระยะทางไม่ถึง 10 กม.ค่าโดยสาร 1.4-2.6 ริงกิต คือไม่เกิน 30 บาทตลอดสาย หน้าตาโมโนเรลโฮจิมินห์ก็คงจะออกมาประมาณนี้



ผู้จัดการรายวัน-- การขนส่งรถไฟฟ้าระบบรางแบบโมโนเรล (Monorail) หรือ รถไฟฟ้ารางเดี่ยวเป็นทางเลือกที่ได้รับความสนใจจากทางการเวียดนาม ในการรับมือกับปัญหาการจราจรติดขัดในนครใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งนครโฮจิมินห์ซึ่งเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจของประเทศ

การศึกษาโมโนเรลจำนวน 2 สายที่ดำเนินมาตั้งแต่ต้นปีเพิ่งจะแล้วเสร็จ และบริษัทเบอร์จายา คอร์ปอเรชัน เบอร์หัด (Berjaya Corporation Berhad) จากมาเลเซียที่เสนอตัวเข้าลงทุนนี้ได้เสนอรายงานเบื้องต้นต่อทางการนครโฮจิมินห์เมื่อเร็วๆนี้

ทั้งสองสายนี้กำลังจะเป็นโมโนเรลสายที่ 2 และ 3 ในนครที่มีประชากร 8 ล้านคนและการจราจรกำลังติดขัดถึงขั้นโคม่าในชั่วโมงเร่งด่วน ขณะที่การก่อสร้างระบบขนส่งมวลชนขนาดใหญ่คือ รถไฟฟ้าใต้ดินสายแรกเพิ่งจะเริ่มต้น

ผู้เชี่ยวชาญของบริษัทกุบ-เบอร์จายา เอ็นวิโร (Kub-Berjaya Enviro) บริษัทลูกของ BCB ร่วมกับบริษัท TEDI Consulting ได้เสนอแผนการก่อสร้างโมโนเรลทั้งสองสายรวมความยาวประมาณ 20 กิโลเมตร เพื่อเชื่อมใจกลางนครกับเขตรอบนอก และเขตสวนอุตสาหกรรมหลายแห่ง

โมโนเรลทั้ง 2 สายนี้อยู่ในแผนการพัฒนาการขนส่งระบบรางในเขตเมืองจากปัจจุบันไปจนถึงปี พ.ศ.2563 ซึ่งยังมีรถไฟฟ้าใต้ดิน-บนดินรวม 6 สาย ขณะที่มีการพิจารณาระบบรถรางในเมือง (Urban Tramway) กับ รถบัสขนส่งมวลชนหรือ Bus Rapid Transit (BRT) เป็นทางเลือกอีกด้วย

เป็นที่ทราบกันทั่วไปว่ากลุ่มนักลงทุนจากญี่ปุ่นซึ่งได้รับการสนับสนุนจากองค์การการค้าสัมพันธ์กับต่างประเทศหรือเจโทร (Japan External Trade Organization) ได้เสนอเข้าลงทุนก่อสร้างรถไฟฟ้ารางเดี่ยวสายแรกของนครโฮจิมินห์และกำลังอยู่ระหว่างเจรจาเงินกู้


[img]http://www.manager.co.th/asp-bin/Image.aspx?ID=812255[/img]
ลอยฟ้าทั้งหมด สร้างมลพิษน้อยมาก เงียบกว่ารางคู่ กลุ่มเบอร์จายา แม้จะไม่ได้เป็นเจ้าของเทคโนโลยีโมโนเรล แต่ก็ไปมีสัมปทานในแอฟริกาด้วย


สำหรับโมโนเรลสายที่ 2 มีความยาว 13.6 กม. จะเริ่มจากเขตทูเทียม (Thu Thiem) หรือฝั่งตะวันตกแม่น้ำไซ่ง่อนอันเป็นเขตพัฒนาใหม่ ขนานกับทางหลวงตะวันออก-ตะวันตก ข้ามแม่น้ำไปถึงสถานีปลายทางที่ทางหลวงสายที่ 50 ในเขตบิ่งแจ๋ง (Binh Chanh) หรือ "บึ่นเจิ๋น" ในสำเนียงท้องถิ่น

สายที่ 3 ความยาวเพียง 6.3 กม.จะเริ่มจากถนนเหวียนแอว็ง (Nguyen Oanh) ไปยังเขตเสาะเวิ๊บ (Go Vap) ไปถึงสถานีปลายทางที่สวนซอฟท์แวร์กวางจุ่ง (Quang Trung Software Park) ในเขต 12 ทั้งนี้เป็นรายงานของไซ่ง่อนไทมส์ หนังสือพิมพ์ธุรกิจรายวันฉบับภาษาอังกฤษ

ผู้บริหารของกุบ-เบอร์จายา เอ็นวิโร กล่าวว่ารายงานสุดท้ายจะนำเสนอต่อทางการนครโฮจิมินห์ในอีก 3 เดือนข้างหน้าหรือก่อนสิ้นปีนี้ แต่ก็ยังไม่ยอมเปิดเผยเกี่ยวกับมูลค่าโครงการ เทคโนโลยีที่ใช้ และรายละเอียดอื่นๆ

อย่างไรก็ตามผู้ลงทุนจะต้องใช้ที่ดินรวมกันราว 10 เฮกตาร์ (ประมาณ 625 ไร่) เพื่อสร้างโรงจอดและอู่ซ่อม สถานีปฏิบัติการและควบคุมของรถไฟฟ้าทั้ง 2 สาย รวมทั้งเป็นร้านค้าอีกด้วย และจะเร่งการก่อสร้างให้เปิดบริการได้ในปี 2553 โดยจะแล่นรถบริการทุกๆ 8 นาที

รถไฟฟ้าโมโนเรลของมาเลเซียจะสามารถขนส่งผู้โดยสารได้ 20,000-30,000 คนต่อชั่วโมง ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญมากสำหรับนครโฮจิมินห์ที่กำลังอยู่ในฝันร้ายด้านการจราจร

ในเดือน มี.ค.ปีนี้ เบอร์จายาฯ ได้เซ็นบันทึกช่วยความจำเพื่อความเข้าใจกับแผนกคมนาคมขนส่งและโยธาธิการนครโฮจิมินห์เพื่อศึกษาและก่อสร้างโมโนเรลทั้งสองสาย แต่หนังสือพิมพ์เยินซเวิน (Nhan Dan) ซึ่งเป็นสื่อของศูนย์กลางพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม รายงานว่ากลุ่มบริษัทจากมาเลเซียนี้ยังได้รับมอบหมายให้ศึกษาความเป็นไปได้โครงการโมโนเรลสายอื่นๆ อีกด้วย

[img]http://www.manager.co.th/asp-bin/Image.aspx?ID=812256[/img]

สีลูกกวาดลอยผ่านใจกลางเมืองโมโนเรลกลายเป็นจุดสนใจของนักท่องเที่ยวต่างชาติ


ตามแผนแม่บทพัฒนาระบบขนส่งมวลชนเขตเมืองนั้น นครโฮจิมินห์จะมีบริการรถไฟฟ้าใต้ดิน-บนดินรวมความยาว 107 กม. รถโมโนเรลอีก 3 สายรวมความยาว 37 กม.

ระบบรถเมล์โดยสารไม่เพียงพอที่จะรับมือกับการคมนาคมที่ขยายตัวอย่างรวดเร็วในนครที่มีเศรษฐกิจเติบโตสูงที่สุดในประเทศ ทำให้ผู้คนหันไปใช้พาหนะส่วนตัวซึ่งส่วนใหญ่เป็นรถจักรยายนต์ที่มีความคล่องตัวสูง แต่ยิ่งมีจำนวนมากขึ้นการจราจรก็ยิ่งติดขัดมากขึ้น

ก่อนหน้านั้นในเดือน ธ.ค.2548 ผู้บริหารของกลุ่มมารุเบนี (Marubeni) กับผู้เชี่ยวชาญของเจโทรได้เสนอแผนการลงทุนก่อสร้าง รถไฟฟ้ารางเดี่ยวสายแรกของโฮจิมินห์ด้วยเงินลงทุน 474 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

โมโนเรลสายแรกความยาว 13.95 กม. จะมีสถานีต้นทางที่ตลาดเบ๊นแถ่ง (Ben Thanh) มุดลงใต้ดินผ่าใจกลางเมืองก่อนจะไปโผล่ขึ้นลอยฟ้าวิ่งขนานกับแม่น้ำไซ่ง่อน โดยมีสถานีสุดท้ายที่ทางหลวงสาย 1A (ใต้-เหนือ) ในเขตที่ 12

ทางการนครฯ ได้เสนอให้โมโนเรลสายแรกมุดลงใต้ดินในช่วงถนนฮายบาจุง (Hai Ba Trung) ถนนฟานดิ่งฟุง (Phan Dinh Phung) ถึงถนนเหวียนเกี๊ยม (Nguyen Kiem) ก่อนจะขึ้นเป็นระบบลอยฟ้าไปตามถนนโตนดึ๊กถัง (Ton Duc Thang) ไปตลอดระยะทางที่เหลือ ทั้งนี้เป็นรายงานของสำนักข่าวเวียดนามเอ็กซ์เพรส

เจโทรกับทางการนครโฮจิมินห์กำลังเจรจากับรัฐบาลญี่ปุ่น เกี่ยวกับเงินกู้ดอกเบี้ยผ่อนปรนสำหรับการก่อสร้างโมโนเรลสายที่ 1 โดยคณะกรรมการปกครองนครจะรับผิดชอบค่าชดเชยที่จะต้องจ่าให้แก่ครอบครัวประชาชนที่ได้รับผลกระทบหนังสือพิมพ์ฉบับเดียวกันกล่าว

ไม่เพียงแต่นครโฮจิมินห์เท่านั้น ระบบรถไฟฟ้ารางเดี่ยวยังได้รับความสนใจจากทางการกรุงฮานอย ที่การจราจรกำลังติดขัดอย่างหนักไม่แพ้กัน


[img]http://www.manager.co.th/asp-bin/Image.aspx?ID=812257[/img]
ดูใกล้ๆ หน้าตาก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร รุ่นนี้ใช้มาตั้งแต่ปี 2546 รุ่นใหม่น่าจะมีให้เลือกมากกว่านี้


ตามแผนแม่บทการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนเขตเมือง ภายในปี พ.ศ.2563 ฮานอยจะมีรถไฟฟ้ารางเดี่ยวฟ้าจำนวน 8 สาย การศึกษาโมโนเรลสายแรกจากย่านใจกลางเมืองไปยัง อ.ห่าด่ง (Ha Dong) สำเร็จตั้งแต่ต้นปี 2548 โดยกลุ่ม TEDI เช่นเดียวกัน

ตามรายงานของสื่อทางการนั้นการก่อสร้างโมโนเรลสายแรกความยาว 14.8 กม. จะเริ่มตั้งแต่ต้นปี 2548 แล้วเสร็จปลายปีนี้และเปิดบริการในเดือน ก.ค.2551 แต่ก็ยังไม่มีข่าวคราวอีกนับตั้งแต่นั้น

ในกรุงฮานอยยังมีระบบรถไฟฟ้าใต้ดิน-บนดินอีก 2 สาย โดยสายแรกวางศิลาฤกษ์ไปในเดือน ธ.ค.ปีที่แล้ว การปรับพื้นที่ก่อสร้างเริ่มขึ้นเมื่อต้นปีนี้ โดยมีกำหนดจะเปิดให้บริการในปี 2553.

[Wisarut]

France gives more to Ha Noi urban railway

23/11/2007 -- 6:57 PM
Ha Noi (VNA) – France will provide 0.5 million Euros in non-refundable aid to a project on building an urban railway section connecting outlying Nhon to the Ha Noi station.

An agreement to this effect was signed by Vietnamese Minister of Planning and Investment Vo Hong Phuc and Director of the French Development Agency (AFD) Alain Henri in Ha Noi on November 23.

Minister Phuc said the aid is not big but significant in helping the Ha Noi Railway Project Management Board carry out the biggest France-financed project in Viet Nam .

According to the Ministry of Planning and Investment, the 12.5km section linking the western suburb of Ha Noi to its centre is the first urban railway section in the city with a total investment capital of 458 million Euros.

In response to the Vietnamese Government’s proposal, the French Government provides 200 million Euros, AFD – 80.5 million Euros to the project. The remaining will be contributed by Viet Nam .

In addition, France’s Global Environment Fund managed by the AFD has donated 1.27 million Euros as non-refundable aid to help Ha Noi find out environment-related solutions for the railway section.

With the support from the French Government and AFD, the project has begun with an aim of modernising public traffic system to deal with the traffic overload in the capital city.

France now is a big aid donor for Viet Nam , pledging a total of 1.5 billion Euros, with AFD as one of its major channels.-Enditem