Rotfaithai.Com :: View topic - ข่าวความคืบหน้าโครงการทางรถไฟสายนครพนม
View previous topic :: View next topic
Author
Message
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42784
Location: NECTEC
Posted: 06/11/2022 9:08 pm Post subject:
Mongwin wrote:
รถไฟทางคู่สายเหนือ-อีสาน 1.39 แสนล้าน วุ่น ติดหล่มเวนคืน
Source - ฐานเศรษฐกิจ
วันเสาร์ ที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565 เวลา 06:18 น.
ที่มา: นสพ.ฐานเศรษฐกิจ ฉบับวันที่ 6 - 9 พ.ย. 2565
ลิงก์มาแล้วครับ
รถไฟทางคู่สายเหนือ-อีสาน 1.39 แสนล้าน วุ่น ติดหล่มเวนคืน
หน้าเศรษฐกิจ-ธุรกิจเศรษฐกิจ
ฐานเศรษฐกิจดิจิทัล
วันเสาร์ ที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565 เวลา 6:56 น.
คมนาคม เปิดแผนอัพเดท รถไฟทางคู่สายเหนือ-อีสาน วงเงิน 1.39 แสนล้านบาท ติดหล่มเวนคืนที่ดิน กระทบโครงการฯล่าช้า เร่งจ่ายค่าทดแทนชาวบ้าน
การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เร่งรัดสองโครงการรถไฟทางคู่ใหม่ สายเหนือ -อีสาน เนื่องจากล่าช้ามานาน แต่เนื่องจากเป็นเส้นทาง ตัดใหม่ทั้งหมดต้องเวนคืนผ่านที่ดินประชาชน อาจทำให้ล่าช้าบ้าง
รายงานข่าวจากกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ความคืบหน้าโครงการรถไฟทางคู่สายเหนือ ช่วงเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ ระยะทาง 323 กิโลเมตร (กม.) มูลค่าก่อสร้าง 72,921 ล้านบาท ที่ผ่านมาพบว่าแนวเส้นทางโครงการไม่มีเขตทาง เนื่องจากเป็นแนวเส้นทางรถไฟสายใหม่ โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างเวนคืนที่ดินเพื่อทำสัญญาซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ที่ถูกเวนคืนในเขตพื้นที่ อำเภอเด่นชัย จังหวัดแพร่ จังหวัดพะเยา และจังหวัดเชียงราย คาดว่าจะดำเนินการจ่ายค่าทดแทนเวนคืนที่ดินแล้วเสร็จภายในปลายปีนี้ หลังจากนั้นจะดำเนินการส่งมอบพื้นที่ให้ผู้รับจ้างเตรียมพร้อมสำหรับงานก่อสร้างต่อไป ตามแผนจะใช้ระยะเวลาก่อสร้าง 6 ปี หลังจากนั้นจะเปิดบริการปี 2571
สาเหตุที่โครงการฯมีความล่าช้า เนื่องจากติดปัญการอุทธรณ์จ่ายค่าทดแทนเวนคืนที่ดินให้แก่ชาวบ้านในพื้นที่ ซึ่งตามพ.ร.บ.เวนคืนที่ดินฉบับใหม่ มีการจดประเมินราคาที่ดินในราคาถูกตามกรมที่ดิน เพื่อชำระภาษีในราคาถูก ส่งผลให้เมื่อใช้การประเมินราคาที่ดินในรูปแบบดังกล่าว ทำให้ชาวบ้านในพื้นที่ได้ค่าทดแทนการเวนคืนที่ดินในราคาถูก เพราะเขามองว่าไม่ยุติธรรม ขณะที่พ.ร.บ.เวนคืนที่ดินฉบับเก่า ใช้การจดประเมินราคาที่ดินตามราคาตลาด ทำให้ชาวบ้านได้ค่าทดแทนในราคาที่ดีกว่าและเป็นที่ยอมรับมากกว่า
สำหรับการเวนคืนที่ดินในโครงการรถไฟทางคู่สายเหนือ ช่วงเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ ใช้งบประมาณราว 10,000 ล้านบาท ซึ่งมีพื้นที่ที่ถูกเวนคืนที่ดินใน จ.แพร่, ลำปาง, พะเยา และเชียงราย รวม 8,665 แปลง ประมาณ 12,076 ไร่ แบ่งเป็น ที่ดินมีเอกสารสิทธิ 7,704 แปลง ที่ดิน ส.ป.ก. 783 แปลง พื้นที่ป่า 13 แปลง อื่นๆ 465 แปลง และสิ่งปลูกสร้าง 5,053 รายการ
ส่วนงานก่อสร้างขณะนี้อยู่ระหว่างการเจาะสำรวจดินในการออกแบบอุโมงค์ รวมถึงการขออนุญาตกรมทางหลวง (ทล.) เพื่อเตรียมการก่อสร้างจุดตัดทางรถไฟ โดยลงนามสัญญาเมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2564 และเริ่มเข้าพื้นที่ก่อสร้างบางส่วนเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2565 ซึ่งแบ่งก่อสร้าง 3 สัญญา
สัญญาที่ 1 ช่วงเด่นชัย-งาว ระยะทาง 104 กิโลเมตร (กม.) กลุ่มกิจการร่วมค้า ไอทีดี-เนาวรัตน์ ประกอบด้วย บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) และบริษัท เนาวรัตน์พัฒนาการ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้รับจ้างฯ
สัญญาที่ 2 ช่วงงาว-เชียงราย ระยะทาง 135 กิโลเมตร (กม.) กิจการร่วมค้า ซีเคเอสที-ดีซี2 ประกอบด้วย บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) และบริษัท บุรีรัมย์พนาสิทธิ์ จำกัด เป็นผู้รับจ้างฯ
และสัญญาที่ 3 ช่วง ช่วงเชียงราย-เชียงของ ระยะทาง 84 กิโลเมตร (กม.) กิจการร่วมค้า ซีเคเอสที-ดีซี3 ประกอบด้วย บริษัท ช.การช่างฯ บริษัท ซิโน-ไทยฯ และบริษัท เชียงใหม่คอนสตรัคชั่น จำกัด เป็นผู้รับจ้างฯ
รายงานข่าวจากกระทรวงคมนาคม กล่าวต่อว่า ด้านความคืบหน้าโครงการรถไฟทางคู่สายอีสาน ช่วงบ้านไผ่-นครพนม ระยะทาง 355 กิโลเมตร (กม.) มูลค่าก่อสร้าง 66,848 ล้านบาท ปัจจุบันอยู่ระหว่างเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ขั้นตอนการประชุมคณะกรรมการกำหนดราคาเบื้องต้น ที่ผ่านมาได้ประชุมกำหนดราคาเบื้องต้น ครั้งที่ 1 ในเขตท้องที่จ.ขอนแก่น และ จ.ยโสธร เมื่อเดือนสิงหาคม 2565 และประชุมฯ ครั้งที่ 2 ในเขตท้องที่จ.ขอนแก่น และจ.ยโสธร เมื่อเดือนกันยายน 2565 คาดว่าจะประกาศราคาในเขตท้องที่จ.ขอนแก่น และ จ.ยโสธร ได้ภายในเดือนนี้ หลังจากนั้นผู้รับจ้างจะเข้าพื้นที่ดำเนินการก่อสร้างได้ครบทั้งโครงการฯ ภายในปลายปีนี้ ตามแผนจะใช้ระยะเวลาก่อ สร้าง 4 ปี และเปิดให้บริการภายในปี 2569
สำหรับการเวนคืนที่ดิน จะใช้งบประมาณประมาณ 10,000 ล้านบาท ซึ่งมีพื้นที่ที่ถูกเวนคืนที่ดินใน จ.ขอนแก่น มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร มุกดาหาร และนครพนม ที่จะถูกเวนคืน รวม 9,012 แปลง 18,462 ไร่ สิ่งปลูกสร้าง 2,368 หลัง และไม้ยืนต้น 6,711 แปลง
รถไฟทางคู่สายเหนือ-อีสาน 1.39 แสนล้าน วุ่น ติดหล่มเวนคืน
ทั้งนี้ผู้รับจ้างได้เข้าพื้นที่ก่อสร้างบาง ส่วนแล้ว โดยลงนามสัญญาเมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2564 ซึ่งแบ่งก่อสร้าง 2 สัญญา
สัญญาที่ 1 ช่วงบ้านไผ่-หนองพอก ระยะทาง 180 กิโลเมตร (กม.) กิจการร่วมค้า เอเอส-ช.ทวี แอนด์ แอสโซซิเอทส์ ประกอบด้วย บริษัท เอ.เอส.แอสโซซิเอท เอนยิเนียริ่ง (1964) จำกัด บริษัท ช.ทวีก่อสร้าง จำกัด บริษัท กิจการร่วมค้าทีบีทีซี จำกัด บริษัท เสริมสงวนก่อสร้าง จำกัด และบริษัท เค.เอส.ร่วมค้า จำกัด เป็นผู้รับจ้างฯ
สัญญาที่ 2 ช่วงหนองพอก-สะพานมิตรภาพ 3 ระยะทาง 175 กิโลเมตร (กม.) กิจการร่วมค้า ยูนิค ประกอบด้วย บริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) บริษัท พี.ซีอีที จำกัด บริษัท ไทยพีค่อนและอุตสาหกรรม จำกัด และบริษัท วัชรขจร จำกัด เป็นผู้รับจ้างฯ
https://www.thansettakij.com/business/546100
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 44808
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 10/11/2022 10:44 am Post subject:
Develop Thailand ประเทศไทย ไปโลด
10 พ.ย. 65 10:03 น.
เริ่มก่อสร้างแคมป์คนงานก่อสร้าง โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่สายบ้านไผ่-มุกดาหาร-นครพนม สัญญาที่ 1 ช่วงบ้านไผ่-หนองพอก ที่ตั้ง ตำบลสีแก้ว อ.เมืองร้อยเอ็ด
https://www.facebook.com/100079641581769/posts/164987992832586
นครพนม ปัญหาการก่อสร้างรถไฟรางคู่สายบ้านไผ่-นครพนม พาดผ่านในพื้นที่ศูนย์กำจัดขยะมูลฝอยรวม
Posted on 10/11/2022 Authorเสียงภูพานออนไลน์
https://www.siengphupan.com/news/56882
วันที่ 10 พ.ย.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ประเด็นปัญหาการก่อสร้างรถไฟรางคู่สายบ้านไผ่-มหาสารคาม-ร้อยเอ็ด-มุกดาหาร-นครพนม พาดผ่านในพื้นที่ศูนย์กำจัดขยะมูลฝอยรวม ของจังหวัดนครพนม ศูนย์กำจัดขยะมูลฝอยรวม ของเทศบาลเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม ตั้งอยู่ที่บ้านสุขเกษม ต.โพธิ์ตาก อ.เมือง จ.นครพนม มีพื้นที่ 77 ไร่ เป็นที่ดินกรรมสิทธิ์ของเทศบาลเมืองนครพนม กำจัดขยะมูลฝอยด้วยวิธีการฝังกลบอย่างถูกหลักสุขาภิบาล (Sanitary Landfill) ลักษณะการฝังกลบแบบ Area Method จำนวน 1 บ่อ ได้รับการสนับสนุนงบประมาณ จากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในการก่อสร้างระบบกำจัดขยะมูลฝอย ปีงบประมาณ2542 วงเงินงบประมาณที่ได้รับ 79.85 ล้านบาท และในปีงบประมาณ 2559 2560 ได้รับงบประมาณเพิ่มเติม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพศูนย์การจัดขยะมูลฝอยรวม ในวงเงิน 46.616 ล้านบาท (รวมทั้งหมด 126.46 ล้านบาท) มีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นร่วมลงนามความร่วมมือในการเข้าร่วมกาจัดขยะมูลฝอย (MOU) จานวน 18 แห่ง และในปัจจุบันมีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในท้องที่อำเภอเมืองนครพนม และอำเภอใกล้เคียงมาทิ้งขยะจำนวน 16 แห่ง ปริมาณขยะวันละ 50 ตัน ได้มีพระราชกฤษฎีกำหนดแนวเขตที่ดินที่จะเวนคืนเพื่อดำเนินโครงการก่อสร้างทางรถไฟ สายบ้านไผ่-มหาสารคาม-ร้อยเอ็ด-มุกดาหาร-นครพนม มีเส้นทางผ่านศูนย์กำจัดขยะมูลฝอยรวม ของเทศบาลเมืองนครพนม จำนวน 12-0-33 ไร่ พื้นที่เสียประโยชน์จำนวน 4-2-24 ไร่ รวมพื้นที่ต้องชดเชย 16-2-57 ไร่
คณะกรรมการกำหนดราคาเบื้องต้นของอสังหาริมทรัพย์ที่จะต้องเวนคืน และจำนวนเงินค่าทดแทนในการจัดกรรมสิทธิ์ตามพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินที่จะเวนคืน ในเขตท้องที่ ตำบลบ้านกลาง ตำบลคำเตย ตำบลขามเฒ่า ตำบลหนองญาติ ตำบลโพธิ์ตาก ตำบลนาทราย ตำบลนาราช ควาย ตำบลอาจสามารถ อำเภอเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม เพื่อดำเนินโครงการก่อสร้างทางรถไฟ สายบ้านไผ่ มหาสารคาม ร้อยเอ็ด มุกดาหาร นครพนม ซึ่งมีนายอำเภอเมืองนครพนมเป็นประธาน เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัด ธนารักษ์จังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่เส้นทางรถไฟพาดผ่าน เป็นกรรมการ และเจ้าหน้าที่การรถไฟแห่งประเทศไทยเป็นกรรมการและเลขานุการ ได้จัดประชุมเพื่อกำหนดราคาเบื้องต้นของอสังหาริมทรัพย์ที่จะต้องเวนคืน และจำนวนเงินค่าทดแทนในการจัดกรรมสิทธิ์ ในวันที่ 10 ตุลาคม 2565 ณ ห้องประชุมที่ว่าการอำเภอเมืองนครพนม
นายอภิชัย ฤทธิกรรณ์ รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดนครพนม และ นายประกอบ อิ่มเสมอ ผู้แทนเทศบาลเมืองนครพนม ได้เข้าร่วมประชุมในฐานะส่วนราชการที่ได้รับผลกระทบ และปกป้องสิทธิประโยชน์ของประชาชนจังหวัดนครพนม จากการเวนคืนที่ดินศูนย์กำจัดขยะมูลฝอยรวม ของเทศบาลเมืองนครพนม ได้นำข้อมูลผลกระทบจากการเวนคืนที่ดินศูนย์กำจัดขยะมูลฝอยรวม ในพื้นที่ตำบลโพธิ์ตาก อำเภอเมืองนครพนม ในการก่อสร้างเส้นทางรถไฟรางคู่ จำนวนพื้นที่ 16-2-57 ไร่จากพื้นที่ศูนย์กำจัดขยะฯทั้งหมด 77 ไร่ โดยได้เสนอแนวทางในการแก้ไขปัญหา ให้การรถไฟแห่งประเทศไทยจัดงบประมาณชดเชยให้เทศบาลเมืองนครพนม เพื่อก่อสร้างระบบกำจัดขยะในส่วนที่ถูกเวนคืนและส่วนของพื้นที่เสียประโยชน์ เพื่อไม่ให้มลพิษจากขยะมูลฝอยส่งผลกระทบต่อสุขอนามัยของประชาชนและภาพลักษณ์ของจังหวัดนครพนม โดยเสนอแนวทาง คือจัดงบประมาณจัดซื้อที่ดิน ชดเชยพื้นที่ศูนย์กำจัดขยะ จำนวนพื้นที่ 16-2-57 ไร่ ในบริเวณพื้นที่ใกล้เคียง จัดงบในการศึกษาออกแบบเพื่อก่อสร้างระบบกำจัดขยะฯ ในส่วนที่ถูกเวนคืน จัดงบประมาณในการก่อสร้างระบบกำจัดขยะฯ ในส่วนที่ถูกเวนคืน
ทั้งนี้ เทศบาลเมืองนครพนมจะต้องดำเนินก่อสร้างระบบกำจัดขยะ ทดแทนในส่วนของพื้นที่ที่ถูกเวนคืนให้แล้วเสร็จ ก่อนที่จะส่งมอบพื้นที่ให้การรถไฟแห่งประเทศไทย ดำเนินการต่อไป
อัพเดทล่าสุด เมื่อ 10/11/2022 20:09 น. by เสียงภูพานออนไลน์
.
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 44808
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42784
Location: NECTEC
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 44808
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 24/11/2022 7:29 am Post subject:
ทางคู่'เด่นชัย-เชียงของ'ผลงาน 0.9%
Source - เดลินิวส์
Thursday, November 24, 2022 04:57
ถมดิน-ลุยเวนคืนเตรียมสร้าง บ้านไผ่-นครพนมรอคำสั่งเริ่ม
รายงานข่าวจากกระทรวงคมนาคม แจ้งว่า โครงการรถไฟทางคู่สายใหม่สายเหนือ ช่วงเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ ระยะทาง 323 กิโลเมตร (กม.) วงเงิน 7.29 หมื่นล้านบาทเริ่มดำเนินโครงการแล้ว ภาพรวมคืบหน้าประมาณ 0.95% ผู้รับจ้างทั้ง 3 สัญญาเข้าพื้นที่และเริ่มงานถมดิน รวมถึงสร้างสำนักงานโครงการแล้วในพื้นที่ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และพื้นที่เวนคืนที่ได้รับความยินยอมจากชาวบ้าน
ทั้งนี้ 3 สัญญา ประกอบด้วย สัญญาที่ 1 ช่วงเด่นชัย-งาว 104 กม. มีกลุ่มกิจการร่วมค้า ไอทีดี-เนาวรัตน์ ประกอบด้วย บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) และบริษัท เนาวรัตน์พัฒนาการ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้รับจ้าง, สัญญาที่ 2 ช่วงงาว-เชียงราย 135 กม. มีกิจการร่วมค้า ซีเคเอสที-ดีซี 2 ประกอบด้วย บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) และบริษัท บุรีรัมย์พนาสิทธิ์ จำกัด เป็นผู้รับจ้าง และสัญญาที่ 3 ช่วง เชียงราย-เชียงของ 84 กม. มีกิจการร่วมค้า ซีเคเอสที-ดีซี 3 ประกอบด้วย บริษัท ช.การช่างฯ บริษัท ซิโน-ไทยฯ และบริษัท เชียงใหม่คอนสตรัคชั่น จำกัด เป็นผู้รับจ้าง
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า งานส่วนใหญ่ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการเร่งงานเวนคืน เพื่อส่งมอบพื้นที่ให้ผู้รับจ้างก่อสร้าง โดยเริ่มทำสัญญาซื้อขายอสังหาริมทรัพย์กับชาวบ้านที่ถูกเวนคืนแล้ว คิดเป็นมูลค่าประมาณ 1 พันล้านบาท ในปี 65 ตั้งเป้าหมายต้องได้มูลค่าประมาณ 1,620 ล้านบาท ส่วนปีงบฯ 66 ต้องได้เพิ่มอีก 5 พันล้านบาท หรือสามารถเวนคืนให้ได้พื้นที่ประมาณ 80% ก่อนจะเวนคืนพื้นที่ครบทั้ง 100% ภายในปีงบฯ 67
โครงการฯมีแนวเส้นทางผ่าน จ.แพร่, ลำปาง, พะเยา และเชียงราย ที่จะถูกเวนคืน รวม 8,665 แปลง 12,076 ไร่ แบ่งเป็น ที่ดินมีเอกสารสิทธิ 7,704 แปลง ที่ดิน ส.ป.ก. 783 แปลง พื้นที่ป่า 13 แปลง อื่น ๆ 465 แปลง และสิ่งปลูกสร้าง 5,053 รายการ ใช้งบประมาณเวนคืนราว 1 หมื่นล้านบาท ขณะนี้การดำเนินงานยังเป็นไปตามแผนที่วางไว้ จะใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 6 ปี คาดว่าจะแล้วเสร็จและเปิดบริการได้ภายในปี 71
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า ส่วนโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่สายใหม่ สายตะวันออกเฉียงเหนือ (อีสาน) ช่วงบ้านไผ่-มหาสารคามร้อยเอ็ด-มุกดาหารนครพนม ระยะทาง 355 กม. ประกอบด้วย 3 สัญญา วงเงิน 6.68 หมื่นล้านบาท อยู่ในขั้นตอนการเวนคืนเช่นเดียวกัน โดยเส้นทางผ่านพื้นที่จ.ขอนแก่น มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร มุกดาหาร และนครพนม ที่จะถูกเวนคืน รวม 9,012 แปลง 18,462 ไร่ สิ่งปลูกสร้าง 2,368 หลัง และไม้ยืนต้น 6,711 แปลง ใช้งบประมาณเวนคืนราว 1 หมื่นล้านบาท ขณะนี้ รฟท. ยังไม่ได้ออกประกาศให้เริ่มงาน (NTP) ผู้รับจ้างยังไม่สามารถเข้าพื้นที่เพื่อเตรียมก่อสร้างได้ ทั้งนี้ตามแผนงานจะใช้เวลาก่อสร้าง 4 ปี เปิดบริการปี 69.
ที่มา: นสพ.เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 24 พ.ย. 2565
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42784
Location: NECTEC
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 44808
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 11/12/2022 10:16 am Post subject:
ศูนย์ขนส่งสินค้านครพนม1.3พันล.
Source - เดลินิวส์
Sunday, December 11, 2022 06:27
เสนอคค./ครม.เซ็นสัญญา เปิดประตูการค้า4ประเทศ
รายงานข่าวจากกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) แจ้งว่า ขณะนี้ร่างสัญญาโครงการศูนย์เปลี่ยนถ่ายรูปแบบการขนส่งสินค้า จ.นครพนม วงเงินรวม 1,361 ล้านบาท พื้นที่ 121 ไร่ ที่บริษัท สินธนโชติ จำกัด เป็นผู้ชนะในการร่วมลงทุน (PPP Net cross) ได้ผ่านความเห็นชอบจากสำนักงานอัยการสูงสุด รวมทั้งสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ให้ความเห็นเรียบร้อยแล้ว
อยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูล เพื่อสรุปเสนอกระทรวงคมนาคม (คค.) รับทราบ ก่อนนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้ความเห็นชอบต่อไป คาดว่าจะลงนามสัญญาร่วมลงทุนกับเอกชนช่วงเดือน ก.พ.-มี.ค. 66 จากนั้นจะส่งมอบพื้นที่ให้เอกชนเข้าก่อสร้างในส่วนเฉพาะของเอกชนที่ต้องดำเนินการภายใน 180 วันหลังจากลงนามสัญญา โดยเอกชนต้องดำเนินการ เช่น อาคารคลังสินค้า อุปกรณ์เครื่องมือการใช้งาน รวมทั้งการก่อสร้างอาคารที่ก่อให้เกิดรายได้ในพื้นที่ คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 68 และเปิดบริการต่อไป
ทั้งนี้เอกชนต้องรับผิดชอบลงทุนค่าก่อสร้างในองค์ประกอบอาคารที่ก่อให้เกิดรายได้และเครื่องมือและอุปกรณ์ และเป็นผู้รับผิดชอบในส่วนของการดำเนินงานและบำรุงรักษาโครงการ (O&M) ในส่วนอาคารที่อยู่ในความรับผิดชอบของเอกชนและโครงสร้างพื้นฐานส่วนกลาง รวมทั้งเป็นผู้รับความเสี่ยงทางด้านรายได้ ตามรูปแบบการร่วมลงทุนแบบ PPP Net Cost ตลอดระยะเวลาโครงการ 30 ปีนับจากเปิดบริการ
สำหรับศูนย์การขนส่งนครพนม ตั้งอยู่ที่ ต.อาจสามารถ อ.เมือง จ.นครพนม ประชิดด่านพรมแดนนครพนม และสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 3 (นครพนม-คำม่วน) จะรองรับปริมาณสินค้าได้สูงสุด 164,431 TEUs รองรับการเปลี่ยนรูปแบบการขนส่งกับระบบราง (Shift Mode) ผ่านแนวรถไฟทางคู่ สายบ้านไผ่-นครพนม ให้เชื่อมต่ออย่างไร้รอยต่อ
ศูนย์การขนส่งชายแดนนครพนม ถือเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญของไทย และเป็นประตู (Gateway) การขนส่งสินค้าไปยังต่างประเทศ ผ่านเส้นทาง R12 เชื่อมต่อระหว่างไทย-สปป.ลาว-เวียดนาม-จีนตอนใต้ (นครหนานหนิงมณฑลกวางสี) จะช่วยลดต้นทุนด้านโลจิสติกส์ นอกจากนี้ยังเป็นลานเปลี่ยน หัวลาก-หางพ่วงระหว่างรถบรรทุกไทยกับรถบรรทุกต่างประเทศ ลดโอกาสการเกิดอุบัติเหตุในประเทศเพื่อนบ้าน เป็นพื้นที่รวบรวม และกระจายสินค้าบรรจุตู้คอนเทเนอร์ ช่วยลดปริมาณการขนส่งสินค้าแบบไม่เต็มคัน และรถเที่ยวเปล่า.
ที่มา: นสพ.เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 12 ธ.ค. 2565 (กรอบบ่าย)
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42784
Location: NECTEC
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 44808
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 21/01/2023 8:32 pm Post subject:
จังหวัดมุกดาหารร่วมประชุมกับคณะกรรมาธิการ ฯ สภาผู้แทนราษฎร ติดตามความคืบหน้าการดำเนินโครงการก่อสร้างทางรถไฟ
21 ม.ค. 2566
วันนี้ (21 มกราคม 2566) เวลา 10.00 น. นายวรญาณ บุญณราช ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผู้แทนจากการรถไฟแห่งประเทศไทย ร่วมประชุมกับคณะกรรมาธิการกิจการศาล องค์กรอิสระ องค์กรอัยการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชนและกองทุน เพื่อให้ข้อมูลและความเห็นเกี่ยวกับความคืบหน้าการดำเนินการโครงการก่อสร้างทางรถไฟสายบ้านไผ่-มหาสารคาม-ร้อยเอ็ด-มุกดาหาร-นครพนม ของการรถไฟแห่งประเทศไทยตลอดจนปัญหาอุปสรรคในการดำเนินการ ณ ห้องประชุมแก้วกินรี ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดมุกดาหาร
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ประธานคณะกรรมาธิการกิจการศาล องค์กรอิสระ องค์กรอัยการรัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชนและกองทุนสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า คณะกรรมาธิการ ฯ ได้ร่วมประชุมและได้ติดตามสภาพปัญหาการดำเนินงาน ซึ่งมีปัญหาเล็กน้อยที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะรับดำเนินการแก้ไข เพื่อให้เป็นไปตามแผนงานให้แล้วเสร็จ ภายใน ปี 2570 พร้อมทั้งเรื่องสนามบินก็คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปีเดียวกัน
นายอิศรากรณ์ เกิดศิริกุล วิศวกรโครงการจากการรถไฟแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากข้อกังวลของกรรมาธิการ และจังหวัดมุกดาหารทางการรถไฟแห่งประเทศไทย จะได้ดำเนินการแกัไขปัญหาทุกจุดเพื่อให้ทันกับแผนงานที่วางไว้ ส่วนการจ่ายเงินค่าทดแทนและการเวนคืนจะดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็วทันการเปิดใช้งานได้ภายในปี 2570 อย่างแน่นอน
ทั้งนี้ นายวรญาณ บุญณราช ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร กล่าวว่า จังหวัดมุกดาหาร จะติดตามงานและรายงานความคืบหน้าให้พี่น้องประชาชนทราบอย่างต่อเนื่อง ทั้งเรื่องการก่อสร้างทางรถไฟ สนามบิน และตลาดอินโดจีน
ข้อมูลข่าวและที่มา
ผู้สื่อข่าว : วันวิภา แพงแก้ว
ผู้เรียบเรียง : วรรณวิไล สนิทผล
แหล่งที่มา : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดมุกดาหาร
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 44808
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 23/01/2023 5:00 am Post subject:
ศึกษาโครงข่ายถนนเชื่อมรถไฟสายใหม่
Source - เดลินิวส์
Monday, January 23, 2023 04:22
บ้านไผ่-นครพนม354กม.31สถานี เพิ่มพลังทางบกยกกำลังระบบราง
รายงานข่าวจากกรมทางหลวง (ทล.) แจ้งว่า สำนักแผนงาน ได้ว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาประกอบด้วยกลุ่มบริษัทเอเซี่ยน เอ็นจิเนี่ยริ่ง คอนซัลแต้นส์ จำกัด บริษัท เอเอ็มพี คอนซัลแตนท์ จำกัด และ บริษัท ธารา คอนซัลแตนท์ จำกัด ศึกษาความเหมาะสมเบื้องต้น การพัฒนาระบบโครงข่ายทางหลวง เชื่อมต่อสถานีรถไฟทางคู่แนวใหม่สายบ้านไผ่-นครพนม เริ่มต้นศึกษาวันที่ 15 ธ.ค. 65 สิ้นสุด 8 มี.ค. 67 ระยะเวลา 450 วัน งบประมาณ 29,637,239 บาท
รถไฟทางคู่สายบ้านไผ่-นครพนม มีแนวเส้นทางตัดทางหลวงหลายสาย ก่อให้เกิดการพัฒนาเมืองโดยเฉพาะบริเวณรอบสถานีรถไฟที่ตั้งใหม่ เกิดชุมชนใหม่ (Land use development) ส่งผลกระทบกับการจราจรบนทางหลวงในอนาคต โดยเฉพาะทางหลวงในเขตเมืองกับตัวสถานีรถไฟจึงต้องวางแผนพัฒนาระบบโครงข่ายทางหลวงเชื่อมโยงทางรถไฟอย่างมีประสิทธิภาพและแก้ไขปัญหาการจราจรที่จะเกิดขึ้น รวมทั้งรองรับการพัฒนาเมืองพร้อมจัดทำแผนพัฒนาโครงข่ายทางหลวง (Action plan) รองรับกับการเปิดบริการของรถไฟสายนี้ด้วย
โครงการมีรายละเอียดการศึกษาดังนี้ 1.งานทบทวนยุทธศาสตร์ และแผนงานที่เกี่ยวข้อง 2.งานศึกษาด้านเศรษฐกิจและสังคม 3.งานศึกษาการเปลี่ยนแปลงการพัฒนาเมืองจากกิจกรรมรถไฟ 4.งานศึกษาผลกระทบด้านจราจรจากตัวสถานีรถไฟ และการพัฒนาเมือง 5.งานศึกษารูปแบบแนวทางการพัฒนาทางหลวง 6.งานศึกษาความเหมาะสมโครงการเบื้องต้น โดยจะออกแบบแนวคิดเบื้องต้น งานประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมเบื้องต้น งานจัดการมีส่วนร่วมกับประชาชน และงานวิเคราะห์ความคุ้มค่าทางด้านเศรษฐศาสตร์ และ 7.งานจัดทำแผนปฏิบัติการ
พื้นที่ศึกษาตามแนวโครงข่ายทางหลวงบริเวณรอบแนว เส้นทางรถไฟแนวใหม่สายบ้านไผ่-นครพนม ระยะทาง 354.783 กม. จำนวน 31 สถานี ครอบคลุม 6 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (อีสาน) จุดเริ่มต้นโครงการชุมทาง บ้านหนองแวงไร่ อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น ผ่าน จ.มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร มุกดาหาร จุดสิ้นสุดที่สถานีสะพานมิตรภาพ 3 จ.นครพนม ได้แก่ 1.ชุมทางบ้านหนองแวงไร่ 2.สถานีภูเหล็ก 3.ป้ายหยุดรถไฟนาโพธิ์ 4.สถานีกุดรัง 5.สถานีบรบือ 6.ป้ายหยุดรถไฟหนองโน 7.สถานีมหาสารคาม 8.ป้ายหยุดรถไฟเขวา 9.ป้ายหยุดรถไฟศรีสมเด็จ 10.ป้ายหยุดรถไฟสีแก้ว
11.สถานีร้อยเอ็ด 12.สถานีเชียงขวัญ 13.สถานีโพธิ์ชัย 14.สถานี อ.โพนทอง 15.ป้ายหยุดรถไฟเมยวดี 16.สถานีหนองพอก 17.ป้ายหยุดรถไฟโคกสว่าง 18.ป้ายหยุดรถไฟห้องแซง 19.สถานีเลิงนกทา 20.สถานีนิคมคำสร้อย 21.ป้ายหยุดรถไฟบ้านป่งแดง 22.สถานีมุกดาหาร 23.ป้ายหยุดรถไฟบ้านดานคำ 24. สถานีสะพานมิตรภาพ 2 25.สถานีหว้านใหญ่ 26.สถานีธาตุพนม 27.สถานีเรณูนคร 28.ป้ายหยุดรถไฟนาถ่อน 29.ป้ายหยุดรถไฟบ้านกลาง 30.สถานีนครพนม และ 31.สถานีสะพานมิตรภาพ 3
โดยในเดือน ก.พ.นี้ บริษัทที่ปรึกษา และทล.จะลงพื้นที่จัดประชุมสัมมนาครั้งที่ 1 (ปฐมนิเทศ) เพื่อเปิดตัวโครงการและรับฟังความคิดเห็นประชาชนในพื้นที่ นำข้อมูลมาประกอบการศึกษาแนวเส้นทาง ระยะทาง รูปแบบโครงการ การจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน แผนการก่อสร้าง และงบประมาณก่อสร้างเพื่อผลักดันของบประมาณโครงการต่อไป.
ที่มา: นสพ.เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 23 ม.ค. 2566
Back to top
You cannot post new topics in this forum You cannot reply to topics in this forum You cannot edit your posts in this forum You cannot delete your posts in this forum You cannot vote in polls in this forum
Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group