Ads Service

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai.Com

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311324
ทั่วไป:13286156
ทั้งหมด:13597480
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - ข่าว รฟท จาก หนังสือพิมพ์
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

ข่าว รฟท จาก หนังสือพิมพ์
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 437, 438, 439 ... 476, 477, 478  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44804
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 16/10/2022 10:15 am    Post subject: Reply with quote

9 ปีการรถไฟฯ ขาดสภาพคล่อง ยื่นกู้ทะลุแสนล้านบาท
กรุงเทพธุรกิจ 16 ต.ค. 2565 เวลา 9:00 น.

9 ปี รวมวงเงินกว่า 1 แสนล้านบาท กระทรวงการคลัง - สศช.จี้เดินหน้าตามแผนฟื้นฟู เร่งบริหารสินทรัพย์หารายได้ พร้อมออกมาตรการจูงใจเพิ่มปริมาณการเดินทางและการขนส่ง
เมื่อวันที่ 5 ต.ค.ที่ผ่านมา คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้พิจารณาเห็นชอบให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) กู้เงินเพื่อบรรเทาการขาดสภาพคล่องในปีงบประมาณ 2566 วงเงิน 15,200 ล้านบาท และเงินกู้ระยะสั้นวงเงิน 1,500 ล้านบาท โดยให้ดำเนินการคัดเลือกสถาบันการเงินด้วยวิธีการประมูลวงเงินกู้ระยะสั้นตามความเห็นของกระทรวงการคลัง และให้กระทรวงการคลังเป็นผู้ค้ำประกัน รวมทั้งพิจารณาวิธีการกู้เงิน เงื่อนไขและรายละเอียดตามความเหมาะสม

อย่างไรก็ดีจากข้อมูลนับตั้งแต่ปี 2558 พบว่า ร.ฟ.ท.ได้ขอกู้เงินเพื่อบรรเทาการขาดสภาพคล่องรวมแล้วจำนวน 88,905 ล้านบาท ซึ่งกระทรวงคมนาคม รายงานว่า ร.ฟ.ท.ประสบปัญหาขาดทุนมาอย่างต่อเนื่อง คาดการณ์ว่าปี 2566 ร.ฟ.ท.จะมีเงินสดรับ 59,320 ล้านบาท และเงินสดจ่าย 74,620 ล้านบาท (มีเงินสดยกมาจากปี 2565 จำนวน 100 ล้านบาท) ส่งผลให้ ร.ฟ.ท.ขาดเงินสดไว้ใช้จ่ายในปีงบประมาณ 2566 จำนวน 15,200 ล้านบาท

สำหรับเงินวงเงินกู้ระยะสั้น 1,500 ล้านบาท จะเป็นวงเงินสำรองสำหรับกรณีที่ต้องมีการใช้จ่ายเร่งด่วน เนื่องจากปัจจุบัน ร.ฟ.ท. มีโครงการลงทุนขนาดใหญ่หลายโครงการต้องบริหาร ขณะที่รายจ่ายด้านต่างๆ อาทิ การบำรุงรักษาทาง อาณัติสัญญาณ รถจักรล้อเลื่อนและการบริหารต่างๆ ยังคงเดิม แต่ ร.ฟ.ท. ยังมีภาวะขาดทุนอย่างต่อเนื่องและอาจประสบภาวะเงินสดขาดมือในบางช่วง จึงจำเป็นต้องเปิดวงเงินกู้ระยะสั้นในกรอบ 1,500 ล้านบาทข้างต้น สำหรับการสำรองเงินให้แก่ผู้รับจ้างเพื่อไม่ให้เกิดความเสียหาย การดำเนินงานต้องกระทบกระเทือนหรือหยุดชะงัก

ทั้งนี้จะกู้เงินได้ภายหลังจากวงเงินกู้ได้รับการบรรจุไว้ในแผนการบริหารหนี้สาธารณะประจำปีงบประมาณ 2566 ที่ผ่านความเห็นชอบตามขั้นตอนแล้ว

9 ปีการรถไฟฯ ขาดสภาพคล่อง ยื่นกู้ทะลุแสนล้านบาท

ขณะเดียวกัน หากรวมข้อมูลการขออนุมัติกู้เงินเพื่อใช้ในการดำเนินงานของ ร.ฟ.ท.ที่ผ่านการอนุมัติจาก ครม.ในรอบ 9 ปีที่ผ่านมา นับตั้งแต่ปี 2558 – 2566 ที่ขออนุมัติในครั้งนี้ พบว่ามีวงเงินรวมแล้วกว่า 1 แสนล้านบาท แบ่งออกเป็น

ปีงบประมาณ 2558

วงเงินกู้ระยะสั้น 800 ล้านบาท

วงเงินกู้บรรเทาการขาดสภาพคล่อง 8,711.27 ล้านบาท

ปีงบประมาณ 2559

วงเงินกู้ระยะสั้น 800 ล้านบาท

วงเงินกู้บรรเทาการขาดสภาพคล่อง 8,900 ล้านบาท

ปีงบประมาณ 2560

วงเงินกู้ระยะสั้น 800 ล้านบาท

วงเงินกู้บรรเทาการขาดสภาพคล่อง 12,100 ล้านบาท

ปีงบประมาณ 2561

วงเงินกู้ระยะสั้น 800 ล้านบาท

วงเงินกู้บรรเทาการขาดสภาพคล่อง 11,284 ล้านบาท

ปีงบประมาณ 2562

วงเงินกู้ระยะสั้น 800 ล้านบาท

วงเงินกู้บรรเทาการขาดสภาพคล่อง 12,000 ล้านบาท

ปีงบประมาณ 2563

วงเงินกู้ระยะสั้น 800 ล้านบาท

วงเงินกู้บรรเทาการขาดสภาพคล่อง 10,910.69 ล้านบาท

ปีงบประมาณ 2564

วงเงินกู้ระยะสั้น 800 ล้านบาท

วงเงินกู้บรรเทาการขาดสภาพคล่อง 11,500 ล้านบาท

ปีงบประมาณ 2565

วงเงินกู้ระยะสั้น 800 ล้านบาท

วงเงินกู้บรรเทาการขาดสภาพคล่อง 13,500 ล้านบาท

ปีงบประมาณ 2566

วงเงินกู้ระยะสั้น 1,500 ล้านบาท

วงเงินกู้บรรเทาการขาดสภาพคล่อง 15,200 ล้านบาท

อย่างไรก็ดี ภายใต้การอนุมัติกู้เงินเสริมสภาพคล่องของ ร.ฟ.ท.ในครั้งนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) พิจารณาเห็นชอบและไม่ขัดข้อง แต่ได้มีความเห็นเพิ่มเติมเพื่อให้ ร.ฟ.ท.เร่งดำเนินการ อาทิ ควรเร่งรัดดำเนินการตามแผนแก้ไจจปัญหาองค์กรให้สอดคล้องและเป็นไปตามมติคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) เพื่อแก้ไขปัญหาองค์กรให้เห็นผลเป็นรูปธรรม

นอกจากนี้ ร.ฟ.ท.ควรเร่งส่งมอบสินทรัพย์เพื่อให้บริษัท เอสอาร์ที แอสเสท จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทลูกสามารถนำไปบริหารจัดการให้เกิดรายได้ที่อาจเป็นแหล่งเงินทุนสำคัญสำหรับใช้จ่ายเพื่อดำเนินกิจการและลดการพึ่งพาเงินกู้และเงินงบประมาณจากภาครัฐได้ อีกทั้ง ร.ฟ.ท.ควรมีแผนบริหารจัดการและมาตรการจูงใจเพื่อเพิ่มปริมาณการเดินทางการขนส่ง ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ประโยชน์และผลตอบแทนเพิ่มขึ้น
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42784
Location: NECTEC

PostPosted: 16/10/2022 3:14 pm    Post subject: Reply with quote

งานประมูลที่เกี่ยวข้องกะ การทำให้รถเข้าสถานีกกลางบางซื่อได้

1. จ้างดัดแปลงรถโดยสารนั่งปรับอากาศและรถโดยสารนั่งปรับอากาศแบบมีห้องอาหารเพื่อใช้งานกับรถโบกี้ไฟฟ้ากำลัง จำนวน ๒๓ คัน ด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ ราคากลาง 105,423,000.00 บาทเมื่อ 01 กันยายน 2565
https://procurement.railway.co.th/auction/tor/detailtor.asp?codetor=651302035

2. จ้างปรับปรุงระบบไฟฟ้าสุขาระบบปิด และปรับปรุงภาพลักษณ์ รถโดยสารเพื่อใช้งานกับรถโบกี้ไฟฟ้ากำลัง จำนวน ๓๓ คัน ด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) ราคากลาง 75,055,000.00 บาท เมื่อ 19 สิงหาคม 2565
https://procurement.railway.co.th/auction/tor/detailtor.asp?codetor=651092950

3. จ้างซ่อมปรับปรุงรถจักรดีเซลไฟฟ้า GEA จำนวน 36 คัน ด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) ราคากลาง 1,670,400,000.00 บาท เมื่อ 17 พฤษภาคม 2565 (ติดตั้งระบบรองรับ ECTS-1)

4. จ้างซ่อมปรับปรุงรถจักร HID จำนวน 21 คัน ราคากลาง 777,000,000.00 บาท เมื่อ 25 เมษายน 2565 (ติดตั้งระบบรองรับ ECTS-1)
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42784
Location: NECTEC

PostPosted: 16/10/2022 5:43 pm    Post subject: Reply with quote

ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๖๕ ทั้งนี้ มีผลตั้งแต่วันที่ ๑๗ ตุลาคม ๒๕๖๕ เป็นต้นไป เริ่มกระบวนการ ยุบคำรวจรถไฟอย่างเป็นทางการเสียที ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2565 ตีพิมพ์เมื่อ 16 ตุลาคม 2565

ป.ล. เมื่อครบ 1 ปี (17ต.ค.66) ยุบกองบังคับการตำรวจรถไฟ โดยโอนงบประมาณในส่วนของบก.รฟ. จากรฟท .ไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำหรับเจ้าหน้าที่ตำรวจรถไฟเกลี่ยไปยังหน่วยงานอื่นๆ ส่วนอำนาจการสอบสวนโอนให้กับตำรวจท้องที่
https://www.facebook.com/ake.bluechifamily/posts/5623736207673278
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2565/A/064/T_0001.PDF

โปรดเกล้าฯ พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ ฉบับใหม่ ปี 2565 มีผลพรุ่งนี้
โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม
เผยแพร่: 16 ตุลาคม 2565 เวลา 18:10 น.
ปรับปรุง: 16 ตุลาคม 2565 เวลา 18:10 น.

MGR Online - โปรดเกล้าฯ พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2565 พร้อมบัญชีเงินเดือนตำรวจ เงินประจำตำแหน่ง มีผลบังคับใช้พรุ่งนี้ กำหนดให้มีคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ รับเรื่องร้องเรียนการแต่งตั้งโยกย้าย มีคณะกรรมการพิจารณาเรื่องร้องเรียนตำรวจ สำหรับปชช. ยุบตำรวจรถไฟภายใน 1 ปี

อย่างไรก็ตาม บทเฉพาะกาล มาตรา 163 เมื่อครบ 1 ปีนับแต่วันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ให้กองบังคับการตำรวจรถไฟเป็นอันยุบ และให้โอนเงินงบประมาณของการรถไฟแห่งประเทศไทยในส่วนที่ได้รับจาก งบประมาณแผ่นดินสำหรับเงินเดือน ค่าตอบแทน และค่าใช้จ่ายอื่นของข้าราชการตำรวจในกองบังคับการ ตำรวจรถไฟ มาเป็นของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นำอัตรากำลังจากกองบังคับการตารวจรถไฟ ไปดำเนินการจัดสรรเพื่อ ทั้งนี้ หน้าที่และอำนาจของข้าราชการตำรวจในกองบังคับการตารวจรถไฟ ในส่วนที่เกี่ยวกับการสืบสวนหรือสอบสวนเรื่องใดที่อยู่ในระหว่างดำเนินการก่อนยุบกองบังคับการ ตำรวจรถไฟให้โอนไปเป็นของข้าราชการตารวจในสถานีตำรวจหรือในกองบังคับการ
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42784
Location: NECTEC

PostPosted: 16/10/2022 8:42 pm    Post subject: Reply with quote

ขบวนรถไฟทักษิณารัถย์ กับข้าวแกงกระทงป้าน้อย
โดย: กิตตินันท์ นาคทอง
เผยแพร่: 14 ตุลาคม 2565 เวลา 18:34 น.
ปรับปรุง: 14 ตุลาคม 2565 เวลา 18:34 น.

กิตตินันท์ นาคทอง Facebook.com/kittinanlive

เมื่อวันก่อน ผู้เขียนเดินทางลงมายังภาคใต้ เพราะจองตั๋วเครื่องบินราคาโปรโมชันไว้ตั้งแต่เดือนมกราคม 2565 แต่ช่วงนี้ตั๋วเครื่องบินแพง ขากลับก็เลยใช้บริการขบวนรถด่วนพิเศษ “ทักษิณารัถย์” ถือเป็นประสบการณ์ครั้งแรกในชีวิต

ขบวนรถด่วนพิเศษทักษิณารัถย์ เปิดให้บริการเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2559 หรือเมื่อ 6 ปีก่อน ระหว่างสถานีกรุงเทพ ปลายทางสถานีชุมทางหาดใหญ่ จ.สงขลา ใช้ขบวนรถโดยสารรุ่นใหม่ 115 คัน

ถือเป็น 1 ใน 4 เส้นทาง นอกจาก ขบวนรถด่วนพิเศษอุตราวิถี ปลายทางสถานีเชียงใหม่, ขบวนรถด่วนพิเศษอีสานมรรคา ปลายทางสถานีหนองคาย และ ขบวนรถด่วนพิเศษอีสานวัตนา ปลายทางสถานีอุบลราชธานี

ที่ผ่านมา ขบวนรถด่วนพิเศษทั้ง 4 เส้นทาง เป็นที่บอกต่อและได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว เนื่องจากเป็นรถใหม่ หรูหราทันสมัย สิ่งอำนวยความสะดวกเพียบพร้อม เมื่อเทียบกับรถนั่งและนอนขบวนอื่น

ถึงกระนั้น จากประสบการณ์ที่พบเจอด้วยตัวเองพบว่า แม้โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่สายใต้ ช่วงนครปฐม-ชุมพร จะทำให้การเดินทางมาถึงกรุงเทพฯ ล่าช้ากว่ากำหนดเกือบ 2 ชั่วโมง แต่ระหว่างทางก็มีเรื่องราวที่น่าสนใจ

โดยเฉพาะเมนู “ข้าวแกงกระทง” ที่เจ้าหน้าที่รถไฟนำมาแจกให้ผู้โดยสารประทังความหิว ในช่วงเวลาขบวนรถล่าช้า ถือเป็นความทรงจำที่ครั้งหนึ่งต้องใช้ชีวิตอยู่บนรถไฟยาวนานเกือบ 1 วันเต็ม



เราจองตั๋วรถไฟล่วงหน้าก่อนวันเดินทาง 3 วัน ผ่านระบบที่เรียกว่า D-Ticket ที่สามารถชำระเงินผ่านบัตรเครดิตและบัตรเดบิตได้ ด้วยความที่เป็นขบวนรถยอดนิยม ปรากฎว่ารถคันที่ 4 เตียงล่างเต็ม คันที่ 5 เหลือเตียงล่างเพียง 2 ที่นั่ง

วิธีการจองให้สังเกตสัญลักษณ์สีเขียว ถ้ามีบันไดแสดงว่าเตียงบน ถ้าไม่มีบันไดแสดงว่าเตียงล่าง ราคาจะแพงกว่า 100 บาท แต่ได้เห็นวิวหน้าต่าง ส่วนสัญลักษณ์ผู้ชายสีฟ้า ผู้หญิงสีชมพู หมายถึงที่นั่งนี้มีคนจองแล้ว

จากสถานีชุมทางหาดใหญ่ไปยังกรุงเทพฯ ถ้าอยากเห็นวิวฝั่งตะวันตกให้นั่งแถวบน ที่นั่งหมายเลข 1-2, 5-6, 9-10 … ถ้าอยากเห็นวิวฝั่งตะวันออกให้นั่งแถวล่าง ที่นั่งหมายเลข 3-4, 7-8, 11-12 … สังเกตได้จากผังที่นั่งในระบบ

หลังการจองและชำระเงิน ระบบจะส่งตั๋วรถไฟเป็นไฟล์ PDF มาทางอีเมล สามารถสั่งพิมพ์ เก็บไว้เป็นหลักฐานแทนตั๋วรถไฟได้เลย ซึ่งสถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่จะมีเครื่องพิมพ์ Double A Fast Print ตรงโรงแรมรถไฟหาดใหญ่

แต่ปริ้นท์มาก่อนเดินทางเลยก็ดี เพราะเผื่อบางทีเครื่องปริ้นเตอร์อาจจะเสียก็ได้







มาถึงช่วงเวลาก่อนเดินทาง เนื่องจากช่วงนี้การรถไฟฯ ยังคงงดให้บริการตู้เสบียง เพราะฉะนั้นหลายคนเลือกที่จะซื้ออาหาร น้ำดื่ม และขนมขบเคี้ยวเตรียมเอาไว้ จากประสบการณ์ส่วนตัวแนะนำซื้อน้ำดื่มขวดใหญ่ 2 ขวดไปเลยกำลังดี

ที่สถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่ มีมินิมาร์ท และแผงอาหารให้บริการอยู่ ส่วนมากจะเป็นไก่ทอดข้าวเหนียว อาหารสำเร็จ ซึ่งก่อนเข้ามาที่สถานี ถ้ามีโอกาสแวะห้าง แวะร้านอาหาร แวะเซเว่นฯ ซื้อเข้ามาหน่อยก็ดีเพราะข้างนอกถูกกว่า

ส่วนใครที่ยังไม่ได้อาบน้ำ มีห้องอาบน้ำฝั่งละ 2 ห้อง ค่าบริการ 10 บาท ให้ไปก่อนสัก 4 โมงเย็น ถึง 4 โมงครึ่งกำลังดี ที่แนะนำให้อาบน้ำก่อนเดินทาง เพราะเราจะต้องพักผ่อนกันบนรถไฟยาวนานถึงช่วงเที่ยงของอีกวันหนึ่ง

พออาบน้ำเสร็จ อาจจะเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดลำลองง่ายๆ เสื้อกีฬา กางเกงขาสั้น พร้อมที่จะนอนหลับพักผ่อนแล้ว ซึ่งด้านในแอร์เย็น ประมาณ 22 องศาเซลเซียส ถ้าไม่ได้อาบน้ำเลย ระหว่างทางอาจจะหงุดหงิดอารมณ์เสียกว่านี้

รถไฟจะจอดที่สถานีก่อนเวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง เพราะฉะนั้นเราอาจจะฝากกระเป๋าสัมภาระแล้วลงมาซื้อของกินก็ได้ แต่แนะนำให้นำทรัพย์สินมีค่าติดตัวไปด้วย เพราะระหว่างนั้นจะมีญาติของผู้โดยสารปะปนกันมาส่งถึงที่นั่ง

กระทั่งเมื่อเวลารถไฟจะออก เจ้าหน้าที่ถึงจะประกาศให้ญาติที่ไม่ใช่ผู้โดยสารลงจากขบวนรถ

17.45 น. ได้เวลาขบวนรถไฟทักษิณารัถย์ออกจากสถานี เจ้าหน้าที่จะประกาศบนรถไฟ แนะนำสิ่งอำนวยความสะดวกและข้อควรปฎิบัติต่างๆ ระหว่างนั้นเจ้าหน้าที่จะแจกน้ำดื่มตรารถไฟ ขวดเล็ก คนละ 1 ขวด

ผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมง เจ้าหน้าที่จะเริ่มปูที่นอน โดยการกางที่นั่งทั้งสองฝั่งออกมาเป็นเตียงล่าง เปิดเตียงบนที่อยู่เหนือศีรษะออกมา บรรจงนำผ้าปูสีขาวปูบนที่นอน หมอน แล้วตบท้ายด้วยผ้าห่มบรรจถุงพลาสติกอย่างดี

ใครที่ยังไม่ปูที่นอน สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ไว้ก่อนแล้วเรียกให้มาปูที่นอนที่หลังได้ แต่ต้องไม่เกิน 2 ทุ่ม และขอความร่วมมือหลังเวลา 22.00 น. ให้ใช้โทรศัพท์มือถือระบบสั่น เพื่อไม่ให้รบกวนเวลาพักผ่อนของผู้โดยสารคนอื่น

แม้ที่นั่งที่เราจองจะเป็นรถปรับอากาศนั่งและนอนชั้นที่ 2 แต่ก็ถือว่าสะดวกสบายและปลอดภัยกว่าขบวนอื่น ด้วยประตูกระจกกั้นระหว่างห้องโดยสารกับประตูเข้าออกเป็นสัดส่วน คนนอกอย่างคนที่เข้ามาขายของก็เข้าไปไม่ได้

นอกจากค่าโดยสารที่สูงกว่าขบวนรถอื่น และการระบุชื่อผู้โดยสารชัดเจน จะช่วยคัดกรองผู้โดยสารทางหนึ่งแล้ว ยังมีระบบโทรทัศน์วงจรปิด CCTV อีกชั้นหนึ่ง ส่วนตัวยังรู้สึกว่าปลอดภัยเมื่อเทียบกับขบวนอื่นที่เคยนั่ง

อีกด้านหนึ่ง ยังมีหลอดไฟฟ้าส่องสว่างสำหรับอ่านหนังสือ และปลั๊กไฟ 220 โวลต์ จำนวน 1 หัว ใครที่มีสายชาร์จอยู่แล้ว แนะนำว่าให้นำหัวปลั๊กสายชาร์จมาด้วย ส่วนคนที่มีโน้ตบุ๊กแม้สามารถใช้ปลั๊กไฟได้ แต่ลองทำงานแล้วไม่ถนัด

ถามถึงสัญญาณอินเทอร์เน็ต พบว่าถ้าเป็นเครือข่ายดีแทค สัญญาณลื่นไหล มีสะดุดบ้าง ส่วนเครือข่ายเอไอเอส พบว่าสัญญาณสลับกันระหว่าง 4G, 3G กับ EDGE มีสัญญาณ 5G น้อยมาก ใครที่ฟังเพลงแนะนำใช้พวกแอปฯ ฟังเพลงดีกว่า

ส่วนห้องสุขา แม้จะไม่มีห้องอาบน้ำ ซึ่งมีไว้เฉพาะรถปรับอากาศนั่งและนอนชั้นที่ 1 แต่ก็มีอ่างล้างหน้า ห้องสุขาระบบปิด แยกระหว่างห้องที่มีโถสุขภัณฑ์ และโถปัสสาวะชาย สามารถใช้ได้ตลอดแม้แต่ตอนจอดที่สถานี









หลังจากที่เจ้าหน้าที่ปูที่นอนให้เรียบร้อย จากที่นั่งกลายสภาพเป็นเตียงน้อยคอยรัก ก็ถึงคราวที่ล้มตัวลงนอน สังเกตได้ว่า ช่วงที่ออกจากสถานีชุมทางหาดใหญ่ ถึงสถานีสุราษฎร์ธานี รถไฟทำความเร็วและเวลาได้ดีพอสมควร

จอดรับผู้โดยสารที่สถานีพัทลุงประมาณ 1 ทุ่มเศษ ถึงสถานีชุมทางทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช เวลาประมาณ 20.40 น. และถึงสถานีสุราษฎร์ธานี อ.พุนพิน เวลาประมาณ 4 ทุ่มครึ่ง

ปรากฏว่าพอถึง สถานีแสงแดด ก่อนถึงสถานีชุมพร เวลาประมาณ 00.30 น. ปรากฎรถไฟกลับจอดนิ่งสนิท สอบถามเจ้าหน้าที่ได้ความว่ารอรถสับหลีก เพราะสถานีชุมพรมีการก่อสร้างรถไฟทางคู่ นครปฐม-ชุมพร

ผ่านไปเกือบ 1 ชั่วโมง ขบวนรถด่วนพิเศษทักษิณารัถย์ กรุงเทพ-ชุมทางหาดใหญ่ เดินรถสวนทางกันมา ขบวนรถจึงเคลื่อนตัวไปยังสถานีชุมพร เวลาประมาณตีสอง ซึ่งช่วงนั้นต้องหยุดรถเพื่อให้พนักงานขึ้นมาทำความสะอาด

ถามว่าหลับสบายไหม บอกตามตรงว่าตอนที่ออกจากพัทลุง ก็หลับๆ ตื่นๆ เนื่องจากสถานที่ไม่คุ้นชิน กระทั่งได้หลับยาวหลังออกจากสถานีชุมพรไปแล้ว ยังดีกว่าตอนที่นั่งรถทัวร์จากกรุงเทพฯ ไปยังหาดใหญ่ 14 ชั่วโมง คือต้องนั่งเฉยๆ เป็นกบจำศีล





ตื่นมาตอนเช้า เปิดเว็บไซต์ ระบบข้อมูลขบวนรถ (TTS) เพื่อดูว่ารถถึงไหนแล้ว ปรากฏว่าตอน 06.15 น. รถเพิ่งมาถึงแค่สถานีนาผักขวง อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์เท่านั้น

แม้ว่าปัจจุบันจะยังไม่มีรถเสบียง แต่เจ้าหน้าที่ประกาศว่าบนรถมีกาแฟ โอวัลติน มาม่าขาย โดยกาแฟขายแก้วละ 20 บาท ส่วนมาม่าขายถ้วยละ 20 บาท เติมน้ำร้อนมาให้เลย เราจึงสั่งกาแฟและมาม่ามากินประทังความหิว

ระหว่างนั้นเจ้าหน้าที่ก็ขอโทษที่วันนี้ขบวนรถล่าช้า เพราะต้องรอรถสับหลีกตลอดทาง ตอนนั้นสังเกตได้ว่าขบวนรถล่าช้าไปเกือบ 3 ชั่วโมงครึ่ง ในใจตอนนั้นที่รู้ว่าเพิ่งถึงบางสะพาน ก็ไม่โอเค ทำไมล่าช้าขนาดนี้ แต่สักพักก็เริ่มทำใจได้

ต่อมามีแม่บ้านสอบถามว่า วันนี้ขบวนรถล่าช้า สนใจจะสั่งอาหารกล่องไหม ด้วยความที่เราหิว มาม่าถ้วยเดียวคงไม่อยู่ท้อง จึงสั่งข้าวไก่กระเทียมไปกล่องหนึ่ง จ่ายเงินไป 40 บาท แต่ไม่รู้ว่าจะได้รับเมื่อไหร่











สิ่งหนึ่งที่ทำให้คลายความไม่พอใจเราได้ คือวิวริมหน้าต่างที่พบว่า จะเห็นสวนมะพร้าวเป็นระยะ เพราะไล่ตั้งแต่บางสะพานน้อย บางสะพาน ทับสะแก และอำเภอเมืองฯ เป็นแหล่งปลูกมะพร้าวแหล่งใหญ่แห่งหนึ่งของประเทศ

แม้ข้อเสียของขบวนรถล่าช้า คือถึงที่หมายช้า ซึ่งจะกระทบกับคนที่มีธุระในช่วงบ่าย แต่ข้อดีก็คือ ได้เห็นบรรยากาศยามเช้าที่ประจวบคีรีขันธ์ เมืองที่ได้ชื่อว่าเป็นเมืองสามอ่าว ที่มีหลายสิ่งหลายอย่างอันซีนรอให้มาสัมผัส

ต่อมาเวลา 07.30 น. รถผ่านสถานีประจวบคีรีขันธ์ แต่ไม่แวะจอด ผ่านเขาช่องกระจกที่มีคำว่า “เมืองสามอ่าว” ผ่านสถานีเขากระไดไปแล้ว จะได้พบเห็นทะเลอ่าวไทยแบบไม่มีอะไรมากั้น ผ่านสถานีทุ่งมะเมา

สักพักจะได้เห็นเขาสามร้อยยอด วันนั้นมีฝนตกตลอดทาง ได้เห็นทะเลหมอกเล็กๆ ภายใต้เบื้องหน้าที่เป็นสวนกล้วยและต้นตาล สลับกับนาข้าวเขียวขจี เป็นภาพที่สวยงามสะดุดตาอย่างไม่มีเบื่อ







เวลาประมาณ 08.40 น. รถไฟมาถึงสถานีหัวหิน ระหว่างที่รถจอดปรากฎว่าบรรดาพ่อค้าแม่ค้าตะโกนเรียกขายข้าวขายอาหาร แต่ผู้โดยสารต้องลงไปซื้อเอง ซึ่งข้อดีของรถไฟขบวนนี้คือจะไม่มีพ่อค้าแม่ค้าเข้ามายุ่มย่ามแต่อย่างใด

สำหรับบนรถไฟ นอกจากจะมีรับออเดอร์ข้าวกล่องแล้ว ยังมีรับออเดอร์ของฝากเพชรบุรี คือ ขนมหม้อแกง 3 กล่อง 100 บาท ใครที่สนใจก็จองและจ่ายเงินเอาไว้ แล้วพอผ่านสถานีเพชรบุรี รับสินค้ามาแล้วจะนำมาให้

รถไฟมาถึงสถานีเพชรบุรีเวลาประมาณ 09.50 น. ออกจากสถานีแล้ว ประมาณเกือบ 10 โมงเช้า เราถึงได้รับข้าวกล่อง พบว่ามาจากร้านอาหารอิสลาม ฮาวา ท่าแร้ง เข้าใจว่าคงโทร.หาแม่ค้าให้ทำกับข้าวเอาไว้แล้วมารับที่สถานีเพชรบุรี

ออกจากสถานีเพชรบุรี รถไฟจะผ่านทุ่งนาเขียวขจีให้ได้สบายตา ก่อนจอดส่งผู้โดยสารที่ สถานีราชบุรี เวลาประมาณ 10.40 น. และสถานีบ้านโป่ง เวลาประมาณ 11.20 น. ระหว่างนั้นรถก็หยุดที่สถานีชุมทางหนองปลาดุกเล็กน้อย

X

เมื่อรถผ่านสถานีชุมทางหนองปลาดุกไปแล้ว จู่ๆ เจ้าหน้าที่รถไฟนำ “ข้าวแกงกระทง” มาแจก พร้อมกล่าวกับเราว่า ขออภัยที่ขบวนรถล่าช้า เลยนำอาหารมาแจกฟรี ไม่ทราบว่าเป็นไทยพุทธหรือไทยมุสลิม เราตอบว่าทานได้หมด









ข้าวแกงกระทงที่เราได้เป็นข้าวพะแนงหมู กับไข่พะโล้ รสชาติระดับข้าวแกงทั่วไป แต่ความพิเศษก็คือภาชนะใบตอง แตกต่างจากแม่ค้ารายอื่นที่ใช้กล่องโฟม ซึ่งย่อยสลายตามธรรมชาติยาก และมีสารก่อมะเร็ง

พอมาดูเฟซบุ๊กเพจ “ข้าวแกงกระทงป้าน้อย สถานีรถไฟชุมทางหนองปลาดุก” พบว่าวันที่ผู้เขียนเดินทางนั้น เจ้าหน้าที่รถไฟฯ สั่งออเดอร์มา 456 กระทงเพื่อแจกผู้โดยสาร พร้อมกับน้ำดื่มบรรจุขวดขนาดเล็กอีกหลายแพ็ค

และทราบว่า วันต่อมาก็มีออเดอร์จากขบวนรถด่วนพิเศษทักษิณารัถย์อีก ตั้งแต่ 400-700 กล่อง บางวันเจอรอบเช้าไม่พอ เจอรอบเย็นเข้าไปอีก ส่วนใหญ่จะเป็นออเดอร์กะทันหัน ทำเอาแม่ค้าเตรียมเครื่องแกงแทบไม่ทัน

ถ้ากล่าวถึงตำนานข้าวแกงกระทงป้าน้อย สถานีรถไฟชุมทางหนองปลาดุก อธิบายสั้นๆ ได้ว่า ขายมาตั้งแต่สมัยที่รถไฟยังเป็นรถจักรไอน้ำ รุ่นแม่จะทำข้าวแกงใส่หาบขายข้างทางรถไฟ ก่อนที่ทายาทรุ่นที่สองจะรับช่วงต่อ

จุดเด่นของข้าวแกงกระทงป้าน้อย มาจากภาชนะที่เป็นกระทงใบตอง ขายแค่ 4 เมนู ได้แก่ พะแนงเนื้อ พะแนงหมู แกงเขียวหวานไก่ และไข่พะโล้ ซึ่งเหตุผลที่ใส่กระทงเพราะถ้าใส่จานจะไม่ทันกับเวลาที่จำกัดของการเดินรถไฟ

ข้าวแกงกระทงห่อนี้ยังเป็นเครื่องเสวย สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เมื่อครั้งประทับขบวนรถไฟพระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินไปยังจังหวัดกาญจนบุรี เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2558

อย่างไรก็ตาม แม้ข้าวของยุคนี้จะแพงขึ้น แต่ข้าวแกงกระทงป้าน้อยยังคงขายในราคา 10 บาท ด้วยความอร่อยและประหยัด กลายเป็นที่ชื่นชอบของผู้โดยสารรถไฟชั้น 3 ทั้งชาวบ้านและนักท่องเที่ยวทั่วไป

นอกจากจะขายบนรถไฟชั้น 3 แล้ว ยังมีร้านเป็นเพิงไม้เล็กๆ อยู่หน้าสถานีรถไฟชุมทางหนองปลาดุก สำหรับคนที่ไม่ได้โดยสารรถไฟ แต่ต้องการมาลิ้มลองความอร่อย ก็มีคนขับรถหรือขี่จักรยานยนต์มาอุดหนุนเช่นกัน

ในวันนั้นเราเลือกพะแนงหมู รสชาติถึงเครื่อง เผ็ดเพียงเล็กน้อย กับไข่พะโล้ ที่ดับความร้อนแรงได้อย่างลงตัว กลายเป็นมื้ออาหารที่ทดแทนความรู้สึกที่ได้รับผลกระทบจากขบวนรถไฟล่าช้าลงมาได้บ้าง









เวลาประมาณ 11.45 น. รถส่งผู้โดยสารที่สถานีนครปฐม กระทั่งเวลาประมาณ 12.10 น. ถึงสถานีศาลายา จุดหมายปลายทางของเรา ทราบภายหลังว่ารถมาถึงสถานีกรุงเทพ เวลาประมาณ 13.20 น. ล่าช้าไป 110 นาที

เมื่อเช็กข้อมูลการเดินรถย้อนหลังพบว่า รถไฟล่าช้าช่วงชุมพร-ประจวบคีรีขันธ์ เกือบ 3 ชั่วโมงครึ่ง ก่อนจะเร่งความเร็วช่วงประจวบคีรีขันธ์-หัวหิน และเร่งมาเรื่อยๆ กระทั่งทำเวลาคืนมาได้ เหลือแค่ล่าช้า 1 ชั่วโมง 50 นาที

ส่วนเที่ยวไป จากกรุงเทพ-ชุมทางหาดใหญ่ เมื่อถึงสถานีรถไฟชุมพร ขบวนรถล่าช้าไป 125 นาที แต่พอพ้น อ.หลังสวน จ.ชุมพรไปแล้ว ขบวนรถทำความเร็วมากขึ้น กระทั่งถึงสถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่ 08.25 น. ล่าช้า 1 ชั่วโมง

หากตัดเรื่องขบวนรถล่าช้าออกไป การได้มานั่งรถไฟด่วนพิเศษทักษิณารัถย์ ถือว่าดีกว่ารถนอนทั่วไป เพราะสิ่งอำนวยความสะดวก ความสะอาด ปลอดภัยเป็นสัดส่วน และไม่มีกลิ่นสนิมเหล็กติดตัว รู้สึกดีเมื่อเทียบกับเงินที่จ่ายไป

แต่ถ้าจะให้กลับมาอีก คงต้องรอโครงการถไฟทางคู่ นครปฐม-ชุมพร แล้วเสร็จสมบูรณ์ ประมาณปลายปี 2566 ซึ่งเราคาดหวังว่าขบวนรถจะถึงที่หมายตรงเวลา หรือล่าช้าน้อยลงมาบ้าง

แม้การเดินทางย่อมมีจุดหมาย แต่ก็มีเรื่องราวระหว่างทางให้ได้จดจำและประทับใจเสมอ ทั้งวิวสวยริมหน้าต่าง ทั้งข้าวแกงกระทงป้าน้อย ที่มีโอกาสได้กินแม้จะไม่ได้นั่งรถไฟชั้นสาม ถือเป็นประสบการณ์นอนบนรถไฟไม่รู้ลืม
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44804
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 22/10/2022 5:40 pm    Post subject: Reply with quote

มุมมองใหม่...กับการรถไฟไทย⎜คิดเพื่อชาติ⎜23.10.65
Oct 23, 2022
TNN2 True Visions784


https://www.youtube.com/watch?v=NL5np1Mteyc

คิดเพื่อชาติ⎪มุมมองใหม่...กับการรถไฟไทย
O/A : 23/10/65

แขกรับเชิญ :
• อวิรุทธ์ ทองเนตร
รองผู้ว่าการ กลุ่มอำนวยการ การรถไฟแห่งประเทศไทย

ผู้ดำเนินรายการ :
• สวิตตา นาคะนคร

📺 ติดตามรายการคิดเพื่อชาติ ทางสถานีโทรทัศน์ TNN 2 (True Visions 784)
ออกอากาศประจำทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 20:30 – 21:00 น.
.
https://tv.trueid.net/live/tnn2
https://www.youtube.com/TNN2TrueVisio...
https://www.facebook.com/TNN2Channel
https://www.tnnthailand.com

#คิดเพื่อชาติ #วปอ #สมาคมวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักรในพระบรมราชูปถัมภ์ #TNN2 #ทรูวิชั่นส์ช่อง784 #TNN #TNNThailand #TNNช่อง16 #TNNONLINE #การรถไฟแห่งประเทศไทย
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42784
Location: NECTEC

PostPosted: 26/10/2022 1:07 pm    Post subject: Reply with quote

คนร้ายใช้ไม้หน้าสาม ตีหัวชายวัย 61 ดับคาชานชาลาสถานีรถไฟชุมทางบางซื่อ
สังคม
โดย nutda_t
วันที่ 25 ตุลาคม 2565 เวลา 05.30 น.


เมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 25 ตุลาคม 65 ร.ต.อ.หญิง แพรวพรรณ นวลคล้ำ รอง สว.(สอบสวน) สน.นพวงศ์ รับแจ้งมีผู้ถูกตีเสียชีวิตภายในสถานีรถไฟชุมทางบางซื่อ แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ กรุงเทพฯ จึงเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์ แพทย์นิติเวช รพ.ตร. และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู

ที่เกิดเหตุอยู่บนชานชาลาที่สอง บริเวณม้านั่งยาว พบร่าง นายสุจินต์ อายุ 61 ปี ชาว จ.กาฬสินธุ์ นั่งเสียชีวิต โดยสวมเสื้อยืดสีน้ำเงิน นุ่งกางเกงยีนส์ขายาว ใส่รองเท้าผ้าใบ สภาพถูกตีด้วยไม้เข้าที่ศีรษะ บริเวณทัดดอกไม้ด้านขวา และกะโหลกด้านหลังซ้ายเป็นแผลฉกรรจ์ ข้างกายมีถุงกระสอบใส่สัมภาระวางอยู่ 1 ใบ และในตัวพบเอกสารประจำตัว ถุงพลาสติกใส่เงิน 231 บาท เงินสัญชาติลาว และอินโดนิเซีย อย่างละใบ พบตั๋วรถไฟเดินทางมาจาก จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 22 ตุลาคมที่ผ่านมา และพบหมวกแก็ปตกอยู่ ข้างกันมีไม้หน้าสาม ยาวประมาณ 1 เมตร คาดว่าเป็นอาวุธที่ใช้สังหารถูกทิ้งไว้ด้วย เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน



ด้านพยานที่เห็นเหตุการณ์ ระบุว่า เมื่อช่วงเวลา 21.00 น. วันที่ 26 ตุลาคมที่ผ่านมา เห็นผู้ตายเข้ามานั่งกินก๋วยจั๊บที่ร้านเพียงลำพัง มีลักษณะปกติ ไม่เหมือนคนเมาสุราแต่อย่างใด จากนั้นไม่นานก็ทราบว่ามีผู้เสียชีวิตที่ชานชาลา เมื่อมาดูก็พบว่าเป็นชายคนเดียวกัน



ด้านพนักงานรักษาความปลอดภัยของสถานี ระบุว่า ก่อนหน้านี้ได้รับแจ้งจากพนักงานขับรถไฟที่กำลังออกจากสถานีบางซื่อ ว่ามีคนถูกทำร้ายบริเวณชานชาลาที่สอง จึงเดินทางมาตรวจสอบ ก็พบชายคนดังกล่าวนั่งเสียชีวิตแล้ว ส่วนผู้ก่อเหตุไม่พบตัว



ทั้งนี้นายอ้วน (นามสมมุติ) พนักงานรักษาความปลอดภัย ระบุว่า เมื่อช่วงหัวค่ำหลังจากที่ออกเวร และกำลังจะไปพักผ่อน เห็นชายอายุประมาณ 40 ปี ผมยาวเซอ สวมเสื้อคอปกสีเทา นั่งอยู่ริมชานชาลาที่หนึ่ง จึงเกรงว่าจะเกิดอันตราย เพราะจะมีรถไฟเข้ามา จึงไล่ให้ไปนั่งที่ชานชาลาที่สอง ซึ่งขณะนั้นมีชายอีกคนนั่งอยู่ คาดว่าจะเป็นผู้ตาย จากนั้นตนได้กลับไปพักผ่อน จนมาทราบทีหลังว่า ในจุดดังกล่าวมีคนถูกทำร้ายเสียชีวิต จึงคาดว่าผู้ก่อเหตุ เป็นบุคคลเดียวกับที่โดนตนไล่ให้ขึ้นไปนั่งที่ชานชาลา



จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบชายแต่งกายคล้ายชุดสีดำ เดินอยู่ในละแวกดังกล่าว ลักษณะเหมือนตามหาคน เมื่อพบผู้ตายจึงเดินไปหยิบไม้ในจุดที่ห่างออกไป ก่อนจะเดินกลับมาฟาดใส่ที่บริเวณศีรษะจนเสียชีวิต ก่อนที่ผู้ก่อเหตุจะเดินหลบหนีไปที่สุดปลายสถานี

เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
https://www.facebook.com/MorningNewsTV3/posts/6020824964621373

[url]ชายสูงวัยถูกตีด้วยไม้หน้า 3 เสียชีวิต บริเวณชุมทางรถไฟบางซื่อ[/url]
โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม
เผยแพร่: วันที่ 26 ตุลาคม 2565 เวลา 05:02 น.
ปรับปรุง: วันที่ 26 ตุลาคม 2565 เวลา 05:02 น.

ชายวัย 61 ปี ตีตั๋วนั่งรถไฟมาจากโคราช ตั้งแต่ 22 ต.ค. ถูกคนร้ายตีด้วยไม้หน้าสาม กะโหลกเป็นแผลฉกรรจ์ เสียชีวิตภายในสถานีรถไฟชุมทางบางซื่อ ผู้ก่อเหตุหลบหนี
เมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 26 ต.ค. ร.ต.อ.หญิง แพรวพรรณ นวลคล้ำ รอง สว.(สอบสวน) สน.นพวงศ์ รับแจ้งมีผู้ถูกทำร้ายเสียชีวิตภายในสถานีรถไฟชุมทางบางซื่อ แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ กรุงเทพฯ จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อม เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) แพทย์นิติเวช รพ.ตร. และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู

ที่เกิดเหตุอยู่บนชานชาลาที่สอง บริเวณม้านั่งยาว พบร่าง นายสุจินต์ ภูแด่น อายุ 61 ปี ชาว จ.กาฬสินธุ์ สวมเสื้อยืดสีน้ำเงิน นุ่งกางเกงยีนส์ขายาว ใส่รองเท้าผ้าใบ สภาพถูกตีด้วยไม้เข้าที่ศีรษะ บริเวณทัดดอกไม้ด้านขวา และกะโหลกด้านหลังซ้าย เป็นแผลฉกรรจ์ นั่งเสียชีวิตในจุดเกิดเหตุ ข้างกายมีถุงกระสอบใส่สัมภาระวางอยู่ 1 ใบ และในตัวพบเอกสารประจำตัว ถุงพลาสติกใส่เงิน 231 บาท เงินสัญชาติลาว และ อินโดนิเซีย อย่างละใบ พบตั๋วรถไฟเดินทางมาจาก จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 22 ตุลาคมที่ผ่านมา และพบหมวกแก็ปตกอยู่ ข้างกันมีไม้หน้าสาม ยาวประมาณ 1 เมตร คาดว่า เป็นอาวุธที่ใช้สังหาร ถูกทิ้งไว้ใกล้ที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

ด้านพยานที่เห็นเหตุการณ์ ระบุว่า เมื่อช่วงเวลา 21.00 น. วันที่ 25 ตุลาคม ที่ผ่านมา เห็นผู้ตายเข้ามานั่งกินกวยจั๊บที่ร้านเพียงลำพัง มีลักษณะปกติ ไม่เหมือนคนเมาสุราแต่อย่างใด จากนั้นไม่นานก็ทราบว่ามีผู้เสียชีวิตที่ชานชาลา เมื่อมาดูก็พบว่าเป็นชายคนเดียวกัน

ด้านพนักงานรักษาความปลอดภัยของสถานี ระบุว่า ก่อนหน้านี้ ได้รับแจ้งจากพนักงานขับรถไฟที่กำลังออกจากสถานีบางซื่อ ว่า มีคนถูกทำร้ายบริเวณชานชาลาที่สอง จึงเดินทางมาตรวจสอบก็พบชายคนดังกล่าวนั่งเสียชีวิตแล้ว ส่วนผู้ก่อเหตุได้หลบหนีไป

ทั้งนี้ นายอ้วน (นามสมมติ) พนักงานรักษาความปลอดภัย ระบุว่า เมื่อช่วงหัวค่ำหลังจากที่ออกเวร และกำลังจะไปพักผ่อน เห็นชายอายุประมาณ 40 ปี ผมยาวเซอร์ สวมเสื้อคอปกสีเทา นั่งอยู่ริมชานชาลาที่หนึ่ง จึงเกรงว่าจะเกิดอันตราย เพราะจะมีรถไฟเข้ามา จึงไล่ให้ไปนั่งที่ชานชาลาที่สอง ซึ่งขณะนั้นมีชายอีกคนนั่งอยู่ คาดว่า จะเป็นผู้ตาย จากนั้นตนได้กลับไปพักผ่อน จนมาทราบทีหลังว่า ในจุดดังกล่าวมีคนถูกทำร้ายเสียชีวิต จึงคาดว่าผู้ต้องก่อเหตุ เป็นบุคคลเดียวกับที่โดนตนไล่ให้ขึ้นไปนั่งที่ชานชาลา

จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบชายแต่งกายคล้ายชุดสีดำ เดินอยู่ในละแวกดังกล่าว ลักษณะเหมือนตามหาคน เมื่อพบผู้ตายจึงเดินไปหยิบไม้ในจุดที่ห่างออกไป ก่อนจะเดินกลับมาฟาดใส่ที่บริเวณศีรษะ จนเสียชีวิต ก่อนที่ผู้ก่อเหตุจะเดินหลบหนีไปที่สุดปลายสถานี

ตำรวจอยู่ระหว่างไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนผู้เสียชีวิตให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูนำส่งชันสูตรที่นิติเวช รพ. ตำรวจ ก่อนจะประสานญาติให้มารับศพไปบำเพ็ญกุศลตามพิธีทางศาสนาต่อไป


Last edited by Wisarut on 26/10/2022 9:18 pm; edited 1 time in total
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44804
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 26/10/2022 4:15 pm    Post subject: Reply with quote

เปิดใช้!!.อุโมงค์ทางลอดทางรถไฟบางซื่อ วันที่ 1 พฤศจิกายน 2565
Oct 26, 2022
ัvnp story

การรถไฟแห่งประเทศไทย จะทดลองเปิดใช้อุโมงค์ทางลอดทางรถไฟในโครงการรถไฟสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต ตั้งแต่สี่แยกถนนเทอดดำริ ถึงสถานีรถไฟวัดเสมียนนารี ถนนกำแพงเพชร 6 ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2565 ตั้งแต่เวลา 05:00 เป็นต้นไป อุโมงค์ทางลอดนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการก่อสร้างรถไฟชานเมืองสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต เชื่อมถนนกำแพงเพชร 6 ฝั่งสถานีจตุจักร วัดเสมียนนารี กับถนนรถไฟ ฝั่งสถานีบางซื่อและสถานีกลางฯ ให้เชื่อมต่อถึงกันพร้อมปรับปรุงขยายช่องจราจร อโมงค์นี้มีความยาวประมาณ 750เมตร ขนาด 4 ช่องจราจร 2 ทิศทาง

ได้ก่อสร้างแล้วเสร็จตั้งแต่ปี 63 ที่ผ่านมายังไม่เปิดใช้อย่างเป็นทางการ เพียงแต่ให้รถจักรยานยนต์ ได้ใช้ผ่านเพียง 2 ช่องจราจร มีปัญหาน้ำท่วมขัง ถูกลักขโมยตัดสายไฟทางการรถไฟจึงได้ปิดห้ามรถทุกชนิดผ่าน


https://www.youtube.com/watch?v=5zdepHDhHw0
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44804
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 26/10/2022 4:17 pm    Post subject: Reply with quote

Wisarut wrote:
คนร้ายใช้ไม้หน้าสาม ตีหัวชายวัย 61 ดับคาชานชาลาสถานีรถไฟชุมทางบางซื่อ
สังคม
โดย nutda_t
วันที่ 25 ตุลาคม 2565 เวลา 05.30 น.

ชายชุดดำฟาดหัวลุงดับคาสถานีรถไฟบางซื่อ | 26-10-65 | ข่าวเที่ยงไทยรัฐ
Oct 26, 2022
Thairath Online

ชายชุดดำใช้ไม้หน้าสามฟาดหัวลุงวัย 61 ปีดับ ขณะนั่งอยู่ในสถานีรถไฟบางซื่อ ก่อนจะหลบหนีไปสุดสถานี


https://www.youtube.com/watch?v=kVxulEopl8Q
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44804
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 28/10/2022 9:08 am    Post subject: Reply with quote

ยกระดับป้องกัน สถานีกลางบางซื่อ หลังเกิดเหตุชายถูกทำร้ายเสียชีวิต
Oct 27, 2022
CH7HD News


https://www.youtube.com/watch?v=_Yxp3Go2TOE

สนามข่าว 7 สี - หลังเกิดเหตุ ชายสูงอายุ 61 ปี ถูกทำร้ายโดยใช้ไม้ฟาดที่ศีรษะจนเสียชีวิต ตำรวจอยู่ระหว่างเร่งตามตัวคนร้าย แต่ในแง่การป้องกันเหตุ ล่าสุด การรถไฟแห่งประเทศไทย รฟท. สั่งการกำชับตรวจตราให้เข้มข้นขึ้น ขณะที่กล้องวงจรปิดจับภาพชายเสื้อดำก่อเหตุเสร็จแล้วเดินหนีไปด้านหลังสถานี

กล้องวงจรปิดของสถานีรถไฟบางซื่อ จับภาพชายเสื้อดำเดินข้ามมาจากฝั่งริมชานชาลา และข้ามไปหาชายอายุ 61 ปี ผู้ตาย พร้อมไม้หน้าสาม ก่อนฟาดไปที่ศีรษะ 2-3 ครั้ง จนเสียชีวิต ก่อนเดินหนีไปด้านหลัง และไม่ได้เอาทรัพย์สินใดจากผู้ตายไป ช่วง 00.30 น. ของวันที่ 26 ตุลาคม แต่คุณภาพกล้องไม่ดี ทำให้ภาพที่เห็นไม่ชัดเจน ประกอบกับค่อนข้างไกล

จากการลงพื้นที่ของทีมสนามข่าว 7 สี ช่วงค่ำวานนี้ 26 ต.ค. พบว่าสถานีรถไฟบางซื่อ มีช่องโหว่หลายจุด เนื่องจากเป็นสถานีเปิด คนสามารถเดินเข้า-ออกได้ง่าย และมีทางเข้าหลายจุด มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 3 คน และวงจรปิดจะอยู่เฉพาะบริเวณตัวสถานี แต่จุดรอรถไฟที่อยู่ช่วงท้าย ๆ จะไม่มีวงจรปิด เพราะจะมีร้านค้าและมีคนพลุกพล่าน

จากข้อมูลบริเวณที่เกิดเหตุจะเงียบและมืดมาก โดยเฉพาะช่วงที่รถไฟขบวนสุดท้ายไปแล้วช่วง 21.00-22.00 น. มักจะมีคนเร่ร่อนมาพักที่นี่จำนวนมาก เพราะย้ายมาจากสนามหลวง และหัวลำโพง โดยจะเห็นร่องรอยที่นอนและข้าวของเครื่องใช้บางส่วนหลงเหลืออยู่ และมักมีเหตุอาชญากรรมค่อนข้างบ่อย ซึ่งจากคำบอกเล่าของคนในพื้นที่จะทราบกันดี และการตรวจตรามักมาไม่ถึงจุดนี่้

ส่วนมาตรการการป้องกันเหตุหลังจากนี้ ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการเดินรถ ระบุว่า หลังเกิดเหตุ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย กำชับให้เพิ่มรอบการตรวจให้ถี่ขึ้น และอาจต้องพิจารณาเรื่องการเพิ่มอัตรากำลังพล รวมถึงจะเร่งหารือเพื่อแก้ปัญหาคนไร้บ้านมาใช้พื้นที่สถานีรถไฟในการพักอาศัยด้วย

ด้านคดี สถานีตำรวจรถไฟนพวงศ์ ส่งเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนออกหาข้อมูลแล้ว โดยประสาน สน.เตาปูน, สน.บางซื่อ และส่วนราชการ เพื่อติดตามภาพจากกล้องวงจรปิด คาดว่า 2-3 วันจะมีความคืบหน้าทางคดี ส่วนผู้ตาย เบื้องต้นตรวจสอบไปที่จังหวัดกาฬสินธุ์ ภูมิลำเนาของผู้ตาย ทราบว่าไม่มีครอบครัว แต่มีญาติห่าง ๆ ซึ่งกำลังประสานขอข้อมูลจากทุกส่วน

สำหรับการสอบปากคำเบื้องต้น ตำรวจสอบปากคำพยานในที่เกิดเหตุไปแล้ว 4 ปาก โดยพบว่าก่อนเกิดเหตุ ทั้งคนตาย และคนก่อเหตุ ก็นั่งดื่มสุราด้วยกันตรงร้านก๋วยเตี๋ยวใกล้ที่เกิดเหตุ
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44804
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 28/10/2022 2:32 pm    Post subject: Reply with quote

รฟท.สรุปผลคัดเลือกชิงเก้าอี้ 2 รองผู้ว่าฯ ชงบอร์ดพิจารณาเคาะแต่งตั้งวันนี้ (28 ต.ค.)
เผยแพร่: 28 ต.ค. 2565 06:43
ปรับปรุง: 28 ต.ค. 2565 06:43
โดย: ผู้จัดการออนไลน์

รฟท.สรุปคัดเลือกรองผู้ว่าฯ 2 ตำแหน่งเสนอบอร์ดเคาะวันนี้ เผยสมัคร 5 คน แต่เข้าแสดงวิสัยทัศน์สัมภาษณ์ 4 คน โดย "ผอ.ฝ่ายบริการโดยสาร" ถอนตัว วงในคาด "วัชรชาญ" จากฝ่ายช่างกล และ "อนันต์ โพธิ์นิ่มแดง" เข้าวิน

นายอำนวย ปรีมนวงศ์ กรรมการ (บอร์ด) การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการพิจารณาการแต่งตั้งเลื่อนระดับเป็นรองผู้ว่าการ (นักบริหาร 14) รฟท.เปิดเผยว่า จากที่ รฟท.ได้เปิดรับสมัครเพื่อคัดเลือกตำแหน่งรองผู้ว่าการจำนวน 2 คนเพื่อทดแทนผู้เกษียณอายุ โดยมีผู้ยื่นสมัครจำนวน 5 ราย และกำหนดให้แสดงวิสัยทัศน์ และสัมภาษณ์ในวันที่ 26 ตุลาคม 2565

โดยมีผู้เข้าแสดงวิสัยทัศน์ และสัมภาษณ์ จำนวน 4 ราย ส่วนอีกรายไม่มาถือว่าสละสิทธิ์ตามที่ได้มีการประกาศไว้ ซึ่งคณะอนุกรรมการฯ ได้พิจารณาให้คะแนน และสรุปผลการคัดเลือก เป็นลำดับคะแนน นำเสนอต่อคณะกรรมการ (บอร์ด)
รฟท.พิจารณาในการประชุมวันที่ 28 ตุลาคม 2565 นี้
    “เนื่องจากผู้สมัครทั้งหมดเป็นคนใน รฟท. เป็นผู้ที่มีความรู้ความชำนาญในการทำงานอยู่แล้ว ทำให้การพิจารณาด้านคุณสมบัติ และการคัดเลือกใช้เวลาไม่นาน สามารถสรุปผลและเสนอบอร์ดได้เร็ว” นายอำนวยกล่าว
รายงานข่าวจาก รฟท.เปิดเผยว่า จากที่ รฟท.ได้เปิดรับสมัครเพื่อคัดเลือกตำแหน่งรองผู้ว่าการจำนวน 2 คน เพื่อทดแทนผู้เกษียณอายุ โดยคณะอนุกรรมการพิจารณาการแต่งตั้งเลื่อนระดับเป็นรองผู้ว่าการ (นักบริหาร 14) ที่มีนายอำนวย ปรีมนวงศ์ กรรมการ (บอร์ด) รฟท. เป็นประธาน ได้ออกประกาศเปิดรับสมัครวันที่ 10-20 ตุลาคม 2565 โดยมีผู้ยื่นสมัครจำนวน 5 ราย

และเมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2565 คณะอนุกรรมการคัดเลือกฯ ได้ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิเข้ารับการแสดงวิสัยทัศน์ และสัมภาษณ์เพื่อรับฟังแนวคิดและวิสัยทัศน์ในการทำงาน จำนวน 5 ราย ได้แก่ 1. นายวัชรชาญ สิริสุวรรณทัศน์ วิศวกรใหญ่ฝ่ายช่างกล 2. นายอนันต์ โพธิ์นิ่มแดง ผู้ช่วยผู้ว่าการ รฟท. 3. นายฐากูร อินทรชม ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการเดินรถ 4. นางฐานิยาร์ เดชอุดม และ 5. นายประสิทธิ์ ถาวร ผู้อำนวยการฝ่ายบริการโดยสาร

โดยกำหนดให้แสดงวิสัยทัศน์และสัมภาษณ์ในวันที่ 26 ตุลาคม 2565 ตั้งแต่เวลา 08.00 น.เป็นต้นไป โดยผู้สมัครแต่ละคนจะได้เวลาไม่เกิน 30 นาที

รายงานข่าวแจ้งว่า นายประสิทธิ์ ถาวร ไม่ได้เข้าแสดงวิสัยทัศน์และสัมภาษณ์ตามกำหนด จึงถือว่าเป็นการสละสิทธิ์ ทำให้เหลือผู้เข้ารับการพิจารณาจำนวน 4 คน ซึ่งทั้งหมดเป็นผู้ที่มีคุณสมบัติ มีความรู้ ความสามารถในงานที่ได้รับผิดชอบ

สำหรับนายประสิทธิ์ ถาวร ปัจจุบันดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายบริการโดยสาร เคยถูกพนักงาน รฟท.ยื่นหนังสือร้องเรียนต่อนายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าฯ รฟท. เมื่อปี 2564 เพื่อให้ตรวจสอบพฤติกรรมกรณีร่วมกับบุคคลใกล้ชิด ใช้อำนาจหน้าที่มิชอบ แต่งตั้งพนักงานไม่เป็นธรรม เรียกรับผลประโยชน์ ทำให้พนักงานแตกแยก หมดขวัญกำลังใจ ขาดความรู้ความสามารถ มีการพิจารณาหยุดการเดินรถในช่วงโควิด-19 ที่ไม่เหมาะสมและเป็นการซ้ำเติมประชาชน ซึ่งคาดว่าจะเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ต้องถอนตัวจากการชิงตำแหน่งรองผู้ว่าฯ รฟท.ครั้งนี้

รายงานข่าวคาดว่า นายวัชรชาญ สิริสุวรรณทัศน์ วิศวกรใหญ่ฝ่ายช่างกล และนายอนันต์ โพธิ์นิ่มแดง ผู้ช่วยผู้ว่าการ รฟท.จะได้รับการคัดเลือกเป็นรองผู้ว่าฯ รฟท. โดยนายวัชรชาญ สิริสุวรรณทัศน์ ทำงานในส่วนงานช่างกล ซ่อมบำรุงมานาน ถือเป็นผู้มีประสบการณ์ในสายงานนี้ โดยจะครบเกษียณอายุในปี 2566 เหลือเวลาทำงานอีก 1 ปีเท่านั้น ส่วนนายอนันต์ โพธิ์นิ่มแดง เพิ่งขึ้นตำแหน่งผู้ช่วยผู้ว่าการฯ ไม่นานมาก แต่ในช่วงที่ผ่านมาได้รับมอบหมายภารกิจสำคัญ คือการเปิดเดินรถไฟชานเมืองสายสีแดง และเปิดใช้สถานีกลางบางซื่อ รวมถึงการปรับย้ายการเดินรถไฟจากสถานีรถไฟกรุงเทพ (หัวลำโพง) ไปยังสถานีกลางบางซื่อ
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 437, 438, 439 ... 476, 477, 478  Next
Page 438 of 478

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©