ข่าว รฟท จาก หนังสือพิมพ์

[Mongwin]

"อภิสิทธิ์" เผยจะเชิญชวนจีนร่วมลงทุนปรับปรุงรถไฟ

ปักกิ่ง 24 มิ.ย.52- นายกรัฐมนตรี เผยผลการหารือกับนายกรัฐมนตรีจีน ส่วนใหญ่เน้นความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ และจีนรับปากจะสนับสนุนให้ประชาชนจีนมาท่องเที่ยวในไทย เผยพรุ่งนี้ (25 มิ.ย.) จะพบกับประธานบริษัท China Railway Engineering Corporation ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจที่ดูแลเรื่องรถไฟ เพื่อหารือถึงการปรับปรุงรถไฟ และเชิญชวนให้มาร่วมลงทุน

“มนชนก พัฒนพงศ์” ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวไทย ซึ่งติดตามภารกิจของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เดินทางเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 24 - 27 มิถุนายน 2552 รายงานว่า นายกรัฐมนตรี เปิดเผยผลการหารือกับ นายเวิน เจียเป่า นายกรัฐมนตรีจีน ว่า การหารือกันส่วนใหญ่เป็นเรื่องเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ รวมทั้งความสัมพันธ์ระหว่างภูมิภาค มีการพูดกันถึงเรื่องการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว และเรื่องการเกษตร ซึ่งการลงนามในพิธีสารว่าด้วยข้อกำหนดการตรวจสอบและกักกันโรค สำหรับการขนส่งผลไม้ไทย ที่ส่งผ่านประเทศที่ 3 สู่สาธารณรัฐประชาชนจีน ของกระทรวงการต่างประเทศนั้น จะช่วยเรื่องการส่งสินค้าเกษตรของไทยได้

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนได้เชิญชวนให้จีนมาลงทุนในเมืองไทย ซึ่งเป็นไปตามกรอบเมืองไทยเข้มแข็ง โดยเฉพาะเรื่องระบบกลาง ซึ่งไทยกำลังจะมีการปรับปรุงรถไฟของไทย ซึ่งจีนมีความเชี่ยวชาญเรื่องดังกล่าว และวันพรุ่งนี้ (25 มิ.ย.) ประธานบริษัท China Railway Engineering Corporation ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจ ที่ดูแลเรื่องรถไฟส่วนใหญ่ของจีน จะมาเข้าพบ ซึ่งจะได้มีการพูดคุยกัน และจะมีโอกาสชักชวนมาร่วมลงทุน เพราะรัฐบาลต้องการลงทุนเรื่องทางรถไฟที่จะเชื่อมต่อในภูมิภาค ซึ่งสอดคล้องกับจีนที่สร้างเส้นทางรถไฟมาถึงเวียดนาม และจะขยายต่อมาถึงประเทศกัมพูชา

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องที่หารือกันจะมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาสานต่อ โดยเฉพาะ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ นายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคมนาคม ที่จะเดินทางมาจีน ภายใน 2-3 เดือนข้างหน้า จะมาติดตามเรื่องต่าง ๆ ด้วย ส่วนเรื่องกฎระเบียบต่าง ๆ ที่ยังเป็นปัญหาอุปสรรค ได้มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ศึกษาระยะหนึ่งแล้ว คิดว่าไม่มีปัญหา เชื่อว่าไม่มีประเด็นที่จะต้องแก้กฎหมายมากนัก อยู่ในวิสัยที่จะทำได้เพราะเป็นประโยชน์ของทั้งสองฝ่ายในการลงทุน

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ส่วนเรื่องการท่องเที่ยว รัฐบาลขอให้รัฐบาลจีนทำความเข้าใจกับประชาชนชาวจีน ที่ขณะนี้บางมณฑลของจีนยังมีประกาศเตือนนักท่องเที่ยวจีนไม่ให้เข้ามาท่องเที่ยวในไทย ซึ่งทางจีนยืนยันจะให้การสนับสนุนให้คนจีนมาเที่ยวเมืองไทย .- สำนักข่าวไทย
อัพเดตเมื่อ 2009-06-24 20:00:22

[rodfaithai]

[Mongwin]

จีนสนใจลงทุนระบบรถไฟไทย

ปักกิ่ง 25 มิ.ย.52- นายกรัฐมนตรี หารือกับประธานบริษัท China Railway Engineering Corporation ในโอกาสเดินทางเยือนจีนอย่างเป็นทางการ จีนสนใจลงทุนระบบรถไฟไทย ทั้งลงทุนเอง ร่วมลงทุน หรือให้คำปรึกษา พร้อมให้ความร่วมมือถ่ายทอดเทคโนโลยีและอบรมเจ้าหน้าที่

“มนชนก พัฒนพงศ์” ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวไทย ซึ่งติดตามภารกิจของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เดินทางเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 24-27 มิถุนายน 2552 รายงานว่า การเดินทางเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีน วันที่สอง นายสือ ต้าหัว ประธานบริษัท China Railway Engineering Corporation ซึ่งเป็นบริษัทก่อสร้างทางรถไฟที่ใหญ่ที่สุดของจีน ได้เข้าพบ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จากนั้นนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์รายการ Yanglan One on One ซึ่งเป็นรายการที่มีชื่อเสียงของประเทศจีน

เมื่อเสร็จจากการให้สัมภาษณ์ นายกรัฐมนตรี จะชมงาน Roadshow "Thailand Caravan 2009" ซึ่งเป็นงานแสดงผลไม้ไทย และผลิตภัณฑ์แปรรูปจากผลไม้ไทย เพื่อแนะนำให้คนจีนรู้จักผลไม้ไทยมากขึ้น และช่วงเที่ยง นายอภิสิทธิ์ จะกล่าวสุนทรพจน์ในงาน Lunch Talk Amazing Thailand Amazing Value ให้กับนักธุรกิจจีน และในช่วงบ่ายนายกรัฐมนตรีจะเดินทางด้วยรถไฟความเร็วสูง ไปยังนครเทียนจิน เพื่อเยี่ยมชมการวางผังเมือง เขตเมือง จินไห่ และเยี่ยมชมท่าเรือเกาะทาสี ตงเจียง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการหารือระหว่างนายกรัฐมนตรี กับประธานบริษัท China Railway Engineering Corporation นั้น นายสือ ต้าหัว แสดงความสนใจที่จะเข้ามาลงทุนในระบบรถไฟของไทย เพราะทราบว่าประเทศไทยกำลังจะมีการลงทุนโครงการใหญ่เกิดขึ้นหลายโครงการ ซึ่งคิดว่าถ้าไทยและจีนสามารถร่วมมือกันได้จะเป็นประโยชน์ ขณะที่นายกรัฐมนตรี ได้แสดงความสนใจสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับการก่อสร้าง ระยะเวลาค่าใช้จ่าย ร่วมทั้งค่าใช้จ่ายในการเดินทาง หลังจากสร้างเสร็จแล้ว นอกจากนี้นายอภิสิทธิ์ ได้เชิญให้บริษัทดังกล่าวเข้ามาดูระบบรถไฟในประเทศไทย เพราะไทยกำลังจะปรับปรุงระบบรถไฟ และมีการลงทุนด้านการขนส่งอื่น ๆ ถ้าทางการจีนมีความสนใจ ทางไทยจะส่งรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องมาเจรจาในรายละเอียดต่อไป

นายสือ ต้าหัว ยังกล่าวว่า บริษัทไมได้ก่อสร้างเฉพาะทางรถไฟเท่านั้น แต่ยังก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงด้วย ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ดีที่สุดในโลกขณะนี้ เพราะพัฒนามาจากประเทศญี่ปุ่นและเยอรมนี และทางบริษัท ยินดีที่จะร่วมมือกับไทยทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการเข้ามาลงทุนเอง ร่วมลงทุน หรือมาให้คำปรึกษาก็ได้ ถ้าได้ร่วมมือกัน ยินดีที่จะถ่ายทอดเทคโนโลยี และอบรมเจ้าหน้าที่ให้กับคนไทยด้วย นอกจากนี้ เส้นทางรถไฟความเร็วสูงจากปักกิ่ง ไปนครเทียนจิน ที่นายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปวันนี้ มีความยาว 128 กิโลเมตร จะไม่มีรอยต่อ ทำให้รถไฟวิ่งได้เรียบ.-สำนักข่าวไทย
อัพเดตเมื่อ 2009-06-25 11:16:21

[Wisarut]

รายละเอียดเพิ่มเติมที่ ท่านากฯ เจรจากับจีนแผ่นดินใหญ่เรื่องรถไฟ อ่านได้ที่นี่ครับ

http://www.manager.co.th/Business/ViewNews.aspx?NewsID=9520000071947

[nop2]

ถ้าเค้ามาช่วยสร้างระบบรางในบ้านเรา รถไฟบ้านเราจะวิ่งได้เร็วเท่าจีนรึเปล่าครับ(กรณีเปลี่ยนระบบรางให้เหมือนกับบ้านเค้า) หรือทำราง 1เมตรบ้านเราให้ถึงขีดสุด
_________________
"You are star I am darkness Our love brighter than the sun .."

[Mongwin]

นายกฯ สนใจโครงการรถไฟความเร็วสูง

ปักกิ่ง 25 มิ.ย.52 - “อภิสิทธิ์” ระบุหากไทยจะลงทุนโครงการรถไฟความเร็วสูง ต้องศึกษารายละเอียด เส้นทาง และความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจ เผยทางจีนยินดีให้ความร่วมมือกับไทย



“มนชนก พัฒนพงศ์” ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวไทย ซึ่งติดตามภารกิจของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เดินทางเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 24-27 มิถุนายน 2552 รายงานว่า ในช่วงบ่ายวันนี้ (25 มิ.ย.) นายกรัฐมนตรีได้เดินทางด้วยรถไฟความเร็วสูงไปเยี่ยมชมนครเทียนจิน ซึ่งรัฐบาลจีนกำลังพัฒนาให้เป็นเขตเศรษฐกิจใหม่ลำดับที่ 3 ของจีน ต่อจากเมืองเสิ่นเจิ้น และเมืองปู่ตง ของเซี่ยงไฮ้ โดยนครเทียนจินเป็นเมืองท่าที่เป็นประตูสู่ทางเหนือของจีน

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า จากการนั่งรถไฟความเร็วสูงวันนี้เป็นตัวบ่งชี้ว่าถึงเวลาที่ประเทศไทยจะต้องมีรถไฟความเร็วสูงหรือไม่ ซึ่งนายสือ ต้าหัว ประธานบริษัท China Railway Engineering Corporation ซึ่งเป็นบริษัทก่อสร้างทางรถไฟที่ใหญ่ที่สุดของจีน ได้เข้าพบในช่วงเช้า และยินดีที่จะให้ความร่วมมือกับไทย ตามโครงการไทยเข้มแข็ง ซึ่งจะต้องมีการศึกษารายละเอียดเพิ่มมากขึ้น และหากมีการลงทุน ก็ต้องมีการศึกษาความคุ้มค่าทางธุรกิจด้วย เพราะจะมีต้นทุนสูงกว่าปกติถึง 3 เท่า เพราะต้องเริ่มใหม่หมด และต้องมีการศึกษาเส้นทาง อย่างไรก็ตาม ภายใน 2 เดือน จะมีความคืบหน้าในเรื่องการปรับปรุงและพัฒนาระบบรางของไทย โดยนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี และนายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม จะมาพูดคุยในรายละเอียด เพื่อนำไปสู่แนวทางปฏิบัติที่เหมาะสม

ต่อข้อถามว่าถ้าจะมีการลงทุนในรถไฟความเร็วสูงจะกระทบต่อแผนฟื้นฟูรถไฟหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า แผนฟื้นฟูรถไฟจะแบ่งเป็นการดูแลระบบราง ดูแลตัวรถ และการพัฒนาทรัพย์สิน ซึ่งการลงทุนในระบบรางมีความจำเป็นต้องทำ แต่ต้องอยู่ในรูปแบบที่ไม่กระทบกับแผนฟื้นฟูกิจการของการรถไฟ

นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงงาน Roadshow "Thailand Caravan 2009" ซึ่งเป็นงานแสดงผลไม้ไทยและผลิตภัณฑ์แปรรูปจากผลไม้ไทย ว่า มีการพูดคุยกับภาคธุรกิจจีนเรื่องผลไม้ไทย โดยเฉพาะลำไย ที่ต้นเดือนหน้าผลผลิตจะออกมามาก และแนวโน้มการตลาดค่อนข้างดี แต่ที่สำคัญอยู่ที่ภาคสินค้าและการขนส่ง ได้มอบหมายให้นายวีระชัย วีระเมธีกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ดูแลรายละเอียด รวมทั้งเรื่องการท่องเที่ยวด้วย.-สำนักข่าวไทย
อัพเดตเมื่อ 2009-06-25 18:06:54

[Wisarut]

ปลุกผี กรมรถไฟ - สนข.ชี้แก้เบ็ดเสร็จ
สยามธุรกิจ ฉบับที่ 1008 ประจำวันที่ 24- 26 มิถุนายน -2009

สนข. ผุดไอเดียใหม่พัฒนากิจการรถไฟไทย เล็งปลุกผี กรมรถไฟ เพิ่มบทบาท ภาครัฐเข้ามาลงทุนโครงสร้างพื้นฐานทางราง ยกระดับเทียบเท่ากรมทางหลวง ส่วนร.ฟ.ท.มีหน้าที่เดินรถและซ่อมบำรุง เชื่อจะเป็นทางออกในการแก้ปัญหาระยะยาว ส่วนกรณีการหยุดเดินไฟทั่วประเทศเมื่อวันที่ 22 มิ.ย.ที่ผ่านมานั้นล่าสุดตัวเลขความเสียหาย ในเบื้องต้นกว่า 15 ล้านบาท

จากกรณีที่สหภาพพนักงานรัฐวิสาหกิจ การรถไฟแห่งประเทศไทย สร.ร.ฟ.ท. ประกาศ หยุดเดินรถไฟทั่วประเทศเมื่อวันที่ 22 มิ.ย.ที่ผ่านมา สร้างความเดือดไปทั่วประเทศ เนื่อง จากไม่มีการแจ้งล่วงหน้ามาก่อนจึงทำให้มีผู้โดยสารตกค้างตามสถานีต่างๆ ทั่วประเทศเป็น จำนวนมาก ซึ่งสาเหตุของการหยุดเดินรถใน ครั้งนี้ เพื่อคัดค้านมติครม.เมื่อวันที่ 3 มิ.ย. 2552 ที่ให้มีการแยกการรถไฟฯ ออกเป็น 3 ส่วน คือ

1.การรถไฟแห่งประเทศไทยเดิม
2.บริษัท เดินรถไฟ และ
3.บริษัท บริหารทรัพย์ สิน

ซึ่งจากการประเมินของร.ฟ.ท. ความเสียหายในวันแรก (22 มิ.ย.) 15 ล้านบาท

ทั้งนี้ การหยุดเดินรถในครั้งถือว่าเป็นครั้ง 3 ในรอบ 3 ปีติดต่อกันแล้ว โดยครั้งแรก เมื่อวันที่ 31 ต.ค. 50 มูลค่าความเสียหายกว่า 10 ล้านบาท ครั้งที่ 2 วันที่ 28 ส.ค.-12 ก.ย.51 มูลค่าความเสียหายกว่า 120 ล้านบาท ซึ่งล้วน แล้วแต่มีสาเหตุมาจากเรื่องการปรับโครงสร้าง ทั้งสิ้น จึงมีการตั้งข้อสังเกตว่า ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลใดก็ตามที่หยิบเรื่องนี้มาพูดก็จะเป็นเช่นนี้ แล้วทางออกในการแก้ปัญหาจะอยู่ที่ไหนนั้น

ดร.จุฬา สุขมานพ รองผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) กล่าวกับ “สยามธุรกิจ”ว่า ความจริงนั้นก่อนหน้านี้กระทรวงคมนาคมได้มี การเปลี่ยนแนวคิดใหม่ โดยให้ สนข.ไปศึกษา รายละเอียดเกี่ยวกับภาพรวมของการพัฒนา กิจการรถไฟ ซึ่งเป็นภาพที่ใหญ่มาก เทียบเท่า กับการพัฒนาการขนส่งทางถนน และการพัฒนาการขนส่งทางน้ำ ซึ่งถือว่าเป็นการเปลี่ยนแนวคิดใหม่ โดยภาครัฐจะมีส่วนเข้ามา เกี่ยวข้องมากขึ้น เช่น รัฐจะเข้ามาลงทุนในเรื่องโครงสร้างพื้นฐาน โดยจะมีการตั้งองค์กร ขึ้นมากำกับดูแลในรูปของ “กรมรถไฟ” ซึ่งทำหน้าที่ในการเป็นผู้คอยกำกับตาม นโยบาย ในการใช้งบประมาณของรัฐในการพัฒนาลงทุนเส้นทางรถไฟ และการเปิดโอกาสให้เอกชนเข้ามารับสัมปทานหากจำเป็น

ส่วนการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) จะเป็นส่วนหนึ่งในภาพใหญ่นั้น โดยจะมีหน้าที่ในการให้บริการเดินรถ ดูแลและซ่อมบำรุง รางรถไฟ ซ่อมบำรุงตัวรถไฟ ขณะที่การบริหาร หนี้สินของการรถไฟฯ นั้นก็จะต้องมีการบริหาร จัดการที่ดี โดยจะต้องมีการหยุดจ่ายหนี้สินไว้ก่อน แม้ว่าจะนำเอากิจการรถไฟกลับไปสู่ความเป็นราชการอีกครั้ง ก็ไม่น่าจะก่อให้เกิด ความล่าช้าขึ้นแต่อย่างใด

ส่วนการปรับโครงสร้างรถไฟนั้น เป็นนโยบายของกระทรวงการคลังที่ต้องการหยุด การไหลของเลือด เนื่องจากการรถไฟฯ ขาด ทุนสะสมมามากถึงกว่า 70,000 ล้านบาท จึง ต้องการให้ร.ฟ.ท.มีการบริหารจัดการมีประสิทธิภาพก่อน เพราะถือว่าเป็นเรื่องเร่งด่วน ก่อนการพูดในเรื่องภาพใหญ่ แต่สุดท้ายก็จะเดินไปสู่เป้าหมายเดียวกันคือ ร.ฟ.ท.จะดูแลเรื่องการเดินรถ และการบำรุงรักษา ส่วนภาค รัฐจะเข้ามาดูเรื่องโครงสร้างพื้นฐาน ลงทุนสร้างระบบรางเช่นเดียวกับกรมทางหลวง

อนึ่งกรณีการหยุดเดินรถไฟทั่วประเทศเมื่อวันที่ 22 มิ.ย.ที่ผ่านมา “สยามธุรกิจ” ได้ สอบถามประชาชนที่ใช้รถไฟในการเดินทางเข้าออกกรุงเทพฯ ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า รู้สึกผิดหวังกับร.ฟ.ท.เพราะการหยุดเดินรถดังกล่าวสร้างความเดือดร้อนอย่างมาก ทำให้ไม่สามารถเดินทางไปทำงานได้ตามปกติที่สำคัญคือไม่มีการแจ้งล่วงหน้ามาก่อน ดังนั้นจึงขอประณามการกระทำของสหภาพฯ รถไฟใน ครั้งนี้ว่า เป็นการกระทำที่ไร้สามัญสำนึกของ หน่วยงานซึ่งมีหน้าที่ในการให้บริการประชาชน นอกจากนี้คนที่จะเดินทางไปยังต่างจังหวัดก็ไม่สามารถเดินทางได้ ต้องตกค้างนานเป็นความเดือดร้อนอย่างยิ่ง

ด้านนายยุทธนา ทัพเจริญ ผู้ว่าการ ร.ฟ.ท. กล่าวแสดงความเสียใจและขออภัยต่อ เหตุการณ์การหยุดเดินรถ ทั้งนี้จะเร่งแก้ไขสถานการณ์ให้กลับคืนสู่สภาพปกติ โดยจะเร่ง เจรจากับสหภาพฯเพื่อหาข้อยุติให้ได้โดยเร็ว เพราะยังมีความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนกันอยู่ พร้อมยืนยันว่า จะดำเนินการปรับปรุงการรถไฟฯ ตามแผนฟื้นฟู เพื่อประโยชน์ของการ รถไฟฯ ประชาชน และประเทศชาติอย่างแท้ จริง ไม่ใช่การแปรรูปรัฐวิสาหกิจอย่างที่เข้าใจ

[RORONOA]

สำหรับผมเห็นด้วยกับแนวคิดตั้งกรมรถไฟครับ เพราะดูเป็นการแก้ปัญหาระยะยาว ที่สำคัญเป็นหลักประกันที่(น่าจะ)ทำให้เชื่อว่ารถไฟ(คงจะ)ไม่ถูกแปรรูปอย่าง(ค่อนข้าง)แน่นอน เพราะผู้ที่เป็นเจ้าของรางย่อมเป็นกรมรถไฟ หรืออีกนัยหนึ่งก็คือสมบัติของประเทศ แล้วก็มีหน่วยงาน รฟท.ทำหน้าที่หลักในการเดินรถและอื่นๆ และมีบริษัทบริหารงานในส่วนที่ทำกำไรเพื่อให้เกิดความคล่องตัว ผมเชื่อว่า(น่าจะ)เป็นทางออกที่ดีและทุกคนยอมรับได้นะครับ

[Wisarut]

บุรีรัมย์ระดมปรับภูมิทัศน์สถานีรถไฟรับ “นายกฯมาร์ค” - ผู้ว่าฯ คุมเข้มหวั่น “แดงถ่อย” ป่วน

ดูวีดีโอประกอบจาก Manager Multimedia






โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 3 กรกฎาคม 2552 16:15 น.
บุรีรัมย์ – เร่งระดม จนท.ทำความสะอาดปรับปรุงภูมิทัศน์รอบสถานีรถไฟ เตรียมต้อนรับนายกฯ มาร์คและคณะ เดินทางมาตรวจเยี่ยม และรับทราบปัญหาปชช.บุรีรัมย์ พร้อมเป็นประธานเปิดห้องสมุดตู้รถไฟ 11 ก.ค.นี้ ขณะผู้ว่าฯ เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง วางมาตรการเข้มรักษาความปลอดภัยหวั่นม็อบแดงถ่อยป่วน

วันนี้ (3 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณสวนสาธารณะหน้าสถานีรถไฟบุรีรัมย์ นายสวัสดิ์ ปานน้อย นายสถานีรถไฟบุรีรัมย์ พร้อมด้วย นางปาลีรัตน์ สมานประธาน นายกเทศมนตรีเมืองบุรีรัมย์ และคณะ ได้ตรวจดูความคืบหน้าการจัดเตรียมสถานที่ติดตั้งห้องสมุดตู้รถไฟ โดยทางสถานีรถไฟบุรีรัมย์ร่วมกับเทศบาลเมือง ได้ระดมเจ้าหน้าที่ และพนักงาน เร่งทำความสะอาด ทาสีป้าย และภายในอาคารที่ทำการสถานี พร้อมปรับปรุงภูมิทัศน์โดยรอบ 2 ข้างทางรถไฟ

ทั้งนี้ เพื่อเตรียมความพร้อมต้อนรับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ ที่จะเดินทางมาตรวจเยี่ยมและรับทราบปัญหาของประชาชนที่ จ.บุรีรัมย์ ในวันที่ 11 ก.ค.นี้ พร้อมทั้งเป็นประธานเปิดห้องสมุดตู้รถไฟ ที่บริเวณสวนสาธารณะหน้าสถานีรถไฟ ในเขตเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ เพื่อเป็นแหล่งศึกษาค้นคว้าความรู้ของนักเรียน นักศึกษา และประชาชนทั่วไป

นายสวัสดิ์ ปานน้อย นายสถานีรถไฟบุรีรัมย์ กล่าวว่า ขณะนี้ทางการรถไฟแห่งประเทศไทย ได้เร่งดำเนินการปรับแต่งตู้รถไฟให้เป็นห้องสมุด อยู่ที่สถานีรถไฟ จ.นครราชสีมา ก่อนที่จะเคลื่อนย้ายมาติดตั้งที่บริเวณสวนสาธารณะหน้าสถานีรถไฟบุรีรัมย์ ในวันที่ 6 ก.ค.

ขณะที่ นางปาลีรัตน์ สมานประธาน นายกเทศมนตรีเมืองบุรีรัมย์ กล่าวว่า หากตู้รถไฟมาถึงสถานีรถไฟบุรีรัมย์ เทศบาลจะปรับภูมิทัศน์รอบห้องสมุดตู้รถไฟ ให้เกิดความสวยงาม และจะเปิดให้บริการอินเตอร์เน็ตฟรีด้วย เพื่อรองรับประชาชนที่จะมาใช้บริการ รวมทั้งติดตั้งไฟฟ้าแสงสว่างโดยรอบสวนสาธารณะ เพื่อป้องกันการมั่วสุมของกลุ่มวัยรุ่นและการก่อเหตุในบริเวณดังกล่าวด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า วันเดียวกันนี้ (3 ก.ค.) นายมงคล สุระสัจจะ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ ได้เรียกประชุมหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เพื่อเตรียมการต้อนรับ และวางมาตรการในการรักษาความปลอดภัยให้กับนายกรัฐมนตรี และคณะที่จะเดินทางมา จ.บุรีรัมย์อย่างเข้มงวด เนื่องเกรงว่าจะมีกลุ่มคนไม่หวังดี หรือกลุ่มม็อบต่างๆ โดยเฉพาะกลุ่มม็อบเสื้อแดง มาสร้างสถานการณ์ก่อความวุ่นวายในครั้งนี้ด้วย

[nop2]

http://www.thairath.co.th/content/region/17275

กิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืน .38 ยิงทหารสังกัดหน่วยข่าวกรอง ปัตตานี กระสุนเจาะกลางหน้าผากเสียชีวิตคาที่ ขณะกำลังนั่งหลับบนรถไฟสายกรุงเทพฯ - ยะลา ช่วงผ่านจังหวัดประจวบคีรีขันธ์...

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณเที่ยงคืนเศษ วันนี้ (4 ก.ค.) ร.ต.อ.สมมาตร สังข์ทอง ร้อยเวรสถานีตำรวจภูธร อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ ได้รับแจ้งเหตุคนร้ายไม่ทราบจำนวน ใช้อาวุธปืนยิงผู้โดยสารเสียชีวิต บนรถไฟ กรุงเทพฯ - ยะลา ขบวนที่ 169 เดินทางไปยังที่เกิดเหตุ พบศพ จ.ส.อ.บุญโญ ลำดับพงศ์ ทหารสังกัดหน่วยข่าวกรอง กองบัญชาการทหารสูงสุด อายุ 45 ปี นั่งเสียชีวิตที่เบาะ ที่นั่งผู้โดยสาร สภาพศพ ถูกยิงด้วยกระสุนปืนเข้าที่กลางหน้าผาก กระสุนทะลุหลังศีรษะ โดยในที่เกิดเหตุ พบหัวกระสุนปืนขนาด .38 จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

จาก การสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า จ.ส.อ.บุญโญ เป็นนายทหารการข่าวที่ได้ประจำการอยู่ที่ จ.ปัตตานี และได้เดินทางกลับมาบ้านที่ จ.ราชบุรี หลังจากเสร็จภารกิจ จึงได้เดินทางกลับมาภาคใต้ เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ ในขณะที่มาถึง อ.ทับสะแก ผู้โดยสารกำลังหลับสนิท มีเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด พบว่า จ.ส.อ.บุญโญ ถูกยิงเสียชีวิตแล้ว ส่วนสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวน โดยยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นเรื่องส่วนตัวหรือ เหตุความไม่สงบ ล่าสุด ตำรวจสามารถจับคนร้ายได้แล้ว ที่ จ.ชุมพร โดยนั่งปะปนอยู่กับผู้โดยสาร พร้อมอาวุธปืน ของกลาง
_________________
"You are star I am darkness Our love brighter than the sun .."