View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
nutsiwat
2nd Class Pass
Joined: 03/03/2011 Posts: 684
Location: สถานีเรณูนคร
|
Posted: 17/04/2012 1:50 pm Post subject: |
|
|
"จะให้ได้สร้างจริง ๆ ควรทำเป็นนโยบายต่างประเทศ กระตุ้นให้สร้างพร้อม ๆ กันในลาว และเวียดนามด้วย ไม่อย่างนั้นจะเป็นเหมือนรถไฟความไวสูงลาว จีนไม่สร้างเพราะอ้างว่าไทยยังไม่รีบสร้างไปหนองคาย ฯลฯ"
หากพี่เบิ้ม (จีน) ยังไม่สร้างเส้นทางรถไฟ โดยอ้างว่าไทยยังไม่รีบสร้างไปหนองคาย เพื่อจะมาบรรจบกับเส้นทางรถไฟในฝั่งของประเทศลาวแล้ว เราก็สร้างเส้นทางสายใหม่นี้ ไปพลางก่อนก็ได้นะครับ เพราะว่าการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงต้องใช้งบประมาณที่มหาศาล หลายแสนล้านบาท แต่สำหรับการก่อสร้างเส้นทางสายใหม่นี้ ใช้งบประมาณประมาณ 20,000 ล้านบาทกว่า ๆ นะครับ เพราะฉนั้น เราเลื่อกที่จะพัฒนาประเทศของเราก่อนดีกว่า เพราะจีนเค้าไม่ง้อเราอยู่แล้วครับ แต่กับจะรอให้เราเร่งสร้างเส้นทางรถไฟความเร็วสูงเพื่อให้ไปบรรจบกับรถไฟความเร็วสูงที่ประเทศลาวซะงั้น |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42796
Location: NECTEC
|
Posted: 19/04/2012 5:26 pm Post subject: |
|
|
รถไฟทางคู่บ้านไผ่-นครพนม
โดย กอง บก.ฐานเศรษฐกิจ
หน้า อสังหา REAL ESTATE - อสังหาฯ REAL ESTATE
ออนไลน์เมื่อวันอังคารที่ 17 เมษายน 2012 เวลา 13:34 น.
ตีพิมพ์ใน หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจฉบับที่ 2,732
19-21 เมษายน พ.ศ. 2555
ประเทศไทยเปิดใช้สะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 3 อย่างเป็นทางการไปเรียบร้อยแล้ว พบว่าระยะเวลา 4 เดือนที่ผ่านมาสัญญาณทางเศรษฐกิจในพื้นที่จังหวัดนครพนมและการค้าชายแดนมีแนวโน้มที่ดีขึ้นเป็นลำดับ โดยที่เห็นได้ชัดคือรถหลายประเภทมีปริมาณการใช้เส้นทางเพื่อข้ามพรมแดนสู่สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว(สปป.ลาว)และสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามจำนวนมากขึ้น
โดยเฉพาะตัวเลขเดือนมกราคม 2555 มีจำนวน 3,319 คัน เดือนกุมภาพันธ์ 2555 เพิ่มเป็น 3,746 คัน พบว่ารถบรรทุก 4 ล้อมีจำนวนมากถึง 1,103 คัน รองลงมาได้แก่รถยนต์นั่งไม่เกิน 7 ที่นั่งจำนวน 857 คัน ส่วนรถบรรทุก 10 ล้อ 728 คัน และรถบรรทุกเกิน 10 ล้อขึ้นไป 653 คัน
เช่นเดียวกับสถิติคนผ่านเข้า-ออกประเทศ ณ ที่ด่านแห่งนี้ พบว่าเดือนมกราคม 2555 จำนวนขาเข้าที่เป็นคนไทย 5,682 คน ต่างด้าว 3,651 คน ขาออก คนไทย 5,301 คน ต่างด้าว 4,070 คน เดือนกุมภาพันธ์ 2555 ขาเข้าที่เป็นคนไทย 6,043 คน ต่างด้าว 8,981 คน ขาออกที่เป็นคนไทย 5,872 คน ต่างด้าว 4,247 คน แนวโน้มยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
สายบ้านไผ่-นครพนม14สถานีที่ไหนบ้าง?
เป็นตำนานเล่าขานกันในภาคอีสานว่า ผู้ได้ไปไหว้พระธาตุพนมถือเป็นบุญสุดล้น เพราะกว่าจะไปถึงทางแสนทุรกันดารเล่าเป็นตำนานไม่จบสิ้น แต่วันนี้ฝันจะเป็นจริงหรือไม่ เมื่อกระทรวงคมนาคมโดยสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร(สนข.) เร่งผลักดันแนวเส้นทางรถไฟสายใหม่ช่วงจากบ้านไผ่-นครพนม ระยะทางประมาณ 336 กิโลเมตร จำนวน 14 สถานีซึ่งผ่านพื้นที่สำคัญ ๆ ของแต่ละจังหวัด เริ่มต้นจาก
1. สถานี บ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น - มุ่งไปยัง
2. สถานี กุดรัง
3. สถานี บอระบือ
4. สถานีมหาสารคาม
5. สถานีร้อยเอ็ด
6. สถานีเชียงขวัญ
7. สถานีโพนทอง
8. สถานีหนองพอก
9. สถานี นิคมคำสร้อย
10. สถานีมุกดาหาร
11. สถานีหว่านใหญ่
12. สถานีธาตุพนม
13. สถานีเรณูนคร และ
14. สิ้นสุดที่สถานีนครพนม
ใช้งบประมาณจำนวน 50,000 ล้านบาท
โดยหลักการครั้งนี้ เพื่อส่งเสริมด้านโลจิสติกส์การขนส่งสินค้าและผู้โดยสารในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทยเพื่อให้เกิดการเชื่อมโยงไปยังสปป.ลาวและเวียดนามได้อย่างสะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้นโดยเฉพาะเชื่อมโยงเออีซีที่จะเปิดอย่างเป็นทางการในปี 2558 ขณะนี้อยู่ระหว่างการนำเสนอของบประมาณจำนวน 200 ล้านบาทเพื่อว่าจ้างที่ปรึกษาออกแบบรายละเอียด และคาดว่าจะเริ่มก่อสร้างในช่วงปลายปี 2557
ตามเป้าหมายหากสามารถสร้างผ่านสปป.ลาวให้เชื่อมโยงกับเส้นทางรถไฟของประเทศเวียดนามได้ก็จะส่งผลให้ดีต่อประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคนี้ตามไปด้วยนอกเหนือจากไทย-สปป.ลาวและเวียดนามทั้งในเรื่องการขนส่งสินค้า ผู้โดยสารและยังส่งเสริมการท่องเที่ยวควบคู่กันไปด้วย
เพื่อให้เห็นภาพการเชื่อมโยงที่ชัดเจนมากขึ้นนางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ ผู้อำนวยการสนข.จึงได้นำคณะผู้บริหารกระทรวงคมนาคมและสื่อมวลชนเดินทางไปติดตามความคืบหน้าผลการเปิดใช้สะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 3 พร้อมสำรวจเส้นทางคมนาคมในประเทศเพื่อนบ้านเมื่อวันที่ 29 มีนาคม- 2 เมษายน 2555 ที่ผ่านมาเริ่มต้นจากจังหวัดนครพนม ผ่านถนนเส้นทางหมายเลข 8 ของสปป.ลาวและเข้าสู่ถนนเส้นทางหมายเลข 13 ของเวียดนามเพื่อฉายภาพให้เห็นเด่นชัดยิ่งขึ้น อีกทั้งยังศึกษาผลกระทบด้านต่าง ๆ เพื่อวางแผนการพัฒนารองรับไว้ตั้งแต่บัดนี้
ฝ่าอุปสรรคการใช้เส้นทางในสปป.ลาว
โดยคณะผู้บริหารและสื่อมวลชนเกือบ 50 คนเดินทางโดยรถบัส 1 คันและรถตู้ 1 คันไปตามถนนเส้นทางหมายเลข 13 ผ่าน ณ ด่านกาวแจว และเข้าสู่หมายเลข 8 ในสปป.ลาว ซึ่งถนนโดยส่วนใหญ่ขนาด 2-4 เลนเป็นช่วง ๆ หากเข้าในพื้นที่ป่าที่มีภูเขาสูงชันจะเป็น 2 เลนวิ่งสวนกัน เส้นทางนี้จึงเหมาะสมสำหรับส่งเสริมการท่องเที่ยวทางธรรมชาติมากกว่าจะเน้นไปทางการขนส่งสินค้าขนาดใหญ่ เนื่องจากต้องผ่านไหล่เขาจำนวนมาก สองข้างทางยังเป็นพื้นที่การเกษตร จุดจอดรถขนาดใหญ่ยังไม่มีรองรับ ปั๊มน้ำมันและปั๊มก๊าซยังไม่มีบริการ บางช่วงยังมีการก่อสร้างเพื่อปรับปรุงเส้นทางเป็นระยะ ๆ ดังนั้นการเดินทางจึงต้องใช้เวลานานมากขึ้น แต่ก็ยังพบว่ามีรถบรรทุกไม้และสินค้าอื่น ๆ ใช้เส้นทางหนาแน่นเป็นระยะๆ
เร่งสร้างถนนสายใหม่และรถไฟฟ้าในเวียดนาม
เมื่อผ่านเข้าสู่เส้นทางในเวียดนามที่เมืองวินห์ก่อนที่จะต่อไปยังเมืองฮาลองซึ่งพื้นที่ส่วนใหญ่จะขนานกับถนนสาย A1 พบว่าได้มีการปรับปรุงถนนให้ขยายเลนเพิ่มขึ้นจาก 2 เลนเป็น 4 เลนในช่วงแต่ละจังหวัดตามนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการให้แต่ละจังหวัดดำเนินการขยายเป็น 4 เลนให้แล้วเสร็จในปี 2557 เช่นเดียวกับเมืองฮาลองที่แม้จะเจริญกว่าเมืองอื่น ๆ แต่การจราจรยังหนาแน่น
ดังนั้นหากยังมีรถบรรทุกขนาดใหญ่ไปใช้เส้นทางร่วมหลายฝ่ายยังเกรงว่าคงจะเกิดอันตรายมากขึ้น นอกจากนั้นรัฐบาลเวียดนามยังมีแนวคิดก่อสร้างรางรถไฟให้เป็นขนาด 1.50 (1.435 เมตรต่างหา่ก) เมตร ซึ่งรัฐบาลประเทศญี่ปุ่นจะดำเนินการให้ อีกทั้งยังเร่งสำรวจเพื่อก่อสร้างรถไฟฟ้า เช่น บีทีเอสผ่านใจกลางเมืองสำคัญ ๆ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการสำรวจทางธรณีวิทยา
ประการสำคัญยังเร่งก่อสร้างถนนสาย 1B ที่ห่างจากสาย A1 ประมาณ 12 กิโลเมตร ขนาด 6-8 เลน เพื่อใช้เป็นถนนสายหลักคู่ขนานกันไปจากภาคเหนือจดภาคใต้ของเวียดนามจึงเป็นทางเลือกอีก 1 เส้นทางคมนาคมในการเดินทางของเวียดนามที่หลายฝ่ายต้องการให้มีการจัดระเบียบการใช้รถใช้ถนนให้ดีกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบันนี้โดยเฉพาะรถบรรทุกที่ควรแยกเลนออกมาให้ชัดเจน ไม่วิ่งไปปนกับรถจักรยานยนต์ที่มีอยู่จำนวนมากในเวียดนามส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่ายและใช้เวลาเดินทางมากขึ้นจากความล่าช้าเนื่องจากปัญหาจราจรนั่นเอง
การเดินทางในเวียดนามครั้งนี้ของสนข.และคณะเป็นการเดินทางจากพื้นที่ภาคใต้มุ่งสู่ภาคเหนือ เพื่อศึกษาสภาพเส้นทางคมนาคมขนส่งสินค้า สภาพเศรษฐกิจ และการค้าชายแดน ดังนั้นตลอด 2 ข้างทางของเวียดนามจึงยังพบเห็นการพัฒนาพื้นที่โรงงาน การก่อสร้างนิคมอุตสาหกรรมเป็นระยะๆ คู่ขนานไปกับเส้นทางรถไฟและถนนสาย A1 บางจังหวัดที่เป็นเมืองใหญ่ยังพบว่ามีศูนย์การค้าชั้นนำ เช่น บิ๊กซี เปิดให้บริการ แต่ปัญหาจราจรเมื่อเทียบกับไทยและสปป.ลาวยังเป็นที่น่าคิดว่าจะเกิดปัญหาจนกระทบภาคการคมนาคมขนส่ง หากจะใช้เป็นเส้นทางหลักในการขนส่งผู้โดยสารหรือสินค้า แต่หากเวียดนามสามารถปรับปรุงถนนสายA1 ให้แล้วเสร็จตามแผนปี 2557 น่าจะช่วยให้การแข่งขันทางเศรษฐกิจมีแนวโน้มที่ดียิ่งขึ้น
ดังนั้นแนวโน้มทางเศรษฐกิจในภูมิภาคนี้ตลอดจนเส้นทางเชื่อมโยงโครงข่ายคมนาคมไทยกับเพื่อนบ้านอย่างสปป.ลาวและเวียดนามจะเป็นไปได้เร็วมากแค่ไหน ทันรองรับกับการค้าเสรีอาเซียนหรือเออีซีในปี 2558 หรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับว่าสปป.ลาวจะดำเนินการได้เร็วเพียงใด โดยมีไทยและเวียดนามคอยเป็นพี่เลี้ยงและมีแหล่งทุนจากประเทศชั้นนำคอยให้การสนับสนุนเรื่องระบบคมนาคมขนส่งให้เติบโตควบคู่กันไป
Last edited by Wisarut on 10/03/2013 7:29 pm; edited 1 time in total |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42796
Location: NECTEC
|
Posted: 20/06/2012 12:36 pm Post subject: |
|
|
นี่ครับ เวบทางรถไฟสายบัวใหญ่นครพนม
http://www.buayai-nakhonphanom.com
ส่วนภาพเส้นทาง นั้น ดูได้ที่นี่ครับ - เอาทางเลือกที่ 4 (บ้านไผ่ - นครพนม) เป็นเหมาะ เพราะ มีทางคู่ถนนจืระ - ขอนแก่น พอประหยัด ไม่ต้่องทำทางตรงจากบัวใหญ่ก็ได้
จากนั้น ค่อยทำทางจากบ้านไผ่ ผ่านชัยภูมิ ไป เจอกะทางรถไฟ สายแก่งคอย - บัวใหญ่ ที่ จตุรัส ก่อน จะแยกที่ช่องสำราญ แล้วผ่านวิเชียรบุรีไป นครสวรรค์ ก่อน เลียบ แม่น้ำปิงไป กำแพงเพชร ก่อนออกเมืองตากและแม่สอด -
แต่กระนั้น ทาง ช่วง นครสวรรค์ ไป แม่สอดนั้น หอการค้าภาคเหนืออยากให้เปลี่ยนเป็นออกทางหัวดง ไป กำแพงเพชรหละมากกว่า
http://www.buayai-nakhonphanom.com/images/factsheet-p3B.jpg |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44939
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 20/06/2012 2:58 pm Post subject: |
|
|
ทางเลือกที่ 4 ดีแล้วครับ เพราะผ่านตัวเมืองมหาสารคามด้วย |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42796
Location: NECTEC
|
Posted: 05/03/2013 11:12 pm Post subject: |
|
|
กรอ.มุกดาหารประชุมเตรียมพร้อมรับขนส่งระบบราง
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 5 มีนาคม 2556 18:38 น.
มุกดาหาร - ผู้ว่าฯ มุกดาหารประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน เพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจจังหวัดมุกดาหาร เตรียมพร้อมรับโครงการการขนส่งระบบราง โครงการก่อสร้างเส้นทางรถไฟสายบ้านไผ่ มหาสารคาม ร้อยเอ็ด มุกดาหาร นครพนม
วันนี้ (5 มี.ค.) ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดมุกดาหาร นายสกลสฤษฎ์ บุญประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจจังหวัดมุกดาหาร (กรอ.จังหวัดมุกดาหาร) ครั้งที่ 2/2556 ในการประชุมครั้งนี้ ส.ส.มุกดาหาร คือ นายอนุรักษ์ ตั้งปณิธานนท์ นายบุญฐิน ประทุมลี เข้าร่วมประชุมด้วย
ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกกดาหารกล่าวว่า เนื่องจากรัฐบาลได้มีนโยบายด้านเศรษฐกิจโดย ครม.ได้มีมติเห็นชอบการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษตามที่ สศช.เสนอ และคณะอนุกรรมาธิการ เพื่อศึกษาการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษ จังหวัดมุกดาหาร ดำเนินการเตรียมความพร้อมในการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษจังหวัดมุกดาหารขึ้น และคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 21 มกราคม 2556 เห็นชอบร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยเขตพัฒนาเศรษฐกิจ ตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญในการส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจ ของจังหวัดมุกดาหาร
คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ได้แบ่งการลงทุนออกเป็น 3 เขต ตามปัจจัยทางเศรษฐกิจ โดยใช้รายได้และสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐานเป็นเกณฑ์
สำหรับจังหวัดมุกดาหารจัดอยู่ในเขต 3 ตามสภาพและความเจริญทางเศรษฐกิจของจังหวัดซึ่งกำลังเติบโต เช่น การท่องเที่ยว การค้าชายแดน และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน
ในขณะที่การดำเนินการผลักดันแผนงานโครงการต่างๆ เพื่อสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน เพื่อสร้างอาชีพและรายได้ให้ประชาชน เช่น การขนส่งระบบราง โครงการก่อสร้างเส้นทางรถไฟสายบ้านไผ่ มหาสารคาม ร้อยเอ็ด มุกดาหาร นครพนม ซึ่งได้มีการศึกษาความเหมาะสมไว้แล้ว ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการออกแบบ และได้มีการตั้งงบประมาณรองรับไว้แล้ว หากแล้วเสร็จจะเป็นประโยชน์อย่างมากในการเดินทางและการขนส่ง ซึ่งจะส่งผลดีต่อการกระตุ้นการค้าการลงทุนของจังหวัดมุกดาหารในอนาคต |
|
Back to top |
|
|
nutsiwat
2nd Class Pass
Joined: 03/03/2011 Posts: 684
Location: สถานีเรณูนคร
|
Posted: 07/03/2013 3:52 pm Post subject: |
|
|
เราน่าจะมีเส้นทางรถไฟสายใหม่เพ่ิมขึ้น หรือเกิดขึ้นมาบ้างนะครับ เพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจไปยังภูมิภาคที่มีเส้นทางรถไฟว่ิงผ่าน เพื่อเป็นการพัฒนาเศรษฐกิจในแถบนั้นบ้างนะครับ
แต่ตอนนี้คนจะให้ความสำคัญกับรถไฟความเร็วสูงเป็นส่วนใหญ่ จึงไม่ค่อยให้ความสำคัญในการสำรวจในเส้นทางที่ก่อสร้างเส้นทางรถไฟสายใหม่ ๆ _________________
--------------------------
สถานีต่อไป สถานีเรณูนคร
next station Renunakorn
|
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42796
Location: NECTEC
|
Posted: 10/03/2013 7:32 pm Post subject: |
|
|
วันนี้ไปดูโฆษณาชวนเชื่อ ที่ศูนย์ราชการ ทำให้เป็นโครงการ ทางรถไฟสาย บ้านไผ่-นครพนม ระยะทางประมาณ 336 กิโลเมตร จำนวน 14 สถานีซึ่งผ่านพื้นที่สำคัญ ๆ ของแต่ละจังหวัด เริ่มต้นจาก
1. สถานี บ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น - มุ่งไปยัง
2. สถานี กุดรัง
3. สถานี บอระบือ
4. สถานีมหาสารคาม
5. สถานีร้อยเอ็ด
6. สถานีเชียงขวัญ
7. สถานีโพนทอง
8. สถานีหนองพอก
9. สถานี นิคมคำสร้อย
10. สถานีมุกดาหาร
11. สถานีหว่านใหญ่
12. สถานีธาตุพนม
13. สถานีเรณูนคร และ
14. สถานีนครพนม
ใช้งบประมาณจำนวน 42,301 ล้านบาท - ก็ลองดูว่าจะทำได้จริง --- แต่ ถ้ามีสถานี ศรีสมเด็จระหว่างสถานีมหาสารคาม กับ สถานี ร้อยเอ็ดจะเป็นประโยชน์ในการโหลดทหารขึ้นรถไฟได้ |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42796
Location: NECTEC
|
Posted: 18/03/2013 6:06 pm Post subject: |
|
|
ดูข่าวเรื่องจะทำรถไฟจากพิษณุโลก ผ่าน เพชรบูรณ์ ไป ขอนแก่น ยาว 300 กิโลเมตร มูลค่า 9 หมื่นล้านบาท เพื่อให้พ่อเลี้ยงกะ นายฮ้อย ค้าขายกันโดยตรงโดยไม่ ต้องผ่าน พ่อค้าเมืองกรุง ก็อดคิดไม่ได้ว่า หวยจะมาตกที่บึงพระกะ บ้านไผ่ เพราะ จะได้ไม่ขนานกะทางหลวง 12 เสียเลยทีเดียว อีกทั้ง ยังมีการหมายใจทำให้บึงพระเป็นที่ตั้งสถานีรถไฟความไวสูงอีกต่างหาก ... |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44939
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 24/03/2013 7:03 pm Post subject: |
|
|
ภาคเอกชนวอนรัฐพัฒนารถไฟรางคู่บ้านไผ่-นครพนม
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 24 มีนาคม 2556 14:23 น.
นครพนม - ภาคเอกชนกระทุ้งรัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ขับเคลื่อนรถไฟรางคู่ บ้านไผ่-นครพนม หวังเป็นเส้นทางเชื่อมเศรษฐกิจอีสาน กับประเทศอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง รับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ทั้งเรียกร้องรัฐขยายถนนเข้านครพนมเป็น 4 เลน แก้กฎหมายรับแรงงานชาวเวียดนามทำงานได้
วันนี้ (24 มี.ค.) นายมงคล ตันสุวรรณ ประธานหอการค้าจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 16 มีนาคมที่ผ่านมา ในงานประชุมสัมมนาสภานิติบัญญัติ 4 ประเทศ ไทย-ลาว-เวียดนาม-กัมพูชา ตน และนายสุรพงษ์ ประเสริฐ ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดนครพนม ในนามองค์กรภาคเอกชน ได้ยื่นหนังสือต่อนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร มีประเด็นสำคัญ 4 เรื่องที่ต้องการให้รัฐบาลขับเคลื่อนอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ปี 2558
เรื่องแรกซึ่งสำคัญมาก คือ โครงการรถไฟรางคู่จาก อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น ถึงจ.นครพนม ผ่าน จ.ขอนแก่น จ.มหาสารคาม จ.ร้อยเอ็ด จ.มุกดาหาร และ อ.เมือง จ.นครพนม โดยโครงการนี้ผ่านกระบวนการศึกษาแล้วว่า เกิดประโยชน์ต่อการโดยสารและขนส่งสินค้า คุ้มค่าต่อการลงทุน หากเปิดให้บริการได้ในปี 2561 จะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจโดยรวม สามารถส่งสินค้าไปยังประเทศเพื่อนบ้านได้คล่องตัว สร้างรายได้แก่ชาวอีสานอยู่ดีกินดีขึ้น
ถ้ามองด้านการขนส่งสินค้าจะเป็นจุดเชื่อมต่อ (connectivity) รองรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพราะมีศักยภาพสูงมาก มีสะพานมิตรภาพที่ 1-3 โดยเฉพาะสะพานมิตรภาพนครพนม-แขวงคำม่วน จะเป็นจุดเชื่อมต่อที่นอกจากลาว และเวียดนามแล้ว ยังมีเมืองหนานหนิง มณฑลกวางสี ของจีน ระยะทางสั้นที่สุดเพียง 1,026 กิโลเมตรเท่านั้น ซึ่งจะมีกำลังซื้อมหาศาลจากจีนเมื่อเปิดใช้รถไฟสายนี้
นายมงคล กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม ภาคเอกชนนครพนมค่อนข้างเป็นห่วงที่ปัจจุบันโครงการก่อสร้างรถไฟรางคู่สายบ้านไผ่-นครพนม ที่มีความคืบหน้าน้อยมาก
ส่วนประเด็นอื่น คือ ให้ปรับปรุงเส้นทางรถยนต์เข้าสู่ จ.นครพนม เป็น 4 ช่องจราจร เชื่อมต่อกับทุกจังหวัดในกลุ่มจังหวัดสนุก เช่น จ. สกลนคร จ.นครพนม จ.มุกดาหาร นอกจากนี้ ขอให้รัฐบาลสนับสนุนงบประมาณพัฒนาบุคลากรทางการท่องเที่ยว ส่งเสริมให้มีการจัดประชุมจัดแสดงสินค้านานาชาติ อีสาน-อาเซียนเอ็กซ์โป เป็นประจำทุกปี และข้อเสนอสุดท้าย คือ ปัญหาขาดแคลนแรงงาน ที่ปัจจุบันต้องนำเข้าจากลาว โดยเสนอให้รัฐบาลปรับปรุงกฎหมายเปิดรับแรงงานจากเวียดนามให้เป็นแรงงานถูกต้องตามกฎหมายเพิ่มขึ้นด้วย |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42796
Location: NECTEC
|
Posted: 18/04/2013 6:09 pm Post subject: |
|
|
มุกดาหารรุกตั้งเขตศก.พิเศษชายแดน
โดย กอง บก.ฐานเศรษฐกิจ อสังหา REAL Estate
หน้า อสังหา REAL Estate
ออนไลน์เมื่อวันจันทร์ที่ 15 เมษายน 2013 เวลา 17:35 น.
ตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 33 ฉบับที่ 2,836 วันที่ 18 - 20 เมษายน พ.ศ. 2556
ความคืบหน้าภายหลังที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นอกสถานที่จังหวัดอุดรธานี เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2555 มีมติให้จัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดนจังหวัดมุกดาหาร นครพนม และหนองคาย ทำให้ทางจังหวัดมุกดาหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมความพร้อมในพื้นที่สนองมติ ครม. ดังกล่าว
นายสกลกฤษฏ์ บุญประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร กล่าวถึงการผลักดันให้จังหวัดมุกดาหารเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดน ว่า ภายหลังมติ ครม.เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ ทางจังหวัดได้จัดทำแผนบูรณาการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษจังหวัดมุกดาหาร โดยจัดการประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและขอความอนุเคราะห์ข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อยกร่างเอกสารแผนแม่บทบูรณาการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดน
ต่อมาวันที่ 21 มกราคม 2556 ครม. มีมติเห็นชอบร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยเขตพัฒนาเศรษฐกิจ ตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เสนอ ขณะที่จังหวัดมุกดาหาร ได้จัดประชุมหารือร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและภาคเอกชน จัดหาพื้นที่รองรับการเกิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจในเขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดนมุกดาหาร เนื่องจากมีความพร้อมในเรื่องผลิตผลทางการเกษตร ด้านอุตสหากรรม ด้านโลจิสติก และสถานที่ท่องเที่ยว
สำหรับการผลักดันให้มุกดาหารเป็นศูนย์กลางระบบโลจิสติกส์ นั้น เนื่องจากมติ ครม.เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2556 มีมติเห็นชอบ โครงการก่อสร้างเส้นทางรถไฟสายบ้านไผ่ มหาสารคาม ร้อยเอ็ด มุกดาหาร นครพนม ซึ่งได้มีการศึกษาความเหมาะสมไว้แล้ว หากโครงการนี้เปิดให้บริการ จะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจโดยรวม สามารถส่งสินค้าไปยังประเทศเพื่อนบ้านได้คล่องตัว สร้างรายได้แก่ประชาชน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและเป็นจุดเชื่อมต่อ รองรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการรถไฟแห่งประเทศไทยดำเนินการคัดเลือกที่ปรึกษา เพื่อออกแบบรายละเอียด และได้บรรจุเป็นแผนงานไว้ใน ร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงิน 2 ล้านล้านบาท เพื่อพัฒนาระบบคมนาคมขนส่งทั่วประเทศ
ทั้งนี้ โครงการก่อสร้างเส้นทางรถไฟสายบ้านไผ่ มหาสารคาม ร้อยเอ็ด มุกดาหาร นครพนม แนวเส้นทางจะครอบคลุมพื้นที่ 5 จังหวัด 14 อำเภอ มีจุดเริ่มต้นจากสถานีบ้านไผ่ ผ่าน อ.กุดรัง อ.บรบือ อ.เมืองมหาสารคาม อ.เมืองร้อยเอ็ด อ.เชียงขวัญ อ.โพนทอง อ.หนองพอก อ.นิคมคำสร้อย อ.เมืองมุกดาหาร อ.หว้านใหญ่ อ.ธาตุพนม อ.เรณูนคร และ อ.เมืองนครพนม รวมระยะทางประมาณ 336 กิโลเมตร จะเชื่อมโยงการขนส่งสินค้าระหว่างประตูการค้า(Gateway) จากท่าเรือแหลมฉบังไปยังมุกดาหารและนครพนม โดยสามารถเชื่อมต่อไปยังท่าเรือทวายของพม่า ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของเส้นทางขนส่งตามแนวเศรษฐกิจตะวันออกสู่ตะวันตกรองรับการเปิดเสรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน
นอกจากการขนส่งระบบรางดังกล่าวแล้ว สะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่ 2 มุกดาหาร-สะหวันนะเขต สปป.ลาว ที่เปิดใช้ตั้งแต่เดือนมกราคม 2550 เป็นอีกช่องทางในการเดินทางและขนส่งสินค้าของประเทศ สะพานแห่งนี้ช่วยสร้างความแข็งแกร่งในการเชื่อมโยงเศรษฐกิจภายใต้โครงการพัฒนาเศรษฐกิจตามแนวตะวันออกและตะวันตก ( East-West Economic Corridor) ระหว่างสปป.ลาวและไทย รวมทั้งเวียดนาม ผ่านถนนหมายเลข 9 ซึ่งมีการขยายเครือข่ายของเส้นทางถนนระหว่างประเทศไปจนถึงเมียนมาร์ด้วย
ทั้งนี้นอกเหนือจากศักยภาพด้านโลจิสติกแล้ว ด้านการค้าชายแดน ด่านศุลกาการจังหวัดมุกดาหาร มีมูลค่าสินค้าส่งออก/นำเข้าเพิ่มขึ้นทุกปี ในปี 2555 มูลค่านำเข้ากว่า 3.2 หมื่นล้านบาท ขณะที่มูลค่าสินค้าส่งออก 5.7 หมื่นล้านบาท ส่วนปี 2556 ประมาณการมูลค่าสินค้านำเข้า 4 หมื่นล้านบาท และมูลค่าสินค้าส่งออก ประมาณ 7 หมื่นล้านบาท สินค้าส่วนใหญ่ เป็นอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ เครื่องไฟฟ้า น้ำมันดีเซล /เบนซิน วัสดุ-อุปกรณ์ก่อสร้าง ผลไม้ เป็นต้น
อย่างไรกดีเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา จังหวัดมุกดาหาร จัดประชุมร่วมระหว่างคณะกรรมการร่วมภาคราชการและภาคเอกชน (กรอ.)จังหวัด และภาคประชาสังคมจังหวัดมุกดาหาร มีมติให้ผลักดันขับเคลื่อนการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดนมุกดาหาร อย่างเป็นรูปธรรม โดยมีภาคเอกชนเป็นแกนนำ และมีภาครัฐ ภาคการเมืองทั้งระดับชาติ และระดับท้องถิ่นให้การสนับสนุน
ล่าสุดเมื่อวันที่ 28 มีนาคม ที่ผ่านมา คนมุกดาหารทุกภาคส่วนร่วมรณรงค์ สนับสนุนและผลักดันให้มุกดาหารเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดน เพื่อรองรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC)ในปี 2558 นั่นเอง |
|
Back to top |
|
|
|