จากตะวันออก - ขึ้นเหนือ : 2,700 กม. กับ 12 จุดหมาย

[Paniti23]

[ExtendeD]

[ExtendeD]

จุดเริ่มต้นของการลงพื้นที่ที่สถานีหัวดงอยู่ที่บริเวณเสาโทรเลขที่ 331/10 ที่นี่เป็นที่ตั้งของเสาสัญญาณเข้าของสถานีหัวดงครับ มีป้ายอนุญาตให้ใช้ความเร็วผ่านประแจ * ติดอยู่ด้วย ขบวนรถที่ต้องวิ่งเข้ารางหลีกใช้ความเร็วได้ไม่เกิน 15 กิโลเมตร / ชั่วโมง ส่วนขบวนรถที่วิ่งผ่านประแจในท่าตรงใช้ความเร็วได้ไม่เกิน 105 กิโลเมตร / ชั่วโมงครับ มองไปที่สัญญาณไฟที่ปรากฏอยู่แทนที่จะเป็นไฟสีแดงอย่างที่คิดเอาไว้ กลับกลายเป็นไฟสีเหลืองครับ นั่นหมายความว่า...



* รายละเอียดเกี่ยวกับ " ป้ายอนุญาตให้ใช้ความเร็วผ่านประแจ " รวมถึงป้ายสัญญาณต่าง ๆ ที่ใช้ในกิจการรถไฟไทย สามารถอ่านได้จาก file " signalsign.pdf " ที่ download จาก rotfaithai.com


ตอนนั้นใจหายแว๊บเลยครับ เพราะผมปล่อยเจ้าตี๋กับน้องพีเอาไว้ที่สะพาน ไม่รู้ว่าพอขบวนรถผ่านมา เจ้าตี๋จะไหวตัวทันรีบพาน้องหลบลงข้างทางทันหรือเปล่าก็ไม่รู้ ไม่นานหลังจากนั้นรถจักรดีเซลไฟฟ้า General Electric ( GEA. ) ไม่ทราบหมายเลข ก็วิ่งผ่านไปครับ จากจุดที่ผมยืนอยู่ก็ห่างจากทางรถไฟพอสมควร แต่จริง ๆ แล้วน่าจะยืนห่างกว่านี้ ตอนที่รถจักรวิ่งผ่านไปนี่ลมปะทะจนเซเลยครับ




พอรถจักรวิ่งผ่านเสาสัญญาณไฟเข้าไปไม่ไกล สัญญาณไฟก็กลายเป็นไฟแดง... สรุปแล้ว GEA. คันเมื่อสักครู่ ทำขบวนรถน้ำมันดิบ ( บทค. ) ครับ



หลังจากนั้นผมก็รีบเดินกลับไปหาเจ้าตี๋กับน้องพีที่สะพานครับ ยังโชคดีที่ทั้งคู่ยังปลอดภัย พาเจ้าตี๋ออกไปสำรวจสะพานบ่อย ๆ อย่างน้อยก็ไม่เสียเปล่าล่ะครับ สบายใจแล้วผมก็เดินย้อนกลับไปที่เสาสัญญาณเข้าอีกครั้ง...


ขบวนรถสินค้าวิ่งผ่านไปแล้ว ลองมองไปทางทิศใต้ ( สถานีห้วยเกตุ ) ครับ จะเห็นว่าทางรถไฟเป็นแนวตรงไปจนสุดตา พื้นที่ด้านข้างทางรถไฟทางขวานั้นก็ยังคงเป็นพื้นที่ที่ถูกน้ำท่วมเหมือน ๆ กับพื้นที่ที่เคยเห็นมาเมื่อตอนที่ยังอยู่บนขบวนที่ 202 ครับ




หันไปดูกันชัด ๆ ครับ น้ำท่วมสูงจริง ๆ


_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

[ExtendeD]

ก่อนจะไปถึงสะพานที่อยู่ข้างหน้า จะเห็นว่ามีหลักเขตสับเปลี่ยนปักอยู่ข้างทางประธานครับ ( ทุกทีเคยเห็นปักอยู่ทางขวานี่นา... )




ที่บริเวณเสาโทรเลขที่ 331/13 เป็นที่ตั้งของสะพานโครงเหล็ก ( และแผงเหล็ก ) แห่งนี้ครับ เท่าที่มองเห็นจากจุดนี้ก็คือ สะพานนี้มี 3 ช่วง Span เป็นสะพานโครงเหล็ก 1 ช่วง และเป็นสะพานเหล็กแบบแผงขึ้น 2 ช่วง Span ขนาบข้างสะพานโครงเหล็กตรงกลางครับ




ผมไปไล่ดูในแผนที่ของ Pointasia แล้ว ก็เห็นว่าจุดเริ่มต้นของคลองนี้อยู่ในเขตตำบลป่ามะคาบ อำเภอเมือง จังหวัดพิจิตร แล้วก็ไหลลงมาทางใต้เรื่อย ๆ โดยมีลำน้าสายเล็ก ๆ หลายสายไหลมารวมกัน ก่อนจะมาลอดใต้สะพานแห่งนี้ ก็จะต้องผ่านประตูน้ำเล็ก ๆ ก่อนครับ หลังจากนั้นก็จะไหลลงสู่แม่น้ำน่านในบริเวณที่เห็นอยู่ด้านล่างสุดของรูปนี้



ผมไม่รู้ว่าคลองนี้มีชื่อเรียกว่าอะไร ไม่ใช่ว่าผมไม่พยายามหาข้อมูลนะครับ หลังจากเสร็จสิ้นการสำรวจผมไปถามแม่ค้าที่เปิดร้านขายของอยู่ใกล้ ๆ กับสถานีหัวดง แต่เธอก็บอกว่าไม่รู้เหมือนกัน เพราะเพิ่งย้ายมาอยู่ไม่นาน แถมประตูบ้านอื่นที่อยู่แถว ๆ นั้นก็ไม่ได้เปิดเอาไว้ คล้าย ๆ กับว่าไม่มีคนอยู่เลย... เจ้าถิ่นทั้งหลายพอจะทราบหรือเปล่าครับ


ด้านข้างของสะพานแห่งนี้มีการสร้างทางเดินเอาไว้ด้วยครับ แต่สภาพในปัจจุบันก็เป็นอย่างที่เห็นในรูป...




มาดูด้านข้างของสะพานแห่งนี้กันบ้างครับ ผมไปยืนอยู่แถว ๆ คอสะพานแล้วเอี้ยวสุดตัวก็ได้มาแค่นี้ล่ะครับ แต่เพียงแค่นี้ก็ได้เห็นเสาตอม่อทั้ง 2 ต้นที่อยู่ใต้สะพานแล้วครับ


_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

[ExtendeD]

มาเริ่มดูสะพานเหล็กแบบแผงขึ้นที่เป็นช่วง Span แรกกันเลย ที่เห็นอยู่นี้เป็นแผงเหล็กของสะพานที่ตั้งอยู่บนคอสะพานครับ ใช้น๊อตยึดเอาไว้...




คานเหล็กที่รับน้ำหนักใต้ทางรถไฟ




ดู ๆ แล้วช่วง Span แรกก็เหมือน ๆ กับสะพานเหล็กแบบแผงขึ้นโดยทั่วไปครับ เดี๋ยวรอไปดูช่วง Span ที่ 3 เพิ่มเติมนะครับ มีอะไรที่น่าสนใจกว่าช่วง Span แรกให้ดูด้วยล่ะครับ ข้ามไปดูช่วง Span ที่ 2 ที่เป็นสะพานโครงเหล็กขนาดใหญ่กันเลยดีกว่า



อย่างที่ได้เห็นกันไปว่าทางเดินที่อยู่ข้าง ๆ สะพานนั้นมีแต่โครงไม่มีพื้น ผมก็เลยไม่สามารถส่งหน่วยสำรวจย่อยไปได้ แต่ก็ไม่ปล่อยให้อยู่เฉย ๆ หรอกครับ ผมเอาโทรศัพท์มือถือให้เจ้าตี๋ไว้ถ่ายรูปเพิ่มไปตามเรื่องตามราว เผื่อมีซอกมุมไหนที่ผมข้ามไป แต่เจ้าตี๋มองเห็น จะได้ไปเก็บมาเพิ่มเติม ส่วนน้องพีก็คงจะนั่งเล่นอยู่แถว ๆ คอสะพานฝั่งโน้นครับ


ที่โครงสะพานทางซ้ายมี nameplate ติดอยู่ครับ

[ExtendeD]

เริ่มสำรวจสะพานช่วง Span ที่ 2 ด้วยโครงสร้างของสะพานที่อยู่บนตอม่อครับ ขนาดต่างกันอย่างเห็นได้ชัด




จุดเชื่อมต่อด้านในสะพานครับ




คานเหล็กรับน้ำหนักใต้ทางรถไฟ จากที่เห็นอยู่นี้ก็จะไปเชื่อมกับคานเหล็กรูปตัว I ที่อยู่ข้างล่างทางประธานครับ




ตอนนี้ผมมายืนอยู่กลางสะพานแล้ว มองออกไปข้างนอกดูสักหน่อยดีหรือเปล่าครับ ดีไม่ดีก็จะยัดเยียดให้ดูล่ะ มองไปทางขวา จะเห็นประตูน้ำที่ผมเคยพูดถึง อยู่ไกล ๆ ( ไม่ใช่ประตูน้ำแถว ๆ ถนนเพชรบุรีนะครับ ) หลังประตูน้ำนั้นไป แนวของลำคลองก็จะตรงขึ้นเหนือไปเรื่อย ๆ ครับ




มองไปทางซ้ายกันบ้าง เมื่อไหลลอดใต้สะพานแห่งนี้ไปแล้ว แนวของคลองนี้ก็จะไหลไปตามทางที่เห็นนี้ ลงไปทางใต้เรื่อย ๆ แล้วก็จะไหลลงสู่แม่น้ำน่านครับ


_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

[ExtendeD]

ทีนี้ก็เหลืออยู่แค่ช่วง Span สุดท้ายที่ผมว่าน่าจะเป็นพระเอกของสะพานแห่งนี้เลยล่ะครับ เป็นเพราะอะไร อ่านข้อความด้านล่างได้เลยครับ




ที่แผงเหล็กทางด้านซ้ายของช่วง Span ที่ 3 นี้ มีตัวอักษรที่ใช้สีสเปรย์สีขาวพ่นอยู่ อ่านได้ว่า

[ExtendeD]

ภารกิจที่สะพานทางด้านทิศใต้เสร็จสิ้น ผมกับเจ้าลิง 2 ตัวก็ต้องเดินย้อนกลับไปทางเดิมล่ะครับ อีก 648 เมตร กว่าที่เราจะได้นั่งพักกัน...




ระหว่างทางก็มองซ้ายมองขวา ดูโน่นดูนี่ ไปเรื่อย ๆ ครับ แล้วก็ไปเห็นชุดตัวเลข ตัวอักษรแปลก ๆ ที่ทางประธานเข้าให้ " 900AT 20262 E2G " ชุดตัวอักษรแบบนี้ไม่เคยเห็น...




เดินต่อไปเรื่อย ๆ ก่อนจะกลับไปถึงสถานีหัวดง เห็นว่ามี " ป้ายหวีดรถจักรสำหรับถนนผ่านเสมอระดับทางรถไฟ มีเครื่องกั้นถนนสัมพันธ์กับสัญญาณประจำที่ ไม่มีสัญญาณผ่านถนนเสมอระดับทาง * " ( ชื่อเรียกยาวจริง ๆ ) ติดตั้งอยู่ข้างทางประธานด้วยครับ



* รายละเอียดเกี่ยวกับ " ป้ายหวีดรถจักรสำหรับถนนผ่านเสมอระดับทางรถไฟ มีเครื่องกั้นถนนสัมพันธ์กับสัญญาณประจำที่ ไม่มีสัญญาณผ่านถนนเสมอระดับทาง " รวมถึงป้ายสัญญาณต่าง ๆ ที่ใช้ในกิจการรถไฟไทย สามารถอ่านได้จาก file " signalsign.pdf " ที่ download จาก rotfaithai.com
_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

[umic2000]

อิๆ แทงเลขเด็ดออกรางวัลที่ 1 โดยมิพักต้องแทงโต๊ด แทงเลขพวงให้เสียเวลา

ว่าแต่งานนี้พี่เต้ยจะไปสำรวจสะพานตรงส่วนไหนของจ.นครสวรรค์ต่อนา งานนี้ต้องเกาะขอบล้อรถไฟตามไปดู

[pak_nampho]