แฟ้มภาพ : ไปถ่ายภาพที่ Jones Point, New York

[rkarn]

ว่าจะเริ่มต้นเขียนครั้งแรกกับรถไฟไทยก่อน แต่เนื่องจากขณะนี้ผมไม่ได้อยู่ในประเทศไทย จึงไม่มีเรื่องราวหรือภาพต่างๆ เลย ขอนำภาพบางส่วนจากรถไฟที่เคยได้ไปสำรวจ และถ่ายภาพไว้มาเล่าให้พวกเราได้อ่าน ได้ชมกันนะครับ

ผมแวะไปที่ทางรถไฟสาย River Line เมื่อประมาณ 3 สัปดาห์ก่อน ทางรถไฟสายนี้ ทั้งราง และ facility ต่างๆ เป็นเจ้าของโดยบริษัท CSX Transportation หรือ Conrail เดิม ทางสายนี้เป็นสายที่ให้บริการขนส่งสินค้าเท่านั้น และเป็นเส้นทางหลักสายหนึ่งในการขนส่งระหว่างรัฐทางตะวันตกของสหรัฐอเมริกา มายังเมืองท่าในรัฐนิวยอร์กและนิวเจอร์ซีครับ ส่วนใหญ่ของทางสายนี้เลียบริมฝั่งตะวันตกของแม่น้ำ Hudson ขึ้นไปถึงใกล้กับเมืองท่า Albany ซึ่งเป็นเมืองหลวงของรัฐ New York ด้วย ส่วนทางฝั่งตะวันออกของแม่น้ำมีทางรถไฟชื่อสาย Hudson Line ซึ่งเน้นการให้บริการผูโดยสารเป็นหลักครับ เริ่มกันเลย




รางสูงประมาณ 7 นิ้วครับ ผมไม่ได้พกไม่บรรทัดไป แต่กางนิ้วเต็มที่เลย แล้วไปเทียบกับไม้บรรทัดที่บ้าน




EMD SD70MAC ของ CSX Transportation ทำขบวนมาครับ วิ่งมาช้ามากๆ ชนิดที่ผมไม่เคยเห็นรถไฟเขาทำกันบ่อยนัก ต้องขอบคุณข้อดีของ AC motor เขาล่ะครับ

[rkarn]

รถจักร EMD SD-70MAC ของ Union Pacific เป็นหัวที่สองใน consist ครับ




เมื่อรถจักรทั้งสองผ่านไป กรุณาสังเกตระดับกล้องถ่ายภาพนะครับ ผมยืนอยู่ ไม่ได้ก้ม นั่ง หรือย่อตัวแต่ประการใด ระดับความสูงของผมที่ประมาณ 175 cm ยังไม่สูงไปกว่าพื้นรถเลยครับ รถจักรสูงมากจริงๆ จะส่งลูกตราทางสะดวกกันด้วยมือไม่ถึงครับ ต้องใช้ไม้ยื่นส่งให้




ขบวนรถ open top hoppers บรรทุกถ่านหินมาเพียบแปล้




มีอยู่ช่วงหนึ่งที่รถทั้งขบวนหยุดสนิทที่ตรงหน้าผม จึงได้ภาพของ bogie มาให้ชมกันครับ




แล้วก็ coupler สังเกตนะครับ pin ที่ buckeye coupler หันหัวลงด้านล่าง ไม่เหมือนของบ้านเราที่หันขึ้นด้านบน ผมคุ้นๆ เหมือนกับว่า KTM ของมาเลเซียเขาจะหันลงเหมือนกัน ต้องให้ผู้ที่ทราบช่วยยืนยันครับ




load limit ที่ 228,800 lbs หรือประมาณ 100 ตัน คิดเฉลี่ยน้ำหนักลงแคร่ แคร่ละ 25 ตัน




damper สำหรับเทสินค้าแห้งลงโดยใช้แรงโน้มถ่วงของโลก

[rkarn]

มาชมกันต่อครับ...



รางผ่านการดูแลรักษาอย่างดี สวยงามมากครับ




ตู้สุดท้ายพร้อม EOT (end-of-train device) เจ้าเก่าที่มาแทน caboose (พห. หรือเปล่าครับ)




ไปไกลแล้ว




นำขบวนมาด้วย Canadian Pacific GE AC4400CW และอีกคันใน consist คือ CSX GE Dash 8-40CW ครับ นี่คือขบวนที่ขบวนรถถ่านหินเมื่อกี้หยุดรอ ลองเทียบขนาดของ engineer กับตัวรถนะครับ จะพอนึกออกทั้งความกว้างและความสูง




gondola บรรทุกเหล็กม้วน (มั๊งครับ )




autorack สำหรับบรรทุกรถยนต์ ภายในมี 2 ชั้น บรรทุกได้ชั้นละ 5-6 คันขึ้นกับขนาดรถครับ




คันนี้ไม่ใช่ box car ธรรมดา ผมไม่แน่ใจว่าเขาเรียกว่า high cube หรือ over height




coverred hopper สหรับสินค้าพวก grain หรือเมล็ดธัญพืชที่ต้องการการป้องกันจากฝนหรือความชื้น




คันนี้ผมจนปัญญาครับ นึกเท่าไรก็นึกไม่ออกว่าชื่ออะไรเสียแล้ว




tank car มีหลายขนาดความยาวด้วยครับ และแต่ละประเภทหน้าตาก็ไม่เหมือนกันด้วย มีทั้ง acid tank car, kaolin tank car ฯลฯ



grain hopper หรือ coverred hopper คันสุดท้าย พร้อม EOT เหมือนเดิมครับ




ของแถม


จบบริบูรณ์ครับ


กานต์

[CENTENNIAL]

ย้อนกลับมาดูกระทู้นี้ทีไร ผมก็อยากจะไปเห็นหัวรถจักรของรถไฟขนสินค้าของประเทศอเมริกาจริง คุณ rkarn ก็นานๆ ถึงจะว่างมาโพสต์ภาพ ไม่รู้จะบอกยังไงดีว่า ถ้ามีกล้องวีดีโอดิจิตอลก็รบกวนอัดภาพเครื่องไหวพร้อมเสียงเครื่องยนต์และหวีดของรถจักรอเมริกามาฝากด้วยครับ

อนาคตถ้าผมได้ย้ายไปทำงานต่างจังหวัดก็น่าจะมีเวลามากขึ้น และถ้ามีความพร้อม ผมก็ว่าจะลองไปชมให้ได้ซักครั้งในชีวิต ลาไปซักอาทิตย์นึงก็ยังดี
มีใครเป็นแฟนรถจักรอเมริกาเหมือนผมไหมครับ

[tong_sanam]

[Toyota1500]

สุดยอด

[CENTENNIAL]

[ExtendeD]

[suraphat]

เมื่อเราได้ดูจากภาพแล้ว จากที่กระผมได้ไปดูมานั้นในสหรัฐนั้น ทางรถไฟเขาจะใช้ทางขนาด 115-141 ปอนด์ต่อหลา ขึ้นอยู่กับว่าใช้ในสภาพทางแบบใด เช่นในเขตรถขนส่งมวลชนภายในเขตเมือง ก็จะใช้ทางขนาด 115 ปอนด์เช่นใช้ในทางบนรถ subway ใน chicago ที่ดำเนินการบริหารโดย Chicago Transport Authority (CTA) หรือถ้าเป็นทางในเขตนอกเมือง เช่นในภาพ ก็จะใช้ทางขนาด 141 ปอนด์ต่อหลา ซึ่งเป็นทางขนาดที่ใหญ่มาก โดยใช้ความกว้างของทางขนาดมาตรฐานคือ 1.435 เมตร ดังนั้นขนาดของทางที่เห็นจึงใหญ่มากในเขตนอกเมืองคือ 1.435 เมตร
ส่วนที่ถามว่าเขาติดตั้งอุปกรณ์อะไรไว้ในบริเวณข้างทาง นั้นเป็นอุปกรณ์ที่ใช้นับจำนวนรถในแต่ละขบวนที่ผ่าน เพื่อคำนวนหาความยาวของขบวนรถ และใช้ติดตามขบวนรถว่ากำลังวิ่งผ่านจุดใดบนเส้นทางไว้ด้วย คล้ายๆกับของบ้านเราที่แต่ก่อนเราจะให้ พรร. ประจำขบวนหาค่าความยาวขบวนรถของตน แล้วจะแจ้งให้ทางสถานีได้ทราบ ก่อนออกเดินทางเพื่อที่จะได้ปรับเปลี่ยนการหลีกหรือรอทางในย่านสถานีต่างๆ ที่โดยมากแล้ว ก็จะใช้กันในรถสินค้า เพราะความยาวของทางหลีกในสถานีแต่ละที่นั้นยาวไม่เท่ากัน ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เราพบเห็นใบเปลี่ยนหลีกหล่นอยู่เกลื่อนริมข้างทางรถไฟในบ้านเรา
อีกอย่างหนึ่งคือในสหรัฐอเมริกานั้น ปัจจุบันนี้เขาจะไม่มีรถ Caboose (หรือรถ พห.)ในแบบบ้านเราใช้งานกันแล้ว ซึ่งกระผมก็เข้าใจว่า เพิ่งเลิกใช้มาไม่นานนี้ โดยเขาจะใช้อุปกรณ์คือสัญญาณไฟท้ายขบวนเป็นตัวกำหนดว่าสิ้นสุดขบวนแล้ว ซึ่งก็คล้ายๆกับบ้านเราที่จะเห็นได้ว่าได้เริ่มมีการเลิกใช้บ้างแล้วโดยเฉพาะในขบวนรถที่มีการเหมาขบวน เช่นขบวนรถซีเมนต์ ขบวนรถน้ำมัน ด้วยเหตุที่ปัจจุบันนี้เราได้มีการใช้เบรคแบบลมอัด(Air Brake)แล้ว ซึ่งสามารถตรวจสอบการรั่วได้ที่หัวรถจักร ซึ่งถ้าท่อขาดหรือหลุด พนักงานก็สามรถทราบได้ทันทีด้วย ดังนั้น รถ Caboose จึงหมดความจำเป็นไปด้วยเหตุนี้

[pitch]

สุดยอดครับ...
รถไฟบ้านเขานี้อลังการจริงทั้งใหญ่ทั้งยาวห้ามคิดลึกนา