View previous topic :: View next topic
Author
Message
CivilSpice
1st Class Pass (Air) Joined: 18/03/2006 Posts: 11192
Location: หนองวัวหนุ่มสเตชั่น
Posted: 05/02/2010 1:04 pm Post subject:
beer45 wrote: พื้นที่รอบๆเหมืองได้รับผลกระทบจากฝุ่น บ้างหรือเปล่าครับ เช่นตลาดห้วยเป็ด เคยไปเที่ยวอยู่บ้างแต่เกือบ 20 ปีมาแล้วครับเหมืองเปลี่ยนไปเยอะมากสมัยก่อนยังไม่เจริญเท่านี้เลยครับ
ไม่แน่ใจเหมือนกันนะครับพี่ คิดว่าน่าจะคงจะมีเรื่องฝุ่นควันมารบกวนอยู่บ้างครับ แต่เท่าที่ไปสัมผัสอยู่แถวๆ นั้น ก็ดูอากาศบริสุทธิ์แจ่มใสดี สูดหายใจได้เต็มปอดครับ
========================================
ได้เวลา 15.30 น. ก็ออกเดินทางกลับแขวงหนองวัวเฒ่า .... บ๊าย บาย แม่เมาะ ไว้จะกลับมาใหม่โอกาสหน้า กะว่าจะมาย้อนอดีตเล่นสไลเดอร์รำลึกความหลังกับเขาอีกรอบครับ .... สะพานที่เห็นข้างหน้า ก็คือสะพานของสายพานลำเลียงถ่านหิน ที่ส่งจากเหมืองเข้าสู่โรงไฟฟ้า Unit ที่ 4-13
มีเกร็ดความรู้เล็กๆ น้อยๆ มาฝาก เกี่ยวกับการใช้ถ่านหินที่แม่เมาะมาผลิตไฟฟ้า ดังนี้ครับ
ถ่านหินกับโรงไฟฟ้าแม่เมาะ
โรงไฟฟ้าแม่เมาะเป็นโรงไฟฟ้าพลังความร้อนที่ใช้ถ่านลิกไนต์เป็นเชื้อเพลิง ด้วยการแปรสภาพพลังงานสะสมของถ่านลิกไนต์ให้เป็นพลังงานไฟฟ้า โดยใช้น้ำเป็นตัวกลาง
กระบวนการแปรสภาพพลังงานดังกล่าว มีขั้นตอน คือ
- ขั้นที่ 1 เปลี่ยนพลังงานสะสมในถ่านลิกไนต์ ให้เป็นพลังงานความร้อนโดยการเผาไหม้ หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า "การสันดาป" (Combustion or Oxidation)
- ขั้นที่ 2 พลังงานความร้อนที่ได้จากการเผาไหม้ ถูกส่งผ่านไปให้กับน้ำ ทำให้น้ำกลายเป็นไอน้ำอุณหภูมิและความดันสูง
- ขั้นที่ 3 เปลี่ยนพลังงานความร้อนของไอน้ำให้เป็นพลังงานกล โดยใช้ไอน้ำไปหมุนกังหันไอน้ำ
- ขั้นที่ 4 เปลี่ยนพลังงานกล เป็นพลังงานไฟฟ้า โดยให้กังหันไอน้ำ ไปหมุนเครื่องกำเนิดไฟฟ้า (สิ้นสุดขั้นตอนการแปรสภาพพลังงาน)
ขั้นตอนการใช้ถ่านลิกไนต์เป็นเชื้อเพลิง
ถ่านลิกไนต์ที่ขุดจากเหมืองแม่เมาะ ถูกส่งเข้ามาบดในเครื่องย่อยถ่านชุดแรก และผ่านออกมาในขนาดไม่ต่ำกว่า 30 ลบ.ซม. จากนั้นจะใช้สายพานลำเลียงมากองไว้ยังลานกองย่อย ถ่านจากลานกองจะถูกส่งขึ้นมายังโรงย่อยถ่าน โดยมีระบบแม่เหล็กไฟฟ้าและระบบตรวจสอบโลหะ เพื่อแยกโลหะไม่พึงประสงค์ออก ก่อนจะผ่านไปยังเครื่องย่อยถ่านชุดที่สอง ซึ่งจะย่อยถ่านให้มีขนาดต่ำกว่า 3 ลบ.ซม. และส่งไปเก็บไว้ในยุ้งถ่าน (Coal Bunker) ในตัวโรงไฟฟ้า เพื่อเตรียมใช้งาน
ถ่านลิกไนต์จะติดไฟค่อนข้างยาก ในช่วงแรกของการจุดเตาจึงต้องใช้ Light Oil จุดนำก่อน โดยใช้หัวฉีดน้ำมันฉีด Light Oil ให้กระจายเป็นฝอยเข้าไปในตัวเตา ใช้ระบบจุดระเบิดโดยการ Spark ของไฟฟ้าแรงสูง ทำให้ Light Oil ลุกไหม้ในเตา เมื่อการเผาไหม้ Light Oil อยุ่ในสภาวะคงที่ และอุณหภูมิภายในเตาสูงพอ จึงจะเริ่มทำการเผาถ่านลิกไนต์
ถ่านลิกไนต์จากยุ้งเก็บถ่าน จะถูกป้อนเข้าโม่บดโดยเครื่องป้อนถ่าน (Coal Feeder) ซึ่งเป็นตัวคสบคุมปริมาณถ่านที่จะเผา ในโม่บดถ่านจะมีลมร้อนจากเครื่องอุ่นอากาศเป่าเข้าไปในโม่ ถ่านจะถูกบดโดยมีลมร้อนเป็นตัวกวนให้การบดมีประสิทธิภาพดีและเป็นการไล่ความชื้นออกจากถ่าน
ถ่านที่บดแล้วจะมีขนาดประมาณ 71/1,000 มม. และอุณภูมิประมาณ 60 องศาเซลเซียส ถุกลมร้อนพาขึ้นไปตามท่อส่งท่านไปยังหัวฉีดถ่าน (Coal Burner) หัวฉีดถ่านจะทำหน้าที่ควบคุมให้ถ่านกระจายเข้าไปในเตาอย่างเป็นระเบียบ เมื่อผงถ่านปะทะกับ Light Oil ที่กำลังลุกไหม้และมีอุณภูมิสูง ผงถ่านจะติดไฟและเกิดการเผาไหม้ขึ้น ซึ่งในช่วงนี้จะหยุดใช้ Light Oil และใช้ถ่านเป็นเชื้อเพลิงเพียงอย่างเดียวได้
การเผาถ่านจะก่อให้เกิดขี้เถ้า แบ่งเป็น 2 ส่วนคือ
1. ขี้เถ้าหนัก (Wet Ash) จะตกลงสู่ก้นเตา และถุกลำเลียงออกจากเตา ด้วยระบบสายพานเหล็ก (Scapper Conveyor)
2. ขี้เถ้าเบา, เถ้าลอย (Fly Ash, Dry Ash) จะปะปนไปกับก๊าซร้อนออกสู่ปล่องควันของโรงไฟฟ้า ปริมาณขี้เถ้าเบาที่เกิดขึ้นมีประมาณร้อยละ 80-85 ของขี้เถ้าที่เกิดขึ้นทั้งหมด จึงต้องมีการติดตั้งเครื่องดักจับฝุ่นไฟฟ้าสถิตย์ (Electrostatic Precipitator) เพื่อแยกฝุ่นออกจากก๊าซร้อน ก่อนจะปล่อยก๊าซออกจากปล่องควัน
REF: 2542 กฟผ. แม่เมาะ, เอกสารของฝ่ายประชาสัมพันธ์ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย
Back to top
CivilSpice
1st Class Pass (Air) Joined: 18/03/2006 Posts: 11192
Location: หนองวัวหนุ่มสเตชั่น
Posted: 05/02/2010 1:11 pm Post subject:
อ.อาร์ต wrote: จากกิจกรรมบุกเบิกของท่าน วมต. ทำให้คนลำปางจะนิยมไปเล่นสไลด์เดอร์กันครับ ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ กฟผ. เคยจัดกิจกรรมแข่งกันเลยทีเดียวครับ แต่ไม่เคยไปเล่นกับเขาสักทีเลย
ต้องลองๆๆๆๆ แล้วจะร้องว่า "เดอะ เบสท์"
===========================
ก่อนเดินทางกลับ ก็อดไม่ได้ที่จะเหลือบดูพื้นที่ที่เคยเป็นสถานีรถไฟเหมืองแม่เมาะ และเครื่องย่อยถ่าน (Chrusher) ตอนที่มาตามรอยทางรถไฟเมื่อหลายปีก่อน ซึ่งบัดนี้ก็ได้ข้อสรุปแล้วว่า คงไม่มีอะไรที่เป็นทางรถไฟเก่าเหลือให้เห็นอีกแล้ว เพราะถูกปรับพื้นที่สำหรับโครงการก่อสร้างและวางแนวท่อน้ำประปาไปหมด ..... เอวังก็มีด้วยประการฉะนี้
Back to top
CivilSpice
1st Class Pass (Air) Joined: 18/03/2006 Posts: 11192
Location: หนองวัวหนุ่มสเตชั่น
Posted: 05/02/2010 1:16 pm Post subject:
ส่งท้ายสำหรับกระทู้นี้ครับ ถ้าไม่ได้ถ่ายภาพเก็บไว้ ก็คงจะเหมือนกับว่ามายังไม่ถึง กฟผ. แม่มาะ .... ว่าแล้วก็ขอถ่ายภาพโรงไฟฟ้า Unit ที่ 4-13 ไว้เป็นที่ระลึก ถ้ามีโอกาสก็อยากจะแวะเข้าไปชมแบบใกล้ชิดอีกครั้ง .... ว่าแต่คราวนี้สงสัยต้องเป็นโปรเจ็คตอนเรียน Ph.D เสียแล้วกระมัง
จบบริบูรณ์
ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาชมนะครับ หวังว่าคงะเป็นประโยชน์ และสร้างความรู้ให้กับผู้ชมได้บ้างไม่มากก็น้อย หากมีโอกาสได้แสะผ่านไปลำปาง ก็อย่าลืมแวะมาเยี่ยมพิพิธภัณฑ์ถ่านหินลิกไนต์ศึกษา ที่เหมืองแม่เมาะแห่งนี้กันบ้างนะครับ รับรองว่าท่านจะได้รับความรู้ที่ประเมินค่าไม่ได้กลับไปอีกเพียบ
Back to top
anusorn
1st Class Pass (Air) Joined: 04/09/2006 Posts: 1642
Location: มณฑลอาคเนย์
Posted: 05/02/2010 1:50 pm Post subject:
CivilSpice wrote: beer45 wrote: พื้นที่รอบๆเหมืองได้รับผลกระทบจากฝุ่น บ้างหรือเปล่าครับ เช่นตลาดห้วยเป็ด เคยไปเที่ยวอยู่บ้างแต่เกือบ 20 ปีมาแล้วครับเหมืองเปลี่ยนไปเยอะมากสมัยก่อนยังไม่เจริญเท่านี้เลยครับ
ไม่แน่ใจเหมือนกันนะครับพี่ คิดว่าน่าจะคงจะมีเรื่องฝุ่นควันมารบกวนอยู่บ้างครับ แต่เท่าที่ไปสัมผัสอยู่แถวๆ นั้น ก็ดูอากาศบริสุทธิ์แจ่มใสดี สูดหายใจได้เต็มปอดครับ
จากข้อมูล กฟผ. ปีที่แล้วเขาอวดว่า ปริมาณกำมะถัน ที่รอบเหมืองแม่เมาะ น้อยกว่ากรุงเทพ 10 เท่าครับ
Back to top
black_express
1st Class Pass (Air) Joined: 24/03/2006 Posts: 10060
Location: อุตรดิตถ์ - กรุงเทพฯ
Posted: 05/02/2010 3:06 pm Post subject:
ในช่วงหน้าหนาว เราจะเห็นเมฆกลุ่มหนึ่งลอยอยู่เหนือกลุ่มโรงไฟฟ้าแม่เมาะโดยไม่ยอมลอยไปไหน ยกเว้นช่วงลมแรง
อ้อ...รถบุลโดเซอร์ที่ลงในภาพ ยังเป็นรุ่นบุกเบิก ใช้สลิงยกใบมีดแทนระบบไฮดรอลิกส์ สมัยก่อนเคยใช้งานที่ รพช. อ.กิตติ คงอธิบายได้นะครับ
Last edited by black_express on 05/02/2010 3:15 pm; edited 5 times in total
Back to top
arhaja
3rd Class Pass Joined: 14/05/2007 Posts: 147
Location: ปทุม
Posted: 05/02/2010 3:10 pm Post subject: ตัวอย่างครับ
CivilSpice wrote: มีกิจกรรมที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากอีก 1 กิจกรรม ก็คือ การเล่นสไลด์เดอร์ .... อ่ะ งงล่ะสิ ที่มองไม่เห็นเครื่องเล่นอะไรเลย ... ไม่ต้องงงครับ สไลเดอร์ที่ว่า ก็คือการสไดล์ตัวลงมาจากเนินสนามหญ้าที่ชันๆ นี่แหล่ะ โดยเค้าจะเอาลังกระดาษ กระดาษหนังสือพิมพ์ หรือถุงพลาสติดใบใหญ่ๆ มาปู แล้วเราก็ขึ้นไปนั่งบนนั้น แล้วก็สไลด์ตัวลงมา ด้วยแรงโน้มถ่วงของโลก สนุกสุดเหวี่ยงพอๆ ประมาณกับเครื่องเล่นในสวนสนุก
บางท่านอาจจะยังนึกภาพไม่ออกว่าเป็นอย่างไร น้องภู่จะสาธิตให้ดูครับ
Back to top
CivilSpice
1st Class Pass (Air) Joined: 18/03/2006 Posts: 11192
Location: หนองวัวหนุ่มสเตชั่น
Posted: 05/02/2010 3:17 pm Post subject:
^^^
น้องภู่มาเป็นดาราจำเป็นเลยนะครับเนี่ย .... วิธีการเล่นก็ประมาณที่น้องภู่สาธิตให้ชมล่ะครับ
เล่นกี่รอบก็ได้จนกว่าจะเบื่อ
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 44955
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 08/02/2010 10:02 am Post subject:
ขอบคุณมากครับสำหรับกระทู้ที่เปี่ยมไปด้วยสาระความรู้กระทู้นี้
ดีใจที่พิพิธภัณฑ์ทั้งส่วนที่อยู่ในร่มและกลางแจ้ง อนุญาตให้ถ่ายภาพได้
ไม่เห็นพิพิธภัณฑ์ของรัฐหลายแห่งที่ห้ามถ่ายภาพ
เรื่องสไลเดอร์ ผมเคยเล่นโดยเอากาบหมากมานั่งแล้วไถลลงมาจากกองดินลูกรังแถวสถานที่ก่อสร้างครับ
ว่าแล้ว คันทางรถไฟหลาย ๆ แห่ง ก็มีความสูงพอเหมาะ น่าปรับปรุงไว้เป็นสถานที่เล่นสไลเดอร์นะครับ
Back to top