View previous topic :: View next topic
Author
Message
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42748
Location: NECTEC
Posted: 17/01/2022 9:27 pm Post subject:
ส่อว่าจะต้องเร้่งสร้างสะพานมิตรภาพไทยเพื่อรถไฟลาวจีนผ่านได้ เพื่อขนสินค้ามาไทย และ สถายีสินค้านาทา
https://www.youtube.com/watch?v=8hr72Nob77I
ศักดิ์สยาม ตอบกระทู้ส.ว. กางแผนยันคมนาคมเดินหน้าเร่งสร้างรถไฟเชื่อมต่อลาว
การเมือง
สยามรัฐออนไลน์
17 มกราคม 2565 14:57 น.
ศักดิ์สยาม ตอบกระทู้ส.ว. ในการพัฒนารองรับเปิดให้บริการรถไฟจีน-ลาว กางแผนยันคมนาคมเตรียมพร้อมต่อเนื่อง เดินหน้าศูนย์เปลี่ยนถ่ายสินค้าระหว่างประเทศ พร้อมลุยสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งใหม่เชื่อมโยงไร้รอยต่อ ยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน ประโยชน์สูงสุดของประเทศชาติ
วันที่ 17 ม.ค.65 ที่รัฐสภา มีการประชุมวุฒิสภา ที่มีพล.อ.สิงห์ศึก สิงห์ไพร รองประธานวุฒิสภาคนที่หนึ่ง เป็นประธานาในการประชุม ทั้งนี้ที่ประชุมได้พิจารณากระทู้ถามเรื่อง แผนการพัฒนาเพื่อรองรับการเปิดให้บริการรถไฟจีน-ลาว ของนายสุรเดช จิรัฐิติเจริญ สมาชิกวุฒิสภา โดยนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ชี้แจงว่า ข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์ ปัจจุบันประเทศจีนเป็นตลาดนำเข้า-ส่งออกที่สำคัญของไทย เป็นลำดับที่ 2 รองจากประเทศสหรัฐอเมริกา การค้าระหว่างไทย-จีน ส่วนใหญ่นำเข้า-ส่งออกผ่านทางทะเล ผ่านท่าเรือแหลมฉบังกว่า 90% ส่วนอีก 10% เป็นการขนส่งทางถนนผ่านประเทศลาว ทั้งนี้ มูลค่าการค้าระหว่างไทย-จีน มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นจากปี 2562 จำนวน 2.48 ล้านล้านบาท เป็นกว่า 3 ล้านล้านบาทในปี 2564 และมีแนวโน้มขาดดุลการค้า เป็น 8.54 แสนล้านบาท ขณะที่ จากสถิติของกรมศุลกากร ระหว่างปี พ.ศ. 2555 - 2563 ณ เดือนกุมภาพันธ์ 2564 มูลค่าการค้าไทย - จีน ณ ด่านชายแดนของไทย มีมูลค่าการค้านำเข้า-ส่งออก เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2555-2563 (9 ปีที่ผ่านมา) มูลค่าการส่งออกคงตัวและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดตั้งแต่ปี 2560 เป็นต้นมา โดยมีมูลค่าเพิ่มขึ้นถึงสามเท่า ในส่วนของมูลค่าการนำเข้าก็มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างมากเช่นกัน
นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า ส่วนปริมาณการขนส่งสินค้าทางรางรถไฟ ผ่านแดนหนองคาย-เวียงจันทน์ เมื่อรถไฟจีน-ลาว เปิดให้บริการแล้ว หากพิจารณาความสามารถสูงสุดในการขนส่งสินค้าของรถไฟในเส้นทางดังกล่าวผ่านมายังด่านศุลกากรหนองคายของประเทศไทย ซึ่งสามารถรองรับการขนส่งสินค้าได้สูงสุด 728 ตู้ต่อวัน คาดว่าจะมีตู้สินค้าเข้ามายังประเทศไทยผ่านด่านศุลกากรหนองคาย เพิ่มขึ้นประมาณ 50% ของปริมาณที่จะสามารถขนส่งได้ทั้งหมด โดยคาดว่าเพิ่มขึ้น 364 ตู้ต่อวัน ทั้งนี้ หากมีการเปิดให้บริการรถไฟระหว่างจีน-ลาว อาจทำให้ผู้ประกอบการมีทางเลือกในการขนส่งสินค้ามากขึ้น โดยผู้ประกอบการสามารถขนส่งสินค้าทางรถไฟไปจนถึงจีน ได้โดยตรง ไม่จำเป็นต้องมีการขนถ่ายสินค้าทางรถนำมาลงเรือที่ท่าเรือพาณิชย์เชียงแสน และเมื่อไปถึงท่าเรือปลายทางก็จะต้องขนถ่ายสินค้าขึ้นรถเพื่อนำสินค้าไปส่งยังผู้รับสินค้าอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งอาจทำให้ผู้ประกอบการได้รับความสะดวกหรือต้นทุนในการขนส่งสินค้าลดลงได้
นายศักดิ์สยาม กล่าวต่อว่า ส่วนข้อตกลงระหว่างประเทศปัจจุบัน บริเวณชายแดนไทย-ลาว ได้กำหนดให้มีศูนย์เปลี่ยนสินค้าระหว่างประเทศทางรางนั้น โดยจากบันทึกความร่วมมือระหว่างไท-ลาว-จีน ว่าด้วยการเชื่อมต่อเส้นทางรถไฟระหว่างหนองคาย-เวียงจันทน์ เมื่อวันที่ 25 เม.ย. 2562 ฝ่ายไทยและฝ่ายลาวตกลงที่จะให้มีพิธีการศุลกากร และสิ่งอำนวยความสะดวก ทั้งในบริเวณชายแดนของฝั่งไทยและฝั่งลาว ทั้งสองฝ่ายจะร่วมกันพิจารณาความเป็นไปได้ในการลดขั้นตอนพิธีการศุลกากรบริเวณชายแดน และตกลงกันว่าการเชื่อมต่อเส้นทางรถไฟระหว่างหนองคาย-เวียงจันทน์ ทั้งนี้ จะแบ่งการดำเนินการเป็น 2 ระยะ ได้แก่ ระยะที่ 1 จะพิจารณาให้มีการจัดตั้งสถานีท่าและสถานีเปลี่ยนถ่ายสินค้าทั้งในฝั่งไทยและฝั่งลาว เพื่อเชื่อมต่อโครงการรถไฟจีน-ลาว มายังโครงข่ายรถไฟขนาดทาง 1 เมตร ที่มีอยู่ของประเทศไทย และระยะที่ 2 โครงการความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย-จีน ช่วงนครราชสีมา-หนองคาย จะเชื่อมต่อกับสถานีดังกล่าว เพื่อเชื่อมต่อโครงการรถไฟจีน-ลาว และโครงการความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย-จีนต่อไป
รมว.คมนาคม กล่าวว่า ส่วนคำถามที่ระบุว่าเหตุใดขบวนรถไฟจีน-ลาว จึงไม่สามารถข้ามมาฝั่งไทยได้ และถ้าหากต้องการให้สามารถข้ามฝั่งไทย เพื่อทำการขนส่งผู้โดยสาร และขนส่งสินค้าทางรางต้องดำเนินการอย่างไร เรื่องนี้กระทรวงคมนาคม ได้เตรียมความพร้อมต่อการเชื่อมต่อการขนส่งข้ามแดนผ่านทางรถไฟ ช่วงหนองคาย-เวียงจันทน์ เพื่อใช้เชื่อมโยงเป็นโครงข่ายรถไฟไทย-ลาว-จีน โดยเส้นทางรถไฟไทย-ลาว ช่วงสถานีท่านาแล้ง-สถานีเวียงจันทน์ (บ้านคำสะหวาด) คาดว่าจะเปิดให้บริการใน ม.ค. 2565 ซึ่งผู้โดยสารที่เดินทางจากจีน-ลาว หากลงสถานีเวียงจันทน์ (บ้านไซ) จะมีการเชื่อมโยงการเดินทางระหว่างสถานีเวียงจันทน์ (บ้านไซ) กับสถานีเวียงจันทน์ (บ้านคำสะหวาด) ซึ่งมีระยะห่างระหว่างสองสถานีประมาณ 10 กิโลเมตร (กม.) โดยมีรถรับส่งให้บริการ ขณะที่ การเตรียมความพร้อมรองรับการเชื่อมต่อการเดินทางข้ามแดนผ่านทางรถไฟ ช่วงหนองคาย-เวียงจันทน์นั้น ได้แบ่งแนวทางการจัดขบวนรถไฟรองรับการเดินทางช่วงหนองคาย-ท่านาแล้ง เพื่อเชื่อมต่อไปยังลาว ที่สถานีเวียงจันทน์ (บ้านคำสะหวาด) ด้านการเตรียมความพร้อมรองรับการเชื่อมต่อการขนส่งสินค้าข้ามแดนผ่านทางรถไฟช่วงหนองคาย-เวียงจันทน์ มีแนวทางการบูรณาการเชื่อมต่อรถไฟไทย-ลาว-จีน เพื่อเชื่อมต่ออย่างไร้รอยต่อ ซึ่งในการขนส่งสินค้าข้ามแดนผ่านทางรถไฟช่วงหนองคาย-เวียงจันทน์ โดยการบริหารจัดการการใช้ทางรถไฟและการใช้สะพานให้มีความเหมาะสม เพิ่มความถี่การเดินรถไฟจากเดิม ขาไป 4 เที่ยว ขากลับ 4 เที่ยว และขนส่งสินค้าขบวนละ 12 แคร่ เพิ่มเป็น ขาไป 7 เที่ยว ขากลับ 7 เที่ยว และขนส่งสินค้าขบวนละ 25 แคร่ เพื่อเพิ่มทางเลือกในการขนส่งสินค้าของผู้ประกอบการไปยังท่าเรือแหลมฉบัง โดยจะเพิ่มความถี่ในช่วงเช้าเป็นหลักไม่ให้ส่งผลกระทบต่อการสัญจรบนสะพาน
รัฐบาลได้เห็นถึงความสำคัญในการเชื่อมต่อดังกล่าว ซึ่งพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีจึงแต่งตั้งคณะกรรมการบูรณาการการเชื่อมโยงทางรถไฟระหว่างไทย-ลาว โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ เป็นประธานกรรมการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอยู่ในองค์ประกอบ โดยเมื่อวันที่ 13 ม.ค. 2565 ได้มีการประชุมคณะกรรมการดังกล่าว โดยขอให้ทุกฝ่ายร่วมกันบูรณาการการทำงาน ยึดผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นที่ตั้งนำไปสู่การพัฒนา เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนอย่างยั่งยืน และได้สั่งการให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ดำเนินการของบกลาง เพื่อออกแบบสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งใหม่ และเร่งดำเนินการก่อสร้าง ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศต่อไปนายศักดิ์สยาม กล่าว
นายศักดิ์สยาม กล่าวต่ออีกว่า สำหรับการก่อสร้างศูนย์ย้ายเปลี่ยนถ่ายสินค้าระหว่างประเทศของฝั่งไทยนั้น จากการประชุมติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงานตามมติคณะกรรมการพัฒนาระบบการบริหารจัดการและขนส่งสินค้า ครั้งที่ 1/2564 เรื่อง แนวทางการดำเนินงานเพื่อเตรียมความพร้อมรองรับการเปิดให้บริการรถไฟสายจีน- ลาว เมื่อวันที่ 23 ก.ค. 2564 ที่ผ่านมา ที่ประชุมได้มีมติให้ใช้สถานีรถไฟหนองคายเป็นศูนย์เปลี่ยนถ่ายสินค้าชั่วคราวในระยะเร่งด่วน และมอบหมายให้ รฟท.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งรัดการพัฒนาสถานีรถไฟหนองคายให้แล้วเสร็จ ตามแผนการดำเนินงาน โดยในปัจจุบันอยู่ระหว่างว่าจ้างที่ปรึกษาออกแบบรายละเอียดงานโยธา ในโครงการความร่วมมือระหว่างไทย-จีนในการพัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูงเพื่อเชื่อมโยงภูมิภาค ช่วงกรุงเทพ-หนองคาย (ระยะที่ 2 ช่วงนครราชสีมา-หนองคาย) และการออกแบบย่านเปลี่ยนถ่ายสินค้านาทา จ.หนองคาย ได้รวมอยู่ในงานออกแบบดังกล่าว โดยปัจจุบัน รฟท.อยู่ระหว่างของบประมาณ เพื่อดำเนินการศึกษาและวิเคราะห์การให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ โครงการศูนย์เปลี่ยนถ่ายสินค้าและย่านกองเก็บตู้สินค้าเพื่อรองรับการขนส่งทางราง จังหวัดหนองคาย ซึ่งจะคัดเลือกเอกชนผู้เข้าร่วมลงทุนตามพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. 2562 ต่อไป
ADVERTISEMENT
รมว.คมนาคม กล่าวว่า สำหรับรูปแบบการบริการศูนย์ย้ายเปลี่ยนถ่ายสินค้าระหว่างประเทศฝั่งไทย มีลักษณะการลงทุน การบริการ และการให้บริการนั้น กระทรวงคมนาคม โดยกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ระบุว่า ศูนย์เปลี่ยนถ่ายรูปแบบการขนส่งสินค้าเชียงของ จ.เชียงราย และศูนย์การขนส่งชายแดนจังหวัดนครพนม โดยเปิดโอกาสให้เอกชนเข้าร่วมลงทุนและรับผิดชอบในส่วนของการบริหารจัดการและบำรุงรักษา (O&M) ในรูปแบบ PPP Net Cost ซึ่งให้ภาคเอกชนรับผิดชอบการให้บริการ เช่น บริการพื้นที่สำหรับเปลี่ยนถ่ายการขนส่ง บริการพื้นที่คลังสินค้า บริการด้านศุลกากร บริการยกขนสินค้า ทั้งนี้ เอกชนรับความเสี่ยงด้านรายได้และจ่ายค่าสัมปทานให้แก่ภาครัฐ โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างดำเนินการคัดเลือกเอกชนเข้าร่วมลงทุน และอยู่ระหว่างการดำเนินการขออนุมัติเพื่อดำเนินการสถานีขนส่งสินค้าภูมิภาค ในรูปแบบ PPP ตามขั้นตอนของพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. 2562 ต่อไป ขณะที่ จากผลการศึกษาและวิเคราะห์โครงการสถานีขนส่งสินค้าภูมิภาค ตามมาตรา 25 แห่งพระราชบัญญัติการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ.2556 เพื่อศึกษารูปแบบ PPP ระบุว่า สถานีขนส่งสินค้า จ.หนองคาย มีรูปแบบการร่วมลงทุนในรูปแบบ PPP Gross Cost โดยภาครัฐเป็นเจ้าของรายได้ของโครงการ และจ่ายค่าตอบแทนจากการให้บริการ (AP) ให้กับเอกชน Last edited by Wisarut on 19/01/2022 5:48 am; edited 1 time in total
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 44634
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 18/01/2022 1:49 pm Post subject:
ครม.รับทราบความคืบหน้าบูรณาการเชื่อมโยงทางรถไฟไทย-ลาว-จีน
สยามรัฐออนไลน์ 18 มกราคม 2565 13:47 น. การเมือง
วันที่ 18 ม.ค.65 น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) วันที่ 18 ม.ค. 2565 ได้รับทราบผลการประชุมคณะกรรมการบูรณาการการเชื่อมโยงทางรถไฟระหว่างไทย ลาว และจีน ครั้งที่ 1/2565 ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ
ทั้งนี้ กระทรวงคมนาคม รายงานว่าที่ประชุมคณะกรรมการการเชื่อมโยงทางรถไฟฯ ซึ่งนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข เป็นประธานเมื่อวันที่ 13 ม.ค. 2565 ได้เห็นชอบแผนการก่อสร้างของการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) ประกอบด้วยโครงการรถไฟความเร็วสูงระยะที่1 ช่วงกรุงเทพฯ-นครราชสีมา ขณะนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้าง โดยคาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในปี 2569 ระยะที่2 นครราชสีมา-หนองคาย ปัจจุบันอยู่ระหว่างสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(สผ.) พิจารณารายงานการประเมินผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม(EIA) โดยคาดว่าจะเสนอต่อ ครม.ภายในปี 2565 และเปิดให้บริการได้ในปี 2571 และโครงการถไฟทางคู่ช่วงขอนแก่น-หนองคาย ปัจจุบันอยู่ระหว่างรอเสนอ ครม. ภายในเดือนม.ค. และคาดว่าจะเปิดให้บริการในปี 2569
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ประเด็นต่อมาที่ได้มีการเห็นชอบคือ การบริหารจัดการใช้ทางรถไฟและการใช้สะพานข้ามแม่น้ำโขง ในส่วนของการบริหารจัดการสะพานเดิมระหว่างรอกการก่อสร้างสะพานแห่งใหม่ เพิ่มขบวนรถขาไป 7 ขวบน และขากลับ 7 ขบวน รวม 14 ขบวนต่อวัน รองรับสินค้าขบวนละ 25 แคร่ ส่วนการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งใหม่ จะก่อสร้างใกล้กับสะพานเดิมอยู่แห่างออกไปประมาณ 30 เมตร มีทั้งรางรถไฟขนาดมาตรฐานและทางขนาด 1 เมตร ปัจจุบันได้ข้อตกลงว่าไทยและลาวจะร่วมลงทุนค่าใช้จ่ายร่วมกันในอาณาเขตของแต่ละฝ่าย และให้เร่งการจัดประชุมไตรภาคีเพื่อหารือแนวแทางเชื่อมโยงทางรถไฟ ในเดือนม.ค. 2565
พร้อมกับเห็นชอบการพัฒนาย่านขนถ่ายสินค้าฝั่งไทย-ลาว เพื่อเชื่อมต่ออย่างไร้รอยต่อในการขนสินค้าข้ามแดนผ่านทางรถไฟช่วงหนองคาย-เวียงจันทน์ ทั้งระยะเร่งด่วนและระยะยาว
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการการเชื่อมโยงทางรถไฟฯ ยังได้เห็นชอบในหลักการการกำกับติดตามเพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานของหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้อง ทั้งกรมทางหลวงชนบทเกี่ยวกับการพัฒนาพื้นที่ตรวจปล่อยสินค้า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เกี่ยวกับการลงนามในพิธีสารต่างๆ ระหว่างไทย-จีน การอบรมพัฒนาบุคลากร การเตรียมพื้นที่ด่าน สิ่งอำนวยความสะดวกในการกักกันและตรวจปล่อยสินค้าเกษตรทั้งขาเข้าและออก กรมศุลกากร ในส่วนโครงการระบบตรวจสอบ Mobile X-Ray กระทรวงการต่างประเทศเกี่ยวกับการรวบรวมข้อมูลการพัฒนาในฝั่งลาวเพื่อการแลกเปลี่ยนและบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับไทย กระทรวงอุตสาหกรรม ในส่วนของการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมอุดรธานีและศูนย์กระจายสินค้าทางรางเพื่อรองรับรถไฟจากลาวและจีน
นอกจากนี้ ได้มีการเห็นชอบในหลักการจัดทำความตกลง (Framework Agreement)การขนส่งทางรถไฟระหว่างไทย-ลาวและจีน โดยมีสาระสำคัญในการกำหนดสิทธิการเดินทางรถไฟระหว่าง 3 ประเทศ เพื่อให้เกิดการเดินรถไฟอย่างมีประสิทธิภาพ
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า กระทรวงคมนาคม ยังได้รายงานให้ทราบถึงสถานะการค้าและการขนส่งภายหลังรถไฟลาว-จีน เปิดให้บริการ เปรียบเทียบสถิติการส่งออกสินค้าผ่านชายแดนหนองคายในช่วงเดือน ธ.ค. 2563 กับช่วงธ.ค. 2564 พบว่าปริมาณการขนส่งเพิ่มขึ้นจาก 116,552 ตัน เป็น 304,119 ตัน ขณะที่มูลค่าเพิ่มขึ้น 4.64 พันล้านบาท เป็น 6.91 พันล้านบาท มูลค่านำเข้าส่งออกที่ด่านหนองคายเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ มีการเพิ่มรถไฟจาก 4 ขบวนเป็น 14 ขบวนต่อวัน และการขนส่งขบวนละ 12 แคร่ เป็น 25 แคร่ ซึ่งสามารถมีศักยภาพเพิ่มขึ้นประมาณ 8 เท่า แต่ปริมาณการขนส่งยังไม่มากนักเนื่องจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 44634
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42748
Location: NECTEC
Posted: 19/01/2022 8:48 pm Post subject:
Mongwin wrote:
ครม.รับทราบความคืบหน้าบูรณาการเชื่อมโยงทางรถไฟไทย-ลาว-จีน
สยามรัฐออนไลน์ 18 มกราคม 2565 13:47 น. การเมือง
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ประเด็นต่อมาที่ได้มีการเห็นชอบคือ การบริหารจัดการใช้ทางรถไฟและการใช้สะพานข้ามแม่น้ำโขง ในส่วนของการบริหารจัดการสะพานเดิมระหว่างรอกการก่อสร้างสะพานแห่งใหม่ เพิ่มขบวนรถขาไป 7 ขวบน และขากลับ 7 ขบวน รวม 14 ขบวนต่อวัน รองรับสินค้าขบวนละ 25 แคร่ ส่วนการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งใหม่ จะก่อสร้างใกล้กับสะพานเดิมอยู่แห่างออกไปประมาณ 30 เมตร มีทั้งรางรถไฟขนาดมาตรฐานและทางขนาด 1 เมตร ปัจจุบันได้ข้อตกลงว่าไทยและลาวจะร่วมลงทุนค่าใช้จ่ายร่วมกันในอาณาเขตของแต่ละฝ่าย และให้เร่งการจัดประชุมไตรภาคีเพื่อหารือแนวแทางเชื่อมโยงทางรถไฟ ในเดือนม.ค. 2565
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า กระทรวงคมนาคม ยังได้รายงานให้ทราบถึงสถานะการค้าและการขนส่งภายหลังรถไฟลาว-จีน เปิดให้บริการ เปรียบเทียบสถิติการส่งออกสินค้าผ่านชายแดนหนองคายในช่วงเดือน ธ.ค. 2563 กับช่วงธ.ค. 2564 พบว่าปริมาณการขนส่งเพิ่มขึ้นจาก 116,552 ตัน เป็น 304,119 ตัน ขณะที่มูลค่าเพิ่มขึ้น 4.64 พันล้านบาท เป็น 6.91 พันล้านบาท มูลค่านำเข้าส่งออกที่ด่านหนองคายเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ มีการเพิ่มรถไฟจาก 4 ขบวนเป็น 14 ขบวนต่อวัน และการขนส่งขบวนละ 12 แคร่ เป็น 25 แคร่ ซึ่งสามารถมีศักยภาพเพิ่มขึ้นประมาณ 8 เท่า แต่ปริมาณการขนส่งยังไม่มากนักเนื่องจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19
ลาวก๋เสนอข่าวนี้เหมือนกัน แต่ เน้นไปที่อนุทิน
https://www.facebook.com/fm90laos/posts/4816072318485990
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42748
Location: NECTEC
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42748
Location: NECTEC
Posted: 19/01/2022 10:30 pm Post subject:
รัฐบาลตื่นแล้ว!!! เร่งเชื่อมต่อ รถไฟไทย-ลาว มติ ครม. เร่งก่อสร้างสะพานใหม่ จุดเปลี่ยนถ่ายสินค้า ไทย-ลาว-จีน
วันพุธ ที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2565 เวลา 21:56 น.
วันนี้ขอเอา มติ ครม. เมื่อวาน เรื่องแผนการเชื่อมโยงรถไฟ ไทย-ลาว-จีน เพื่อรองรับการเปิดให้บริการของรถไฟ ลาว-จีน เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา
ซึ่งเพื่อนๆ คงยังจำได้ว่าผมเคยโวยเรื่องการนิ่งเฉย และไม่มีแผนการรองรับใดๆเลย จนฝั่งลาวได้เริ่มมีการก่อสร้างจุดเปลี่ยนถ่ายสินค้า ระหว่างราง 1 เมตร (ไทย) กับ ราง 1.435 (ลาว) ที่ เวียงจันทน์ Logistics park บริเวณสถานีรถไฟท่านาแล้ง
ตามโพสต์นี้
https://www.facebook.com/491766874595130/posts/1275803226191487/?d=n
ซึ่งล่าสุดทาง ครม. ได้มีการทำแผนรองรับ (ซึ่งช้าไปหลายปีเลย) ดังนี้
1. เห็นชอบและเร่งรัด แผนการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงสายอีสาน ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้แก่ โครงการรถไฟความเร็วสูง
- ระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพฯ - นครราชสีมา
- ระยะที่ 2 ช่วงนครราชสีมา - หนองคาย
และโครงการรถไฟทางคู่ ช่วงขอนแก่น - หนองคาย
2. เห็นชอบแผนการบริหารจัดการใช้ทางรถไฟและการใช้สะพาน ได้แก่ การบริหารจัดการสะพานเดิม ระหว่างรอการก่อสร้างสะพานแห่งใหม่ และการก่อสร้างสะพาน (รถไฟ) ข้ามแม่น้าโขงแห่งใหม่
3) การพัฒนาย่านขนถ่ายสินค้า พื้นที่ด่านศุลกากรหนองคายคาดว่ามีความสามารถในการรองรับรถบรรทุกสูงสุด 650 คันต่อวัน ทั้งนี้ แนวทางพัฒนาย่านขนถ่ายสินค้าของฝั่งไทย - ลาว เพื่อเชื่อมต่ออย่างไร้รองต่อในการขนส่งสินค้า ข้ามแดนผ่านทางรถไฟช่วงหนองคาย - เวียงจันทน์ แบ่งเป็น 2 ระยะ ได้แก่
ระยะเร่งด่วน: การพัฒนาย่านสถานีหนองคายเป็นพื้นที่เปลี่ยนถ่ายสินค้า
ระยะยาว : การพัฒนาพื้นที่นาทาเพื่อเป็นศูนย์เปลี่ยนถ่ายสินค้าและย่านกอง เก็บตู้สินค้า (เพื่อรองรับการขนส่งสินค้าในอนาคต)
พร้อมกับการ ประสานงานร่วมมือระหว่างหน่วยงาน ได้แก่ กรมทางหลวง, กระทรวงเกษตรฯ, กรมศุลกากร, กระทรวงการต่างประเทศ และ กระทรวงอุตสาหกรรม
เพื่อจะส่งเสริมการใช้งานและเชื่อมต่อระหว่าง รถไฟ ไทย-ลาว-จีน ให้ผู้ประกอบการและประชาชนได้ประโยชน์สูงสุด!!!
ลิ้งค์ มติ ครม.
https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/50657
ถ้าใครสนใจในรายละเอียดแผนการพัฒนา ซึ่งทาง รมต.คมนาคม ได้ชี้แจงกระทู้ถาม จาก สว. สามารถดูได้จากลิ้งค์นี้ครับ
https://www.youtube.com/watch?v=xlEgiByL76c
https://mgronline.com/business/detail/9650000005205
รวมถึงคลิปความคืบหน้าการประชุมความร่วมมือด้านรถไฟ ไทย-จีน ตามลิ้งค์นี้ครับ
https://www.youtube.com/watch?v=17F4KIOB2kE
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 44634
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42748
Location: NECTEC
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42748
Location: NECTEC
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42748
Location: NECTEC
Posted: 21/01/2022 10:32 pm Post subject:
ที่มาข่าวนี้:
ประวัติศาสตร์หน้าใหม่ ส่งออกข้าวไทยล็อตแรก 1,000 ตันโดย รถไฟสายจีน-ลาว
หน้าเศรษฐกิจ
การค้า - การเกษตร
ฐานเศรษฐกิจดิจิทัล |
วันพฤหัสบดี ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2565 เวลา 18:27 น.
จุรินทร์-เฉลิมชัย ร่วมสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ ส่งออกข้าวไทยล็อตแรก 1,000 ตันโดย รถไฟสายจีน-ลาว ถึงมหานครฉงชิ่งเป็นครั้งแรก อลงกรณ์ ชี้เป็นศักราชใหม่ของอีสานเกตเวย์ ตั้งเป้าส่งออกยางพารา ผลไม้ กล้วยไม้ สินค้าประมงและปศุสัตว์
นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยวันนี้ (20 ม.ค.) ว่า ประเทศไทยสามารถส่งออกข้าวสาร จำนวน 20 ตู้ ปริมาณ 1,000 ตัน โดยใช้เส้นทางรถไฟสายจีน-ลาวไปถึงมหานครฉงชิ่ง (Chongqing) ในภาคตะวันตกของจีนสำเร็จเป็นครั้งแรก ถือเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของการขนส่งระบบรางเพื่อขยายโอกาสทางการค้าและการสร้างรายได้ให้กับเกษตรกร ผู้ประกอบการและประเทศโดยส่วนรวม
ภายใต้การทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดระหว่าง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กับกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการต่างประเทศ ภาคเกษตรกรและภาคเอกชนตามนโยบายการพัฒนาโลจิสติกส์เกษตรและยุทธศาสตร์ตลาดนำการผลิตเพื่อการส่งออกของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีพาณิชย์กับ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และต้องขอบคุณ สปป.ลาวและจีนในความร่วมมืออันดียิ่ง
สำหรับความสำเร็จก้าวแรกในครั้งนี้แม้ต้องเผชิญกับการแพร่ระบาดของโควิด19 หลายรอบ ซึ่งทำให้การทำงานเป็นไปด้วยความยากลำบากโดยเฉพาะในปีที่ผ่านมา โดยจะประเมินผลการส่งออกข้าวล็อตแรกครั้งนี้ รวมทั้งระบบการจองขบวนรถขนส่งสินค้าและการจองตู้คอนเทนเนอร์ ซึ่งกำลังประสานงานกับผู้ให้บริการของทั้ง สปป.ลาว และจีนเพื่อเร่งขยายผลไปสู่การส่งออกสินค้าเกษตรตัวอื่นรวมทั้งเป้าหมายตลาดใหม่ๆ ทั้งในมณฑลต่างๆ ของจีนและประเทศอื่นๆ ต่อไปโดยเร็ว
นายอลงกรณ์ กล่าวต่อไปว่า เราเดินหน้าสร้างความพร้อมสำหรับวันนี้มาเป็นเวลากว่า 2 ปี สำหรับการขนส่งผ่านทางรถไฟสายใหม่ซึ่งเพิ่งเปิดเป็นทางการ เมื่อวันที่ 3 ธันวาคมที่ผ่านมา ตามยุทธศาสตร์อีสานเกตเวย์ (ESAN Gateway) เชื่อมไทย-เชื่อมโลก นับเป็นการเปิดศักราชหน้าใหม่ของการค้าการส่งออกสินค้าไทยไปจีน โดยมีเป้าหมายสู่ตลาดต่อไปคือตลาดเอเซียกลาง เอเซียตะวันออก ตะวันออกกลาง รัสเซีย และยุโรปและเพิ่มสินค้าเกษตรที่จะขนส่งผ่านเส้นทางรถไฟสายนี้ คือ ยางพารา ผลไม้ กล้วยไม้ไทย มันสำปะหลัง ปาล์มน้ำมัน สินค้าประมงและปศุสัตว์รวมทั้งสินค้าเกษตรแปรรูปและสินค้าอื่นๆ
สำหรับมหานครฉงชิ่ง เป็นชุมทางรถไฟและการขนส่งหลายรูปแบบโดยอาศัยข้อได้เปรียบจากการมีที่ตั้งอยู่บนเส้นทางสายไหมใหม่ BRI (อีต้าอีลู่) และแม่น้ำแยงซีเกียง จึงมีความพร้อมทางด้านโลจิสติกส์และได้วางนโยบายเชื่อมโยง ฉงชิ่ง-อาเซียน เป็นแนวทางที่สอดคล้องกับรัฐบาลไทย ทั้งนี้ มหานครฉงชิ่งมีเขตโลจิสติกส์อาเซียนและนานาชาติในตำบลหนานเผิง เขตปาหนาน (Chongqing ASEAN International Logistics Park) ถือเป็นเส้นทางขนส่งและระบบโลจิสติกส์ที่สำคัญและเป็น ประตูเศรษฐกิจของจีนตะวันตก สามารถเป็นจุดกระจายสินค้าไปมณฑลต่างๆ ในภูมิภาคตะวันตกของจีนและขนส่งผ่านไปยังประเทศต่างๆ
ทั้งนี้ ตนเคยเดินทางเยือนมหานครฉงชิ่งเห็นถึงศักยภาพของมหานครแห่งนี้เพราะนอกจากการเป็นชุมทางการขนส่งทางรางและทางอากาศแล้ว มหานครฉงชิ่งยังสามารถเชื่อมโยงเส้นทางขนส่งในแม่น้ำแยงซีเกียงเพราะมีท่าเรือ กว่อหยวน ตั้งอยู่ที่เขตเศรษฐกิจใหม่เหลี่ยงเจียงเป็นจุดกระจายสินค้าเข้าไปสู่ตอนกลางและภาคตะวันออกของจีนได้อีกเส้นทางหนึ่งด้วย ยิ่งกว่านั้นยังมีตลาดค้าส่งสินค้าเกษตรนานาชาติซวงฝู เป็นศูนย์กลางกระจายผักและผลไม้ของจีนตะวันตก ตลาดซวงฝูตั้งอยู่ในทำเลที่มีการคมนาคมขนส่งที่สะดวก มีการเชื่อมโยงกับสถานีรถไฟ ท่าเรือและท่าอากาศยานของฉงชิ่งเหมาะต่อการค้าขายและกระจายสินค้าเกษตรของไทย
โดยเฉพาะผลไม้ที่จะขนส่งทางรถไฟจากไทยไปฉงชิ่ง ภายในเวลา 1 2 วัน ทำให้มีความสดและอร่อย มั่นใจจะเพิ่มการขายขยายตลาดได้อีกมากหลังจากปี 2564 เราส่งออกผลไม้ได้กว่าแสนล้านบาท ทำลายสถิติที่ผ่านมา และครองมาร์เก็ตแชร์ตลาดผลไม้ในจีนเป็นอันดับหนึ่ง อย่างไรก็ตามยังมีความเสี่ยงเกี่ยวกับการระบาดของโควิด19 และมีผลกระทบต่อการขนส่งและการเปิดปิดด่านเข้าออกจีนกรณีพบการปนเปื้อน ซึ่งเราจะการ์ดตกในเรื่องนี้ไม่ได้ ตั้งแต่ฟาร์มถึงตลาด โดย ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สั่งการเป็นพิเศษในเรื่องนี้
เฉลิมชัยมอบอลงกรณ์ลงพื้นที่ขับเคลื่อนประตูอีสานเชื่อมไทยเชื่อมโลก
หน้าเศรษฐกิจ การค้า - การเกษตร
ฐานเศรษฐกิจดิจิทัล |
วันศุกร์ ที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2565 เวลา 12:48 น.
เดินหน้าขับเคลื่อนประตูอีสานเชื่อมไทยเชื่อมโลก เฉลิมชัยมอบ อลงกรณ์ลงพื้นที่หน้าด่านหนองคาย-อุดรฯ สัปดาห์หน้า ประสานผู้ประกอบการ ไทย-ลาว-จีนร่วมมือส่งออกข้าว-ยางพารา-ผลไม้บนเส้นทางรถไฟสายใหม่รับมือฤดูกาลผลิตปี 2565
นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการความร่วมมือระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(กรกอ.) และประธานคณะทำงานจัดทำแผนแก้ไขปัญหาผลไม้เศรษฐกิจล่วงหน้าทั้งระบบ เปิดเผยวันนี้(21ม.ค.65) ว่า
ในวันพฤหัสบดีสัปดาห์หน้าจะเดินทางไปหนองคาย-อุดรฯ เพื่อหารือกับผู้ประกอบการ ไทย-ลาว-จีนด้านโลจิสติกส์เพื่อร่วมมือกันในการสนับสนุนการส่งออกสินค้าเกษตรเช่นข้าว ยางพารา ผัก ผลไม้ กล้วยไม้ สินค้าประมงและสินค้าปศุสัตว์บนเส้นทางรถไฟลาว-จีนสำหรับฤดูกาลผลิตปี2565ตามข้อสั่งการของ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
รวมทั้งการติดตามความคืบหน้าของนิคมอุตสาหกรรมอุดรธานีทางด้านการลงทุนอุตสาหกรรมเกษตรอาหารและโครงการโลจิสติกส์ปาร์คตลอดจนการใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น ไนโตรเจนฟรีสเซอร์ และระบบตรวจสอบย้อนกลับเพื่อการส่งออก
ประเทศไทยสามารถส่งออกข้าวสาร จำนวน 20 ตู้ ปริมาณ 500 ตันโดยใช้เส้นทางรถไฟสายจีน-ลาวโดยมีจุดหมายปลายทางที่มหานครฉงชิ่ง ( Chongqing ) ในภาคตะวันตกของจีนเป็น Shipment แรก ซึ่งสามารถผ่านการตรวจตราและออกใบรับรองจากด่านตรวจพืชที่หนองคายขนส่งถึงท่าบกท่านา และผ่านการเห็นชอบของด่านศุลกากรลาวแล้วรอขบวนรถขนส่งสินค้าเพื่อเดินทางออกจากสถานีเวียงจันทน์ใต้ไปมหานครฉงชิ่ง
ก่อนหน้านี้ได้รับรายงานคลาดเคลื่อนจากหน่วยงานว่า ขนส่งไปฉงชิ่งแล้ว รวมทั้งจำนวนน้ำหนักซึ่งได้ช่วยประสานงานกับทางลาว และได้รับความร่วมมืออย่างดี ในการอนุมัติผ่านด่านศุลกากร และกระทรวงเกษตรของลาว เมื่อขบวนรถไฟขนส่งมาถึงก็พร้อมออกเดินทางได้ทันที
นายอลงกรณ์ กล่าวว่า การขนส่งระบบรางเป็นระบบใหม่จากไทยผ่านแดนลาว เพื่อขยายโอกาสทางการค้าภายใต้การทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กับ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการต่างประเทศ ภาคเกษตรกร และภาคเอกชน ตามนโยบายการพัฒนาโลจิสติกส์เกษตร และยุทธศาสตร์ตลาดนำการผลิตเพื่อการส่งออกของ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีพาณิชย์กับ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งทั้ง2ท่านได้ดำเนินการเจรจากับทางการจีนและลาว ทั้งเป็นทางการและไม่เป็นทางการตลอดมา
โดยเฉพาะในภาวะที่ต้องเผชิญกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกแล้วระลอกเล่า ซึ่งทำให้การทำงานเป็นไปด้วยความยากลำบาก แต่ด้วยความมุ่งมั่นและความร่วมมือของทุกฝ่าย จึงสามารถฝ่าฟันอุปสรรคมาได้และถอดบทเรียนปัญหามาสู่การขับเคลื่อนไปข้างหน้าร่วมกัน
นายอลงกรณ์ กล่าวต่อไปว่า ภาคอีสานจะเปลี่ยนไปภายใต้ยุทธศาสตร์อีสานเกตเวย์ (ESAN Gateway) เชื่อมไทย-เชื่อมโลก อีสานไม่เพียงเป็นประตูโลจิสติกส์การค้าหน้าด่าน แต่จะเป็นฐานใหม่ของอุตสาหกรรมเกษตรอาหารในการผลิตเกษตรมูลค่าสูง ตามโครงการ 1 กลุ่มจังหวัด 1 นิคมอุตสาหกรรมเกษตรอาหารของกรกอ. ทั้งกลุ่มอีสานเหนือ อีสานกลาง และอีสานใต้ เพื่อสร้างรายได้เพิ่มให้กับเกษตรกร ผู้ประกอบการและประเทศโดยรวม
สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ ส่งออก"ข้าวไทย"ล็อตแรก 1,000 ตัน รถไฟสายจีน-ลาว
คมชัดลึก ออนไลน์
วันศุกร์ ที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2565 เวลา 02:24 น.
สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของการขนส่งระบบราง จุรินทร์-เฉลิมชัย ร่วมส่งออก"ข้าวไทย" ล็อตแรก 1,000 ตัน ผ่านรถไฟสายจีน-ลาว ถึงมหานครฉงชิ่งในภาคตะวันตกของจีนสำเร็จเป็นครั้งแรก
นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผย ว่า ประเทศไทยสามารถส่งออก "ข้าวสาร" จำนวน 20 ตู้ ปริมาณ 1,000 ตัน โดยใช้เส้นทางรถไฟสายจีน-ลาวไปถึงมหานครฉงชิ่ง (Chongqing) ในภาคตะวันตกของจีนสำเร็จเป็นครั้งแรก
ถือเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของการขนส่งระบบรางเพื่อขยายโอกาสทางการค้าและการสร้างรายได้ให้กับเกษตรกร ผู้ประกอบการและประเทศโดยส่วนรวม ภายใต้การทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดระหว่าง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กับกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการต่างประเทศ ภาคเกษตรกรและภาคเอกชนตามนโยบายการพัฒนาโลจิสติกส์เกษตรและยุทธศาสตร์ตลาดนำการผลิตเพื่อการส่งออกของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีพาณิชย์กับ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และต้องขอบคุณ สปป.ลาวและจีนในความร่วมมืออันดียิ่ง
สำหรับความสำเร็จก้าวแรกในครั้งนี้แม้ต้องเผชิญกับการแพร่ระบาดของโควิด19 หลายรอบ ซึ่งทำให้การทำงานเป็นไปด้วยความยากลำบากโดยเฉพาะในปีที่ผ่านมา โดยจะประเมินผลการส่งออก "ข้าว" ล็อตแรกครั้งนี้ รวมทั้งระบบการจองขบวนรถขนส่งสินค้าและการจองตู้คอนเทนเนอร์ซึ่งกำลังประสานงานกับผู้ให้บริการของทั้งสปป.ลาว และจีนเพื่อเร่งขยายผลไปสู่การส่งออกสินค้าเกษตรตัวอื่นรวมทั้งเป้าหมายตลาดใหม่ ๆ ทั้งในมณฑลต่าง ๆ ของจีนและประเทศอื่น ๆ ต่อไปโดยเร็ว
นายอลงกรณ์ กล่าวต่อไปว่า เราเดินหน้าสร้างความพร้อมสำหรับวันนี้มาเป็นเวลากว่า 2 ปี สำหรับการขนส่งผ่านทางรถไฟสายใหม่ซึ่งเพิ่งเปิดเป็นทางการ เมื่อวันที่ 3 ธันวาคมที่ผ่านมา ตามยุทธศาสตร์อีสานเกตเวย์ (ESAN Gateway) เชื่อมไทย-เชื่อมโลก นับเป็นการเปิดศักราชหน้าใหม่ของการค้าการส่งออกสินค้าไทยไปจีน โดยมีเป้าหมายสู่ตลาดต่อไปคือตลาดเอเซียกลาง เอเซียตะวันออก ตะวันออกกลาง รัสเซีย และยุโรปและเพิ่มสินค้าเกษตรที่จะขนส่งผ่านเส้นทางรถไฟสายนี้ คือ ยางพารา ผลไม้ กล้วยไม้ไทย มันสำปะหลัง ปาล์มน้ำมัน สินค้าประมงและปศุสัตว์รวมทั้งสินค้าเกษตรแปรรูปและสินค้าอื่นๆ
สำหรับมหานครฉงชิ่ง เป็นชุมทางรถไฟและการขนส่งหลายรูปแบบโดยอาศัยข้อได้เปรียบจากการมีที่ตั้งอยู่บนเส้นทางสายไหมใหม่ BRI (อีต้าอีลู่) และแม่น้ำแยงซีเกียงจึงมีความพร้อมทางด้านโลจิสติกส์และได้วางนโยบายเชื่อมโยง ฉงชิ่ง-อาเซียน เป็นแนวทางที่สอดคล้องกับรัฐบาลไทย
ทั้งนี้ มหานครฉงชิ่งมีเขตโลจิสติกส์อาเซียนและนานาชาติในตำบลหนานเผิง เขตปาหนาน (Chongqing ASEAN International Logistics Park) ถือเป็นเส้นทางขนส่งและระบบโลจิสติกส์ที่สำคัญและเป็น ประตูเศรษฐกิจของจีนตะวันตก สามารถเป็นจุดกระจายสินค้าไปมณฑลต่าง ๆ ในภูมิภาคตะวันตกของจีนและขนส่งผ่านไปยังประเทศต่าง ๆ
ทั้งนี้ตนเคยเดินทางเยือนมหานครฉงชิ่งเห็นถึงศักยภาพของมหานครแห่งนี้เพราะนอกจากการเป็นชุมทางการขนส่งทางรางและทางอากาศแล้ว มหานครฉงชิ่งยังสามารถเชื่อมโยงเส้นทางขนส่งในแม่น้ำแยงซีเกียงเพราะมีท่าเรือ กว่อหยวน ตั้งอยู่ที่เขตเศรษฐกิจใหม่เหลี่ยงเจียงเป็นจุดกระจายสินค้าเข้าไปสู่ตอนกลางและภาคตะวันออกของจีนได้อีกเส้นทางหนึ่งด้วย
ยิ่งกว่านั้นยังมีตลาดค้าส่งสินค้าเกษตรนานาชาติซวงฝู เป็นศูนย์กลางกระจายผักและผลไม้ของจีนตะวันตก ตลาดซวงฝูตั้งอยู่ในทำเลที่มีการคมนาคมขนส่งที่สะดวก มีการเชื่อมโยงกับสถานีรถไฟ ท่าเรือและท่าอากาศยานของฉงชิ่งเหมาะต่อการค้าขายและกระจายสินค้าเกษตรของไทย โดยเฉพาะผลไม้ที่จะขนส่งทางรถไฟจากไทยไปฉงชิ่งภายในเวลา 1 2 วัน
ทำให้มีความสดและอร่อย มั่นใจจะเพิ่มการขายขยายตลาดได้อีกมากหลังจากปี 2564 เราส่งออกผลไม้ได้กว่าแสนล้านบาท ทำลายสถิติที่ผ่านมา และครองมาร์เก็ตแชร์ตลาดผลไม้ในจีนเป็นอันดับหนึ่ง อย่างไรก็ตามยังมีความเสี่ยงเกี่ยวกับการระบาดของโควิด19 และมีผลกระทบต่อการขนส่งและการเปิดปิดด่านเข้าออกจีนกรณีพบการปนเปื้อน ซึ่งเราจะการ์ดตกในเรื่องนี้ไม่ได้ ตั้งแต่ฟาร์มถึงตลาด โดย ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สั่งการเป็นพิเศษในเรื่องนี้
Back to top