รวมข่าวโครงการรถไฟทางคู่

[Wisarut]

งานเข้า รฟท. "ศรีสุวรรณ-คณะราษฎร" ยื่นหนังสือ "นายก" สอบประมูลทางคู่สายเหนือ-อีสาน
หน้า Politics
จันทร์ที่ 21 มิถุนายน 2564 เวลา 11:18 น.

งานเข้า รฟท. "ศรีสุวรรณ-คณะราษฎร" ยื่นหนังสือ "นายก" สอบประมูลทางคู่สายเหนือ-อีสาน
"ศรีสุวรรณ" ยื่นหนังสือถึง "นายก" เบรกประมูลรถไฟทางคู่สายเหนือ-อีสาน วอนตั้งคณะกรรมการสอบ ส่อฮั้วประมูล

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (21 มิ.ย.64) นายศรีสุวรรณ จรรยาและคณะราษฎรไทย เดินทางไปยื่นคำร้องถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อขอให้นายกฯสั่งระงับและสั่งการให้ตั้งคณะกรรมการพิเศษ เพื่อสอบการประมูลทางรถไฟเส้นทางใหม่ สายเหนือและสายอีสาน ประกอบด้วยโครงการรถไฟทางคู่สายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของและโครงการรถไฟทางคู่สายบ้านไผ่-นครพนม ที่ส่อพิรุธมากมาย ตามที่ทางสมาคมฯได้เคยร้องเรียนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตง.) และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)ไปแล้ว ที่ศูนย์รับเรื่องร้องเรียนฯ ทำเนียบรัฐบาล (ตึก กพร.เดิม)

ทั้งนี้ 2 โครงการที่อยู่ในความรับผิดชอบของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) นั้น ปัจจุบันในการประมูลโครงการรถไฟทางคู่สายเด่นชัย-เชียงของ วงเงิน 7.29 หมื่นล้านบาท ระยะทาง 323 กม. จะประกาศผลผู้ชนะการเสนอราคาภายในวันที่ 9 ก.ค.นี้ และลงนามสัญญา ภายในวันที่ 2 ส.ค.64 ใช้ระยะเวลาก่อสร้าง 6 ปี ซึ่งจะเปิดให้บริการภายในปี 2571 ขณะที่การประมูลโครงการรถไฟทางคู่บ้านไผ่-นครพนม วงเงิน 5.46 หมื่นล้านบาท ระยะทาง 355 กม.โดยจะประกาศผลผู้ชนะการประมูลภายในวันที่ 15ก.ค.นึ้และลงนามสัญญาภายในวันที่ 6 ส.ค.64 ใช้ระยะเวลาก่อสร้างประมาณ 4 ปี ซึ่งจะเปิดให้บริการ 2569

[Mongwin]

รฟท.ใกล้คลอดผลศึกษาชานชาลาสูง-ต่ำ
เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2564

ฟังปชช.ปกติไม่ได้ต้องเข้าคลับเฮาส์ นัดสรุปชงคมนาคมไม่เกินกรกฎานี้

รายงานข่าวจากกระทรวงคมนาคม แจ้งความคืบหน้าเรื่องการปรับแบบการก่อสร้างชานชาลาบางสถานีในโครงการรถไฟทางคู่ ระยะ(เฟส)ที่ 1 จากชานชาลาสูง 110 เซนติเมตร(ซม.) เป็น 50 ซม.ว่า ขณะนี้คณะทำงานของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กำลัง เร่งศึกษา วิเคราะห์ และรวบรวมข้อมูลการก่อสร้างชานชาลาใน ต่างประเทศว่าดำเนินการและมีหลักการอย่างไร เพื่อเปรียบเทียบกับการก่อสร้างชานชาลาในประเทศไทย พร้อมกันนี้จะจัดเสวนาผ่าน แอพพลิเคชั่นคลับเฮาส์ รับฟังความคิดเห็นจากประชาชนในประเด็นดังกล่าวด้วย คาดว่าจะได้ข้อสรุป และเสนอให้กระทรวงคมนาคมพิจารณาไม่เกินเดือน ก.ค. 64

รายงานข่าวจากกระทรวงคมนาคม แจ้งต่อว่า คณะทำงานได้ศึกษาพิจารณาในหลายประเด็น โดยหลัก ๆ จะพิจารณาให้ความสำคัญใน 2 ส่วนคือ การให้บริการประชาชน และความปลอดภัย นอกจากนี้ยังพิจารณาการก่อสร้างชานชาลาของต่างประเทศ ส่วนใหญ่พบว่า มีทั้งชานชาลาสูง และชานชาลาต่ำ ซึ่งจะเน้นปรับปรุงให้พื้นสถานีเท่ากับพื้นของรถไฟ โดยปรับที่ตัวรถมากกว่าการปรับปรุงที่ตัวสถานีทั้งหมด เพราะหากปรับตัวสถานี จะต้องใช้เงินลงทุนในการปรับปรุงค่อนข้างสูง

รายงานข่าวจากกระทรวงคมนาคม แจ้งอีกว่า ขณะนี้การก่อสร้างโครงการรถไฟทางคู่ เฟสที่ 1 ยังชะลอการสร้างชานชาลา เพื่อรอให้ได้ข้อสรุปที่ชัดเจนก่อน ซึ่ง รฟท.ได้พยายามจะไม่ให้กระทบกับการก่อสร้างในภาพรวม ปัจจุบัน รฟท. ได้เร่งรัดให้ผู้รับเหมาดำเนินการในงานส่วนอื่น ๆ ไปก่อน เพื่อให้งานทั้งหมดเป็นไปตามแผนงานที่วางไว้ อย่างไรก็ตาม รฟท. ให้ความสำคัญกับการออกแบบตามหลักออกแบบเพื่อมวลชน (Universal Design) ให้ประชาชนทุกกลุ่มสามารถเข้าถึงได้อยู่แล้ว แต่ในการปฏิบัติจริงต้องพิจารณาในหลาย แง่มุม ทั้งความปลอดภัย และปัญหาอุปสรรคด้วย จึงมีแนวคิดว่าจะทำชานชาลาสูงเฉพาะสถานีใหญ่ และชานชาลาต่ำในสถานีเล็กได้หรือไม่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับเรื่องการปรับแบบการก่อสร้างชานชาลาบางสถานีในโครงการรถไฟทางคู่ ระยะ(เฟส)ที่ 1 จากชานชาลาสูง 110 เซนติเมตรเป็น 50 ซม. นั้น หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ และเพจเฟซบุ๊ก "ข่าวนวัตกรรมขนส่ง เดลินิวส์" ได้นำเสนอมาตั้งแต่ประมาณต้นเดือน มี.ค. 64 โดยเมื่อช่วงปลายเดือน มี.ค. นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ได้สั่งการให้ รฟท. ไปทำการศึกษาเรื่องดังกล่าว ซึ่งให้เวลา 1 เดือน หรือประมาณปลายเดือน เม.ย. 64 เพื่อให้ได้ข้อสรุปโดยเน้นย้ำว่าต้องเป็นไปตามมาตรฐานสากล สะดวก ปลอดภัย และประชาชนทุกกลุ่มเข้าถึงได้.

[Wisarut]

ถามมา-ตอบไป 13 ข้อชี้แจง ประมูลทางคู่เหนือ-อีสาน 1.28 แสนล้าน
อสังหาริมทรัพย์
วันที่ 22 มิถุนายน 2564 - 11:05 น.

[Mongwin]

อุโมงค์รถไฟทางคู่ 'บ้านหินลับ มวกเหล็ก' ยาวที่สุดในประเทศไทย 5.2 กิโลเมตร
ประชาชาติธุรกิจ ฉบับวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2564

บันทึกประวัติศาสตร์หน้าใหม่เกิดขึ้นได้ทุกวันล่าสุดเป็นคิวของ "ร.ฟ.ท.-การรถไฟแห่งประเทศไทย" ที่เริ่มประกาศความสำเร็จในการขุดเจาะอุโมงค์รถไฟทางคู่สายยาวที่สุดในประเทศไทย

"นิรุฒ มณีพันธ์" ผู้ว่าการ ร.ฟ.ท. ระบุจุดเกิดเหตุอยู่ที่บริเวณ "บ้านหินลับ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี" ซึ่งเป็น ส่วนหนึ่งในโครงการรถไฟทางคู่สายตะวันออกเฉียงเหนือ ช่วงมาบกะเบา- ชุมทางถนนจิระ

โดยมีความยาวภายในอุโมงค์ ทั้งสิ้น 5.2 กิโลเมตร หรือคิดเป็นระยะทางในอุโมงค์ทั้งขาขึ้น-ขาล่องรวมกัน 10.4 กิโลเมตร

รายละเอียดก่อสร้างอุโมงค์รถไฟทั้งหมด 3 อุโมงค์ ได้แก่ 1.อุโมงค์ หินลับ 5.20 กิโลเมตร 2.อุโมงค์ มวกเหล็ก 0.26 กิโลเมตร และ 3.อุโมงค์คลองขนานจิตร 1.17 กิโลเมตร บนพื้นที่รอยต่อ 2 จังหวัด "สระบุรี-โคราช"

โดยมีอีก 2 อุโมงค์มีการเจาะทะลุหากันเสร็จเรียบร้อยไปก่อนหน้านี้ ได้แก่ "อุโมงค์มวกเหล็ก-อุโมงค์คลองขนานจิตร"

"การขุดเจาะอุโมงค์รถไฟถือเป็นความก้าวหน้าครั้งสำคัญ โดยกิจการร่วมค้า ITD-RT ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างรับเหมามหาชน 2 บริษัทคือ อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ กับ ไร้ท์ทันเน็ลลิ่ง ผู้รับจ้างสัญญาที่ 3 งานอุโมงค์รถไฟ ได้กดปุ่มระเบิดอุโมงค์หินลับทะลุหากันทั้งหมดหรือ tunnel breakthrough สำเร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว"

ทั้งนี้ โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ สายอีสาน มาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ มีระยะทางรวม 132 กิโลเมตร เป็น 1 ใน 5 เส้นทางรถไฟที่อยู่ในแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานคมนาคมขนส่งของไทยปี 2558-2565

ในอนาคตอันใกล้เมื่อก่อสร้างเสร็จจะช่วยลดเวลาการเดินทางและ ขนส่ง ดึงดูดให้ประชาชนหันมาใช้บริการรถไฟมากขึ้น ทั้งในด้าน "ขนคน- ขนของ"

รวมถึงช่วยประหยัดพลังงาน เชื้อเพลิงให้กับประเทศ เพราะแบ่งเบา การขนส่งสินค้าทางถนนมาใช้บริการขนส่งสินค้าทางรางมากขึ้น

[Wisarut]

[Mongwin]

ทางคู่สายใต้'ตุกติก'สร้างชานฯต่ำ50ซม.
เดลินิวส์ (กรอบบ่าย) ฉบับวันที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2564

ไม่รอฟังข้อสรุปนโยบาย'ศักดิ์สยาม'เปอร์เซ็นต์รวม82พิษโควิดดีเลย์นี้ด

รายงานข่าวแจ้งความคืบหน้าการก่อสร้างโครงการรถไฟทางคู่สายใต้ ช่วงนครปฐม-ชุมพร ระยะทาง 421 กิโลเมตร (กม.) ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) วงเงินก่อสร้าง 3.39 หมื่นล้านบาท ว่า ภาพรวมการก่อสร้างมีความคืบหน้า 82.54% ล่าช้ากว่าแผนงาน 1.84% จากผลกระทบของสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยเฉพาะระลอกที่ 3 ผู้รับเหมาประสบปัญหาขาดแคลนแรงงาน โดยสัญญาที่ 1 ช่วงนครปฐม-หนองปลาไหล ระยะทาง 93 กม. วงเงินก่อสร้าง 8,198 ล้านบาท โดยบริษัท เอ.เอส.แอสโซซิเอท เอนยิเนียริ่ง 1964 จำกัด คืบหน้า 86.52% เร็วกว่าแผน 1.10%, สัญญาที่ 2 ช่วง หนองปลาไหล-หัวหิน ระยะทาง 76 กม. วงเงินก่อสร้าง 7,520 ล้านบาท โดยบริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) คืบหน้า 84.85% เร็วกว่าแผน 0.13%

สัญญาที่ 3 ช่วงหัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ ระยะทาง 84 กม. วงเงินก่อสร้าง 5,807 ล้านบาท โดยบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) คืบหน้า 89.46% ล่าช้ากว่าแผน 10.29%, สัญญา ที่ 4 ช่วงประจวบคีรีขันธ์-บางสะพานน้อย ระยะทาง 88 กม. วงเงินก่อสร้าง 6,465 ล้านบาท โดยกิจการร่วมค้าเคเอส-ซี คืบหน้า 78.00% เร็วกว่าแผน 0.18% และ 5. ช่วงบาง สะพานน้อย-ชุมพร ระยะทาง 79 กม. วงเงินก่อสร้าง 5,992 ล้านบาท โดยกิจการร่วมค้า เอสทีทีพี คืบหน้า 72.38% ล่าช้ากว่าแผน 2.36% ทั้งนี้ตามแผนเดิมโครงการจะก่อสร้างแล้วเสร็จประมาณปลายปี 64 แต่ เมื่อขยายสัญญาจ้างในบางสัญญา ทำให้การก่อสร้างน่าจะแล้วเสร็จภายในปี 65 จากนั้นจะเข้าสู่กระบวนการติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณอีกประมาณ 1 ปี คาดว่า จะแล้วเสร็จ และเปิดบริการในปี 66

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการติดตามการก่อสร้างชานชาลาของสถานีโครงการรถไฟทางคู่สายใต้ ช่วงนครปฐม-ชุมพร ระยะทาง 421 กม. มีประชาชนให้ข้อมูลผ่านเพจเฟซบุ๊ก "นวัตกรรมขนส่ง เดลินิวส์" ว่า ขณะนี้การก่อสร้างชานชาลายังคงดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง ไม่ได้ชะลอการก่อสร้าง หรือรอข้อสรุปที่นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม สั่งให้ รฟท. สรุปข้อมูลเรื่องการสร้างชานชาลามาให้กระทรวงคมนาคมพิจารณาก่อนแต่อย่างใด

โดยเฉพาะในสัญญาที่ 3 ช่วงหัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ มีการสร้างชานชาลาที่มีความสูง 50 เซนติเมตร (ซม.) ทั้งหมดแล้ว ทั้งที่ตามเงื่อนไขการประมูลระบุให้สร้างชานชาลาสูงที่มีความสูง 110 ซม. ซึ่งเป็นชานชาลาที่มีพื้นชานชาลาเท่ากับพื้นตู้โดยสารรถไฟ จะช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้โดยสารทุกคน สามารถเข้าออกตู้โดยสารได้อย่างรวดเร็ว ปลอดภัย และลดระยะเวลาในการจอดด้วย.

[Wisarut]

บริษัท ที เอ็น จี โคออพเพอเรชั่น จำกัด มาตรวจพินิจโครงการทางคู่ลพบุรี - ปากน้ำโพที่ช่องแค เมื่อ 19 - 22 มิถุนายน 2564
https://www.facebook.com/TNG.TRT.CIS.RMUTI/posts/1582578255278900
https://www.facebook.com/TNG.TRT.CIS.RMUTI/posts/1584545341748858

บริษัท ที เอ็น จี โคออพเพอเรชั่น จำกัด มาตรวจพินิจโครงการทางคู่ นครปฐม - หัวหินที่ กม. 115-117, กม. 138-140 เมื่อ 5 มิถุนายน 2564 และ 8 มิถุนายน 2564
https://www.facebook.com/TNG.TRT.CIS.RMUTI/posts/1577174339152625

บริษัท ที เอ็น จี โคออพเพอเรชั่น จำกัด มาตรวจพินิจโครงการทางคู่ นครปฐม - หัวหินที่ สถานี โพรงมะเดื่อ เมื่อ 31 พฤษภาคม 2564
https://www.facebook.com/TNG.TRT.CIS.RMUTI/posts/1572561379613921

[Wisarut]

เมื่อปีที่แล้วได้ทำหนังสือสอบถามไปรฟท.และผู้ที่ชื่นชอบรถไฟเกี่ยวกับเกี่ยวกับชานชาลาในโครงการรถไฟทางคู่เฟสแรก ผู้ชื่นชอบรถไฟหลายท่านให้คำตอบเป็นเสียงเดียวกันว่าชานชาลาเสมอพื้นรถไฟ แต่กลับไม่ได้คำตอบจากรฟท.เลยว่าจะสร้างชานชาลารูปแบบไหน และเวลาผ่านมาจนงานก่อสร้างเรื่องเป็นรูปธรรมกลับพบว่าโครงการรถไฟทางคู่ช่วงหัวหินประจวบได้มีการก่อสร้างรูปแบบชานชาลาต่ำดังที่ปรากฏ หรือรฟท.มีเจตนาจะไม่สร้างชานชาลาสูงตั้งแต่แรกหรือเปล่า??? เพราะก่อนหน้านี้รฟท เอาข้ออ้างขบวนขนย้ายรถถังจะชนชานชาลาสูงมาเป็นเหตุผลสนับสนุนสร้างชานชาลาต่ำ
https://www.facebook.com/groups/923310448202985/posts/1043970726136956/

[Mongwin]

'ประยุทธ์' ตั้ง 7 อรหันต์ สอบทางคู่ ประมูลรถไฟทางคู่ 1.28 แสนล้าน
กรุงเทพธุรกิจ 2 กรกฎาคม 2564

"พล.อ.ประยุทธ์"เอาจริง! ตั้ง 7 อรหันต์ นำ “ดนัย-พีระพันธ์-ประภาศ-ชยธรรม์” เป็นคณะกรรมการสอบสวนประมูลรถไฟทางคู่มูลค่า 128,376 ล้านบาท จนถูกร้องเรียนว่ามีการล็อคผู้รับเหมา ล็อคราคาประมูลหรือไม่ เพราะมีข้อสั่งเกตุ จำนวนวงเงิน ที่ต่ำกว่า ราคากลางน่าสงสัย

รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า ภายหลังจากมีข้อร้องเรียนจำนวนมากว่า การประมูลรถไฟทางคู่ 5 สัญญา ใน 2 เส้นทาง 1.โครงการรถไฟทางคู่ สายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ 3 สัญญา 2.โครงการรถไฟทางคู่ สายบ้านไผ่-มหาสารคาม-ร้อยเอ็ด-มุกดาหาร-นครพนม 2 สัญญา มูลค่ารวม 128,376.79 ล้านบาท ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) มีเงื่อนงำในการประมูลทั้งเรื่องการฮั้วประมูล การเสนอราคาแข่งขันที่ต่ำจากราคากลางเพียง 0.08% เท่านั้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนเรื่องการประมูลโครงการรถไฟทางคู่ และสั่งให้ชะลอการประกาศผลการประมูลออกไปก่อนแล้ว

คณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงการประมูลโครงการรถไฟทางคู่ 2 โครงการ วงเงิน 128,376 แสนล้านบาท ที่นายกรัฐมนตรีแต่งตั้งขึ้นมาสอบสวนในเรื่องนี้ ประกอบด้วย 1.นายดนัย มู่สา ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษปนะจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นักบริหารระดับสูง) อดีตรองเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เป็นประธาน 2.นายพีระพันธ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี 3.นายประภาศ คงเอียด อธิบดีกรมบัญชีกลาง 4.นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม 5.ที่ปรึกษาสำนักงบประมาณ 6.ผู้แทนวิศกรรมสถานแห่งประเทศไทย ฯ 7. ผู้แทนผู้อำนวยการสำนักกฎหมาย สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี

ทั้งนี้ ในวันจันทร์ที่ 5 กรกฎาคม 2564 เวลา 09.30 น. คณะกรรมการสอบสวนการประมูลรถไฟทางคู่ 128,376 แสนล้านบาท ได้มีหนังสือลงเลข “ลับ” เพื่อเรียกตัวผู้ที่ร้องเรียนและผู้เกี่ยวข้อง3 คน คือ นายสามารถ ราชพบสิทธิ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นพ.ระวี มาศฉมาดล หัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ นายสาวิทย์ แก้วหวาน เลขาธิการสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ มาให้ข้อมูลหลักฐานการประมูลในโครงการนี้


แหล่งข่าวจากกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า การประมูลโครงการรถไฟทางคู่สายใหม่ 2 สาย คือโครงการรถไฟทางคู่ สายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ 3 สัญญา และ โครงการรถไฟทางคู่ สายบ้านไผ่-มหาสารคาม-ร้อยเอ็ด-มุกดาหาร-นครพนม 2 สัญญา มูลค่ารวม 128,376.79 ล้านบาท เป็นการประมูลด้วยระบบจัดซื้อจัดจ้างอิเล็กทรอนิกส์ (e-Bidding) ก็จริง แต่โครงการนี้มีหลายอย่างที่ต้องสืบค้น เพื่อนำมาประมวลผลในการดูแลประโยชน์ของงบประมาณ เนื่องจากมีผู้ซื้อซองมีจำนวนมาก แต่ผู้ยื่นซองประมูลจริงน้อยรายและมีเรื่องที่เหมือนกันโดยบังเอิญในแต่ละสัญญาด้วย

นอกจากนี้ ยังพบว่าผู้รับเหมารายใหญ่ที่ชนะการประมูลในแต่ละสัญญา เสนอราคาต่ำกว่าราคากลางในเชิงตัวเลขแบบพลิกไปพลิกมาเหมือนการซื้อหวยเลขวิ่งและมีการสลับเลขในการเสนอราคาให้ต่ำกวง่าราคากลางเพียงแค่ 16.31 กับ 31.16 ล้านบาท หรือเสนอต่ำกว่าราคากลางแค่ 23 ล้านบาท แต่แตกต่างกันที่หลักทศนิยม ซึ่งตรงนี้คือข้อสันณิฐานของการประมูลที่ผู้ร้องเรียนหลายรายได้ตั้งข้อสังเกตุว่าเป็นไปได้อย่างไร

ทั้งนี้ ตามเงื่อนไขการประมูล หากไม่มีการสั่งชะลอการประกาศผลการประมูลจากนายกรัฐมนตรีนั้นในเดือนกรกฎาคมนี้ กรมบัญชีกลางจะต้องประกาศรายชื่อผู้ชนะการประมูลเพื่อเดินหน้าไปสู่การทำสัญญาโครงการ เพราะการรถไฟแห่งประเทศไทยได้มีการตรวจสอบคุณสมบัติด้านเทคนิค และข้อเสนอราคาแล้ว

สำหรับ การประมูลโครงการรถไฟทางคู่สายเหนืออันฉาวโฉ่ สายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ มูลค่าโครงการ 72,919.25 ล้านบาท โดยมีการแยกเป็น3 สัญญา

สัญญาที่ 1 รถไฟทางคู่ช่วงเด่นชัย-งาว ราคากลาง 26,599.16 ล้านบาท กลุ่มกิจการร่วมค้า ITD-NWR (บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ (ITD) และบริษัท เนาวรัตน์พัฒนาการ (NWR)) เสนอราคาต่ำสุด 26,568 ล้านบาท ต่ำจากราคากลาง 31.16 ล้านบาท คิดเป็น 0.117%

สัญญาที่ 2 รถไฟทางคู่ช่วงงาว-เชียงราย ราคากลาง 26,931.78 ล้านบาท กิจการร่วมค้า CKST JOINT VENTURE (บริษัท ช.การช่าง (CK) และ บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น (STEC)) เสนอราคาต่ำสุด 26,900 ล้านบาท ต่ำกว่าราคากลาง 13.78 ล้านบาท คิดเป็น 0.051%

สัญญาที่ 3 รถไฟทางคู่ช่วงเชียงราย-เชียงของ ราคากลาง 19,406.31 ล้านบาท กิจการร่วมค้า CKST JOINT VENTURE (บริษัท ช.การช่าง (CK) และบริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น (STEC)) เสนอราคาต่ำสุด 19,390 ล้านบาท ต่ำกว่าราคากลาง 16.31 ล้านบาท คิดเป็น 0.084%

ขณะที่ โครงการรถไฟทางคู่สายอีสาน บ้านไผ่-มหาสารคาม-ร้อยเอ็ด-มุกดาหาร-นครพนม มูลค่าโครงการ 55,457.55 ล้านบาท แยกการประมูลออกเป็น 2 สัญญา

สัญญาที่ 1 รถไฟทางคู่ช่วงบ้านไผ่-หนองพอก ราคากลาง 27,123.62 ล้านบาท กลุ่มกิจการร่วมค้าที่มี บริษัท เอ.เอส.แอสโซซิเอท เอนยิเนียริ่ง (1964) จำกัด เป็นแกนนำ เสนอราคาต่ำสุด 27,100 ล้านบาท ต่ำกว่าราคากลาง 23.62 ล้านบาท คิดเป็น 0.087%

สัญญาที่ 2 รถไฟทางคู่ช่วงหนองพอก-สะพานมิตรภาพ ราคากลาง 28,333.93 ล้านบาท กลุ่มกิจการร่วมค้าที่มี ที่มี บมจ.ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น (UNIQ) เป็นแกนนำ เสนอราคาต่ำสุด 28,310 ล้านบาท ต่ำกว่าราคากลาง 23.93 ล้านบาท คิดเป็น 0.084%

เท่ากับว่าการประมูลรถไฟทางคู่ 2 สาย 5 สัญญา มูลค่า 128,376.79 ล้านบาท ผู้รับเหมาเอกชนเสนอราคาประมูลต่ำกว่าราคากลางเพียง 108.8 ล้านบาท คิดเป็น 0.0847% เท่านั้น ขณะที่การประมูลแต่ละสัญญา ต่ำกว่าราคากลาง 0.05-0.12%

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ให้สัมภาษณ์ ว่า กรณีที่มีการร้องเรียนเรื่องความไม่โปร่งใสในการประมูลโครงการรถไฟทางคู่ สายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ 72,921 ล้านบาท นั้น กระทรวงคมนาคมต้องรับฟัง และได้สั่งการให้มีการตรวจสอบแล้ว เบื้องต้นได้รับรายงานว่ายังไม่พบการทุจริตใดๆ

“การประมูล e-bidding เป็นการเสนอราคาที่ต่างคนต่างยื่น ไม่รู้ว่ามีใครเข้าร่วมประมูลบ้าง เสนอราคาเท่าใด การมาร้องเรียนให้กระทรวงคมนาคมสั่งการให้ล้มประมูลนั้น จะเป็นการเสียโอกาสสำหรับประเทศมาก หากผู้ร้องเป็นบริษัทผู้รับเหมา ก็ควรมาลงแข่งขันเสนอราคา ไม่ใช่มาร้องแบบนี้”นายศักดิ์สยาม กล่าว

นายศักดิ์สยามยังชี้แจงว่า ประเด็นที่ราคาเสนอมาใกล้เคียงกันนั้น ถ้ามีคนสงสัยต้องไปดูในส่วนของผู้รับจ้างว่าทำไมจึงเสนอราคาใกล้เคียงกัน เป็นเรื่องที่สามารถสอบถามกันได้อยู่แล้ว การรถไฟฯทำตามระเบียบ ส่วนจะมีการตรวจสอบอะไร ก็สามารถตรวจสอบได้ ไม่ได้เป็นประเด็นอะไรที่จะทำให้โครงการนี้มีปัญหา จนไม่สามารถดำเนินการได้

[Wisarut]