RailServe.Com

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai Gallery in Facebook

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311820
ทั่วไป:13519180
ทั้งหมด:13831000
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


พลิกตำนานข้าวผัดรถไฟ เมนูไฮโซในอดีต





 

     ใครเลยจะคิดว่า ข้าวผัดรถไฟที่แสนจะไม่อร่อยในยุคปัจจุบัน จะเคยเป็นอาหารเลิศล้ำเมื่อ 80 ปีก่อน ชนชั้นสูงที่เดินทางมาตากอากาศที่หัวหินเท่านั้นที่จะมีสิทธิได้รับประทานเมนูพิเศษที่วัตถุดิบในการปรุงหลายชนิด ต้องสั่งนำเข้าจากต่างประเทศไม่ว่าจะเป็นเนย กุนเชียง ซอสมะเขือเทศ และถั่วลันเตา

     ตำนานข้าวผัดรถไฟ ผูกพันกับเส้นทางเดินรถไฟจากบางกอกน้อยถึงหัวหินอย่างเหนียวแน่น หลังจากหมู่บ้านชาวประมงเล็กๆ แห่งนี้มีโอกาสต้อนรับเส้นทางคมนาคมทางรถไฟจากสายใต้ เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ.2454 ซึ่งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างต่อจากเพชรบุรีลงไป การก่อสร้างดำเนินเรื่อยมาจนกระทั่งลุล่วงในรัชสมัย พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รวมระยะทางจากสถานีธนบุรีถึงหัวหิน 212.95 กิโลเมตร

 

     พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระกำแพงเพชรอัครโยธิน ขณะดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการกรมรถไฟหลวง เมื่อมีโอกาสได้ทอดพระเนตรหมู่บ้านชายทะเลหัวหิน ก็เกิดพอพระทัยในหาดทรายสีขาวละเอียด จึงทรงชักชวนพระบรมวงศานุวงศ์ และข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ในราชสำนัก ซื้อและจับจองที่ดินชายทะเลหัวหินไว้เป็นที่พักผ่อนตากอากาศ หัวหินจึงกลายเป็นที่นิยมสำหรับการพักผ่อนอย่างรวดเร็วตั้งแต่นั้นมา

     เพื่ออำนวยความสุขสบายและความสะดวกให้มากขึ้น พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระกำแพงเพชรอัครโยธิน ดำเนินการสร้างโรงแรมแบบยุโรปสไตล์โคโลเนียล ทรงมะนิลาโดยใช้ไม้สักทั้งหลัง เรียกว่า โรงแรมรถไฟ ขึ้นที่ริมหาดหัวหิน และให้นาย เอ รีกาซซี่ สถาปนิกชาวอิตาเลียนประจำกรมรถไฟหลวงเป็นผู้ออกแบบ โดยให้สร้างสนามเทนนิสกับสนามกอล์ฟไปพร้อมๆ กัน เริ่มก่อสร้างในปี 2464 แล้วเสร็จเปิดทำการในวันที่ 1 มกราคม พ.ศ.2465 นับเป็นโรงแรมที่หรูหราที่สุดแห่งแรกในประเทศไทย

     ด้วยระยะทาง 212.95 กิโลเมตร จากธนบุรีถึงหัวหินในสมัยนั้นกินเวลายาวนานถึง 5 ชั่วโมง ทำให้กรมรถไฟหลวงจัดบริการตู้ รถขายอาหาร (บกข.) ซึ่งมีที่นั่งสำหรับนั่งรับประทานอาหารพ่วงกับขบวนรถโดยสาร จัดบริการในรถเสบียง กำหนดมาตรฐานการบริการให้คล้ายคลึง กับการบริการในรถเสบียงของต่างประเทศ เนื่องจากผู้โดยสารส่วนใหญ่เป็นผู้มีฐานะดี ซึ่งนิยมไปตากอากาศและตีกอล์ฟในช่วงวันสุดสัปดาห์

     กรมรถไฟจึงมอบให้กองโรงแรมจัดพนักงานชั้นประจำตู้รถ บกข.เพื่อขายอาหาร รายการอาหารจะเน้นหนักไปทางอาหารสากล ซึ่งต้องนั่งรับประทานให้เรียบร้อย เนื่องด้วยมีอุปกรณ์บนโต๊ะมากมาย ส่วนอาหารไทย จะใส่ถาดเป็นชุดๆ และนำไปให้ถึงที่นั่ง และการเตรียมอาหารของรถ บกข.นี้ จะเตรียมไว้เพียงพอกับจำนวนของผู้โดยสารที่ขึ้นและลงที่หัวหินเท่านั้น

     ในส่วนของอาหารไทยที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูงในยุคนั้น ต้องยกให้ "ข้าวผัดรถไฟ" ซึ่งกินคู่กับ "ยำเนื้อรถไฟ" แล้วรสชาติส่งเสริมกันพอดี เมนูคู่นี้จึงกลายเป็นตำนานอาหารจานพิเศษมาตั้งแต่บัดนั้น

     "80 ปีที่แล้ว เครื่องปรุงที่นำมาใช้ทำข้าวผัดรถไฟ อย่างเช่น เนย กุนเชียง ถั่วลันเตา ซอสมะเขือเทศ ต้องนำเข้าจากต่างประเทศทั้งหมด อาหารจานนี้จึงไม่ใช่อาหารธรรมดาที่หากินได้ทั่วไปเหมือนทุกวันนี้"

     วรรณภา รักษ์แก้ว ผู้อำนวยการฝ่ายการสื่อสารของกลุ่มโรงแรมและรีสอร์ทในเครือเซ็นทรัล กล่าวถึงเหตุผลที่นำเมนูข้าวผัดรถไฟ และยำเนื้อรถไฟ มาบรรจุไว้เป็นรายการอาหารพิเศษของโรงแรมโซฟิเทล เซ็นทรัล หัวหิน รีสอร์ท เนื่องในโอกาสครบรอบปีที่ 80 ของโรงแรมรถไฟในปี พ.ศ. 2546 นี้

     และเพื่อให้ทราบถึงสูตรไปจนถึงกรรมวิธีการทำข้าวผัดรถไฟและยำเนื้อแบบดั้งเดิม ทางการรถไฟแห่งประเทศไทยจึงได้ส่งพ่อครัวการรถไฟฯ คมสัน เทียนทับทิม ที่มีอายุงานร่วม 30 ปี มาเป็นผู้ถ่ายทอดวิทยายุทธให้กับทางพ่อครัวของโรงแรม ไม่ว่าจะเป็นการปรุงน้ำซอส หรือการทำพริกน้ำปลามะนาวที่ต้องใส่กระเทียมโทนลงไปด้วย รวมไปถึงวิธีการย่างเนื้อไม่ให้สุกเกินไป ต้องออกกึ่งสุกกึ่งดิบเล็กน้อยเวลายำออกมาจึงได้รสชาติเนื้อที่ผสมกลมกล่อมกับน้ำยำและเคี้ยวนุ่มไม่แข็งให้รำคาญใจ

     ข้าวผัดรถไฟ และ ยำเนื้อรถไฟ ตอนนี้ได้บรรจุไว้ในเมนูห้องอาหาร Railway Restaurant ซึ่งได้รับการออกแบบตกแต่งราวกับจำลองสถานีรถไฟหัวหินมาทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นนาฬิกา ระฆังบอกเวลารถไฟเข้าออก มีเก้าอี้นั่งแบบโบกี้ ไปจนถึงระเบียงหน้าห้องอาหารที่มีลักษณะคล้ายชานชาลาสำหรับนั่งรอรถไฟ

     สำหรับเมนูรถไฟที่เปิดบริการในห้องอาหารนี้ มีให้ชิมกันในช่วงมื้อกลางวัน และ เย็น โดยมีการเสริมยำผลไม้เพิ่มเติมเข้าไปอีก ในเรื่องของรสชาติเรียกได้ว่า ต่างกันลิบลับกับที่เราๆ ท่านๆ ที่เคยได้กินกันบนรถไฟสมัยนี้ ช่วงสุดสัปดาห์ถ้าอยากรำลึกความหลังของรสชาติข้าวผัดรถไฟตำรับไฮโซของแท้ มีเคล็ดลับและสูตรมาให้ลองหัดปรุงกันดู

     เผื่อว่าจะช่วยสร้างความทรงจำดีๆ ให้เกิดขึ้นกับเมนูบนรถไฟได้ไม่มากก็น้อย

หมายเหตุ : เมนูอาหารรถไฟที่ห้องอาหาร Railway Restaurant โรงแรมโซฟิเทล เซ็นทรัล หัวหิน รีสอร์ท (โทร.032-512021-38) ข้าวผัดรถไฟ 145 บาท ยำเนื้อรถไฟ 115 บาท ยำผลไม้รวม 115 บาท (ราคานี้ยังไม่รวมภาษีและบริการ)

 
สูตรเด็ดๆ กับเมนูรถไฟ
 
ข้าวผัดรถไฟ

เครื่องปรุง :

  • ข้าวสวยหุงร่วน 1 ถ้วย
  • น้ำมันหมู หรือ น้ำมันพืช 1 1/2 - 2 ถ้วย
  • เนยชนิดเค็ม 1 ช้อนชา
  • หมูเนื้อแดง หรือ เนื้อไก่หั่น 1/2 ขีด
  • กุนเชียงอย่างดีหั่นชิ้นลูกเต๋า 1/2 ขีด
  • มะเขือเทศเอาไส้ออกหั่นเป็นเส้นยาว 1/2 ลูก
  • หอมหัวใหญ่หั่นยาว 1/4 ลูก
  • เมล็ดถั่วลันเตา 1 ช้อนโต๊ะ
  • ซอสมะเขือเทศ (ยี่ห้อไมก้า) 1 ช้อนโต๊ะ
  • กระเทียมทุบ 3 กลีบ
  • ไข่เป็ด 2 ฟอง
  • เกลือ ซีอิ๊วขาว ซอสปรุงรส

วิธีทำ

  1. ตั้งกระทะให้ร้อนใส่น้ำมันหมู หรือน้ำมันพืชลงไป รอให้น้ำมันร้อนพอประมาณ แล้วใส่กระเทียมทุบลงไปเจียวให้เหลือง ใส่หมูหรือไก่รวนให้หอม สุกแล้วตักใส่ถ้วยพักไว้
  2. ใส่เนยลงไปในกระทะใบเดิม ใส่หอมใหญ่ กุนเชียง เมล็ดถั่วลันเตาลงผัดปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว ซอสปรุงรส จากนั้นใส่เนื้อหมู หรือไก่ที่รวนไว้แล้วลงผัดให้เข้ากัน
  3. ตอกไข่ 1 ฟองลงไปในกระทะ ผัดคลุกเคล้ากับเครื่องปรุงจนแห้ง แล้วจึงใส่ข้าวสวย เกลือ มะเขือเทศ ผัดเร็วๆ ให้เข้ากัน ปิดไฟ
  4. เวลาเสิร์ฟตักข้าวใส่ลงไปในถ้วยอัดให้แน่น คว่ำลงในจาน
  • ตำรับเดิม
    เสิร์ฟพร้อมไข่ดาวทอดเกรียม 1 ฟอง น้ำปลาพริกมะนาวผสมกระเทียมโทน แตงกวาซอย

  • ตำรับโรงแรมโซฟิเทล เซ็นทรัล หัวหิน รีสอร์ท
    เสิร์ฟพร้อมกุ้งทอดกระเทียมพริกไทยเสียบก้านตะไคร้ ไข่ดาว 1 ฟอง เม็ดมะม่วงหิมพานต์ ข้าวเกรียบกุ้ง น้ำปลาพริกมะนาวผสมกระเทียมโทน แตงกวาซอย

  • เคล็ดลับ
    อย่าหุงข้าวแฉะเกินไป เวลาผัดข้าวจะเละไม่น่ากิน ใช้เกลือแทนน้ำปลา จะทำให้ข้าวผัดนุ่ม ใช้มะเขือเทศแกะเม็ดออก จะทำให้ข้าวผัดสวย
 
ยำเนื้อย่างรถไฟ

เครื่องปรุง :

  • เนื้อวัวติดมัน 200 กรัม
  • แตงร้านผ่าซีกหั่นขวาง 1 ลูก
  • มะเขือเทศลูกใหญ่หั่นยาว 1 ลูก
  • หอมแดงซอย 2 หัว
  • หอมหัวใหญ่หั่น 1 ลูก
  • คึ่นช่ายหั่นเป็นท่อนๆ 1 ต้น
  • ต้นหอมหั่นเป็นท่อนๆ 1 ต้น
  • พริกขี้หนูซอย 8 เม็ด
  • ผักชี 1 ต้น
  • รากผักชีตำละเอียด 1 ต้น
  • กระเทียมตำ 1 ช้อนโต๊ะ
  • มะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลมะพร้าว 1/2 ช้อนชา
  • ซอสพริก 2 ช้อนโต๊ะ
  • พริกแห้งทอด 5 เม็ด


วิธีทำ

  1. ย่างเนื้ออย่าให้สุก (ระดับ rare) สไลด์ตามขวางขนาดพอคำ
  2. ปรุงน้ำยำในชาม ด้วยการนำรากผักชีตำละเอียด กระเทียมตำ พริกขี้หนูซอย หอมแดงซอย มะนาว น้ำปลา น้ำตาลมะพร้าว ซอสพริก คลุกเคล้าให้เข้ากัน
  3. นำเนื้อย่างลงคลุกในน้ำยำให้เข้าเนื้อ ตามด้วยหอมใหญ่ แตงร้าน คึ่นช่าย ต้นหอม
  4. ตักใส่จาน โรยพริกแห้งทอด
  • เคล็ดลับ
    ไม่ควรย่างเนื้อให้สุกเกินไป เวลายำแล้วจะให้เนื้อแข็งกินไม่อร่อย พริกขี้หนูสวนจะทำให้น้ำยำหอม น้ำตาลมะพร้าวจะมีกลิ่นหอมกว่าน้ำตาลทราย เลือกใช้ซอสพริกของไทย เพราะซอสพริกต่างประเทศมีรสเปรี้ยวจัด
 

 
ภาพประกอบ : กรุงเทพธุรกิจ & ผู้จัดการออนไลน์
ที่มา :
ปิ่นอนงค์ ปานชื่น pinanong@nationgroup.com
กรุงเทพธุรกิจ 10 ตุลาคม 2546









สงวนลิขสิทธิ์โดย © Rotfaithai.Com : All Right Reserved.

อนุญาตให้นำเนื้อหาไปใช้ได้ เพื่อประโยชน์ทางการศึกษา
หากจะนำไปเผยแพร่ยังเว็บไซต์ หรือสื่ออื่นๆ กรุณาขออนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร
พร้อมระบุอ้างอิงถึงแหล่งที่มาของข้อมูล ให้ถูกต้องและชัดเจน

ติดประกาศ: 2005-10-04 (38273 ครั้ง)

[ ย้อนกลับ ]


Content ©