View previous topic :: View next topic
Author
Message
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42784
Location: NECTEC
Posted: 21/09/2022 10:50 am Post subject:
ถ้าไม่อยากให่ รถไฟลาวจีนเป็นกับดักหนี้ ก็ต้องปรับปรุงการค้าท้งในและนอกประเทศ เพื่อกระตุ้นให้นักลงทุนทั้งในและนอกประเทศลาวหันมาใช้งานรถไฟลาวจีนอย่างเป็นล่ำเป็นสันเพื่อให้บริษัทให้มีกำไร 💰 มาใช้หนี้เงินกู้ 💸 ให้ได้ตามกำหนด
นอกจากนี้การบริหารการเงินและหนี้สิน และการกำจัดการฉ้อราษฏร์บังหลวงที่เกี่ยวข้องกับรถไฟลาวจีน เป็นเป็นอีกประเด็นที่สำคัญ เพื่อให้มีเงินมาใช้หนี้และเพิ่มสายป่านการเงิน เพื่อการขยายเส้นทางออกไปได้สำเร็จ
https://www.youtube.com/watch?app=desktop&v=XD3TgKTqFDE
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42784
Location: NECTEC
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42784
Location: NECTEC
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42784
Location: NECTEC
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42784
Location: NECTEC
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 44791
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 24/09/2022 7:42 am Post subject:
สปป.ลาว กางแผนกู้เศรษฐกิจ แก้หนี้ท่วม-กีบอ่อน-เงินเฟ้อพุ่ง
Source - ประชาชาติธุรกิจ
Saturday, September 24, 2022 04:37
เมื่อต้นปีที่ผ่านมา สปป.ลาวต้องเผชิญปัญหา "ค่าเงินกีบ" อ่อนค่าอย่างหนัก ส่งผลให้ต้นทุนการนำเข้าสินค้าโดยเฉพาะ "น้ำมัน" พุ่งสูงขึ้น กระทบลามสู่ "เงินเฟ้อ" ที่ทะยานขึ้นไปสูงสุดในอาเซียน นอกจากนี้ สปป.ลาวยังมีหนี้สาธารณะที่มีสัดส่วนเพิ่มสูงขึ้น และมีภาระหนี้ที่จะครบชำระต้องจ่ายในปี 2565 อีก 1,140 ล้านเหรียญสหรัฐ ก่อให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์กันว่า เศรษฐกิจ สปป.ลาวอาจจะซ้ำรอยประเทศศรีลังกา
ล่าสุดนายสุลีวัฒน์ สุวรรณจูมคัม (Soulivath Souvannachoumkham) ผู้อำนวยการทั่วไปฝ่ายบริหารจัดการหนี้สาธารณะ (Director General of Department of Public Debt Manegement) กระทรวงการเงิน สปป.ลาว ออกมาให้ข้อมูลว่า สภาพเศรษฐกิจลาวนั้น "ไม่ได้ตกต่ำอย่างเช่นในรายงานของสถาบันบางแห่งที่ประเมินโดยใช้ข้อมูลไม่รอบด้าน" โดยเศรษฐกิจลาว 2-3 ปีที่ผ่านมา ขยายตัว 7-8% และจากผลกระทบโควิด-19 ในปี 2020 ทำให้ลาวสูญเสียรายได้ไปเกือบ 400 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 3.5% ของ GDP ขณะที่องค์กรระหว่างประเทศอย่าง IMF-World Bank-ADB คาดการณ์ว่า ปี 2020 เศรษฐกิจน่าจะหดตัว แต่ปรากฏในปี 2020 GDP ลาวก็ยังเป็นบวก 3.3% แสดงให้เห็นว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจของลาวยังเดินต่อได้ แม้ว่าจะมีการล็อกดาวน์ประเทศ
"GDP ลาวในปี 2021 ก็ยังขยายตัว 3.3-3.4% ส่วนปีนี้แม้เศรษฐกิจ รีคัฟเวอร์ขึ้นมาเล็กน้อย แต่โควิด-19 ยังอยู่ ทำให้ครึ่งปีแรกเติบโต 3.4% และคาดว่าทั้งปีจะเติบโต 3.4% อยู่ในเรนจ์ที่เป็นบวกและยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าผลข้อขัดแย้งรัสเซีย-ยูเครนจะทำให้ราคาน้ำมันเพิ่มขึ้นสูง แน่นอนว่า สปป.ลาวได้รับผลกระทบ แต่โดยรวมแล้วการจัดเก็บรายรับของลาวก็ยังเป็นไปตามเป้าหมาย ล่าสุดการจัดเก็บรายได้ปีงบประมาณปี 2021 สามารถเก็บได้ 102% ของแผน ส่วนรายจ่ายสามารถจำกัดไม่ให้สูงประมาณ 90% ทำให้การขาดดุลลดลง สภาพการณ์ที่ไม่ปกติและมีผลกระทบจากปัจจัยภายนอกที่เข้ามา รัฐบาลเลยเห็นว่า เป็นปัจจัยเสี่ยงที่ต้องบริหารจัดการทั้งในด้านเศรษฐกิจ ทางด้าน การคลัง และปัญหามหภาคอย่างเข้มงวด" นายสุลีวัฒน์กล่าว
วาระแห่งชาติ
รัฐบาลลาวได้ออกวาระแห่งชาติ (National Agenda) เกี่ยวกับการจัดเก็บรายรับและการประหยัดรายจ่าย เพื่อบริหารจัดการในด้านเศรษฐกิจมหภาคให้ตอบโจทย์ โดยในแผนงบประมาณเดิมขาดดุลงบประมาณสูงถึง 4-6% ของ GDP ซึ่งเป็นความเสี่ยง ดังนั้น ทางรัฐบาลเองก็ได้มีการปรับปรุงโครงสร้างของแผนงบประมาณด้วย
โดยกำหนดแผน 5 ปี (2021-2025) และเสนอสภาเป็นแผนรับรอง ระยะกลาง เป็น Medium term budget plan กำหนดให้การขาดดุลงบประมาณไม่เกิน 2% ของ GDP เท่านั้น อันนี้เป็นกรอบเฟรมเวิร์กที่รัฐบาลได้ตั้งไว้ อันที่ 2 จะต้องเร่งจัดเก็บรายรับงบประมาณให้เพิ่มขึ้นสูงและเร็วด้วย ซึ่งก่อนโควิด-19 ลาวเก็บรายรับอยู่ที่ 16% ของ GDP คาดว่าจะเพิ่มให้ไปถึง 17% ของ GDP ในปี 2025 เป็น Top Piority นอกจากนี้ เรายัง "จำกัด" รายจ่ายไม่ให้เพิ่มขึ้นสูง และเพิ่มรายรับให้เพิ่มขึ้นเร็วกว่า คาดว่าในอีก 5 ปีน่าจะต้องเร่ง "สะสมส่วนต่างระหว่างรายรับกับร่ายจ่าย" ให้ได้อย่างน้อย 700-1,000 ล้านเหรียญ
เร่งเพิ่มรายรับ
สำหรับต้นปี 2565 ลาวสามารถจัดเก็บรายรับได้ 45-46% ของแผนการ เพิ่มขึ้น 2,000 ล้านกีบ จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องด้วยมีหลายมาตรการที่รัฐบาลได้ทำ โดยมาตรการด้านรายรับประกอบด้วย 1) โมเดิร์นไนซ์ การจัดเก็บรายรับ โดยการใช้ดิจิทัลเพิ่ม efficiency ในการจัดเก็บรายรับ การเพิ่มประสิทธิภาพ "บังคับใช้" กฎหมาย จะช่วยเพิ่มรายรับอีก 10% ของรายรับที่เราเก็บ ณ ปัจจุบัน
2) ขยายฐานการจัดเก็บรายได้ภาษี เช่น กฎหมาย VAT กำลังเร่งดึงรัฐวิสาหกิจต่าง ๆ เข้ามาในระบบมากขึ้น และการเพิ่มฐานการจัดเก็บรายรับใหม่จาก "แร่ธาตุ" ต่าง ๆ เพราะราคาโภคภัณฑ์สูงขึ้น อย่างแร่เหล็กในตลาดโลก และแร่แรร์เอิร์ธที่จีนก็ผลิตลาวก็มี และยังมีหินมาร์เบิล ถือเป็นรายได้ที่น่าจะมีโพเทนเชียล ลาวจึงได้นำร่อง Pilot Project ผ่านสภา แล้วจะใช้ถึงสิ้นปีมีการมอบหลักทรัพย์ค้ำปะกันให้รัฐบาลล่วงหน้า เบื้องต้นจะทำให้รัฐบาลมีรายได้เพิ่ม 30-40 ล้านเหรียญ
3) รายได้จากค่าธรรมเนียมรถไฟจีน-ลาว รัฐบาลจะได้ 100 เหรียญ/คอนเทนเนอร์ ไม่เพียงเท่านั้น รถไฟยังเป็นทิศทางบวกหลายด้าน เช่น ช่วยลดต้นทุนด้านการขนส่งลง 30- 40% การโปรโมตเทรดการส่งออกสินค้าต่าง ๆ ไปจีน ในตรงนี้มีการเซ็นสัญญาระหว่างบริษัทลาวและทางจีนมูลค่าประมาณ 1,500 ล้านเหรียญที่ จะส่งออกบรรดาสินค้าเกษตรไปให้จีน และจีนก็เพิ่มโควตาให้ลาว เป็นช่วงเริ่มต้นในช่วงที่จีนยังไม่เปิดประเทศ เต็มร้อย การลงทุนในดรายพอร์ตและ โลจิสติกส์ต่าง ๆ และเขตเศรษฐกิจพิเศษ จะช่วยเพิ่มปริมาณการค้า การขนส่ง และการส่งออกได้มากขึ้น ยังไม่รวมโพเทนเชียลจากการท่องเที่ยวที่เริ่มคึกคักขึ้นด้วย
4) นอกจากนี้ รัฐบาล สปป.ลาวยังอนุญาตให้ทำ Pirot Project บิตคอยน์ ไมนนิ่งกับ 3-4 เจ้าที่มีการขุดที่ต้องใช้พลังงานไฟฟ้า 30-40 เมกะวัตต์ (MW) ต่อ 1 แห่ง ทำให้มีรายได้จากการขายไฟและ VAT จากการขยายไฟฟ้า แต่อย่างไรก็ตาม สปป.ลาวยังไม่อนุญาตให้มีการ "เทรดบิตคอยน์" เพราะอยู่ระหว่างการพัฒนากฎหมาย นอกจากนั้น รัฐบาลยังร่างและทบทวนกฎหมายใหม่หลายฉบับ เช่น กฎหมาย Tax Law Asset Law และปรับอัตราการเก็บ Excite Tax จากสินค้าฟุ่มเฟือย เช่น แอลกอฮอล์ต่าง ๆ ทำให้ปีนี้สามารถจัดเก็บรายได้เพิ่มสูงกว่าปีก่อน
ช่วยลดรายจ่าย
ส่วนด้านการ "ลดรายจ่าย" ประกอบด้วย 1) รัฐได้ประมูลซื้อรถไฟฟ้า (EV) สำหรับรถบริหารทั่วไป เพื่อลดต้นทุนพลังงาน 2) การปรับโครงสร้างของรัฐด้วยการ "ยุบเลิก" กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ไปรวมกับกระทรวงอื่น ยกเลิกกรมและแผนกงานที่ไม่จำเป็น เพื่อลดจำนวนข้าราชการ มีการรับข้าราชการใหม่ไม่ถึงครึ่งของจำนวนที่รีไทร์ออกไป เป้าหมายเพื่อลดรายจ่าย และ 3)ลดการใช้อุปกรณ์สำนักงาน สิ้นเปลืองลง
ส่วนปัญหาเงินเฟ้อ เกิดจาก "ต้นทุน" ของการนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีราคาเพิ่มขึ้น ประกอบกับค่าเงินกีบผันผวน มาตรการที่จะนำมาใช้ก็คือ คุมให้อยู่ระดับคงที่ก่อน และต้องมีแหล่งเงินตราต่างประเทศที่จะเข้ามา ฉะนั้น เราคิดว่าการส่งออกสินค้าต่าง ๆ จะส่งออกมากช่วงปลายปี ก็จะมีการนำเข้าเงินสกุลที่เข้มแข็งมาเพิ่ม ก็จะช่วยปรับอัตราแลกเปลี่ยนให้ดีขึ้น โดยได้ปรับกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อ จากเดิมไม่เกิน 5% หรือสูงเกินกว่า GDP
แต่จากปัจจัยต่าง ๆ ที่มากระทบ ทำให้ต้องปรับเงินเฟ้อไม่ให้เกิน 2 หลัก และปีหน้าจะพยายามคุมให้ลดลงมาอีก
หนี้สาธารณะคิดเป็น 88% ของ GDP ลาว
ปัจจุบันหนี้สาธารณะในลาว คิดเป็น 88% ของ GDP มีสาเหตุ หลักมาจาก "การขาดดุลงบประมาณ" ที่สะสมมาหลายปี ซึ่งแก้ด้วย การลดการขาดดุลงบประมาณไม่ให้เกิน 2% ของ GDP โดยเฉลี่ย และการสะสม Accumulet จากเซอร์พลัสของเรเวนิว ไปชำระหนี้ ยิ่งสะสมมากเท่าไร หนี้ก็จะ ลดลงมากเท่านั้น ดังนั้น รัฐบาลจะต้อง "จำกัด" การกู้ใหม่ เพื่อมาทำโครงการ โดย การลงทุนเพื่อสร้างรายรับในอนาคตจะจำกัดและเลือก เฉพาะโครงการที่มี ศักยภาพ เช่น พลังงาน นอกจากนั้น ยังจะออกมาตรการใหม่ด้วยการไม่ออก การันตีให้กับรัฐวิสาหกิจเพิ่มขึ้นอีกแล้ว และยังต้องเพิ่มความเข้มงวดมากขึ้น
ทั้งนี้ โครงสร้างหนี้แบ่งเป็น 1) Bilateral กับประเทศต่าง ๆ รวมถึงจีน เกือบ 40% เป็นของจีน นอกจากนี้ มีจากไทย-เกาหลีใต้-ญี่ปุ่น 2) เงินกู้ระยะยาวดอกเบี้ยต่ำจาก World Bank-ADB ซึ่งในส่วนขององค์กรระหว่างประเทศนี้ จะไม่สามารถเจรจาได้ เพราะผ่อนปรนอยู่แล้ว แต่สัดส่วนไม่เยอะ ไม่ถึง 2,000 ล้านเหรียญ และ 3)ธนาคารพาณิชย์ต่าง ๆ ที่ผ่านมาได้เจรจากับธนาคารมาเลเซีย ขอเอ็กซ์เทนการชำระเป็นโรลโอเวอร์ออกไป ก็ได้รับการพิจารณาบางเจ้า และ 4)การออกพันธบัตร (Bond) ที่ออกที่ ประเทศไทยเป็นบุคคลทั่วไปและบริษัทต่าง ๆ ซึ่งตอนนี้ยังไม่มีการเจรจา
"เราทำเรื่องเสนอไปเกือบทุกประเทศ เพราะแต่ละประเทศก็ได้รับผลกระทบทั้งหมด แต่จะได้มากน้อยแค่ไหนก็ขึ้นกับนโยบายของประเทศนั้น ๆ รวมถึงประเทศจีนด้วยว่าจะมีนโยบายช่วยให้กับลาวหรือไม่ แต่ก็มีหลายโครงการที่จีนเข้ามาช่วยลาว เช่น edl-T โควตาการนำเข้าสินค้าจาก สปป.ลาว โครงการรถไฟทางด่วนต่าง ๆ" นายสุลีวัฒน์กล่าว
ส่วนหนี้โครงการรถไฟจีน-ลาวนั้น โครงการนี้มีต้นทุนประมาณ 5,900 ล้านเหรียญ ในจำนวนนี้ 3,500 ล้านเหรียญเป็นหนี้โปรเจ็กต์ไฟแนนซ์ ซึ่งเป็นภาระ ของบริษัทร่วมลงทุน ส่วนที่เหลืออีก 2,300 ล้านเหรียญ แบ่งเป็น ส่วนที่จีนลงทุน 1,630 ล้านเหรียญ และเป็นส่วนที่ลาวลงทุนเอง 730 ล้านเหรียญ แบ่งเป็นเงิน งบประมาณ 250 ล้านเหรียญ ซึ่ง "ชำระ ครบเรียบร้อยแล้ว" และมีส่วนที่กู้จาก China EXIM Bank อีก 480 ล้านเหรียญ โดยทางรัฐบาลลาวได้รับเงื่อนไขที่ดีจาก
สถาบันการเงิน โดยได้อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 2.3% ต่อปี เป็นระยะเวลา 25 ปี มีระยะเวลาปลอดดอกเบี้ยในช่วง 5 ปีแรก ดังนั้น โครงการรถไฟจีน-ลาว "จึงไม่มีปัญหา"
บรรยายใต้ภาพ
สุลีวัฒน์ สุวรรณจูมคัม
ที่มา: นสพ.ประชาชาติธุรกิจ ฉบับวันที่ 26 - 28 ก.ย. 2565
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 44791
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 26/09/2022 7:25 am Post subject:
สำรวจสถานีขนส่งรถไฟลาวจีนหลวงพระบาง
Arwakat Chanphirom
Sep 25, 2022
#สำรวจรถไฟลาวจีน ขนส่งสินค้าจากสถานีขนส่งรถไฟลาวจีน หลวงพระบาง สินค้า หลักๆ ที่เข้าออกจากสถานี ถ่านหิน ลูกเดื่อย ปุ๋ย ยางพารา..เป็นหลัก
https://www.youtube.com/watch?v=AkuL8cuqz5M
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 44791
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 26/09/2022 12:06 pm Post subject:
นั่งรถไฟไป เมืองบ่เต็น สปป.ลาว
ทัวร์ไทบ้าน
Sep 25, 2022
เมืองบ่เต็น เป็นเมืองเล็กของลาว เป็นพื้นที่ลาวปล่อยให้จีนเข้ามาเช่า เป็นเขตปกครองพิเศษของจีน คนส่วนมากเป็นคนจีนและคนลาว
ใช้ภาษาจีนส่วนใหญ่และก็ภาษาลาว มีบ่อนคาสิโนแต่ตอนนี้ถูกปิดอยู่ มีสาธารณูปโภคที่ดี และมีการจัดการทีดีมากเมืองนี้ ส่วนหน้าด่านยังปิดอยู่
จีนสามาถรเข้ามาได้ แต่คนลาวไม่สามารถออกไปฝั่งจีนได้
https://www.youtube.com/watch?v=MF2JDURYIA8
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42784
Location: NECTEC
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 44791
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Back to top