RailServe.Com

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai.Com

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311326
ทั่วไป:13289315
ทั้งหมด:13600641
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - รวมข่าวโครงการรถไฟทางคู่
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

รวมข่าวโครงการรถไฟทางคู่
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 123, 124, 125 ... 390, 391, 392  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42789
Location: NECTEC

PostPosted: 08/03/2016 5:24 pm    Post subject: Reply with quote

ถ้าไม่ยกระดับสถานีบ้านไผ่เหมือนที่ขอนแก่นก็จะไม่ยอมให้สร้างทางคู่โดยเด็ดขาด

https://www.facebook.com/esanbiz/photos/a.722274281132066/1438529836173170


Last edited by Wisarut on 24/09/2022 9:32 pm; edited 1 time in total
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44864
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 08/03/2016 9:19 pm    Post subject: Reply with quote

ในกรณีที่มีความจำเป็นเร่งด่วน ต่อไปนี้สามารถเสนอ ครม. หาเอกชนมาดำเนินโครงการ ระหว่างรอพิจารณา EIA ได้แล้วครับ

คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๙/๒๕๕๙ เรื่อง การแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ
Arrow http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2559/E/059/46.PDF
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44864
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 09/03/2016 12:11 pm    Post subject: Reply with quote

การรถไฟฯ ขานรับนโยบายรัฐบาล เร่งพัฒนาและเปิดรับบุคลากร เพื่อรองรับนโยบายระบบทางคู่
หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ -- อังคารที่ 8 มีนาคม 2559 00:00:30 น.

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญในการขับเคลื่อนให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม

เพื่อต้องการพัฒนาความเป็นอยู่ให้กับประชาชนคนไทย รวมถึงช่วยเสริมศักยภาพการแข่งขันของประเทศ โดยมีกระทรวงคมนาคม เป็นผู้จัดทำยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของไทยปี 2558-2565 ขึ้น พร้อมกับยังได้จัดทำแผนปฏิบัติการลงทุนระยะเร่งด่วน ปี 2558-2559 เพื่อเร่งขับเคลื่อนการพัฒนาให้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งแผนระยะเร่งด่วนได้ให้ความสำคัญต่อการพัฒนาระบบโลจิสติกส์ โดยมีการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เป็นหนึ่งฟันเฟืองหลักที่เข้าไปขับเคลื่อนการลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพหลายโครงการ เริ่มจากโครงการพัฒนารถไฟทางคู่ ขนาดทาง 1 เมตร โดยแผนในปี 2558-2559 นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร ผู้ว่าการรถไฟฯ ได้มีแผนเร่งรัดการลงทุนใน 6 เส้นทาง รวมวงเงินกว่า 1.5 แสนล้านบาท และสามารถผลักดันการเปิดประมูลรถไฟทางคู่ช่วงฉะเชิงเทราคลองสิบเก้า-แก่งคอย ระยะทาง 106 กม.จนประสบความสำเร็จไปเมื่อวันที่ 19 พ.ย.58 ที่ผ่านมา ด้วยวงเงิน 10,524 ล้านบาทต่ำกว่าราคากลางที่ตั้งไว้ ช่วยทำให้ภาครัฐประหยัดงบประมาณแผ่นดิน และมีกำหนดเริ่มลงมือก่อสร้างได้ต้นปีหน้า

เส้นทางต่อมาที่จะเกิดการลงทุนชัดเจน เป็นช่วงจิระ-ขอนแก่น ระยะทาง 185 กม. ซึ่งปัจจุบันมีความคืบหน้าไปมากผ่านการอนุมัติจาก ครม.แล้ว และประกวดราคาภายในสิ้นปีนี้ นอกจากนี้ยังมีอีก 4 โครงการที่รอเข้าพิจารณาคณะรัฐมนตรีในปีหน้า คือ เส้นทางมาบกะเบา-ชุมชนทางถนนจิระ 172 กม. และประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร 167 กม. ซึ่งผ่านการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ไปแล้ว ส่วนเส้นทางนครปฐม-หัวหิน 170 กม. รอแก้ไข EIA เช่นเดียวกับ เส้นทางลพบุรี-ปากน้ำโพ 148 กม. ที่รอผลการศึกษา(EIA) ซึ่งจะทยอยเสร็จในปีหน้าเช่นกัน ต่อมาเป็นโครงการความร่วมมือด้านการรถไฟฯขนาดใหญ่ ระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลจีน ซึ่งได้มีการลงนามความร่วมมือก่อสร้างรถไฟทางคู่ขนาดทาง 1.435 เมตร เส้นทางกรุงเทพ-หนองคาย และแก่งคอย-มาบตะพุด ระยะทาง 873 กม. ซึ่งการรถไฟฯได้เข้าไปมีส่วนสำคัญในการสนับสนุนข้อมูล และเจ้าหน้าที่ในการร่วมประชุมสำรวจวางแผนเส้นทาง จนโครงการมีการเดินหน้าอย่างต่อเนื่องด้านโครงการพัฒนาความร่วมมือระบบรางไทย-ญี่ปุ่น ได้กำหนดแผนการพัฒนารถไฟไว้ใน 3 เส้นทาง โดยเส้นทางแรกที่เริ่มพัฒนาได้ก่อน คือ รถไฟเส้นทางกาญจนบุรี-กรุงเทพแหลมฉบัง-สระแก้ว โครงสร้างพื้นฐาน การขนส่งและการท่องเที่ยวแห่งญี่ปุ่น และตั้งแต่ต้นปี 2559 ไทยและญี่ปุ่นจะเริ่มเข้าไปปรับปรุงรถไฟทางเดี่ยวของการรถไฟฯ ที่มีอยู่แล้วให้มีประสิทธิภาพ สามารถเพิ่มความเร็วในการเดินรถได้มากยิ่งขึ้น

นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร ผู้ว่าการรถไฟฯ เปิดเผยว่า แนวทางการทำงานของแบ่งเป็นด้านหลักๆ คือ

ส่วนแรกงานด้านความปลอดภัย เรื่องนี้สำคัญมากที่จะช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับการรถไฟฯ จึงได้มีสั่งการเร่งด่วนให้ดำเนินการในหลายรูปแบบ ทั้งการซ่อมแซมทางให้มีคุณภาพดีตามมาตรฐานสากล การแก้ปัญหาจุดตัดเสมอระดับทางรถไฟ-รถยนต์ และทางลักผ่านให้มีระบบสัญญาณเตือนภัยการยกระดับการรักษาความปลอดภัยของขบวนรถและพื้นที่สถานี การปรับปรุงตัวรถ และเพิ่มความเข้มงวดกับเจ้าหน้าที่รถไฟให้ปฏิบัติตามระเบียบอย่างเคร่งครัด อีกสิ่งที่ทำควบคู่ไปกับงานด้านความปลอดภัย คือ การปรับปรุงประสิทธิภาพการให้บริการ ทั้งความสะอาด สะดวก สวยงาม ต้องมาควบคู่กัน ซึ่งตอนนี้ก็ทยอยปรับปรุงห้องน้ำใหม่ทั้งในสถานี และบนขบวนรถไฟไปแล้ว รวมถึงเพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวกในรถไฟ ต้องมีไม่น้อยหน้าระบบขนส่งอื่นๆ เช่น ที่นั่งสำหรับคนพิการต้องมีเพิ่มขึ้น ตลอดจนการปรับภูมิทัศน์สถานีรถไฟใหม่ ที่ไหนไม่เรียบร้อยก็จะเข้าไปจัดระเบียบใหม่ โดยนำร่องไปที่สถานีรถไฟกรุงเทพ (หัวลำโพง) และเมื่อดำเนินการสำเร็จไปแล้วทั้ง 2 เรื่องนี้ จึงได้เน้นให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องต้องทำประชาสัมพันธ์เชิงรุก เพื่อให้ประชาชนรับรู้และเข้ามาใช้บริการรถไฟเพิ่ม

แนวทางถัดมา ตรงนี้เรียกว่าเป็นหัวใจของการรถไฟฯในอนาคตเลย คือการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานของรถไฟ เพราะอย่างที่รู้การรถไฟฯ ห่างหายจากการพัฒนาโครงการใหญ่ๆมานาน แต่วันนี้เป็นนิมิตรหมายอันดีที่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ได้ให้ความสำคัญต่อการพัฒนาระบบรางอย่างจริงจัง และได้ผลักดันโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ทั่วประเทศ สร้างรถไฟความเร็วสูง และทางรถไฟขนาดมาตรฐาน 1.435 เมตร ให้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ขณะนี้โครงการต่างๆ คืบหน้าไปตามลำดับ ทั้งการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ตามแผนแม่บทการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่มีถึง 12 เส้นทาง แต่ในช่วง 1-2 ปีนี้ จะเริ่มก่อน 6 เส้นทาง ซึ่งได้เริ่มเปิดประมูลไปบ้างแล้ว ส่วนโครงการรถไฟไทย-จีน ได้มีการหารือกันแล้วหลายรอบ และมีกำหนดตั้งศูนย์ควบคุมการเดินรถ ภายในปีนี้ และจะเริ่มก่อสร้างได้จริงปีหน้า

ด้านการพัฒนาบุคลากรด้วยงานของการรถไฟแห่งประเทศไทยเป็นกิจการที่มีลักษณะพิเศษเฉพาะ ดังนั้นเพื่อให้ได้บุคลากรที่มีความสามารถ บรรจุเข้าปฏิบัติงานได้อย่างเหมาะสมในตำแหน่งงานต่างๆขององค์กร การรถไฟแห่งประเทศไทยจึงจำเป็นต้องดำเนินการสร้างบุคลากรที่มีความชำนาญงานเฉพาะด้านของตนเอง โดยตั้งแต่ปี พ.ศ. 2460 ได้ก่อตั้งโรงเรียนช่างฝีมือของกองโรงงานมักกะสัน ฝ่ายการช่างกล ฝึกอบรมความรู้ทางช่างฝีมือประเภทต่างๆ ที่จำเป็นต้องใช้ในกองโรงงาน ต่อมาในปี พ.ศ. 2480 จึงได้เริ่มก่อสร้าง "โรงเรียนวิศวกรรมรถไฟ" ขึ้นบริเวณตรงข้ามกับโรงงานมักกะสัน และตามด้วยก่อตั้งสถาบันศึกษาและฝึกอบรม คือ สำนักงานศูนย์การฝึก โดยจัดสรรที่ดินย่านพหลโยธิน ถนนวิภาวดีรังสิต เนื้อที่ 440 ไร่ ก่อสร้างอาคารและอุปกรณ์ต่างๆที่จำเป็นต้องใช้ในการฝึกอบรม

ปัจจุบันโรงเรียนวิศวกรรมรถไฟตั้งอยู่ติดกับสวนรถไฟ เขตจตุจักร กำกับดูแลโดยฝ่ายทรัพยากรบุคคล การรถไฟแห่งประเทศไทย หลักสูตรการเรียนได้รับการรับรองจากกระทรวงศึกษาธิการ เรียนทั้งภาคทฤษฎี ภาคปฏิบัติ และฝึกงานในสถานที่จริง ซึ่งแต่ละปีจะเปิดรับนักเรียนใหม่ในแต่ละสาขาวิชาตามกำลังความต้องการบุคลากรของสายงาน ซึ่งยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของการรถไฟฯ ทั้งนี้เนื่องจากใน 3-5 ปีข้างหน้า การรถไฟฯ มีความต้องการบุคลากรในเรื่องของการพัฒนาการขับเคลื่อนระบบรางทั้งระดับปฏิบัติและระดับบริหารร่วมประมาณ 2 หมื่นตำแหน่ง อีกทั้งเพื่อเร่งทดแทนพนักงานที่จะเกษียณอายุในอีกสิบปีข้างหน้าถึง 4 พันกว่าคน จากพนักงานทั้งหมด 1 หมื่นกว่าคน การรถไฟฯมีแผนพัฒนาโรงเรียนวิศวกรรมรถไฟเพื่อรองรับนโยบายระบบรางคู่ของรัฐบาล และแนวคิดการก่อตั้งกรมการขนส่งทางรางในอนาคต ซึ่งมีความจำเป็นต้องจัดหาบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญมาทำงาน จึงจำเป็นต้องเปิดรับนักศึกษาเพิ่ม ปรับหลักสูตรด้านการบริหารงาน และลงนามความร่วมมือผลิตบุคลากรร่วมกับสถาบันระดับอุดมศึกษาต่างๆ โรงเรียนวิศวกรรมรถไฟจึงเป็นการตอบโจทย์ความต้องการกำลังพลได้อีกทางหนึ่ง เพราะนอกจากจะได้บุคลากรที่ได้ความรู้ ความสามารถ เฉพาะทางแล้ว ยังสามารถปลูกฝังความภาคภูมิใจ ความรักในตัวองค์กรได้อีกด้วย และการรถไฟแห่งประเทศไทยยังเปิดรับสมัครนักเรียนที่จบการศึกษาระดับ ปวช. หลักสูตร 3 ปี เข้าเป็นนักเรียนวิศวกรรมรถไฟ ประจำปีการศึกษา 2559
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44864
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 10/03/2016 12:21 pm    Post subject: Reply with quote

“อาคม” เฮ!โปรเจกต์ยักษ์ฉลุย ประกาศิต ม.44ดันทุกโครงการเดินหน้าไม่สะดุด
โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์ 10 มี.ค. 2559 06:45

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม เปิดเผยถึงคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่มีการประกาศใช้ ม.44 ให้โครงการของรัฐบาล จะสามารถเปิดประกวดราคาได้โดยไม่ต้องรอผ่านการวิเคราะห์ผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) ว่าคำสั่งที่ออกมาจะส่งผลบวกกับโครงการที่ปัจจุบันยังติดอยู่ในการพิจารณาของอีไอเอ ทำให้ไม่สามารถเดินหน้าโครงการได้ ดังนั้น การประกาศใช้ ม.44 จะทำให้กระทรวงคมนาคมสามารถเดินหน้าประกวดราคาและจัดหาผู้รับเหมาได้ ทำให้งานโครงการต่างๆ ที่คั่งค้างเดินหน้าต่อไปได้ทันที

โดยในส่วนของโครงการภายใต้การดูแลของกระทรวงคมนาคม ปัจจุบันพบว่ามีโครงการรถไฟทางคู่หลายสายที่ยังรอพิจารณาอีไอเอ รวมไปถึงโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ส่วนต่อขยายเตาปูน-ราษฎร์บูรณะที่ปรับเส้นทางใหม่ขยายออกไปอีก 5 กิโลเมตร ทำให้ต้องเสนอไปยังคณะกรรมการอีไอเอพิจารณา รวมไปถึงโครงการทางพิเศษระหว่างเมือง หรือมอเตอร์เวย์ สายบางใหญ่-กาญจนบุรี ที่ต้องปรับข้อมูลโครงการให้เป็นปัจจุบัน และเสนอไปยังอีไอเอพิจารณาใหม่ จากคำสั่ง ม.44 ดังกล่าวจะทำให้โครงการโครงสร้างพื้นฐานเหล่านี้เดินหน้าเข้าสู่ขั้นตอนเปิดประกวดราคาพร้อมๆ ไปกับการรออีไอเอทันที และหากอีไอเอผ่านโครงการนั้นๆก็สามารถลงนามในสัญญาทันที

“คำสั่งฉบับนี้จะทำให้ลดระยะเวลาโครงการไปได้ส่วนหนึ่ง เพราะจากเดิมต้องรอผ่านอีไอเอ แต่หลังจากนี้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ก็จะเริ่มกระบวนการพิจารณาโครงการควบคู่ไปได้เลย เมื่อ ครม. เห็นชอบก็จะเปิดประกวดราคาจัดหาผู้รับเหมาได้ แต่เงื่อนไขคือยังไม่สามารถลงนามสัญญาจ้างได้ เพราะจะเป็นการผูกมัดเอกชน แต่ในหลักความเป็นจริงหากภาพรวมโครงการไม่กระทบกับประชาชนมากและเหตุผลของการพัฒนาโครงการมีข้อมูลค่อนข้างชัดเจน และมีการปรับแก้ให้สอดคล้องกับข้อสังเกตของคณะกรรมการอีไอเอ ตัวโครงการก็มักจะไม่มีปัญหาติดขัดในเรื่องความเห็นชอบ ดังนั้น การเดินงานควบคู่ไประหว่างรออีไอเอ และเปิดประกวดราคายืนยันว่าจะทำให้โครงการเร็วขึ้น”.
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44864
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 10/03/2016 5:10 pm    Post subject: Reply with quote

เร่งประมูลรถไฟทางคู่-มอเตอร์เวย์
โพสต์ทูเดย์ 10 มีนาคม 2559 เวลา 07:54 น.

อาคมได้ฤกษ์เข็นประมูลรถไฟทางคู่-รถไฟฟ้า-มอเตอร์เวย์ หลังมาตรา 44 หนุน ไม่รออีไอเอ
รฟท.นำร่องชง 4 โครงการให้ครม.อนุมัติคาดเปิดประมูลได้กลางปีนี้

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม เปิดเผยถึงคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่มีการประกาศใช้มาตรา 44 ให้โครงการของรัฐสามารถเปิดประกวดราคาได้โดยไม่ต้องรอผ่านการวิเคราะห์ผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) โดยระบุว่า คำสั่งที่ออกมาจะส่งผลบวกกับโครงการที่ปัจจุบันยังติดอยู่ในการพิจารณาอีไอเอ ทำให้สามารถปลดล็อกในส่วนนี้และเริ่มเดินหน้ากระบวนการเปิดประมูลหาผู้รับเหมาได้ซึ่งถือเป็นการเดินงานควบคู่กันไป จากเดิมโครงการของรัฐจะต้องรอผ่านการพิจารณาอีไอเอก่อนถึงจะเริ่มเปิดประมูล

"หลังจากนี้กระบวนการทั้งสองอย่างจะเดินหน้าไปด้วยกัน และเมื่ออีไอเอผ่านแล้วก็จะนำเข้าสู่การลงนามสัญญาเพื่อเริ่มก่อสร้างได้" นายอาคม กล่าว

สำหรับการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานที่อยู่ในความรับผิดชอบของกระทรวงคมนาคม พบว่าปัจจุบันมีโครงการรถไฟทางคู่หลายเส้นทางที่อยู่ระหว่างการพิจารณาอีไอเอ รวมไปถึงโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงส่วนต่อขยายช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ ที่ปรับเส้นทางใหม่ขยายออกไปอีก 5 กิโลเมตร ซึ่งจะต้องเสนออีไอเอเพิ่มเติม และโครงการทางหลวงพิเศษ (มอเตอร์เวย์) สายบางใหญ่กาญจนบุรี ที่ต้องปรับข้อมูลอีไอเอให้เป็นปัจจุบัน ดังนั้น เมื่อมีคำสั่งมาตรา 44 ดังกล่าวออกมา ทำให้หน่วยงานที่รับผิดชอบเดินหน้าขั้นตอนการเปิดประมูลพร้อมๆ กันไปกับการรออีไอเอ

นายอาคม ย้ำว่า คำสั่งมาตรา 44 ฉบับนี้ จะทำให้ลดระยะเวลาโครงการไปได้ส่วนหนึ่ง เพราะจากเดิมต้องรอให้โครงการผ่านการอนุมัติอีไอเอก่อน แต่เมื่อมีคำสั่งออกมาสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) จะเริ่มกระบวนการพิจารณาโครงการลงทุนควบคู่กันไปได้เลย และเมื่อเสนอโครงการให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบโครงการแล้วก็สามารถเปิดประมูลได้ทันที

"แม้จะมีมาตรา 44 ในเรื่องนี้ออกมา แต่ในหลักความเป็นจริง คือ โครงการที่จะให้เปิดประมูลไปก่อน จะต้องเป็นโครงการที่ไม่กระทบต่อประชาชนมากนัก และต้องมีเหตุผลของการพัฒนาโครงการมีข้อมูลค่อนข้างชัดเจน ที่สำคัญจะต้องปรับแก้แผนการลงทุนให้สอดคล้องกับข้อสังเกตของคณะกรรมการอีไอเอด้วย ซึ่งด้วยวิธีการนี้มั่นใจจะทำให้โครงการต่างๆ เร็วขึ้น" นายอาคม กล่าว

นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กล่าวว่า จะเร่งสรุปรายละเอียดโครงการรถไฟทางคู่ 4 เส้นทาง ได้แก่ เส้นมาบกะเบา-ชุมทางจิระ 2.98 หมื่นล้านบาท เส้นนครปฐมหัวหิน 2 หมื่นล้านบาท เส้นประจวบคีรีขันธ์ชุมพร 1.72 หมื่นล้านบาท และเส้นลพบุรี-ปากน้ำโพ 2.48 หมื่นล้านบาท ซึ่งอยู่ระหว่างการรอผลพิจารณาอีไอเอไปให้กระทรวงคมนาคมพิจารณาภายในเดือน มี.ค.นี้ จากนั้นจะเสนอโครงการทั้งหมดให้บอร์ด สศช.ให้ความเห็นชอบและเสนอ ครม.อนุมัติต่อไป

"จะเร่งสรุปโครงการรถไฟทางคู่ทั้ง 4 โครงการไปให้กระทรวงในเดือนนี้ จากนั้นจะดำเนินการตามขั้นตอน คือ เสนอบอร์ด สศช. และ ครม.ต่อไป ซึ่งผมคาดว่าหาก ครม.อนุมัติโครงการได้เร็ว ก็จะเปิดประมูลทุกโครงการได้ภายในกลางปีนี้ ส่วนโครงการรถไฟทางคู่ระยะที่ 2 อีก 8 เส้นทาง รฟท.จะเสนอโครงการให้กระทรวงคมนาคม บอร์ด สศช. และ ครม.พิจารณา ก็ต่อเมื่อได้เสนออีไอไอให้คณะกรรมการชานาญการพิจารณาแล้วเท่านั้น จะไม่ลัดขั้นตอน" นายวุฒิชาติ กล่า
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44864
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 14/03/2016 8:57 am    Post subject: Reply with quote

ม.44 ปลดล็อค"ทางคู่-มอเตอร์เวย์-สีม่วง" เทกระจาดเปิดประมูล1.31 แสนล.ฉลุย
โดย MGR Online 14 มีนาคม 2559 05:33 น.

"คมนาคม"ยิ้มรับ ม.44 ปลดล็อค EIA ดันประมูลมอเตอร์เวย์ "บางใหญ่-กาญจนบุรีและบางปะอิน-โคราช" ฉลุยครบในปีนี้ ส่วน รถไฟทางคู่ 4 สาย และรถไฟฟ้าสีม่วงใต้ จ่อชงครม.ขออนุมัติพร้อมลุยหาผู้รับเหมา เทกระจาดประมูลงานมูลค่ารวมกว่า 1.3 แสนล.

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า จากคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ. 2557 แก้กฎหมายสิ่งแวดล้อม ให้สามารถดำเนินการหาเอกชนผู้รับผิดชอบโครงการได้ ระหว่างรอผลการพิจารณา EIA ซึ่งส่งผลดีต่อการดำเนินโครงการของกระทรวงคมนาคมที่ศึกษาแล้วเสร็จและมีความพร้อมในการประกวดราคา จะสามารถนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ขออนุมัติโครงการคู่ขนานไปได้ และหากครม.อนุมัติ หน่วยงานเจ้าของโครงการจะประกวดราคาหาผู้รับเหมารอไว้ก่อนเมื่อ EIA ผ่านค่อยลงนามสัญญา

โดยในส่วนของ แผนปฏิบัติการ (Action Plan) ด้านคมนาคมขนส่งระยะเร่งด่วน ปี 2558- 2559 จำนวน 20 โครงการ วงเงินรวมประมาณ 1.79 ล้านล้านบาทนั้น ล่าสุด พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้สอบถามความคืบหน้า ซึ่งส่วนใหญ่โครงการยังเป็นไปตามแผน แม้จะไม่มี ม. 44 มาช่วยเรื่องลดเวลาการรอผลEIA อนุมัติก่อนเสนอครม.ก็ตาม แต่ยอมรับว่า มีโครงการที่ได้รับประโยชน์จาก ม.44 คือ รถไฟทางคู่ มอเตอร์เวย์และรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ ที่ขณะนี้อยู่ในขั้นตอน EIA

เช่น มอเตอร์เวย์สายบางใหญ่-กาญจนบุรี ระยะทาง 96 กิโลเมตร วงเงินลงทุนประมาณ 55,620 ล้านบาท อยู่ระหว่างทำทบทวนรายงานผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม(EIA) ใหม่ เพราะเป็นข้อมูลค่อนข้างเก่า โดยจะนำข้อมูลเดิมมาปรับปรุงในส่วนพื้นที่ที่มีการเปลี่ยนแปลง ส่วนสายบางปะอิน-นครราชสีมา ระยะทาง 196 กิโลเมตร วงเงิน 84,600 ล้านบาทนั้น มีการปรับแบบบางส่วน จึงต้องสำรวจพื้นที่เพิ่มเติมและทำ EIA ในจุดที่แก้ไข เพราะแบบเดิมบางส่วนขวางทางน้ำ และบางส่วนเปลี่ยนแปลงไปตามการร้องเรียนของชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ ซึ่ง ครม.อนุมัตืโครงการมอเตอร์เวย์ไปแล้ว ดังนั้น หลังจากนี้กรมทางหลวงสามารถทำทีโออาร์ เปิดผระมูลหาผู้รับเหมาได้เลย ปต่จะลงนามสัญญาได้เมื่อEIA ได้รับอนุมัติแล้ว

โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ขนาดรางความกว้าง 1 เมตร (Meter Gauge) ขณะนี้อยู่ที่ EIA จำนวน 2 เส้นทางคือ ลพบุรี-ปากน้ำโพ วงเงิน 24,918.74 ล้านบาทและนครปฐม-หัวหิน วงเงิน 20,036 ล้านบาท ซึ่งจะนำเสนอสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ไปคู่ขนาน หาก บอร์ดสศช.เห็นชอบในเดือนเม.ย.ได้จะเสนอครม.ขออนุมัติต่อไปในต้นพ.ค.นี้ ส่วน ทางคู่ช่วง มาบกะเบา-ชุมทางจิระ วงเงิน 29,853 ล้านบาท และประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร วงเงิน 17,290 ล้านบาท สภาพัฒน์ฯให้ความเห็นชอบแล้ว และเสนอไปครม.ก่อนแล้ว

ส่วนรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ ช่วงเตาปูน – ราษฎร์บูรณะระยะทาง 23.6 กม. วงเงินลงทุนรวม 131,171.94 ล้านบาท ซึ่งต้องเสนอรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ต่อขยายขยายเส้นทางอีก 5กม.ถึงถนนวงแหวนด้านใต้ นั้นหากคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (คจร.) เห็นชอบ จะเสนอเข้าครม.ขออนุมัติโครงการได้ก่อนเช่นกัน

นายอาคมกล่าวว่า การมีม. 44 เรื่อง EIA ช่วยให้โครงการต่างๆที่พร้อมดำเนินงานไม่ค้างที่กระทรวง เพราะต้องรอEIA ผ่านก่อน โดยจะสามารถเสนอไปครม.เพื่อขออนุมัติเปิดประมูลไว้ก่อน โดยมีเงื่อนไขที่ผู้รับเหมาต้องเข้าใจและยอมรับ คือ จะลงนามสัญญาได้เมื่อได้รับความเห็นชอบเรื่อง EIA รวมถึงกรณี EIA ใช้เวลาพิจารณานาน จนทำให้ราคาค่ากิ่สร้างมีการเปลี่ยนแปลงไปจากที่ประมูลไว้มาก โดยในแต่ละงานจะมีค่าเคไว้ด้วย อย่างไรก็ตาม ในเรื่องขั้นตอนการทำงานของ EIA นั้นควรมีความชัดเจนมากขึ้นด้วย เช่น กำหนดระยะเวลาในการพิจารณา หากต้องขอข้อมูลเพิ่มเติมจะพิจารณาต่อกันอีกกี่วัน เป็นต้น ซึ่งเป็นเรื่องของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจะพิจารณา เพื่อให้สอดคล้องกับ ม.44
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44864
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 14/03/2016 8:16 pm    Post subject: Reply with quote

ร.ฟ.ท.เวนคืนกว่า 167 ไร่ สร้างทางคู่”ชุมพร-สุราษฎร์ฯ”
โดย MGR Online 14 มีนาคม 2559 18:38 น.

Click on the image for full size

รฟท. เปิดเวทีระดมสมองชาวชุมพร ร่วมพัฒนารถไฟทางคู่ ช่วงชุมพร-สุราษฎร์ธานี 168.20 กม.มูลค่า กว่า 3.35 หมื่นล. เพิ่มความเร็วสูงสุด 160 กม./ชม. ย่นเวลาจากชุมพรถึงสุราษฎร์ฯเหลือ 1.30 ชม. พร้อมเปิดแนวเวนคืนกว่า 167 ไร่ ปรับรัศมีโค้ง คาดผู้ใช้บริการปี 65 ถึง 1.74 ล้านคน

เมื่อวันที่ 14 มี.ค. การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ได้จัดประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ครั้งที่ 3 เพื่อศึกษาความเหมาะสมและออกแบบรายละเอียดโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ช่วงชุมพร – สุราษฎร์ธานี เพื่อนำเสนอผลสรุปการศึกษาโครงการด้านวิศวกรรม เศรษฐกิจ และผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม โดยได้นำเสนอผลการศึกษาแนวเส้นทางโครงการชุมพร-สุราษฎร์ธานี มีจุดเริ่มต้นโครงการที่บริเวณปลายสถานีรถไฟชุมพร อ.เมือง จ.ชุมพร และสิ้นสุดที่สถานีสุราษฎร์ธานี อ.พุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี รวมระยะทางโครงการทั้งสิ้น 168.20 กิโลเมตร ประกอบด้วยสถานีรถไฟจำนวน 21 สถานี เป็นการก่อสร้างทางวิ่งรถไฟขนานไปกับทางรถไฟเดิมขนาดทาง 1 เมตร (Meter Gauge) ออกแบบทางวิ่งให้รองรับความเร็วสูงสุด 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ต้องมีการปรับปรุงเส้นทางรถไฟที่เป็นโค้งให้ได้รัศมี จึงจำเป็นต้องมีการเบี่ยงออกนอกพื้นที่เขตทางของ รฟท. จำนวน 13 แห่ง

ทำให้ต้องมีการเวนคืนพื้นที่ทั้งหมด 167.94 ไร่ โดย จ.ชุมพร มีการเวนคืนพื้นที่บริเวณ อ.เมือง ประมาณ 97.00 ไร่ อ.สวี ประมาณ 5.52 ไร่ อ.ทุ่งตะโก ประมาณ 0.78 ไร่ อ.หลังสวน ประมาณ 23.23 ไร่ และ อ.ละแม ประมาณ 32.96 ไร่ ซึ่งจะช่วยลดเวลาการเดินทางด้วยรถไฟจากชุมพรถึงสุราษฎร์ธานีเหลือประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที รวมทั้งกำหนดรูปแบบการแก้ไขปัญหาจุดตัดทางรถไฟกับถนนจำนวน 108 จุด ซึ่งคำนึงถึงความเหมาะสมกับรูปแบบการเดินทางเดิมในท้องถิ่นเพื่อให้ประชาชนเดินทางได้อย่างปลอดภัยมากที่สุด มีทั้งหมด 4 รูปแบบ ได้แก่ ทางยกระดับ, ทางยกระดับตัวยู, ท่อลอดเหลี่ยมใต้ทางรถไฟ และยกระดับทางรถไฟ และก่อสร้างรั้วกั้นตลอดแนวเขตทางรถไฟ

สำหรับผลการศึกษาด้านเศรษฐกิจพบว่าโครงการมีความเหมาะสมในการลงทุน โดยมีอัตราส่วนผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ (Economic Internal Rate of Return : EIRR) ร้อยละ 12.80 มูลค่าการลงทุน 33,513.90 ล้านบาท มูลค่าผลประโยชน์ทางด้านเศรษฐกิจ 4,309 ล้านบาท/ปี ในปี 2565 โดยแบ่งเป็นผลประโยชน์ด้านการประหยัดค่าใช้จ่ายในการใช้ยานพาหนะ 2,427.1 ล้านบาท/ปี มูลค่าการประหยัดเวลาในการเดินทาง 1,016.0 ล้านบาท/ปี และมูลค่าการลดค่าใช้จ่ายทางด้านสิ่งแวดล้อม 865.8 ล้านบาท/ปี โดยคาดว่าจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างได้ในปี 2561 โดยใช้ระเวลาก่อสร้างประมาณ 3 ปี คาดว่าจะเปิดให้บริการภายในปี 2564 และจะมีผู้ใช้บริการทางรถไฟสายนี้ ประมาณ 1,749,100 คนต่อปี และมีการขนส่งสินค้า ประมาณ 883,500 ตันต่อปี ในปี 2565

นอกจากนี้ได้นำเสนอมาตรการในการลดผลกระทบสิ่งแวดล้อมและประชาชนระหว่างการก่อสร้างโครงการที่สำคัญ อาทิ การสร้างคันดินป้องกันการชะล้างตะกอนหรือหน้าดินลงสู่แหล่งน้ำหรือท่อระบายน้ำสาธารณะ การติดตั้งกำแพงกันเสียงชั่วคราวบริเวณพื้นที่ก่อสร้างด้านที่อยู่ใกล้กับพื้นที่อ่อนไหว และจะทำการขุด เจาะ ในช่วงเวลากลางวันเท่านั้น การชดเชยที่ดินและทรัพย์สิน มีการแต่งตั้งคณะกรรมการชดเชยทรัพย์สินเพื่อดำเนินการจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินและชดเชยทรัพย์สินตลอดแนวเส้นทางโครงการตามขั้นตอนของกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเป็นธรรมมากที่สุด ด้วยกระบวนการการมีส่วนร่วมของทุกฝ่าย เป็นต้น

สำหรับการพัฒนารถไฟทางคู่ช่วงชุมพร – สุราษฎร์ธานี จะส่งผลให้ทางรถไฟที่ผ่าน จ.ชุมพร เป็นทางคู่ทั้งหมด ซึ่งจะเพิ่มขีดความสามารถในการขนส่งสินค้าการเกษตรและผลิตภัณฑ์แปรรูปทางทะเล ลดระยะเวลาในการเดินทาง และช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวและบริการในพื้นที่ได้เป็นอย่างดี เนื่องจากมีแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญหลายแห่ง เช่น อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร หาดทุ่งวัวแล่น ซึ่งสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ของ จังหวัดส่งเสริมให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ วัฒนธรรม และประเพณีที่เป็นเอกลักษณ์ของภาคใต้และหากมีการพัฒนาโครงการท่าเรือน้ำลึกปากบาราและท่าเรือน้ำลึกสงขลา การขนส่งระบบรางด้วยรถไฟรางคู่จะเป็นส่วนสำคัญที่จะส่งเสริมการเชื่อมโยงการขนส่งสินค้าทั้งการนำเข้า-ส่งออก โดยใช้การขนส่งทางรางมาเป็นตัวเชื่อม (Land bridge) ระหว่างท่าเรือฝั่งอ่าวไทยและฝั่งอันดามัน และยังช่วยเพิ่มโอกาสในการรองรับสินค้าเปลี่ยนถ่าย ที่มีการขนส่งผ่านช่องแคบมะละกา ซึ่งจะสร้างรายได้และความเจริญให้แก่ประเทศ รวมทั้งยังเป็นปัจจัยสนับสนุนการพัฒนาท่าเรือทั้งสองฝั่งให้เป็นท่าเรือระดับนานาชาติ

โดยจัดสัมมนา ณ ห้องพุดพิชยา โรงแรมนานาบุรี อ.เมืองชุมพร จ.ชุมพร มีนายสมดี คชายั่งยืน ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร เป็นประธาน โดยมีผู้แทนจากหน่วยงานราชการ สถาบันการศึกษาในพื้นที่ หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น องค์กรธุรกิจเอกชนและภาคประชาชนจากจังหวัดชุมพร เข้าร่วมประชุมกว่า 200 คน
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Aesthetics
3rd Class Pass
3rd Class Pass


Joined: 31/07/2015
Posts: 30

PostPosted: 15/03/2016 4:05 am    Post subject: Reply with quote

ดูเป็นลิเกฉากใหญ่พอสมควรเลยนะครับ ผมอยากรู้จริงว่าตอนที่มาเลย์เค้าจะทำรถไฟรางคู่ เค้าคิดแบบที่การรถไฟบ้านเราคิดบ้านเราทำกันรึป่าว ผมเชื่อแบบสนิทใจเลยว่าไม่ เพราะไม่เช่นนั้นรถไฟมาเลย์ ณ พ.ศ.นี้จะไม่แตกต่างจากบ้านเรามากนัก ถามว่าที่ไปเปิดโรงลิเกโชว์กัน ถ้ามาตามสูตรของการรถไฟที่เราเห็นๆกัน คือ สร้างทางขึ้นมาใหม่จริง แต่ก็ไม่ได้ทำให้เหมือนกับว่าเป็นรางคู่ที่ทำขึ้นมาใหม่จริงๆทั้งคู่ ทำทางขึ้นมาใหม่หนึ่งทาง จะดูเป็นระเบียบเรียบร้อยก็ไม่ครับ แนะนำให้ไปดู Portfolioได้ ที่สถานี ศาลายา ครับ ลำพังรถไฟบันไดก็สูงอยู่แล้ว นี้ต้องปีนบันไดชานชาลาต่างระดับอีก อีกทั้งแนวโน้มสันรางสูงขึ้นเรื่อยๆ บางสถานีระดับรางสูงกว่าชานชาลาด้วยซ้ำ ต้องถามเสมอว่า มาตรฐานจริงๆ ความต่างระดับอยู่ที่เท่าไหร่? ถ้าเปลี่ยนจากรั่วดักควายที่ขยันสร้างกันจังในหลายพื้นที่ เป็นทำอย่างไรให้ระดับชานชาลาให้ผู้โดยสารขึ้นลงง่ายจะดูเป็นประโยชน์กว่านะครับ เอาเข้าจริงบอกว่ารางรถไฟทำความเร็วได้สูงสุด 160 กม/ชม แต่ไม่มีรถวิ่ง จะทำไว้ทำซากอะไรละครับ ยิ่งตลกกะคำว่าใช่ขนส่งอาหารทะเล บริบทในความเป็นจริงมันไม่ใช่นะครับ ณ เวลานี้ ถ้าคิดว่าจะไม่สร้างเอง ไม่ทำรถไฟไม่ตั้งโรงงาน ผมว่าซื้อมาเลย์เอาเลยก็ได้นะครับ Can't dafeat him , Joint him ครับ หรือถ้าคิดจะประหยัดงบจัดซื้อ หาSeries 253 Narita Express Refurbishedหามาประจำก็ได้ครับ หรือ EMU มือสองจากญี่ปุ่นก็ไม่เสียหายครับ ไม่ต้องอายนะครับ เพราะ บชส หลายๆคันที่ใช่งานอยู่อายุจริง มากกว่า 50 ปีแล้วครับ แต่ถ้าเอาเข้าจริงๆทำแบบบ้านๆ เทียบไม่ได้กับของมาเลย์ อย่าทำดีกว่าครับ เสียเวลา ถ้าทำแล้วอย่างน้อยต้องเท่ากันหรือดีกว่ามาเลเซีย

สิ่งที่การรถไฟเองต้องปรับปรุงอย่างเร่งด่วน คือ มาตรฐานครับ สภาพที่เป็นเห็นอยู่ในปัจจุบันบอกส่วนๆว่าเละ ทั้ง 4M ที่เป็นอยู่ล้าหลังมากๆครับ แบบฟอร์มบางอย่างไม่เคยถูกRevisedเลย นับสิบๆปี ถ้าทำได้ผมเชื่อว่าจะส่งผลชัดเจนกับต้นทุนในการดำเนินงานและภาพลักษณ์องค์กร ถึงเวลาแล้วมั้ยที่ต้องไม่เห็นปากกาเคมีเขียนบอกเลขที่นั่ง ถึงเวลาแล้วมั้ยที่ต้องไม่เห็นถุงดำผูกตามราว ถึงเวลาแล้วมั้ยที่ต้องไม่เห็นคราบน้ำมันเครื่องบนเบาะ ถึงเวลาแล้วมั้ยที่ไม่ซ่อมรถแบบตามมีตามเกิด ถึงเวลาแล้วมั้ยที่จะติดตั้งเครื่องล้างรถไฟAPRL ระหว่างสถานีพญาไทกับราชปารภ ไหนๆก็รถวิ่งมาช้าๆอยู่แล้ว เพื่อที่จะได้ไม่เป็น"รถไฟเปื้อนฝุ่น" ไปมากกว่านี้ ฯลฯ
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42789
Location: NECTEC

PostPosted: 15/03/2016 4:57 pm    Post subject: Reply with quote

ู^^^
ฟังดูดี แต่ถ้ามี Guts & Blood มากพอที่จะพูดได้อย่างนี้ต่อหน้าต่อตาคนรถไฟโดยเฉพาะพวก สร. รฟท. แล้วไม่โดนซัดกลับมาก็นับว่า มหัศจรรย์อย่างเอก แล้ว

ปรับคำพูดอีกนิด ใช้คำสั้นๆแต่ได้ใจความ จะได้ผลดีกว่านะครับ เชื่อผม Embarassed

//-------------------------------------------------------

รฟท. ลงพื้นจังหวัดสุราษฎร์ธานี เปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นและหาข้อสรุปโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ชุมพร-สุราษฎร์ธานี เพื่อยกระดับเมืองสู่การเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ภาคใต้ตอนบน

แหล่งที่มา : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสุราษฎร์ธานี
วันที่ข่าว : 15 มีนาคม 2559

รฟท. ลงพื้นจังหวัดสุราษฎร์ธานี เปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นและหาข้อสรุปโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ชุมพร-สุราษฎร์ธานี เพื่อยกระดับเมืองสู่การเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ภาคใต้ตอนบน
วันนี้ (15 มี.ค. 59) นายศุภวัชร ศักดา รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นประธานเปิดและร่วมรับฟังความคิดเห็น ในการประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชน (การประชุมใหญ่) ครั้งที่ 3 งานบริการที่ปรึกษาเพื่อศึกษาความเหมาะสมและออกแบบรายละเอียดโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ช่วงชุมพร-สุราษฎร์ธานี เพื่อนำเสนอผลสรุปการศึกษาโครงการด้านวิศวกรรม เศรษฐกิจ และผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งรับความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากทุกภาคส่วน โดยมีผู้เข้าร่วม ประกอบด้วย ผู้แทนหน่วยงานราชการ สถาบันการศึกษา หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น องค์กรเอกชน และภาคประชาชนรวมกว่า 200 คน
นายไพบูลย์ สุจิรังกุล วิศวกรใหญ่ฝ่ายโครงการพิเศษและก่อสร้างโครงการก่อสร้างทางรถไฟทางคู่ช่วงชุมพร-สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า การเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นครั้งนี้ได้นำเสนอผลการศึกษาแนวเส้นโครงการ ซึ่งมีจุดเริ่มต้นจากสถานีชุมพร และสิ้นสุดที่สถานีสุราษฎร์ธานี รวมจำนวน 22 สถานี ระยะทาง 168.20 กิโลเมตร ออกแบบทางวิ่งให้รองรับความเร็วสูงสุด 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งจะช่วยลดเวลาการเดินทางจากชุมพร ถึงสุราษฎร์ธานีเหลือประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที โดยคาดว่าจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างได้ภายในปี 2561 ใช้ระยะเวลาก่อสร้างประมาณ 3 ปี เมื่อแล้วเสร็จคาดว่าจะมีผู้ใช้บริการประมาณ 1,749,100 คนต่อปี และมีการขนส่งสินค้าประมาณ 883,500 ตันต่อปี
Back to top
View user's profile Send private message
srinopkun
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 08/04/2010
Posts: 2877
Location: นครปฐม

PostPosted: 15/03/2016 8:31 pm    Post subject: Reply with quote

รวมตัวกันมั้ยล่ะ แล้วเข้าไปนำเสนอ ..... เอามั้ยล่ะ emot123

เวบบอร์ดแห่งนี้เป็นแหล่ง"ข้อมูลข่าวสาร" นะครับ ..... ไม่ใช่ที่"ระบายอารมณ์"

การจะคิด จะพูด จะเขียน ฯลฯ ก็น่าจะมีข้อมูลและเหตุผลสนับสนุนกันบ้าง

ไม่ใช่คิดอะไรส่วนตัวแล้วเอามาโพสในบอร์ด




เมื่อก่อน ผมก็"คิดแรงๆ"แบบนี้แหละ

แต่พอเข้าไปได้ศึกษาข้อมูล ได้รับฟังเหตุผล ได้เห็นอะไรต่อมิอะไรมากขึ้น ถึงได้ "อ๋อ ..."

ว่าทำไมเขาถึงคิด ถึงได้ทำกันแบบนี้ ทั้งๆที่โดยความคิดส่วนตัวเรานั้นไม่ใช่แค่ไม่เห็นด้วยนะ

แต่ถึงขั้นอยากจะ"ด่า" ให้ด้่วยซ้ำไป




เรื่องการพัฒนาระบบรางนี่ก็เหมือนกัน ฟังคนโน้นที มองคนนี้ที ดูบ้านเมืองอื่นหลายที

บางทีก็รู้สึกกลุ้มใจแทนคนที่เขากำลังทำงานอยู่นะ ว่าทำไมไม่ออกมาบอก มาชี้แจงคนอื่นเขามั่ง

ปล่อยให้คนอื่นเขาคิดไปเอง เลย"โดนด่า" กันมาตลอดไง




เคยสอบถามว่าทำไม่ออกมาชี้แจงมั่งล่ะ เขาบอกว่าบางอย่างพูดไม่ได้ พูดไปเรื่องใหญ่โตมโหฬารกันเลยเชียว

(และเขาก็บอกมาด้วย ว่ามัน"มโหฬาร"อย่างไรบ้าง รู้แล้วก็กลัวเหมือนกันแฮะ)

เราเลยเข้าใจ ว่าบางอย่างมันพูดไม่ได้ จนกว่าจะเริ่มโครงการจริงๆ

บางอย่าง แหล่งข่าวที่"เข้าข้าง" หรือมี"ผลประโยชน์แอบแฝง" ออกมาจัดแจงให้ข่าวกันเฉยเลย

เฮ้อ ....

emot127
Back to top
View user's profile Send private message
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 123, 124, 125 ... 390, 391, 392  Next
Page 124 of 392

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©