รวมข่าวรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในอนาคตตามนโยบายรัฐบาล

[Mongwin]

การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย
7 ก.ค. 66 09:45 น.

https://www.facebook.com/MRTA.PR/posts/590078926643671

🚆ความก้าวหน้างานก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าในความรับผิดชอบของ รฟม. ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2566🔛 ดังนี้

1. โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย - มีนบุรี (สุวินทวงศ์) 🏗ความก้าวหน้างานโยธา 100%

2. โครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว - สำโรง 🏗ความก้าวหน้างานโยธา 100% 🚧ความก้าวหน้างานระบบรถไฟฟ้า 100% ความก้าวหน้าโดยรวม 100%

3. โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย - มีนบุรี 🏗ความก้าวหน้างานโยธา 96.97% 🚧ความก้าวหน้างานระบบรถไฟฟ้า 97.34% ความก้าวหน้าโดยรวม 97.15%

4. โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ส่วนต่อขยาย ช่วงสถานีศรีรัช - เมืองทองธานี 🏗ความก้าวหน้างานโยธา 30.47% 🚧ความก้าวหน้างานระบบรถไฟฟ้า 14.43% ความก้าวหน้าโดยรวม 25.08%

5. โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน - ราษฎร์บูรณะ (วงแหวนกาญจนาภิเษก) 🏗ความก้าวหน้างานโยธา 13.13%

[Mongwin]

ผลงาน ‘ประยุทธ์’ ดันรถไฟฟ้า 8 เส้น เปิดบริการ 142 กม.ฝากรัฐบาลใหม่ดัน ‘ไฮสปีด’
กรุงเทพธุรกิจ 09 ก.ค. 2566 เวลา 13:08 น.

ผลงาน ‘ประยุทธ์’ ดันรถไฟฟ้า 8 เส้น เปิดบริการ 142 กม.ฝากรัฐบาลใหม่ดัน ‘ไฮสปีด’
รองโฆษก “ไตรศุลี” เผยตลอดระยะเวลาเป็นผู้นำรัฐบาล “พล.อ.ประยุทธ์” ผลักดันโครงการรถไฟฟ้าในกรุงเทพฯ-ปริมณฑลเปิดให้บริการแล้ว 8 เส้นทาง ส่งโครงการระหว่างก่อสร้างทั้งรถไฟฟ้าในเมือง 5 เส้นทาง ไฮสปีด และทางคู่ให้รัฐบาลหน้าสานต่อ
น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมอำนวยความสะดวกกับประชาชน เป็นพื้นฐานสำคัญของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและความสามารถในการแข่งขันของประเทศ

ทั้งนี้ เฉพาะรถไฟฟ้าในกรุงเทพฯและปริมณฑล ที่ปัจจุบันเปิดให้บริการรวมแล้วทั้งสิ้น 12 เส้นทาง ระยะทางรวม 242.34 กิโลเมตรนั้น เป็นโครงการที่ได้รับการผลักดันการก่อสร้างและเปิดให้บริการในช่วงที่พล.อ.ประยุทธ์ เป็นผู้นรัฐบาลทั้งหมด 8 เส้นทาง ระยะทางรวม 142.54 กม.

8 เส้นทาง รถไฟฟ้า ประกอบด้วย

1) รถไฟฟ้า สายสีม่วง บางใหญ่-เตาปูน ระยะทาง 23 กม. เปิดให้บริการ 6 ส.ค. 59

2) รถไฟฟ้า สายสีเขียว หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต ระยะทาง 18.70 กม. ทยอยเปิดบริการรวม 4 ช่วง ในปี 62-63

3) รถไฟฟ้า สายสีน้ำเงิน ช่วง หัวลำโพง-บางแค(หลักสอง) ระยะทาง 14 กม. เปิดบริการ 29 ก.ย. 62

4) รถไฟฟ้า สายสีน้ำเงิน บางซื่อ-ท่าพระ ระยะทาง 13 กม. เปิดให้บริการ 30 มี.ค. 63

5) รถไฟฟ้า สายสีทอง กรุงธนุบรี-คลองสาน ระยะทาง 1.88 กม. เปิดให้บริการ ธ.ค. 63

6) รถไฟฟ้าชานเมือง สายสีแดง (เหนือ) บางซื่อ-รังสิต ระยะทาง 26.30 กม. เปิดให้บริการ 29 พ.ย. 64

7) รถไฟฟ้าชานเมือง สายสีแดง (ตะวันตก) บางซื่อ-ตลิ่งชัน ระยะทาง 15.26 กม. เปิดให้บริการ 29 พ.ย. 64

8) รถไฟฟ้า สายสีเหลือง ลาดพร้าว-สำโรง ระยะทาง 30.40 กม. เปิดให้ประชาชนทดลองนั่งฟรี 3 มิ.ย. 66 และเริ่มเก็บค่าโดยสารเมื่อ 3 ก.ค. 66 ที่ผ่านมา

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ในส่วน สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ สถานีรถไฟที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในปัจจุบัน ซึ่งเริ่มต้นก่อสร้างในปี 56 รัฐบาลภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ ก็เล็งเห็นความสำคัญและผลักดันการก่อสร้างจนแล้วเสร็จในปี 64 เปิดให้บริการในปี 65 และให้บริการเต็มรูปแบบเชื่อมต่อกับ รถไฟฟ้ามหานคร รองรับทั้งรถไฟฟ้าชานเมืองและรถไฟทางไกลสายเหนือ, ตะวันออกเฉียงเหนือ และสายใต้ เพิ่มความสะดวกสบายในการเดินทางให้ประชาชนตั้งแต่ต้นปี 66 เป็นต้นมา

สำหรับโครการรถไฟฟ้าที่ได้รับการอนุมัติในรัฐบาลของพล.อ.ประยุทธ์ และขณะนี้อยู่ระหว่างก่อสร้าง โดยจะส่งต่อให้รัฐบาลต่อไปผลักดันจนเปิดให้บริการแก่ประชาชนในอนาคตประกอบด้วย โครงการรถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพฯ-ปริมณฑล 5 โครงการ ระยะทางรวม 101.4 กม. ประกอบด้วย

1) รถไฟฟ้า สายสีชมพู เส้นทางแคราย-มีนบุรี ระยะทาง 30.50 กม. ซึ่งนายกรัฐมนตรีจะลงพื้นที่ตรวจความพร้อมก่อนเริ่มทดสอบการเดินรถในวันที่ 10 ก.ค. นี้

2) รถไฟฟ้า สายสีชมพู ส่วนต่อขยายช่วงสถานีศรีรัช-เมืองทองธานี ระยะทาง 3 กม.

3) รถไฟฟ้า สายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรมฯ-มีนบุรี ระยะทาง 22.50 กม.

4) รถไฟฟ้า สายสีม่วง ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ(วงแหวนกาญจนาภิเษก) ระยะทาง 23.60 กม.

5) แอร์พอร์ตลิงค์ ช่วงพญาไท-ดอนเมือง ระยะทาง 21.80 กม.


นอกจากนี้ มีโครงการ รถไฟความเร็วสูง กรุงเทพฯ -หนองคาย ระยะที่1 ระยะทางรวม 250.77 กิโลเมตร รวมถึงโครงการรถไฟทางคู่ทั่วประเทศอยู่ระหว่างการก่อสร้างอีกหลายเส้นทาง

[Wisarut]

คำบ่นเรื่องรถไฟฟ้าเมืองกรุง
🚈 สายสุขุมวิท (สายสีเขียวอ่อน) : จ่าย หนี้ หน่อย
🚈 สายสีลม (สายสีเขียวเข้ม) : จอด รอ หลีก
🚈 สายสีน้ำเงิน : ปลา กระ ป๋อง
🚈 Airport Rail Link : ล้าง บ้าง นะ
🚈 สายสีม่วง : อย่า ลืม ฉัน
🚈 สายสีทอง : ไป ไอ คอน (สยาม)
🚈 สายสีแดง : รวม ไอ ดอล
🚈 สายสีเหลือง : รถ ไฟ เหาะ
🚈 สายสีชมพู : ยาว ไป ไหน
🚈 สายสีส้ม : รอ ไป ก่อน
https://www.facebook.com/bkktrains/posts/651886456970316

[Wisarut]

“แทรม-โมโนเรล”ต่างจังหวัด จะไปต่อหรือพอแค่กรุงเทพฯ
มุมคนเมือง, เศรษฐกิจ-ยานยนต์
11 กรกฎาคม 2566 เวลา 08:00 น.

“แทรม-โมโนเรล”ต่างจังหวัด ความหวังของคนต่างจังหวัดที่ต้องส่งผ่านรัฐบาลใหม่...ว่าจะผลักดันต่อให้ได้ใช้รถไฟฟ้าหรือว่าพอแค่ในกรุงเทพฯและปริมณฑล???

เปิดบริการอย่างเป็นทางการไปแล้ว สำหรับรถไฟฟ้ารางเดี่ยวหรือโมโนเรลสายแรกของประเทศไทยเส้นสีเหลืองลาดพร้าว-สำโรง ระยะทาง 30.4 กม. 23สถานี แม้ต้องควักกระเป๋าเพิ่มจ่ายค่ารถไฟฟ้า แต่คนกรุงเทพฯก็โอเคกับวิถีการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าที่สะดวกรวดเร็วกว่า และเร็วๆ นี้ก็จะได้ใช้บริการรถไฟฟ้าโมโนเรลสายที่2 สีชมพูช่วงแคราย-มีนบุรี 34.5 กม. 30 สถานี



ข่าวคราวของคนกรุงเทพฯและปริมณฑลแฮปปี้กับการเปิดใช้รถไฟฟ้าสายใหม่ ซึ่งรวมโครงข่ายรถไฟฟ้าหลากสีในกรุงเทพฯและปริมณฑลที่เปิดบริการในปัจจุบันรวม 12 สาย ระยะทาง 241 กม.(รวมสีเหลือง 30 กม. ) ยิ่งกระตุ้นต่อมผู้คนต่างจังหวัดอยากสัมผัสรถไฟฟ้าบ้าง โดยเฉพาะจังหวัดหัวเมืองภูมิภาคและจังหวัดท่องเที่ยวสำคัญรวม 6 จังหวัด ที่มีแผนก่อสร้างมานานหลายปี ล่าสุดตอนนี้ถึงไหนแล้ว…..ทีมข่าวนวัตกรรมขนส่งเดลินิวส์ มีคำตอบ…


นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.) บอกเล่า สถานะโครงการรถไฟฟ้าในต่างจังหวัดว่า ขณะนี้โครงการระบบขนส่งมวลชนรถไฟฟ้ารางเบา(แทรม)ในภูมิภาค ที่อยู่ภายใต้ความรับผิดชอบของ รฟม. ต้องรอรับนโยบายจากรัฐบาลชุดใหม่

ซึ่งรฟม. ได้จัดทำบรรยายสรุปความคืบหน้าการดำเนินงานโครงการแทรมภูเก็ต ระยะที่ 1ช่วงท่าอากาศยานภูเก็ต – ห้าแยกฉลอง, แทรมเชียงใหม่ สายสีแดง (โรงพยาบาลนครพิงค์-แยกแม่เหียะสมานสามัคคี), แทรมนครราชสีมา(โคราช) สายสีเขียว (ตลาดเซฟวัน-สถานคุ้มครองและพัฒนาอาชีพบ้านนารีสวัสดิ์) และแทรมพิษณุโลก สายสีแดง (มหาวิทยาลัยพิษณุโลก – เซ็นทรัลพลาซ่า) เพื่อเตรียมรายงานรมว.คมนาคมคนใหม่รับทราบแล้ว

โครงการแทรมภูเก็ต
โครงการแทรมเชียงใหม่
โครงการแทรมนครราชสีมา
ADVERTISEMENT


นายภคพงศ์ อธิบายต่อว่า ก่อนหน้านี้ที่มีแผนจะเปลี่ยนแทรมภูเก็ต เป็นรถรางล้อยาง (Automated Rapid Transit : ART) เพื่อลดต้นทุนการก่อสร้างนั้น ต้องรอรัฐบาลใหม่พิจารณาอีกครั้งเช่นกัน โดยจะนำผลการศึกษาทบทวนรายละเอียด ความเหมาะสม ปรับปรุงโครงการระบบขนส่งมวลชนจังหวัดภูเก็ต ระยะที่ 1 ช่วงท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต – ห้าแยกฉลอง และส่วนต่อขยายไปท่าฉัตรไชย อาทิ รูปแบบโครงสร้างของโครงการฯ ระบบเทคโนโลยีรถไฟฟ้าที่เหมาะสม และการขยายแนวเส้นทางต่อไปยังท่าฉัตรไชย เสนอรัฐบาลประกอบการพิจารณาด้วย

ย้อนดูแผนศึกษาและแผนดำเนินโครงการของรฟม. “แทรมภูเก็ต” ระยะทาง 41.7กม.วงเงิน 3.5หมื่นล้านบาท มีแผนเปิดประมูลปี 2563 และเปิดบริการปี 2567 จะเป็นแทรมสายแรกในไทยและรถไฟฟ้าสายแรกในต่างจังหวัด ขณะที่ “แทรมเชียงใหม่” ระยะทาง 15.8กม. วงเงิน 2.7หมื่นล้านบาท มีแผนเปิดประมูลปลายปี 2564 เปิดบริการปี 2570 ส่วน “แทรมโคราช” ระยะทาง 11.17กม. วงเงิน 8พันล้านบาท มีแผนเปิดประมูลปี 2565 ให้บริการปี 2568 และ “แทรมพิษณุโลก” ระยะทาง 12.6กม. วงเงิน 1.56พันล้านบาท มีแผนเปิดประมูลปี 2566 เปิดบริการปลายปี 2569


ภายหลัง นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ มาเป็นรมว.คมนาคม เมื่อปี 2563 มีนโยบายให้ รฟม. ทบทวนปรับรูปแบบแทรม เป็น ART เพื่อลดต้นทุนการก่อสร้าง ทำให้ รฟม. ต้องศึกษาทบทวนรูปแบบใหม่ เพื่อให้มีความเหมาะสมที่สุด เบื้องต้นพบว่า “แทรมภูเก็ต” จะปรับเป็น ART ขณะที่ “แทรมเชียงใหม่” เป็นรถไฟฟ้าล้อยาง (Tire Tram) ด้าน “แทรมโคราช” เป็นรถโดยสาร E-BRT ส่วน “แทรมพิษณุโลก” ยังไม่ได้ศึกษาทบวนรูปแบบ ทั้งนี้ผลการศึกษายังไม่มีความชัดเจนว่าจะดำเนินการในรูปแบบตามที่ศึกษาหรือไม่ เพราะต้องรอรัฐบาลใหม่เป็นผู้พิจารณาเรื่องนี้อีกครั้ง

สำหรับโครงการแทรมนั้น แม้จะทบทวนรูปแบบการดำเนินงานใหม่ แต่ในส่วนของผลการศึกษาเดิมที่ยังเป็นแทรมของ 4 จังหวัดนั้น ยังเดินหน้าจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม(อีไอเอ)ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาอีไอเอ ของคณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณารายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม(คชก.)

โดยในส่วนของแทรมเชียงใหม่ และแทรมโคราช ได้ตอบชี้แจงอีไอเอเกี่ยวกับข้อคิดเห็นต่างๆ ของ คชก. เป็นครั้งที่ 2 แล้ว หากอีไอเอผ่านการพิจารณา และรัฐบาลชุดใหม่ยังคงให้ดำเนินการในรูปแบบของแทรม ก็สามารถดำเนินโครงการต่อได้ทันที

โมโนเรลหาดใหญ่ เส้นทางคลองหวะ-สถานีรถตู้
แทรมขอนแก่น สายสีแดงช่วงสำราญ-ท่าพระวงเงิน
ขณะที่โครงการระบบขนส่งมวลชนโดยระบบราง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ที่มีรูปแบบเป็นโมโนเรลหาดใหญ่ เส้นทางคลองหวะ-สถานีรถตู้ ระยะทาง 12.54 กม. วงเงิน 1.7 หมื่นล้านบาท มีอบจ. สงขลาเป็นเจ้าของโครงการ และแทรมขอนแก่น สายสีแดงช่วงสำราญ-ท่าพระวงเงิน 2.3 หมื่นล้านบาท มีบริษัท ขอนแก่นทรานซิสเต็มท์ จำกัด (KKTS)  วิสาหกิจภายใต้การกำกับดูแลของ 5 เทศบาลจังหวัดขอนแก่น เป็นเจ้าของโครงการ ประกอบด้วย เทศบาลนครขอนแก่น เทศบาลเมืองศิลา เทศบาลตำบลเมืองเก่า เทศบาลตำบลสำราญ และเทศบาลตำบลท่าพระ ยังไม่สามารถหาแหล่งเงินกู้มาก่อสร้างโครงการได้

ความหวังของผู้คนต่างจังหวัดที่จะได้ใช้รถไฟฟ้า ต้องส่งผ่านรัฐบาลใหม่ว่าจะผลักดันต่อหรือว่าให้มีพอแค่ในกรุงเทพฯและปริมณฑล... สามารถติดตามต่อได้ที่ : https://www.dailynews.co.th/articles/2515963/

[Mongwin]

เช็คคืบหน้า ‘รถไฟฟ้า’ ทั่วกรุง ‘สีส้มตะวันออก’ สร้างเสร็จ แต่ไร้วี่แววเปิด
กรุงเทพธุรกิจ 16 ก.ค. 2566 เวลา 6:00 น.

รฟม. เปิดความคืบหน้างานก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้า 5 สาย “สายสีส้มตะวันออก” แล้วเสร็จ 100% แต่ยังไร้วี่แววเปิดให้บริการ เหตุติดข้อพิพาทปรับหลักเกณฑ์ประมูล
การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยถึงความก้าวหน้างานก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าในความรับผิดชอบของ รฟม. ณ สิ้นเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยพบว่า 5 โครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินการมีความคืบหน้า ดังนี้

1. โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย - มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ความก้าวหน้างานโยธา 100%

2. โครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว - สำโรง ความก้าวหน้างานโยธา 100% ความก้าวหน้างานระบบรถไฟฟ้า 100% ความก้าวหน้าโดยรวม 100%

3. โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย - มีนบุรี ความก้าวหน้างานโยธา 96.97% ความก้าวหน้างานระบบรถไฟฟ้า 97.34% ความก้าวหน้าโดยรวม 97.15%

4. โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ส่วนต่อขยาย ช่วงสถานีศรีรัช - เมืองทองธานี ความก้าวหน้างานโยธา 30.47% ความก้าวหน้างานระบบรถไฟฟ้า 14.43% ความก้าวหน้าโดยรวม 25.08%

5. โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน - ราษฎร์บูรณะ (วงแหวนกาญจนาภิเษก) ความก้าวหน้างานโยธา 13.13%

สำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มส่วนตะวันออก ช่วงศูนย์วัฒนธรรมฯ - มีนบุรี ที่ปัจจุบันดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จ 100% แต่ยังไม่สามารถเปิดให้บริการประชาชนได้ เนื่องจากสัญญาเดินรถได้รวมอยู่กับสัญญาการจัดหาเอกชนร่วมลงทุนเดินรถในโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์ - มีนบุรี (สุวินทวงศ์) และก่อสร้างงานโยธาส่วนตะวันตก ช่วงบางขุนนนท์ - ศูนย์วัฒนธรรมฯ

โดยปัจจุบันการจัดหาเอกชนร่วมลงทุนนั้น แม้จะมีการเปิดประกวดราคาและได้ตัวเอกชนผู้ยื่นข้อเสนอดีสุดแล้ว แต่ยังไม่สามารถลงนามสัญญาร่วมลงทุนได้ เนื่องจากปัจจุบันโครงการนี้อยู่ในกระบวนการพิจารณาของศาลปกครองกลาง กรณีที่มีเอกชนยื่นฟ้องเกี่ยวกับข้อกำหนดหลักเกณฑ์คัดเลือกเอกชน ส่งผลให้โครงการดังกล่าวยังไม่สามารถดำเนินการต่อได้ และคาดว่าจะต้องรอการพิจารณาของรัฐบาลใหม่ว่าจะมีนโยบายดำเนินการอย่างไร

สำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มส่วนตะวันออก ได้ลงนามสัญญาและเริ่มงานก่อสร้างในช่วงปี 2561 ซึ่งตามแผนของ รฟม.ก่อนหน้านี้มีเป้าหมายเปิดให้บริการประชาชนภายในปี 2566 แต่เนื่องจากปัจจุบันสัญญาเดินรถไฟฟ้ายังคงไม่ได้ข้อสรุป แน่นอนว่ากำหนดการเปิดเดินรถจำเป็นต้องล่าช้าออกไป เบื้องต้นหากได้ข้อสรุปสัญญาร่วมลงทุน และมีการลงนามภายในปี 2566 รฟม.คาดการณ์ว่าจะเร่งให้เอกชนลงทุนวางระบบรถไฟฟ้าแล้วเสร็จภายใน 2 ปี เพื่อเปิดบริการช่วงศูนย์วัฒนธรรมฯ - มีนบุรีภายในปี 2568 ภาพรวมโครงการนี้จึงล่าช้าจากแผนประมาณ 2 ปี


เชียงใหม่ลุยผุดรถไฟฟ้า
Source - มติชน
Monday, July 17, 2023 07:38

เดินหน้า'4โปรเจ็กต์'ลงทุน โคราช-ภูเก็ต-สองแควด้วย รฟม.เล็งเฟ้นระบบที่คุ้มค่า ทางคู่อุบลฯปรับขึ้นลอยฟ้า

คมนาคมเปิดแผนระบบขนส่งสาธารณะ 4 จังหวัด รฟม.จ่อลุย รถไฟฟ้า ภูเก็ต 42 กม. เชียงใหม่ 15.8 กม. โคราช 11.15 กม.

คมนาคมแจงแผนรถไฟฟ้าตจว.

เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม แหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงความคืบหน้าของแผนพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะ (แทรมป์) ในภูมิภาค 4 จังหวัด ได้แก่ ภูเก็ต เชียงใหม่ นครราชสีมา และพิษณุโลกว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ประกอบด้วย 1.ระบบขนส่งสาธารณะ จ.ภูเก็ต ช่วงท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต-ห้าแยกฉลอง ระยะทาง 42 กม. วงเงินลงทุน 35,344.56 ล้านบาท รูปแบบของรถ รฟม.อยู่ระหว่างศึกษาเพื่อหาเทคโนโลยีที่เหมาะสมให้คุ้มค่ากับการลงทุน ส่วนไทม์ไลน์คาดว่าจะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมษายน 2567 คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างกรกฎาคม 2568 เปิดให้บริการธันวาคม 2570 2.ระบบขนส่งสาธารณะ จ.เชียงใหม่ สายสีแดง ช่วงโรงพยาบาลนครพิงค์-แยกแม่เหียะสมานสามัคคี ระยะทาง 15.8 กิโลเมตร (กม.) วงเงินลงทุน 25,736.95 ล้านบาท รูปแบบของรถ รฟม.อยู่ระหว่างศึกษาเพื่อหาเทคโนโลยีที่เหมาะสมให้คุ้มค่ากับการลงทุน ส่วนไทม์ไลน์คาดว่าจะเสนอ ครม. มิถุนายน 2567 คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างกันยายน 2568 เปิดให้บริการ ธันวาคม 2571

โคราชชงครม.อนุมัติปี'67

3.ระบบขนส่งสาธารณะ จ.นครราชสีมา สายสีเขียว ช่วงตลาดเซฟวัน-สถานคุ้มครองและพัฒนาอาชีพบ้านนารีสวัสดิ์ ระยะทาง 11.15 กม. วงเงินลงทุน 7,218.08 ล้านบาท รูปแบบของรถ รฟม.อยู่ระหว่างศึกษาเพื่อหาเทคโนโลยีที่เหมาะสมให้คุ้มค่ากับการลงทุน ส่วนไทม์ไลน์คาดว่าจะเสนอ ครม.มิถุนายน 2567 คาดว่าจะเริ่มก่อสร้าง กันยายน 2568 เปิดให้บริการธันวาคม 2571 4.ระบบขนส่งสาธารณะ จ.พิษณุโลก สายสีแดง ช่วงมหาวิทยาลัยพิษณุโลก-ห้างสรรพสินค้าพิษณุโลก ระยะทาง 12.6 กม. วงเงินลงทุน 1,671.76 ล้านบาท รูปแบบของรถ รฟม.อยู่ระหว่างศึกษาเพื่อหาเทคโนโลยีที่เหมาะสมให้คุ้มค่ากับการลงทุน ส่วนไทม์ไลน์คาดว่าจะเสนอ ครม. มีนาคม 2569 คาดว่าจะเริ่มก่อสร้าง พฤศจิกายน 2570 เปิดให้บริการ เดือนกุมภาพันธ์ 2574

เชียงใหม่ออกแบบวิ่งบนดิน

นายสมชาย ทองคำคูณ รองประธานหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า จังหวัดเชียงใหม่มี 4 โครงการอยู่ระหว่างดำเนินการคือ ระบบขนส่งมวลชนในรูปแบบรถไฟรางเบา ขั้นตอนดำเนินการอยู่ในช่วงการออกแบบอีกครั้ง เพราะจากเดิมที่ออกแบบไว้คือ ระบบรถไฟบนดินและใต้ดิน ไม่คุ้มค่าการลงทุน แต่ปัจจุบันมีการออกแบบใหม่ให้วิ่งบนผิวดินทั้งหมดเลย เป็นช่วงแรกคือ สายสีแดง เริ่มต้นจากโรงพยาบาลนครพิงค์ไปบรรจบที่สี่แยก แม่เหียะ เลยขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ ยังไม่ทราบจะเริ่มก่อสร้างเมื่อใด แต่ทำประชาพิจารณ์การออกแบบไปแล้ว และเสนอกระทรวงคมนาคมไปแล้ว และโครงการรถไฟรางคู่ จากกรุงเทพมหานคร-เชียงใหม่ และเด่นชัยเชียงของ เชียงราย เริ่มดำเนินการไปแล้วมีรูปธรรมคืออุโมงค์ทะลุแล้ว น่าจะเสร็จก่อนเส้นทางรถไฟรางคู่เด่นชัย-เชียงใหม่ แต่จากสถานการณ์ทางการเมืองช่วงนี้ น่าหนักใจที่สุดคือโครงการสนามบินนานาชาติแห่งที่ 2 เพราะจากที่มีความเร่งด่วนอันดับที่ 2 แต่ตอนนี้ความสำคัญหลุดไปอยู่ที่ 7 แล้ว คงต้องรอเวลาไปอีกนานจะส่งผลเสียต่อเศรษฐกิจภาพรวม เพราะส่งผลต่อความต้องการและรายได้ที่จะตามมา

มอเตอร์เวย์โคราชเปิดปี'68

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับ จ.นครราชสีมามีโครงการพัฒนาโครงข่ายทางหลวงจังหวัดอยู่หลายโครงการ และอยู่ในความดูแลของสำนักงานทางหลวงที่ 10 (นครราชสีมา) กรมทางหลวง ได้แก่ 1.โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง หมายเลข 6 หรือมอเตอร์เวย์ M6 สายบางปะอิน-นครราชสีมา ขนาด 4-6 ช่องจราจร 9 ด่าน รวมระยะทาง 196 กิโลเมตร วงเงินลงทุน 76,600 ล้านบาท ขณะนี้มีความก้าวหน้าไปกว่า 95.34% แล้ว การก่อสร้างงานโยธา 40 สัญญา อยู่ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา 20 สัญญา ดำเนินการแล้วเสร็จ 15 สัญญา เหลืออีก 5 สัญญา กำลังเร่งดำเนินการอยู่ และมีกำหนดเปิดให้บริการเต็มรูปแบบในปี 2568 2.โครงการทางแยกต่างระดับเชื่อมทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สายบางปะอินนครราชสีมา กับทางหลวงชนบท หมายเลข นม.1120 (ถนนสุรนารี 2) จำนวน 1 แห่ง ด้วยวงเงินลงทุน 384 ล้านบาท เพื่อแก้ไขปัญหาปัญหาจราจร รองรับการพัฒนาทางหลวงพิเศษ M6 และเพื่อความสะดวกในการเข้าถึงชุมชน สอดคล้องกับยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และช่วยลดต้นทุนทางด้านการคมนาคมขนส่ง เสริมสร้างศักยภาพการแข่งขันของประเทศอย่างยั่งยืน ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างดำเนินการ และมีความก้าวหน้าไปแล้ว 37.40 % จะเปิดให้บริการได้ในปี 2567

วงแหวนนครราชสีมา7โครงการ

2.โครงการก่อสร้างอุโมงค์ทางลอด 2 จุด ได้แก่ อุโมงค์ทางลอดจุดตัดทางหลวงหมายเลข 2 ตัดทางหลวงหมายเลข 224 (แยกนครราชสีมา) ระยะทาง 1.75 กิโลเมตร ด้วยงบประมาณ 850 ล้านบาท ขนาดช่องจราจรไป-กลับ รวม 6 ช่องจราจร เริ่มต้น กม.149+450 ถึง กม.151+200 ปัจจุบันยังอยู่ระหว่างดำเนินการ ได้ผู้รับจ้างแล้ว รอลงนามในสัญญา ระยะเวลาก่อสร้าง 1,080 วัน จะเปิดให้บริการในปี 2569 ส่วนอุโมงค์ทางลอดจุดตัดทางหลวงหมายเลข 2 ตัดถนนช้างเผือก ตัดถนนสิริราชธานี (แยกประโดก) ระยะทาง 1.18 กิโลเมตร ด้วยงบก่อสร้าง 480 ล้านบาท ขนาด 2 ช่องจราจรในทิศทางมุ่งหน้าไป จ.สระบุรี เริ่มต้น กม.ที่ 0+000 ถึง กม.0+100 ระยะเวลาก่อสร้าง 960 วัน ขณะนี้ได้ตัวผู้รับจ้างแล้ว รอลงนามในสัญญา มีกำหนดการเปิดในปี 2569 เช่นกัน 3.โครงการก่อสร้างถนนวงแหวนรอบเมืองนครราชสีมา สาย 290 รวม 7 โครงการ เป็นค่าก่อสร้าง 12,759 ล้านบาท รวมระยะทาง 113 กิโลเมตร ปัจจุบันดำเนินการแล้วเสร็จ 4 โครงการ เป็นระยะทาง 75.51 กิโลเมตร ยังเหลืออีก 3 โครงการ เป็นระยะทาง 37.76 กิโลเมตร ส่วนโครงการวงแหวนเชื่อมรอบเมืองแยกสวนสัตว์จุดตัดแยก ทล.290 กับทางหลวงหมายเลข 304 มีทั้งหมด 6 โครงการ เริ่มก่อสร้างปี 2564 ขณะนี้มีความก้าวหน้าไปกว่า 53.52 % แล้ว จะเปิดให้บริการได้ในปี 2567

ปรับแบบรถไฟทางคู่จิระอุบลฯ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความคืบหน้าโครงการระบบรางระหว่างเมืองในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมาที่กรมการขนส่งทางราง กระทรวงคมนาคม กำกับดูแลอยู่ มีโครงการรถไฟทางคู่ ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ ระยะทาง 132 กิโลเมตร 19 สถานี วงเงิน 27.453.80 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้าง คาดว่า สัญญาที่ 1 มาบกะเบา-คลองขนานจิตร และสัญญาที่ 3 งานอุโมงค์ จะแล้วเสร็จในปี 2566 ส่วนสัญญาที่ 2 คลองขนานจิตร นครราชสีมา อยู่ระหว่างเปรียบเทียบแนวเส้นทางของโครงการรถไฟทางคู่กับแนวเส้นทาง MR Map เพื่อเสนอขออนุมัติต่อกระทรวงคมนาคม ก่อนเสนอ ครม.ตามลำดับต่อไป ส่วนช่วงชุมทางถนนจิระ อุบลราชธานี จะผ่าน 16 อำเภอของ 5 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดนครราชีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และจังหวัดอุบลราชธานี รวมระยะทาง 308 กิโลเมตร 41 สถานี วงเงินงบประมาณ 37,527.10 ล้านบาท ขณะนี้ออกแบบรายละเอียดเสร็จแล้ว คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ (กก.วล.) เห็นชอบรายงานอีไอเอแล้วตั้งแต่วันที่ 20 กรกฎาคม 2563 ปัจจุบันอยู่ระหว่างจัดทำข้อมูลเสนอขออนุมัติโครงการต่อ ครม.ภายในปี 2566 เนื่องจากที่ผ่านมามีชาวบ้านร้องคัดค้านเพื่อให้ปรับรูปแบบคันทางรถไฟในพื้นที่ให้เป็นโครงสร้างยกระดับ เพื่อลดปัญหาเรื่องการระบายน้ำและปัญหาจราจร บริษัทที่ปรึกษาปรับปรุงรูปแบบก่อสร้างโดยคำนึงถึงความต้องการดังกล่าวและให้สอดรับกับโครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงที่กำลังดำเนินการอยู่ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) อยู่ระหว่างเสนอรูปแบบทางเลือกโครงสร้างทางรถไฟและแนวเส้นทาง เพื่อเสนอให้กระทรวงคมนาคมได้พิจารณา

ไฮสปีดกทม.-โคราช7สัญญา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับโครงการรถไฟความเร็วสูง กรุงเทพฯ-นครราชสีมา ระยะทาง 251 กิโลเมตร มีโครงการก่อสร้าง 7 สัญญาที่อยู่ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ดำเนินการแล้วเสร็จ 100% มี 1 สัญญา คือสัญญาที่ 1 ช่วงกลางดง-ปางอโศก ระยะทาง 3.5 กิโลเมตร ส่วนสัญญาที่ 2 สีคิ้ว-กุดจิก ระยะทาง 11 กิโลเมตร ดำเนินการไปแล้ว 98.37% สัญญาที่ 3-1 แก่งคอย-กลางดง และช่วงปางอโศกบันไดม้า ระยะทาง 30.21 กิโลเมตร บริษัทผู้รับจ้างได้ยื่นเสนอราคาแล้ว อยู่ระหว่าง รฟท.รายงานไปยังกระทรวงให้ทราบ อยู่ระหว่างเตรียมลงนามในสัญญา สัญญาที่ 3-2 อุโมงค์มวกเหล็กและลำตะคอง ระยะทาง 12.23 กิโลเมตร อยู่ระหว่างก่อสร้าง ดำเนินการไปแล้ว 27.81% สัญญา ที่ 3-3 บันไดม้า-ลำตะคอง ระยะทาง 21.60 กิโลเมตร ดำเนินการแล้ว 27.20% สัญญาที่ 3-4 ลำตะคองสีคิ้ว และกุดจิก-โคกกรวด ระยะทาง 37.45 กิโลเมตร ดำเนินการไปแล้ว 58.89% และสัญญาที่ 3-5 โคกกรวด-นครราชสีมา ระยะทาง 12.38 กิโลเมตร ดำเนินการไปแล้ว 4.37%

ที่มา: นสพ.มติชน ฉบับวันที่ 18 ก.ค. 2566 (กรอบบ่าย)

[Wisarut]

กรุงเทพโพลล์เผย ประชาชนฝากการบ้านรถไฟฟ้า แก้ค่าโดยสารแพง
ในประเทศ
วันที่ 16 กรกฎาคม 2566 เวลา 13:51 น.


กรุงเทพโพลล์ เผยผลสำรวจประชาชนเกี่ยวกับรถไฟฟ้า ระบุค่าโดยสารแพงคือปัญหาใหญ่การใช้บริการรถไฟฟ้า ฝากการบ้านผู้ให้บริการแก้ปัญหาให้ถูกลง

วันที่ 16 กรกฎาคม 2566 กรุงเทพโพลล์ โดยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ สำรวจความเห็นของประชาชนเรื่อง “รถไฟฟ้าสายสีต่าง ๆ กับหัวอกคนใช้บริการ” โดยเก็บข้อมูลจากประชาชนที่ใช้บริการรถไฟฟ้าสายสีต่าง ๆ ในกรุงเทพฯและปริมณฑลจำนวน 1,200 คน เมื่อวันที่ 5-10 กรกฎาคม 2566 ที่ผ่านมา



ผลสำรวจระบุว่า ปัจจุบันประชาชนร้อยละ 38.2 ระบุว่าเดินทางโดยใช้บริการรถไฟฟ้า (BTS, MRT, Airport Link) เป็นบางวัน รองลงมาร้อยละ 36.2 ระบุว่าใช้เป็นประจำทุกวัน และร้อยละ 25.6 ระบุว่านาน ๆ ใช้ที โดยส่วนใหญ่ร้อยละ 66.2 ระบุว่า ขึ้นขบวนเดียว/ต่อเดียวถึง ขณะที่ร้อยละ 33.8 ระบุว่าต้องเปลี่ยนขบวนเชื่อมต่อไปรถไฟฟ้าสายสีอื่น

ทั้งนี้ ประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 46.2 ระบุว่ามีค่าใช้จ่ายในการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าเฉลี่ยวันละ 51-100 บาท รองลงมาร้อยละ 35.4 ระบุว่าน้อยกว่า 50 บาท และร้อยละ 14.2 ระบุว่า 101-150 บาท

สำหรับเรื่องที่ทำให้ประชาชนส่วนใหญ่รู้สึกว่าเป็นปัญหา หรือลำบากในการใช้บริการรถไฟฟ้า พบว่า

ร้อยละ 61.0 ค่าตั๋วโดยสารแพง
ร้อยละ 39.4 จุดเชื่อมต่อของ MRT, BTS เดินไกล
ร้อยละ 25.7 ยุ่งยากต้องพกบัตรโดยสารทีละหลายใบ ทั้ง MRT, Rabbit, EMV
ส่วนเรื่องที่อยากฝากถึงผู้ที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการรถไฟฟ้า พบว่า

ร้อยละ 61.0 ระบุว่าปรับค่าโดยสารให้ถูกลงกว่านี้
ร้อยละ 48.5 ระบุว่าอยากให้มีบัตรเดียวใช้บริการได้กับรถไฟฟ้าทุกสายเหมือนต่างประเทศ
ร้อยละ 47.6 ระบุว่าอยากให้เร่งสร้างรถไฟฟ้าสายสีต่าง ๆ ให้เสร็จตามแผนอย่างรวดเร็ว
ด้านความพึงพอใจการให้บริการรถไฟฟ้าในภาพรวมนั้น พบว่าประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 88.3 ระบุว่าพึงพอใจมากถึงมากที่สุด ขณะที่ร้อยละ 11.7 ระบุว่าพึงพอใจน้อยถึงน้อยที่สุด

ทั้งนี้ หากสามารถสร้างรถไฟฟ้าครอบคลุมทุกเส้นทางตามที่วางแผนไว้ ประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 78.5 เห็นว่าจะทำให้คนกรุงเทพฯและปริมณฑลลดใช้รถส่วนตัวและหันมาใช้รถไฟฟ้าได้ ขณะที่ร้อยละ 10.1 เห็นว่าไม่ได้ ที่เหลือร้อยละ 11.4 ยังไม่แน่ใจ

[Mongwin]

ยกเว้นค่าแรกเข้ารถไฟฟ้า
Source - เดลินิวส์
Tuesday, July 18, 2023 06:51

ไวๆจ้าบอร์ดรฟม.-รฟท.

รับเปิดสีชมพูเชื่อมแดง

นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการบริษัท อีสเทิร์น บางกอกโมโนเรล จำกัด (EBM) ผู้รับสัมปทานโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลืองเปิดเผยว่า ปริมาณผู้โดยสารรถไฟฟ้าสายสีเหลืองช่วงลาดพร้าวสำโรง ระยะทาง 30.4 กม. 23 สถานี ยังทรงตัวอยู่ที่ประมาณ 4 หมื่นคนต่อวัน นับตั้งแต่เปิดบริการเชิงพาณิชย์แบบเก็บค่าโดยสารอัตรา 15-45 บาท เมื่อวันที่ 3 ก.ค.ที่ผ่านมา สถานีลาดพร้าวมี ผู้โดยสารมากที่สุด รองลงมาสถานีสำโรงและสถานีสวนหลวง ร.9 ทั้งนี้การให้บริการเป็นไปด้วยความราบรื่น ยังไม่พบปัญหาใด

ผู้โดยสารส่วนใหญ่ใช้บริการใน ชม.เร่งด่วน (Peak) เวลา 07.00-09.00 น. และ 17.00-20.00 น. จำนวนมาก บริษัทฯ ได้จัดเตรียมขบวนรถไว้บริการประมาณ 21 ขบวน ความถี่ช่วง Peak อยู่ที่ 5 นาทีต่อขบวน และนอกช่วงเวลาเร่งด่วน (Off Peak) อยู่ที่ 10 นาทีต่อขบวน ขณะนี้ยังรองรับผู้โดยสารได้อย่างเพียงพอ ปริมาณผู้โดยสารที่น้อยลงเมื่อเทียบกับช่วงเปิดบริการฟรีเป็นเรื่องปกติ และเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้อยู่แล้วไม่ได้กังวลใด ๆ คาดว่าระยะต่อไปผู้โดยสารจะเพิ่มขึ้นเหมือนการเปิดบริการรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย

นายสุรพงษ์ กล่าวอีกว่า รถไฟฟ้าสายสีเหลืองเดินทางได้ด้วยบัตร 3 ประเภท คือ บัตรโดยสารเที่ยวเดียว, บัตรแรบบิท และบัตร EMV Contactless โดยใช้บัตรเครดิตวีซ่า (VISA) หรือมาสเตอร์การ์ด (Mastercard) ของธนาคารใดก็ได้ รวมถึงบัตรเดบิตของธนาคารกรุงไทย และยูโอบี ในส่วนของบัตร EMV นั้นจากการติดตามข้อมูลพบว่า มีผู้โดยสารใช้บัตร EMV หลายพันคนต่อวัน ส่วนใหญ่เดินทางเชื่อมต่อสายสีเหลืองและสีน้ำเงินที่สถานีลาดพร้าวจะได้รับการยกเว้นเก็บค่าแรกเข้าเพียงครั้งเดียว หากเดินทางเชื่อมต่อภายใน 30 นาที

สำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี ระยะทาง 34.5 กม. 30 สถานี การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) และบริษัท นอร์ทเทิร์น บางกอกโมโนเรล จำกัด (NBM) ผู้รับสัมปทานโครงการฯ ได้เร่งรัดงานก่อสร้าง เพื่อให้เปิดบริการได้เร็วกว่าแผนจากเดิมประมาณปี 67 เป็นประมาณเดือน พ.ย. 66 แต่ต้องขึ้นอยู่กับความพร้อมและการตรวจความพร้อมของงานระบบ และการเปิดเดินรถ เพื่อรับรองความปลอดภัยของวิศวกรที่ปรึกษาอิสระ (ICE) ด้วย

นายสุรพงษ์ กล่าวต่อว่า รถไฟฟ้าสีชมพูเชื่อมรถไฟฟ้าสายอื่นได้ 4 สถานี ได้แก่ สถานีศูนย์ราชการนนทบุรีเชื่อมรถไฟฟ้า สีม่วง, สถานีหลักสี่รถไฟฟ้าสีแดง, สถานีวัดพระศรีมหาธาตุรถไฟฟ้าสีเขียว และสถานีมีนบุรีรถไฟฟ้าสีส้ม เมื่อเปิดบริการแบบเก็บค่าโดยสารประมาณเดือน ธ.ค. 66 ผู้โดยสารที่ใช้บัตร EMV เดินทางเชื่อมต่อระหว่างสายสีชมพูกับสีม่วงเหนือ (เตาปูนบางใหญ่ 23 กม. 16 สถานี) รวมทั้งสีส้มจะจ่ายค่าแรกเข้าเพียงครั้งเดียวเหมือนเชื่อมต่อสายสีเหลืองและสายสีน้ำเงินที่สถานีลาดพร้าว ส่วนการเชื่อมต่อสายสีเขียวและสีแดงยังไม่มีข้อตกลงเรื่องเก็บค่าแรกเข้าครั้งเดียวต้องเจรจากัน

ด้านนายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง(ขร.) กล่าวว่า ขร. จะทำบันทึกไปยังกระทรวงคมนาคม เพื่อ มอบหมาย รฟม. และการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) นำเรื่องการเก็บค่าแรกเข้าครั้งเดียวเดินทางเชื่อมต่อระหว่างรถไฟฟ้าสายสีชมพู และสายสีแดงที่สถานีหลักสี่ เสนอที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟม. และบอร์ด รฟท. เพื่อพิจารณาต่อไป.

ที่มา: นสพ.เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 19 ก.ค. 2566 (กรอบบ่าย)

[Wisarut]

กันยายนนี้พบกัน! จุดเชื่อมต่อสถานีรถไฟฟ้าแห่งใหม่ ณ สถานีหลักสี่ ระหว่างรถไฟฟ้าชานเมือง SRT สายสีแดงเข้ม (RN06) และ รถไฟฟ้าโมโนเรล MRT สายสีชมพู (PK14) ซึ่งทางเชื่อมระหว่างสถานีเป็นสกายวอร์กเดินข้ามถนนวิภาวดีรังสิต และนอกจากนี้ยังมีสกายวอร์กยาวไป รพ.จุฬาภรณ์ อีกด้วย
https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=240708608838164&id=100086970807579

[Wisarut]

[Mongwin]

ไฟล์ PDF เส้นทางรถไฟฟ้า M-MAP2

https://drive.google.com/file/d/1Z4_wB4fjoqOgTRgmKdmfCiNTz_al36TM/view