View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
tuie
1st Class Pass (Air)
Joined: 09/07/2006 Posts: 12156
Location: สถานีบ้านตุ้ย
|
Posted: 28/03/2007 11:02 pm Post subject: |
|
|
หัวขบวนรถ HUIS TEN BOSCH ก็ยังไม่ใช่คันนำนะครับ ยังมีขบวนรถสายอื่นอยู่ตอนหน้าอีก
โปรดสังเกตว่า หัวขบวนกับท้ายขบวนรถ HUIS TEN BOSCH เป็นรถคนละรุ่นกันนะครับ เห็นแล้วนึกถึงเวลาเอา RHN กับ THN มาพ่วงเข้าด้วยกันจริงๆ |
|
Back to top |
|
|
Main_Reservoir
2nd Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 879
Location: ผังควบคุมการเดินรถแขวงห้วยขวาง
|
Posted: 29/03/2007 7:57 am Post subject: |
|
|
ง่า..เห็นแล้วอยากไปบ้างจัง ติดขัดที่งบประมาณ
ถ่ายภาพประกอบการบรรยายได้ดีเยี่ยมครับ
เท่าที่เห็นตามภาพ ญี่ปุ่นนี่ใช้ประโยชน์จากที่ดินได้ค่อนข้างสูงมาก ทุกตารางมิลลิเมตรมีความหมาย แล้วก็การจัดระเบียบจราจรก็ดี คนขับรถยนต์ต้องมีวินัย ไม่งั้นได้ชนกับรถรางกันบ้างล่ะ _________________ ❤ Computerized Train Diagram ❤
|
|
Back to top |
|
|
tuie
1st Class Pass (Air)
Joined: 09/07/2006 Posts: 12156
Location: สถานีบ้านตุ้ย
|
Posted: 29/03/2007 1:21 pm Post subject: |
|
|
Main_Reservoir wrote: | ง่า..เห็นแล้วอยากไปบ้างจัง ติดขัดที่งบประมาณ
ถ่ายภาพประกอบการบรรยายได้ดีเยี่ยมครับ
เท่าที่เห็นตามภาพ ญี่ปุ่นนี่ใช้ประโยชน์จากที่ดินได้ค่อนข้างสูงมาก ทุกตารางมิลลิเมตรมีความหมาย แล้วก็การจัดระเบียบจราจรก็ดี คนขับรถยนต์ต้องมีวินัย ไม่งั้นได้ชนกับรถรางกันบ้างล่ะ |
ขอบคุณน้องฟางที่แวะมาชมและให้กำลังใจกันครับ พี่จะรีบคัดภาพมาลงให้ชมต่อโดยเร็ว เผอิญภาพที่พอจะไปวัด(ไปวา)มีน้อย ภาพที่ต้องไปสุสาน(คัดทิ้ง)มีเยอะ ประกอบกับกำลังอยู่ในช่วงย้ายที่ทำงาน ทำให้ล่าช้าไปบ้าง ต้องขออภัยทุกท่านที่ติดตามชมด้วยนะครับ
ถ้าไม่ได้ทุนไปก็คงยากที่จะมีโอกาสไปญี่ปุ่นหลายวันแบบนี้ครับ เพราะค่าครองชีพแพงมากขนาดราเมนตามร้านข้างถนน(ยาไต)อย่างต่ำๆยังปาเข้าไปชามละ ๔๐๐ เยน(ประมาณ ๑๒๐ บาท) แล้ว เลยต้องขอบคุณหน่วยงานที่ทำงานที่ให้ทุน และรัฐบาลที่จัดสรรงบประมาณเป็นทุนการศึกษาให้มา ณ ที่นี้
แต่ก็ยังไม่เข็ดเรื่องของแพง ยังอยากไปนั่งรถไฟที่นั่นอีกสักหนึ่งสัปดาห์(แบบเต็มวันไม่มีชั่วโมงเรียน) เป็นอย่างน้อยนะครับ |
|
Back to top |
|
|
tuie
1st Class Pass (Air)
Joined: 09/07/2006 Posts: 12156
Location: สถานีบ้านตุ้ย
|
Posted: 30/03/2007 6:34 am Post subject: |
|
|
ไปเที่ยวอย่างเพลิดเพลินมาแล้วหนึ่งวันก็ถึงวันจันทร์ซึ่งเริ่มเรียนที่มหาวิทยาลัยคิวชูเป็นวันแรก มหาวิทยาลัยคิวชูเป็นสถาบันอุดมศึกษาเก่าแก่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งในประเทศญี่ปุ่น เปิดสอนหลายหลายสาขาวิชา เช่น แพทย์ พยาบาล วิศวะ บัญชี เศรษฐศาสตร์ อักษรศาสตร์ นิติศาสตร์ฯลฯ มีทั้งหลักสูตรที่สอนเป็นภาษาญี่ปุ่นและหลักสูตรอินเตอร์ฯสอนเป็นภาษาอังกฤษ มหาวิทยาลัยคิวชูตั้งอยู่ทางทิศเหนือของเมืองฟูกุโอกะ ห่างจากสนามบินไม่มากนักจึงได้ยินเสียงเครื่องบินขึ้นลงดังสนั่นตลอดวัน บางคณะก็แยกเป็นแคมปัสต่างหากจากบริเวณที่ทำการมหาวิทยาลัยซึ่งคณะนิติศาสตร์ตั้งอยู่ที่นี่ การเดินทางไปมหาวิทยาลัยทำได้โดยสะดวกหลายทางซึ่งทางรถไฟฟ้าใต้ดินก็เป็นทางหนึ่งที่สะดวกเนื่องจากมีสถานีอยู่ในบริเวณมหาวิทยาลัยเลยครับ ถ้าเทียบกับของไทยก็คล้ายๆกับสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินสามย่านที่ใกล้ๆกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยน่ะครับ
ขอนำชมบรรยากาศมหาวิทยาลัยคิวชูสักเล็กน้อยนะครับ
ประตูทางเข้าด้านหนึ่งซึ่งใกล้กับสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินฮาโกซากิคิวไดเมะ
บริเวณอาคารคณะนิติศาสตร์ซึ่งกระจายอยู่หลายอาคาร มีข้อสังเกตว่านักศึกษาที่นี่นิยมขี่จักรยานกันมาก ไปตรงไหนก็เห็นแต่จักรยานจอดเต็มไปหมด แม้แต่ที่ตั้งป้ายชื่อคณะนิติศาสตร์แทนที่จะทำเป็นสวนหย่อมปลูกไม้ดอกไม้ประดับกลับปล่อยให้อยู่ท่ามกลางที่จอดรถจักรยานเสียนี่
คำเตือน นักศึกษาช่างจ้อ(คุยเก่ง)ในชั้นเรียนต้องระวังตัวกันหน่อยนะครับ เพราะแปรงลบกระดานที่นี่ใหญ่มาก หากโปรเฟสเซอร์ที่นี่เลียนแบบอาจารย์บางท่านที่เมืองไทยซึ่งชอบใช้แปรงลบกระดานปราบนักศึกษาช่างเจรจาเมื่อใด ก็ตัวใครตัวมันละครับ
ผมรู้สึกว่าบรรยากาศบริเวณมหาวิทยาลัยคิวชูค่อนข้างจะดูทึมๆ เคร่งขรึม ทั้งจากสีของอาคารและความที่ไม่ค่อยจะมีดอกไม้ ต้นไม้หลายสีสันแบบตามมหาวิทยาลัยในประเทศไทยชอบปลูกเท่าใดนัก ยิ่งตอนที่ไปอากาศหนาว อุณหภูมิประมาณ ๒-๕ องศาเซลเซียส แถมลมพัดแรงมากจนจักรยานที่จอดไว้ล้มเป็นแถบๆยิ่งดูวังเวงน้องนักเรียนไทยบางคนถึงกับบอกว่าบรรยากาศคล้ายบ้านผีสิงเลยครับ แต่ภาพที่นำมาให้ชมข้างต้นผมเลือกเอาวันที่อากาศแจ่มใสแล้วนะครับ เห็นในภาพแดดออกอย่างนั้นความจริงแล้วยังหนาวมากเพียงแต่คนถ่ายทำท่าเป็นปกติเหมือนไม่หนาว แต่เบื้องหลังการถ่ายทำพอถ่ายภาพเสร็จรีบเข้าภายในอาคารหาไออุ่นจากฮีทเตอร์แทบไม่ทัน
___________________________________
เดี๋ยวคราวหน้าจะเข้าเรื่องรถไฟฟ้าใต้ดินครับ ตอนนี้ขอรีบเตรียมตัวไปทำงานก่อนครับ |
|
Back to top |
|
|
pattharachai
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 6536
Location: ราชอาณาจักรไทย
|
Posted: 30/03/2007 7:43 am Post subject: |
|
|
อิอิ จะว่าไปเจ้าของกระทู้ก็เหมือน นร.ญี่ปุ่นนะครับ |
|
Back to top |
|
|
tuie
1st Class Pass (Air)
Joined: 09/07/2006 Posts: 12156
Location: สถานีบ้านตุ้ย
|
Posted: 30/03/2007 10:22 pm Post subject: |
|
|
pattharachai wrote: | อิอิ จะว่าไปเจ้าของกระทู้ก็เหมือน นร.ญี่ปุ่นนะครับ |
ตั้งข้อสังเกตแบบนี้นักเรียนโค่งเขินแย่เลยละครับน้องบอย
แต่จะว่าไปตอนอยู่ที่นั่นมีชาวญี่ปุ่นส่งภาษากับพี่เหมือนกันครับ เล่นเอาอึ้งกิมกี่ไปครู่หนึ่งถึงพูดตอบไปเป็นภาษาอังกฤษ(แปลเป็นไทย)ว่า คุณพูดภาษาอังกฤษได้ไหมครับ ชาวญี่ปุ่นผู้นั้นถึงทราบว่าเจอญี่ปุ่นตัวปลอมเข้าแล้ว
ขอบคุณน้องบอยและทุกๆท่านที่ติดตามชมครับ |
|
Back to top |
|
|
tuie
1st Class Pass (Air)
Joined: 09/07/2006 Posts: 12156
Location: สถานีบ้านตุ้ย
|
Posted: 31/03/2007 9:57 pm Post subject: |
|
|
เข้าเรื่องรถไฟกันดีกว่า ในเมื่อรถไฟฟ้าใต้ดินเป็นพาหนะที่เดินทางไปยังมหาวิทยาลัยได้สะดวกทางหนึ่ง ในวันเปิดเรียนผมก็เดินทางจากที่พักไปมหาวิทยาลัยโดยรถไฟใต้ดินครับ รถไฟใต้ดินที่ฟูกุโอกะมิใช่กิจการของเจอาร์แต่เป็นกิจการของ FUKUOKA CITY SUBWAY มีชื่อย่อว่า F.S. มีสามเส้นทาง ได้แก่ สายกูโกะหรือสายสนามบิน(สายสีส้ม) สายฮาโกซากิ(สายสีฟ้า) และสายใหม่ล่าสุดคือ นานากุม่า(สายสีเขียว)
เส้นทางสายสีส้มเริ่มจากสถานีฟูกุโอกะกูโกะหรือสถานีสนามบิน ซึ่งตั้งอยู่บริเวณอาคารผู้โดยสารภายในประเทศของสนามบินฟูกุโอกะ ผ่านสถานีสำคัญๆเช่น สถานีฮาคาตะซึ่งเป็นชุมทางรถไฟเจอาร์และชิงกังเซ็นสายซันโยที่ข้ามไปเมืองต่างๆบนเกาะฮอนชู สถานีนากาสึคาวาบาตะซึ่งเป็นสถานีร่วมกับรถไฟฟ้าใต้ดินสายสีฟ้า สถานีเทนจิ้นเป็นย่านช็อปปิ้งและเป็นสถานีเชื่อมต่อกับสถานีเทนจิ้นมินามิต้นทางของรถไฟฟ้าใต้ดินสายสีเขียว เป็นต้น สุดปลายทางที่สถานีไมโนฮาม่า แต่ผู้โดยสารยังสามารถเดินทางต่อจากสถานีนี้ไปในเส้นทางรถไฟเจอาร์สายชิกุฮิซึ่งมีปลายทางที่สถานีนิสชิการะสุได้อีกนะครับ
เส้นทางสายสีฟ้าเริ่มจากสถานีนากาสึคาวาบาตะ ไปสุดปลายทางที่สถานีไคซูกะ สถานีสำคัญสำหรับผมซึ่งต้องเดินทางไปเรียนที่มหาวิทยาลัยคิวชูอยู่ในเส้นทางสายสีฟ้า คือ สถานีฮาโกซากิคิวไดเมะ แต่ถ้าท่านใดอยากขอพรให้สุขสมหวังในรักจากศาลเจ้าแห่งความรักละก็ สถานีสำคัญสำหรับท่านคือสถานีฮาโกซากิมิยามาเอะซึ่งอยู่ถัดจากสถานีฮาโกซากิคิวไดเมะไปสถานีเดียว รถไฟฟ้าใต้ดินสายสีฟ้ากับสายสีส้มไม่ได้แยกเดินอย่างเด็ดขาดแบบรถไฟฟ้าบีทีเอสสายสีลมกับสายสุขุมวิทของไทยเรานะครับ เนื่องจากรถไฟใต้ดินสายสีฟ้าบางขบวนแทนที่จะสุดปลายทางหรือมีต้นทางที่สถานีนากาสึคาวาบาตะซึ่งเป็นสถานีร่วมสำหรับเปลี่ยนสาย(ทำนองเดียวกับสถานีสยามสแควร์) กลับแล่นต่อไปสุดปลายทางในสายสีส้ม แล้วทำขบวนกลับมาตามเส้นทางสายสีส้มมาผ่านสถานีนากาสึคาวาบาตะจากนั้นก็แยกไปยังสายสีฟ้าจนสุดปลายทางที่ไคซูกะ โดยไม่ไปสนามบินสุดสายสีส้มก็มีนะครับ หากจินตภาพว่า รถไฟฟ้าบีทีเอสมีขบวนรถจากหมอชิตผ่านสยามสแควร์ไปยังตากสินได้โดยตรงก็จะเป็นแบบเดียวกันครับ
รถไฟใต้ดินที่ทำขบวนในเส้นทางสายสีส้มและสายสีฟ้าเป็นรถรุ่น ๒๐๐๐ เกือบทั้งหมด ส่วนที่เหลืออีกไม่กี่ขบวนเป็นรถรุ่นใดกรุณาติดตามชมต่อไปแล้วจะพบคำตอบครับ(มิได้มีเจตนากั๊กนะครับ เฉลยทันทีเดี๋ยวไม่ตื่นเต้น) แต่ขอบอกก่อนว่าไม่ใช่รุ่น ๓๐๐๐ นะครับ รถรุ่น ๓๐๐๐นี้ เป็นรุ่นใหม่ล่าสุด(แถมดูสวยกว่า)ของเอฟเอส ผมเห็นมีวิ่งแต่ในเส้นทางสายสีเขียวเท่านั้นครับ รถไฟใต้ดินที่ฟูกุโอกะมีกำหนดเวลาที่ใช้ในการเดินทางของแต่ละเส้นทางดังนี้ครับ
|
|
Back to top |
|
|
tuie
1st Class Pass (Air)
Joined: 09/07/2006 Posts: 12156
Location: สถานีบ้านตุ้ย
|
Posted: 31/03/2007 10:37 pm Post subject: |
|
|
สถานีรถไฟใต้ดินที่อยู่ใกล้ที่พักของผมก็คือ นากาสึคาวาบาตะ เดินจากที่พักประมาณ ๑๐ นาทีไปขึ้นรถไฟใต้ดินสายสีฟ้าจากสถานีนี้อีก ๕ สถานี ใช้เวลาประมาณ ๑๐-๑๕ นาที(เผื่อรอรถ) ก็ถึงสถานีฮาโกซากิคิวไดเมะแล้วเดินต่ออีกประมาณ ๑๐ นาที เป็นอันถึงตึกเรียน รุ่นเด็กๆแบบผม(ถึงอยู่แถวนี้น้องๆอาจจะว่าผมนั้นเข้าเขตผู้สูงอายุ แต่ถ้าอยู่ที่ทำงานยังจัดว่าเป็นรุ่นเด็ก เพราะอาวุโสน้อยกว่าหลายๆท่านครับ 8) )สนุกกับการเดินทางแบบนี้เพราะยังเดินเก่งอยู่ครับ ยิ่งคนชอบรถไฟแล้วยิ่งชื่นบานเข้าไปใหญ่ แต่ผู้ใหญ่หลายๆท่านไม่ค่อยชอบเท่าไร ไหนจะต้องเดินฝ่าลมหนาวไปขึ้นรถไฟและไปตึกเรียน ต้องเดินขึ้นลงบันไดสถานี ต้องซื้อตั๋วจากเครื่องจำหน่ายตั๋วอัตโนมัติ ต้องยืนโดยสาร(เพราะคนญี่ปุ่นส่วนมากไม่ค่อยจะลุกให้ผู้สูงอายุนั่งแบบคนไทย)ฯลฯ
สถานีรถไฟใต้ดินที่ฟูกุโอกะก็คล้ายๆกับสถานีรถไฟใต้ดินในกรุงเทพตรงที่ลงไปชั้นแรกเป็นจุดจำหน่ายตั๋ว ทางเข้าซึ่งต้องผ่านเครื่องตรวจตั๋ว ชั้นที่สองเป็นชานชาลา ถ้าเป็นสถานีร่วมระว่างสายสีส้มกับสายสีฟ้าอย่างสถานีนากาสึคาวาบาตะ นอกจากมีชานชาลาในชั้นที่สองสำหรับขบวนรถสายสีฟ้าแล้ว ยังจะมีชานชาลาชั้นที่สามสำหรับขบวนรถสายสีส้มอีกชั้นหนึ่งด้วย ที่จำหน่ายตั๋วมีทั้งที่เป็นห้องจำหน่ายตั๋วมีเจ้าหน้าที่ประจำ กับเครื่องจำหน่ายตั๋วอัตโนมัติหน้าตาแบบนี้ครับ
เดินเข้าไปที่เครื่องเห็นภาษาญี่ปุ่นเต็มไปหมด ไม่ต้องตกใจนะครับ มีปุ่มกลมๆเล็กๆสีขาวสำหรับเปลี่ยนเป็นภาษาอังกฤษได้ วิธีซื้อตั๋วเที่ยวเดียวก็ไม่ยากสามารถนำประสบการณ์จากการซื้อบัตรรถบีทีเอส และเหรียญโดยสารรถไฟใต้ดินของไทยเราไปประยุกต์ใช้ได้สบายๆ จะต่างกันบ้างเพียงรายละเอียดเล็กน้อย กล่าวคือ ของเอฟเอสเริ่มจากดูป้ายแสดงเส้นทางด้านบนเครื่องฯหาชื่อสถานีปลายทางที่เราจะไปว่าราคาค่าโดยสารเท่าใด จากนั้นก็กดปุ่มเปลี่ยนภาษาที่เครื่องเป็นภาษาอังกฤษ หยอดเหรียญหรือธนบัตรตามมูลค่าค่าโดยสารไปยังสถานีที่เราจะไป กดปุ่มที่แสดงจำนวนค่าโดยสารซึ่งตรงกับจุดหมายปลายทางของเรา เครื่องก็จะออกตั๋วให้พร้อมกับทอนเงิน(ถ้ามี) ง่ายดีไหมครับ
ตั๋วรถไฟใต้ดินเที่ยวเดียวของจริงมีขนาดเล็กกว่าตั๋วแข็ง(ตั๋วหนา)ของรถไฟไทยประมาณหนึ่งในสามครับ เนื่องจากค่าตั๋วค่อนข้างแพง ราคาขั้นต่ำ(เที่ยวเดียว)ก็ ๒๐๐ เยน(ประมาณ ๖๐ บาท)เข้าไปแล้ว ส่วนราคาสูงสุด(เที่ยวเดียว)เกือบๆ ๔๐๐ เยน(ประมาณ ๑๒๐ บาท) ใครคาดว่าจะนั่งรถไฟใต้ดินวันละหลายๆเที่ยวไม่ว่าจะโดยเจตนาเนื่องจากจะไปเที่ยวแถวๆสถานีรายทางหลายแห่ง หรือโดยประมาทคือหลงทาง ก็มีทางเลือกที่ประหยัดกว่าการซื้อตั๋วเที่ยวเดียวโดยการซื้อตั๋วแบบ One Day Pass ซึ่งสามารถใช้โดยสารรถไฟใต้ดินกี่ครั้งก็ได้ภายในวันเดียวในราคา ๖๐๐ เยน ครับ
ด้านหน้าตั๋วแบบ One Day Pass ซึ่งมีขนาดพอๆกับบัตรเครดิต
ด้านหลังตั๋วแบบ One Day Pass มีข้อแนะนำการใช้ตั๋วพิมพ์ไว้ครับ |
|
Back to top |
|
|
shinoda
3rd Class Pass (Air)
Joined: 16/10/2006 Posts: 309
Location: พิจิตร
|
Posted: 01/04/2007 12:13 am Post subject: |
|
|
อ.ตุ้ย มาเมื่อไหร่ ข้อมูลแน่นปึ้กทุกรอบเลยครับ
เหมือน ไกด์รถไฟญี่ปุ่น มาเอง |
|
Back to top |
|
|
tuie
1st Class Pass (Air)
Joined: 09/07/2006 Posts: 12156
Location: สถานีบ้านตุ้ย
|
Posted: 01/04/2007 6:40 am Post subject: |
|
|
shinoda wrote: | อ.ตุ้ย มาเมื่อไหร่ ข้อมูลแน่นปึ้กทุกรอบเลยครับ
เหมือน ไกด์รถไฟญี่ปุ่น มาเอง |
ขอสารภาพว่าความจริงแล้วยังไม่ทราบข้อมูลเชิงลึกอีกหลายเรื่องนะครับ เล่าตามที่ได้เห็นโดยพยายามตัดทอนให้กระชับที่สุดแต่เนื้อหาก็ยังยาวอยู่ดี หวังๆว่าน้องๆที่กำลังปิดเทอมอยู่ดีๆอ่านกระทู้เรื่องนี้แล้วคงไม่ถึงกับฝันร้ายเพราะเหมือนกลับกลายสภาพไปนั่งอยู่ในห้องเรียนฟังอาจารย์บรรยายยาวๆจนหลับกันไปหมดนะครับ
ขอบคุณครับที่ติดตามชม
------------------------------------------------------------------------------
ผ่านเครื่องตรวจตั๋วเข้าไปสู่ชานชาลารถไฟใต้ดินกันครับ โปรดเตรียมถือตั๋วไม่ว่าจะเป็นตั๋วเที่ยวเดียว หรือ One Day Pass ไว้ที่มือข้างขวาแล้วสอดเข้าเครื่องช่องที่มีเครื่องหมายวงกลมสีเขียวแสดงอยู่ด้านบน และหน้าเครื่องมีเครื่องหมายลูกศรสีเขียวสัมพันธ์กัน ส่วนช่องที่มีเครื่องหมายกากบาทสีแดงนั้นเป็นทางออกครับ
ผมสังเกตว่าพอสอดตั๋วเข้าไปแล้วประตูที่เครื่องตรวจตั๋วของรถไฟใต้ดินที่นี่ค่อนข้างจะเปิดเร็ว แต่เปิดค้างไว้อยู่นาน ทำให้ผู้โดยสารคนต่อไปผ่านเข้าไปได้โดยไม่ต้องรอจังหวะประตูปิดแล้วเปิดใหม่อีกครั้งหลังจากผู้โดยสารคนก่อนผ่านไป ทางลงชั้นถัดลงมามีทั้งบันไดเลื่อนและบันไดแน่นิ่ง(พูดเล่นนะครับ ใช้คำแบบนี้เดี๋ยวราชบัณฑิตผ่านมาพบเข้าจะตำหนิได้ ผมหมายถึงบันไดธรรมดาที่ต้องเดินขึ้นลงเองน่ะครับ) บันไดเลื่อนที่นี่เลื่อนไม่เร็วแบบรถไฟใต้ดินบ้านเราครับ แต่เลื่อนช้าๆพอๆกับบันไดเลื่อนในห้างสรรพสินค้า
ในทางปฏิบัติผมสังเกตว่าคนที่หยุดยืนรอให้บันไดเลื่อนเคลื่อนไปเรื่อยๆจะยืนชิดซ้ายกันเป็นทิวแถว โดยเปิดทางด้านขวาให้คนที่เร่งรีบเดินหรือวิ่งบนบันไดเลื่อนได้ทำนองเดียวกับการขับรถยนต์บนทางหลวงที่รถช้าเช่นพวกสิบล้อให้ชิดซ้ายน่ะครับ ส่วนมากผมรักที่จะเป็นสิบล้อมากกว่า เพราะจะได้มีเวลาเก็บรายละเอียด และสังเกตการณ์
ถึงชานชาลาสถานีรถไฟใต้ดินแล้วครับ ชานชาลาจะอยู่ระหว่างทางรถไฟฝั่งขาขึ้นและขาล่องแทบทุกสถานี มีไม่กี่สถานีที่ทางรถไฟอยู่ตรงกลางโดยมีชานชาลาแยกเป็นสองฝั่ง พื้นที่บริเวณชานชาลาไม่ได้กั้นเป็นกระจกแยกจากส่วนที่เป็นอุโมงค์ทางรถไฟใต้ดินแบบของไทยเรา เวลารถไฟจะเข้าสถานีจึงได้ยินเสียงชัดเจน แถมมีลมกระแทกออกมาจากอุโมงค์ฝั่งที่ขบวนรถแล่นเข้ามาด้วยครับ สิ่งที่กั้นระหว่างชานชาลากับขบวนรถที่เข้ามาจอดเทียบเป็นรั้วสูงประมาณ ๑ เมตร ที่เห็นเป็นรั้วสีขาวๆมีประตูเปิดเป็นระยะๆตามภาพนี้ครับ
ข้างๆประตูมีคำเตือนติดไว้
|
|
Back to top |
|
|
|