View previous topic :: View next topic
Author
Message
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 44973
Location: NECTEC
Posted: 30/09/2016 12:53 am Post subject: ข่าวรถไฟแคนาดา
ทริปเสด็จเยือนแคนาดาวุ่น!! ผู้คนแตกตื่นหลัง เจ้าชายวิลเลียมและเจ้าหญิงแคทเธอรีน ทรงท้าไต่ขอบรางรถไฟจักกลไอน้ำที่ไม่มีราวกั้นเหนือสะพานคาร์ครอซ
โดย MGR Online
29 กันยายน 2559 19:56 น.
เอเจนซีส์ - ดยุคและดัชเชสแห่งเคมบริดจ์แห่งราชวงศ์อังกฤษ ทรงปฎิบัติพระราชกิจในระหว่างการเยือนแคนาดาล่าสุดในจ.ยูคอน(Yukon) ทางตอนเหนือของประเทศ โดยทั้งสองพระองค์ได้ทรงทำให้เจ้าหน้าที่ต่างตื่นตระหนกเมื่อทั้งเจ้าชายวิลเลียมและเจ้าหญิงแคทเธอรีนที่อยู่ในฉลองพระองค์ทะมัดทะแมงและทรงรองพระบาทบูทสูง ตัดสินพระทัยเสด็จไต่ขอบรางรถไฟบนสะพานไม้ที่ไม่มีราวกั้นของรถไฟจักกลไอน้ำ ที่ครั้งหนึ่งสมเด็จพระราชินีควีนเอลิซาเบธที่ 2 แห่งอังกฤษ และเจ้าชายฟิลิป ดยุกแห่งเอดินบะระ พระสวามีได้เคยประทับเมื่อเกือบ 60 ปีก่อนหน้านี้ข้ามไปยังอีกฝั่ง ที่หากพลาดแม้แต่ก้าวเดียวอาจต้องตกลงไปในน้ำที่เย็นจัด
เดลิเมล สื่ออังกฤษรายงานวันนี้(29 ก.ย)ว่า ในระหว่างพระราชกิจเป็นเวลา 2 วันทางตอนเหนือของแคนาดา ดยุคและดัชเชสแห่งเคมบริดจ์แห่งราชวงศ์อังกฤษ ได้ทรงกระทำในสิ่งที่บรรดาเจ้าหน้าที่ผู้ติดตามต่างคาดไม่ถึง เมื่อเจ้าหญิงแคทเธอรีนที่อยู่ในฉลองพระองค์ชุดทะมัดทะแมงและสวมรองพระบาทบูทสูง เสด็จนำหน้าพระสวามี เจ้าชายวิลเลียมที่ทรงอยู่ในชุดฉลองพระองค์ทะมัดทะแมงเช่นเดียวกัน ไต่ขอบรางรถไฟไอน้ำเก่าโบราณที่ครั้งหนึ่งสมเด็จพระราชินีควีนเอลิซาเบธที่ 2 แห่งอังกฤษ และเจ้ายฟิลิป ดยุกแห่งเอดินบะระ พระสวามีได้เคยประทับในปี 1959 ยามที่ทั้งสองพระองค์เสด็จเยือนทางตอนเหนือของแคนาดา
สื่ออังกฤษรายงานว่า เจ้าหญิงเคททรงใช้ความกล้า ก้าวพระบาทซ้ายนำไปก่อนที่จะทรงชะงักไปเล็กน้อย และหลังจากที่พระองค์สามารถสร้างความสมดุลย์ในการย่างพระบาทบนขอบรางที่มีความกว้างเพียงแค่ช่วงความยาวรองเท้าสำเร็จ โดยที่ไม่มีแม้แต่ราวกั้นบนสะพานรถไฟไม้แบบโบราณเหนือผืนน้ำที่เย็นเฉียบ เจ้าหญิงแห่งราชวงศ์อังกฤษทรงสามารถเสด็จพระดำเนินผ่านไปอย่างไม่ยากเย็นในขณะที่ใช้พระหัตถ์แตะด้านข้างของรถไฟจักรกลไอน้ำที่มีหมายเลข 73 ติดอยู่ด้านหน้า โดยมีพระสวามี เจ้าชายวิลเลียม ทรงเสด็จพระดำเนินติดตามมาอยู่ด้านหลัง
เดลิเมลรายงานว่า สะพานไม้ข้ามทางรถไฟแห่งนี้ตั้งอยู่ในเดอะ ไวท์ พาส( the White Pass )และทางรถไฟเส้นทางยูคอน รูท( Yukon Route) ในคาร์ครอซ( Carcross)
ซึ่งถือเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลันในระหว่างทางที่ทั้งสองพระองค์เสด็จพระดำเนินผ่านไปยังบริเวณเทือกเขาที่สวยงามในจ.ยอคอน (Yukon) ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ
โดยในระหว่างการเสด็จนั้น เจ้าชายวิลเลียมทรงสังเกตเห็นขบวนรถไฟจักรไอน้ำที่มีควันขาวพวยพุ่งออกมาเหนือท้องฟ้าไม่ขาดระยะ และทรงได้รับทราบว่าสมเด็จพระราชินีควีนเอลิซาเบธที่ 2 แห่งอังกฤษ และเจ้าชายฟิลิป พระสวามีได้ทรงเคยประทับมาแล้วเมื่อเกือบ 60 ปีก่อนหน้านี้ และทำให้เจ้าชายวิลเลียมทรงตัดสินพระทัยชวนเจ้าหญิงเคทเสด็จทอดพระเนตรรถไฟขบวนสายประวัติศาสตร์นี้อย่างใกล้ชิด ณ บริแวณสะพานไม้ทอดเหนือทะเลสาบเลคเบนเน็ตต์(Lake Bennett)
ทั้งนี้ผู้นำทางของสองพระองค์ หัวหน้าชนเผ่าพื้นเมืองแคนาดาเผ่าคาร์ครอซ ทากิช เฟิร์ส เนชัน( Carcross Tagish First Nation )แอนดี คาร์วิล(Andy Carvill)วัย 52 ปี ได้กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ดยุคแห่งเคมบริดจ์ได้ทรงตรัสซักถามว่า พระองค์จะสามารถเสด็จเข้าไปชมด้านในของตัวรถไฟขบวนนี้ได้หรือไม่ และดังนั้นทั้งสองพระองค์จึงได้ทรงเสด็จเข้าไปด้านในของตัวรถไฟจักกลไอน้ำ และยังทรงทดลองให้หวูดรถไฟทำงานส่งเสียงดังอีกด้วย ซึ่งเมื่อผมได้เล่าถวายถึงเหตุการณ์เมื่อครั้ง สมเด็จพระราชินีควีนเอลิซาเบธที่ 2 แห่งอังกฤษ และเจ้าชายฟิลิป ดยุกแห่งเอดินบะระ พระสวามีได้ทรงเคยเสด็จประทับรถไฟขบวนนี้มาแล้ว และทำให้ทั้งสองพระองค์พอพระทัยเป็นอันมาก
โดยในการเสด็จเยือนทางตอนเหนือของแคนาดา เจ้าชายวิลเลียมและเจ้าหญิงเคททรงเสด็จไปเยือนเมืองเล็กๆของผู้ตั้งถิ่นฐานแคนาดา คาร์ครอซ คอมมอนส์(Carcross Commons) ซึ่งตั้งอยู่บนถนนคลอนไดค์ ไฮเวย์ ที่มีชื่อเสียง สื่ออังกฤษชี้ว่า เมืองแห่งนี้กลายเป็นตำนานยุคการตื่นทองแคนาดาในช่วงปลายศตวรรษปี 1800s
ซึ่งในปัจจุบันนี้เมืองแห่งนี้มีประชาชนอาศัยอยู่น้อยกว่า 300 คน
และในการเสด็จเยือนดินแดนของชนเผ่าคาร์ครอซ ทากิช เฟิร์ส เนชัน ทั้งสองพระองค์ทรงได้เข้าร่วมพิธีต้อนรับจากคณะชนเผ่าอย่างสมพระเกียรติ ซึ่งรวมไปถึงกลุ่มนักเต้นเด็กๆที่มีอายุระหว่าง 4-7 ปี ในชุดสีฉูดฉาดตระการตาของชนเผ่าพื้นเมือง และยังทรงทอดพระเนตรการแข่งขันจักรยานเมาเทนต์ไบค์ของบรรดาเด็กๆชนเผ่าอีกด้วย
และในการกล่าวแถลงถวายรายงานของคาร์วิล หัวหน้าชนเผ่า คาร์ครอซ ทากิช เฟิร์ส เนชัน ได้ระบุว่า ข้าพเจ้าทราบดีว่าทั้งสองพระองค์จะต้องทรงหลงรักทัศนียภาพของเทือกเขามอนตานา และพบปะกับบรรดาเด็กๆของเผ่าเรา และกล่าวต่อว่าไป ทางเรารู้สึกเป็นเกียรติที่ทั้งสองพระองค์จะพบกับกลุ่มผู้อาวุโสของเรา ซึ่งเผ่าเราต่อสู้ในฐานะเป็นชาติ แต่อย่างไรก็ตามทางชนเผ่าของเราแสดงออกมาทางด้านวัฒนธรรม เพลง และการเต้นรำ
นอกจากนี้ในแถลงการณ์ถวายรายงานของหัวหน้าเผ่าคาร์ครอซ ทากิช เฟิร์ส เนชันยังกล่าวต่ออีกว่า ทางเผ่าของเราต้องร้องขอไปยังทั้งสองพระองค์ให้ทรงช่วยให้คำแนะนำแก่พวกเรา ในการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างชนเผ่าและรางวงศ์อังกฤษ เพราะทางเราต้องการให้เป็นที่ยอมรับเพื่อการปกป้องดินแดนและคนของพวกเรา ทางเราต้องการปกป้องดินแดนแห่งนี้และความสวยงามของที่นี่ ซึ่งในแถลงการณ์ยังระบุอีกว่า ทางเรามีความมั่นใจว่า พวกเราจะสามารถทำได้เพื่อลูกหลานของเราเองที่ได้ทั้งร้องและเต้นอยู่ ณ ตรงที่นี้ พวกเราต้องการยอมรับในฐานะรัฐบาล
และหลังจากนั้นคาร์วิลได้นำทั้งเจ้าชายวิลเลียมและเจ้าหญิงแคทเธอรีนไปทอดพระเนตรเสาโทเทม (totem pole) เพชฆาตวาฬที่มีความสูง 22 นิ้ว ผลงานการสร้างโดยคีธ โวล์ฟ-สมาร์ช( Keith Wolfe-Smarch) ที่มีชื่อเสียง
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 44973
Location: NECTEC
Posted: 18/07/2020 1:12 pm Post subject:
บริษัทThe Alaska Alberta Railway Corporation จำกัด สำรวจทางรถไฟสายอัลเบอต้าไปเชื่อมทางรถไฟอลาสก้า ของสหรัฐ ระยะทาง 1600 ไมล์ มูลค่า 13000 ล้านเหรียญแคนาดา เพื่อขนน้ำมันจากอลาสก้า ข้าวสาลี ธัญพืช และ ตู้คอนเทนเนอร์ เพราะท่าเรือที่อลาสก้า ใกล้ทวีปเอเชียกว่าฝั่งแวนคูเวอร์ 4 วัน ที่ยังไม่เคยมีใครทำสำเร็จมาก่อน
http://railfan.com/survey-of-rail-route-connecting-alberta-to-alaska-begins/
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 44973
Location: NECTEC
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 48665
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 03/12/2021 7:53 pm Post subject:
สภาพทางรถไฟที่เสียหายจากน้ำท่วมใหญ่ที่บริติชโคลัมเบีย แคนาดา
BC: Drone view of broken railway tracks damaged by powerful flood water 12-2-2021
The 4K Guy - Fire & Police
https://www.youtube.com/watch?v=2p54AmKoGGE
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 48665
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 25/12/2022 2:01 pm Post subject:
าพหาดูยาก หิมะถล่มสหรัฐฯ-แคนาดา เตือนห้ามออกนอกบ้าน ปิดสะพานเดินรถ | TNNข่าวเที่ยง | 25-12-65
TNN Online
Dec 25, 2022
สหรัฐฯและแคนาดา ได้รับผลกระทบเต็มๆจากพายุหิมะและสภาพอากาศแปรปรวน ป่วนการเดินทางช่วงเทศกาลวันหยุด แคนาดาแจ้งเตือนประชาชนให้อยู่แต่ในบ้าน
https://www.youtube.com/watch?v=AvwcxzZwAb4
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 48665
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 24/08/2024 10:10 am Post subject:
พนักงานรถไฟแคนาดาประท้วง ทำขบวนรถไฟนับร้อยจอดนิ่ง
วันที่ 23 ส.ค. 2567 | 13.00 น.
รอบรั้วรอบโลก
มีการเผยภาพขบวนรถไฟนับร้อยขบวน จอดนิ่งอยู่ที่สถานีรถไฟ หลังสหภาพแรงงานการรถไฟของแคนาดา หยุดงานประท้วง ภาพจากโดรนที่บันทึกไว้ได้ เมื่อวานนี้ (22 ส.ค.) แสดงให้เห็นรถไฟหลายร้อยบวนจอดนิ่งอยู่ที่ลานจอดรถไฟ ในเมืองวอร์แกน (Vaughan) รัฐออนแทรีโอ ของแคนาดา เพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากสหภาพแรงงาน ของบริษัทการรถไฟชั้นนำ 2 แห่งของแคนาดา ซึ่งมีสมาชิกกว่า 9,000 คน ประกาศหยุดงานประท้วง ซึ่งขณะนี้ ยังไมชัดเจนว่า รถไฟจะกลับมาเปิดให้บริการเมื่อใด
ทั้งนี้ การเจรจาระหว่าง บริษัทการรถไฟทั้ง 2 แห่งของแคนาดา คือบริษัทแคเนเดียน เนชันแนล เรลเวย์ (Canadian National Railway - CN) ร่วมกับบริษัทแคเนเดียน แปซิฟิก แคนซัส ซิตี (Canadian Pacific Kansas City - CPKC) และสหภาพแรงงานทีมสเตอร์ส (Teamsters) ประสบความล้มเหลวหลายครั้ง โดยทั้ง 2 ฝ่ายต่างกล่าวหาว่า อีกฝ่ายมีเจตนาไม่สุจริต และไม่จริงใจ
ขณะที่ รัฐบาลแคนาดาได้ ได้ดำเนินมาตรการเร่งด่วน เมื่อวานนี้ เพื่อยุติการประท้วงครั้งนี้โดยเร็ว โดยประกาศว่า จะขอให้คณะกรรมการความสัมพันธ์ด้านอุตสาหกรรมของประเทศ ออกคำสั่งให้พนักงานการรถไฟกลับไปทำงานอีกครั้ง ซึ่งคาดว่า รถไฟจะกลับมาให้บริการตามปกติในเร็วๆ นี้ พร้อมประกาศเตรียมแผนที่จะส่งเรื่องไปยังคณะกรรมการอนุญาโตตุลาการ ให้มีคำสั่งชี้ขาดเพื่อระงับข้อพิพาทนี้ แม้ว่าก่อนหน้านี้ รัฐบาลจะยืนกรานให้แก้ไขข้อพิพาทนี้ ผ่านการเจรจาบนโต๊ะก็ตาม
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 44973
Location: NECTEC
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 48665
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 24/01/2025 4:48 pm Post subject:
CN Medium-Power Hybrid Locomotive: ปัจจุบันและอนาคต
บทนำ
Canadian National Railway (CN) ได้เปิดตัวโครงการนำร่องรถจักรไฮบริดไฟฟ้ากำลังปานกลางรุ่นใหม่ที่พัฒนาขึ้นร่วมกับ Knoxville Locomotive Works (KLW) 1 รถจักรไฮบริดนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการที่ใหญ่ขึ้นของ CN เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการปล่อยมลพิษสุทธิเป็นศูนย์ 2 และเป็นนวัตกรรมล่าสุดภายใต้โครงการของบริษัท โดยมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานและประหยัดเชื้อเพลิง 1 ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญของ CN ในการดำเนินงานด้านรถไฟที่ทันสมัยและยั่งยืนยิ่งขึ้น
รถจักร CN Medium-Power Hybrid Locomotive ในปัจจุบัน
รถจักรไฮบริดกำลังปานกลางขนาด 3,200 แรงม้า สร้างขึ้นบนพื้นฐานของรถจักร CN กำลังต่ำแบบดั้งเดิมที่ใช้ในลานขนถ่ายสินค้าและทางรถไฟสายรอง 1 ประกอบด้วยระบบควบคุมที่ทันสมัย เพิ่มกำลังแรงม้าได้สูงสุด 60% ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ดีเซล-แบตเตอรี่ 2.4MWh-700HP ซึ่งพร้อมสำหรับการใช้เชื้อเพลิงชีวภาพ 100% 1 ระบบไฮบริดนี้ตั้งเป้าที่จะลดการใช้เชื้อเพลิงลงได้ประมาณ 50% เมื่อเทียบกับรถจักรทั่วไปที่ใช้ในการปฏิบัติงานที่คล้ายคลึงกันในปัจจุบัน 1
คุณสมบัติทางเทคนิค:
กำลัง 3,200 แรงม้า: รถจักรมีกำลังขับเคลื่อนสูง เหมาะสำหรับการใช้งานในหลากหลายภารกิจ
ระบบไฮบริด 2.4MWh-700HP: ระบบนี้ผสานพลังของแบตเตอรี่ขนาด 2.4 MWh เข้ากับเครื่องยนต์ดีเซล 700 แรงม้า ช่วยให้รถจักรสามารถสลับไปมาระหว่างแหล่งพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เครื่องยนต์ดีเซลพร้อมสำหรับเชื้อเพลิงชีวภาพ 100%: รถจักรสามารถใช้เชื้อเพลิงชีวภาพได้อย่างเต็มที่ ซึ่งเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่าเชื้อเพลิงดีเซลแบบดั้งเดิม
ระบบควบคุมที่ทันสมัย: ระบบควบคุมอัจฉริยะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของรถจักรและลดการใช้พลังงาน
เพิ่มกำลังแรงม้าได้สูงสุด 60%: เมื่อเทียบกับรถจักรรุ่นก่อนหน้า รถจักรรุ่นนี้มีกำลังเพิ่มขึ้นอย่างมาก ช่วยให้สามารถลากจูงขบวนรถไฟที่หนักขึ้นได้
ประสิทธิภาพการใช้งาน:
ลดการใช้เชื้อเพลิงได้สูงสุด 50%: เทคโนโลยีไฮบริดช่วยลดการใช้เชื้อเพลิงได้อย่างมาก ส่งผลให้ต้นทุนการดำเนินงานลดลง
การนำไปใช้งานจริง:
ใช้ในลานขนถ่ายสินค้าและทางรถไฟสายรอง: รถจักรได้รับการออกแบบมาเพื่อการใช้งานในพื้นที่จำกัด เช่น ลานขนถ่ายสินค้า และเส้นทางรถไฟสายรอง
อยู่ระหว่างการทดสอบในสภาพการใช้งานที่หลากหลายทั่วเครือข่ายของ CN: รถจักรอยู่ระหว่างการทดสอบภาคสนาม เพื่อประเมินประสิทธิภาพในสภาพแวดล้อมการทำงานจริง
แผนการพัฒนารถจักร CN Medium-Power Hybrid Locomotive ในอนาคต
CN มีแผนที่จะปรับใช้รถจักรไฮบริดเป็นขั้นตอนในอีกหกเดือนข้างหน้า (นับจากวันที่ 16 มกราคม 2568) ในลานขนถ่ายสินค้าและทางรถไฟสายรองหลายแห่งของ CN รวมถึงสถานที่ต่างๆ ในรัฐเทนเนสซี มิสซิสซิปปี และลุยเซียนา 1 การทดสอบจะรวมถึงการปฏิบัติงานในสภาพอากาศหนาวเย็นในแคนาดาตะวันตกด้วย 1 โดยรถจักรจะถูกนำไปใช้งานในหลากหลายพื้นที่ของ CN รวมถึงรัฐเทนเนสซี มิสซิสซิปปี ลุยเซียนา และในที่สุดก็คือแคนาดาตะวันตก 3 การทดสอบในสภาพอากาศหนาวเย็นในแคนาดาเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการประเมินผล ซึ่งออกแบบมาเพื่อประเมินประสิทธิภาพของรถจักรภายใต้สภาวะแวดล้อมที่หลากหลาย 3 แนวทางแบบแบ่งขั้นตอนนี้จะช่วยให้ CN สามารถประเมินประสิทธิภาพและโปรโตคอลการปฏิบัติงานสำหรับรถจักรได้ 1 ข้อมูลนี้จะถูกนำมาใช้เพื่อปรับแต่งโปรโตคอลและประเมินความเป็นไปได้ในการรวมเทคโนโลยีไฮบริดเข้ากับกลุ่มรถจักรที่กว้างขึ้นของ CN 3
การปรับปรุงประสิทธิภาพ:
ยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับแผนการพัฒนาในอนาคต หรือการปรับปรุงประสิทธิภาพสำหรับรถจักรไฮบริดกำลังปานกลางของ CN 1
การลดต้นทุน:
ยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับการลดต้นทุนสำหรับรถจักรไฮบริดกำลังปานกลางของ CN 1
การเพิ่มศักยภาพในการใช้งาน:
เพิ่มการทดสอบเพื่อรวมการปฏิบัติงานในสภาพอากาศหนาวเย็นในแคนาดาตะวันตก 1
ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
CN คาดหวังว่าโครงการนี้จะช่วยผลักดันความก้าวหน้าของเทคโนโลยีไฮบริดในรถจักรและมีส่วนช่วยในการลดการปล่อยมลพิษในทันที 1 ระบบไฮบริดนี้มีเป้าหมายเพื่อลดการใช้เชื้อเพลิงลงได้ประมาณ 50% เมื่อเทียบกับรถจักรทั่วไปที่ใช้ในการปฏิบัติงานที่คล้ายคลึงกันในปัจจุบัน 1 ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน 1 และช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม 4
บทบาทของรถจักร CN Medium-Power Hybrid Locomotive ในการพัฒนาอุตสาหกรรมขนส่งทางรางของจีน
แม้ว่า CN จะเป็นบริษัทของแคนาดา แต่ความสำเร็จของโครงการรถจักรไฮบริดนี้ อาจมีอิทธิพลต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมขนส่งทางรางในประเทศอื่นๆ รวมถึงจีนด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้าน:
การลดการปล่อยมลพิษ: เทคโนโลยีไฮบริดช่วยลดการใช้เชื้อเพลิงและการปล่อยมลพิษ ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนของจีน 1
การเพิ่มประสิทธิภาพ: รถจักรไฮบริดมีประสิทธิภาพการใช้พลังงานสูงขึ้น ซึ่งช่วยลดต้นทุนการดำเนินงานและเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน 4
นวัตกรรมทางเทคโนโลยี: รายงานระบุว่า CN เป็นผู้นำในการพัฒนารถจักรไฮบริด 2 ซึ่งอาจเป็นแรงบันดาลใจให้กับบริษัทจีนในการพัฒนาเทคโนโลยีที่คล้ายคลึงกัน
ความท้าทายและโอกาสในการพัฒนารถจักร CN Medium-Power Hybrid Locomotive ในอนาคต
ความท้าทาย:
การทดสอบประสิทธิภาพในสภาพอากาศหนาวเย็นยังคงต้องได้รับการตรวจสอบ 4
ต้องใช้ระยะเวลาทดสอบหกเดือนก่อนที่จะมีการนำไปใช้อย่างกว้างขวาง 4
ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจอาจส่งผลต่อการตัดสินใจลงทุนในเทคโนโลยีใหม่ 1
โอกาส:
การลดต้นทุนการดำเนินงานจากการประหยัดเชื้อเพลิง 4
การตอบสนองต่อแรงกดดันด้านกฎระเบียบที่เพิ่มขึ้นในการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม 4
หากการทดสอบนี้ประสบความสำเร็จ ระบบไฮบริดนี้มีศักยภาพที่จะเป็นต้นแบบสำหรับการปรับปรุงการดำเนินงานในลานขนถ่ายสินค้าทั่วทั้งอุตสาหกรรมรถไฟในอเมริกาเหนือ 4
การเปรียบเทียบรถจักร CN Medium-Power Hybrid Locomotive กับรถจักรประเภทอื่นๆ
ประเภทรถจักร
การใช้เชื้อเพลิง
กำลังแรงม้า
ข้อดี
รถจักรไฮบริด
ลดลง 50% เมื่อเทียบกับรถจักรดีเซล 2
เพิ่มขึ้น 60% เมื่อเทียบกับรถจักรดีเซล 1
- ใช้เชื้อเพลิงชีวภาพได้ 4 <br> - ไม่ต้องพึ่งพาโครงสร้างพื้นฐานด้านไฟฟ้า 1
รถจักรดีเซล
-
-
-
รถจักรไฟฟ้า
-
-
-
Initiatives to Improve Railway Safety and Reliability
นอกจากนี้ CN ยังให้ความสำคัญกับการปรับปรุงความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือของระบบรถไฟ โดยในเดือนตุลาคม 2567 CN ได้ลงนามข้อตกลงกับ Duos Technologies Group สำหรับการสมัครสมาชิก Machine Vision/AI Wayside Detection Safety Data 7 เทคโนโลยี AI นี้ ซึ่ง CN ใช้งานมานานกว่า 5 ปีในแคนาดาและสหรัฐอเมริกา ช่วยสนับสนุนการตรวจสอบด้วยตนเองเพื่อปรับปรุงความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือของรถไฟ 7
สรุป
รถจักร CN medium-power hybrid locomotive เป็นก้าวสำคัญของ CN ในการมุ่งสู่การดำเนินงานด้านรถไฟที่ยั่งยืนยิ่งขึ้น ด้วยเทคโนโลยีไฮบริดที่ช่วยลดการใช้เชื้อเพลิงและการปล่อยมลพิษ รถจักรนี้มีศักยภาพในการเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมขนส่งทางรางในอนาคต การทดสอบในสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย รวมถึงสภาพอากาศหนาวเย็น จะเป็นตัวชี้วัดความสำเร็จของเทคโนโลยีนี้ หากประสบความสำเร็จ รถจักรไฮบริดนี้อาจกลายเป็นต้นแบบสำหรับการพัฒนารถไฟในอุตสาหกรรมขนส่งทางรางของอเมริกาเหนือ และอาจเป็นแรงบันดาลใจให้กับบริษัทในประเทศอื่นๆ รวมถึงจีน ในการพัฒนาเทคโนโลยีที่คล้ายคลึงกัน แม้ว่าจะมีความท้าทายในด้านระยะเวลาการทดสอบและความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ แต่โอกาสในการพัฒนาและการใช้งานรถจักรไฮบริดก็มีมากมายเช่นกัน ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และส่งเสริมการพัฒนาอย่างยั่งยืนในอุตสาหกรรมขนส่งทางราง
ผลงานที่อ้างอิง
1. CN Launches New Medium Horsepower Hybrid Locomotive Pilot Project | cn.ca https://www.cn.ca/en/news/2025/01/cn-launches-new-medium-horsepower-hybrid-locomotive-pilot-projec
2. CN unveils battery-diesel locomotive - International Railway Journal https://www.railjournal.com/technology/cn-unveils-battery-diesel-locomotive_/
3. CN begins medium horsepower hybrid locomotive pilot project with KLW https://railmarket.com/news/rolling-stock/28718-cn-begins-medium-horsepower-hybrid-locomotive-pilot-project-with-klw
4. CN Launches New Medium Horsepower Hybrid Locomotive Pilot Project - Stock Titan https://www.stocktitan.net/news/CNI/cn-launches-new-medium-horsepower-hybrid-locomotive-pilot-ka3wob368zm0.html
5. CN Launches New Medium Horsepower Hybrid Locomotive Pilot Project | Financial Post https://financialpost.com/globe-newswire/cn-launches-new-medium-horsepower-hybrid-locomotive-pilot-project
6. CN testing hybrid biofuel-ready locomotive - FreightWaves https://www.freightwaves.com/news/cn-testing-hybrid-biofuel-ready-locomotive
7. Canadian National Railway launches hybrid locomotive pilot project https://www.railway-technology.com/news/cn-railway-hybrid-locomotive/
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 48665
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 20/02/2025 3:31 pm Post subject:
แคนาดาเผยแผนสร้างรถไฟความเร็วสูงเชื่อมโทรอนโต-ควิเบก ยาว 1,000 กม. | เดลินิวส์
Source - เว็บไซต์เดลินิวส์
Thursday, February 20, 2025 14:27
นายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโด ผู้นำแคนาดา เปิดเผยแผนการสร้างเส้นทางรถไฟความเร็วสูงสายแรก เพื่อเชื่อมศูนย์กลางสำคัญต่าง ๆ ตั้งแต่เมืองโทรอนโตไปจนถึงเมืองควิเบก โดยถือเป็นโครงการ โครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ที่สุด ในประวัติศาสตร์ของประเทศ
สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากเมืองโทรอนโต ประเทศแคนาดา เมื่อวันที่ 20 ก.พ. ว่า โครงการดังกล่าวคือเส้นทางรถไฟความเร็วสูงยาว 1,000 กม. รองรับรถไฟฟ้าที่สามารถทำความเร็วได้ถึง 300 กม./ชม. และจุดจอดแวะระหว่างเมืองโทรอนโต กรุงออตตาวา เมืองมอนทรีออล และเมืองควิเบก
ทรูโดระบุว่า รถไฟยังช่วยลดเวลาในการเดินทางระหว่างเมืองต่าง ๆ ในแคนาดาตะวันออกลงอีกครึ่งหนึ่ง โดยคาดว่าจะใช้เวลาเดินทางจากเมืองโทรอนโตไปยังมอนทรีออล โดยเฉลี่ยเพียง 3 ชม.
> A reliable, efficient, high-speed rail network will be a game changer for Canadians, says PM Trudeau as he announces plans for a high-speed TorontoQuebec City line. Cadence, a consortium of transportation firms, has been selected to co-develop and operate the line.
> #cdnpoli pic.twitter.com/3iyfuQD1gL
>
> CPAC (@CPAC_TV) February 19, 2025
ขณะนี้ รัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณเบื้องต้น 3,900 ล้านดอลลาร์แคนาดา (ราว 92,211 ล้านบาท) สำหรับการออกแบบและพัฒนาโครงการ ซึ่งรวมถึงการศึกษาเส้นทาง และตำแหน่งของสถานีที่ชัดเจน กฎระเบียบ และการปรึกษาหารือ
อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการระบุวันที่แน่นอนสำหรับโครงการแล้วเสร็จ หรือรายละเอียดเกี่ยวกับต้นทุนการก่อสร้าง ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นทั้งหมด
> High-speed rail announced! The federal government announced a ground breaking high-speed rail connecting Quebec City and Toronto. This will enhance connectivity, reduce carbon emissions, and create jobs. https://t.co/nR174MZHwA#HighSpeedRail #SustainableTravel #Canada pic.twitter.com/dTsdgM9g46
>
> Sonia Sidhu (@SoniaLiberal) February 19, 2025
ปัจจุบัน เวีย เรล ซึ่งเป็นของรัฐวิสาหกิจด้านรถไฟ ดำเนินกิจการรถไฟโดยสารทั่วประเทศ ซึ่งยังคงเป็นรุ่นเก่า โดยใช้รางร่วมกับรถไฟบรรทุกสินค้า และมักจะทำให้การเดินทางล่าช้า
ทรูโดกล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า เส้นทางรถไฟความเร็วสูง จะช่วยแก้ปัญหาทับซ้อนดังกล่าว และรถไฟฟ้าสายใหม่จะดีต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น และเป็นทางเลือกอื่น แทนการขึ้นเครื่องบินหรือรถยนต์.
เครดิตภาพ : AFP
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 44973
Location: NECTEC
Posted: 01/03/2025 1:46 am Post subject:
Did you know Canada longest rail route, known as Trans-Canadian, is operated by VIA Rail and connects the cities of Vancouver (on the west coast) with Toronto (on the east), crossing the country side by side. This passage covers about 4,466 kilometers, traversing various regions and breathtaking landscapes, such as the Rocky Mountains, the prairies of Manitoba and Saskatchewan, the forests of Ontario and the northern lakes.
The route is mainly carried out on the VIA Rail Canadian and offers passengers a unique travel experience, with luxury amenities and a panoramic view of the Canadian landscape. Although the length of the journey varies depending on service, it typically lasts longer than 4 days, providing a slow and relaxed travel experience for those looking to explore the vast Canadian territory.
Credits: Curiosidades
https://www.beautyofplanet.com/the-trans-canadian-rail-route-an-iconic-journey-across-canada/?
Back to top