ข่าวรถไฟ สปป.ลาว

[Mongwin]

จากสะพานมิตรภาพวันนี้ มีรถเมล์ติดแอร์เข้าเวียงจันทน์
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 11 กรกฎาคม 2555 01:57 น.


สีเขียวอ่อนแกมขาว ใหม่เอี่ยมจากญี่ปุ่นโดยโตโยต้าโชชู ทะเบียนก็ใหม่ ไม่ทราบว่า พขร.ใหม่ด้วยหรือไม่
แต่รถเมล์ปรับอากาศในเมืองหลวงของลาวเริ่มให้บริการแล้วตั้งแต่วันที่ 7 ก.ค.รวมทั้งสายตัวเมืองไปยังสะพานมิตรภาพที่มีผู้คนไปมากันพลุกพล่านตลอดทั้งวันด้วย
ใครไปก่อนได้นั่งก่อน. -- ภาพ: เวียงจันทน์ใหม่.

ASTVผู้จัดการออนไลน์ -- ผู้เดินทางเข้าลาวโดยผ่านสะพานมิตรภาพ (1) จ.หนองคาย ในวันนี้ จะได้นั่งรถเมล์ปรับอากาศเข้าสู่ตัวเมืองเป็นครั้งแรก รถเมล์รุ่นใหม่สภาพใหม่เอี่ยมอันเป็นความช่วยเหลือจากรัฐบาลญี่ปุ่นได้เปิดให้บริการแล้ว รัฐวิสาหากิจรถเมล์นำออกวิ่งหลายสายรวมทั้งไปยังสะพานข้ามโขงซึ่งมีผู้คนสัญจรตลอดวัน
บริการด้วยรถโดยสารปรับอากาศรุ่นใหม่เริ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 7 ก.ค.ที่ผ่านมา ทางการได้จัดสรรให้ประจำเส้นทางสะพานมิตรภาพถึง 10 คัน จากทั้งหมด 42 คัน ซึ่งนับว่ามากที่สุดมากในบรรดา 8 เส้นทาง มากกว่าสายที่ไปยังดงโดกมหาวิทยาลัยแห่งชาติ
อย่างไรก็ตามรถเมล์ปรับอากาศสายนี้เปิดให้บริการระหว่าง 05.35-17.35 น.เท่านั้น หนังสือพิมพ์เวียงจันทน์ใหม่รายงานโดยไม่ได้กล่าวถึงอัตราค่าโดยสาร

ตามรายงานของสื่อของทางการก่อนหน้านี้ รัฐบาลญี่ปุ่นได้สนับสนุนการรณรงค์ให้ชาวลาวหันมาใช้บริการขนส่งสาธารณะ ลดการใช้พาหนะส่วนตัว เพื่อประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง ลดปัญหามลพิษและปัญหาสิ่งแวดล้อมอื่นๆ โดยนครเวียงจันทน์จะเป็นแบบอย่างให้แก่แขวง (จังหวัด) อื่นๆ ทั่วประเทศ
ทั้งหมดเป็นรถเมล์โดยสารขนาด 45 ที่นั่ง ฝ่ายญี่ปุ่นจัดพิธีรมอบให้แก่ลาวในวันที่ 19 มิ.ย. 2555 โดยนางจุงโกะ โยโกตะ เอกอัครราชทูตประจำลาว กับนายมาซาโตะ โตกาวะ หัวหน้าสำนักงานองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศญี่ปุ่น หรือ “ไจก้า” นายสมมาด พนเสนา รัฐมนตรีกระทรวงโยธาธิการและขนส่ง เป็นผู้กล่าวรับ
แม้ว่าปัจจุบันมีรถเมล์ที่ไม่ปรับอากาศวิ่งรับส่งผู้โดยสารระหว่างตัวเมืองกับด่านศุลกากรสะพานมิตรภาพ 1 ก็ตาม นักเดินทางจำนวนไม่น้อยเลือกที่จะใช้พาหนะส่วนตัวในการเดินทางข้ามโขงต่อไปยังประเทศไทย เนื่องจากสะดวกและรวดเร็วกว่า

ในขณะที่มีรถโดยสารประจำทางระหว่างประเทศจากเวียงจันทน์ข้ามฝั่งไปยัง จ.หนองคาย วันละไม่กี่เที่ยว นักท่องเที่ยวจำนวนมากยังนิยมเช่าเหมารถจากตัวเมืองไปยังสะพานมิตรภาพเช่นกัน เพื่อจับรถข้ามแม่น้ำโขงต่อไปยังฝั่ง จ.หนองคายอีกทอดหนึ่ง
นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติอีกจำนวนมากใช้วิธีเช่าเหมารถจากตัวเมืองไปยังสถานีรถไฟบ้านดงโพสี เพื่อจับรถไฟโดยสารระหว่างประเทศข้ามแดนและต่อไปจนถึงถึงกรุงเทพฯ และในทางกลับกัน จะต้องเช่าเหมารรถรับจ้างจากสถานีรถไฟเข้านครเวียงจันทน์

การมีรถเมล์ปรับอากาศทันสมัยย่อมทำให้นักเดินทางและนักท่องเที่ยวมีทางเลือกที่สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น.

[black_express]

ดูหน้าตารถ ปอ.เหมือนต่อที่อู่ในเมืองไทยนะครับ

[Nakhonlampang]

ผมคิดว่ารถโดยสารชุดนี้น่าจะต่อที่อู่ธนบุรีบัสบอดี้ ที่บางปะกงนี่แหละครับ

แม้ว่า design จะเป็นแบบ O405 ของ ของ mercedes Benz แต่ด้วยความที่อู่นี้มีการผลิตชิ้นส่วนตัวถังเป็นมาตรฐานเดียวกันเป็นจำนวนมากอยู่แล้ว ในกรณีเป็น city bus จึงมักใช้แบบตัวถังนี้ต่อรถให้กับลูกค้าไม่ว่าจะเป็น chassis รถยี่ห้อใด ในบ้านเราก็ใช้แบบตัวถังนี้ต่อรถยี่ห้อ Hino และ Daewoo ส่งให้ ขสมก. เช่นกัน

อย่างยี่ห้อ Isuzu ตามที่เห็นนี้ อู่นี้ก็เคยรับต่อโดยใช้แบบตัวรถหน้าตาเดียวกันนี้ต่อรถโดยสารที่ส่งไปอิรัคเช่นกัน ไม่จำเป็นว่าใช้รถ Isuzu แล้วต้องไปต่อที่อู่ขาใหญ่แถวโคราชเสมอไปนะครับ

[Mongwin]

ขอบคุณมากครับพี่หนุ่ม สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม
มีคลิปให้ชมด้วยครับ

http://www.youtube.com/watch?v=6kTOMdAqbrA
เผยแพร่เมื่อ 7 ก.ค. 2012 โดย TheVientianeTimes

[Mongwin]

ซีซีพีคอนกรีตฯเล็งฮุบระบบราง
วันอังคารที่ 17 กรกฏาคม 2012 เวลา 13:07 น. กอง บก.ฐานเศรษฐกิจ

ชาคริต ทีปกรสุขเกษม ซีซีพีคอนกรีตชลบุรีเล็งฮุบงานการพัฒนาโครงข่ายรถไฟ-รถไฟฟ้า-งานด้านโครงสร้างพื้นฐานทั้งในไทยและ 6 ประเทศในกลุ่มลุ่มแม่น้ำโขง เผยเตรียมจับมือเนด้าและกลุ่มบริษัทผู้รับเหมาชั้นนำของไทยโกอินเตอร์แบบแท็กทีม ชี้แนวโน้มรับงานคอนกรีตป้อนให้งานภาครัฐ-เอกชนยังโตต่อเนื่อง มั่นใจการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนงานก่อสร้างได้เปรียบแน่ ส่วนรายได้ครึ่งปีแรกมีแนวโน้มโตไม่ต่ำกว่า 15% จากปีที่ผ่านมาขณะที่มูลค่างานในมือปัจจุบันมีประมาณ 2.3 พันล้านบาทคาดแนวโน้มยังเติบโตต่อเนื่อง

นายชาคริต ทีปกรสุขเกษม กรรมการผู้จัดการ บริษัทผลิตภัณฑ์คอนกรีตชลบุรี จำกัด(มหาชน) หรือซีซีพี(CCP)เปิดเผย "ฐานเศรษฐกิจ" ว่ามั่นใจว่ารายได้ครึ่งปีแรกของซีซีพีมีแนวโน้มการเติบโตเพิ่มขึ้นประมาณ 15% จากปีที่ผ่านมาซึ่งมีรายได้รวม 1,105 ล้านบาท ขณะที่มูลค่างานในมือปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 2.3 พันล้านบาท ดังนั้นจึงเล็งเข้าร่วมประมูลกรณีที่จะป้อนงานผลิตคอนกรีตให้กับการพัฒนางานระดับเมกะโปรเจ็กต์ของรัฐบาล โดยเฉพาะระบบโครงข่ายระบบรางที่รัฐบาลเร่งผลักดันในปัจจุบันให้กับบริษัทที่ได้รับงานระบบรางเส้นทางต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นรถไฟ รถไฟความเร็วสูงและรถไฟฟ้าโดยพร้อมป้อนงานคอนกรีตที่เป็นงานโครงสร้างทั้งหมด เนื่องจากปัจจุบันบริษัทได้ปรับปรุงทางด้านเทคโนโลยีทันสมัยในกระบวนการผลิตได้อย่างรวดเร็วขึ้น

นอกจากนั้นยังยืนยันความพร้อมเร่งการผลิตเพื่อป้อนงานคอนกรีตประเภทต่างๆให้กับผู้รับเหมางานด้านโครงสร้างพื้นฐานทั้งในประเทศไทยและ 6 ประเทศในกลุ่มลุ่มแม่น้ำโขงที่ปัจจุบันมีการพัฒนางานด้านโครงสร้างพื้นฐานกันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการก่อสร้างถนน สะพาน และรถไฟ ตลอดจนการก่อสร้างอื่นๆที่ผู้รับเหมาไทยและผู้รับเหมาในประเทศนั้นๆได้รับงานประมูลมาดำเนินการ

"เล็งเห็นว่างานคอนกรีตยังมีแนวโน้มการเติบโตต่อเนื่องทั้งในส่วนงานภาครัฐ-ภาคเอกชนจึงพร้อมเข้าร่วมประมูลงานที่จะมีการเปิดประมูลในปีนี้และปีหน้า ถึงแม้ว่าในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาการลงทุนโครงการก่อสร้างต่างๆ ค่อนข้างชะลอตัว ซึ่งเป็นผลจากความไม่ชัดเจนด้านเศรษฐกิจการเมือง แต่ปัจจุบันทิศทางเศรษฐกิจของประเทศค่อนข้างมีความชัดเจนจึงทำให้เกิดการลงทุนมากขึ้น อีกทั้งโครงการในส่วนภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ยังมีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่องจึงน่าจะเป็นสัญญาณที่ดี"

นายชาคริตกล่าวอีกว่าเร็วๆ นี้ยังเตรียมเข้าหารือกับผู้บริหารสำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน(องค์การมหาชน)(สพพ.)หรือเนด้าที่ให้ความช่วยเหลือประเทศเพื่อนบ้านทั้งการให้ความช่วยเหลือทางการเงินและทางวิชาการมาตั้งแต่ปี 2534 ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของบริษัทที่ต้องการรุกตลาดต่างประเทศมากขึ้นโดยเฉพาะในกลุ่มเพื่อนบ้านของไทยก่อนที่จะขยายไปสู่ประเทศต่างๆในระยะต่อไป

"ยังเตรียมร่วมกับบริษัทที่ปรึกษาและบริษัทผู้รับเหมางานก่อสร้างด้านโครงสร้างพื้นฐานของไทยเข้ารับงานคอนกรีตในประเทศเหล่านี้ เนื่องจากปัจจุบันการคมนาคมเข้า-ออก 6 ประเทศกลุ่มลุ่มแม่น้ำโขงมีความสะดวกมากขึ้นจึงขนส่งได้เป็นจำนวนมากในแต่ละครั้ง แต่ต้องการให้รัฐบาลโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปเร่งแก้ปัญหาในบางพื้นที่ที่ยังติดระเบียบกฎหมายในแต่ละเขตพื้นที่ให้เป็นมาตรฐานให้ทุกประเทศยอมรับได้ต่อไป โดยคาดหมายว่าเมื่อเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือเออีซีในปี 2558 งานด้านการก่อสร้างได้เปรียบแน่เพราะมีแนวโน้มการเติบโตอย่างเปิดกว้างมากขึ้น บริษัทจึงเร่งสร้างเครือข่ายรองรับไว้ตั้งแต่วันนี้"

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจฉบับที่ 2,758 19-21 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

--------------

ที่ปรึกษา-บิ๊กรับเหมาวอนรัฐบาลหนุน“เนด้า”หัวหอกโกอินเตอร์
สยามธุรกิจ ฉบับที่ 1320 ประจำวันที่ 25-7-2012 ถึง 27-7-2012

(25ก.ค.2555) - กลุ่มบริษัทที่ปรึกษาชั้นนำผนึกบิ๊กรับเหมาไทยส่งซิกรัฐบาลยิ่งลักษณ์หนุนเนด้าเป็นหัวหอกรุกตลาดต่างประเทศเพื่อหารายได้เข้าไทย เน้นงานด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทั้งระบบให้สอดรับการเชื่อมโยงด่านชายแดนไทย ช่วงแรกมุ่ง 6 กลุ่มประเทศเพื่อนบ้านลุ่มแม่น้ำโขง เผยช่วงครึ่งปีหลัง 2555 เตรียมเปิดประมูล 4 โครงการงบ 2,647 ล้านบาท ในสปป.ลาว

นายธวัช เบญจพลชัย รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเชี่ยน เอ็นจิเนียริ่ง คอนซัลแต้นส์ จำกัด หนึ่งในบริษัทที่ปรึกษาและควบคุมงานระดับเมกะโปรเจ็กต์ชั้นนำของไทย เปิดเผย ว่ารัฐบาลควรให้ความสำคัญต่อการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการไทยรุกตลาดต่างประเทศมากขึ้นเพื่อหารายได้เข้าประเทศเนื่องจากมีหน่วยงานสำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน(องค์การมหาชน) กระทรวงการคลัง(สพพ.) หรือเนด้าคอยให้ความช่วยเหลือด้านเงินกู้และด้านองค์ความรู้ทางวิชาการแก่ประเทศต่าง ๆ ที่สนใจในปัจจุบันนี้อยู่แล้ว โดยเฉพาะ 6 ประเทศกลุ่มแม่น้ำโขงหรือ GMS คือ ไทย,สปป.ลาว, พม่า, เวียดนาม, กัมพูชาและจีน โดยเห็นว่ารัฐบาลน่าจะผลักดันโดยให้การสนับสนุนงบประมาณเพิ่มมากกว่านี้เพื่อขยายขอบข่ายในการทำงานให้มากขึ้น เนื่องจากการพัฒนาด้านโครงสร้างพื้นฐานของกลุ่มประเทศเพื่อนบ้านยังมีความต้องการอีกเป็นจำนวนมาก

“รัฐบาลควรส่งเสริมให้ภาคเอกชนไทยออกไปรับประมูลงานในประเทศต่างๆ มากขึ้นมากกว่าจะเตรียมความพร้อมรับมือการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือเออีซีอยู่ในประเทศเท่านั้น เพราะไทยได้เปรียบด้านการเป็นศูนย์กลางในหลายๆด้าน อีกทั้งยังมีประสบการณ์ในโครงการต่างๆ ประการสำคัญกลุ่มประเทศเพื่อนบ้านยังให้ความไว้วางใจในความชำนาญของบริษัทที่ปรึกษาและผู้รับเหมาไทยที่มีสายสัมพันธ์ที่ดีต่อกันในฐานะประเทศเพื่อนบ้านมานานหลายสิบปีจึงมีต้นทุนที่เหนือกว่าคู่แข่งรายอื่นๆ”

นายวรงค์ วงศ์วรกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัทแพร่ธำรงวิทย์ จำกัด หนึ่งในบริษัทผู้รับเหมาชั้นนำของไทยด้านการก่อสร้างถนนทั้งในและต่างประเทศ กล่าวว่า เมื่อเปิดเออีซีจะมีการแข่งขันมากขึ้น ไทยควรรุกให้รวดเร็วกว่านี้ โดยเฉพาะกลุ่มประเทศเพื่อนบ้านไทยที่ได้ไปก่อสร้างเส้นทางรถไฟหรือถนนสายหลักให้กับสปป.ลาว- กัมพูชาที่สามารถเชื่อมโยงไปสู่โครงการอื่นๆของแต่ละประเทศในระยะต่อไป แม้จะมีแหล่งทุนจากต่างประเทศมาสนับสนุนแต่ก็ยังเป็นโอกาสของผู้รับเหมาไทยจะเข้าร่วมประมูลในโครงการต่างๆอย่างต่อเนื่อง

“เนด้ามีงานหลากหลายให้เลือกเข้าประมูลทั้งช่วงครึ่งปีหลังนี้และปีหน้าโดยเฉพาะงานด้านโครงสร้างพื้นฐานไม่ว่าจะเป็นถนน สะพาน ระบบประปา ไฟฟ้าหรือแม้กระทั่งรถไฟที่สปป.ลาวที่สามารถต่อยอดได้อีกมากมาย ซึ่งผลงานที่ผ่านมาได้สร้างความเชื่อมั่นให้กับประเทศต่างๆ ตลอดจนผู้ร่วมทุนในประเทศนั้นๆ ส่วนครึ่งปี 2555 และปี 2556 บริษัทเตรียมเข้าร่วมประมูล 2-3 โครงการเป็นงานก่อสร้างถนนเชื่อมโยงด่านชายแดนไทย-สปป.ลาวที่บ้านฮวก อ.เชียงคำ จ.พะเยา และที่ช่วงภูดู่-ปากลาย จ.อุตรดิตถ์ ส่วนช่วงที่ผ่านมาบริษัทฯได้เข้าไปรับเหมาซ่อมบำรุงถนน R3 ที่ชำรุดเสร็จเรียบร้อยแล้วสามารถช่วยให้การเดินทางจากอ.เชียงของ ผ่านสปป.ลาว ไปยังชายแดนจีนตอนใต้ได้อย่างสะดวกยิ่งขึ้น”

นายอรรคศิริ บุรณศิริ ผู้อำนวยการ สำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน(สพพ.) (องค์การมหาชน)หรือ NEDA กล่าวว่า โครงการที่เตรียมเปิดประมูลในช่วงครึ่งปีหลังนี้มีจำนวน 4 โครงการรวมงบ 2,647 ล้านบาท ประกอบด้วย
1.โครงการปรับปรุงถนนภูดู่-ปากลาย วงเงิน 718 ล้านบาท
2.โครงการปรับปรุงสนามบินปากเซ ระยะที่ 2 วงเงิน 184 ล้านบาท
3.โครงการก่อสร้างรถไฟสปป.ลาว-ไทย ระยะที่ 2 (ท่านาแล้ง-เวียงจันทน์) วงเงิน 1,650 ล้านบาท และ
4.โครงการปรับปรุงร่องระบายน้ำในนครหลวงเวียงจันทน์ วงเงิน 95 ล้านบาท(อยู่ระหว่างการนำเสนอคณะรัฐมนตรี)

ส่วนโครงการที่เตรียมเปิดประมูลในปี 2556 มีจำนวน 3 โครงการ รวมงบ 4,250 ล้านบาท ได้แก่
1.โครงการก่อสร้างถนนหงสา-เชียงแมน(หลวงพระบาง) งบประมาณ 1,900 ล้านบาท
2.โครงการก่อสร้างถนนบ้านฮวก-เมืองคอบ-เมืองปากคอบ-บ้านก้อนตื้น และเมืองคอบ-เชียงฮ่อน งบประมาณ 1,500 ล้านบาท และ
3.โครงการพัฒนาระบบประปาและพัฒนาเมือง 12 แห่งในสปป.ลาว งบประมาณ 850 ล้านบาท

“ยังมีโครงการที่น่าสนใจซึ่งเป็นเงินให้เปล่าจากสพพ.อีก 1 โครงการคืองานทบทวนแผนแม่บทการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม และออกแบบประตูกั้นน้ำในนครโฮจิมินห์ วงเงินให้เปล่าเพื่อศึกษารวม 20 ล้านบาท คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนเมษายน 2556

ส่วนโครงการที่เตรียมจะดำเนินการศึกษาในปี 2556 มีจำนวน 8 โครงการได้แก่
สปป.ลาว 2 โครงการ คือ
1.งานศึกษาความเหมาะสมและออกแบบรายละเอียดถนนหมายเลข 11 ช่วงบ้านวัง-สานะคาม-เมืองหมื่น-คกข้าวดอ
2.งานศึกษาความเหมาะสมการพัฒนาระบบชลประทาน
กัมพูชามีจำนวน 3 โครงการ คือ
1.งานศึกษาและออกแบบโครงการก่อสร้างด่านสตรึงบท จังหวัดบันเตียเมียนเจย
2.งานออกแบบรายละเอียดสะพานรถไฟที่ปอยเปต และ
3.งานศึกษาความเหมาะสมและออกแบบรายละเอียดโครงการพัฒนาถนนชายแดนไทย-กัมพูชา
เวียดนาม มี 1 โครงการ คือ งานศึกษาความเหมาะสมโครงการพัฒนาโรงพยาบาลหญิงและโรงเรียนเด็กในเมือง Thanh Hoa
ส่วนในพม่า มี 2 โครงการ คือ
1.งานศึกษาและสำรวจออกแบบโครงการพัฒนาถนนไทย-เมียนมาร์-อินเดีย ช่วง Monywa-Yargi-Kalewa
2.งานศึกษาความเหมาะสมและสำรวจออกแบบโครงการพัฒนาถนนจากด่านสิงขร-บ้านมอต่อง-ตะนาวศรี-มะริด”

[Mongwin]

Thai-Laos rail link to be extended
Bangkok Post 23/07/2012 at 12:47 PM

The Thai government has approved a 1.6 billion baht budget to help the Lao government extend the railway service from Tha Na Laeng to Vientiane.

The rail route from Nong Khai to Tha Na Laeng station in Laos will be extended to Vientiane in the next two years.

The service will be the second phase of the Nong Khai-Tha Na Laeng service, which has linked Thailand and Laos since 2008, according to Acksiri Buranasiri, president of the Neighbouring Countries Economic Development Cooperation Agency (Neda), a public agency under the Ministry of Finance.

About 30% of the budget (495 million baht) will be financial aid, while the rest will be a loan.

The extension will add 7.75 km to the existing rail system and will also include a train station and office in Vientiane.

Neda expects the service to improve logistics speed between the two countries, as well as facilitate travellers. The project is expected to be completed within the next two years, Acksiri noted.

Founded in 2005, Neda has granted financial assistance, soft loans and technical support worth 9.42 billion baht to 23 projects, mainly for infrastructure development, in neighbouring countries, such as the R3A route linking Chiang Rai, Laos and Kunming in China and the expansion of Pakse Airport.

[Mongwin]

โครงการก่อสร้างทางรถไฟสายท่านาแล้ง – เวียงจันทน์ สปป.ลาว
โดย ศิริชัย พรหมทอง สำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน (องค์การมหาชน) (สพพ.) เผยแพร่เมื่อ 31 ก.ค. 55

ชื่อโครงการ โครงการก่อสร้างทางรถไฟสายท่านาแล้ง – เวียงจันทน์ สปป.ลาว
ประเทศ สปป.ลาว

ประโยชน์ที่จะได้รับ
1. ทำให้เส้นทางการคมนาคมขนส่งระบบรางระหว่างไทยกับ สปป.ลาว ซึ่งมีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น
2. ลดต้นทุนและเพิ่มศักยภาพในการขนส่งสินค้า
3. สามารถสร้างโอกาสให้ภาคเอกชนไทยไปประกอบธุรกิจใน สปป.ลาว เช่น การรับสัมปทานบริหารจัดการ CY และบริหารพื้นที่เชิงพาณิชย์ในอาคารสถานีเวียงจันทน์
4. สนับสนุนให้มีการจ้างงานและใช้สินค้า วัสดุ อุปกรณ์ก่อสร้างจากไทยมากยิ่งขึ้น

ขอบเขตโครงการ
- เส้นทางงานระบบรถไฟหลักมีระยะทางทั้งสิ้น 7.75 กิโลเมตร จากสถานีท่านาแล้ง-นครหลวงเวียงจันทน์
- ระบบอาณัติสัญญาณ
- สถานีรถไฟหลักที่เวียงจันทน์
- อาคารสำนักงานการรถไฟ
- อาคารที่พักเจ้าหน้าที่
- ย่านกองเก็บตู้คอนเทนเนอร์ (Container Yard: CY)
- จุดตัดบริเวณถนนคำสวัสดิ์ ก่อสร้างเป็นจุดตัดแบบ Level Crossing

วงเงินกู้
วงเงิน 1,650 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นหมวดค่าใช้จ่าย ดังนี้
ค่าก่อสร้าง 1,476.00 ล้านบาท
ค่าที่ปรึกษา 78.00 ล้านบาท
ค่าบริหารจัดการ 18.00 ล้านบาท
ค่าเผื่อเหลือเผื่อขาด 78.00 ล้านบาท
รวม 1,650.00 ล้านบาท
มติคณะรัฐมนตรี วันที่ 10 สิงหาคม 2553
วันลงนามสัญญา 14 มิถุนายน 2555

เงื่อนไขสัญญากู้เงิน ให้ความช่วยเหลือแบบให้เปล่าร้อยละ 30 และเงินกู้ร้อยละ 70 ของมูลค่าโครงการ
วันที่รับชำระดอกเบี้ย 20 พฤษภาคม และ 20 พฤศจิกายน
วันสิ้นสุดการเบิกจ่าย 14 มิถุนายน 2560
ระยะเวลาในการก่อสร้าง (อยู่ระหว่างการพิจารณา)

บริษัทที่ปรึกษา (อยู่ระหว่างการพิจารณา)
บริษัทผู้รับเหมา (อยู่ระหว่างการพิจารณา)

ผลการดำเนินงาน (อยู่ระหว่างการพิจารณา)
การเบิกจ่าย (อยู่ระหว่างการพิจารณา)

ข้อมูล ณ วันที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

[Wisarut]

รถไฟความไวสูงอาจแพงเกินคาด
โดยอะวารี
วิทยุเสียงเอเซียภาคภาษาลาว
6 สิงหาคม 2012

โครงการรถไฟความไวสูงของไทย
โดยอะวารี
วิทยุเสียงเอเซียภาคภาษาลาว
21 สิงหาคม 2012

ท่านฉลองภพ สุสังกรการ นักเศรษฐศาสตร์ประจำสถาบันค้นคว้าเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) กล่าวว่า รัฐบาลไทย มีแผนจะสร้างทางรถไฟความไวสูงเกือบทุกภาคของประเทศไทย แต่ มีปัญหาอยู่ว่า
1. ค่าก่อสร้างสูงเกินไป ถึง 8 แสนล้านบาท (800 ตื้อบาท) แม้จะลดขนาดโครงการในขั้นต้นเหลือเพียง 4 แสนล้านบาท (กรุงเทพ - พิษณุโลก, กรุงเทพ - นครราชสีมา, กรุงเทพ - หัวหิน) โดย ให้เสร็จในปี 2018 และ ขั้นปลาย ให้เสร็จในปี 2022 (พิษณุโลก - เชียงใหม่, นครราชสีมา - หนองคาย, หัวหิน - หาดใหญ่, และบางกอก - ระยอง) ก็ยังแพงอยู่ดี

2. อีกปัญหาที่สอง ประเทศไทย ไม่เหมือน (บ่คือ) ยุโรป เพราะ ประชาชนไทยอาศัยอยู่บ้านใกล้กะทางรถไฟ ฉะนั้นจึงไม่เหมาะสำหรับจะปรับปรุงทางรถไฟที่มีอยู่แล้วให้เป็นรถไฟความไวสูงเพราะมันจะเป็นอันตรายต่อชุมชน และ
3. ปัญหาที่สาม การสร้างทางรถไฟความไวสูงต้องใช้วิชาการและเทคโนโลยี ที่ทันสมัยและแพงถ้า ไม่ทำเช่นนั้น (ถ้าบ่ดังนั้น) ก็จะไม่ปลอดภัย แลบะมักจะเกิดอุบัต้ิเหตุดั่งที่เกิดขึ้นที่จีนหลายครั้งแล้ว

รัฐบาลไทยมีดำริจะสร้างทางรถไฟความไวสูงจากบางกอกไปเชียงใหม่และเชียงราย ทางภาคเหนือจองไทยที่ญี่ปุ่นกำลังศึกษาสำรวจทางไปเชียงใหม่ และ จากบางกอกไปหนองคายทางภาคอีสานของไทย ที่จีนกำลังศึกษาสำรวจทางไปหนองคายและเชียงราย - และ เมื่อทำเสร็จแล้วจะใช้ขนทั้งสินค้าและ นักท่องเที่ยว โดยให้จีน - เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และ ฝรั่งเศสเข้าร่วมประมูล

เมื่อสองสามเดือนก่อน ลาวกะจีนกำลังศึกษาเส้นทางรถไฟความไวสูง จากชายแดนจีนไปนครหลวงเวียงจันท์ แต่ ยังมีข้อขัดแย้งบางอย่าง ที่ยังตกลงกันไม่ได้ ในปัญหาหนึ่งก็แม่น การยกที่สองข้างทางรถไฟให้จีน ซึ่งลาวบ่ยอมตกลง

[alderwood]

เห็นเพื่อนมาบอกว่า ทางลาวเริ่มจะสร้างทางรถไฟความเร็วสูงเชื่อมกับจีนแล้ว เพราะเห็นสั่งเครื่องโม่หินไปหลายตัว
ว่าแต่ ตกลงกันได้แล้วหรือ???
_________________
รักรถไฟมั่นใจโคปเตอร์ || Railway Racing Team || Korat Spotter

[Mongwin]

ติดตามข่าวรถไฟลาวอยู่ทุกวัน แต่ไม่เห็นมีความคืบหน้าใด ๆ เรื่องรถไฟเชื่อมลาว-จีนแต่อย่างใดครับ

ถ้าจะมีอะไรคืบหน้าบ้างในเร็ว ๆ นี้ คงจะเป็นรถไฟราง 1 เมตร ท่านาแล้ง-เวียงจันทน์ นั่นแหละครับ