View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44631
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 14/01/2013 10:13 pm Post subject: |
|
|
สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจรจัดสัมมนารับฟังความคิดเห็นของประชาชนต่อโครงการศึกษาและออกแบบรถไฟความเร็วสูงสายกรุงเทพ-เชียงใหม่ ที่จังหวัดเชียงใหม่
กรมประชาสัมพันธ์ นำเสนอโดย ราตรี จักร์แก้ว เมื่อ 14 มกราคม 2556 21:26
สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจรจัดสัมมนารับฟังความคิดเห็นของประชาชนต่อโครงการศึกษาและออกแบบรถไฟความเร็วสูงสายกรุงเทพ-เชียงใหม่ ระยะที่ 1 กรุงเทพฯ-พิษณุโลก เพื่อรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะไปประกอบการดำเนินการตามโครงการ ในวันอังคารที่ 22 มกราคม 2556 ณ โรงแรมดิเอ็มเพรส จังหวัดเชียงใหม่
นายจุฬา สุขมานพ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร เปิดเผยว่า สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) อยู่ระหว่างดำเนินงานโครงการศึกษาและออกแบบรถไฟความเร็วสูงสายกรุงเทพฯ เชียงใหม่ ระยะที่ 1 กรุงเทพฯ พิษณุโลก ซึ่งเป็นการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาลในการพัฒนาระบบคมนาคมขนส่งทางรางโดยเชื่อมโยงโครงข่ายและการบริหารจัดการขนส่งผู้โดยสาร สินค้าและบริการที่สะดวก ปลอดภัย ทั้งในพื้นที่ชนบท พื้นที่เมือง และระหว่างประเทศ ดังนั้น จึงได้กำหนดจัดสัมมนารับฟังความคิดเห็นของประชาชน ครั้งที่ 1 เพื่อแนะนำโครงการ ชี้แจงข้อมูลรายละเอียดโครงการ รวมทั้งรับฟังความคิดเห็น ข้อเสนอแนะจากหน่วยงานราชการ กลุ่มผู้นำทางด้านความคิด ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกับโครงการ ตลอดจนตัวแทนภาคประชาชนและสื่อมวลชน เพื่อจะได้นำความคิดเห็นและข้อเสนอแนะที่ได้รับไปประกอบการตัดสินใจให้เกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งเป็นการดำเนินการตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550 มาตรา 67 และระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน พ.ศ.2548 โดยกำหนดจัดการสัมมนาขึ้นในวันอังคารที่ 22 มกราคม 2556 เวลา 08.30 13.00 น. ณ ห้องอิมพีเรียล ชั้น 2 โรงแรมดิเอ็มเพรส จังหวัดเชียงใหม่ จึงขอ เชิญชวนทุกภาคส่วนร่วมสัมมนาตามวัน เวลาและสถานที่ดังกล่าว
แผนพัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูง เกิดขึ้นสืบเนื่องจากการประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่ ครั้งที่ 1/2555 วันที่ 15 มกราคม 2555 ณ จังหวัดเชียงใหม่ ได้มีการนำเสนอแผนการพัฒนาโครงข่ายคมนาคมและระบบโลจิสติกส์และการดำเนินโครงการรถไฟความเร็วสูง เส้นทางกรุงเทพฯ เชียงใหม่ โดยที่ประชุมมีมติมอบหมายให้กระทรวงคมนาคม และกระทรวงการคลัง เร่งพิจารณารายละเอียดโครงการฯ โดยกำหนดรูปแบบการร่วมลงทุนระหว่างรัฐบาลไทยและรัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีนตามที่ได้มีการตกลงร่วมกัน เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2554 รวมทั้งศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) และทำการศึกษาความเหมาะสมทางการเงินและเศรษฐศาสตร์ของโครงการโดยละเอียด ซึ่งผลการศึกษาเบื้องต้นของญี่ปุ่น ให้แบ่งช่วงการดำเนินงานออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่ กรุงเทพฯ พิษณุโลก ระยะทาง 381 กิโลเมตร และ พิษณุโลก เชียงใหม่ ระยะทาง 290 กิโลเมตร เนื่องจากช่วงกรุงเทพ ฯ พิษณุโลกก่อสร้างง่ายกว่ามาก ในขณะที่ช่วงพิษณุโลก เชียงใหม่ ต้องสร้างอุโมงค์ถึง 40 แห่ง และต้องผ่านป่าต้นน้ำ ซึ่งต้องใช้เวลา รวมวงเงินโครงการประมาณ 300,000 ล้านบาท ระยะทาง 670 กิโลเมตร รวม 12 สถานี ประกอบด้วย สถานีบางซื่อ บ้านภาชี พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี นครสวรรค์ พิจิตร พิษณุโลก อุตรดิตถ์ เด่นชัย ลำปาง ลำพูน และ เชียงใหม่ ตามมาตรฐานชินกันเซ็นที่ความเร็วสูงสุด 250 กิโลเมตร/ชั่วโมง ใช้ระยะเวลาก่อสร้าง 7 ปี และใช้ระยะเวลาเดินทางจากกรุงเทพฯ เชียงใหม่ รวม 3 ชั่วโมง 23 นาที อัตราค่าโดยสาร 1,190 บาท โดยคาดว่าจะมีประชาชนใช้บริการ 34,800 คน/วัน |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44631
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 15/01/2013 12:02 pm Post subject: |
|
|
ลุ้นญี่ปุ่นเอี่ยวรถไฟความเร็วสูง
15 มกราคม 2556 เวลา 10:06 น.
คมนาคมลุ้นญี่ปุ่นเซ็นเอ็มโอยูรถไฟฟ้าความเร็วสูง รับ อาเบะ เยือนไทย 17 ม.ค.นี้
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า กระทรวงคมนาคมมีความคาดหวังว่าการเดินทางเยือนประเทศไทยของนายชินโสะ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ 17-18 ม.ค.นี้ จะเกิดความร่วมมือในลักษณะการลงนามบันทึกความเข้าใจ (เอ็มโอยู) ในโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูง หลังจากก่อนหน้านี้ได้ลงนามเอ็มโอยูกับประเทศจีนไปแล้ว
สำหรับโครงการก่อสร้างท่าเรือน้ำลึกและโครงการนิคมอุตสาหกรรมทวาย จะยังไม่มีการหารือกับนายอาเบะในครั้งนี้ เนื่องจากเพิ่งนำเสนอรายละเอียดต่างๆ ให้กับญี่ปุ่นเพื่อพิจารณา จึงต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่งก่อนที่ญี่ปุ่นจะตัดสินใจ
ทั้งนี้ โครงการรถไฟความเร็วสูงเส้นทางกรุงเทพฯเชียงใหม่ ได้ลงนามเอ็มโอยูกับรัฐบาลจีนไปแล้ว เหลือสายกรุงเทพฯหนองคาย และสายกรุงเทพฯระยอง
วันเดียวกัน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมเตรียมการต้อนรับนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นที่มาเยือนไทยเป็นครั้งแรกในรอบ 11 ปี นายกฯ ยังพบปะหารือกับนายเทรุโอะ อาซะดะ ประธานบริหารบริษัท มารุเบนิ คอร์ปอเรชัน ที่สนใจร่วมลงทุนในโครงการผลิตไฟฟ้าและเส้นทางคมนาคม |
|
Back to top |
|
|
black_express
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/03/2006 Posts: 10060
Location: อุตรดิตถ์ - กรุงเทพฯ
|
Posted: 15/01/2013 1:40 pm Post subject: |
|
|
ญี่ปุ่นบุกแล้ว |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42744
Location: NECTEC
|
Posted: 17/01/2013 5:03 pm Post subject: |
|
|
คมนาคมรื้อแผนสร้าง "ไฮสปีดเทรน" ทำรวดเดียวกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ เล็งซื้อขบวนรถก่อน มี.ค.
มติชน
17 มกราคม 2556 เวลา 13:40:15 น.
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม (คค.) กล่าวว่า กระทรวงคมนาคมได้เปลี่ยนแนวทางการดำเนินโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูง (ไฮสปีดเทรน) ในเส้นทางภาคเหนือใหม่ จากเดิมแบ่งเป็น 2 ระยะ คือ ระยะแรกจะก่อสร้างระหว่างกรุงเทพฯ-พิษณุโลกก่อน จึงจะก่อสร้างช่วงพิษณุโลก-เชียงใหม่ เป็นระยะ 2 เปลี่ยนเป็นการก่อสร้างพร้อมกันทั้งหมด คือ กรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ระยะทางประมาณ 680 กิโลเมตร (กม.) เพื่อช่วยให้ประชาชนได้รับความสะดวกในการเดินทางมากขึ้น
นายชัชชาติกล่าวว่า ทั้งนี้ จะประกวดราคาพร้อมกับเส้นทางสายภาคตะวันออกเฉียงเหนือ คือ กรุงเทพฯ-นครราชสีมา เส้นทางภาคใต้ คือ กรุงเทพฯ-หัวหิน และเส้นทางภาคตะวันออก คือ กรุงเทพฯ-พัทยา ใช้งบประมาณดำเนินโครงการรวม 6 แสนล้านบาท จากเดิมกำหนดใช้งบประมาณก่อสร้างระยะแรก 4 แสนล้านบาท จากที่ตั้งงบก่อสร้างรถไฟฟ้าความเร็วสูงทั้งหมด 9 แสนล้านบาท "เพื่อให้ประชาชนได้รับความสะดวกมากที่สุดจึงดำเนินการพร้อมกันทุกเส้นทาง ส่งผลให้งบประมาณดำเนินการเพิ่มขึ้นด้วย" นายชัชชาติกล่าว
นายชัชชาติกล่าวว่า อย่างไรก็ตาม เพื่อให้การดำเนินโครงการมีต้นทุนถูกลงจะจัดซื้อขบวนรถก่อน ใช้บริการใน 3 เส้นทาง คือ กรุงเทพฯ-เชียงใหม่ กรุงเทพฯ-นครราชสีมา และกรุงเทพฯ-หัวหิน ส่วนกรุงเทพฯ-พัทยา จะจัดซื้อพร้อมการก่อสร้างส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์ ที่ดำเนินการในปีนี้เช่นกัน โดยงบประมาณในการจัดซื้อตัวรถจะอยู่ที่ 20% ของงบดำเนินโครงการทั้งหมดหรือประมาณ 1.8 แสนล้านบาท คาดว่าในเดือนมีนาคมนี้จะเห็นภาพรวมการประกวดราคาและระบบทั้งหมด และประมาณไตรมาส 2 ปีนี้น่าจะรู้ว่ามีผู้สนใจเข้าร่วมประกวดราคาจัดหาขบวนรถไฮสปีดเทรนกี่ราย
นายชัชชาติกล่าวว่า สำหรับความเร็วของรถเบื้องต้นกำหนดไว้ที่ 250 กม.ต่อชั่วโมง ตามมาตรฐานของไฮสปีดเทรน โดยเส้นทางที่จำเป็นต้องใช้ความเร็วมาก คือกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ และกรุงเทพฯ-นครราชสีมา ส่วนเส้นทางอื่นซึ่งมีระยะทางใกล้กว่า เช่น กรุงเทพฯ-พัทยา อาจจะไม่จำเป็นต้องใช้ความเร็วมากนัก |
|
Back to top |
|
|
HS8JBD
3rd Class Pass
Joined: 05/01/2012 Posts: 72
|
Posted: 17/01/2013 7:36 pm Post subject: |
|
|
สงสัยสายใต้ทำรายได้น้อยเลยไปแค่หัวหิน |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44631
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 17/01/2013 7:46 pm Post subject: |
|
|
ขนาดรถไฟทางคู่ รถไฟฟ้าสายสีแดงยังไม่คืบหน้าเลยครับ เรื่องรถไฟความเร็วสูง หนทางอีกยาวไกล
----
สนข.เคาะแนวเส้นทาง"ไฮสปีดเทรน"3สาย สร้างคร่อมรางรถไฟเดิมเลี่ยงเวนคืน-เร่งเปิดประมูลกันยายนนี้
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ 17 ม.ค. 2556 เวลา 12:53:20 น.
นายจุฬา สุขมานพ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า หลังจากที่ สนข.ได้จ้างบริษัทที่ปรึกษาศึกษาความเหมาะสมโครงการรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีดเทรน) จำนวน 3 สายทาง ประกอบด้วย สายกรุงเทพฯ-เชียงใหม่, กรุงเทพฯ-นครราชสีมา และกรุงเทพฯ-หัวหิน ล่าสุดได้แนวเส้นทางที่เหมาะสมเพื่อออกแบบรายละเอียดและศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมแล้ว ส่วนใหญ่จะใช้เขตทางรถไฟเดิมเพื่อหลีกเลี่ยงการเวนคืนที่ดินให้น้อยที่สุด เช่น อยู่ในพื้นที่ชุมชนเมือง ใกล้สถานีประวัติศาสตร์ เป็นต้น
รวมทั้งเพื่อเป็นการหาพื้นที่โดยรอบสถานีให้เพียงพอต่อการพัฒนาเชิงพาณิชย์สำหรับนำรายได้ส่วนนี้มาหล่อเลี้ยงกิจการเดินรถไฟ เหมือนกับรูปแบบในประเทศญี่ปุ่นที่ประสบความสำเร็จมาแล้ว โดยบริษัทที่ปรึกษาจะต้องศึกษาให้ครอบคลุมจุดนี้ด้วยเช่นกันว่าจะเป็นจุดไหนได้บ้าง
เวนคืน 4 โรงปูนเท่า ๆ กัน
นายจุฬากล่าวว่า สายกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ จะใช้แนวรถไฟสายเหนือ แต่จะสร้างช่วงกรุงเทพฯ-พิษณุโลกก่อนเป็นลำดับแรก ระยะทางประมาณ 382 กิโลเมตร เนื่องจากช่วงตั้งแต่พิษณุโลก-เชียงใหม่ เส้นทางจะผ่านพื้นที่ภูเขาและคดเคี้ยว จะต้องเจาะอุโมงค์เพื่อให้เส้นทางตรงจำเป็นต้องจัดทำรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม
ส่วนสายกรุงเทพฯ-นครราชสีมา ระยะทาง 256 กิโลเมตร จะมีการปรับแนวเล็กน้อยช่วงแก่งคอย จ.สระบุรี เนื่องจากพาดผ่านพื้นที่ประทานบัตรปูนซีเมนต์ของผู้ประกอบการปูนซีเมนต์ 4 ราย อาทิ เอสซีจี ปูนซีเมนต์นครหลวง ปูนทีพีไอ เป็นต้น ปัจจุบันยังไม่ได้นำมาดำเนินการใด ๆ แต่อาจจะต้องมีการเวนคืนที่ดินของแต่ละรายเพื่อนำมาใช้ในโครงการรถไฟความเร็วสูง โดยจะพยายามเลือกแนวเส้นทางที่จะใช้พื้นที่ของแต่ละรายเท่า ๆ กัน และเมื่อได้เขตทางที่ชัดเจนแล้ว จะให้เวลาผู้ประกอบการทั้งหมดดำเนินการระเบิดหินให้เสร็จก่อนที่จะเริ่มลงมือก่อสร้างรถไฟฟ้า
ไปหัวหิน เลี่ยงเวนคืนแม่กลอง
สำหรับสายกรุงเทพฯ-หัวหิน ล่าสุดได้แนวเส้นทางชัดเจนแล้ว จะไม่ใช้เส้นทางรถไฟสายแม่กลองเดิม แม้ว่าจะช่วยร่นระยะเวลาการเดินทางกว่า 10 กิโลเมตร เนื่องจากแนวเส้นทางดังกล่าวจะต้องมีการรื้อย้ายชุมชนที่อยู่ในเขตทางกว่า 2,500 หลังคาเรือน กับต้องเจาะอุโมงค์ยาว 7-8 กิโลเมตร ช่วงหัวลำโพง-วงเวียนใหญ่ ส่งผลกระทบต่อต้นทุนก่อสร้างแพงขึ้น
ดังนั้นจึงปรับมาใช้แนวรถไฟสายใต้ในปัจจุบัน โดยวิ่งจากบางซื่อไปตามแนวรถไฟสายใต้ ผ่านตลิ่งชัน นครปฐมไปจนถึงหัวหิน รวมระยะทาง 225 กิโลเมตร
นายจุฬากล่าวอีกว่า ขณะที่สายกรุงเทพฯ-พัทยา-ระยอง ทางการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) อยู่ระหว่างศึกษาโครงการ โดยเส้นทางจะต่อขยายจากแอร์พอร์ตเรลลิงก์ที่พญาไทไปตามแนวรถไฟสายตะวันออก
ไปพัทยา และสิ้นสุดที่ระยอง รวมระยะทาง 221 กิโลเมตร ขณะนี้ สนข.อยู่ระหว่างลงภาคสนามเพื่อรับฟังความคิดเห็นประชาชนในพื้นที่ คาดว่าภายในเดือนพฤษภาคมนี้จะได้ข้อสรุปเรื่องแนวเส้นทางทั้งหมด และจัดเตรียมทำรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมหรือ EIA ต่อไป
"ผลการศึกษาของผู้แทนจากจีนและญี่ปุ่นที่ศึกษาความเหมาะสมของโครงการให้เรา โดยจีนศึกษาเส้นทางกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ และกรุงเทพฯ-หนองคาย ส่วนญี่ปุ่นศึกษาสายกรุงเทพฯ-เชียงใหม่และกรุงเทพฯ-ระยอง ข้อมูลทั้งหมดเรานำมาประกอบการพิจารณาด้วยเช่นกัน เพื่อให้เหมาะสมกับภูมิประเทศของไทยเรามากที่สุด"
ตั้งเป้าเปิดประมูล ก.ย.นี้
นายจุฬากล่าวอีกว่า สำหรับการเปิดประมูลคาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ภายในเดือนกันยายนนี้ เริ่มจากการเปิดประมูลหาผู้ผลิตระบบรถไฟฟ้าก่อนว่าจะใช้ระบบไหน ใช้วงเงินลงทุนเท่าไหร่ จากนั้นจึงจะประมูลการก่อสร้างงานโยธา เนื่องจากระบบรถไฟฟ้าจะมีผลต่อการออกแบบระบบโครงสร้างงานโยธาที่จะต้องสอดคล้องกัน เช่น หากได้ผู้เสนอระบบรถไฟจากประเทศจีน การก่อสร้างงานโยธาจะต้องสอดรับกัน เพราะระบบรถไฟของจีน เป็นต้น
ก่อนหน้านี้ ทั้งประเทศจีนและญี่ปุ่นได้ประเมินเงินลงทุนโครงการ (ค่าก่อสร้างและงานระบบ) เบื้องต้นพบว่า ต้นทุนประเทศจีนเฉลี่ยอยู่ที่ 480 ล้านบาท/กิโลเมตร ญี่ปุ่นเฉลี่ยอยู่ที่ 600 ล้านบาท/กิโลเมตร
"เพื่อให้เกิดความรวดเร็ว อาจจะต้องเวนคืนที่ดินควบคู่การทำ EIA คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ตั้งแต่ปี 2557 เป็นต้นไป เริ่มเปิดบริการในปี 2562 ส่วนจะประมูลทั้ง 4 สายหรือเลือกเฉพาะบางสายยังไม่ได้ข้อสรุป กรณีประมูลทั้ง 4 สายในแง่ของการลงทุนระบบรถไฟฟ้าอาจจะถูกลงเพราะซื้อในปริมาณมาก"
นำร่อง 2 สายเหนือ-อีสาน
ทั้งนี้ทั้งนั้น มีความเป็นไปได้สูงที่จะเริ่มสร้างก่อนคือสายกรุงเทพฯ-พิษณุโลกและสายกรุงเทพฯ-นครราชสีมา โดยอาจจะนำร่องเปิดบริการช่วงกรุงเทพฯ-บ้านภาชี ระยะทางกว่า 80 กิโลเมตร เนื่องจากเป็นเส้นทางร่วมระหว่างสายกรุงเทพฯ-พิษณุโลก และสายกรุงเทพฯ-นครราชสีมา
นายจุฬากล่าวอีกว่า สำหรับเม็ดเงินลงทุน โครงการรถไฟความเร็วสูงจัดอยู่ในแผนการลงทุนของรัฐบาล ภายใต้ พ.ร.บ.เงินกู้ 2.2 ล้านล้านบาท จึงไม่มีปัญหาเรื่องแหล่งเงินที่จะนำมาก่อสร้างแต่อย่างใด ซึ่งในกรอบวงเงินเดิมที่เคยประเมินไว้ โดยรวมทั้ง 4 สายในเฟสแรกประมาณ 372,271 ล้านบาท
แยกเป็นสายกรุงเทพฯ-พิษณุโลก วงเงิน 121,014 ล้านบาท สายกรุงเทพฯ-นครราชสีมา วงเงิน 96,826 ล้านบาท สายกรุงเทพฯ-หัวหิน วงเงิน 82,166 ล้านบาท และสายกรุงเทพฯ-ระยอง วงเงิน 72,265 ล้านบาท แต่ทั้งนี้อยู่ที่ผลการศึกษาที่ออกมาด้วยว่าวงเงินจะปรับเพิ่มขึ้นมากน้อยแค่ไหน |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42744
Location: NECTEC
|
Posted: 17/01/2013 9:14 pm Post subject: |
|
|
ญี่ปุ่นมั่นใจไทย เชื่อเป็นฮับสำคัญอาเซียน ขอศึกษารถไฟความเร็วสูง ก่อนร่วมลงทุน
มติชน วันที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2556 เวลา 16:59:07 น.
นางคาริโกะ โอโนะ ผู้ช่วยเลขาธิการคณะรัฐมนตรีด้านกิจการสาธารณะและผู้อำนวยการฝ่ายการสื่อสารระหว่างประเทศ
กล่าวว่านักลงทุนญี่ปุ่นยังคงเชื่อมั่นในประเทศไทย แม้จะเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมเมื่อปี 2554 เพราะเข้าใจดีว่าเป็นภัยพิบัติทางธรรมชาติ และญี่ปุ่นสนใจร่วมลงทุนในพม่าโดยมองว่าไทยเป็นฮับที่สำคัญของภูมิภาคนี้
นอกจากนี้ญี่ปุ่นยังให้ความสนใจในการลงทุนสร้างรางรถไฟความเร็วสูงในไทยอย่างมาก แต่จะยังไม่มีการเซ็น MOU ในครั้งนี้เพราะต้องการศึกษาข้อมูลเบื้องต้นก่อน
นอกจากนี้ยังกล่าวถึงกรณีพิพาทหมู่เกาะเซ็นกากุหรือเตียวหยูระหว่างญี่ปุ่นกับจีน โดยยืนยันว่าเกาะเซ็นกากุเป็นของญี่ปุ่นตามกฏหมายและตามประวัติศาสตร์ แต่เนื่องจากจีนเป็นประเทศเพื่อนบ้านที่สำคัญ ญี่ปุ่นจึงพยายามแก้ปัญหาพิพาทนี้อย่างสันติวิธี ส่วนประเด็นที่หลายฝ่ายมองว่าจีนขึ้นมาเป็นมหาอำนาจแห่งภูมิภาคเอเชียแทนญี่ปุ่นนั้น ทางญี่ปุ่นไม่ได้มองว่าจีนเป็นคู่แข่งแต่อย่างใด กลับมองว่าจีนเป็นประเทศคู่ค้าสำคัญและมีความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจที่ดีต่อกัน |
|
Back to top |
|
|
Tohoku_Line
3rd Class Pass
Joined: 08/04/2010 Posts: 193
Location: Bangkok/Ubonratchathani
|
Posted: 18/01/2013 2:41 am Post subject: |
|
|
เอ่อออ ท่านคิดอะไรจะทำอะไรกับรถไฟความเร็วสูงกันล่ะนั่น
ระบบโครงสร้างงานโยธายังไม่รู้แน่นอนเลยว่าจะประมูลหรือเริ่มการก่อสร้างได้เมื่อไหร่
นี่คิดอุตริกันจะซื้อตัวรถมารอก่อนซะงั้น เกิดสุดท้ายไม่ได้ประมูล โครงการไม่เกิด คงได้เห็นรถไฟความเร็วสูงไม่มีรางให้วิ่ง
ให้ประมูลหรือเริ่มการก่อสร้างไปก่อนแล้วสั่งซื้อตัวรถก็คงไม่ช้าเกินไปมั้งผมว่า
ทำอะไรให้เป็นขั้นเป็นตอนกันหน่อยดีไหม อย่ากระโดดลัดขั้นตอนกันไปมานักเลย มีสายสีแดงอ่อนให้เห็นเป็นตัวอย่างแล้วน่าจะคิดกันมั่ง
ข้ามขั้นกันเก่งจัง รถไฟธรรมดายังทำให้ดีทั่วประเทศยังไม่ได้นี่ก็จะข้ามไปรถไฟความเร็วสูงแล้ว
มาคราวนี้จะซื้อรถก่อนทำรางอีก |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44631
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 18/01/2013 6:59 am Post subject: |
|
|
เขากลัวว่าถ้าสร้างรางก่อน แล้วซื้อขบวนรถไฟทีหลัง กลัวว่าถึงตอนนั้นแล้ว (อาจจะ 10 ปีข้างหน้า) ขบวนรถไฟแบบที่เข้ากับระบบของรางที่สร้างไว้นั้นจะไม่มีขายหรือหาซื้อยาก ต้องสั่งทำพิเศษ ทำให้ราคาแพงครับ
ถ้าซื้อขบวนรถไฟมาก่อน จะได้เอามาตั้งโชว์ให้ชาวบ้านเห็นว่า สร้างแน่ ๆ รถไฟความเร็วสูง ไม่มีแค่ตอม่อ และสามารถออกแบบรางและระบบต่าง ๆ ให้เข้ากับตัวรถได้พอดีครับ
ตัวอย่างเช่น ถ้าซื้อรถมาก่อน จะได้รู้ว่า พื้นตัวรถสูงจากสันรางแค่ไหน จะได้สร้างชานชาลาสถานีให้พอดีกับตัวรถได้ ซึ่งการสร้างชานชาลานั้น ช่างปูน ช่างก่อสร้างบ้านเราก็สร้างได้
แต่ถ้าสร้างรางก่อน แล้วค่อยซื้อตัวรถทีหลัง ก็ต้องไปง้อให้บริษัทที่รับสร้างตัวรถสร้างให้เข้ากับราง ซึ่งอาจจะถือโอกาสโก่งราคาแพง ๆ ได้
รถนอนขบวน 35/36 เข้าสถานีปาดังเบซาร์ ก็ต้องเอาไม้พาดให้ผู้โดยสารขึ้นลงอยู่ครับ เพราะออกแบบชานชาลาใหม่ไปก่อน แต่ยังไม่เห็นขบวนไหนพื้นเท่ากับชานชาลาเลย
----
ผมก็เข้ามาแก้ตัวแทนกระทรวงคมนาคมเล่น ๆ ไปอย่างนั้นเองครับ
เอาเข้าจริง ๆ 10 ปีนี้ก็ไม่ได้เห็นหรอกครับ รถไฟความเร็วสูง
ขนาดรถไฟชานเมืองสายสีแดงยังใช้เวลาก่อสร้างตั้ง 10 ปีเลยครับ
ณ ขณะนี้ รถไฟฟ้าสายสีม่วง คืบหน้ามากที่สุดแล้วครับ |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44631
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 21/01/2013 12:11 pm Post subject: |
|
|
เปิดสัมมนารถไฟความเร็วสูงกรุงเทพฯ-เชียงใหม่
บ้านเมือง 21 ม.ค. 56 11.46 น.
สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร จัดสัมมนารับฟังความคิดเห็นของประชาชนต่อโครงการศึกษาและออกแบบรถไฟความเร็วสูงสายกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ระยะที่ 1 กรุงเทพฯ-พิษณุโลก เพื่อรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะไปประกอบการดำเนินการตามโครงการ ในวันอังคารที่ 22 มกราคม 2556 ณ โรงแรมดิเอ็มเพรส จังหวัดเชียงใหม่
เชียงใหม่/ นายจุฬา สุขมานพ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร เปิดเผยว่า สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) อยู่ระหว่างดำเนินงานโครงการศึกษาและออกแบบรถไฟความเร็วสูงสายกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ระยะที่ 1 กรุงเทพฯ-พิษณุโลก ซึ่งเป็นการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาลในการพัฒนาระบบคมนาคมขนส่งทางรางโดยเชื่อมโยงโครงข่ายและการบริหารจัดการขนส่งผู้โดยสาร สินค้าและบริการที่สะดวก ปลอดภัย ทั้งในพื้นที่ชนบท พื้นที่เมือง และระหว่างประเทศ ดังนั้น จึงได้กำหนดจัดสัมมนารับฟังความคิดเห็นของประชาชน ครั้งที่ 1 เพื่อแนะนำโครงการ ชี้แจงข้อมูลรายละเอียดโครงการ รวมทั้งรับฟังความคิดเห็น ข้อเสนอแนะจากหน่วยงานราชการ กลุ่มผู้นำทางด้านความคิด ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกับโครงการ ตลอดจนตัวแทนภาคประชาชนและสื่อมวลชน เพื่อจะได้นำความคิดเห็นและข้อเสนอแนะที่ได้รับไปประกอบการตัดสินใจให้เกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งเป็นการดำเนินการตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550 มาตรา 67 และระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน พ.ศ.2548 โดยกำหนดจัดการสัมมนาขึ้นในวันอังคารที่ 22 มกราคม 2556 เวลา 08.30-13.00 น. ณ ห้องอิมพีเรียล ชั้น 2 โรงแรมดิเอ็มเพรส จังหวัดเชียงใหม่ จึงขอเชิญชวนทุกภาคส่วนร่วมสัมมนา ตามวันเวลาและสถานที่ดังกล่าว
แผนพัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูง เกิดขึ้นสืบเนื่องจากการประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่ ครั้งที่ 1/2555 วันที่ 15 มกราคม 2555 ณ จังหวัดเชียงใหม่ ได้มีการนำเสนอแผนการพัฒนาโครงข่ายคมนาคมและระบบโลจิสติกส์และการดำเนินโครงการรถไฟความเร็วสูง เส้นทางกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ โดยที่ประชุมมีมติมอบหมายให้กระทรวงคมนาคม และกระทรวงการคลัง เร่งพิจารณารายละเอียดโครงการฯ โดยกำหนดรูปแบบการร่วมลงทุนระหว่างรัฐบาลไทยและรัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีนตามที่ได้มีการตกลงร่วมกัน เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2554 รวมทั้งศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) และทำการศึกษาความเหมาะสมทางการเงินและเศรษฐศาสตร์ของโครงการโดยละเอียด ซึ่งผลการศึกษาเบื้องต้นของญี่ปุ่น ให้แบ่งช่วงการดำเนินงานออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่ กรุงเทพฯ-พิษณุโลก ระยะทาง 381 กิโลเมตร และ พิษณุโลก-เชียงใหม่ ระยะทาง 290 กิโลเมตร เนื่องจากช่วงกรุงเทพฯ-พิษณุโลกก่อสร้างง่ายกว่ามาก ในขณะที่ช่วงพิษณุโลก-เชียงใหม่ ต้องสร้างอุโมงค์ถึง 40 แห่ง และต้องผ่านป่าต้นน้ำ ซึ่งต้องใช้เวลา รวมวงเงินโครงการประมาณ 300,000 ล้านบาท ระยะทาง 670 กิโลเมตร รวม 12 สถานี ประกอบด้วย สถานีบางซื่อ บ้านภาชี พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี นครสวรรค์ พิจิตร พิษณุโลก อุตรดิตถ์ เด่นชัย ลำปาง ลำพูน และ เชียงใหม่ ตามมาตรฐานชินกันเซ็นที่ความเร็วสูงสุด 250 กิโลเมตร/ชั่วโมง ใช้ระยะเวลาก่อสร้าง 7 ปี และใช้ระยะเวลาเดินทางจากกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ รวม 3 ชั่วโมง 23 นาที อัตราค่าโดยสาร 1,190 บาท โดยคาดว่าจะมีประชาชนใช้บริการ 34,800 คน/วัน |
|
Back to top |
|
|
|