View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
mirage_II
1st Class Pass (Air)
Joined: 05/01/2011 Posts: 2591
|
Posted: 11/11/2013 12:51 pm Post subject: ไปสัมผัสความสูงสุดเสียวของสะพานข้ามเหวขุนตานกัน |
|
|
สวัสดีครับพี่ๆ น้องๆ ชาวคนรักรถไฟ กลับมาแล้วโดยสวัสดิภาพกับทริปสุดเสียวเท่าที่เคยมีมาของผม กับตะลอนทัวร์เกี่ยวกับทางรถไฟในสถานที่ต่างๆ "สะพานข้ามเหวขุนตาน" เป็นจุดที่ทำให้รู้สึกหายใจไม่ทั่วท้อง นอนไม่หลับ เื่มื่อนึกถึงว่าสักวันหนึ่งผมต้องไปเดินข้ามให้ได้ และออกจะเป็นเรื่องเพ้อฝันไปด้วยซ้ำ เมื่อนึกถึงอุปสรรคต่างๆ ที่ต้องผ่านไปให้ได้ เป็นต้นว่าความสูงของสะพาน (หรือจะพูดอีกแบบหนึ่งว่า ความลึกของเหว ก็ได้) ชนิดที่ไม่มีรั้ว เสา ทางเดินด้านข้างให้เป็นที่ยึดถือ ยิ่งเื่มื่อเกิดมีรถไฟกำลังจะผ่านมาขณะที่เดินผ่านอยู่กลางสะพาน ? หรือกับระยะทางเดินอันยาวไกลจากปากอุโมงค์ขุนตานด้านใต้อีก คณะที่ผมมาด้วยกันจะไปรอตรงไหน ? เดินไปแล้วเดินกลับก็ปาเข้าไป 10 กว่ากิโล นึกไม่ออกว่าขาจะเป็นอย่างไร และที่สำคัญ ใคร ? จะเดินไปกับผม นึกแล้วก็คิดไม่ตกจริงๆ
จนวันหนึ่ง ฟ้าก็เปิดทางให้ คือมีการหยุดเดินรถไฟสายเหนือในช่วงกลางเดือน กันยายน 56 ถึงสิ้นเดือนตุลาคม 56 ก็ทำให้นึกขึ้นได้ว่า โอกาสมาแล้ว... เพราะสิ่งที่กลัวที่สุดในเส้นทางนี้ก็คือ รถไฟ ! นั่นเอง แต่ถึงอย่างไรก็ไม่ใช่ว่าจะปลอดโปร่งโล่งไร้รถไฟจริงๆ เพราะในระหว่างนี้ก็ยังมีขบวนรถขนวัสดุปรับปรุงรางผ่านบ้าง โดยไม่มีกำหนดเวลา แต่เอาละวะ... อย่างน้อยก็คงมีวิ่งไม่บ่อย และถ้าหากได้สอบถาม จนท.แถวๆ อุโมงค์ขุนตาน ก็น่าจะพอทราบว่าในช่วงเวลานั้นจะมีรถขนวัสดุผ่านหรือไม่ ยิ่งไปช่วงปลายๆ เดือนตุลาคม วัสดุุอุปกรณ์ต่างๆ ก็น่าจะถูกขนไปวางตามจุดต่างๆ เสร็จแล้ว เพราะใกล้จะเปิดเดินรถตามปกติแล้ว (แม้ภายหลังจะถูกขยายเวลาให้อีก 1 เดือนเลื่อนมาเปิดเดินรถเป็น 1 ธันวาคม 2556 ก็ตาม)
ในครั้งนี้ถือว่าเป็นทริปเฉพาะกิจเร่งด่วนอีกครั้ง หลังจากที่ไป ภูทอก ในวันเข้าพรรษามาแล้ว (เพราะถ้าไปช่วงสงกรานต์ ภูทอกจะปิด และช่วงปีใหม่วันหยุดผมน้อยติดงานทุกปี) ปีนี้เลยเงินอาจต้องชอร์ตไปกับทริปใหญ่ๆ ถึง 4 ทริปเลย
แต่เอาละ.. จังหวะชีวิตบางครั้งก็ไม่ราบรื่นอย่างทีคิด ถึงเวลาที่ไปได้ก็ต้องรีบ เกิดในอนาคตเป็นอะไรไปก็คงอด เพราะสุขภาพอาจไม่อำนวยให้ตลอดไป แม้ในครั้งนี้ผมเองก็รู้สึกป่วยๆ เป็นหวัด (ยังไม่หายขาดจนถึงวันที่ตั้งกระทู้นี้เลย) มึนๆ ทำให้รู้สึกกลัวๆ ว่าจะพลาดเกิดอุบัติเหตุได้ แต่เนื่องจากอากาศที่นั่นดีมาก อาจทำให้ผมหายป่วยก็เป็นได้ แต่ถ้าหากจะรอให้หายป่วยก็คงหมดโอกาสนี้ไป (หมายกำหนดการเดิม ที่ผมจะไปเดินข้ามก็คือ สงกรานต์ปีหน้า แต่ต้องคิดหาวิธีตรวจสอบรถไฟทีี่จะผ่านด้วย)
อนึ่ง การเดินผ่านสะพานข้ามเหวขุนตานนี้ ผมเองคิดว่าเป็นบททดสอบดีกรีความบ้ารถไฟของสมาชิกเหมือนกัน ว่าคุณจะบ้าพอหรือไม่ (เลียนแบบรายการอัจฉริยะข้ามคืน ที่มักพูดว่า คุณยังอัจฉริยะไม่พอ..) ที่จะรักรถไฟ คล้ายๆกับการสอบเอนทรานซ์เลยก็ได้ ผมเชื่อว่า..หัวใจทุกดวงจะเต้นระัรัวเื่มื่อนึกถึง วันที่ตัวเองจะต้องมาเดินข้าม ยิ่งเป็นการมาเดินด้วยตัวเอง โดยปราศจากสมาชิกรุ่นพี่ที่เคยเดินข้ามมาแล้ว
ในวันนี้ผมได้ผ่านมาแล้ว จึงอยากจะถ่ายทอดความรู้สึกให้สมาชิกท่านอื่นได้ทราบ และไม่แนะนำให้ทำเลียนแบบเพราะเนื่องจาก ระยะเวลาในการหยุดเดินรถไฟสายเหนือครั้งนี้ก็กำลังจะหมดไปแล้ว หากเกิดอุบัติเหตุขึ้น ก็จะทำให้เดือดร้อนกันไปหลายฝ่าย เพราะสถานที่แห่งนี้ไม่ใช่ สวนสนุก หากพลาด เจ็บจริง ตายจริง ครับ |
|
Back to top |
|
|
mirage_II
1st Class Pass (Air)
Joined: 05/01/2011 Posts: 2591
|
Posted: 11/11/2013 2:27 pm Post subject: |
|
|
ก่อนอื่นขอกางแผนที่ ตามสไตล์นายมิราชช ก่อนนะครับ เพื่อที่เราจะได้ทราบถึงสถานที่ปฏิบัติการของผมทั้งหมด (งานนี้มีแผนที่เยอะ อย่าเพิ่งเบื่อ)
แผนที่แรกก็คือ แผนที่รวมทั้งแต่เริ่มออกเดินทางจากบ้านพักแถวบางบอน ในช่วงหัวค่ำ แล้วมาพักในเมืองกำแพงเพชร แต่แอบขับเลยตรงช่วงต่างระดับบางปะอินไปทางสระบุรี (แสดงด้วยเส้นสีม่วง) แต่ก็โยกกลับมาสายเอเชีย โดยถนนวังน้อย-อยุธยาเส้นเก่าที่เคยใช้กันก่อนที่จะมีการตัดถนนสายเอเชีย (สมัยก่อน การไปมาอยุธยา จากบ้านเกิดผม จ.เพชรบูรณ์ ทำได้ 2 ทางคือ ทางรถไฟ กับ ทางรถยนต์ ที่ต้องผ่าน จ.สระบุรี แล้วลงรถที่ วังน้อยต่อไป อยุธยาอีกที) จากนั้นวันรุ่งขึ้นก็เดินทางต่อไป ลำปาง เป้าหมายแรกคือ หลักกิโลเมตรยักษ์ ที่ผมพลาดทุกครั้งที่ไปเชียงใหม่ มันอยู่ใหนกันแน่ ผมมีกำหนดพัก 2 คืนในเมืองลำปาง เช้าวันแรกก็ตรงไปสถานีรถไฟขุนตาน เพื่อเริ่มเดินลอดอุโมงค์ขุนตาน ย้อนลงมายังสะพานข้ามเหว 3 แห่ง กว่าจะเสร็จภาระกิจเย็นมากก็กลับลำปาง วันรุ่งขึ้นอีกวันก็เปลี่ยนสไตล์ทัวร์มาเป็นแบบแสวงบุญ ไปเที่ยววัดพระแก้วดอนเต้าฯ เพื่อตามรอยอดีต ที่คุณแม่ผมเคยไปมาเมื่อ 20 ปีที่แล้วโน้น และก็กลับกรุงเทพฯ ทาง เด่นชัย - พิษณุโลก อันเป็นเส้นทางที่ยังเปี่ยมไปด้วยธรรมชาติอันสวยงามสดชื่น กว่าเส้นทาง อ.เถิน มาก
อนึ่ง การเดินทางกลับด้วยเส้นทางนี้ทำให้ได้ทราบว่าช่วงไหนที่ยังเป็นถนน 2 เลน รถวิ่งสวนทางกันด้วย ซึ่งผมได้แสดงให้เห็นด้วยเส้นประในแผนที่ข้างบน มีอยู่ 2 ช่วง ช่วงแรกระหว่าง จ.ลำปางกับแยกเด่นชัย ในระยะทางประมาณ 70 กิโลเมตร เป็นเส้นทางดั้งเดิมที่เต็มเปี่ยมไปด้วยธรรมชาติคล้ายถนนผ่านอุทยานแห่งชาติ กับช่วงสอง ระหว่าง อ.สากเหล็ก จ.พิจิตร ถึง แยกอินทร์บุรี เป็นถนนชำรุดวิ่งลำบากมาก เพราะไม่สามารถหลบไปวิ่งเลนสวนได้ |
|
Back to top |
|
|
mirage_II
1st Class Pass (Air)
Joined: 05/01/2011 Posts: 2591
|
Posted: 11/11/2013 2:39 pm Post subject: |
|
|
มาเริ่มเดินทางด้วยภาพ(นิ่ง)กันเลยนะครับ
ผมออกเดินทางล่าช้าไปจากที่กำหนดเกือบ 2 ชั่วโมง เพราะเ้ช้าวันนั้นผมตื่นมาด้วยความรู้สึกไม่ค่อยสบายคัดจมูกมึนงงศรีษะ เลยตื่นสายมากๆ เกือบเที่ยงวันโดยยังไม่ได้เตรียมสัมภาระอะไรเลย กว่าจะพร้อมออกจากที่พักก็ประมาณ 5 โมงเย็น (เพราะผมออกเดินทางในวันพฤหัส ที่แฟนผมยังทำงานอยู่ ต้องไปรับเธอถึงที่ทำงาน) แล้ววนไปรับชาวคณะร่วมเดินทางอีกแห่ง กว่าจะออกได้เกือบ 2 ทุ่ม!
อาหารมื้อค่ำที่เตรียมมา ตอนแรกกะจะไปทานเอาแถวๆ บางปะอิน คือให้ผ่านออกนอกเมืองก่อน แต่ท้องไส้ไม่รอเลยขอแวะทานกันตั้งแต่ต้นทาง ตรงปั๊มแถวๆ บางบอนนั่นแหละ
บรรยากาศอลหม่านภายในรถ ขณะจอดทานข้าวตอนค่ำ เพราะกลัวยุงจะกัดถ้าออกมานั่งนอกรถกัน
ข้างนอกรถเลยมี "ตูบเจ้าถิ่น" มานั่งรอรับบริจาคกระดูกไก่แทน หน้าตาดูละห้อย ใครล่ะจะอดใจไม่ให้ได้ |
|
Back to top |
|
|
mirage_II
1st Class Pass (Air)
Joined: 05/01/2011 Posts: 2591
|
Posted: 11/11/2013 2:53 pm Post subject: |
|
|
ออกเดินทางมาได้ชั่วโมงกว่าๆ ก็พ้นเขตปริมณฑลกรุงเทพฯ แล้ว แ้ม้จะมีการ "ขับเลย" ไปทางสะบุรีตรงทางแยกต่างระดับบางปะอินที่ ทางแยกไปสายเอเชีย (จ.อยุธยา) อยู่ซ้ายมือมากๆ ถ้าไม่ชิดซ้ายมาก่อนเข้าแยกต่างระดับก็จะเลี้ยวไม่ทัน (ผมดันเจอรถบรรทุกวิ่งอยู่่ช่องซ้ายพอดีด้วย เลยต้องเสียเวลาไปหน่อยนึง แต่ก็ได้ทบทวนเส้นทางเก่าที่เคยใช้สมัยเด็กๆ สายวังน้อย-อยุธยา ที่ปัจจุบันมีการปรับปรุงถนนให้เป็น 4 ช่องทางเรียบๆ แต่ผมก็ไม่ได้ถ่ายภาพมา พอวกกลับเข้ามายังถนนสายเอเชียก็มองหาปั๊ม เข้าไปผ่อนคลายกัน แถวๆ แยกบางปะหันได้เจอห้องน้ำหรู เอ๊ย..ไม่ใช่ ทางเดินเข้าห้องน้ำอย่างหรู ดังแสดงในภาพข้างล่าง
และแสงสีในยามค่ำคืนบนสะพานนี้ชวนให้ดูโรแมนติคจัง ทั้งๆ ที่ตรงนี้เป็นหน้าห้องสุขานะครับ
ระหว่างนั้นได้สังเกตุเห็นร้านอาหารตรงหน้ารถผมที่จอดอยู่ ดูหรูดี ทั้งๆ ที่เป็นร้านข้าวแกงธรรมดา
ร้านนี้มีชื่อเสียงนะครับ ขนาดค้นหาในเน็ตยังเจอเลย แต่ระหว่างนั้นผมก็ได้ภาพเชิงศิลป์มาอย่างไม่รู้ตัว
คือดูแล้วเหมือนหุ่นขี้ผึ้งในพิพิธภัณฑ์ เพราะน้องในรูปเธอนั่่งได้นิ่งจริงๆ แถมแสงสีก็ดูเป็นใจด้วย (ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ ที่ไม่ได้พรางหน้าตา เพราะจะเสียอรรถรสไป) |
|
Back to top |
|
|
mirage_II
1st Class Pass (Air)
Joined: 05/01/2011 Posts: 2591
|
Posted: 11/11/2013 3:35 pm Post subject: |
|
|
แวะปั๊มแถวๆ จ.นครสวรรค์ ตอนตีหนึ่งเพื่อเติมน้ำมันเหลือบเห็นคนนอนหลับ ที่น่าสนใจคือ ใช้กล่องกระดาษเป็นที่นอนและปิดหน้า เด็กๆ ในรถนึกว่าตายแล้ว
ในที่สุดก็ถึงที่พักคืนแรก ณ.โรงแรมเก่าที่เคยไปพักมาหลายครั้ง (ราชดำเนิน) ไม่ได้ถ่ายภาพอะไรมาก แต่ก็คันมือยกมาถ่ายตัวเองในกระจก เผื่อเห็นปรากฏการณ์ "เดอะชัตเตอร์" บ้าง ซึ่งก็ได้เห็นสิ่งที่ไม่น่ามองจนต้องทำเซนเซอร์ไว้
เช้าแล้ว....อย่ามัวหลับไหลอยู่เลย เ้จ้าลูกผมยังเพลิดเพลินกับการนอน เพราะเมื่อคืนเรามาถึงโรงแรม ก็เลยตีสี่ไปแล้ว
Last edited by mirage_II on 11/11/2013 4:07 pm; edited 1 time in total |
|
Back to top |
|
|
mirage_II
1st Class Pass (Air)
Joined: 05/01/2011 Posts: 2591
|
Posted: 11/11/2013 3:43 pm Post subject: |
|
|
เิดินมาดูอีกห้อง เป็นห้องผู้ใหญ่และเด็กๆ เจ้าตัวเล็ก "แชมเปญ" ได้ตื่นมาอย่างร่าเริง ยกมือไหว้ผมเหมือนขอบคุณที่พามา เพราะชอบเที่ยวเป็นชีวิตจิตใจ วันไหนผมเอารถไปบ้านเขา จะต้องร้องขึ้นเพื่อให้พาเที่ยวไปทุกครั้ง
น่าเสียดายที่ สภาพโรงแรมนี้ ที่ถือว่าทรุดโทรมมาก ต่อไปผมคงไม่มาพักอีกแล้ว (แต่ราคาถูกม๊ากมาก คือ สองร้อยกว่าบาท)จึงขอเก็บภาพความทรงจำที่ประทับใจของโรงแรมนี้ไว้ เป็นต้นว่าทางเดินชั้นบนที่ปูด้วยไม้กระดาน(เดินแล้วมีเสียงเอี๊ยดอ๊าด) ชอบใจขอบบนรูปโค้ง คล้ายเพดานโบกี้รถไฟ
อีกจุดหนึ่งคือบันไดขึ้นลง ที่ทำด้วยไม้ ชอบใจตรงเหล็กดัดราวบันไดดูคลาสสิคมาก แถมมีสิงห์โตไม้แกะสลักอยู่ด้วย คนที่ชอบรถไฟไทย ก็คือคนที่ชอบของเก่า อาจชอบโรงแรมนี้ด้วย คงสร้างมานานแล้วเช่นกัน |
|
Back to top |
|
|
mirage_II
1st Class Pass (Air)
Joined: 05/01/2011 Posts: 2591
|
Posted: 11/11/2013 3:55 pm Post subject: |
|
|
กองทัพต้องเดินด้วยท้อง ภาระกิจแรกที่ต้องทำคือหาอาหารมื้อเช้าก่อน เป็นร้านอยู่ใกล้โรงแรม (เกือบลืม เพราะไม่ได้มาสองปีแล้ว)
มาร้านนี้ดีอย่าง นอกจากจะได้อิ่มท้องในราคาย่อมเยาแล้ว ยังได้ชมบรรยากาศเก่าๆ คลาสสิคของบ้านด้วย จึงขอนำภาพด้านหน้าร้านมาให้ดูกัน โดยไม่คิดค่าสปอนเซอร์
นี่แหละครับบรรยากาศในร้าน ที่จะได้ชมระหว่างการทานอาหาร ดูแล้วเหมือนย้ือนยุคไป 40 กว่าปีที่แล้วเลย และนี่อาจเป็นอีกสาเหตุที่เขาไม่ปรับปรุงบ้านให้เป็นตึก หรือปูผนังทาสีเรียบๆ ถูกใจคนรักรถไฟอย่างผมเลย งานนี้ได้เสพทั้งโรงแรมและร้านอาหารสไตล์ดั้งเดิม
ร้านนี้มีเสน่ห์อีกจุดคือ หน้าต่างครับ คือด้านข้างมีช่องหน้าต่าง นั่งทานไปก็ชมวิวไป แม้ปัจจุบันจะเป็นลานโล่งๆ ไว้จอดรถก็ตาม ทานไปก็นั่งจินตนาการไปว่าอยู่ริมน้ำก็แล้วกัน ดูจากภาพจะเห็นว่ามีความสุขแค่ไหน |
|
Back to top |
|
|
mirage_II
1st Class Pass (Air)
Joined: 05/01/2011 Posts: 2591
|
Posted: 11/11/2013 4:06 pm Post subject: |
|
|
ทานอิ่มแล้วก็พร้อมออกเดินทาง แอบถ่ายภาพสมาชิกในรถก่อน เลยได้เห็นกล้องพระเอกตัวเก่งของเรา ถ้าขาดเขาแล้วทริปก็มีอันต้องพับไปในทันที
เราออกมาจากเมืองกำแพงเพชรในสภาพฟ้าฉ่ำฝน ชวนให้รู้สึกกังวลสภาพสะพานรถไฟข้ามเหวจะชื้นแฉะลื่น จนอาจเิกิดอุบัติเหตุไ้ด้... แต่อีกใจหนึ่งคิดว่า ไม่แน่ ที่ลำปางออาจไม่มีฝนตกก็ได้
และก็เป็นจริงอย่างที่คาดไว้ เลยแยกเข้าเมืองตากมาหน่อย ฝนเริ่มหาย สลับมีเป็นช่วงๆ ไม่ได้ตกหนักตลอด ในภาพเจอคณะปั่นจักรยานอยู่้ข้างหน้า คงเป็นทีมนักกีฬาเพราะเห็นมีรถบริการวิ่งตามอยู่ห่างๆ
จะว่าไปแล้ว ประโยชน์การมาเที่ยวนอกฤดูกาล และยิ่งเป็นวันทำงานด้วย ก็คือความสะดวกสบายท้องถนนปลอดโปร่ง โล่งไร้ขบวนรถมาวิ่งแย่งกันเี่ที่ยวแย่งกันเข้าปั๊มครับ "สุขใดจะเทียมเท่า" |
|
Back to top |
|
|
mirage_II
1st Class Pass (Air)
Joined: 05/01/2011 Posts: 2591
|
Posted: 11/11/2013 5:01 pm Post subject: |
|
|
ตอนนี้้้้เข้าเขตจังหวัดลำปางมาแล้ว กำัลังอยู่บนเขาก่อนถึง อ.สบปราบ วิวสวยดี ถนนเป็นรูปตัวเอส เป็นเส้นทางบนเขาที่กว้างมาก
เลยสบปราบมา ถนนข้างทางก็ประดับไปด้วยดอกไม้สีเหลืองสวย ผมไม่กล้าฟันธงว่าเป็นต้นอะไรครับ
ใกล้ถึงเมืองลำปางแล้ว ตรงแยกเข้า อ.เกาะคา อันมีวัดสำคัญของจังหวัดลำปาง คือ "วัดพระธาุตุลำปางหลวง" ที่ชื่อเหมือนอยู่ในเขตเทศบาลเมืองลำปาง แต่กลับอยู่นอกเมือง ต้องเลี้ยวซ้าย ก่อนถึงเมืองลำปาง 15 กิโลเมตรสังเกตุจะมีด่านชั่งรถบรรทุกอยู่ก่อนถึงแยกเข้าเกาะคา (ผมเกือบเลี้ยวเข้าไปแล้ว..) ตรงเกาะกลางของทางแยกซ้ายนี้จะมีอนุสาวรีย์รถม้าตั้งอยู่ เหมือนเตือนให้ทราบว่าใกล้ถึงเมืองลำปางแล้ว นะจ๊ะ |
|
Back to top |
|
|
mirage_II
1st Class Pass (Air)
Joined: 05/01/2011 Posts: 2591
|
Posted: 11/11/2013 6:25 pm Post subject: |
|
|
กำลังจะเข้าเมืองลำปาง ตรงนี้ต้องสังเกตุให้ดีจากแผนภาพฝั่งซ้ายมือ วา่ถ้าหากต้องการไปที่หลักกิโลยักษ์ต้องเลือกตรงไปก่อน อันเป็นเส้นทางไปเีีชียงราย-พะเยา-แพร่ ไม่ใช่เลี้ยวซ้ายไป เมืองลำปาง หรือเชียงใหม่ (ตามที่แสดงในรูปเล็ก) ถึงว่าซี.. ผมไปเีีชียงใหม่ตั้งหลายครั้งไม่เคยเห็นหลักกิโลนี้เลย
ผ่านสามแยก "ย่าเป้า"เมื่อครู่นี้ประมาณกิโลเมตรกว่าๆ ก็ถึงสี่แยก เลี้ยวซ้ายไปเชียงใหม่หรือลำปาง ตรงไป เชียงราย-พะเยา-แพร่ ดูจะซ้ำ้ซ้อนกับสามแยกก่อนหน้า เข้าใจว่าแต่เดิมคงมีแค่ถนนแต่เส้นนี้ แต่ต่อมามีการตัดถนนลัดแยกนี้ไปทางซ้ายเพื่อลดความคับคั่งของการจราจร ที่รถส่่วนใหญ่ยามเทศกาลมักวิ่งผ่านไปเชียงใหม่กัน คนที่ไม่ได้ไปเชียงราย-พะเยา จึงไม่ได้เห็นหลักกิโลนี้อีก จากภาพจะเห็นหลักกิโลยักษ์ที่สูงเทียมตึก 4 ชั้น (ความสูงจริง 14 เมตร กว้าง 7 เมตรเท่ากันทั้ง 4 ด้าน)
เดินไปดูใกล้ๆ เจอป้ายบอกทางไป 2 ทิศ แต่...ตรงจังหวัดแพร่ กลับไม่มีลูกศร เลยต้องใช้เทคนิคโฟโต้ช๊อปปรับแสงนิดหน่อยจึงพอเห็นลูกศรลางๆ โผล่ขึ้นมา คือเลี้ยวขวาครับ อันเป็นทางอ้อมเมืองลำปางด้านใต้ ที่ไปบรรจบกับถนนที่ล่องกลับไปทางทิศใต้ผ่าน อ.เด่นชัย (ซึ่งผมใช้เป็นเส้นทางขากลับนั่นเอง) |
|
Back to top |
|
|
|