ของฝากจาก GERMANY ตอนที่ 2

[tuie]

^
สงสัยว่าถ้าบ้านเรามีโบกี้บรรทุกรถยนต์พ่วงไปกับขบวน ๑/๒ คงจะเรียกว่า "ขบวนรถด่วนพิเศษรวม" กระมังครับน้องอ๋องแอมแทร็ก

พี่ละอยากให้ขบวนรถด่วนพิเศษที่ ๑/๒ ,๓๕/๓๖ มีโบกี้บรรทุกรถยนต์พ่วงไปด้วยแบบนี้จริงๆ จะได้บรรทุกรถยนต์คันโปรดของเราไปด้วย พอถึงปลายทางจะได้ไม่ต้องหารถยนต์เช่าขับไปเที่ยวต่อ

--------------------------------------------------------------------------------------------

ชมซุ้มหลังคาสถานี Bellevue ด้านทิศตะวันออกกันนะครับ ภาพเดียวเก็บไม่หมดต้องแบ่งเป็นสามภาพ เริ่มจากภาพแรกทางซ้ายของผมเห็นปูนปั้นปลายเสา และแนวหลังคาเริ่มโค้งขึ้นคล้ายลำโพงแล้วครับ



ต่อด้วยภาพช่วงกลางครับ เสียดายที่มีการต่อเติมหลังคาช่วงปลายชานชาลาทำให้บดบัง “ลำโพง” ขนาดย่อมๆของสถานีนี้ไปมากพอสมควร ยังดีที่เว้นช่องกระจกใสเอาไว้บ้าง



ซุ้มหลังคาลาดลงมาที่เสาอีกด้านหนึ่งซึ่งมีลายปูนปั้นปลายเสาแบบเดียวกันครับ

[pattharachai]

[tuie]

ขบวนรถด่วนระหว่างประเทศ EC 173 ที่ผมจะนั่งไปเดรสเดนมีกำหนดออกจากสถานีเบอลิน (ระดับลึก) หรือ Berlin Hbf. (tief) ในเวลา ๘.๔๖ น. มัวเอ้อระเหยชมรถไฟอยู่ที่ Bellevue จน ๘.๐๙ น.แล้ว “คนชรา” ไม่อยากจะวิ่งไล่ตามขึ้นเจ้า EC 173 เหมือนอย่างตอนขาไปฮัลเลอเมื่อวานนี้อีกรอบ รีบขึ้นเอสบาห์นไปสถานีเบอลินดีกว่าจะได้พอมีเวลาสบายๆ ยังไม่ใช่สาย S 7 ในภาพนี้นะครับ เนื่องจากเป็นขบวนรถขาออกนอกเมืองครับ



ต้อง S 75 ขบวนนี้ซึ่งเพิ่งเข้ามาจอดเทียบชานชาลาที่ ๓ สิครับถึงจะเข้าเมืองไปยังสถานีเบอลินได้ จัดการสร้างภาพพรนรกเพิ่มอีกสักหนึ่งภาพแล้วรีบเดินไปกดปุ่มเปิดประตูขึ้นรถคันที่หนึ่งละครับ

[HID_4513]

ยังสวยเหมือนเดิมเลยนะครับเนี่ย เพิ่งสังเกตว่าสถานีนี้มี"ลำโพง"ขนาดเล็กอยู่ ตอนที่ดูตอนแรกไม่ได้สังเกตอะไรมาก
จัดมาเรื่อยๆเลยครับ อ.ตุ้ย

[tuie]

^
รับรองว่ามีมาให้ชมอีกเพียบเลยละครับน้องปอนด์

แต่ละวันอยากจะลงให้มากกว่านี้แต่เวลา และภารกิจไม่เอื้ออำนวยเลยครับ เอาเป็นว่ามาเรื่อยๆ ถึงจะช้าไปบ้างแต่มาไม่ขาดสาย ปลายๆปีนี้น่าจะจบได้นะครับ

-----------------------------------------------------------------------------------

ใช้เวลาแค่ประมาณ ๓ นาที ผมก็เดินทางถึง Berlin Hbf. แล้วครับ เอสบาห์นขาเข้าเมืองจอดเทียบชานชาลาที่ ๑๕ ซึ่งออกจะสั้น เมื่อเทียบกับชานชาลาที่ ๑๓-๑๔ ซึ่งปลายสุดชานชาลาอยู่นอก “ลำโพง”



หันกลับไปดูเอสบาห์นที่ผมนั่งมา กำลังจะเคลื่อนออกจาก Berlin Hbf. แล้วครับ



พอเอสบาห์นออกจากสถานีไปแล้วก็เห็นทัศนียภาพบริเวณชานชาลาที่ ๑๕ ในมุมมองย้อนกลับไปช่วงกลางสถานีอย่างชัดเจน



ขบวนรถที่จอดเทียบชานชาลาที่ ๑๔ คือ ขบวนรถเร็ว (RE) รถจักรในภาพอยู่ท้ายขบวนทำหน้าที่ “ดัน” รถขบวนนี้ครับ

[tuie]

พอมีเวลาประมาณ ๒๐ นาที กว่า EC 173 จะออกจากสถานี ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์โดยไปเดินเล่นถ่ายภาพแถวๆปลายชานชาลาที่ ๑๓-๑๔ ซึ่งอยู่ทางทิศตะวันออกนอก “ลำโพง” บ้างดีกว่าครับ



จากชานชาลาที่ ๑๕ ที่ผมลงจากเอสบาห์น จะต้องลงบันไดเลื่อนไปที่ชั้นสองแล้วเดินไปขึ้นบันไดเลื่อนไปยังชานชาลาที่ ๑๓-๑๔ อีกทอดหนึ่งครับ แต่ด้วยความรีบร้อนไม่ดูให้ดีผมลงบันไดเลื่อนผิดกลายเป็นพุ่งตรงลงสู่ชั้นหนึ่ง(ระดับพื้นดิน)ไม่ผ่านชั้นสองด้วย ไหนๆก็ลงมาแล้วก็เก็บภาพในมุมมองแถวๆใต้สะพานทางรถไฟซึ่งยกระดับเข้าชานชาลาที่ ๑๐-๑๖ สักหน่อย



ใช้เสาเหล็กขนาดกะทัดรัดทั้งนั้น ไม่มีเสาคอนกรีตอันบึกบึนแบบที่เราเห็นเสาทางรถไฟยกระดับบ้านเราจนชินตาเลยครับ



อุปกรณ์ที่อยู่ข้างๆแนวสะพานบริเวณสุดขอบ “ลำโพง” เป็นเครื่องมือสำหรับขึ้นไปทำความสะอาดกระจกลำโพงครับ

[umic2000]

^
^
^
เห็น 3 ภาพบนนี้ เชื่อแล้วครับที่เขาบอกว่าประเทศเยอรมนีสร้างชาติด้วยถ่านหินและเหล็ก สมกับที่ได้ชื่อว่าเป็นประเทศชั้นนำในด้านอุตสาหกรรมจริงๆครับ ท่านอ.ตุ้ย

[black_express]

รู้สึกว่ารถไฟเยอรมัน ก็ออกจะมอมแมมเป็นนะครับ

[HID_4513]

^^^ เสาดูผอมดีนะครับ ดูแล้วโปร่ง โล่ง สบายตาดี

Berlin Hbf. ใช้กระจกเยอะมากจริงๆ สวยดี แถมได้แสงธรรมชาติด้วย ทำหนึ่งได้สองเลย
แต่ยังไงผมก็ยังชอบใจที่เสานะครับ แปลกตามากๆ

[tuie]

^
^
ถ้าสะพานลอยเหล็กสำหรับรถยนต์ข้ามในกรุงเทพฯใช้เสาเหล็กที่เล็กแต่แข็งแรง(มิฉะนั้นคงรองรับรถไฟไม่ได้)แบบนี้ คงจะดูสวยงามมากขึ้นนะครับ

เรื่องความเนี๊ยบ สะอาด หมดจดของขบวนรถไฟต้องยกให้ญี่ปุ่นครับพี่ตึ๋ง "ฝรั่ง" ชิดซ้ายสู้ไม่ได้จริงๆ

--------------------------------------------------------------------------------

เดินออกไปขึ้นบันไดทางเข้าสู่ชั้นสองทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของอาคารสถานี Berlin Hbf. ก็ต้องสะดุดตากับประติมากรรมรูปร่างประหลาด



เดินขึ้นบันไดเข้าไปดูใกล้ๆน่าจะเป็นประติมากรรมรูปหุ่นยนต์แบกม้านะครับ