View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42745
Location: NECTEC
|
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42745
Location: NECTEC
|
Posted: 05/09/2021 2:39 am Post subject: |
|
|
อีสานได้อะไรจาก "ไฮสปีดเทรนจีน-ลาว" เตรียมตัวให้พร้อม ลุยเปิดเมือง!
ไทยรัฐออนไลน์
สกู๊ปไทยรัฐ
รายงานพิเศษทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์
ผู้เขียน: เหมือนพระอาทิตย์
กราฟิก: Theerapong C.
4 กันยายน พ.ศ. 2564 เวลา 05:30 น.
"รถไฟความเร็วสูงจีน-ลาว" มาแล้ว!!
ถึงเวลาต้องตรวจเช็ก "ชีพจรเศรษฐกิจ" ของ "ดินแดนอีสาน" กันด่วนๆ เพราะถ้าช้า...อาจมีหนาว!
"ชีพจรเศรษฐกิจอีสาน" ฟื้นหรือยัง?
Ads by
"อีสาน" หรือภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคที่ก่อนหน้านี้เรียกได้ว่าเป็น "พื้นที่สีเขียว" ก่อนจะค่อยๆ กลายเป็นสีเหลือง... ส้ม... แดง... ไปจนแดงเข้ม!
เหตุผลก็เพราะเมืองหลวงอย่าง "กรุงเทพมหานคร" โดนโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาตีแตก!
คนแห่กลับ "บ้านเกิด" กันแบบชนิดตั้งตัวแทบไม่ทัน ยับยั้งกันไม่อยู่ จนต้องคิดในแง่ดีว่า การกลับภูมิลำเนาในครั้งนี้ คงจะช่วยกระตุ้นการบริโภคในท้องถิ่นไม่มากก็น้อย
แต่ "ความจริง" กลับกลายเป็นว่า...
"ไม่ครับ... เป็นปัญหาเลยครับ ทุกคนหยุดหมดเลย ตัวเลข (ผู้ติดเชื้อ) ขึ้น พอขึ้น ทุกคนก็หยุดออกจากบ้านหมด เพราะไม่รู้ว่าใครเป็นใคร"
นายสวาท ธีระรัตนนุกูลชัย ประธานอาวุโสหอการค้าจังหวัดอุดรธานี และประธานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หอการค้าไทย กล่าวถึง "ความเป็นจริง" ให้ได้ฟังหลังจากนั้น...ได้มีการคอมเมนต์กลับไปว่า ชาวอีสานทุกคนยินดีต้อนรับลูกหลานกลับมา แม้ตอนเข้าเมืองจะไปเพื่อหาเงินใช้ส่วนตัว แต่เมื่อพวกเขามีปัญหาการหาเตียง การดูแลรักษาโรค ก็ต้องรับกลับมาบ้าน ยอมเจ็บสักระยะหนึ่ง...
"ตอนนั้น ทุกคน ทุกจังหวัดในอีสาน ยินดีหมดครับ แล้วรัฐบาลก็ดันไม่มีทุนในการให้ขนคนกลับด้วย แต่ภาคเอกชนทั้งหมดทุกจังหวัดในอีสานก็ยอมควักเงินไปจ่ายค่ารถ ออกเงินเพื่อไปขนเอาลูกหลานกลับมารักษาที่บ้าน ซึ่งก็เป็นน้ำใจของที่นี่ เป็นภาพที่ดีครับ"
แต่ ณ ตอนนั้น นายสวาทก็ยอมรับว่า การบริโภคเงียบสงัดหมดเลย เมืองทั้งเมืองแทบจะเป็นเมืองร้าง...
แล้วตอนนี้ "อีสาน" ฟื้นหรือยัง?
"ตัวเลขของผู้ป่วย จริงๆ ณ ขณะนี้ ก็ลดน้อยลงแล้วครับ เพราะจริงๆ แล้วโรคระบาด (โควิด-19) ไม่ได้เกิดแค่ในพื้นที่ ส่วนมากเป็นจากการรับลูกหลานกลับมาบ้าน แล้วส่วนหนึ่งก็อาจติดจากการลักลอบเข้ามาครับ"
ซึ่งการที่ตัวเลขลดลงนั้น นายสวาทนับว่าเป็นสัญญาณที่ดี เพราะผู้คนเริ่มทยอยออกมาจับจ่ายใช้สอยกันแล้ว เริ่มจะมีความเชื่อมั่น ในส่วนร้านอาหารต่างๆ ก็เริ่มดีขึ้น และพร้อม "เปิดเมือง!"
โดยตามไทม์ไลน์ "การเปิดเมือง" ในส่วนจังหวัดภาคอีสาน จริงๆ แล้ว จ.อุดรธานี จะเริ่มตั้งแต่ 15 กันยายน และบางจังหวัดก็จะเริ่ม 1 ตุลาคม
"ผมคุยกับทางประธานหอการค้าจังหวัดของภาคอีสานไว้ว่า วันนี้แม้มีโควิด-19 ก็ต้องเดินไป เราควรกลับมาเตรียมพลิกฟื้นเศรษฐกิจ"
แต่ "ข้อเสีย" ของภาคอีสาน คือ...
"ตอนที่เราเป็นสีเขียว ส่งวัคซีนให้เราน้อย ก็เลยเป็นเปอร์เซ็นต์ที่ทำให้พวกเราเคลื่อนตัวช้า แล้วต่อมาเมื่อมีการล็อกดาวน์ต่างๆ ก็ทำให้ผู้คนไหลกลับมา ขณะเดียวกัน วัคซีนก็ไม่ได้ตามมาด้วย!"
นายสวาทยอมรับได้มีการตำหนิกลับไปเช่นกันว่า ทำไมไม่มีการวางแผน เพราะมันก่อให้เกิดความเสียหายแก่ภาคอีสาน ทำให้จังหวัดต่างๆ ของภาคอีสานเสียหาย แทนที่จะค่อยๆ ทยอยเลื่อนไหลไป กลับต้องหยุด แม้ตอนนี้จะเริ่มทยอยเงยหน้าขึ้นมาบ้างแล้วก็ตาม
"ปิดชายแดน" ปิดประตูการค้าอีสาน?
สำหรับการปิดชายแดนนั้น ต้องอธิบายก่อนว่าเป็นการปิดในส่วน "คน" แต่ส่วน "สินค้า" ยังพอไปได้
"แม้ไปได้ แต่ไปได้ไม่ตลอด สมมติปกติไปได้ 100% ตอนนี้ก็ไปได้แค่ 40-50% เพราะปัญหาโควิด-19 ก็ทำให้โอกาสของเราเสียไปครับ"
แน่นอนว่าต่อให้ทางหอการค้าอีสานจะมีการพูดคุยกับประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งกัมพูชาและ สปป.ลาว รวมถึงเวียดนาม แต่ปัญหา คือ โควิด-19 สายพันธุ์เดลตา ยังคงอาละวาดทั่วทุกพื้นที่ทั้งหมด ซึ่งก็ต้องรับสภาพในส่วนที่หายไป เช่น การค้าการขายกัน ขณะที่ในส่วน "คน" ข้ามแดนไม่ได้ การท่องเที่ยวก็คงต้องหายหมดเลย
"เราจะเตรียมตรวจเชิงลึก และภายใน 2 สัปดาห์ต่อจากนี้ คิดว่าโควิด-19 ในอีสานคงจะจบ แล้วก็จะต้องเตรียมเปิดบ้านเปิดเมืองได้แล้วครับ"
นายสวาท ยืนยันว่า ขณะนี้มีการเตรียมความพร้อมที่จะเปิดเมืองในจังหวัดภาคอีสาน ด้วยการรณรงค์ให้ผู้ประกอบการและผู้ใต้บังคับบัญชาทั้งหมดไปฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้ได้มากที่สุด เพื่อสร้างความเชื่อมั่น ตอนนี้พยายามเร่งเรื่องนี้ตลอด เพราะวัคซีนจะเป็นตัวสำคัญในการที่จะทำให้การเปิดเมืองเป็นไปได้อย่างปลอดภัย นี่คือ ความสำคัญ!
ว่าแต่... "คุณผู้อ่านไทยรัฐออนไลน์" ยังไม่ลืมที่เกริ่นไว้ตอนต้นใช่หรือไม่?
ที่ว่า... "รถไฟความเร็วสูงจีน-ลาว" มาแล้ว!
มาดี หรือมาร้าย?
"รถไฟความเร็วสูงจีน-ลาว" เกิดจากการประสานนโยบายระหว่าง ข้อริเริ่ม "หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง" กับยุทธศาสตร์ "ปลดล็อกแลนด์ล็อกสู่แลนด์ลิงก์" ที่เริ่มต้น ณ ด่านชายแดนจีน-ลาว เมืองโมฮัน และสิ้นสุดที่เวียงจันทน์ ระยะทางรวม 414 กิโลเมตร กว่า 62.7% ของเส้นทางเป็นสะพานและอุโมงค์ ออกแบบให้ใช้ความเร็วที่ 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใช้เวลาสร้างรวม 6 ปี โดยมีกำหนดเปิดใช้งานอย่างเป็นทางการเดือนธันวาคม 2564 นี้!
หากใครยังไม่ทราบ... โครงการรถไฟจีน-ลาว เป็นโครงการรถไฟในต่างประเทศสายแรกที่จีนเป็นผู้ลงทุนหลัก ภายใต้มูลค่าการลงทุน 4 หมื่นล้านหยวน แล้วใช้รูปแบบบริหารร่วมกัน อีกทั้งยังเชื่อมโยงกับโครงข่ายรถไฟในจีนด้วย
"เป้าหมาย" ของรถไฟจีน-ลาว นี้คืออะไร?
แน่นอนว่า หวังส่งเสริมให้เศรษฐกิจและสังคมของ สปป.ลาว พัฒนามากขึ้น ยกระดับประสิทธิภาพในการขนส่งของลาว และเป็นการขยายความร่วมมือกับจีน ทั้งในแง่เศรษฐกิจ การค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว รวมถึงเป็นตัวเชื่อมเศรษฐกิจจีนกับอาเซียนให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
แต่คำถาม คือ "อีสาน" จะได้อะไรจากสิ่งนี้?
จากการประเมินของนายสวาท มองว่าการเปิดอย่างเป็นทางการน่าจะตามกำหนดการเดิม คือ 2 ธันวาคม 2564 ซึ่งตรงกับวันชาติ สปป.ลาว แต่คงจะยังไม่เปิดใช้บริการชัดเจน เพราะติดปัญหาโควิด-19 อยู่ คาดว่าสักพักถึงจะปรับเป็นการขนส่งสินค้า ส่วนการคาดหวังนักท่องเที่ยวจีน ประมาณการไว้น่าจะปีหน้า (2565) ช่วงไตรมาส 2 หรือไตรมาส 3 ด้วยจีนเองยังคงไม่พร้อมที่จะให้คนออกมา เพราะห่วงการเข้าๆ ออกๆ อีกทั้งการบริโภคภายในประเทศจีนยังดี รายได้ยังไปได้ดีอยู่ ดังนั้น รถไฟความเร็วสูงจีน-ลาว คงยังไม่มีการท่องเที่ยวหรือนักท่องเที่ยวจีน แต่คงจะมาแค่การขนส่ง
เดิมนั้น การขนส่งสินค้าบางอย่างจะเป็นในรูปแบบทางอากาศกับทางเรือ แต่หลังจากมีรถไฟความเร็วสูงจีน-ลาวนี้แล้ว นายสวาทชี้ว่าจะทำให้การขนส่งสินค้าของไทยเป็นไปได้มากขึ้นกว่าเดิม ต่อไปสินค้าที่จะส่งไปจีนจะมากองกันอยู่ที่นี่ (อีสาน) โดย จ.อุดรธานี จะเป็นการเชื่อมทางบกได้ จึงมีการพูดคุยกันว่า อนาคตต่อจากนี้ แม้แต่ทุเรียนก็จะมากองกันที่นี่ (อีสาน) แล้วใส่ตู้ไปขึ้นที่เวียงจันทน์
ตอนนี้ "อีสาน" พร้อมแค่ไหน?
"เรามีการลงทุนทำนิคมอุตสาหกรรม และการทำศูนย์กระจายสินค้าขนาดใหญ่ไว้รอเยอะแยะเลยครับ"
พร้อมจะเป็น "ฮับสินค้า" ทุกอย่าง?
"ใช่ครับ! ทุกอย่างเลย เพราะเราเป็นเมืองโกดัง เป็นมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว เพราะฉะนั้น ความพร้อมในการลงทุนในพื้นที่ เราพร้อมตลอด ประจวบกับตอนนี้ นักลงทุนในกรุงเทพฯ ก็เริ่มจะกลับเข้ามาในพื้นที่เตรียมการรองรับเรื่องนี้แล้วครับ"
เตรียมเจอแน่ "อีสาน" จะกลับมาผงาดไตรมาส 2 ปีหน้า (2565)
นายสวาทเชื่อมั่นว่า ความชัดเจนการกลับมาของเศรษฐกิจภาคอีสาน คือ ไตรมาส 2 ปีหน้า (2565) แต่หากเป็นไปตามไทม์ไลน์ที่นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา บอกไว้ว่า ปลายปีนี้ (2564) จะฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้ได้ 100% การกลับมาของภาคอีสานก็อาจจะได้ในไตรมาสแรกเลย การฟื้นตัวจะเห็นได้ชัดเจนขึ้น
"เหมือนว่า ทุกคนอัดอั้นมานานแล้ว พอมันเปิดมา แล้วก็จะเทกันมาหมดครับ"
ถามอีกครั้ง... พี่น้องชาวอีสานพร้อมหรือยัง!? |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42745
Location: NECTEC
|
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44632
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 06/09/2021 7:29 pm Post subject: |
|
|
ลาวมั่นใจ เปิดเดินรถไฟไฮสปีดเชื่อมต่อกับจีนได้ 2 ธ.ค.นี้
เดลินิวส์ 6 กันยายน 2564 13:56 น.
ต่างประเทศ
เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องของลาวเชื่อมั่นว่า เส้นทางรถไฟความเร็วสูงเชื่อมต่อกับเมืองคุนหมิงของจีน จะเปิดเดินรถได้ตามกำหนด ในวันที่ 2 ธ.ค.นี้ หลังใช้เวลาสร้างนานประมาณ 5 ปี
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากนครหลวงเวียงจันทน์ ประเทศลาว เมื่อวันที่ 6 ก.ย. ว่า นายเขมขำ พงสะหวัด หัาหน้าคณะผู้ประสานงานการเดินรถไฟความเร็วสูงลาว-จีน กล่าวกับสำนักข่าวเอ24 ของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ( ยูเออี ) ยืนยันว่า เส้นทางรถไฟดังกล่าวจะเปิดการเดินรถตั้งแต่วันที่ 2 ธ.ค.นี้เป็นต้นไป ซึ่งเป็นวันชาติของลาว
ขณะเดียวกัน นายเขมขำแสดงความเชื่อมั่นว่า โครงการดังกล่าวซึ่งดำเนินการก่อสร้าง เมื่อปี 2559 จะช่วยส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างทั้งสองประเทศ และเพิ่มความสะดวกให้กับการเดินทางของประชาชน ถือเป็น "ผลประโยชน์ร่วมทางยุทธศาสตร์"
A24 News Agency
สำหรับโครงการรถไฟความเร็วสูงลาว-จีน ประกอบด้วย 32 สถานี แบ่งเป็นสถานีขนส่งสินค้า 22 แห่ง และสถานีโดยสาร 10 แห่ง ผ่านเมืองสำคัญหลายแห่งในนครหลวงเวียงจันทน์ แขวงเวียงจันทน์ แขวงอุดมไซ และแขวงหลวงพระบาง จนถึงปลายทางคือเมืองบ่อเต็น ในแขวงหลวงน้ำทา ซึ่งจะมีการเชื่อมระบบต่อถึงเมืองคุนหมิง เมืองเอกของมณฑลยูนนาน ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน
ทั้งนี้ เส้นทางทั้งหมดมีระยะทางยาวประมาณ 414 กิโลเมตร เป็นระบบรางเดี่ยว และใช้งบประมาณลงทุนประมาณ 5,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 191,160 ล้านบาท ) เกือบทั้งหมดเป็นการลงทุนจากฝั่งจีน
อย่างไรก็ตาม รายงานวิเคราะห์ของธนาคารโลก ( เวิลด์แบงก์ ) ให้คำแนะนำเพิ่มเติมด้วยว่า เพื่อให้เส้นทางรถไฟสายนี้ตอบโจทย์ด้านการพัฒนาให้มากขึ้น ลาวควรมีนโยบายเพิ่มกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่มีระบบและประสิทธิภาพ ตามพื้นที่ซึ่งเส้นทางรถไฟตัดผ่าน.
ข้อมูล-ภาพ : A24 News Agency |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42745
Location: NECTEC
|
Posted: 07/09/2021 2:49 am Post subject: |
|
|
พนักงานต้อนรับบนรถไฟสายประวัติศาสตร์ จีน-ลาว พร้อมข้อความ พร้อมมั้ย? อีกแค่ 3 เดือนเท่านั้น!
https://www.facebook.com/AeroLaos/posts/4190207557694443
ลาวพร้อมเปิดเดินรถไฟเส้นทางจีน-ลาว 2 ธันวาคม วันชาติลาวพอดี
.
1/ เฟซบุ๊ก ແອໂຣລາວ AEROLAOS เผยแพร่ภาพพนักงานต้อนรับบนรถไฟสายประวัติศาสตร์ จีน-ลาว พร้อมข้อความ พร้อมมั้ย? อีกแค่ 3 เดือนเท่านั้น!
.
2/ สำหรับการก่อสร้างและการเตรียมความพร้อมในด้านต่างๆใกล้ 100% เข้าไปทุกที รัฐบาลลาวมั่นใจในความพร้อม เริ่มเปิดเดินรถไฟเส้นทางจีน-ลาว วันที่ 2 ธันวาคม ตรงกับวันชาติลาวพอดี
.
3/ การก่อสร้างทางรถไฟจีน-ลาว เริ่มดำเนินงานมาตั้งแต่ปี 2559 ใช้เวลาก่อสร้างรวม 5 ปี มีระยะทางยาว 414 กิโลเมตร เป็นเส้นทางรถไฟระบบรางเดี่ยว ใช้งบประมาณ 191,000 ล้านบาท เป็นการลงทุนจากจีนเป็นส่วนใหญ่
.
4/ ตลอดเส้นทางรถไฟความเร็วสูงจีน-ลาว มี 32 สถานี แบ่งเป็นสถานีขนส่งสินค้า 22 แห่ง สถานีโดยสาร 10 แห่ง เชื่อมระบบรถไฟกับจีนที่เมืองคุนหมิง เมืองเอกของมณฑลยูนนาน ตะวันตกเฉียงใต้ของจีน เข้าสู่เขตลาวที่เมืองบ่อเต็น แขวงหลวงน้ำทา ผ่านแขวงหลวงพระบาง แขวงอุดมไซ มาถึงแขวงเวียงจันทน์
.
5/ ธนาคารโลกระบุว่า เส้นทางรถไฟสายนี้ตอบโจทย์หลายข้อ ส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างสองประเทศ เพิ่มความสะดวกให้กับประชาชนในการเดินทาง เรียกได้ว่าเป็นผลประโยชน์ร่วมทางยุทธศาสตร์ระหว่างจีน-ลาว สอดคล้องกับจุดมุ่งหมายยุทธศาสตร์หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางของจีน ที่ต้องการให้ทุกประเทศได้ผลประโยชน์ร่วมกัน
.
6/ การมีเส้นทางรถไฟเชื่อมกับจีน ลาวสามารถพัฒนาประเทศทางเศรษฐกิจได้มากขึ้นกว่านี้ สามารถเพิ่มกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เป็นระบบและมีประสิทธิภาพตามพื้นที่ที่ทางรถไฟตัดผ่านได้มากขึ้นอีก
https://www.facebook.com/ChinaReportAseanThailand/posts/882384835815194
อีกไม่นานเส้นทางขนส่งจะเปลี่ยนไปจาก Lao land locked กลายเป็น Lao Land bridged ซึ่งคาดว่าจะเปิดขนส่งสินค้าหลังจากเปิดโดยสารเป็นทางการวันที่2ธันวาคมตอนนี้ตั้งแต่ วันที่1 กันยายนได้ทดลองวิ่งวันละเที่ยวจากเวียงจันทน์ไปบ่อเต็น ตู้สินค้า คอนเทนเนอร์ที่ส่งจากไทยทางเรือไปยุโรปใช้ระยะเวลา 60 วันแต่ทางเส้นทางรถไฟจากฉางท่านางแล้ง นครหลวงเวียงจันทน์ผ่านจีนเชื่อมไปยุโรปปลายทางที่กรุงเบอร์ลิน เยอรมันนีใช้เวลาเพียงแค่7 ถึง 10 วัน สินค้าขนาดย่อมโดยเฉพาะในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทยหรือตู้คอนเทนเนอร์จะถูกลากจากเรือขึ้นบกมาใช้เส้นทางสายใหม่เป็นการdisruption เรื่อง logistics และอีกเส้นทางรถไฟอีกเส้นหนึ่งคือจากเมืองท่าแขก แขวงบ่ลิกำไช ไปเวียตนามผ่านจังหวัดฮาติงค์สิ้นสุดที่ท่าเรือฮุงอ่างน่าจะเปิดวิ่งได้ราวปลายปี 66ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับจังหวัดมุกดาหารและจังหวัดใกล้เคียงเป็นอย่างมาก
https://www.facebook.com/groups/862896047833538/posts/1000329774090164/ |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42745
Location: NECTEC
|
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42745
Location: NECTEC
|
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42745
Location: NECTEC
|
Posted: 07/09/2021 1:02 pm Post subject: |
|
|
บ่อเต็นแดนงาม รอต้อนรับรถไฟเที่ยวแรก
เป็นเรื่อง เป็นลาว
3 กันยายน 2564 เวลา 14:37 น.
***
แอดมินเพจเขตเศรษฐกิจบ่อเต็นแดนงาม โพสต์ภาพความคืบหน้าโครงการก่อสร้างเขตเศรษฐกิจพิเศษบ่อเต็นแดนงาม เมื่อปลายเดือน ส.ค.2564
***
บ่อเต็นคือ สถานีแรกของขบวนรถไฟลาว-จีน บนแผ่นดินลาว วันนี้ มีความคึกคักจากโครงการยักษ์ ของกลุ่มทุนจีน
เมื่อรถไฟออกเดินทางจากนครคุนหมิง ถึงบ่อหาน แล่นข้ามพรมแดนลาว-จีน มาจอดที่สถานีบ่อเต็น แขวงหลวงน้ำทา
***
ปี 2552 รัฐบาล สปป.ลาว อนุมัติจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษบ่อเต็นแดนงาม มอบให้กลุ่มทุนจีนเข้ามาบริหาร ในนาม บริษัท เขตเศรษฐกิจพิเศษเฉพาะ บ่อเต็น จำกัด
บ่อเต็น มีความสำคัญอย่างไร?
1.ด่านสากล เข้า-ออกเมืองที่สำคัญ บนเส้นทางหลวงสายคุนหมิง-กรุงเทพฯ (อยู่ดินแดนลาว)
2.สถานีแรกของเส้นทางรถไฟลาว-จีน ที่เข้าสู่ สปป.ลาว พร้อมทั้งเป็นชุมทางคมนาคมเชื่อมต่อจีน และอาเซียน
***
เขตเศรษฐกิจพิเศษบ่อเต็น แบ่งออกเป็น 4 เขตใหญ่
- เขตการค้าและการธนาคารสากล
- เขตท่องเที่ยว
- เขตบริการการศึกษาและการรักษาพยาบาล
- เขตขนถ่ายสินค้า
***
อนาคต เขตเศรษฐกิจพิเศษบ่อเต็นฯ จะกลายเป็นใจกลางเศรษฐกิจภาคเหนือลาว และจะมีประชากร 3 แสนคน เทียบเท่านครหลวงเวียงจันทน์ |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42745
Location: NECTEC
|
Posted: 07/09/2021 1:11 pm Post subject: |
|
|
จะมีการตรวจเส้นทางฝั่งจีน เมื่อ 16 สิงหาคม 2021 และ ฝั่งลาว ภายใตเดือนสิงหาคม 2021
และ จะตรวจเพิ่มเติม 21 ตุลาคม - 19 พฤศจิกายน 2021 ก่อนเปิดการเดินรถ 2 ธันวาคม 2021
เพื่อให้แน่ใจว่าทุนที่ลงไปกับรถไฟลาวจีนตั้ง 5,986 ล้านเหรียญสหรัฐ (37,400 ล้านหยวน) นั้นคุ้มค่าจริงๆ
https://www.beltandroad.news/laos-china-railway-projects-trial-run-to-start/
Wisarut wrote: | ความก้าวหน้ารถไฟลาวจีนโดยรวมเมื่อ 25 กรกฎาคม 2021 : สำเร็จแล้ว 93.82% มีการแบ่งทางออกเป็นสองช่วง
(1) ทางช่วงบ่อเต็น ถึง สถานีนครหลวงเวียงจัน ระยะทาง 409 กิโลเมตร : สำเร็จแล้ว 99.90%
1. การทำงานวางราง ได้ปูรางจาก นครหลวงเวียงจันไปบ่อเต็น ครบ 409 กิโลเมตร เท่ากับ 100% ของการออกแบบ
2. งานไฟฟ้าและการสื่อสารสี่ระบบ ได้สำเร็จการตั้งเสาไฟฟ้า 6221 ต้น เท่ากับ 91.90%
3. การติดตั้งแขนยื่นแจกไฟฟ้า สำเร็จ 6866 ชุด เท่ากับ 98.90%
4. การติดตั้งสายไฟฟ้าแจกไฟฟ้าตามระบบไปสำเร็จ 510.10 กิโลเมตร เท่ากับ 88.80 %
5. การวางสายสัญญาณโทรคมนาคมสำเร็จ 76.30%
6. การก่อสร้างอาคารสถานีรถไฟลาวจีน 11 สถานีได้แก้:
1. สถานีบ่อเต็น (ສະຖານີບໍ່ເຕັນ), - สถานีใหญ่ รับผู้โดยสารอย่างเดียว
2. สถานีนาเตย (ສະຖານີນາເຕີຍ),
3. สถานีนาหม้อ (ສະຖານີນາໝໍ້), รับผู้โดยสารอย่างเดียว
4. สถานีเมืองไซ (ສະຖານີເມືອງໄຊ), - สถานีใหญ่
5. สถานีเมืองงา (ສະຖານີເມືອງງາ), รับผู้โดยสารอย่างเดียว
6. สถานีหลวงพระบาง (ສະຖານີຫຼວງພະບາງ), - สถานีใหญ่
7. สถานีวังเวียง (ສະຖານີວັງວຽງ), - สถานีใหญ่
8. สถานีกาสี (ສະຖານີກາສີ),
9. สถานีโพนโฮง (ສະຖານີໂພນໂຮງ)
10. สถานีนครหลวงเวียงจัน (ສະຖານີນະຄອນຫຼວງວຽງຈັນ) - สถานีใหญ่ รับผู้โดยสารอย่างเดียว
11. สถานีสินค้าเวียงจันใต้ (ท่านาแล้ง) (ສະຖານີສິນຄ້າວຽງຈັນໄຕ້ (ທ່ານາແລ້ງ) ) รับสืนค้าอย่างเดียว
ขณะนี้ทำสำเร็จไปแล้ว 79.20 %
(2) ทางช่วง สถานัโดยสารนครหลวงเวียงจันไปสถานีรับส่งสินค้าเวียงจันใต้ ระยะทาง 17 กิโลเมตร : สำเร็จงานก่อสร้างพื้นฐานโครงร่างทางรถไฟแล้ว 92%
การวางราง และ งานไฟฟ้า 4 ระบบ สำเร็จแล้ว 41%
(3) ด้านการทำงานไกล่เกลี่ยสิ่งกีดขาง :
1. การไกล่เกลี่ยสิ่งกีดขวางของโครงการช่วงที่ 1 (409 กิโลเมตร) สำหรับการมอบพื้นที่ในขอบเขตแนวแดงแต่บ่อเต็นถึงสถานีนครหลวงเวียงจัน เม่นสำเร็จ 100%
2. สำหรับการมอบพื้นที่การก่อสร้างย่านสถานีเมืองนาหม้อ (ต้นฉบับว่า เดิ่นสถานีเมืองนาหม้อ) แขวงอุดมไซ ปัจจุบันกรรมการไกล่เกลี่ยขั้นแขวงได้ดำเนินการไกล่เกลี่ยกับประชาชนสำเร็จแล้ว
3. การไกล่เกลี่ยสิ่งกีดขวางของโครงการช่วงที่ 2 (17 กิโลเมตร) สำหรับการมอบพื้นที่ในขอบเขตแนวแดงแม่นสำเร็จแล้ว แต่ยังมีความต้องการพื้นที่จำนวนหนึ่ง เะื่อก่อสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกเช่นแนวสาวไฟฟ้า และเสาส่งสัญญาณ จุดอุโมงค์ทางลอด และ ร่องระบายน้ำ
https://www.facebook.com/sourioudong.sundara/posts/1619313681611684 |
|
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42745
Location: NECTEC
|
|
Back to top |
|
|
|