View previous topic :: View next topic
Author
Message
sannithi
3rd Class Pass Joined: 07/10/2010 Posts: 94
Back to top
srinopkun
1st Class Pass (Air) Joined: 08/04/2010 Posts: 2940
Location: นครปฐม
Posted: 28/11/2011 7:06 pm Post subject:
sannithi Quote: และผมขอระบายความในใจหน่อยนะครับ เรื่องห่วงทางสะดวกว่าทำไมเขาไม่ใส่ในที่ใส่มันเลยล่ะครับ มายืนส่งให้ร้อนก็ร้อน แล้วแถมตอนช่างเครื่อง(หรือป่าว)โยนห่วงทางสะดวกน่ะโยนให้ แต่ทีเวลารับกับรับจากมือคนส่ง เหมือนคนที่รับดูไม่มีค่ายังไงไม่รู้ครับ(เพราะโยนให้ต้องเก็บกับพื้น) ถ้าใช้คล้องทั้งส่งทั้งรับน่าจะดีกว่านะ คนรับต้องคอยเก็บห่วงที่เขาโยนมาทุกครั้งไป เฮ้อ สงสารคนรับนะครับ
เป็นเทคนิคในการทำงานของเจ้าหน้าที่ประจำสถานีครับ
ในกรณีขบวนรถที่จอดสถานีนั้นๆ การยื่นรับและส่งตรงหน้าอาคารสถานีจะเดินใกล้กว่าที่จะต้องเอาห่วงไปแขวนไว้เสาทางออกจากสถานี แล้วเดินไปรับ (ปีนเสา) ห่วงที่เสาด้านเข้าสถานี เพราะเขาจะต้องรับเอาอุปกรณ์บางอย่างในกระเป๋าที่มีห่วงคล้องนั้นไปใช้ทำการบางอย่างในอาคารสถานีในทันทีครับ
ดังนั้นถ้ายืนรอหน้าห้องทำงานเลย จะรวดเร็วกว่าต้องเดินไปปีนเสา
อ่ะ ทีนี้อาจจะมีคำถามว่า แล้วเวลารถวิ่งผ่าน (ไม่จอด) สถานีนั้นล่ะ ทำไมไม่ทำอย่างที่ว่า
เอ้อ รถวิ่งน่ะ โอกาสรับส่งห่วงพลาดมากกว่ารถจอดนะครับ คนส่งขยับตัวนิดเดียว คนรับ "จั่วลม" เอาง่ายๆ
เพราะฉะนั้น ใส่เสาไว้ นิ่ง และแน่นอนกว่า (เสาขยับไม่ได้เด้่อ)
----------------------------------------------
sannithi Quote: Quote ตรงหัวมุมบนด้านขวาให้เราไปโพสต์ของเราและของคนอื่นต่อล่ะครับ ผมเลยต้องลงทีเดียวหลายคลิปเลย ถ้ายังไงรบกวนผู้รู้บอกวิธีให้ผมด้วยนะครับขอบคุณครับ
เรื่อง Quote นั้น แรกๆก็งงอยู่ว่าทำไงหว่า
พอใช้ไป ๆ ๆ ก็พอจะปรับตัวได้ครับ
โดยการ ....
1. ป้ายทึบประโยคที่จะ Quote นั้นๆ แล้วคลิกขวา เลือก copy
2. นำมาใส่ในช่องที่เขียนข้อความที่จะโพส แล้วคลิก paste
3. ป้ายทึบอีกที แล้วคลิกปุ่ม Quote ด้านบนช่องโพสข้อความนี้ จะเห็นว่ามีตัวอักษร
[ quote ] ข้อความที่จะ quote [ /quote ] ครับ
แล้วก็พิมพ์ข้อความอื่นๆ นอกเครื่องหมายคำสั่งนี้
แถม ๆ
อาจจะใส่ชือผู้โพสไว้ข้างหน้าก็ได้ด้วยครับ
หมายเหตุ บอร์ด phpBB สามารถปรับปรุงบอร์ดได้ดีกว่าบอร์ด smf หน้าตาก็สดใสสวยงามกว่าบอร์ดแบบ smf
คือส่วนมากเราจะเห็นบอร์ดแบบ smf ซะเคยชิน พอมาเจอบอร์ดแบบ phpBB มักจะออกอาการมึนงงเล็กน้อย
Back to top
headtrack
1st Class Pass (Air) Joined: 30/05/2009 Posts: 1627
Location: ละแวกภาคกลางตอนบน และภาคเหนือตอนล่าง
Posted: 28/11/2011 9:13 pm Post subject:
ไม่ทราบว่า สภาพทาง ตั้งแต่ แม่จาง-เด่นชัย-ศิลาอาสน์-พิษณุโลก เปนอย่างไรบ้างครับ...
ขณะขบวน 12 ผ่าน ดูเบาๆ ชอบกล ผิดกับเมื่อประมาณ ปี 2545 ที่ขบวนรถผ่านทางประธานแม่จางได้ ประมาณ 70 กม./ชม.
ขอเสริมสำหรับประเด็นการส่ง/รับห่วงทางสะดวกสักนิด สังเกตได้ว่า ขบวนรถที่ผ่านโดยไม่หยุด จะผ่านด้วยความเร็วสูงกว่าขบวนรถที่หยุด (ประมาณ 30-60 กม./ชม.)
หากส่ง/รับห่วงจากมือ.-
- คนส่งห่วงจะเปนอันตรายครับ. - ห่วงที่โยนจากมือ พ.รถจักร จะกระเด็นไปไกลด้วยแรงเฉี่อยครับ
...
กรณีการส่ง/รับห่วงลักษณะนี้ พนักงานสถานีอาจไปรอแลกห่วงตรงต้นขบวนได้ หากขบวนไม่ยาวนัก หรืออาคารสถานีตั้งอยู่ค่อนไปทางต้นขบวนมากกว่า...
... _________________
Find me on Instagram: @632knongtsaikhaow
Back to top
CivilSpice
1st Class Pass (Air) Joined: 18/03/2006 Posts: 11192
Location: หนองวัวหนุ่มสเตชั่น
Posted: 29/11/2011 6:23 am Post subject:
จขกท. wrote: ทำไมเมื่อผมจะโพสต์กลับไม่มีคำว่า qouteตรงหัมมุมบนด้านขวาให้เราไปโพสต์ของเราและของคนอื่นต่อล่ะครับ ผมเลยต้องลงทีเดียวหลายคลิปเลย ถ้ายังไงรบกวนผู้รู้บอกวิธีให้ผมด้วยนะครับขอบคุณครับ
จะโพสต์เพิ่ม ก็กดที่ปุ่ม Post Reply ที่อยู่ด้านบน/ด้านล่างของกระทู้สิครับ
ส่วน Quote เอาไว้ใช้ตอบในลักษณะการอ้างอิงถึงข้อมูลเดิม หรือคำพูดเดิม หรือเน้นเฉพาะประเด็นที่สำคัญ ที่ต้องการจะขยายความต่อจากโพสต์เดิมของผู้อื่นที่โพสต์เอาไว้ แต่ที่ผ่านมาส่วนใหญ่ User มักจะใช้งานผิดประเภท คือ ไม่ว่าอะไรก็ตาม ฉันก็จะ Quote เอาไว้ก่อน โดยไม่สนใจว่า โพสต์ข้างบนก่อนหน้านั้น เค้าคุยอะไรกันไว้ บางทีเค้าคุยกันจบไปนานแล้ว ก็ยังไป Quote เข้ามาอีก (สิ่งที่ตัวเองโพสต์เพิ่มก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเค้าเลย) บางทีเค้า Quote กันไว้ 2 ครั้งก็ไป Quote รอบที่ 3-4-5 เข้าไปเพิ่ม หรือบางท่าน ก็จะ Quote โพสต์ของตัวเองเข้ามาซะอีก พอท่าน Quote กันซ้ำๆ มันก็จะมีกรอบสี่เหลี่ยมซ้อนไปซ้อนมาหลายชั้น ดูแล้วรกรุงรัง และสิ้นเปลืองทรัพยากรในการเก็บข้อมูลซ้ำๆโดยใช่เหตุ นอกจากนั้นแล้ว นานๆ เข้าก็ยังส่งผลให้ระบบฐานข้อมูลทำงานได้ช้าลงด้วย
ดังนั้น ในเมื่อใช้งานกันผิดวัตุประสงค์ ทางเราก็ขอ Disabled ฟังก์ชั่นตัวนี้ไป สงวนให้เฉพาะท่านที่ใช้งานได้ถูกต้อง หรือประสงค์จะใช้งานจริงๆ ยังคงสามารถใช้งานได้อยู่ ตามวิธีการใช้ Quote ที่พี่ Srinopkun แนะนำเอาไว้ครับ ถึงแม้ว่ามันอาจจะยุ่งยากและไม่สะดวกไปบ้าง แต่กับผู้ตั้งใจจะใช้งาน คงพอจะทำได้อยู่ เพราะแค่ Copy + Paste ส่วนของข้อความที่ต้องการ Quote มาโพสต์เท่านั้น
จริงๆ สำหรับผม แค่ Post Reply เข้ามาปกติ ผมก็สามารถอ่าน ทำความเข้าใจ ปะติดปะต่อเรื่องราว ที่ผู้โพสต์ต้องการจะสื่อสารกับผมได้ครับ ไม่จำเป็นต้อง Quote ข้อความก็ได้ เพราะผมจะอ่านทุกโพสต์ โดยเฉพาะถ้าเป็นกระทู้ที่ผมเป็นเจ้าของ หรือมีการโพสต์ข้อความของผมเข้าไปในกระทู้ใดๆ ก็ตาม
Back to top
sannithi
3rd Class Pass Joined: 07/10/2010 Posts: 94
Posted: 29/11/2011 11:13 am Post subject:
Quote: ไม่ทราบว่า สภาพทาง ตั้งแต่ แม่จาง-เด่นชัย-ศิลาอาสน์-พิษณุโลก เปนอย่างไรบ้างครับ...
ขณะขบวน 12 ผ่าน ดูเบาๆ ชอบกล ผิดกับเมื่อประมาณ ปี 2545 ที่ขบวนรถผ่านทางประธานแม่จางได้ ประมาณ 70 กม./ชม.
ครับก่อนอื่นต้องขอขอบคุณผู้รู้ทุกท่านที่ให้ความกระจ่างแก่ผมนะครับ เนื่องจากผมประสบการณ์น้อยจึงต้องถามผู้รู้อยู่เรื่อยๆ แต่ก็รับรถไฟไม่แพ้ใครครับ
ตอนที่ผมนั่ง 102 จากเชียงใหม่มาลงแม่เมาะนั้น ผมก็สังเกตเห็นป้ายจำกัดความเร็ว ที่ไม่เกิน 45 กม./ชม. เสียส่วนใหญ่นะครับ จนมาถึงวันที่ผมเดินทางกลับที่สถานีแม่จางผมก็ได้คุยกับพี่พนักงานสถานีเกี่ยวกับเรื่องการเดินรถ การเบาทาง และการติดเขาของขบวนรถต่างๆ ส่วนใหญ่จากสถานีแม่จางไปจนถึงบ้านปิน จะเป็นความเร็วที่ไม่เกิน 45 กม./ชม. เสียส่วนมากครับ จะมีก่อนถึงสถานีบ่านปิน ที่เขากำลังขุดเจาะท่อใต้รางรถไฟ เห็นป้ายจำกัดความเร็วที่ 15 กม./ชม.ครับ
พี่พนักงานที่แม่จางบอกว่ารถด่วนพิเศษจะวิ่งแค่ไม่เกิน 70 กม./ชม.ครับ เช่น ขบวน 1 กับ2 และ 9 กับ 12 ส่วนขบวนรถอื่นๆผมเห็นแค่ไม่เกิน 45 กม./ชม.ครับ และผมว่าตอนนี้ ขบวน 1, 2 ,9 และ 12 น่าจะจำกัดความเร็วที่ไม่ถึง 70 กม./ชม.นะครับ(ช่วง แม่จาง-บ้านปิน) ยิ่งขบวน 1 กับ 2 ชอบติดเขาอยู่เรื่อย เช่นเมื่อวันที่ผมนั่ง 102 มาลงแม่เมาะ102 ก็รอหลีกขบวน 1 ซึ่งช้ากว่าเวลามากกว่า 4 ชม.ที่สถานีศาลาผาลาด กว่าจะผ่านไปได้รอเป็นครึ่งชั่วโมงเลยครับ เห็นน้าต้อมพหุน้าต้อมมาด้วย คงจะไปติดเขาที่ไหนมาสักที่แน่ๆ คงเป็นเพราะต้องวิ่งอ้อมด้วยกระมังจึงมาช้า
วันที่ผมเดินทางกลับที่แม่จางและได้ถ่ายวิดีโอขบวน 12 ไว้ ผมได้ยินพนักงานคุยกันว่า ขบวน 12 วิ่งไล่ตาม 102 ทัน และให้ 102 รอหลีก 12 ที่ปางป๋วย โอ้พระเจ้ามาแซงกันตรงนั้นเห็นๆ แถมจัดการรอหลีกกันพัลวัล เพราะ 407 เองก็จะมาถึงแม่จางในเวลาต่อมา แถมก่อนหน้าที่ 407 จะมายังมีรถน้ำมันคันหนึ่งมารอหลีกที่แม่จางอีกด้วย ส่วน 408 ก็รอหลีก 407อยู่ที่แม่เมาะ พี่ พขร.ของรถน้ำมันถึงกับลงเดินมาที่สถานีเพราะทางสถานีให้ 408 ไปก่อนรถน้ำมันด้วย เรียกว่ารอกันจนหลับเลยล่ะครับ ต้องชมฝีมือการสับหลีกของการรถไฟจริงๆ เก่งมากสามารถจัดการได้อย่างดีทีเดียว
ทางช่วงเด่นชัย-บ้านด่าน ก็มีป้ายจำกัดความเร็วที่ 65 (ตอนออกจากเด่นชัย)บ้าง 45 บ้าง หรือ 20 บ้างสลับกันไปครับ แต่ 408 ก็บ่ย่านเพราะขึ้นเขาสบายครับวิ่งเท่าไหร่เท่ากัน แต่ผมก็ยังสงสัยว่าทำไมช่วง บ้านบุ่ง-พิษณุโลก ยังคงเบาทางอยู่ล่ะครับ น้ำก็ไม่ได้ท่วมเสียหน่อย ผมนั่ง 111 ขับเป็นงูคลานเลยล่ะครับทั้งๆที่ทางก็มีกระโดกกระเดกเป็นบางช่วงเท่านั้น แต่ผมเห็นที 408 วิ่งเต็มพิกัดช่วง อุตรดิตถ์-วังกระพี้-ตรอน สะใจจริงๆครับสำหรับดีเซลราง ไม่รู้ว่าเพราะต้องไปรอหลีกขบวน 9 กับ 111 รึป่าวจึงขับไว แต่เท่าที่เคยนั่งดีเซลรางมาเช่น 410 403 407 408 วิ่งกระฉูดเต็มพิกัดครับครับ
ผมอยากจะให้สายเหนือมีราง 100 ปอนด์ถึงเชียงใหม่เสียที ผมเห็นมีแค่ 60 หรือ 80ปอนด์เท่านั้นเองครับ ความเร็วน่าจะทำได้ดีนะครับ
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 43709
Location: NECTEC
Posted: 29/11/2011 11:36 am Post subject:
^^^
รางเชื่อม 100 ปอนด์ ก็ต้องหมอนคอนกรีต ทางโค้งรัศมี 1000 เมตร ความชันไม่เกิน 10-12 ใน 1000 ถมหิน หนาเป็นฟุตจึงจะทำขบวน ได้เร็วสมประสงค์ นะครับ
Back to top
RORONOA
2nd Class Pass Joined: 06/12/2007 Posts: 705
Posted: 29/11/2011 12:00 pm Post subject:
Quote: และผมขอระบายความในใจหน่อยนะครับ เรื่องห่วงทางสะดวกว่าทำไมเขาไม่ใส่ในที่ใส่มันเลยล่ะครับ มายืนส่งให้ร้อนก็ร้อน แล้วแถมตอนช่างเครื่อง(หรือป่าว)โยนห่วงทางสะดวกน่ะโยนให้ แต่ทีเวลารับกับรับจากมือคนส่ง เหมือนคนที่รับดูไม่มีค่ายังไงไม่รู้ครับ(เพราะโยนให้ต้องเก็บกับพื้น) ถ้าใช้คล้องทั้งส่งทั้งรับน่าจะดีกว่านะ คนรับต้องคอยเก็บห่วงที่เขาโยนมาทุกครั้งไป เฮ้อ สงสารคนรับนะครับ
ขอระบายบ้างครับ จากคนเคยช่วยงานส่วนนี้มาก่อน เวลาเดินไปแขวนห่วง ก็ต้องเดินตากแดดอยู่ดี ไกลกว่าด้วย ไหนๆ ก็ต้องมายืนรับรถแล้ว ส่งมือง่ายกว่าครับ ส่วนการรับเหตุผลคล้ายๆกัน คือไม่ต้องไปเก็บที่เสาร์ ยกเว้นรถวิ่งผ่าน จะไม่รับส่งด้วยมือเพราะเป็นเรื่องอันตราย มีโอกาสผิดพลาดได้ง่าย(แต่ก็เคยเห็นว่ามีการทำมาแล้ว) แต่สถานีแถวบ้านผมนิยมแขวนห่วง และรับด้วยมือ จะสะดวกมากกว่าครับ
Back to top
sannithi
3rd Class Pass Joined: 07/10/2010 Posts: 94
Posted: 29/11/2011 12:54 pm Post subject:
Quote: รางเชื่อม 100 ปอนด์ ก็ต้องหมอนคอนกรีต ทางโค้งรัศมี 1000 เมตร ความชันไม่เกิน 10-12 ใน 1000 ถมหิน หนาเป็นฟุตจึงจะทำขบวน ได้เร็วสมประสงค์ นะครับ
ทางช่วงพิษณุโลก-บ้านบุ่งนี่ถือเป็นราง 100 ปอนด์หรือไม่ครับ เพราะผมลองสังเกตดูแล้วเหมือนระยะห่างจากข้อต่อรางจะไม่ไกลกันมากนะครับ(ห่างกันไม่กี่หลาเอง เหมือนจะเป็นรางเก่าด้วย) เทียบกับตัวอย่างเช่น ช่วง พิษณุโลก-พิจิตร หรือ หัวหมาก-ฉะเชิงเทรา เป็นต้น รางจะดูเรียบ นิ่งและไม่ค่อยมีสียงกระทบรางครับ ยิ่งเมื่อก่อน ผมชอบนั่ง sprinter ฉะเชิงเทรา-หัวหมาก บางทีแทบหลับเลยทุกทีเพราะความนิ่มของรถและรางครับ
ทางช่วง พิษณุโลก-บ้านบุ่ง ปรับปรุงแค่หมอนคอนกรีตแต่รางยังเป็นราง 60 หรือ 80 ปอนด์เหมือนเดิมใช่มั้ยครับ ยังคงกระโดกกระเดกไปมา เช่น ช่วงพิษณุโลก-บ้านตูม หรือ แควน้อย-หนองตม เป็นต้น โดยเฉพาะช่วงโค้งที่ต้องเบาทางมาอยู่แล้วเหมือนรางมันไม่รับโค้งยังไงพิกล ดูไม่สมู้ธเลยครับ
และจากทีพี่ wisarut บอกมาแสดงว่า สายเด่นชัย - เชียงใหม่ คงทำราง 100 ปอนด์ยากใช่มั้ยครับ รัศมีทางโค้งก็คงไม่ถึง 1000 เมตร และคงต้องใช้งบประมาณรื้อ และถมหินเพื่อทำรางใหม่ใหม่เยอะน่าดูใช่มั้ยครับ อ้อมีอีกอย่างครับผมนั่ง 102 มาถึงแถวๆช่วงก่อน สถานีหนองหล่ม เห็นมีหินเหมือนเป็นรอยทางเก่าที่เขาขยับใหม่ให้ได้รัศมีโค้งใช่มั้ยครับ
ปล.ผมสอบถามนิดนึงครับเวลารถขบวนใดไปติดเขาหรือเสียกลางทางช่วง เด่นชัย-เชียงใหม่ เขามีวิธีเอาหัวรถจักรจากไหนมาช่วยพ่วงพหุครับ เช่นที่ผมเคยเห็นมา เมื่อก่อนตอน 102 ยังไม่เป็นรถไฟฟรีเมื่อประมาณปี 2551 ตอนช่วงสงกรานต์ 102มาเสียที่แม่เมาะและรอรถจักรมาจากทางเหนือ แสดงว่ามาจากโรงรถจักรลำปางรึป่าวครับ หรือที่ผมเพิ่งเจอตอนไปเที่ยวครั้งนี้ ที่เห็น ขบวน 1 มีการพ่วงพหุมาโดยมี 102ที่ผมนั่งรอหลีกที่ศาลาผาลาด
(ผมไม่ทราบว่ารถเสียที่ไหนนะครับ) สมมุติถ้าเป็นแถวช่วงบ้านปินที่หัวจักรเสียก็จะเอาหัวจักรที่เด่นชัยใช่มั้ยครับ หรือว่าเขามีวิธีการอย่างอื่นครับ และส่วนมากเป็นที่ไหนที่เขาจะให้หัวจักรมาช่วยพ่วงพหุรถเสียครับ ขอบคุณครับ
Back to top
CENTENNIAL
1st Class Pass (Air) Joined: 30/03/2006 Posts: 3642
Location: Thailand
Posted: 29/11/2011 2:25 pm Post subject:
Wisarut wrote: Posted: 11/07/2011 7:23 am
ร.ฟ.ท.เร่งประมูลปรับปรุงสายทาง5โครงการ มูลค่า6.7พันล้าน ดีเดย์22ก.ค.นี้
ประชาชาติธุรกิจ วันที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2554 เวลา 07:26:41 น.
ร.ฟ.ท.เร่งประมูลงานใหญ่ โครงการปรับปรุงทางรถไฟทุกภาค ทั้งสายเหนืออีสาน-ใต้-ตะวันออก รวม 5 โครงการมูลค่ากว่า 6,733 ล้าน วางโปรแกรมเริ่มยื่นเอกสารประมูล 22 ก.ค.นี้ กำหนดเคาะราคาต่อทันทีวันที่ 5 ส.ค. ตั้งแท่นรอรัฐบาลใหม่เซ็นอนุมัติก่อสร้าง
นายยุทธนา ทัพเจริญ ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผย"ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ขณะนี้ร.ฟ.ท.กำลังเตรียมตัวเพื่อเปิดประมูลโครงการปรับปรุงทางรถไฟที่ไม่ปลอดภัยในการเดินรถ มีจำนวนทั้งสิ้น 5 โครงการ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งภายใต้แผนงานงบประมาณปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน ที่ผ่านการพิจารณาจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) วงเงินลงทุนรวม 1.76 แสนล้านบาท เมื่อ 27 เมษายน 2553 ที่ผ่านมา
แผนดำเนินการภายใต้โครงการนี้ปัจจุบัน ร.ฟ.ท.อยู่ระหว่างทยอยเปิดประมูลและก่อสร้าง เพื่อเร่งการใช้จ่ายงบประมาณให้ทันภายในปีงบประมาณ2554 ตามที่กระทรวงการคลังได้อนุมัติกรอบวงเงินมาให้ วงเงินรวมทั้งสิ้น12,475 ล้านบาท ตามแผนงานโครงการนี้ถูกบรรจุอยู่ภายใต้โครงการเงินกู้เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน (Development Policy Loan :DPL) สาระสำคัญส่วนหนึ่งของการใช้วงเงินก้อนนี้มีโครงการปรับปรุงทางรถไฟที่ไม่ปลอดภัยต่อการเดินรถ 7,205 ล้านบาทรวมอยู่ด้วย
สำหรับรายละเอียดของโครงการทั้ง5 โครงการที่กำลังจะเปิดประมูลจะใช้เงินลงทุนรวมทั้งสิ้นกว่า 6,733 ล้านบาท โดยเปิดให้ผู้รับเหมาที่สนใจมาซื้อเอกสารประกวดราคาได้ตั้งแต่วันที่ 1-12 กรกฎาคมนี้ ขั้นตอนหลังจากได้ตัวผู้รับเหมาเป็นที่เรียบร้อยแล้วจะเสนอให้กระทรวงคมนาคม และคณะรัฐมนตรี (ครม.) เป็นผู้พิจารณาอนุมัติก่อนลงนามสัญญาก่อสร้าง จากนั้นจะใช้เวลาดำเนินการประมาณ 900 วันนับจากวันที่ได้รับมอบสถานที่ หรือวันที่ ร.ฟ.ท.ได้ส่งมอบไซต์งานให้กับผู้รับเหมา ประกอบด้วย
1.งานระหว่างสถานีพิษณุโลก-เชียงใหม่ ระยะทาง 361,632 เมตร วงเงิน 3,318.47 ล้านบาท จะเปิดให้ยื่นซองราคา 25 กรกฎาคม และเคาะราคา 9 สิงหาคมนี้
2.งานระหว่างสถานีชุมทางหนองปลาดุก-หัวหิน147,686 เมตร วงเงิน 1,005.83 ล้านบาท ในวันที่ 22 กรกฎาคมนี้จะให้ยื่นเอกสาร และเปิดเคาะราคาวันที่ 5 สิงหาคม 2554 นี้
3.งานระหว่างสถานีชุมทางฉะเชิงเทรา-แหลมฉบัง ระยะทาง 80,202 เมตร วงเงิน 1,046 ล้านบาท จะให้ยื่นซองประกวดราคา 22 กรกฎาคมและเคาะราคา 5 สิงหาคมนี้
4.ระหว่างสถานีมาบกะเบา-คลองไผ่ ระยะทาง74,503 เมตร วงเงิน 805.95 ล้านบาทเปิดยื่นซองราคา 22 กรกฎาคม เคาะราคาก่อสร้าง 5 สิงหาคมนี้ และ
5.งานระหว่างสถานีคลองไผ่-อุบลราชธานี369,046 เมตร วงเงิน 557.26 ล้านบาทให้ยื่นซองประมูล 25 กรกฎาคม และเคาะราคา 9 สิงหาคมนี้
"โดยเนื้องานหลัก ๆ จะเป็นการเปลี่ยนไม้หมอนปัจจุบันที่เป็นไม้และชำรุด เป็นคอนกรีตอัดแรง พร้อมเปลี่ยนรางเป็นขนาด 100 ปอนด์ เพื่อทำให้รถวิ่งได้เร็วขึ้น นอกจากนี้จะปรับปรุงทางหลีก ระบบอาณัติสัญญาณไฟ เป็นต้นเมื่อปรับปรุงเสร็จแล้วจะทำให้รถไฟตกรางน้อยลง และเพื่อลดอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น" ผู้ว่าการ ร.ฟ.ท.กล่าว
แหล่งข่าวจากวงการรับเหมาก่อสร้างกล่าวว่า โครงการนี้ทาง ร.ฟ.ท.กำลังเร่งดำเนินการให้เสร็จ และต้องการได้ผู้รับเหมาโดยเร็ว เพื่อให้ทันเสนอรัฐมนตรีคนใหม่ของกระทรวงคมนาคม ประเมินจากกำหนดวันขายเอกสารแค่ 10 กว่าวัน หลังจากนั้นไม่กี่วันให้ยื่นเอกสารประมูล และเคาะราคาพร้อมกันในหลายโครงการ กล่าวได้ว่าทั้ง 5 โครงการเป็นงานขนาดใหญ่ของ ร.ฟ.ท.ในขณะนี้
ถ้าโครงการนี้ยังไม่แท้งไปเสียก่อน ก็คิดว่า อีกไม่นาน ทางรถไฟสายเหนือตั้งแต่ พิษณุโลก - เชียงใหม่ ก็น่าจะเปลี่ยนเป็นรางเชื่อม 100 ปอนด์ หมอนคอนกรีตโมโนบล็อค ล้างหิน อัดหินใหม่ เปลี่ยนหมอนบนสะพาน ปรับปรุงทางประธาน ทางหลีกในสถานี
หรืออธิบายง่ายๆ คือ เป็นการเปลี่ยนแปลงระดับครึ่งนึงของการ Rehab เส้นทาง ช่วง แก่งคอย ลำนารายณ์ บัวใหญ่ ถนนจิระ หนองคาย ล่ะครับ
Back to top
sannithi
3rd Class Pass Joined: 07/10/2010 Posts: 94
Posted: 29/11/2011 4:19 pm Post subject:
ครับและเมื่อเราผ่านศิลาอาสน์ อุตรดิตถ์ วังกระพี้ ตรอน ไปแล้ว ก็มาถึงคิว 408 ที่จะต้องรอหลีกอีกแล้วครับ คราวนี้เป็น ขบวน 9 ครับ ที่มาก่อน 111 ก็ยังนึกสงสัยว่า 9 มาก่อน 111 ได้อย่างไร 9 ต้องวิ่งอ้อมนี่นา ต้องช้าอย่างน้อย 4 ชั่วโมง แล้วทำไมวันนี้มาก่อน 111 แต่ความจริงแล้วถ้าเป็นเหตุการณ์ปกติ 9 ต้องมาก่อน 111 อยู่แล้ว 9 มาแซง 111 แถวๆบางมูลนากบ้าง ตะพานหินบ้าง ฯลฯ แล้วแต่กรณีครับ แต่เมื่อพอ 408 ไปถึงพิษณุโลก ผมก็ถึงบางอ้อนิดนึงว่า ร.ฟ.ท. ได้เริ่มเปิดเดินขบวนรถสายเหนือมาบ้างแล้วโดยกลับมาวิ่งสายเหนือเดิมตามลำดับ ผมเองก็หูดีไปได้ยินเด็กวัยรุ่นกำลังเดินทางไปกรุงเทพ แล้วเพื่อนที่มาที่หลังถามว่ามีรถกี่โมง(สงสัยมาไม่ทัน 102) เพื่อนที่อยู่ก่อนก็บอกว่ามีอีกที ทุ่มยี่สิบ (19.20 น.) ผมรู้เลยว่าต้องเป็น 116 แน่นอน แสดงว่ามีเดินแล้วหรือนี่ และพอกลับไปบ้านไปเปิดเว็บรถไฟไทยดูก็รู้ว่า ร.ฟ.ท. เริ่มปล่อยขบวนรถสายเหนืออกจากหัวลำโพงมาแล้ว ก็ดีใจอย่างที่สุดครับ
เม้าท์มามากแล้วเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลากับวิดีโอที่ผมยังพอถ่ายขบวนรถที่หลีกกับ 408 เมื่ออกจากอุตรดิตถ์มาแล้วจนถึงสถานีพิษณุโลกอีก 2 ขบวนครับ คือ ขบวน 408 รอหลีกให้กับ ขบวน 9 ที่สถานีไร่อ้อย (ลองสังเกตดูว่า พขร.ของทั้ง 2 ขบวน เขาทักทายกันด้วยครับ โดยเฉพาะ ขบวน 9 ที่ชี้นิ้วให้ครับ) ไปดูกันเลย
เมื่อ 408 ออกจากสถานีไร่อ้อยไปแล้ว ก็เห็นเสาหางปลางยกสองอันคู่ที่สถานีบ้านโคนซึ่งเชื่อได้เลยว่า 408 ต้องรอหลีกขบวนไหนอีกแน่ และที่สำคัญ พขร.เบาทางก่อนเข้าสถานีด้วยครับ เมื่อ 408 เข้าในรางหลีกแล้ว มาทายซิว่าจะออกเลขอะไรครับ ถูกต้องครับ ผมรู้ว่าทุกท่านรู้ 111 ครับ ตามหลัง 9 มา ตามหลักแล้วที่ผมเคยพบมา 408 จะมารอหลีกกับ 111 แถว ไร่อ้อย ชุมทางบ้านดารา เสียเป็นส่วนใหญ่ครับ เพราะเสียเวลามาทั้งคู่ วันนี้เลยมาหลีกกันที่บ้านโคน ครั้งนั้นผมนั่ง 111 เป็นผู้วิ่งผ่าน แต่วันนี้ผมนั่ง 408 เป็นผู้รอหลีกบ้าง เชิญชมครับ
Back to top