RailServe.Com

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai.Com

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311296
ทั่วไป:13274478
ทั้งหมด:13585774
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - ข่าว รฟท จาก หนังสือพิมพ์
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

ข่าว รฟท จาก หนังสือพิมพ์
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 284, 285, 286 ... 474, 475, 476  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
nutsiwat
2nd Class Pass
2nd Class Pass


Joined: 03/03/2011
Posts: 684
Location: สถานีเรณูนคร

PostPosted: 22/11/2016 8:27 pm    Post subject: Reply with quote

"ซีพี"เหมาตู้เสบียงรถไฟเหนือจดใต้ ขายอาหารแช่แข็ง-กาแฟสดมวลชน

ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
22 พ.ย. 2559 เวลา 11:30:57 น.

นายทนงศักดิ์ พงษ์ประเสริฐ รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการเดินรถ การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ขณะนี้ได้เลือก บมจ.ซีพี ออลล์ ผู้บริหารร้านสะดวกซื้อ "เซเว่น อีเลฟเว่น" ที่จำหน่ายอาหารแช่แข็งและกาแฟมวลชนในเครือซีพี เป็นผู้ให้บริการอาหารบนขบวนรถไฟใหม่ทั้ง 4 เส้นทาง ได้แก่ กรุงเทพฯ-เชียงใหม่, กรุงเทพฯ-อุบลราชธานี, กรุงเทพฯ-หนองคาย และกรุงเทพฯ-หาดใหญ่ เป็นเวลา 1 ปี ซึ่งเมื่อวันที่ 11 พ.ย.ที่ผ่านมาได้เปิดให้บริการสายเชียงใหม่กับอุบลราชธานีไปแล้ว

"รถใหม่จะทันสมัยทั้งภายในและภายนอก ส่วนการบริการจะคล้ายกับการให้บริการบนเครื่องบิน เพราะโบกี้รถโดยสารรุ่นใหม่ตู้เสบียงไม่สามารถประกอบอาหารสดได้ จึงเปลี่ยนเป็นการบริการอาหารเป็นกล่องแช่แข็ง พร้อมเครื่องดื่มชนิดต่าง ๆ ในรูปแบบร้านสะดวกซื้อ"

ทั้งนี้บนรถด่วนขบวนพิเศษโฉมใหม่นี้จะมีรถตู้เสบียงอาหาร 1 คันไว้บริการรับประทานอาหาร แต่เอกชนที่ได้สัมปทานจะสามารถเข็นรถเพื่อขายให้กับผู้โดยสารได้ด้วย โดยค่าอาหารคิดแยกออกจากค่าตั๋ว จะคล้ายกับสายการบินโลว์คอสต์ ซึ่งผู้โดยสารต้องสั่งเมนูจากร้านค้าเอง ราคาอาจจะแพงกว่าทั่วไปเล็กน้อย เนื่องจากมีต้นทุนขนส่งที่สูงกว่า ซึ่งรายการอาหารบนตู้เสบียง จะมีขนมขบเคี้ยว เครื่องดื่ม ของใช้ประจำวัน และกาแฟสดมวลชน

ขณะที่การให้บริการทางพนักงานซีพีจะเข็นรถอาหารไปตามขบวนรถต่างๆ ตั้งแต่เวลา 18.00-22.00 น. หรือจนกว่าผู้โดยสารจะพักผ่อน ในขณะที่ร้านขายอาหารจะบริการตั้งแต่ 04.00-22.00 น. พร้อมบริการอินเทอร์เน็ตไร้สายฟรีทุก 2 ชั่วโมง ส่วนผู้โดยสารที่ใช้บริการรถนอนปรับอากาศชั้นที่ 1 สามารถสั่งอาหารจากที่นั่งแบบออนไลน์ได้


ณ ขณะนี้ CP ควบทุกอย่างที่เกี่ยวกับร้านสะดวกซื้อ และตอนนี้ก็มาที่ขบวนรถไฟแล้ว หึหึหึ
_________________
Laughing Laughing Laughing Laughing
--------------------------

สถานีต่อไป สถานีเรณูนคร
next station Renunakorn
Back to top
View user's profile Send private message Yahoo Messenger MSN Messenger
Nakhonlampang
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 29/03/2006
Posts: 3293
Location: เสนานิคม1-คลองหลวง

PostPosted: 22/11/2016 9:54 pm    Post subject: Reply with quote

^
ถ้าจะบุกรถไฟจริง ไหนๆก็ไหนๆแล้ว น่าจะรับขายตั๋วรถไฟด้วย เผื่อจะได้เดินไปจองตั๋วที่เซเว่นหน้าหมู่บ้าน ไม่ต้องนั่งรถไปถึงสถานี Wink
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42751
Location: NECTEC

PostPosted: 22/11/2016 11:47 pm    Post subject: Reply with quote

ชวนนั่งหัวรถจักรไอน้ำขบวนประวัติศาสตร์ “กรุงเทพ-ฉะเชิงเทรา” วันหยุด 5 ธันวาคมนี้
โดย MGR Online
22 พฤศจิกายน 2559 16:16 น. (แก้ไขล่าสุด 22 พฤศจิกายน 2559 18:27 น.)


ร.ฟ.ท.ร่วมกับ ททท. และหน่วยงานพันธมิตร จัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวทางรถไฟ โดยหัวรถจักรไอน้ำขบวนประวัติศาสตร์ เส้นทาง “กรุงเทพ-ฉะเชิงเทรา-กรุงเทพ” ในวันที่ 5 ธันวาคมนี้ พร้อมเยี่ยมชมแหล่งท่องเที่ยวสำคัญแบบไปเช้าเย็นกลับ ผู้สนใจเข้าร่วมเดินทาง สำรองที่นั่งได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ราคา 250 และ 999 บาท

นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยว่า เนื่องในโอกาสคล้ายวันพระราชสมภพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช การรถไฟฯ ได้ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) พร้อมด้วยสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวทางรถไฟครั้งสำคัญประจำปี เปิดให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวเข้าร่วมเดินทางด้วยหัวรถจักรไอน้ำขบวนประวัติศาสตร์ไปยังเส้นทาง “กรุงเทพ-ฉะเชิงเทรา-กรุงเทพ” พร้อมกับเดินทางเยี่ยมชมแหล่งท่องเที่ยวสำคัญในจังหวัดฉะเชิงเทรา แบบไปเช้าเย็นกลับ

โดยผู้สนใจร่วมเดินทางท่องเที่ยวโดยรถจักรไอน้ำขบวนประวัติศาสตร์ สามารถสำรองที่นั่งได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปใน 2 รูปแบบ คือ

- เดินทางด้วยรถไฟอย่างเดียว 250 บาท ออกสถานีกรุงเทพ เวลา 08.00 น. หยุดรับส่งระหว่างทางที่สถานีมักกะสัน สถานีคลองตัน และสถานีหัวหมาก เที่ยวกลับรถไฟออกจากสถานีฉะเชิงเทรา เวลา 16.30 น. ถึงกรุงเทพ เวลา 18.30 น.

เดินทางด้วยรถไฟพร้อมแพกเกจท่องเที่ยวและอาหารเช้ากลางวัน คนละ 999 บาท โดยอัตรานี้รวมค่าตั๋วรถไฟ (รถจักรไอน้ำขบวนประวัติศาสตร์) ไป-กลับ กรุงเทพ-ฉะเชิงเทรา-กรุงเทพ ค่ารถบัสปรับอากาศ นำท่านท่องเที่ยวตามรายการที่ระบุ, ค่าอาหารจำนวน 2 มื้อ เครื่องดื่ม อาหารว่าง บริการตลอดการเดินทาง, ค่าธรรมเนียมเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวทุกแห่ง, ค่าประกันภัยในการเดินทางคนละ 1,000,000 บาท และค่ารักษาพยาบาล ท่านละ 500,000 บาท และมีเจ้าหน้าที่ดูแล และอำนวยความสะดวกตลอดการเดินทาง

สำหรับโปรแกรมการเดินทาง เริ่มตั้งแต่ 07.00 น. คณะมาพร้อมเพรียงกัน ณ สถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) ชานชาลาที่ 4 จากนั้นเริ่มออกเดินทางจากสถานีกรุงเทพ โดยขบวนพิเศษรถจักรไอน้ำ เวลา 08.00 น. เดินทางผ่านสถานีมักกะสัน สถานีคลองตัน สถานีหัวหมาก และสถานีชุมทางฉะเชิงเทรา พร้อมบริการอาหารเช้าเครื่องดื่ม และอาหารว่างระหว่างการเดินทาง จากนั้นเมื่อเดินทางถึงสถานีชุมทางฉะเชิงเทรา จะนำคณะเดินทางโดยรถบัสปรับอากาศ ไปอำเภอบางคล้า เพื่อรับประทานอาหารกลางวัน

พร้อมเดินทางท่องเที่ยวเยี่ยมชมแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ อาทิ ไหว้พระสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ พร้อมชมความงดงามของโบสถ์สีทอง ณ วัดปากน้ำโจ้โล้ และโบสถ์สเตนเลสสีเงิน วัดหัวสวน ตามรอยพระเจ้าตากสินมหาราช ณ วัดโพธิ์บางคล้า และชมฝูงค้างคาวแม่ไก่สีดำ ขนาดใหญ่นับแสนตัวที่อาศัยเกาะอยู่บนต้นไม้ จากนั้นนำคณะออกเดินทางกลับจากสถานีฉะเชิงเทรา เวลา 16.30 น. โดยขบวนรถจักรไอน้ำประวัติศาสตร์ และถึงสถานีกรุงเทพโดยสวัสดิภาพ เวลา 18.30 น.

สำรองที่นั่ง หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ 1690 และบริษัท เมืองไทย ครีเอทีฟ แอนด์ ทัวร์ จำกัด โทร. 0-2919-6037, 0-2919-6039, 08-1653-5635, 09-8273-4435, 08-5065-8144
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42751
Location: NECTEC

PostPosted: 23/11/2016 2:54 am    Post subject: Reply with quote

nutsiwat wrote:
"ซีพี"เหมาตู้เสบียงรถไฟเหนือจดใต้ ขายอาหารแช่แข็ง-กาแฟสดมวลชน

ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
22 พ.ย. 2559 เวลา 11:30:57 น.


คำ ผกา จากมติชน และ Voice TV ได้จิกกัด ซีพีไว้ดั่งนี้
คำ ผกา wrote:
น่าเสียดายที่ รถไฟไทยไม่สามารถดึงอาหารท้องถิ่นมาเป็นส่วนหนึ่งของอาหารกล่องบนรถไฟ เพื่อมอบประสบการณ์ที่น่าประทับใจแก่ผู้โดยสาร ทว่าเมื่อ ซีพีประมูลได้ เราต้องกินอาหารรสชาติ “มาตรฐาน”เดียวกันหมด เหมือนการเดินไปซื้อข้าวกล่องข้างบ้าน

คำ ผกา กล่าวไว้ในรายการ In Her View ประจำวันที่ 22 พฤศจิกายน 2559 กับประเด็นที่ว่า "นั่งรถไฟไทยได้กินอาหารเซเว่นฯ"


https://www.facebook.com/inherview/photos/a.702032133233379.1073741828.699894300113829/855734777863113/?type=3&theater
http://shows.voicetv.co.th/inherview/434610.html
http://shows.voicetv.co.th/inherview/434619.html

พูดเช่นนี้ไม่กลัวซีพีกระซวกกลับไปหรือครับ? อีกอย่างรถเสบียงใน รถใหม่ จาก CRRC เหมาะกะ อาหาร Defroze แบบ 7-11 มากกว่า นะ


Last edited by Wisarut on 23/11/2016 1:10 pm; edited 1 time in total
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42751
Location: NECTEC

PostPosted: 23/11/2016 11:42 am    Post subject: Reply with quote

Wisarut wrote:
ชวนนั่งหัวรถจักรไอน้ำขบวนประวัติศาสตร์ “กรุงเทพ-ฉะเชิงเทรา” วันหยุด 5 ธันวาคมนี้
โดย MGR Online
22 พฤศจิกายน 2559 16:16 น. (แก้ไขล่าสุด 22 พฤศจิกายน 2559 18:27 น.)


รถไฟไอน้ำพาเที่ยว 5 ธ.ค.
เดลินิวส์
อังคารที่ 22 พฤศจิกายน 2559 เวลา 18.14 น.

5 ธ.ค.รฟท.ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.)เปิดเส้นทางท่องเที่ยวสายประวัติศาสตร์ระหว่าง“กรุงเทพ–ฉะเชิงเทรา-กรุงเทพ” โดยจะใช้หัวรถจักรไอน้ำในอดีตนำขบวนรถไฟจำนวน 10 ตู้ พาผู้โดยสารเยี่ยมชมแหล่งท่องเที่ยวสำคัญในจ.ฉะเชิงเทรา เนื่องในโอกาสคล้ายวันพระราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช



นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) เปิดเผยว่าในวันที่5ธ.ค.นี้ รฟท.ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.)เปิดเส้นทางท่องเที่ยวสายประวัติศาสตร์ระหว่าง“กรุงเทพ–ฉะเชิงเทรา-กรุงเทพ” โดยจะใช้หัวรถจักรไอน้ำในอดีตนำขบวนรถไฟจำนวน 10 ตู้ พาผู้โดยสารเยี่ยมชมแหล่งท่องเที่ยวสำคัญในจ.ฉะเชิงเทรา เนื่องในโอกาสคล้ายวันพระราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และสนับสนุนแหล่งท่องเที่ยวท้องถิ่นให้กับประชาชนได้มีรายได้ สำหรับโปรแกรมการเดินทาง เริ่มแต่เวลา 07.00 น. มาขึ้นรถไฟ ณ สถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) ชานชาลาที่ 4 จากนั้นออกเดินทางจากสถานีกรุงเทพ เวลา 08.00 น.ผ่าน สถานีมักกะสัน คลองตัน หัวหมาก และสถานีชุมทางฉะเชิงเทรา พร้อมบริการอาหารเช้าเครื่องดื่ม และ อาหารว่างระหว่างการเดินทาง เมื่อเดินทางถึงสถานีชุมทางฉะเชิงเทราแล้ว เดินทางต่อด้วยรถบัสปรับอากาศ ไปอ.บางคล้า เพื่อรับประทานอาหารกลางวัน และท่องเที่ยวเยี่ยมชมแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ อาทิ ไหว้พระ สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ชมความ งามของโบสถ์สีทอง ณ วัดปากน้ำโจ้โล้ และโบสถ์สเตนเลสสีเงิน วัดหัวสวน ตามรอยพระเจ้าตากสินมหาราช ณ วัดโพธิ์บางคล้า และชมฝูงค้างคาวแม่ไก่ขนาดใหญ่นับแสนตัวที่อาศัยเกาะอยู่บนต้นไม้ จากนั้นดินทางกลับจากสถานีฉะเชิงเทรา เวลา 16.30 น. และถึงสถานีกรุงเทพโดย สวัสดิภาพ เวลา 18.30 น.

สำหรับผู้ที่สนใจร่วมเดินทางสามารถสำรองที่นั่ง ได้ตั้งแต่แต่บัดนี้เป็นต้นไปโดยตั๋วโดยสารจะมีให้เลือก 2 รูปแบบ

1.เดินทางด้วยรถไฟอย่างเดียว 250 บาท
2.เดินทางด้วยรถไฟพร้อมแพ็คเกจท่องเที่ยวพร้อมอาหารเช้ากลางวัน คนละ 999 บาท รวมค่าตั๋วรถไฟ (รถจักรไอน้ำขบวนประวัติศาสตร์) ไป–กลับ กรุงเทพ–ฉะเชิงเทรา-กรุงเทพ ค่ารถบัสปรับอากาศ ท่องเที่ยวตามรายการ ค่าธรรมเนียมเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยว ค่าประกันภัยในการเดินทางคนละ 1,000,000 บาท และ ค่ารักษาพยาบาลวงเงินไม่เกิน 500,000 บาท พร้อมเจ้าหน้าที่ดูแล และอำนวยความสะดวกตลอดการเดินทาง

การเดินทางครั้งนี้สามารถรองรับผู้โดยสารได้จำนวน 700 คน (บรรจุผู้โดยสาร70 คนต่อตู้ขบวน) สำหรับประชาชนที่สนใจสามารถสอบถามไปยังประชาสัมพันธ์ การรถไฟแห่งประเทศไทย ถนนรองเมือง เขตปทุมวัน กทม.10330 โทรศัพท์ 0-2220-4269 โทรสาร. 0-2222-4273 www.railway.co.th หรือสำรอง ที่นั่ง หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ 1690
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42751
Location: NECTEC

PostPosted: 23/11/2016 2:50 pm    Post subject: Reply with quote

ก.คมนาคมร่วมเยอรมันพัฒนาอุตฯทางราง
ข่าวเศรษฐกิจ
INN News
วันพุธที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ.2559 14:05 น.

กระทรวงคมนาคม จับมือเยอรมนี ร่วมกันพัฒนา อุตสาหกรรมของระบบรางทั้ง 2 ประเทศ
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานในพิธีลงนามฝ่ายไทย ร่วมกับเอกอัครราชทูตสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ประจำประเทศไทย และร่วมแถลงการณ์แสดงเจตจำนงการพัฒนาความร่วมมือด้านรถไฟ ระหว่างกระทรวงคมนาคมของไทย กับกระทรวงคมนาคมและโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล แห่งสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี เพื่อสร้างความสัมพันธ์และความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมของระบบรางทั้งสองประเทศ

โดยระบุว่า กระทรวงคมนาคม มีโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานระบบราง ตั้งแต่ปี 2558-2560 อาทิ โครงการรถไฟฟ้าในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล รถไฟทางคู่ และรถไฟความเร็วสูง ดังนั้น จากนี้จะนำเทคโนโลยีจากต่างประเทศ มาประยุกต์ใช้ เพื่อค่าใช้จ่ายหลายๆ ด้าน

ขณะเดียวกัน เตรียมศึกษาการก่อสร้างเส้นทางรถไฟความเร็วสูงสายใต้เชื่อมต่อปาดังเบซาร์ ประเทศมาเลเซีย รวมถึงเส้นทางจากกรุงเทพฯ - หัวหิน เชื่อมต่อการเดินทางจากไทยไปยังประเทศเพื่อนบ้าน พร้อมกันนี้ จะหารือกับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ บีโอไอ เพื่อให้มีการส่งเสริมการลงทุนด้านอุตสาหกรรมระบบรางให้มากขึ้น

//-------------

ไทยเอ็มโอยูเยอรมนีร่วมพัฒนาระบบรางหนุนเชื่อมต่อจีนสิงคโปร์
มติชน
วันพุธที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ.2559 เวลา: 16:46 น.

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังการลงนามร่วมกับนายเพเทอร์ พรือเกล เอกอัครราชทูตสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีประจำประเทศไทย เกี่ยวกับการพัฒนาความร่วมมือด้านรถไฟ ระหว่างกระทรวงคมนาคมแห่งราชอาณาจักรไทย และกระทรวงคมนาคมและโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลแห่งสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีว่า ได้ร่วมมือกัน 3 ด้านประกอบด้วย 1.พัฒนาให้เกิดอุตสาหกรรมระบบรางและชิ้นส่วนในประเทศไทย 2.พัฒนามาตรฐานและเทคโนโลยีของผู้ให้บริการระบบราง และ 3. พัฒนาและผลิตบุคคลากรร่วมกับกระทรวงคมนาคมและสถาบันการศึกษาต่างๆ โดยทั้ง 2 ประเทศจะจัดสัมมนาแลกเปลี่ยนเทคนิคและความรู้ การศึกษาดูงานในประเทศเยอรมนี รวมถึงมีผู้เชี่ยวชาญจากประเทศเยอรมนีเข้ามาช่วยวางแผนการทำงานร่วมกัน

นายอาคม กล่าวว่า การผลักดันอุตสาหกรรมผลิตชิ้นส่วนระบบรางเป็นนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ของรัฐบาลที่มีเป้าหมายให้เศรษฐกิจเติบโตแบบก้าวกระโดด การที่ประเทศไทยลงทุนระบบรางถึง 85% ของมูลค่าโครงสร้างพื้นฐานทั้งหมด จึงส่งผลให้ผู้ประกอบการไทยมีความต้องการผลิตชิ้นส่วนระบบรางและน่าจะดึงดูดให้การลงทุนในอุตสาหกรรมผลิตชิ้นส่วนมีความคุ้มค่ามากขึ้น โดยสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ก็พร้อมให้สิทธิประโยชน์สูงสุดอยู่แล้ว

นายพรือเกล กล่าวว่า ไทยมีศักยภาพเพียงพอจะเป็นศูนย์กลางการขนส่งอาเซียน โดยเฉพาะการขนส่งประชากรและสินค้าข้ามแดน ซึ่งระบบรางเป็นการขนส่งที่คุ้มค่าที่สุด สามารถเชื่อมโยงกับเพื่อนบ้านอาเซียนและกระตุ้นเศรษฐกิจการค้าและการท่องเที่ยวร่วมกันผ่านเส้นทางสายไหมของเอเชียเพื่อเชื่อมต่อประเทศจีน-สิงคโปร์ตามนโยบายสายไหมใหม่ศตวรรษที่21 หรือ one belt one road เปิดประตูสู่โอกาสครั้งใหม่ของประเทศ โดยเฉพาะมาตรฐานด้านความปลอดภัยสากลเพื่อประสิทธิภาพสูงสุดเพื่อให้บริการผู้โดยสารและการถ่ายทอดเทคโนโลยีตลอดจนองค์ความรู้ให้กับภาครัฐและภาคเอกชนของไทยเพื่อสนับสนุนการเติบโตของอุตสาหกรรมรางในอนาคต

นายพรือเกล กล่าวว่า ที่ผ่านมาทั้งสองประเทศ ได้ประสานความร่วมมือกันสร้างระบบขนส่งมวลชนให้กับกรุงเทพฯ นอกจากสนับสนุนด้านเทคโนโลยีและโครงสร้างพื้นฐานให้กับประเทศไทยแล้ว บริษัทสัญชาติเยอรมันได้ฝึกอบรมวิศวกรไทยมากกว่า 600 คน ให้เป็นผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมระบบราง เพื่อรองรับความต้องการบุคลากรในอุตสาหกรรมระบบราง ทั้งในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

//--------

เยอรมันลงนามพัฒนาระบบรางกับไทย เผย หลายบริษัทพร้อมมาตั้งโรงงานประกอบรถไฟ
มติชน
วันพุธที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ.2559 เวลา:า: 23:10 น.

คมนาคม-เยอรมัน ลงนามพัฒนาความร่วมมือด้านระบบราง

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังการลงนามร่วมกับนายเพเทอร์ พรือเกล เอกอัครราชทูตสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีประจำประเทศไทย เกี่ยวกับการพัฒนาความร่วมมือด้านรถไฟ ระหว่างกระทรวงคมนาคมแห่งราชอาณาจักรไทย และกระทรวงคมนาคมและโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลแห่งสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีว่า ได้ร่วมมือกัน 3 ด้านประกอบด้วย

1.พัฒนาให้เกิดอุตสาหกรรมระบบรางและชิ้นส่วนในประเทศไทย
2.พัฒนามาตรฐานและเทคโนโลยีของผู้ให้บริการระบบราง และ
3. พัฒนาและผลิตบุคคลากรร่วมกับกระทรวงคมนาคมและสถาบันการศึกษาต่างๆ

โดยทั้ง 2 ประเทศจะจัดสัมมนาแลกเปลี่ยนเทคนิคและความรู้ การศึกษาดูงานในประเทศเยอรมนี รวมถึงมีผู้เชี่ยวชาญจากประเทศเยอรมนีเข้ามาช่วยวางแผนการทำงานร่วมกัน

นายอาคม กล่าวว่า การผลักดันอุตสาหกรรมผลิตชิ้นส่วนระบบรางเป็นนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ของรัฐบาลที่มีเป้าหมายให้เศรษฐกิจเติบโตแบบก้าวกระโดด การที่ประเทศไทยลงทุนระบบรางถึง 85% ของมูลค่าโครงสร้างพื้นฐานทั้งหมด จึงส่งผลให้ผู้ประกอบการไทยมีความต้องการผลิตชิ้นส่วนระบบรางและน่าจะดึงดูดให้การลงทุนในอุตสาหกรรมผลิตชิ้นส่วนมีความคุ้มค่ามากขึ้น โดยสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ก็พร้อมให้สิทธิประโยชน์สูงสุดอยู่แล้ว

นายพรือเกล กล่าวว่า ไทยมีศักยภาพเพียงพอจะเป็นศูนย์กลางการขนส่งอาเซียนเพื่อรองรับการขยายตัวของขนาดเศรษฐกิจในอนาคต โดยเฉพาะการขนส่งประชากรและสินค้าข้ามแดน ซึ่งระบบรางเป็นการขนส่งที่คุ้มค่าที่สุดในยุคนี้ เพื่อเชื่อมโยงกับเพื่อนบ้านอาเซียนและกระตุ้นเศรษฐกิจการค้าและการท่องเที่ยวร่วมกันผ่านเส้นทางสายไหมของเอเชียเพื่อเชื่อมต่อประเทศจีน-สิงคโปร์ตามนโยบายสายไหมใหม่ศตวรรษที่21 หรือ one belt one road เปิดประตูสู่โอกาสครั้งใหม่ของประเทศ โดยเฉพาะมาตรฐานด้านความปลอดภัยสากลเพื่อประสิทธิภาพสูงสุดเพื่อให้บริการผู้โดยสารและการถ่ายทอดเทคโนโลยีตลอดจนองค์ความรู้ให้กับภาครัฐและภาคเอกชนของไทยเพื่อสนับสนุนการเติบโตของอุตสาหกรรมรางในอนาคต

“เยอรมันมีหลายบริษัทที่สนใจและมีความพร้อมเข้ามาตั้งโรงประกอบรถไฟเพื่อให้สอดรับกับแผนการพัฒนาระบบรางระยะยาวของไทย เช่น กลุ่มซีเมนต์ และ บริษัท บ๊อชเข้ามาลงทุน ซึ่งขึ้นอยู่กับรัฐบาลไทยเพื่อดูความคุ้มค่าด้านต้นทุนระหว่างการตั้งโรงงานประกอบในไทยเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีเป็นของตัวเองกับการนำเข้ารถไฟฟ้ามาทั้งขบวน และปัจจุบันเยอรมันมีประสบการณ์ด้านผลิตรถไฟฟ้ามายาวนาน ขณะที่ประเทศไทยมีพัฒนาการที่ดีในการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้วยการขับเคลื่อนอย่างจริงจังของภาครัฐ ส่งผลให้นักพัฒนาเทคโนโลยีระบบรางทั่วโลกให้ความสำคัญกับประเทศไทยในฐานะหนึ่งในผู้นำระบบรางของอาเซียนที่สามารถสร้างความเชื่อมโยงการขนส่งทางรางได้อย่างรวดเร็วตั้งแต่ในเมืองหลวงไปจนถึงการเชื่อมต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน”นายพรือเกล กล่าว

นายพรือเกล กล่าวว่า ที่ผ่านมาทั้งสองประเทศ ได้ประสานความร่วมมือกันสร้างระบบขนส่งมวลชนให้กับกรุงเทพฯ นอกจากสนับสนุนด้านเทคโนโลยีและโครงสร้างพื้นฐานให้กับประเทศไทยแล้ว บริษัทสัญชาติเยอรมันได้ฝึกอบรมวิศวกรไทยมากกว่า 600 คน ให้เป็นผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมระบบราง เพื่อรองรับความต้องการบุคลากรในอุตสาหกรรมระบบราง ทั้งในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
//------------

ความร่วมมือพัฒนาระบบรางไทย-เยอรมัน I Thai-German Railway Cooperation I deutsch-thailändische Zusammenarbeit im Schienenverkehr ++ รายงานโดยสถานเอกอัครราชทูตเยอร์มันประจำกรุงเทพ
https://www.facebook.com/GermanEmbassyBangkok/posts/1616860275276683
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42751
Location: NECTEC

PostPosted: 25/11/2016 9:43 am    Post subject: Reply with quote

ญี่ปุ่นใจดียกรถไฟมือสองให้ร.ฟ.ท.ล็อตแรก 24 คันถึงไทย 24 พ.ย.นี้
โดย ฐานเศรษฐกิจ -
ออนไลน์เมื่อ 25 พฤศจิกายน 2559
ตีพิมพ์ใน หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,212 วันที่ 24 – 26 พฤศจิกายน 2559

“วุฒิชาติ” เผยผลเจรจาญี่ปุ่นฉลุยได้รับรถไฟโดยสารมือสองสภาพดีมาใช้งานฟรี 24 คัน ดีเดย์ล็อตแรก 10 คันรับ 24 พ.ย.นี้ ที่เหลือมาถึงไทยมีนาคมปีหน้า ด้านรถไฟดีเซลไฟฟ้าขบวนใหม่ 4 เส้นทาง คาดรายได้ค่าโดยสารทะลุ 3,500 ล้านบาท

นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย(ร.ฟ.ท.) เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ”ถึงผลการเดินทางไปเจรจากับญี่ปุ่นต่อกรณีขอรถไฟโดยสารมือสองสภาพดีมาใช้งานในประเทศไทยนั้น ปรากฏว่าได้รับการตอบรับที่ดี โดยวันที่ 24 พฤศจิกายน 2559 นี้จะได้รับรถจำนวน 10 คันแรกมาให้บริการ ส่วนล็อตที่ 2 อีกจำนวน 14 คันจะได้รับในเดือนมีนาคม 2560

“ในครั้งนี้ประเทศญี่ปุ่นให้ฟรี ส่วนร.ฟ.ท.จะต้องออกค่าใช้จ่ายในการนำเข้าเองทั้งหมด ซึ่งรถที่ได้มาจะนำไปใช้งานในเส้นทางต่างๆ ส่วนการบำรุงรักษานั้นร.ฟ.ท.จะต้องออกค่าใช่จ่ายเองทั้งหมดเช่นกัน ดังนั้นปี 2560 ก็จะมีปริมาณรถโดยสารให้บริการมากยิ่งขึ้นกว่าปัจจุบันที่มีกว่า 200 คัน”

นอกจากนั้นยังกล่าวถึงความสำเร็จของการเปิดให้บริการเดินรถไฟที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าเส้นทางกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ และเส้นทางกรุงเทพฯ-อุบลราชธานีไปเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายนที่ผ่านมาว่าได้รับการตอบรับที่ดีโดยมีประชาชนแห่จองใช้บริการเต็มไปจนถึงวันที่ 15 ธันวาคม 2559 ส่วนอีก 2 เส้นทางคือกรุงเทพฯ-หาดใหญ่ และ กรุงเทพฯ-หนองคาย นั้นกำหนดเปิดให้บริการในวันที่ 2 ธันวาคม 2559 นี้โดยทั้งหมด 115 ตู้แบ่งเป็น 9 ขบวนๆละ 13 ตู้มีจำนวน 8 ขบวนและ 11 ตู้อีก 1 ขบวน

“มั่นใจด้านการให้บริการมากขึ้นเนื่องจากพบว่ามียอดการจองโดยสารยาวไปจนถึงเดือนธันวาคมนี้ซึ่งร.ฟ.ท.ต้องขออภัยหากผู้โดยสารอาจจะไม่ได้รับความสะดวกเรื่องการจองตั๋วเดินทางในช่วงนี้ซึ่งร.ฟ.ท.จะพยายามอำนวยความสะดวกให้มากที่สุด โดยขบวนใหม่จะบรรจุในเส้นทางไป-กลับวันละ 1 เที่ยวแล้วยังมีรถโดยสารรูปแบบอื่นคอยให้บริการอีกด้วยและในอนาคตหากได้รับการตอบรับที่ดีก็จะเร่งจัดหารถเข้ามาเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่องต่อไป”

ปัจจุบันร.ฟ.ท.ทยอยรับมอบรถขบวนใหม่อย่างต่อเนื่องพร้อมกับการเร่งจัดหาหัวรถจักรรุ่นใหม่เข้ามาให้บริการ อีกทั้งยังมีรถโดยสารรุ่นใหม่รูปแบบรถดีเซลไฟฟ้าเมื่อได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี(ครม.)ก็จะเร่งจัดหาเข้ามาให้บริการโดยเร็วต่อไป

สำหรับการปรับเพิ่มค่าโดยสารนั้นช่วง 6เดือนนี้ยังจะไม่ปรับเพิ่มแต่อย่างใดเพราะจะเป็นการคืนกำไรให้กับผู้ใช้บริการ หลังจากนั้นจะขอประเมินผลการตอบรับด้านการให้บริการรถไฟขบวนนี้ในช่วงระยะเวลา 3 เดือนโดยคาดว่าพ้น 6 เดือนไปแล้วจึงจะพิจารณาปรับเพิ่มอัตราค่าโดยสารส่วนการเพิ่มปริมาณผู้โดยสารคาดว่าจะเพิ่มอีกไม่น้อยเช่นกันเมื่อเทียบกับปริมาณตู้โดยสารขนาดขบวนเดิมที่คิดเป็นประมาณ 70% ส่วนรถไฟขบวนใหม่ตู้โดยสารมากถึง 13 ตู้หรือคิดเป็นประมาณ 90% ของขบวนเดิม

“ค่าโดยสารจะขอประเมินช่วงระยะเวลาให้บริการ 3 เดือนแรกนี้ก่อนจากนั้นจะพิจารณาปัจจัยหลายด้านที่เกี่ยวข้อง อาทิ ต้นทุนกับของเดิมที่มีอยู่ ความสะดวกสบายที่ให้บริการ ตลอดจนการแข่งขันของระบบขนส่งมวลชนอื่นๆประกอบด้วยแต่ก็คงไม่ปรับสูงมากเกินไป ทั้งนี้เมื่อความจุของผู้โดยสารเพิ่มขึ้น ประชาชนหันมาใช้บริการมากขึ้นจะส่งผลให้รายได้จากค่าโดยสารเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 3,200 ล้านบาท/ปี คาดว่าจะเพิ่มอีกราว 300 ล้านบาทเมื่อสามารถเปิดให้บริการรถไฟขบวนใหม่ครบทั้ง 4 เส้นทาง”
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42751
Location: NECTEC

PostPosted: 25/11/2016 5:48 pm    Post subject: Reply with quote

Wisarut wrote:
ญี่ปุ่นใจดียกรถไฟมือสองให้ร.ฟ.ท.ล็อตแรก 24 คันถึงไทย 24 พ.ย.นี้
โดย ฐานเศรษฐกิจ -
ออนไลน์เมื่อ 25 พฤศจิกายน 2559
ตีพิมพ์ใน หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,212 วันที่ 24 – 26 พฤศจิกายน 2559


หน้าตารถ JR Hokkaido ที่เอามาให้รถไฟไทยใช้
https://www.facebook.com/therawat.ovartsuwon/posts/1304976842906055

“ไทย” ต้องแลกอะไร? “ญี่ปุ่น”ถึงให้รถไฟมือสองฟรี
โดย anusorn chimbanrai -
โดย ฐานเศรษฐกิจ -
ออนไลน์เมื่อ 25 พฤศจิกายน 2559

คนไทยหลายคนเมื่อได้รับรู้ข่าวว่า ประเทศญี่ปุ่นได้มอบรถไฟโดยสารมือสองสภาพดีให้กับการรถไฟแห่งประเทศไทยให้ใช้งานฟรี ถึง 24 คัน คงสงสัยและตั้งคำถามกันในใจอย่างแน่นอนว่า “ในการที่ได้รถไฟมือสองจากญี่ปุ่น ไทย..ต้องแรกกับอะไร” เพราะคำว่า ของฟรี ไม่มีในโลก อาจเป็นจริง


ก่อนหน้านี้ นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย(ร.ฟ.ท.) ได้เปิดเผยข้อมูลต่าง ๆ กับ หนังสือพิมพ์ “ฐานเศรษฐกิจ” ถึงผลการเดินทางไปเจรจากับญี่ปุ่นกรณีขอรถไฟโดยสารมือสองสภาพดีมาใช้งานในประเทศไทยนั้น ผลปรากฏว่าไทยเราได้รับการตอบรับอย่างดี เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2559 ที่ผ่านมานั้น ไทยได้รับรถล็อตแรกจำนวน 10 คันมาให้บริการ แล้ว ในส่วนล็อตที่ 2 อีกจำนวน 14 คันนั้น จะได้รับในเดือนมีนาคม 2560 ซึ่งในการมอบรถไฟโดยสารมือสองครั้งนี้ประเทศญี่ปุ่นให้ฟรี ส่วนร.ฟ.ท.จะต้องออกค่าใช้จ่ายในการนำเข้าเองทั้งหมด ซึ่งรถที่ได้มาจะนำไปใช้งานในเส้นทางต่างๆ ส่วนการบำรุงรักษานั้นร.ฟ.ท.จะต้องออกค่าใช่จ่ายเองทั้งหมด แล้วด้วยเหตุใด ญี่ปุ่นถึงยอมมอบรถไฟโดยสารให้ไทยฟรี?

นี่คงเป็นปัจจัยหนึ่งที่สำคัญอย่างมาก ที่ทำให้ไทยได้รถไฟมือสองจากญี่ปุ่นฟรี ก็ด้วยเหตุเพราะกลุ่มทุนญี่ปุ่นปักหลักในไทยมาอย่างยาวนาน โดยเฉพาะภาคการลงทุนสาธารณูปโภคพื้นฐาน ทั้งนี้การลงทุนของญี่ปุ่นจะได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐผ่านไจก้าและธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชียหรือเอดีบี ในส่วนของระบบรถไฟนั้นญี่ปุ่นศึกษาและให้ความสนใจระบบรถไฟระเบียงตะวันตก-ตะวันออก โดยจะลากผ่านจากกาญจนบุรีซึ่งเชื่อมต่อมาจากทวายไปเชื่อมกับแหลมฉบัง รวมทั้งรถไฟความเร็งสูงกรุงเทพ เชียงใหม่
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42751
Location: NECTEC

PostPosted: 25/11/2016 7:20 pm    Post subject: Reply with quote

"บิ๊กตู่" ตรวจเยี่ยมก.ท่องเที่ยวฯ "กอบกาญจน์" ชวนนั่งรถไฟเชียงใหม่ส่งเสริมท่องเที่ยว
โดย MGR Online
25 พฤศจิกายน 2559 11:12 น.

"ประยุทธ์" นำทีมตรวจเยี่ยมการทำงานก.ท่องเที่ยวฯ เป็นกระทรวงที่ 5 "กอบกาญจน์" เผยไม่ขอเพิ่มงบฯ ย้ำมุ่งสร้างกลุ่มนักท่องเที่ยวเติบโตยั่งยืน เน้นพัฒนาบุคลากร-สินค้า ตั้งเป้า 2.4 ล้านล้าน คาดทำได้ เล็งเชิญนายกฯนั่งรถไฟเที่ยวเชียงใหม่ 21 ธ.ค.ส่งเสริมการท่องเที่ยว รับจีนแก้ทัวร์ศูนย์เหรียญดี แนะไปเที่ยวสถานที่อื่นๆบ้าง

วันนี้ (25พ.ย.) เมื่อเวลา 09.30 น. ที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ( คสช.) เดินทางมาตรวจเยี่ยมการทำงาน กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ซึ่งเป็นกระทรวงที่ 5 ที่เดินทางตรวจเยี่ยมต่อจากกระทรวงคมนาคม มหาดไทย คลัง เกษตรและสหกรณ์

ขณะที่นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า การเดินทางมาติดตามและมอบนโยบายของนายกรัฐมนตรีในวันเดียวกันนี้ ทางกระทรวงไม่มีอะไรที่จะขอเพิ่มเติมรวมทั้งงบประมาณด้วย โดยจะคงยืนหยัดในสิ่งที่ดำเนินการในขณะนี้และอยากให้นายกฯเข้าใจและเชื่อว่านายกฯจะเข้าใจในสิ่งที่กระทรวงดำเนินการอยู่ และขอให้สิ่งที่กระทรวงดำเนินการนั้นเดินไปในทิศทางเดียวกันคือการสร้างกลุ่มนักท่องเที่ยวให้เติบโตอย่างยั่งยืน รวมทั้งนำในเรื่องของกีฬาเข้ามาผสมผสานด้วย ยอมรับว่าไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะต้องทำ อย่างพื้นที่จังหวัดขอนแก่นที่เป็นเป้าหมายที่กระทรวงการท่องเที่ยวจะเข้าไปส่งเสริมการท่องเที่ยวสนามบินจะต้องขยายพื้นที่ของสนามบินให้เสร็จเรียบร้อยก่อน เพื่อให้สอดคล้องกับการขยายตัวของการท่องเที่ยว

นางกอบกาญจน์ กล่าวว่า วันนี้จะต้องมีการพัฒนาด้านการท่องเที่ยวให้มากขึ้นโดยมีกลยุทธ์ดึงดูดนักท่องเที่ยวในรูปแบบต่างๆ สิ่งสำคัญเราต้องเน้นการพัฒนาบุคลากรและสินค้าต่างๆเป็นที่ระลึก จะต้องมีมาตรฐานเพื่อให้จำหน่ายสินค้าได้มากขึ้น สำหรับสถานการณ์การท่องเที่ยวภายในประเทศ ตั้งเป้าไว้ที่ 2.4 1,000,000 ล้านบาท ซึ่งคิดว่าน่าจะทำได้อยู่ และในปีหน้ามาวางเป้ารายได้ไว้ที่ 2.5 ล้านล้านบาท แต่กำลังดูอยู่ว่าจะเป็น 2.5 ล้านล้านบาทหรือ 2.55 ล้านล้านบาท โดยเน้นนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่มาเที่ยวไทยการใช้จ่ายมีการใช้จ่ายต่อครั้งมากขึ้นเป็นนักท่องเที่ยวที่มีคุณภาพ ตรงนี้ได้มีการประสานงานในลักษณะประชารัฐแล้ว อย่างไรก็ตาม ต้องมีการมาคิดต่อว่าทำอย่างไรที่จะให้นักท่องเที่ยวเข้าถึงชุมชนเพื่อให้นักท่องเที่ยวซื้อสินค้าของของชุมชนนั้นๆ ระหว่างการท่องเที่ยวด้วย นอกจากนี้จะมีการส่งเสริมการท่องเที่ยวทางน้ำและทางรถไฟเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะเส้นทางเชียงใหม่ในขณะนี้ทราบว่าสถานการณ์ดีขึ้นมาก

" ซึ่งแนวคิดดังกล่าวคิดว่าจะต้องทดลองและนำร่องดู โดยจะเชิญพล.อ.ประยุทธ์ ร่วมในโครงการดังกล่าว และนั่งรถไฟไปท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ด้วยกัน ในวันที่ 21 ธันวาคมที่จะถึงนี้" นางกอบกาญจน์ กล่าว

นางกอบกาญจน์ กล่าวว่า ในส่วนปัญหาของทัวร์ศูนย์เหรียญ ขณะนี้ถือว่าดีขึ้นโดยทางรัฐบาลจีนให้การสนับสนุนการแก้ไขปัญหาดังกล่าว เพราะจีนเองก็เห็นและให้ความสำคัญกับเรื่องของการท่องเที่ยว อีกทั้งต้องการให้นักท่องเที่ยวไทยไปท่องเที่ยวยังประเทศเขาด้วยเช่นกัน ขณะเดียวกันเขาก็ทราบดีว่ามีประชาชนชาวจีนมาเที่ยวในประเทศไทยจำนวนมาก จึงได้เน้นนโยบายปฏิรูปโครงสร้างการท่องเที่ยว ซึ่งไม่ใช่เฉพาะกับประเทศไทยเท่านั้น แต่ได้ดำเนินนโยบายดังกล่าวกับหลาย ๆประเทศเช่นกัน ส่วนที่มีข่าวว่านักท่องเที่ยวจีนลดจำนวนลงนั้น ก็เป็นแค่บางช่วงเวลาเท่านั้น แต่อย่างการท่องเที่ยววัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือวัดพระแก้วนั้น นักท่องเที่ยวจีนก็ยังให้ความสนใจท่องเที่ยวมากขึ้น ส่วนตัวต้องการให้บริษัทที่จัดทัวร์แนะนำนักท่องเที่ยวให้ไปเที่ยวยังสถานที่อื่นๆบ้าง นอกเหนือจากสถานที่เดิมๆ
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42751
Location: NECTEC

PostPosted: 27/11/2016 1:16 pm    Post subject: Reply with quote

อ.จุฬา ชี้ ไทยรับรถไฟมือสองญี่ปุ่นไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ถึงเวลาต้องไปให้ไกลกว่าที่เคยทำ
มติชน
วันที่: 26 พฤศจิกายน 2559 เวลา: 20:14 น.
ญี่ปุ่นจำเป็นต้องปลด! อย่าเพิ่งยี้รถไฟมือ 2 ไทยก็เคยรับบลูเทรนมาแล้ว
โดย ไทยรัฐออนไลน์
วันที่: 26 พฤศจิกายน 2559 เวลา: 15:40

วันนี้ (26 พ.ย.) ผศ.ดร.ประมวล สุธีจารุวัฒน อาจารย์ภาควิชาวิศวกรรมอุตสาหการ คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยกับ “มติชนออนไลน์” ถึงกรณีมีกระแสวิจารณ์การนำรับบริจาครถไฟไม่ใช้แล้วของญี่ปุ่น ที่นำมาใช้ในประเทศไทย โดยระบุว่า กรณีการรับรถไฟ รถยนต์ หรือ เรือ ที่ไม่ใช้แล้วของญี่ปุ่น เข้ามาใช้ในไทย ถือเป็นเรื่องปกติของคนไทย โดยระบบขนส่งใหญ่ๆ เช่นรถไฟ เรือพาณิชย์ รวมถึง รถยนต์ รถบรรทุก มีการนำเข้ามานานแล้ว คนไทยคุนเคยดี ยกตัวอย่างเช่น เวลาไปซื้ออะไหล่ที่เชียงกงใกล้ๆสามย่าน หรือแถวรังสิตใกล้ๆตลาดไท ส่วนใหญ่คือการนำเข้าชิ้นส่วนรถญี่ปุ่นนำเข้ามาไทย ทั้งนี้ เหตุที่ต้องนำเข้าอะไหล่ เพราะมีกฏหมายห้ามนำเข้ารถใช้แล้วทั้งคัน ที่ผ่านมาเลยมาเป็นชิ้นๆเพื่อเป็นอะไหล่ทดแทน โดยในส่วนของ เรือ จะเห็นภาพชัดว่า ในไทยเองก็มีการนำเข้าเรือในเชิงพานิชย์เก่า ก่อนนำมาปรับเพื่อใช้งานต่อ

“เรื่องนี้ไม่แปลกเราก็ทำมาเป็นสิบๆปี หากถามว่าเยอะไหม ที่เป็นเรือบรรทุกน้ำมัน และขนส่งสินค้า ตอบเลยว่าเรือหลายร้อยลำ เพราะประเทศที่พัฒนาแล้ว นิยมการใช้ของใหม่ จากการที่รัฐมักจะเก็บภาษีแพงขึ้นกับเรือที่เก่า ขณะที่ไทยเอง ไม่มีการกำหนดอายุเรือ และไม่มีมาตรการส่งเสริมการต่อเรือใดๆ ผู้ประกอบการของไทยจึงนิยมไปซื้อมือสองจากญี่ปุ่น กระทั่งใช้ต่อเป็นเวลานับ 40-50 ปี” ผศ.ดร.ประมวล ระบุ

โดย ผศ.ดร.ประมวล อธิบายต่อว่า โดยทั่วไปวัสดุจากญี่ปุ่นเป็นสิ่งที่ดี ขณะที่ไทยเราเอง ไม่ซีเรียสเรื่องคุณภาพหรือมีมาตรฐานมาก ซึ่งทั้งเรือและรถไฟ ไม่ได้ถูกห้ามให้นำเข้าทั้งคัน

ซึ่งปัญหาการนำเข้ารถไฟของไทย ที่ยอมรับจากญี่ปุ่นนั้น ผศ.ดร.ประมวลเห็นว่าหากมองในแง่ดี ไม่คิดซับซ้อน ก็เป็นสิ่งที่ดีที่เราจะได้รถมาเพิ่มในระบบ ซึ่งก็อยู่ที่ฝีมือของคน รฟท.จะปรับปรุง เปลี่ยนแปลง ให้ใช้ได้นานแค่ไหน

“แต่หากมองแบบแง่ร้าย ในประเทศเจริญกว่าเรา เขามองในมุมการบริหารความเสี่ยงต่างๆเพื่อทำให้คุณภาพชีวิตดีขึ้น เพราะเขามีมาตรฐานสูง พอพบว่าอะไรที่อาจไม่ดีกับประชาชนก็เลิกใช้ แต่เรามองว่าของที่เขาจะให้นั้น ยังพอใช้ได้อยู่ ก็เลยนำมาใช้ ปรับปรุง ซึ่งขบวนรถไฟหรูหลายขบวนของ รฟท. ก็เป็นรถที่รับบริจาครถไฟเก่าจำนวนมาก จากญี่ปุ่น โดยปัจจุบัน รฟท.มีตู้รถไฟ กว่า 5,800 ตู้ มีตู้ที่บริจาคมาจากทั้งญี่ปุ่น และออสเตรเลีย ” ผศ.ดร.ประมวล ระบุ พร้อมยืนยันว่า การนำเข้าดังกล่าวเป็นเรื่องปกติของ รฟท.เกิดมาแล้วหลายครั้ง ไม่ใช่เรื่องใหม่

เมื่อถามว่าแนวทางการพัฒนาในอนาคตควรจะเป็นอย่างไร ผศ.ดร.ประมวล กล่าวว่า เรื่องนี้เกิดขึ้นเพราะ เราไม่เคยใช้ความต้องการรถไฟเป็นตัวตั้งในการพัฒนาขีดความสามารถประเทศเลย ยืนยันว่าปริมาณความต้องการเรามีเยอะ เฉพาะปัจจุบันก็มีการใช้อยู่มากหลายพันตู้ หากเราใช้ปริมาณความต้องการเป็นตัวต้อง เเละเริ่มผลิต พัฒนาตู้รถไฟใหม่ๆ รวมถึงแคร่เปล่าสำหรับขบวนรถสินค้า ก็น่าจะส่งเสริมให้ในประเทศพัฒนาและผลิตได้

“แต่ที่ผ่านมา แม้แต่แคร่รถไฟ เราก็สั่งซื้อจากจีน ล่าสุดเมื่อปีที่ผ่านมามีการสั่งซื้อแคร่เปล่าถึง 300 แคร่ และจากการสัมภาษณ์ของผม ผู้ประกอบการในไทย ก็บอกว่าสามารถผลิตได้ แทนที่เราจะรอบริจาค ก็ควรเดินหน้าพัฒนาของเราเอง ยืนยันว่าเรื่องนี้ รฟท.ไม่ใช้ผู้ร้าย และเป็นเรื่องเข้าใจได้ที่ทำแบบนั้น แต่หากจะมองไปในอนาคต รัฐควรซีเรียสกับคุณภาพชีวิต เพราะเหตุที่เรารับของเก่าเขามา เพราะมันยังมีความต้องการใช้ แต่เราไม่อยากจ่ายต้นทุนที่สูง หากประเทศไทยให้ความสำคัญกับ คุณภาพชีวิต และการพัฒนาขีดความสามารถอุตสาหกรรมของประเทศ ความอยากที่จะรับของเก่าเข้ามาในประเทศจะน้อยลง นโยบายของรัฐจึงควรนำความต้องการดังกล่าวใช้ ไปพัฒนาเพิ่มขีดความสามารถในการผลิตและพัฒนาอุตสาหกรรมในประเทศดีกว่า หากเราทำได้เราจะมีของใหม่ใช้” ผศ.ดร.ประมวล ระบุ

//------------------------------------
Back to top
View user's profile Send private message
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 284, 285, 286 ... 474, 475, 476  Next
Page 285 of 476

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©