พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระกำแพงเพชรอัครโยธิน ขณะดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการกรมรถไฟหลวง เมื่อมีโอกาสได้ทอดพระเนตรหมู่บ้านชายทะเลหัวหิน ก็เกิดพอพระทัยในหาดทรายสีขาวละเอียด จึงทรงชักชวนพระบรมวงศานุวงศ์ และข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ในราชสำนัก ซื้อและจับจองที่ดินชายทะเลหัวหินไว้เป็นที่พักผ่อนตากอากาศ หัวหินจึงกลายเป็นที่นิยมสำหรับการพักผ่อนอย่างรวดเร็วตั้งแต่นั้นมา
เพื่ออำนวยความสุขสบายและความสะดวกให้มากขึ้น พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระกำแพงเพชรอัครโยธิน ดำเนินการสร้างโรงแรมแบบยุโรปสไตล์โคโลเนียล ทรงมะนิลาโดยใช้ไม้สักทั้งหลัง เรียกว่า โรงแรมรถไฟ ขึ้นที่ริมหาดหัวหิน และให้นาย เอ รีกาซซี่ สถาปนิกชาวอิตาเลียนประจำกรมรถไฟหลวงเป็นผู้ออกแบบ โดยให้สร้างสนามเทนนิสกับสนามกอล์ฟไปพร้อมๆ กัน เริ่มก่อสร้างในปี 2464 แล้วเสร็จเปิดทำการในวันที่ 1 มกราคม พ.ศ.2465 นับเป็นโรงแรมที่หรูหราที่สุดแห่งแรกในประเทศไทย
ด้วยระยะทาง 212.95 กิโลเมตร จากธนบุรีถึงหัวหินในสมัยนั้นกินเวลายาวนานถึง 5 ชั่วโมง ทำให้กรมรถไฟหลวงจัดบริการตู้ รถขายอาหาร (บกข.) ซึ่งมีที่นั่งสำหรับนั่งรับประทานอาหารพ่วงกับขบวนรถโดยสาร จัดบริการในรถเสบียง กำหนดมาตรฐานการบริการให้คล้ายคลึง กับการบริการในรถเสบียงของต่างประเทศ เนื่องจากผู้โดยสารส่วนใหญ่เป็นผู้มีฐานะดี ซึ่งนิยมไปตากอากาศและตีกอล์ฟในช่วงวันสุดสัปดาห์
กรมรถไฟจึงมอบให้กองโรงแรมจัดพนักงานชั้นประจำตู้รถ บกข.เพื่อขายอาหาร รายการอาหารจะเน้นหนักไปทางอาหารสากล ซึ่งต้องนั่งรับประทานให้เรียบร้อย เนื่องด้วยมีอุปกรณ์บนโต๊ะมากมาย ส่วนอาหารไทย จะใส่ถาดเป็นชุดๆ และนำไปให้ถึงที่นั่ง และการเตรียมอาหารของรถ บกข.นี้ จะเตรียมไว้เพียงพอกับจำนวนของผู้โดยสารที่ขึ้นและลงที่หัวหินเท่านั้น
ในส่วนของอาหารไทยที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูงในยุคนั้น ต้องยกให้ "ข้าวผัดรถไฟ" ซึ่งกินคู่กับ "ยำเนื้อรถไฟ" แล้วรสชาติส่งเสริมกันพอดี เมนูคู่นี้จึงกลายเป็นตำนานอาหารจานพิเศษมาตั้งแต่บัดนั้น
"80 ปีที่แล้ว เครื่องปรุงที่นำมาใช้ทำข้าวผัดรถไฟ อย่างเช่น เนย กุนเชียง ถั่วลันเตา ซอสมะเขือเทศ ต้องนำเข้าจากต่างประเทศทั้งหมด อาหารจานนี้จึงไม่ใช่อาหารธรรมดาที่หากินได้ทั่วไปเหมือนทุกวันนี้"
วรรณภา รักษ์แก้ว ผู้อำนวยการฝ่ายการสื่อสารของกลุ่มโรงแรมและรีสอร์ทในเครือเซ็นทรัล กล่าวถึงเหตุผลที่นำเมนูข้าวผัดรถไฟ และยำเนื้อรถไฟ มาบรรจุไว้เป็นรายการอาหารพิเศษของโรงแรมโซฟิเทล เซ็นทรัล หัวหิน รีสอร์ท เนื่องในโอกาสครบรอบปีที่ 80 ของโรงแรมรถไฟในปี พ.ศ. 2546 นี้
และเพื่อให้ทราบถึงสูตรไปจนถึงกรรมวิธีการทำข้าวผัดรถไฟและยำเนื้อแบบดั้งเดิม ทางการรถไฟแห่งประเทศไทยจึงได้ส่งพ่อครัวการรถไฟฯ คมสัน เทียนทับทิม ที่มีอายุงานร่วม 30 ปี มาเป็นผู้ถ่ายทอดวิทยายุทธให้กับทางพ่อครัวของโรงแรม ไม่ว่าจะเป็นการปรุงน้ำซอส หรือการทำพริกน้ำปลามะนาวที่ต้องใส่กระเทียมโทนลงไปด้วย รวมไปถึงวิธีการย่างเนื้อไม่ให้สุกเกินไป ต้องออกกึ่งสุกกึ่งดิบเล็กน้อยเวลายำออกมาจึงได้รสชาติเนื้อที่ผสมกลมกล่อมกับน้ำยำและเคี้ยวนุ่มไม่แข็งให้รำคาญใจ
ข้าวผัดรถไฟ และ ยำเนื้อรถไฟ ตอนนี้ได้บรรจุไว้ในเมนูห้องอาหาร Railway Restaurant ซึ่งได้รับการออกแบบตกแต่งราวกับจำลองสถานีรถไฟหัวหินมาทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นนาฬิกา ระฆังบอกเวลารถไฟเข้าออก มีเก้าอี้นั่งแบบโบกี้ ไปจนถึงระเบียงหน้าห้องอาหารที่มีลักษณะคล้ายชานชาลาสำหรับนั่งรอรถไฟ
สำหรับเมนูรถไฟที่เปิดบริการในห้องอาหารนี้ มีให้ชิมกันในช่วงมื้อกลางวัน และ เย็น โดยมีการเสริมยำผลไม้เพิ่มเติมเข้าไปอีก ในเรื่องของรสชาติเรียกได้ว่า ต่างกันลิบลับกับที่เราๆ ท่านๆ ที่เคยได้กินกันบนรถไฟสมัยนี้ ช่วงสุดสัปดาห์ถ้าอยากรำลึกความหลังของรสชาติข้าวผัดรถไฟตำรับไฮโซของแท้ มีเคล็ดลับและสูตรมาให้ลองหัดปรุงกันดู
เผื่อว่าจะช่วยสร้างความทรงจำดีๆ ให้เกิดขึ้นกับเมนูบนรถไฟได้ไม่มากก็น้อย
หมายเหตุ : เมนูอาหารรถไฟที่ห้องอาหาร Railway Restaurant โรงแรมโซฟิเทล เซ็นทรัล หัวหิน รีสอร์ท (โทร.032-512021-38) ข้าวผัดรถไฟ 145 บาท ยำเนื้อรถไฟ 115 บาท ยำผลไม้รวม 115 บาท (ราคานี้ยังไม่รวมภาษีและบริการ)