นั่งรถไฟเที่ยวชัยภูมิ

[ksomchai]

ภายในยังมีศาลอีกหลังหนึ่ง ครับ สร้างเมื่อ พ.ศ.๒๔๙๔ ซึ่งองค์เจ้าพ่อประดิษฐานอยู่ที่นี่
ประมาณว่าสร้งศาลหลังใหม่ครอบหลังเก่า เนื่องจากปัจจุบันมีผู้มาไหว้เจ้าพ่อพระยาแลมากขึ้นเรื่อย ๆ


องค์เจ้าพ่อพระยาแล ครับ ผู้คนมากราบไหว่อย่างไม่ขาดสาย ทุกคนที่เป็นคนชัยภูมิ ถือว่าเป็นลูกหลานเจ้าพ่อพระยาแลทุกคน


ข้าง ๆ องค์เจ้าพ่อพระยาแล มีแท่นประวัติของท่านประดิษฐาน อยู่




ประวัติพระยาภักดีชุมพล

เดิมชื่อ"แล" เป็นชาวนครเวียงจันทน์ เคยรับราชการเป็นพี่เลี้ยงราชบุตรในเจ้าอนุวงศ์แห่งอาณาจักรล้านช้าง (ขณะนั้นเป็นประเทศราชของไทย) ในสมัยรัชกาลที่ ๒ พ.ศ. ๒๓๖๐ นายแลได้อพยพไพร่พลข้ามแม่น้ำโขงมาตั้งบ้านเรือนที่บ้านน้ำขุ่นหนองอีจาน (อยู่ในเขตอำเภอสูงเนิน จังหวัดนครราชสีมา) ต่อมาได้ย้ายไปตั้งใหม่ที่บ้านโนนน้ำอ้อม บ้านชีลอง (อยู่ในเขตอำเภอเมืองชัยภูมิ) และได้ทำราชการส่งส่วยต่อเจ้าอนุวงศ์ เจ้าอนุวงศ์จึงตั้งให้นายแลเป็นที่ขุนภักดีชุมพลนายกองนอก
ใน พ.ศ. ๒๓๖๕ ขุนภักดีชุมพลได้ย้ายชุมชนมาอยู่ที่บ้านหลวง ซึ่งอยู่ระหว่างบ้านหนองหลอดกับบ้านหนองปลาเฒ่า ในเขตอำเภอเมืองชัยภูมิปัจจุบัน เนื่องจากสถานที่เดิมเริ่มคับแคบ ไม่พอกับจำนวนพลเมืองที่เพิ่มขึ้น
พ.ศ. ๒๓๖๗ ได้ที่การพบบ่อทองที่บริเวณลำห้วยชาด นอกเขตบ้านหลวง ขุนภักดีชุมพลจึงได้นำทองในบ่อนี้ไปส่วยแก่เจ้าอนุวงศ์และขอยกฐานะบ้านหลวงขึ้นเป็นเมือง เจ้าอนุวงศ์จึงประทานชื่อเมืองแก่ขุนภักดีชุมพลว่า เมืองไชยภูมิ และเลื่อนบรรดาศักดิ์ให้เป็นพระภักดีชุมพล ทว่าต่อมาพระภักดีชุมพลได้ขอเอาเมืองไชยภูมิขึ้นตรงต่อเมืองนครราชสีมา และส่งส่วยแก่กรุงเทพมหานครแทน ไม่ขึ้นแก่เจ้าอนุวงศ์เวียงจันทน์อีกต่อไป[ต้องการอ้างอิง] พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ยกบ้านหลวง(เมืองไชยภูมิ)เป็นเมืองชัยภูมิ และแต่งตั้งพระภักดีชุมพล (แล) เป็นพระยาภักดีชุมพล (แล) เจ้าเมืองชัยภูมิคนแรก สร้างความไม่พอใจแก่ทางฝ่ายเวียงจันทน์อย่างมาก
ในสมัยรัชกาลที่ ๓ พ.ศ. ๒๓๖๙ เจ้าอนุวงศ์ก่อการกบฏต่อกรุงเทพเพื่อแยกตัวเป็นเอกราช โดยยกทัพเข้าตีเมืองนครราชสีมา แต่เห็นว่าจะทำการต่อไปได้ไม่ตลอด จึงเผาเมืองนครราชสีมาทิ้ง[ต้องการอ้างอิง] และถอนทัพกลับไปตั้งรับที่เวียงจันทน์ ระหว่างทางกองทัพเจ้าอนุวงศ์เกิดความปั่นป่วนจากการลุกฮือของครัวเรือนที่กวาดต้อนไปเวียงจันทน์ ขณะพักทัพอยู่ที่ทุ่งสำริด พระยาภักดีชุมพล (แล) ได้ยกทัพไปสมทบกับคุณหญิงโมและครัวเรือนชาวเมืองนครราชสีมา ทำการตีกระหนาบกองทัพของเจ้าอนุวงศ์จนแตกพ่าย เจ้าอนุวงศ์เกิดความแค้นที่พระยาภักดีชุมพลไม่ยอมให้ความร่วมมือกับฝ่ายลาว ซ้ำยังยกทัพมาช่วยฝ่ายไทยตีกระหนาบทัพลาวอีกด้วย จึงย้อนกลับมาเมืองชัยภูมิ จับตัวพระยาภักดีชุมพล (แล) ประหารชีวิต ที่บริเวณใต้ต้นมะขามริมหนองปลาเฒ่า

การเสียชีวิตของพระยาภักดีชุมพล (แล) ในครั้งนั้น เป็นเหตุการณ์สำคัญที่ชาวเมืองชัยภูมิจดจำตลอดมา และระลึกถึงว่าเป็นวีรกรรมครั้งสำคัญของท่าน ต่อมาชาวเมืองชัยภูมิจึงเรียกขานท่านด้วยความเคารพว่า "เจ้าพ่อพญาแล" และได้มีการสร้างศาลไว้ตรงสถานที่ที่พระยาภักดีชุมพล (แล) ถูกประหารชีวิต ที่บ้านหนองปลาเฒ่า อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ ริมทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๒๒๕ (ชัยภูมิ - บ้านเขว้า) ต่อมาใน พ.ศ. ๒๕๑๑ ทางราชการได้สร้างศาลขึ้นใหม่ ให้ชื่อว่า "ศาลพระยาภักดีชุมพล (แล)" และจัดให้มีงานสักการะเจ้าพ่อพญาแลทุกปี โดยเริ่มจากวันพุธ แรกของเดือน ๖ เป็นเวลา ๗ วัน เรียกว่า "งานเทศกาลบุญเดือนหก ระลึกถึงความดีของ เจ้าพ่อพญาแล" ถือเป็นงานใหญ่ประจำปีของชาวชัยภูมิ และใน พ.ศ. ๒๕๑๘ ทางราชการร่วมกับพ่อค้าและประชาชนชาวชัยภูมิ สร้างอนุสาวรีย์ของพระยาภักดีชุมพล (แล) ประดิษฐานอยู่ตรงวงเวียนศูนย์ราชการ ปากทางเข้าสู่ตัวเมืองชัยภูมิ

ลูกหลานของพระยาภักดีชุมพล (แล) ที่ได้รับราชการเป็นเจ้าเมืองชัยภูมิคนต่อๆ มา ล้วนได้รับยศและบรรดาศักดิ์เป็นที่พระยาภักดีชุมพลทุกคน รวมทั้งสิ้น ๕ คน ส่วนเจ้าพ่อพญาแลได้เป็นพระยาภักดีชุมพลได้ ๔ ปี เป็นเจ้าเมืองชัยภูมิถึง ๑๐ ปี


จากการที่ผมได้เคยอ่านประวัติ ของพระยาภักดีชุมพล(เจ้าพ่อพระยาแล) ได้ทราบถึงคุณงามความดีของท่าน
ในการที่ท่านรวบรมไพร่พลมาตั้งเมือง ชัยภูมิ และมีความจงรักภักดีกับพระมหากษัตริย์ไทย และไม่ยอมเป็นกบฏฝ่ายศัตรู
ในที่สุดท่านก็ถูกฝ่ายศัตรูจับประหารชีวิต ทำให้ผมศรัทธาท่านมาก เป็นแรงดลใจให้ผมมาเที่ยวชัยภูมิ ในครั้งนี้ครับ

_________________

[ksomchai]

จากศาลเจ้าพ่อพระยาแลมองออกมาทางด้านหน้า หนองปลาเฒ่า ครับ


หน้าศาลเจ้าพ่อพระยาแลจะมีต้นบายศรี ตั้งอยู่ เอกลักษณ์อย่างหนึ่งของ จ.ชัยภูมิ ครับ


ถัดไปก็เป็นเต่ายักษ์ ครับ ซึ่งเต่ายักษ์นี้มีประวัติมาพร้อมกับศาลเจ้าพ่อพระยาแล แต่ปัจจุบันไม่มีของจริงแล้ว เหลือแต่รูปปั้นที่เห็น
ในกรงเหล็กนั้นเลี้ยงเต่าไว้มากมาย


แล้วต้นมะขามเฒ่าที่ พระยาภักดีชุมพลถูกประหารชีวิตล่ะ

จากสอบถามชาวบ้าน ต้นมะขามต้นนี้ก็ยังอยู่นะ ครับ เดี๋ยวพาไปชม
_________________

[ksomchai]

ด้านขวามือของศาลเจ้าพ่อพญาแล ห่างออกไปประมาณ ๑๐๐ เมตรมองเห็นต้นมะขาม ใหญ่อยู่ต้นหนึ่งแตกเป็นกอ ออกเป็น ๔ ต้น
ข้าง ๆ เห็นซุ้มประตูเมืองชัยภูมิ ทางหลวงหมายเลข ๒๒๕ ไป อ.บ้านเขว้า

ใต้ต้นมะขามต้นนี้ที่พระยาภักดีชุมพล (เจ้าพ่อพระยาเเล)ถูกสังหาร ใต้ต้นมะขาม มีศาลอยู่ ให้ คนเคารพสักการะ อายุน่าจะมากกว่า ๒๐๐ ปี


มองขึ้นไปบนต้น กำลังออกฝักใหญ่ อยากจะเก็บมาชิมสักฝัก และเมล็ดแก่มาเพาะปลูกที่บ้านไว้สักการะบูชา แต่เกรงเจ้าพ่อจะดุเอา


สภาพอากาศตอนเที่ยงที่นี่เย็นสบาย ครับ เดินไปที่ริมหนองปลาเฒ่าชมเรือวิทยุใช้บังคับ เพลินดี


ส่องไปทางฝั่งที่ผมเข้ามาเมื่อสัก ครู่ หนองน้ำกว้างใหญ่ ตรงศาลาที่มองเห็นมีสภาพเป็นเกาะครับ

_________________

[ksomchai]

ที่ท่าน้ำหนองปลาเฒ่า จัดเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจ มีแผงลอยขายสินค้าที่ระลึกพร้อมทั้งอาหาร และ เครื่องดื่มหลายร้าน
ที่ผมติดใจก็คือ นี่ ครับขนมโบราณ เคยกินมาแต่เด็ก ๆ ชัยภูมิเรียก "ขนมดอกบัว" แต่บ้านผมเรียก "ขนมฝักบัว" ครับ

ใส่ใบเตยด้วย แป้งออกสีเขียว อร่อยหอมใบเตย


ข้างศาลเจ้าพ่อพระยาแล ด้านขวามือ มีศาลเล็ก ๆ อยู่หลังหนึ่ง เป็นศาลบริวาร เจ้าพ่อพระยาแล


ข้ามถนนมาอีกฝั่งหนึ่ง เป็นศาลเจ้าพ่อพระยาแลอีกหลังหนึ่ง ผมขออนุญาต เรียกว่า บ้านของเจ้าพ่อพระยาแล ก็แล้วกันนะ ครับ

_________________

[ksomchai]

เดินเข้าไปดูด้านใน ไหว้เจ้าพ่อพระยาแลกัน ครับ


ด้านหลังองค์เจ้าพ่อ ครับ


ภายในบ้านเจ้าพ่อพระยาแลนี้ อากาศเย็นดีมาก ผมอยู่ที่นี่ จนตะวันบ่าย คล้อย แดดร่มลมตก จึงลาเจ้าพ่อ เดินทางกลับเข้าเมืองชัยภูมิ
_________________

[devilbest]

เป็นตาม่วนคักๆ ภาพแต่ล่ะภาพ บรรยายเอาผมเคลิ้มเลยครับ นึกว่าไปเองจริงๆ จะชมต่อจนกลับเลยครับ
_________________
Rotfaithai is Number 1 in my heart.
And I am a real Rotfaithai.

[Typhoon]

สวัสดีครับอาสมชาย ตามมาเที่ยวชัยภูมิด้วยคนครับ
เสียดายช่วงที่ผมไปชัยภูมิไม่ได้ไปเที่ยวที่ไหนเลย ทำงานตลอดทั้งวัน เอาไว้คราวหน้าไปอีกรอบจะตามรอยบ้างนะครับ


_________________

[ksomchai]

สวัสดี ครับ น้อง Typhoon ยังคิดถึงกันอยู่นะ มาเที่ยวชัยภูมิยังไม่จุใจเลย อยู่ดีมีแฮง คงได้กลับมาไหว้เจ้าพ่อพระยาแลอีก
ขอบคุณ มากครับ สำหรับคำแนะนำ การเดินทางไปชัยภูมิและสถานที่ทอ่งเที่ยวที่ขัยภูมิ



สุดท้ายของการเที่ยวชัยภูมิ ผมไปที่เทศบาลเมืองชัยภูมิ ครับ อยู่ไม่ไกลจากโรงแรมที่พักเท่าไหร่
ก่อนถึงสำนักงานเทศบาลเมือง อยู่เยื้อง ๆ กันเป็นสำนักงานอุตุนิยมวิทยา ชัยภูมิ ครับ ดูสภาพอากาศของวันนี้ ครับ

ลมตะวันออกเฉียงเหนือ บ้านผมเป็นลมตะวันออก ครับ

อาคารเทศบาลเมืองชัยภูมิ อาคาร ๓ ชั้น หลังคาทรงไทย สวยงาม ครับ เหมือนกับสำนักงานเทศบาลที่อื่น ๆ
แต่อาคารสำนักงานเทศบาลรุ่นใหม่บางแห่งรูปแบบเปลี่ยนไป แต่ผมชอบาคารแบบนี้มากกว่า เพราะเป็นเอกลักษณ์ไทย


ถนนด้านหน้าเทศบาลปลูกต้นไม้สวยงาม ถนนโล่งดีจัง อยากให้ กรุงเทพ ฯ ถนนโล่งแบบนี้ทุกสาย คนกรุงจะได้หายใจสะดวกขึ้น

_________________

[ksomchai]

อาคารสำนักงานเทศบาลเมืองชัยภุมิ มองด้าน ข้าง ครับ


จากถนนด้านข้างผมเดินออกไปทางด้านหลังเทศบาล ซึ่ง ถนนด้านหลังจะแปรเป็นถนนคนเดินในช่วงเย็นไปตลอดพลบค่ำ ครับ


สินค้าที่นี่ส่วนใหญ่ เป็นประเภทอาหาร นี่คือตัวอย่างหนึ่ง ของอาหารที่นี่ อาหารประภาคอิสาน
นอกจากส้มตำมะละกอแล้ว ยังมีส้มตำอื่น ๆ อีกมามาย อร่อย ครับเจ้านี้ ราคาไม่แพง ผมซื้อตำผลไม้รวมไปรับประทานที่ห้องพักด้วย

_________________

[ksomchai]

บรรยากาศถนนคนเดิน ตอน ค่ำ ครับ


ดึกแล้วกลับที่พัก นอนเอาเเรงพรุ่งนี้เดินทางกลับ ครับ

ปิดท้ายวันนี้ที่ชัยภูมิ ครับ