RailServe.Com

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Ads Service

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311296
ทั่วไป:13272375
ทั้งหมด:13583671
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - ข่าว รฟท จาก หนังสือพิมพ์
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

ข่าว รฟท จาก หนังสือพิมพ์
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 425, 426, 427 ... 474, 475, 476  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42744
Location: NECTEC

PostPosted: 19/05/2022 4:00 pm    Post subject: Reply with quote

การเยี่ยมชมเทคโนโลยีการผลิตรถไฟ และทดลองนั่งขบวนรถไฟพลังงานไฮโดรเจนรุ่น Coradia iLint พร้อมสถานีจ่ายแก๊สไฮโดรเจน ขบวนแรกของโลกที่ผ่านการทดสอบและรับรองจากการรถไฟในประเทศเยอรมัน ฝรั่งเศส ออสเตรีย เนเธอร์แลนด์ โปรแลนด์ สวีเดน ณ โรงงานผลิตรถไฟ Alstom ที่เมือง Salzgitter สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี (Alstom Transport Deutschland) โดยรถไฟพลังงานไฮโดรเจนนี้มีอัตราการสิ้นเปลือง อยู่ที่ ไฮโดรเจน 1 กิโลกรัมสามารถวิ่งได้ระยะทาง 4 กิโลเมตร และใช้เวลาในการเติมเชื้อเพลิงประมาณ 15 ถึง 20 นาที สามารถวิ่งได้ไกลกว่า 1000 กิโลเมตร
https://www.facebook.com/singhakarn/posts/10216994856418140

หลังจากที่เคยทดลองนั่งรถ Toyota Mirai ที่ใช้พลังงานไฮโดรเจนสร้างกระแสไฟฟ้าจากเซลเชื้อเพลิง (Fuelcell) เมื่อหลายปีก่อน มาคราวนี้ได้มีโอกาสทดลองนั่งขบวนรถไฟพลังงานไฮโดรเจนรุ่น Coradia iLint ซึ่งเป็นขบวนแรกของโลกที่ผ่านการทดสอบ รับรองและมีการใช้งานจริง ณ โรงงานผลิตรถไฟ Alstom ที่เมือง Salzgitter สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี (Alstom Transport Deutschland) โดยรถไฟพลังงานไฮโดรเจนนี้มีอัตราการสิ้นเปลือง อยู่ที่ ไฮโดรเจน 1 กิโลกรัมสามารถวิ่งได้ระยะทาง 4 กิโลเมตร และใช้เวลาในการเติมเชื้อเพลิงประมาณ 15 ถึง 20 นาที สามารถวิ่งได้ไกลกว่า 1000 กิโลเมตร
https://www.facebook.com/nnuksit/posts/5457315277621058
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42744
Location: NECTEC

PostPosted: 22/05/2022 4:32 pm    Post subject: Reply with quote

จับต่างด้าวชาวเมียนม่า 17 คน คาขบวนรถไฟ
วันที่ 19 พฤษภาคม 2565

....เมื่อช่วงค่ำ วานนี้ (18 พ.ค. 2565) พล.ต.ต.อำนาจ ไตรพจน์ ผบก.รฟ., พ.ต.อ.ปัญญา กล้าประเสริฐ รอง.ผบก.รฟ. และพ.ต.อ.ณัทกฤช น้อยคำปัน ผกก.2 บก.รฟ.,พ.ต.ท.กิตติพงษ์ รณหงษา รอง ผกก.2 บก.รฟ., พ.ต.ท.อภิชาติ วงษ์ศรี รอง ผกก.2 บก.รฟ. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ส.รฟ.ศิลาอาสน์กก.2 บก.รฟ พร้อมชุดจับกุม โดย พ.ต.ต.กิจจา จันทาทับ สว.ส.รฟ.ศิลาอาสน์ฯ,ร.ต.อ.เฉลิมชัย กันยะมี รอง สว.ส.รฟ.ศิลาอาสน์ฯ,ร.ต.อ.ณรงค์ศักดิ์ ใจทำ รอง สว.ส.รฟ.ศิลาอาสน์ฯ, ร.ต.ท.ณัฐพล จันทร์ตะฝั้น รอง สว (สส.)ส.รฟ.ศิลาอาสน์ ,ร.ต.ต.อุดมสิน จันทะวงษ์ รอง สว.ส.รฟ.ศิลาอาสน์ฯ, ด.ต.วุฒิพงษ์ ราชตัน , ด.ต.โชติวัฒน์ สระทองช่วง, ด.ต.ติณณภพ ผ่องใส ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองลำปาง, เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองลำปาง เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปคม. , เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปทส. , เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.ตชด.33 , เจ้าหน้าที่ตำรวจ บช.ทท.ได้ร่วมกันจับกุม ชาวเมียนมา ทั้งชายและหญิง 17 คน มาสอบสวน ก่อนนำส่งพนักงานสอบสวนสภ.เมืองลำปางดำเนินคดี ในข้อหา “กระทำความผิด เป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต”
ทั้งนี้จากการสอบสวนทั้งหมดรับสารภาพว่า หลบหนีเข้าเมืองมาจากเมียนมา ฝั่งท่าขี้เหล็กและทางชายแดนแม่ฮ่องสอน โดยเสียค่านายหน้าหัวละ 15,000-30,000 บาท ก่อนถูกจับกุมทยอยขึ้นรถไฟที่ลำพูนเพื่อเดินทางเข้ากรุงเทพมหานคร พอมาถึงสถานีรถไฟนครลำปาง เจ้าหน้าที่ตำรวจขึ้นมาตรวจสอบบัตรกระทั่งถูกจับกุม
https://www.chiangmainews.co.th/page/archives/2029081/
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42744
Location: NECTEC

PostPosted: 25/05/2022 10:23 pm    Post subject: Reply with quote

โคราชชวนเที่ยวงานโคกกรวดวันวาน สถานีรถไฟ 125 ปี ย้อนยุควิถีชีวิตวัฒนธรรมไทย-จีน
ภูมิภาค
วันพุธ ที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2565 เวลา 15:52 น.


เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม ที่อุทยานสถานีรถไฟโคกกรวด บ้านหนองหว้า หมู่ 1 ต.โคกกรวด อ.เมือง จ.นครราชสีมา คนไทยเชื้อสายจีนและชาวโคกกรวดร่วมแรงร่วมใจตกแต่งสถานที่ซึ่งเป็นบ้านพักและร้านค้าของตน เพื่อสร้างบรรยากาศย้อนยุคเตรียมจัดกิจกรรม “เที่ยวเพลิน ครั้งที่ 2” ระหว่างวันที่ 26-27 พฤษภาคมนี้ โดยมีนายทองแม้น จรโคกกรวด นายกเทศมนตรีตำบล (ทต.) โคกกรวด พร้อมนางสาวกาญจนา กาญจนวัฒนา กำนันตำบลโคกกรวด และผู้นำชุมชนนำกำลังเจ้าหน้าที่และพนักงาน ทต.โคกกรวด ช่วยอำนวยความสะดวกติดตั้งเวที ระบบไฟส่องสว่างและเครื่องเสียงรวมทั้งทำความสะอาดพื้นที่จัดงานบนถนนเทศบาล 5 ตั้งแต่วัดหนองหว้าถึงสถานีรถไฟรวมระยะทางประมาณ 400 เมตร

นายทองแม้นเปิดเผยว่า ย้อยรอยก่อนปี พ.ศ.2500 หรือกว่า 60 ปี การคมนาคมในยุคสมัยนั้น รถไฟมีความสำคัญมากกว่ารถยนต์และกายภาพของสถานีรถไฟโคกกรวดตั้งอยู่ในย่านชุมชนเศรษฐกิจของคนไทยเชื้อสายจีนที่อพยพมาตั้งรกราก สร้างความเจริญเป็นตลาดท้องถิ่นที่มีอายุประมาณ 120 ปี โดยชาวโคกกรวดรวมทั้งชาว อ.ขามทะเลสอ อ.ด่านขุนทด และ อ.โนนไทย ได้ใช้บริการรถไฟทั้งขนส่งผลผลิตเกษตรกรรมและโดยสารไปกรุงเทพมหานครและจังหวัดภาคอีสาน ทำให้เกิดความผูกพันกับสถานีรถไฟที่มีอายุกว่า 125 ปี ถือเป็นแหล่งอารยธรรมวิถีชุมชนที่มีเสน่ห์และเป็นเอกลักษณ์ของแหล่งท่องเที่ยวที่มีคุณค่าทางศิลปวัฒนธรรมและสังคม

เมื่อปี พ.ศ.2563 ทุกภาคส่วนได้ร่วมจัดกิจกรรมย้อนยุคครั้งแรกภายใต้การท่องเที่ยวในวิถีใหม่ (New Normal) แต่ประสบปัญหาวิกฤตโควิดต้องหยุดจัดงานจนกระทั่งสถานการณ์เริ่มคลี่คลายจึงจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 2 เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและให้คนรุ่นใหม่ ได้มีจิตสำนึกและซึมซาบวัฒนธรรมอันดีงามของชุมชนคนไทยเชื้อสายจีนและคนท้องถิ่นที่สามารถอยู่ร่วมกันเป็นปึกแผ่นและอนุรักษ์ให้เป็นอัตลักษณ์ของ ต.โคกกรวด

ทั้งนี้ ในงานมีกิจกรรมกราบไหว้บูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไทย-จีนตั้งอยู่ข้างกันภายในวัดหนองหว้า ประกอบด้วย หลวงพ่อตึก ศาลเจ้าไทย-จีน และศาลเจ้าพ่อพระยากลาโหม ชมอุทยานสถานีรถไฟโคกกรวด นิทรรศการสถาปัตยกรรมพื้นถิ่น “บ้านเก่าโคกกรวด” เยี่ยมชมโรงยาโบราณ “หมอยาชัยณรงค์” “พิพิธภัณฑ์ฅนโคกกรวด” โรงฝิ่น โรงถ่ายภาพเก่าเล่าเรื่อง ภาพวาด 3 มิติ โดยนำเครื่องมือโบราณ ซึ่งเป็นภูมิปัญหาท้องถิ่นมาจัดแสดง เช่น เลื่อยมือ, เครื่องสีข้าวมือหมุน, เครื่องผัดข้าวโบราณ ครกหิน ของเก่าต่างๆ การออกร้านค้าชุมชน อาหารไทย-จีน “ของดี ของอร่อย สูตรโบราณ” ชมหนังกลางแปลง เสนอจิตรภาพยนตร์และอินทราภาพยนตร์ ถ่ายรูปกับจุดเช็กอินภาพวาดบนสังกะสี “วิถีชุมชน” “ไชน่าทาวน์โคกกรวด” และการแสดงย้อนยุคบนเวทีอีกมากมาย


อย่างไรก็ตาม จะมีการแต่งกายย้อนยุคไทย-จีน พร้อมปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุข อย่างเคร่งครัดรวมทั้งงดการใช้โฟม ลดการใช้ถุงพลาสติกและทิ้งขยะให้ถูกที่ ห้ามดื่มและจำหน่ายเครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์บริเวณพื้นที่จัดงาน
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44632
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 27/05/2022 11:20 am    Post subject: Reply with quote

รัฐวิสาหกิจลงทุนคึกคัก - รฟท.ครองแชมป์
TNN 26 พฤษภาคม 2565, 12:09 น.

สคร.โชว์ผลเบิกจ่ายงบลงทุนรัฐวิสาหกิจ 43 แห่งเดือนเม.ย.เข้าเป้า 99,703 ล้านบาท รฟท.แชมป์สูงสุด 31,094 ล้านบาท รองลงมาคือปตท. 14,706 ล้านบาท ขณะที่่ทอท.-อภ.อืดกว่าแผน

นางปานทิพย์ ศรีพิมล ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เปิดเผยว่า การเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจ 43 แห่ง ที่ สคร. กำกับดูแลโดยตรง สำหรับปี 2565 รัฐวิสาหกิจมีผลการเบิกจ่ายงบลงทุนสะสม ณ สิ้นเดือนเมษายน 2565 เป็นไปตามเป้าหมาย

โดยสามารถเบิกจ่ายได้ 99,703 ล้านบาท หรือคิดเป็น 100 %ของแผนการเบิกจ่ายสะสมประกอบด้วยการเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจระบบปีงบประมาณ (ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2564 – เดือนเมษายน 2565) 34 แห่ง จำนวน 56,981 ล้านบาท หรือคิดเป็น 99 % ของแผนเบิกจ่ายสะสม และรัฐวิสาหกิจระบบปีปฏิทิน(ตั้งแต่เดือนมกราคม 2565 - เดือนเมษายน 2565) 9 แห่ง จำนวน 42,722 ล้านบาท หรือคิดเป็น 102 % ของแผนเบิกจ่ายสะสม

รฟท.-ปตท.แชมป์เบิกจ่ายงบ

Click on the image for full size

อย่างไรก็ตาม เดือนเมษายน ภาพรวมของรัฐวิสาหกิจสามารถเบิกจ่ายงบลงทุนได้เป็นไปตามแผน ทั้งนี้ กระทรวงการคลังโดย สคร. จะยังคงติดตามการเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจอย่างใกล้ชิดเพื่อให้การลงทุนของรัฐวิสาหกิจเป็นไปตามเป้าหมายและช่วยในการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศต่อไป

นางสาวปิยวรรณ ล่ามกิจจา ที่ปรึกษาด้านพัฒนารัฐวิสาหกิจ กล่าวว่า ในช่วงนี้รัฐวิสาหกิจหลายแห่งมีการปรับปรุงกรอบลงทุนให้สอดคล้องกับความสามารถในการเบิกจ่ายและวงเงินที่ได้เร่งเบิกจ่ายไปบางส่วนแล้วในปี 2564

โดย ณ เดือนเมษายน 2565 โครงการลงทุนขนาดใหญ่หลายโครงการสามารถเบิกจ่ายเป็นไปตามแผน อาทิ โครงการก่อสร้างรถไฟสายเด่นชัย - เชียงราย - เชียงของ โครงการระบบขนส่งมวลชนทางรางในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ช่วงบางซื่อ - รังสิต (โครงการระบบรถไฟฟ้าชานเมือง (สายสีแดง)) โครงการก่อสร้างรถไฟ สายบ้านไผ่ - มหาสารคาม - ร้อยเอ็ด - มุกดาหาร - นครพนม โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงนครปฐม - ชุมพร ของการรถไฟแห่งประเทศไทย และโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรม - มีนบุรี ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย

ที่มา สคร.
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44632
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 27/05/2022 11:26 am    Post subject: Reply with quote

ไม่ง่าย!โอนทรัพย์สิน รฟท.ให้"เอสอาร์ที แอสเสท”บริหาร เร่งแก้ปมระเบียบการเช่าใช้ประโยชน์ที่ดิน
เผยแพร่: 27 พ.ค. 2565 10:30
ปรับปรุง: 27 พ.ค. 2565 10:30
โดย: ผู้จัดการออนไลน์

โอนทรัพย์สินรฟท.ให้บริษัทลูก”เอสอาร์ที แอสเสท” ไม่ง่าย ต้องแก้ระเบียบการรถไฟฯ การหาประโยชน์จากที่ดิน ต้องเช่าก่อนรับสิทธิ์บริหาร เร่งทำ Action Plan เสนอบอร์ด มิ.ย.65

นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟท. ที่มีนายนายจิรุตม์ วิศาลจิตร เป็นประธาน เมื่อวันที่ 26 พ.ค. 2565 ได้มีการรายงานความคืบหน้าในการส่งมอบทรัพย์สินให้ บริษัท เอสอาร์ที แอสเสท จำกัด (SRTA) ซึ่งเป็นบริษัทลูกของรฟท. ในการเช่าทรัพย์สินไปดำเนินการ ซึ่งพบว่ายังมีประเด็นข้อกฎหมาย และระเบียบการรถไฟฯ ที่ต้องแก้ไขเพื่อรองรับการดำเนินงาน ที่จะให้ บริษัท เอสอาร์ที แอสเสท บริหารทรัพย์สินของรฟท. ได้ โดยคาดว่าจะสรุปแผนปฎิบัติการ (Action Plan) ได้ชัดเจนและเสนอบอร์ดในการประชุมเดือนมิ.ย.2565

สำหรับระเบียบรฟท.ที่ยังเป็นอุปสรรค และต้องปรับแก้ เช่น ระเบียบการรถไฟฯ ฉบับที่ 129 กรณีการนำที่ดินรถไฟออกหาประโยชน์ ซึ่งออกโดยอาศัยอำนาจตามพ.ร.บ.การรถไฟฯ กรณีแก้ไข จะอยู่ในอำนาจบอร์ดรฟท.ดำเนินการได้

ทั้งนี้ แม้ว่า บริษัท เอสอาร์ที แอสเสท จำกัด จะเป็นบริษัทลูก ของรฟท.แต่ถือเป็นอีกบริษัทหนึ่ง หรือเป็นอีกนิติบุคคลหนึ่ง โดยตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ระบุว่าให้ดำเนินการตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ซึ่งมีเงื่อนไข เช่น กรณีเป็นที่ดินที่มีสัญญาเช่า และยังไม่ครบกำหนด ให้รฟท.จ้าง บริษัท เอสอาร์ที แอสเสทฯ บริหารสัญญานั้นๆ ซึ่งแม้จะเป็นบริษัทลูก แต่ถือว่าเป็นคนละนิติบุคคล จึงต้องมีการว่าจ้างโดยต้องดำเนินการตามระเบียบพัสดุ , กรณีสัญญาเช่าครบกำหนดแล้ว ให้ บริษัท เอสอาร์ที แอสเสทฯ ทำการเช่าที่ดินดังกล่าวจากรฟท.ก่อน จากนั้นจึงจะสามารถนำไปให้เช่าต่อได้ ซึ่งกรณีนี้ยังมีประเด็นว่า บริษัท เอสอาร์ที แอสเสทฯ จะต้องมีงบประมาณในการเช่าที่ดินจากรฟท.ก่อน จึงจะได้สิทธิ์ในการนำที่ดินนั้นไปพัฒนาหรือให้เช่าต่อ

ดังนั้นรฟท.จะต้องดำเนินการตามข้อกฎหมายระเบียบพัสดุ ในการให้บริษัทเอสอาร์ที แอสเสทฯ เช่าพื้นที่ รวมถึงการกำหนดอัตราค่าเช่าหรือค่าจ้างบริหาร เพราะเรื่องนี้ยังไม่เคยทำมาก่อน จึงต้องแก้ไขระเบียบการรถไฟฯ เพื่อให้รองรับในการดำเนินการ

ในขณะเดียวกัน บริษัท เอสอาร์ที แอสเสทฯซึ่งถือเป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ในการดำเนินการให้เช่าทรัพย์สิน ก็จะต้องมีระเบียบพัสดุ ระเบียบการกำหนดอัตราค่าเช่า ต่างๆ ซึ่งจะต้องเร่งร่างระเบียบฯ ขึ้นมาเช่นกัน และต้องมีแผนการดำเนินการ การเตรียมด้านบุคลากรด้วยเนื่องจากที่ดินรถไฟมีอยู่ทั่วประเทศจำนวนมาก ทั้งตามแนวเส้นทาง สถานี และเขตเดินรถ
    “ตามมติครม.มีวัตถุประสงค์ที่ให้รฟท.ตั้งบริษัท เอสอาร์ที แอสเสทฯ ขึ้นมา เพราะต้องการสร้างบริษัทที่เป็นมืออาชีพ มีความสามารถในการนำทรัพย์สินของ รฟท. ให้มีรายได้เพิ่ม ดังนั้น บริษัทใหม่จะต้องเก่งกว่ารฟท. ในเรื่องการบริหารทรัพย์สิน ยืนยันว่า ไม่ใช่เป็นพ่อค้าคนกลาง โดยรฟท.จะเร่งรัดการส่งมอบทรัพย์สินตามแผน ขณะที่รอบคอบปฎิบัติตามกฎหมายด้วย”
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44632
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 29/05/2022 2:26 pm    Post subject: Reply with quote

รถไฟจัดรถจักรไอน้ำนำเที่ยว 3 มิ.ย. : รอบวันทันเหตุการณ์ 12.00น. 29-5-65
May 29, 2022
News1


https://www.youtube.com/watch?v=a8SqjPuUdpw
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44632
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 29/05/2022 5:03 pm    Post subject: Reply with quote

รถไฟลงพื้นที่ตรวจสถานีย่านสถานีอุดรธานี – นาทา – หนองคาย
บ้านเมือง วันอาทิตย์ ที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2565, 16.54 น.

นายจิรุตม์ วิศาลจิตร ประธานกรรมการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) พร้อมด้วยนายอำนวย ปรีมนวงศ์ กรรมการรถไฟฯ นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟฯ และผู้บริหารการรถไฟฯ เดินทางลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการพัฒนาพื้นที่ย่านสถานีอุดรธานี สถานีหนองตะไก้ สถานีนาทา และสถานีหนองคาย เพื่อติดตามความก้าวหน้าแผนการดำเนินโครงการก่อสร้างเชื่อมทางรถไฟ จากสถานีหนองตะไก้ ถึงพื้นที่ ICD นิคมอุสาหกรรมอุดรธานี และแผนพัฒนาย่านสถานีหนองคาย รวมทั้งแผนพัฒนาย่านเปลี่ยนถ่ายสินค้า (CY) สถานีนาทา สำหรับเพิ่มการอำนวยความสะดวกระบบขนส่งโลจิสติกส์ รองรับการเติบโตทางการค้า การลงทุนของไทย และสปป.ลาวในอนาคต

นายจิรุตม์ วิศาลจิตร ประธานกรรมการรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้ได้มีการรับฟังการบรรยายโครงการก่อสร้างทางรถไฟเพื่อใช้เป็นจุดเชื่อมต่อการขนส่งสินค้า เพื่อสนับสนุนเขตเศรษฐกิจพิเศษ การท่องเที่ยวและพัฒนาพื้นที่ จากสถานีรถไฟหนองตะไก้ ไปยังพื้นที่โครงการนิคมอุสาหกรรมอุดรธานี ระยะทาง 3.702 กิโลเมตร โดยมีพื้นที่อยู่ติดกับเส้นทางรถไฟ ซึ่งทางโครงการได้เสนอให้สร้างทางรถไฟจากสถานีหนองตะไก้ไปจนถึงเขตพื้นที่ของโครงการ ระยะทางประมาณ 2.802 กิโลเมตร

ส่วนที่เหลือโครงการจะเป็นผู้รับดำเนินการลงทุนสร้างทางรถไฟ รองรับการเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งในปัจจุบันอยู่ระหว่างเสนอหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาต่อไปจากนั้น เดินทางต่อไปยังสถานีนาทา และสถานีหนองคาย รับฟังการบรรยายการขนส่งสินค้าทางรถไฟระหว่างประเทศ ไทย–สปป.ลาว ซึ่ง

ปัจจุบันมีการขนส่งสินค้าหลากหลายชนิด อาทิ ข้าวมอลต์ ยางมะตอย เม็ดพลาสติก สินค้าอุปโภค และผลไม้ รวมทั้งยังได้ติดตามความก้าวหน้าแผนพัฒนาการขนส่งสินค้าทางราง ซึ่งการรถไฟฯ ได้มีการพัฒนาพื้นที่ย่านสถานีหนองคาย และ CY สถานีนาทา รวมถึงการเพิ่มขบวนรถสินค้า ทั้งรถจักร และรถพ่วง

ทั้งนี้ เพื่อให้สอดรับกับยุทธศาสตร์การพัฒนาโลจิสติกส์ของประเทศ ในการสนับสนุนให้ไทยเป็นศูนย์กลางการคมนาคมขนส่งของกลุ่มอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง ตลอดจนรองรับปริมาณการขนส่งสินค้าข้ามแดนไทย-สปป.ลาว ที่มีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะหลังการเปิดให้บริการรถไฟความเร็วสูง สปป.ลาว-จีน
สำหรับการพัฒนาย่านสถานีหนองคาย ปัจจุบันกรมศุลกากรได้ออกประกาศเป็นพื้นที่ตรวจปล่อยแล้วจำนวน 46,800 ตารางเมตร โดยการรถไฟฯ อยู่ระหว่างพิจารณาแบ่งพื้นที่คงเหลือจากการใช้เป็นพื้นที่ตรวจปล่อยเป็น 6 แปลง แปลงละ 16,640 ตารางเมตร เพื่อออกประกาศเชิญชวนให้ภาคเอกชนเข้ามาลงทุน 4 แปลง และกันไว้เป็นพื้นที่ส่วนกลาง 2 แปลง พร้อมกับกำหนดราคาค่าเช่าให้เป็นไปตามระเบียบการรถไฟฯ

ส่วนแผนพัฒนา CY ย่านนาทา พื้นที่ 268 ไร่ ซึ่งตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของศูนย์ซ่อมบำรุงเบาที่สถานีนาทา และสามารถเชื่อมต่อกับทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2 ด้วยถนนตัดใหม่ของกรมทางหลวงชนบท รวมถึงเชื่อมต่อกับศูนย์ขนส่งสินค้าทางรถบรรทุกทางด้านเหนือของพื้นที่ โดยปัจจุบัน การรถไฟฯ ได้กำหนดแผนใช้พื้นที่ของศูนย์เปลี่ยนถ่ายสินค้า ดังนี้

- โซน A พื้นที่สำหรับกองเก็บตู้สินค้าประเภทต่างๆ (CONTAINER YARD) 120 ไร่

- โซน B พื้นที่ลานขนส่งสินค้า (TRANSSHIPMENT YARD) ซึ่งประกอบด้วยพื้นที่ ราง ถนน และลานนกองเก็บโดยรอบ 75 ไร่ เพื่อให้สามารถรองรับการแลกเปลี่ยนสินค้าจากรถไฟที่เข้ามาจากจีนและ สปป.ลาว รวมถึงส่งออกไปยังสปป.ลาวและจีน พร้อมกับมีการติดตั้งเครนสำหรับยกตู้และวางตู้คอนเทนเนอร์ที่ขนลงมาวางชั่วคราว

- โซน C พื้นที่อาคารสำนักงาน โรงพักสินค้า และที่จอดรถ 73 ไร่ จะประกอบไปด้วย ส่วนที่ 1 เป็นพื้นที่สำนักงานศุลกากร และคลังสินค้าศุลกากร ส่วนที่ 2 เป็นศูนย์ปฏิบัติงานของผู้ประกอบการ อาทิ ลานและอาคารตรวจสอบสินค้า อาคารเอ็กซเรย์รถบรรทุก เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้มาใช้บริการแบบ One -Stop Service

นายจิรุตม์กล่าวว่า นอกจากแผนพัฒนาย่านสถานีหนองคาย และการพัฒนา CY สถานีนาทาแล้ว การรถไฟฯ ยังได้ดำเนินปรับเพิ่มขบวนรถสินค้าสำหรับให้บริการ เพื่อรองรับการเติบโตทางการค้าผ่านแดนในอนาคตอีกด้วย โดยแบ่งเป็น 3 ระยะ ดังนี้

- แผนระยะสั้น ปี 2564–2565 ได้เปิดให้บริการ 5 ขบวนไป-กลับ พ่วง 25 แคร่วิ่งทุกวัน มีรถจักรให้บริการ 10 คัน และรถพ่วง 350 แคร่ รองรับการขนส่งสินค้าได้ 73,000 TEU

- แผนระยะสั้น ระยะกลาง ปี 2566 – 2568 มีการเพิ่มขบวนรถให้บริการเป็น 8 ขบวนไป-กลับ พ่วง 25 แคร่วิ่งทุกวัน มีรถจักรให้บริการเพิ่มเป็น 16 คัน และรถพ่วง 530 แคร่ รองรับการขนส่งได้ 116,800 TEU

- แผนระยะยาว ปี 2569 เป็นต้นไป มีการเพิ่มขบวนรถให้บริการเป็น 12 ขบวนไป-กลับ พ่วง 25 แคร่วิ่งทุกวัน มีรถจักรให้บริการเพิ่มเป็น 24 คัน และรถพ่วง 794 แคร่ รองรับการขนส่งได้ 175,200 TEU โดย

อย่างไรก็ตาม การรถไฟฯ คาดหวังว่า การพัฒนาย่านสถานีหนองคาย และ CY นาทา นอกจากจะช่วยเพิ่มความสะดวกในการขนส่งสินค้าทางราง รองรับการเติบโตทางการค้าผ่านแดนของไทยกับประเทศเพื่อนบ้านได้แล้ว ยังเป็นการช่วยสร้างงานสร้างอาชีพ ก่อให้เกิดการพัฒนาเศรษฐกิจในท้องถิ่น อีกทั้งยังสนับสนุนให้ไทยเป็นศูนย์กลางการคมนาคมขนส่งของกลุ่มอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง ตามนโยบายรัฐบาลได้ในอนาคตอีกด้วย
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42744
Location: NECTEC

PostPosted: 29/05/2022 7:09 pm    Post subject: Reply with quote

Mongwin wrote:
รถไฟลงพื้นที่ตรวจสถานีย่านสถานีอุดรธานี – นาทา – หนองคาย
บ้านเมือง วันอาทิตย์ ที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2565 เวลา่ 16.54 น.


ประธานคณะกรรมการรถไฟฯ นำคณะกรรมการ ผู้บริหารระดับสูง และผู้ว่าการรถไฟฯ ลงพื้นที่สถานีย่านสถานีอุดรธานี – นาทา – หนองคาย เตรียมความพร้อมเสริมศักยภาพรองรับการเติบโต การขนส่งสินค้าผ่านแดนระหว่าง ไทย – สปป.ลาว
ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย
วันอาทิตย์ ที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2565 เวลา่ 15:41 น.

‘การรถไฟฯ’ บูมขนส่งสินค้าอีสาน เตรียมชวนเอกชนลงทุนพัฒนา ‘สถานีหนองคาย & CY นาทา’ ดันไทยฮับคมนาคมภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง
วันอาทิตย์ ที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2565


บอร์ดรฟท.เร่งเครื่องพัฒนาสถานีหนองคาย-CY นาทา แก้รอยต่อขนส่ง"รถไฟไทย-ลาว"
เผยแพร่: วันอาทิตย์ ที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2565 เวลา่ 16.58 น.
ปรับปรุง: วันอาทิตย์ ที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2565 เวลา่ 16.58 น.

"ประธานบอร์ดรถไฟฯ" นำทีมลงพื้นที่ตรวจความพร้อมรองรับขนส่งสินค้าผ่านแดนไทย-ลาว
เศรษฐกิจ
สยามรัฐออนไลน์
วันอาทิตย์ ที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2565 เวลา่ 16:18 น.

รฟท.กางแผนศูนย์เปลี่ยนถ่ายสินค้าอุดรธานี-หนองคาย รับขนส่งไทย-ลาว
หน้าเศรษฐกิจ Mega Project
ฐานเศรษฐกิจดิจิทัล |
วันจันทร์ ที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2565 เวลา 10:51 น.

รฟท. ลงพื้นที่สถานีย่านสถานีอุดรธานี – นาทา – หนองคาย เปิดแผนศูนย์เปลี่ยนถ่ายขนส่ง เตรียมความพร้อมเสริมศักยภาพ หนุนขนส่งสินค้าผ่านแดนไทย – สปป.ลาว
เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม ที่ผ่านมา นายจิรุตม์ วิศาลจิตร ประธานกรรมการรถไฟแห่งประเทศไทย พร้อมด้วยนายอำนวย ปรีมนวงศ์ กรรมการรถไฟฯ นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟฯ และผู้บริหารการรถไฟฯ เดินทางลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการพัฒนาพื้นที่ย่านสถานีอุดรธานี สถานีหนองตะไก้ สถานีนาทา และสถานีหนองคาย เพื่อติดตามความก้าวหน้าแผนการดำเนินโครงการก่อสร้างเชื่อมทางรถไฟ จากสถานีหนองตะไก้ ถึงพื้นที่ ICD นิคมอุสาหกรรมอุดรธานี และแผนพัฒนาย่านสถานีหนองคาย รวมทั้งแผนพัฒนาย่านเปลี่ยนถ่ายสินค้า (CY) สถานีนาทา สำหรับเพิ่มการอำนวยความสะดวกระบบขนส่งโลจิสติกส์ รองรับการเติบโตทางการค้า การลงทุนของไทย และสปป.ลาวในอนาคต

ประธานบอร์ดรฟท.ยกคณะ ลงพื้นที่สถานีย่านสถานีอุดรธานี – นาทา – หนองคาย เร่งเครื่องแก้รอยต่อรองรับการเติบโต การขนส่งสินค้าผ่านแดนระหว่าง ไทย – สปป.ลาว เปิดเช่าพัฒนาสถานีหนองคาย 4 แปลง ส่วน CY นาทา เร่งขั้นตอนจ้างที่ปรึกษาวางกรอบ PPP


“การรถไฟฯ” เล็งสร้างทางรถไฟ “สถานีหนองตะไก้” เชื่อมนิคมอุตฯ อุดรธานี” ระยะทาง 3.7 กม. กระตุ้นโลจิสติกส์อีสาน พร้อมเตรียม PPP ชวนเอกชนลงทุนพัฒนาย่าน “สถานีหนองคาย & CY นาทา” รองรับการขนส่งสินค้าข้ามแดนไทย–สปป.ลาว ดันไทยฮับคมนาคมขนส่งภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง


เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2565 นายจิรุตม์ วิศาลจิตร ประธานกรรมการรถไฟแห่งประเทศไทย พร้อมด้วยนายอำนวย ปรีมนวงศ์ กรรมการรถไฟฯ นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟฯ และผู้บริหารการรถไฟฯ เดินทางลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการพัฒนาพื้นที่ย่านสถานีอุดรธานี สถานีหนองตะไก้ สถานีนาทา และสถานีหนองคาย เพื่อติดตามความก้าวหน้าแผนการดำเนินโครงการก่อสร้างเชื่อมทางรถไฟ จากสถานีหนองตะไก้ ถึงพื้นที่ ICD นิคมอุสาหกรรมอุดรธานี และแผนพัฒนาย่านสถานีหนองคาย รวมทั้งแผนพัฒนาย่านเปลี่ยนถ่ายสินค้า (CY) สถานีนาทา สำหรับเพิ่มการอำนวยความสะดวกระบบขนส่งโลจิสติกส์ รองรับการเติบโตทางการค้า การลงทุนของไทย และสปป.ลาวในอนาคต
นายจิรุตม์ วิศาลจิตร ประธานกรรมการรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้ได้มีการรับฟังการบรรยายโครงการก่อสร้างทางรถไฟเพื่อใช้เป็นจุดเชื่อมต่อการขนส่งสินค้า เพื่อสนับสนุนเขตเศรษฐกิจพิเศษ การท่องเที่ยวและพัฒนาพื้นที่ จากสถานีรถไฟหนองตะไก้ ไปยังพื้นที่โครงการนิคมอุสาหกรรมอุดรธานี ระยะทาง 3.702 กิโลเมตร โดยมีพื้นที่อยู่ติดกับเส้นทางรถไฟ ซึ่งทางโครงการได้เสนอให้สร้างทางรถไฟจากสถานีหนองตะไก้ไปจนถึงเขตพื้นที่ของโครงการ ระยะทางประมาณ 2.802 กิโลเมตร ส่วนที่เหลือโครงการจะเป็นผู้รับดำเนินการลงทุนสร้างทางรถไฟ รองรับการเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างเสนอหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาต่อไป
จากนั้น เดินทางต่อไปยังสถานีนาทา และสถานีหนองคาย รับฟังการบรรยายการขนส่งสินค้าทางรถไฟระหว่างประเทศ ไทย–สปป.ลาว ซึ่งปัจจุบันมีการขนส่งสินค้าหลากหลายชนิด อาทิ ข้าวมอลต์ ยางมะตอย เม็ดพลาสติก สินค้าอุปโภค และผลไม้ รวมทั้งยังได้ติดตามความก้าวหน้าแผนพัฒนาการขนส่งสินค้าทางราง ซึ่งการรถไฟฯ ได้มีการพัฒนาพื้นที่ย่านสถานีหนองคาย และ CY สถานีนาทา รวมถึงการเพิ่มขบวนรถสินค้า ทั้งรถจักร และรถพ่วง
ทั้งนี้ เพื่อให้สอดรับกับยุทธศาสตร์การพัฒนาโลจิสติกส์ของประเทศ ในการสนับสนุนให้ไทยเป็นศูนย์กลางการคมนาคมขนส่งของกลุ่มอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง ตลอดจนรองรับปริมาณการขนส่งสินค้าข้ามแดนไทย-สปป.ลาว ที่มีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะหลังการเปิดให้บริการรถไฟความเร็วสูง สปป.ลาว-จีน
สำหรับการพัฒนาย่านสถานีหนองคาย ปัจจุบันกรมศุลกากรได้ออกประกาศเป็นพื้นที่ตรวจปล่อยแล้วจำนวน 46,800 ตารางเมตร โดยการรถไฟฯ อยู่ระหว่างพิจารณาแบ่งพื้นที่คงเหลือจากการใช้เป็นพื้นที่ตรวจปล่อยเป็น 6 แปลง แปลงละ 16,640 ตารางเมตร เพื่อออกประกาศเชิญชวนให้ภาคเอกชนเข้ามาลงทุน 4 แปลง และกันไว้เป็นพื้นที่ส่วนกลาง 2 แปลง พร้อมกับกำหนดราคาค่าเช่าให้เป็นไปตามระเบียบการรถไฟฯ
ส่วนแผนพัฒนา CY ย่านนาทา พื้นที่ 268 ไร่ ซึ่งตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของศูนย์ซ่อมบำรุงเบาที่สถานีนาทา และสามารถเชื่อมต่อกับทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2 ด้วยถนนตัดใหม่ของกรมทางหลวงชนบท รวมถึงเชื่อมต่อกับศูนย์ขนส่งสินค้าทางรถบรรทุกทางด้านเหนือของพื้นที่ โดยปัจจุบัน การรถไฟฯ ได้กำหนดแผนใช้พื้นที่ของศูนย์เปลี่ยนถ่ายสินค้า ดังนี้
- โซน A พื้นที่สำหรับกองเก็บตู้สินค้าประเภทต่างๆ (CONTAINER YARD) 120 ไร่
- โซน B พื้นที่ลานขนส่งสินค้า (TRANSSHIPMENT YARD) ซึ่งประกอบด้วยพื้นที่ ราง ถนน และลานนกองเก็บโดยรอบ 75 ไร่ เพื่อให้สามารถรองรับการแลกเปลี่ยนสินค้าจากรถไฟที่เข้ามาจากจีนและ สปป.ลาว รวมถึงส่งออกไปยังสปป.ลาวและจีน พร้อมกับมีการติดตั้งเครนสำหรับยกตู้และวางตู้คอนเทนเนอร์ที่ขนลงมาวางชั่วคราว
- โซน C พื้นที่อาคารสำนักงาน โรงพักสินค้า และที่จอดรถ 73 ไร่ จะประกอบไปด้วย ส่วนที่ 1 เป็นพื้นที่สำนักงานศุลกากร และคลังสินค้าศุลกากร ส่วนที่ 2 เป็นศูนย์ปฏิบัติงานของผู้ประกอบการ อาทิ ลานและอาคารตรวจสอบสินค้า อาคารเอ็กซเรย์รถบรรทุก เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้มาใช้บริการแบบ One -Stop Service
“การพัฒนา CY นาทา การรถไฟฯ ได้คำนึงถึงความต่อเนื่องในการใช้งานภายในพื้นที่ และสามารถต่อเชื่อมกับโครงการศูนย์เปลี่ยนถ่ายสินค้าทางรถบรรทุกของกรมการขนส่งทางบก ซึ่งสถานะปัจจุบันฝ่ายโครงการพิเศษและก่อสร้าง ได้ว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาฯ ออกแบบรายละเอียดงานโยธาแล้ว รวมถึงฝ่ายบริการสินค้าได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการดำเนินการจ้างบริษัทปรึกษาเพื่อดำเนินการโครงการลงทุนแบบร่วมทุน (พีพีพี)”
นายจิรุตม์กล่าวว่า นอกจากแผนพัฒนาย่านสถานีหนองคาย และการพัฒนา CY สถานีนาทาแล้ว การรถไฟฯ ยังได้ดำเนินปรับเพิ่มขบวนรถสินค้าสำหรับให้บริการ เพื่อรองรับการเติบโตทางการค้าผ่านแดนในอนาคตอีกด้วย โดยแบ่งเป็น 3 ระยะ ดังนี้
- แผนระยะสั้น ปี 2564–2565 ได้เปิดให้บริการ 5 ขบวนไป-กลับ พ่วง 25 แคร่วิ่งทุกวัน มีรถจักรให้บริการ 10 คัน และรถพ่วง 350 แคร่ รองรับการขนส่งสินค้าได้ 73,000 TEU
- แผนระยะสั้น ระยะกลาง ปี 2566 – 2568 มีการเพิ่มขบวนรถให้บริการเป็น 8 ขบวนไป-กลับ พ่วง 25 แคร่วิ่งทุกวัน มีรถจักรให้บริการเพิ่มเป็น 16 คัน และรถพ่วง 530 แคร่ รองรับการขนส่งได้ 116,800 TEU
- แผนระยะยาว ปี 2569 เป็นต้นไป มีการเพิ่มขบวนรถให้บริการเป็น 12 ขบวนไป-กลับ พ่วง 25 แคร่วิ่งทุกวัน มีรถจักรให้บริการเพิ่มเป็น 24 คัน และรถพ่วง 794 แคร่ รองรับการขนส่งได้ 175,200 TEU โดย
ท้ายนี้ การรถไฟฯ คาดหวังว่า การพัฒนาย่านสถานีหนองคาย และ CY นาทา นอกจากจะช่วยเพิ่มความสะดวกในการขนส่งสินค้าทางราง รองรับการเติบโตทางการค้าผ่านแดนของไทยกับประเทศเพื่อนบ้านได้แล้ว ยังเป็นการช่วยสร้างงานสร้างอาชีพ ก่อให้เกิดการพัฒนาเศรษฐกิจในท้องถิ่น อีกทั้งยังสนับสนุนให้ไทยเป็นศูนย์กลางการคมนาคมขนส่งของกลุ่มอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง ตามนโยบายรัฐบาลได้ในอนาคตอีกด้วย
***********************


Last edited by Wisarut on 31/05/2022 2:00 pm; edited 1 time in total
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42744
Location: NECTEC

PostPosted: 30/05/2022 2:58 am    Post subject: Reply with quote

โมเดลต้นแบบ รถยนต์รางตรวจการ
ขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้า
ผลงานนักศึกษา มทร.ล้านนา
https://www.facebook.com/Sorapong48/videos/1224711651604747
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44632
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 30/05/2022 6:07 pm    Post subject: Reply with quote

ทิศทางการพัฒนาระบบราง ภาพรวมของไทย
May 30, 2022
การรถไฟแห่งประเทศไทย Official

วันนี้ พาไปดูทิศทางการพัฒนาระบบรางในภาพรวมที่การรถไฟแห่งประเทศไทย ได้ดำเนินการขณะนี้ และกำลังเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของการให้บริการระบบรางของประเทศในทุกมิติ
CR : สำนักข่าวไทย MCOT


https://www.youtube.com/watch?v=C5RZF-pbPf0
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 425, 426, 427 ... 474, 475, 476  Next
Page 426 of 476

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©