RailServe.Com

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai Gallery in Facebook

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311326
ทั่วไป:13289372
ทั้งหมด:13600698
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - ของฝากจาก Kyushu
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

ของฝากจาก Kyushu
Goto page Previous  1, 2, 3, 4, 5 ... 34, 35, 36  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ภาพประสบการณ์เดินทางกับรถไฟต่างประเทศ
View previous topic :: View next topic  
Author Message
tuie
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 09/07/2006
Posts: 12156
Location: สถานีบ้านตุ้ย

PostPosted: 28/03/2007 11:02 pm    Post subject: Reply with quote

หัวขบวนรถ HUIS TEN BOSCH ก็ยังไม่ใช่คันนำนะครับ ยังมีขบวนรถสายอื่นอยู่ตอนหน้าอีก

Click on the image for full size

Click on the image for full size

โปรดสังเกตว่า หัวขบวนกับท้ายขบวนรถ HUIS TEN BOSCH เป็นรถคนละรุ่นกันนะครับ เห็นแล้วนึกถึงเวลาเอา RHN กับ THN มาพ่วงเข้าด้วยกันจริงๆ Wink
Back to top
View user's profile Send private message
Main_Reservoir
2nd Class Pass (Air)
2nd Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 879
Location: ผังควบคุมการเดินรถแขวงห้วยขวาง

PostPosted: 29/03/2007 7:57 am    Post subject: Reply with quote

ง่า..เห็นแล้วอยากไปบ้างจัง ติดขัดที่งบประมาณ
ถ่ายภาพประกอบการบรรยายได้ดีเยี่ยมครับ bow

เท่าที่เห็นตามภาพ ญี่ปุ่นนี่ใช้ประโยชน์จากที่ดินได้ค่อนข้างสูงมาก ทุกตารางมิลลิเมตรมีความหมาย Hahaha แล้วก็การจัดระเบียบจราจรก็ดี คนขับรถยนต์ต้องมีวินัย ไม่งั้นได้ชนกับรถรางกันบ้างล่ะ

_________________
❤ Computerized Train Diagram ❤
Click on the image for full size
Back to top
View user's profile Send private message Send e-mail MSN Messenger
tuie
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 09/07/2006
Posts: 12156
Location: สถานีบ้านตุ้ย

PostPosted: 29/03/2007 1:21 pm    Post subject: Reply with quote

Main_Reservoir wrote:
ง่า..เห็นแล้วอยากไปบ้างจัง ติดขัดที่งบประมาณ
ถ่ายภาพประกอบการบรรยายได้ดีเยี่ยมครับ bow

เท่าที่เห็นตามภาพ ญี่ปุ่นนี่ใช้ประโยชน์จากที่ดินได้ค่อนข้างสูงมาก ทุกตารางมิลลิเมตรมีความหมาย Hahaha แล้วก็การจัดระเบียบจราจรก็ดี คนขับรถยนต์ต้องมีวินัย ไม่งั้นได้ชนกับรถรางกันบ้างล่ะ


ขอบคุณน้องฟางที่แวะมาชมและให้กำลังใจกันครับ Very Happy พี่จะรีบคัดภาพมาลงให้ชมต่อโดยเร็ว เผอิญภาพที่พอจะไปวัด(ไปวา)มีน้อย ภาพที่ต้องไปสุสาน(คัดทิ้ง)มีเยอะ Laughing ประกอบกับกำลังอยู่ในช่วงย้ายที่ทำงาน ทำให้ล่าช้าไปบ้าง ต้องขออภัยทุกท่านที่ติดตามชมด้วยนะครับ Smile

ถ้าไม่ได้ทุนไปก็คงยากที่จะมีโอกาสไปญี่ปุ่นหลายวันแบบนี้ครับ เพราะค่าครองชีพแพงมากขนาดราเมนตามร้านข้างถนน(ยาไต)อย่างต่ำๆยังปาเข้าไปชามละ ๔๐๐ เยน(ประมาณ ๑๒๐ บาท) Shocked แล้ว เลยต้องขอบคุณหน่วยงานที่ทำงานที่ให้ทุน และรัฐบาลที่จัดสรรงบประมาณเป็นทุนการศึกษาให้มา ณ ที่นี้ bow

แต่ก็ยังไม่เข็ดเรื่องของแพง ยังอยากไปนั่งรถไฟที่นั่นอีกสักหนึ่งสัปดาห์(แบบเต็มวันไม่มีชั่วโมงเรียน) เป็นอย่างน้อยนะครับ Embarassed
Back to top
View user's profile Send private message
tuie
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 09/07/2006
Posts: 12156
Location: สถานีบ้านตุ้ย

PostPosted: 30/03/2007 6:34 am    Post subject: Reply with quote

ไปเที่ยวอย่างเพลิดเพลินมาแล้วหนึ่งวันก็ถึงวันจันทร์ซึ่งเริ่มเรียนที่มหาวิทยาลัยคิวชูเป็นวันแรก มหาวิทยาลัยคิวชูเป็นสถาบันอุดมศึกษาเก่าแก่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งในประเทศญี่ปุ่น เปิดสอนหลายหลายสาขาวิชา เช่น แพทย์ พยาบาล วิศวะ บัญชี เศรษฐศาสตร์ อักษรศาสตร์ นิติศาสตร์ฯลฯ มีทั้งหลักสูตรที่สอนเป็นภาษาญี่ปุ่นและหลักสูตรอินเตอร์ฯสอนเป็นภาษาอังกฤษ มหาวิทยาลัยคิวชูตั้งอยู่ทางทิศเหนือของเมืองฟูกุโอกะ ห่างจากสนามบินไม่มากนักจึงได้ยินเสียงเครื่องบินขึ้นลงดังสนั่นตลอดวัน บางคณะก็แยกเป็นแคมปัสต่างหากจากบริเวณที่ทำการมหาวิทยาลัยซึ่งคณะนิติศาสตร์ตั้งอยู่ที่นี่ การเดินทางไปมหาวิทยาลัยทำได้โดยสะดวกหลายทางซึ่งทางรถไฟฟ้าใต้ดินก็เป็นทางหนึ่งที่สะดวกเนื่องจากมีสถานีอยู่ในบริเวณมหาวิทยาลัยเลยครับ ถ้าเทียบกับของไทยก็คล้ายๆกับสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินสามย่านที่ใกล้ๆกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยน่ะครับ Wink

ขอนำชมบรรยากาศมหาวิทยาลัยคิวชูสักเล็กน้อยนะครับ

Click on the image for full size

ประตูทางเข้าด้านหนึ่งซึ่งใกล้กับสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินฮาโกซากิคิวไดเมะ

Click on the image for full size

Click on the image for full size

บริเวณอาคารคณะนิติศาสตร์ซึ่งกระจายอยู่หลายอาคาร มีข้อสังเกตว่านักศึกษาที่นี่นิยมขี่จักรยานกันมาก ไปตรงไหนก็เห็นแต่จักรยานจอดเต็มไปหมด แม้แต่ที่ตั้งป้ายชื่อคณะนิติศาสตร์แทนที่จะทำเป็นสวนหย่อมปลูกไม้ดอกไม้ประดับกลับปล่อยให้อยู่ท่ามกลางที่จอดรถจักรยานเสียนี่

Click on the image for full size

คำเตือน นักศึกษาช่างจ้อ(คุยเก่ง)ในชั้นเรียนต้องระวังตัวกันหน่อยนะครับ เพราะแปรงลบกระดานที่นี่ใหญ่มาก หากโปรเฟสเซอร์ที่นี่เลียนแบบอาจารย์บางท่านที่เมืองไทยซึ่งชอบใช้แปรงลบกระดานปราบนักศึกษาช่างเจรจาเมื่อใด ก็ตัวใครตัวมันละครับ Laughing

ผมรู้สึกว่าบรรยากาศบริเวณมหาวิทยาลัยคิวชูค่อนข้างจะดูทึมๆ เคร่งขรึม ทั้งจากสีของอาคารและความที่ไม่ค่อยจะมีดอกไม้ ต้นไม้หลายสีสันแบบตามมหาวิทยาลัยในประเทศไทยชอบปลูกเท่าใดนัก ยิ่งตอนที่ไปอากาศหนาว อุณหภูมิประมาณ ๒-๕ องศาเซลเซียส แถมลมพัดแรงมากจนจักรยานที่จอดไว้ล้มเป็นแถบๆยิ่งดูวังเวงน้องนักเรียนไทยบางคนถึงกับบอกว่าบรรยากาศคล้ายบ้านผีสิงเลยครับ แต่ภาพที่นำมาให้ชมข้างต้นผมเลือกเอาวันที่อากาศแจ่มใสแล้วนะครับ เห็นในภาพแดดออกอย่างนั้นความจริงแล้วยังหนาวมากเพียงแต่คนถ่ายทำท่าเป็นปกติเหมือนไม่หนาว แต่เบื้องหลังการถ่ายทำพอถ่ายภาพเสร็จรีบเข้าภายในอาคารหาไออุ่นจากฮีทเตอร์แทบไม่ทัน Embarassed

___________________________________

เดี๋ยวคราวหน้าจะเข้าเรื่องรถไฟฟ้าใต้ดินครับ ตอนนี้ขอรีบเตรียมตัวไปทำงานก่อนครับ Smile
Back to top
View user's profile Send private message
pattharachai
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 6536
Location: ราชอาณาจักรไทย

PostPosted: 30/03/2007 7:43 am    Post subject: Reply with quote

อิอิ จะว่าไปเจ้าของกระทู้ก็เหมือน นร.ญี่ปุ่นนะครับ
Back to top
View user's profile Send private message Send e-mail Visit poster's website
tuie
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 09/07/2006
Posts: 12156
Location: สถานีบ้านตุ้ย

PostPosted: 30/03/2007 10:22 pm    Post subject: Reply with quote

pattharachai wrote:
อิอิ จะว่าไปเจ้าของกระทู้ก็เหมือน นร.ญี่ปุ่นนะครับ


ตั้งข้อสังเกตแบบนี้นักเรียนโค่งเขินแย่เลยละครับน้องบอย Embarassed

แต่จะว่าไปตอนอยู่ที่นั่นมีชาวญี่ปุ่นส่งภาษากับพี่เหมือนกันครับ เล่นเอาอึ้งกิมกี่ไปครู่หนึ่งถึงพูดตอบไปเป็นภาษาอังกฤษ(แปลเป็นไทย)ว่า คุณพูดภาษาอังกฤษได้ไหมครับ ชาวญี่ปุ่นผู้นั้นถึงทราบว่าเจอญี่ปุ่นตัวปลอมเข้าแล้ว Laughing Laughing

ขอบคุณน้องบอยและทุกๆท่านที่ติดตามชมครับ Smile
Back to top
View user's profile Send private message
tuie
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 09/07/2006
Posts: 12156
Location: สถานีบ้านตุ้ย

PostPosted: 31/03/2007 9:57 pm    Post subject: Reply with quote

Click on the image for full size

เข้าเรื่องรถไฟกันดีกว่า ในเมื่อรถไฟฟ้าใต้ดินเป็นพาหนะที่เดินทางไปยังมหาวิทยาลัยได้สะดวกทางหนึ่ง ในวันเปิดเรียนผมก็เดินทางจากที่พักไปมหาวิทยาลัยโดยรถไฟใต้ดินครับ รถไฟใต้ดินที่ฟูกุโอกะมิใช่กิจการของเจอาร์แต่เป็นกิจการของ FUKUOKA CITY SUBWAY มีชื่อย่อว่า F.S. มีสามเส้นทาง ได้แก่ สายกูโกะหรือสายสนามบิน(สายสีส้ม) สายฮาโกซากิ(สายสีฟ้า) และสายใหม่ล่าสุดคือ นานากุม่า(สายสีเขียว)

Click on the image for full size

เส้นทางสายสีส้มเริ่มจากสถานีฟูกุโอกะกูโกะหรือสถานีสนามบิน ซึ่งตั้งอยู่บริเวณอาคารผู้โดยสารภายในประเทศของสนามบินฟูกุโอกะ ผ่านสถานีสำคัญๆเช่น สถานีฮาคาตะซึ่งเป็นชุมทางรถไฟเจอาร์และชิงกังเซ็นสายซันโยที่ข้ามไปเมืองต่างๆบนเกาะฮอนชู สถานีนากาสึคาวาบาตะซึ่งเป็นสถานีร่วมกับรถไฟฟ้าใต้ดินสายสีฟ้า สถานีเทนจิ้นเป็นย่านช็อปปิ้งและเป็นสถานีเชื่อมต่อกับสถานีเทนจิ้นมินามิต้นทางของรถไฟฟ้าใต้ดินสายสีเขียว เป็นต้น สุดปลายทางที่สถานีไมโนฮาม่า แต่ผู้โดยสารยังสามารถเดินทางต่อจากสถานีนี้ไปในเส้นทางรถไฟเจอาร์สายชิกุฮิซึ่งมีปลายทางที่สถานีนิสชิการะสุได้อีกนะครับ

เส้นทางสายสีฟ้าเริ่มจากสถานีนากาสึคาวาบาตะ ไปสุดปลายทางที่สถานีไคซูกะ สถานีสำคัญสำหรับผมซึ่งต้องเดินทางไปเรียนที่มหาวิทยาลัยคิวชูอยู่ในเส้นทางสายสีฟ้า คือ สถานีฮาโกซากิคิวไดเมะ แต่ถ้าท่านใดอยากขอพรให้สุขสมหวังในรักจากศาลเจ้าแห่งความรักละก็ สถานีสำคัญสำหรับท่านคือสถานีฮาโกซากิมิยามาเอะซึ่งอยู่ถัดจากสถานีฮาโกซากิคิวไดเมะไปสถานีเดียว รถไฟฟ้าใต้ดินสายสีฟ้ากับสายสีส้มไม่ได้แยกเดินอย่างเด็ดขาดแบบรถไฟฟ้าบีทีเอสสายสีลมกับสายสุขุมวิทของไทยเรานะครับ เนื่องจากรถไฟใต้ดินสายสีฟ้าบางขบวนแทนที่จะสุดปลายทางหรือมีต้นทางที่สถานีนากาสึคาวาบาตะซึ่งเป็นสถานีร่วมสำหรับเปลี่ยนสาย(ทำนองเดียวกับสถานีสยามสแควร์) กลับแล่นต่อไปสุดปลายทางในสายสีส้ม แล้วทำขบวนกลับมาตามเส้นทางสายสีส้มมาผ่านสถานีนากาสึคาวาบาตะจากนั้นก็แยกไปยังสายสีฟ้าจนสุดปลายทางที่ไคซูกะ โดยไม่ไปสนามบินสุดสายสีส้มก็มีนะครับ หากจินตภาพว่า รถไฟฟ้าบีทีเอสมีขบวนรถจากหมอชิตผ่านสยามสแควร์ไปยังตากสินได้โดยตรงก็จะเป็นแบบเดียวกันครับ Smile

รถไฟใต้ดินที่ทำขบวนในเส้นทางสายสีส้มและสายสีฟ้าเป็นรถรุ่น ๒๐๐๐ เกือบทั้งหมด ส่วนที่เหลืออีกไม่กี่ขบวนเป็นรถรุ่นใดกรุณาติดตามชมต่อไปแล้วจะพบคำตอบครับ(มิได้มีเจตนากั๊กนะครับ เฉลยทันทีเดี๋ยวไม่ตื่นเต้น) Wink แต่ขอบอกก่อนว่าไม่ใช่รุ่น ๓๐๐๐ นะครับ รถรุ่น ๓๐๐๐นี้ เป็นรุ่นใหม่ล่าสุด(แถมดูสวยกว่า)ของเอฟเอส ผมเห็นมีวิ่งแต่ในเส้นทางสายสีเขียวเท่านั้นครับ รถไฟใต้ดินที่ฟูกุโอกะมีกำหนดเวลาที่ใช้ในการเดินทางของแต่ละเส้นทางดังนี้ครับ

Click on the image for full size
Back to top
View user's profile Send private message
tuie
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 09/07/2006
Posts: 12156
Location: สถานีบ้านตุ้ย

PostPosted: 31/03/2007 10:37 pm    Post subject: Reply with quote

สถานีรถไฟใต้ดินที่อยู่ใกล้ที่พักของผมก็คือ นากาสึคาวาบาตะ เดินจากที่พักประมาณ ๑๐ นาทีไปขึ้นรถไฟใต้ดินสายสีฟ้าจากสถานีนี้อีก ๕ สถานี ใช้เวลาประมาณ ๑๐-๑๕ นาที(เผื่อรอรถ) ก็ถึงสถานีฮาโกซากิคิวไดเมะแล้วเดินต่ออีกประมาณ ๑๐ นาที เป็นอันถึงตึกเรียน รุ่นเด็กๆแบบผม(ถึงอยู่แถวนี้น้องๆอาจจะว่าผมนั้นเข้าเขตผู้สูงอายุ แต่ถ้าอยู่ที่ทำงานยังจัดว่าเป็นรุ่นเด็ก เพราะอาวุโสน้อยกว่าหลายๆท่านครับ 8) )สนุกกับการเดินทางแบบนี้เพราะยังเดินเก่งอยู่ครับ ยิ่งคนชอบรถไฟแล้วยิ่งชื่นบานเข้าไปใหญ่ แต่ผู้ใหญ่หลายๆท่านไม่ค่อยชอบเท่าไร ไหนจะต้องเดินฝ่าลมหนาวไปขึ้นรถไฟและไปตึกเรียน ต้องเดินขึ้นลงบันไดสถานี ต้องซื้อตั๋วจากเครื่องจำหน่ายตั๋วอัตโนมัติ ต้องยืนโดยสาร(เพราะคนญี่ปุ่นส่วนมากไม่ค่อยจะลุกให้ผู้สูงอายุนั่งแบบคนไทย)ฯลฯ

สถานีรถไฟใต้ดินที่ฟูกุโอกะก็คล้ายๆกับสถานีรถไฟใต้ดินในกรุงเทพตรงที่ลงไปชั้นแรกเป็นจุดจำหน่ายตั๋ว ทางเข้าซึ่งต้องผ่านเครื่องตรวจตั๋ว ชั้นที่สองเป็นชานชาลา ถ้าเป็นสถานีร่วมระว่างสายสีส้มกับสายสีฟ้าอย่างสถานีนากาสึคาวาบาตะ นอกจากมีชานชาลาในชั้นที่สองสำหรับขบวนรถสายสีฟ้าแล้ว ยังจะมีชานชาลาชั้นที่สามสำหรับขบวนรถสายสีส้มอีกชั้นหนึ่งด้วย ที่จำหน่ายตั๋วมีทั้งที่เป็นห้องจำหน่ายตั๋วมีเจ้าหน้าที่ประจำ กับเครื่องจำหน่ายตั๋วอัตโนมัติหน้าตาแบบนี้ครับ Smile

Click on the image for full size

เดินเข้าไปที่เครื่องเห็นภาษาญี่ปุ่นเต็มไปหมด Shocked ไม่ต้องตกใจนะครับ มีปุ่มกลมๆเล็กๆสีขาวสำหรับเปลี่ยนเป็นภาษาอังกฤษได้ วิธีซื้อตั๋วเที่ยวเดียวก็ไม่ยากสามารถนำประสบการณ์จากการซื้อบัตรรถบีทีเอส และเหรียญโดยสารรถไฟใต้ดินของไทยเราไปประยุกต์ใช้ได้สบายๆ จะต่างกันบ้างเพียงรายละเอียดเล็กน้อย กล่าวคือ ของเอฟเอสเริ่มจากดูป้ายแสดงเส้นทางด้านบนเครื่องฯหาชื่อสถานีปลายทางที่เราจะไปว่าราคาค่าโดยสารเท่าใด จากนั้นก็กดปุ่มเปลี่ยนภาษาที่เครื่องเป็นภาษาอังกฤษ หยอดเหรียญหรือธนบัตรตามมูลค่าค่าโดยสารไปยังสถานีที่เราจะไป กดปุ่มที่แสดงจำนวนค่าโดยสารซึ่งตรงกับจุดหมายปลายทางของเรา เครื่องก็จะออกตั๋วให้พร้อมกับทอนเงิน(ถ้ามี) ง่ายดีไหมครับ Very Happy

Click on the image for full size

ตั๋วรถไฟใต้ดินเที่ยวเดียวของจริงมีขนาดเล็กกว่าตั๋วแข็ง(ตั๋วหนา)ของรถไฟไทยประมาณหนึ่งในสามครับ เนื่องจากค่าตั๋วค่อนข้างแพง ราคาขั้นต่ำ(เที่ยวเดียว)ก็ ๒๐๐ เยน(ประมาณ ๖๐ บาท)เข้าไปแล้ว Shocked ส่วนราคาสูงสุด(เที่ยวเดียว)เกือบๆ ๔๐๐ เยน(ประมาณ ๑๒๐ บาท) Shocked Shocked ใครคาดว่าจะนั่งรถไฟใต้ดินวันละหลายๆเที่ยวไม่ว่าจะโดยเจตนาเนื่องจากจะไปเที่ยวแถวๆสถานีรายทางหลายแห่ง หรือโดยประมาทคือหลงทาง Laughing ก็มีทางเลือกที่ประหยัดกว่าการซื้อตั๋วเที่ยวเดียวโดยการซื้อตั๋วแบบ One Day Pass ซึ่งสามารถใช้โดยสารรถไฟใต้ดินกี่ครั้งก็ได้ภายในวันเดียวในราคา ๖๐๐ เยน ครับ

Click on the image for full size

ด้านหน้าตั๋วแบบ One Day Pass ซึ่งมีขนาดพอๆกับบัตรเครดิต

Click on the image for full size

ด้านหลังตั๋วแบบ One Day Pass มีข้อแนะนำการใช้ตั๋วพิมพ์ไว้ครับ Smile
Back to top
View user's profile Send private message
shinoda
3rd Class Pass (Air)
3rd Class Pass (Air)


Joined: 16/10/2006
Posts: 309
Location: พิจิตร

PostPosted: 01/04/2007 12:13 am    Post subject: Reply with quote

Shocked อ.ตุ้ย มาเมื่อไหร่ ข้อมูลแน่นปึ้กทุกรอบเลยครับ

เหมือน ไกด์รถไฟญี่ปุ่น มาเอง Laughing
Back to top
View user's profile Send private message Send e-mail Visit poster's website MSN Messenger
tuie
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 09/07/2006
Posts: 12156
Location: สถานีบ้านตุ้ย

PostPosted: 01/04/2007 6:40 am    Post subject: Reply with quote

shinoda wrote:
Shocked อ.ตุ้ย มาเมื่อไหร่ ข้อมูลแน่นปึ้กทุกรอบเลยครับ

เหมือน ไกด์รถไฟญี่ปุ่น มาเอง Laughing


ขอสารภาพว่าความจริงแล้วยังไม่ทราบข้อมูลเชิงลึกอีกหลายเรื่องนะครับ เล่าตามที่ได้เห็นโดยพยายามตัดทอนให้กระชับที่สุดแต่เนื้อหาก็ยังยาวอยู่ดี หวังๆว่าน้องๆที่กำลังปิดเทอมอยู่ดีๆอ่านกระทู้เรื่องนี้แล้วคงไม่ถึงกับฝันร้ายเพราะเหมือนกลับกลายสภาพไปนั่งอยู่ในห้องเรียนฟังอาจารย์บรรยายยาวๆจนหลับกันไปหมดนะครับ Embarassed Laughing

ขอบคุณครับที่ติดตามชม Very Happy

------------------------------------------------------------------------------

ผ่านเครื่องตรวจตั๋วเข้าไปสู่ชานชาลารถไฟใต้ดินกันครับ โปรดเตรียมถือตั๋วไม่ว่าจะเป็นตั๋วเที่ยวเดียว หรือ One Day Pass ไว้ที่มือข้างขวาแล้วสอดเข้าเครื่องช่องที่มีเครื่องหมายวงกลมสีเขียวแสดงอยู่ด้านบน และหน้าเครื่องมีเครื่องหมายลูกศรสีเขียวสัมพันธ์กัน ส่วนช่องที่มีเครื่องหมายกากบาทสีแดงนั้นเป็นทางออกครับ Smile

Click on the image for full size

ผมสังเกตว่าพอสอดตั๋วเข้าไปแล้วประตูที่เครื่องตรวจตั๋วของรถไฟใต้ดินที่นี่ค่อนข้างจะเปิดเร็ว แต่เปิดค้างไว้อยู่นาน ทำให้ผู้โดยสารคนต่อไปผ่านเข้าไปได้โดยไม่ต้องรอจังหวะประตูปิดแล้วเปิดใหม่อีกครั้งหลังจากผู้โดยสารคนก่อนผ่านไป ทางลงชั้นถัดลงมามีทั้งบันไดเลื่อนและบันไดแน่นิ่ง(พูดเล่นนะครับ Laughing ใช้คำแบบนี้เดี๋ยวราชบัณฑิตผ่านมาพบเข้าจะตำหนิได้ ผมหมายถึงบันไดธรรมดาที่ต้องเดินขึ้นลงเองน่ะครับ) บันไดเลื่อนที่นี่เลื่อนไม่เร็วแบบรถไฟใต้ดินบ้านเราครับ แต่เลื่อนช้าๆพอๆกับบันไดเลื่อนในห้างสรรพสินค้า

ในทางปฏิบัติผมสังเกตว่าคนที่หยุดยืนรอให้บันไดเลื่อนเคลื่อนไปเรื่อยๆจะยืนชิดซ้ายกันเป็นทิวแถว โดยเปิดทางด้านขวาให้คนที่เร่งรีบเดินหรือวิ่งบนบันไดเลื่อนได้ทำนองเดียวกับการขับรถยนต์บนทางหลวงที่รถช้าเช่นพวกสิบล้อให้ชิดซ้ายน่ะครับ ส่วนมากผมรักที่จะเป็นสิบล้อมากกว่า Laughing เพราะจะได้มีเวลาเก็บรายละเอียด และสังเกตการณ์

Click on the image for full size

Click on the image for full size

ถึงชานชาลาสถานีรถไฟใต้ดินแล้วครับ ชานชาลาจะอยู่ระหว่างทางรถไฟฝั่งขาขึ้นและขาล่องแทบทุกสถานี มีไม่กี่สถานีที่ทางรถไฟอยู่ตรงกลางโดยมีชานชาลาแยกเป็นสองฝั่ง พื้นที่บริเวณชานชาลาไม่ได้กั้นเป็นกระจกแยกจากส่วนที่เป็นอุโมงค์ทางรถไฟใต้ดินแบบของไทยเรา เวลารถไฟจะเข้าสถานีจึงได้ยินเสียงชัดเจน แถมมีลมกระแทกออกมาจากอุโมงค์ฝั่งที่ขบวนรถแล่นเข้ามาด้วยครับ สิ่งที่กั้นระหว่างชานชาลากับขบวนรถที่เข้ามาจอดเทียบเป็นรั้วสูงประมาณ ๑ เมตร ที่เห็นเป็นรั้วสีขาวๆมีประตูเปิดเป็นระยะๆตามภาพนี้ครับ

Click on the image for full size

ข้างๆประตูมีคำเตือนติดไว้

Click on the image for full size
Back to top
View user's profile Send private message
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ภาพประสบการณ์เดินทางกับรถไฟต่างประเทศ All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3, 4, 5 ... 34, 35, 36  Next
Page 4 of 36

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©