ข่าวและภาพรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน

Wisarut · Posted: 27/11/2014 7:41 pm Post subject:

ก.คลังกู้แบงก์ 2.1 หมื่นล.ทำรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน-เขียว-ปรับปรุงรางรฟท.
สำนักข่าวอิสรา

เขียนวันที่ วันพฤหัสบดี ที่ 27 พฤศจิกายน 2557 เวลา 16:02 น.
ก.คลัง ไฟเขียวกู้เงินแบงก์กรุงไทย 2.1 หมื่นล้าน ทำโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน 1.4 หมื่นล้าน สายสีเขียว 3.8 พันล้าน และให้กู้ต่อการ รฟท. ปรับปรุงทางรถไฟที่ไม่ปลอดภัย 3.4 พันล้าน

ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การกู้เงินเพื่อให้กู้ต่อ ในปีงบประมาณ พ.ศ.2558 ครั้งที่ 1

ประกาศดังกล่าว ระบุว่า เพื่อให้เป็นไปตามความในมาตรา 16 แห่ง พ.ร.บ.การบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ.2548 กระทรวงการคลัง ขอประกาศให้ทราบทั่วกันว่า กระทรวงการคลัง โดยความเห็นชอบของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ตามมติที่ประชุม เมื่อวันที่ 2 กันยายน 2557 และอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 7 ประกอบมาตรา 20 (4) และมาตรา 25 แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. 2548 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติม โดยพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๑ ได้ดําเนินการกู้เงิน โดยมีรายละเอียดและเงื่อนไข ดังต่อไปนี้

๑. ผู้ให้กู้ : ธนาคารกรุงไทย จํากัด (มหาชน)

๒. วัตถุประสงค์ในการกู้ : เพื่อให้กู้ต่อแก่การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย สําหรับ
โครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ช่วงหัวลําโพง - บางแค และช่วงบางซื่อ - ท่าพระ และโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง - สมุทรปราการ และเพื่อให้กู้ต่อแก่การรถไฟแห่งประเทศไทย สําหรับโครงการปรับปรุงทางรถไฟที่ไม่ปลอดภัย

๓. รายละเอียดเงื่อนไข :

๓.๑ ระยะเวลากู้เงิน ๒ ปี นับตั้งแต่วันที่ ๑๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๗ ครบกําหนดชําระ ในวันที่ ๑๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๙

๓.๒ วงเงินกู้จํานวน ๒๑,๙๒๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท (สองหมื่นหนึ่งพันเก้าร้อยยี่สิบล้านบาทถ้วน)
โดยแบ่งเป็น ๓ วงเงิน ดังนี้

วงเงินที่ ๑ จํานวน ๑๔,๕๙๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท (หนึ่งหมื่นสี่พันห้าร้อยเก้าสิบล้านบาทถ้วน)
สําหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ช่วงหัวลําโพง - บางแค และช่วงบางซื่อ - ท่าพระ

วงเงินที่ ๒ จํานวน ๓,๘๔๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท (สามพันแปดร้อยสี่สิบล้านบาทถ้วน)
สําหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง - สมุทรปราการ

วงเงินที่ ๓ จํานวน ๓,๔๙๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท (สามพันสี่ร้อยเก้าสิบล้านบาทถ้วน)
สําหรับโครงการปรับปรุงทางรถไฟที่ไม่ปลอดภัย

๓.๓ กระทรวงการคลังจะทยอยเบิกเงินกู้
นับตั้งแต่วันที่ ๑๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๗ จนถึงวันที่ ๑๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ โดยจะแจ้งผู้ให้กู้ทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า ๒ วันทําการ

๓.๔ อัตราดอกเบี้ย
วงเงินที่ ๑ เท่ากับอัตราดอกเบี้ยคงที่ ร้อยละ ๒.๙๕ ต่อปี
วงเงินที่ ๒ เท่ากับอัตราดอกเบี้ยคงที่ ร้อยละ ๒.๙๐ ต่อปี
วงเงินที่ ๓ เท่ากับอัตราดอกเบี้ยคงที่ ร้อยละ ๒.๘๕ ต่อปี

๓.๕ การชําระดอกเบี้ย
กระทรวงการคลังจะชําระดอกเบี้ยเงินกู้ให้ผู้ให้กู้ทุกงวด ๖ เดอนื ในวันที่ ๑๔ พฤษภาคม
และ ๑๔ พฤศจิกายน ของทุกปี โดยจะชําระดอกเบี้ยงวดแรก ในวันที่ ๑๔ พฤษภาคม ๒๕๕๘ และชําระดอกเบี้ยงวดสุดท้าย ในวันที่ ๑๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๙ พร้อมต้นเงินกู้ ณ วันสิ้นสุดสัญญาเงินกู้

๓.๖ การชําระต้นเงินกู้
กระทรวงการคลังจะชําระคืนต้นเงินกู้ทั้งจํานวน ณ วันสิ้นสุดสัญญากู้เงิน คือวันที่ ๑๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๙

๓.๗ การชําระหนี้ก่อนกําหนด
กระทรวงการคลังสามารถชําระหนี้คืนไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนก่อนครบกําหนดระยะเวลาชําระหนี้ได้ โดยกระทรวงการคลังจะแจ้งให้ผู้ให้กู้ทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า ๒ วันทําการ

๓.๘ หากวันครบกําหนดชําระต้นเงินกู้และดอกเบี้ยคราวใดตรงกับวันหยุดราชการหรือวันหยุดตามประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย กระทรวงการคลังจะชําระหนี้ในวันเปิดทําการถัดไป โดยไม่นับวันหยุดราชการหรือวันหยุดตามประกาศธนาคารแห่งประเทศไทยดังกล่าว เข้ารวมเพื่อคํานวณดอกเบี้ยในงวดที่ถึงกําหนดชําระ ยกเว้นการชําระหนี้งวดสุดท้ายให้คํานวณดอกเบี้ยจนถึงก่อนวันชําระหนี้ ทั้งนี้ ในการคํานวณดอกเบี้ย ให้ถือว่าหนึ่งปีมี ๓๖๕ วัน

๓.๙ ไม่มีค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายใด ๆ

ประกาศ ณ วันที่ ๑๑ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๗
พงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์
รองปลัดกระทรวงการคลัง
หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านรายจ่ายและหนี้สิน ปฏิบัติราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2557 นายพงษ์ภาณุ รองปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะกรรมการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังเตรียมกู้เงินจากสถาบันการเงินในประเทศ เพื่อนำมาใช้ในโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าของ รฟม. ใน 5 เส้นทางด้วยกัน วงเงินประมาณ 2 แสนล้านบาท ได้แก่ 1.รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ส่วนต่อขยายช่วงบางแค-พุทธมณฑลสาย 4 2.รถไฟฟ้าสายสีเขียว หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต 3.รถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี 4.รถไฟฟ้าสายสีเหลือง ลาดพร้าว-สำโรง 5.รถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงตลิ่งชัน-ศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี โดยระบุว่าที่กู้สถาบันการเงินในประเทศนั้นเนื่องจากดอกเบี้ยน้อยกว่ากู้ต่างประเทศ

Wisarut · Posted: 01/12/2014 9:09 am Post subject:

BMCL ร่วมแสดงนวัตกรรมระบบรถไฟฟ้า

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
30 พฤศจิกายน 2557 14:10 น.

นายวิทูรย์ หทัยรัตนา รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท รถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BMCL) ร่วมพิธีเปิดงาน Smart Rail Congress & Expo 2014 ซึ่ง BMCL ร่วมออกบูทแสดงเทคโนโลยี และนวัตกรรมระบบรถไฟฟ้า โดยได้รับเกียรติจาก ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานเปิดงาน ณ ไบเทค บางนา เมื่อวันที่ 26 พ.ย.57 ที่ผ่านมา

//--------------

ปิดจราจร ถ.เจริญกรุงขาเข้า 1 ช่อง ทำรถไฟฟ้าสีน้ำเงิน
โดย ทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์ 1 ธ.ค. 2557 10:25

บก.จร.แจ้งปิดจราจรถนนเจริญกรุงขาเข้า 1 ช่องทาง บริเวณสี่แยกอุณากรรณ ถึง สี่แยกสามยอด 1 ธ.ค.57 ถึง 31 ก.ค.58 เคลียร์พื้นที่รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ส่วนต่อขยาย ช่วงหัวลำโพง-สนามไชย...

เมื่อวันที่ 1 ธ.ค. กองบังคับการตำรวจจราจร (บก.จร.) แจ้งว่า โครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ส่วนต่อขยาย ช่วงหัวลำโพง-สนามไชย (สัญญาที่ 1) จะดำเนินงานปรับปรุงสภาพหน้างานเพื่อใช้เป็นที่นำดินที่ขุดจากอุโมงค์ขึ้น ที่สถานีวังบูรพา จึงมีความจำเป็นต้องปิดจราจรถนนเจริญกรุงขาเข้า 1 ช่องทาง บริเวณสี่แยกอุณากรรณ ถึง สี่แยกสามยอด โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. 2557 ถึง 31 ก.ค. 2558 (ตลอด 24 ชั่วโมง).

Mongwin · Posted: 03/12/2014 4:04 pm Post subject:

อุโมงค์รถไฟฟ้าทะลุเจ้าพระยาคืบหน้าตามแผนกำหนดเสร็จปี59

หัวเจาะอุโมงค์รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินทะลุฝั่งพระนครแล้วงานด้านโยธาคืบกว่า 68 เปอร์เซ็นต์คาดก่อสร้างเสร็จปี 59 ตามเป้า
เดลินิวส์ วันพุธ 3 ธันวาคม 2557 เวลา 09:12 น.

Click on the image for full size

นายประพนธ์ จันทร์ประดับฟ้า ผู้จัดการโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายสนามไชย-ท่าพระเปิดเผยว่าขณะนี้หัวเจาะอุโมงค์ลอดใต้แม่น้ำเจ้าพระยาได้เจาะทะลุมาถึงฝั่งพระนครบริเวณสถานีสนามไชยโดยจะทะลุผนังสถานีสนามไชยประมาณวันที่4 ธ.ค.นี้ซึ่งเร็วกว่าแผนเดิมที่จะเจาะทะลุถึงฝั่งพระนครประมาณ1 สัปดาห์ทั้งนี้ภายหลังจากที่นำหัวเจาะขึ้นมาแล้วทางเจ้าหน้าจะยกหัวเจาะกลับไปยังสถานีท่าพระเพื่อประกอบอุปกรณ์และตรวจสภาพความพร้อมในการทำงานคาดว่าประมาณเดือนมี.ค.58จะเริ่มนำหัวเจาะลงใต้ดินเพื่อดำเนินการขุดเจาะอุโมงค์ที่2จากสถานีท่าพระ-สถานีสนามไชยอีกครั้งซึ่งจะใช้เวลาในการขุดประมาณ1ปีโดยจะทะลุฝั่งพระนครประมาณปลายปี58อย่างไรก็ตามสำหรับการขุดเจาะอุโมงค์ลอดใต้แม่น้ำเจ้าพระยาทางเจ้าหน้าที่ได้เริ่มนำหัวเจาะลงใต้ดินและเริ่มขุดจากบริเวณวัดกัลยาณมิตรตั้งแต่เดือนก.ย.57 ที่ผ่านมาซึ่งในการดำเนินงานไม่พบว่ามีปัญหาหรืออุปสรรคในการทำงานแต่อย่างใด

นายประพนธ์กล่าวต่อว่าสำหรับสถานีสนามไชย-สถานีท่าพระมีความยาวประมาณ2.5กิโลเมตรซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของบริษัทช.การช่างด้านความคืบหน้าภาพรวมในการก่อสร้างทั้งตัวสถานีและการขุดเจาะอุโมงค์ขณะนี้มีความคืบหน้ากว่าร้อยละ68ซึ่งเร็วกว่าแผนงานที่กำหนดประมาณร้อยละ2 ทั้งนี้คาดว่าประมาณปี59ระบบงานโยธาจะแล้วเสร็จทั้งหมด

สำหรับโครงการรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีน้ำเงินช่วงสนามไชย– ท่าพระอยู่ในเส้นทางต่อขยายที่จะเชื่อมสถานีหัวลำโพงในปัจจุบัน โดยมีระยะทางต่อขยายใหม่เพิ่มอีก15.9 กม.เป็นโครงสร้างทางวิ่งใต้ดินมีลักษณะทางวิ่งอุโมงคู่รางเดี่ยวในช่วงหัวลำโพง -ท่าพระ ระยะทาง5.4 กม.มีสถานีใต้ดินจำนวน4 สถานีและทางวิ่งยกระดับในช่วงท่าพระ- บางแคระยะทาง 10.5กม.มีสถานียกระดับจำนวน7 สถานี

โครงการจะเริ่มต้นที่บริเวณสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินหัวลำโพงเป็นเส้นทางใต้ดินตามแนวถนนพระราม4ผ่านถนนเจริญกรุงวังบูรพา ถนนสนามไชยลอดใต้แม้น้ำเจ้าพระยาที่บริเวณปากคลองตลาดลอดใต้คลองบางกอกใหญ่ถนนอิสรภาพแล้วเปลี่ยนเป็นเส้นทางยกระดับมีลักษณะเป็นทางวิ่งรางคู่บนเสาตอม่อบริเวณบนเกาะกลางถนนเข้าสู่สี่แยกท่าพระซึ่งจะมีสถานีร่วมกับโครงการฯสายสีน้ำเงิน ช่วงบางซื่อ- ท่าพระไปตามแนวถนนเพชรเกษม ผ่านบางไผ่บางหว้า บางแคและสิ้นสุดสายทางที่บริเวณวงแหวนรอบนอกถนนกาญจนาภิเษก

Wisarut · Posted: 05/12/2014 5:07 pm Post subject:

วิดีโอคลิปการเจาะ อุโมงค์ทะลุแม่น้ำเจ้าพระยามาสถานีสนามไชย
https://www.facebook.com/video.php?v=1534112043472191&set=vb.1409174012632662&type=2&theater

Wisarut

เจรจาสายสีน้ำเงินกับ BMCL ล่าช้า ทำคมนาคมไร้ผลงาน เร่งสรุป ธ.ค.นี้

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
8 ธันวาคม 2557 10:00 น.

เจรจาสายสีน้ำเงินกับ BMCL ล่าช้า ทำคมนาคมไร้ผลงาน เร่งสรุป ธ.ค.นี้

ASTVผู้จัดการรายวัน - กระทรวงคมนาคมสั่งการให้ กก.มาตรา 13 เร่งสรุปเดินรถสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายกับ BMCL ภายในธันวาคมนี้ หลังจากล่าช้ามากว่า 3 ปี ทำรัฐบาลไร้ผลงาน กก.มาตรา 13 แก้เกี้ยวขอข้อมูลเพิ่มเติมจาก BMCL ก่อนเคาะเจรจา

แหล่งข่าวจากการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการพิจารณางานเดินรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีน้ำเงิน (บางซื่อ-ท่าพระ และหัวลำโพง-บางแค) ว่า ล่าสุดเมื่อวันที่ 2 ธันวาคมที่ผ่านมาคณะกรรมการมาตรา 13 (พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ) ที่มีนายรณชิต แย้มสอาด รองผู้ว่าฯ รฟม. (ฝ่ายบริหาร) และรักษาการผู้ว่าฯ รฟม.เป็นประธาน ได้ประชุมและมีความเห็นว่าภายในสัปดาห์นี้จะสอบถามไปยังบริษัท รถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BMCL เพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแผนการให้บริการเพื่อเดินรถต่อเนื่อง โดยขอให้ BMCL ตอบกลับมาภายในเดือนธันวาคมนี้ เพื่อนำมาเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจว่าจะใช้วิธีการเจรจากับ BMCL เพื่อให้เดินรถต่อเนื่องจากสายทางปัจจุบันหรือไม่ ซึ่งคณะกรรมการมาตรา 13 จะรายงานความคืบหน้าให้ที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟม. ที่มี พล.อ.ยอดยุทธ บุญญาธิการ เป็นประธาน รับทราบในวันที่ 19 ธันวาคมนี้

“ที่ผ่านมาการดำเนินงานของกรรมการมาตรา 13 ล่าช้ามาก ไม่สรุปผลให้ชัดเจนว่าจะเจรจากับ BMCL ซึ่งเดินรถสายสีน้ำเงินเดิมอยู่ให้ต่อเนื่องออกไปครบทั้งสายหรือไม่ ทั้งที่รู้ว่าเกิดประโยชน์สูงสุดทั้งในแง่การให้บริการ ความปลอดภัย ประหยัด และเปิดบริการได้เร็วขึ้น เพราะใช้ระบบและทรัพยากรเดิมต่อขยายออกไปได้ และที่ผ่านมา รฟม.ในฐานะหน่วยงานเจ้าของโครงการ และกระทรวงคมนาคมก็มีจุดยืนชัดเจนว่าต้องการให้สายสีน้ำเงินทั้งสายเดินรถต่อเนื่องเพราะเป็นสายวงกลมหลัก และเห็นว่าการเจรจากับ BMCL เป็นประโยชน์ กระทรวงคมนาคมและบอร์ด รฟม.ต้องการให้กรรมการมาตรา 13 สรุปเรื่องการเจรจาเพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีเห็นชอบภายในเดือนธันวาคมนี้”

แหล่งข่าวจาก รฟม.กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวง ได้ให้นโยบายชัดเจนว่า การเดินรถสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายนี้จะต้องเป็นแบบต่อเนื่องกับสายสีน้ำเงินเดิม เพราะจะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนสูงสุด และต้องการให้คณะกรรมการมาตรา 13 เร่งรัดพิจารณาให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพราะขณะนี้งานก่อสร้างโยธาของสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายแล้วเสร็จกว่าร้อยละ 60 แล้ว แต่งานคัดเลือกผู้รับสัมปทานเดินรถกลับล่าช้ามากว่า 3 ปีแล้ว และหากการเจรจากับ BMCL ให้ดำเนินการต่อขยายออกไปทำให้เกิดประโยชน์สูงสุดก็สามารถดำเนินการได้ รวมถึงการเจรจากับ BTS สำหรับสายสีเขียวส่วนต่อขยายด้วย

ที่ผ่านมาคณะกรรมการมาตรา 13 ที่มีนายรณชิต แย้มสอาด รองผู้ว่าฯ รฟม. (ฝ่ายบริหาร) และรักษาการผู้ว่าฯ รฟม.เป็นประธานดำเนินงานล่าช้ามาก เริ่มตั้งแต่ปี พ.ศ. 2554 สมัยรัฐบาลเพื่อไทย โดยไม่ยอมสรุปว่าจะเจรจากับ BMCLหรือไม่ และกลับพยายามผลักดันให้ใช้วิธีประมูลเดินรถแบบแยกระบบ ไม่ต่อกับสายสีน้ำเงินเดิม แต่กรรมการหลายท่านไม่เห็นด้วยเพราะจะทำให้เกิดความเสียหายแก่ระบบขนส่งมวลชนของประเทศและส่วนรวม จนปลายปี พ.ศ. 2556 ก็แจ้งว่าเจรจาไม่ได้เพราะรัฐบาลเพื่อไทยยุบสภาแล้ว จนกระทั่งรัฐบาล คสช.เข้ามาสั่งการให้เร่งรัดสรุป โดยมีความชัดเจนว่าต้องการเดินรถต่อเนื่องกับสายสีน้ำเงินเดิม และเห็นว่าการเจรจากับ BMCL เป็นประโยชน์ และบอร์ด รฟม.ก็มีมติสนับสนุนชัดเจนตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2557 แต่คณะกรรมการมาตรา 13 ก็ยังไม่สามารถสรุปเพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีได้

เป็นที่น่าสังเกตว่าความล่าช้าของกรรมการมาตรา 13 นึ้เกี่ยวโยงกับความต้องการที่จะเปิดประมูลเพื่อหาผู้เดินรถรายใหม่และการจัดซื้อระบบรถไฟฟ้าโดยไม่แคร์ประชาชนอ้างการแข่งขันและความโปร่งใสบังหน้า ทั้งที่รู้ว่ารายเดิมดำเนินการจะถูกกว่า และเร็วกว่า และแม้ว่ากระทรวงคมนาคมและบอร์ด รฟม.เร่งรัดมาก็ไม่เกิดผล การขอข้อมูลเพิ่มเติมจาก BMCL อาจเป็นการแก้เกี้ยวเพื่อบ่ายเบี่ยงทอดเวลาออกไปอีกเพราะข้อมูลประกอบการตัดสินใจ ที่ปรึกษาของ รฟม.ได้จัดทำและเสนอบอร์ด รฟม.อนุมัติไปแล้ว รวมทั้งเสนอกรรมการมาตรา 13 พิจารณาไปแล้วด้วย

Wisarut · Posted: 09/12/2014 4:06 pm Post subject:

แก๊งประมูลรถไฟฟ้าเหิมเกริม ทำรัฐบาลไร้ผลงาน หวังลากยาวจนเลือกตั้งใหม่

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
9 ธันวาคม 2557 09:52 น.

ASTVผู้จัดการรายวัน -โครงการรถไฟฟ้าสายต่างๆของรัฐบาล คสช.ส่อแววล่าช้าไร้ผลงาน เนื่องจากเป็นเกมของแก๊งประมูลรถไฟฟ้าคอยขัดขาสร้างปัญหาให้งานสะดุด หวังลากยาวจนเลือกตั้งใหม่

แหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคมเปิดเผยว่า ตั้งแต่ รัฐบาล คสช.รับผิดชอบบริหารประเทศมาโครงการรถไฟฟ้าสายต่างๆกลับล่าช้าไม่สำเร็จเป็นรูปธรรมแต่อย่างใด ทำให้รัฐบาล คสช. สั่งการให้กระทรวงคมนาคมเร่งรัดงานรถไฟฟ้าสายต่างๆ ทั้งในส่วนงานก่อสร้างโยธาและงานสัมปทานเดินรถ โดยมีนโยบายให้รัฐและเอกชนร่วมลงทุนเพื่อลดภาระแก่รัฐ และเสริมสร้างประสิทธิภาพการให้บริการ เพราะทราบว่าหากยังล่าช้าเช่นนี้จะทำให้การกระตุ้นเศรษฐกิจไทยไม่เกิดขึ้น และประเทศต่างๆขาดความเชื่อมั่น

“ กระทรวงคมนาคมรู้ว่าขณะนี้งานต่างๆล่าช้ามากโดยเฉพาะงานรถไฟฟ้าซึ่งเป็นงานหลักที่ต้องเร่งรัดเพราะมีผลต่อเศรษฐกิจอย่างมาก และก็พยายามเร่งรัดอยู่แต่งานที่อยู่ในมือหน่วยงานสำคัญคือ รฟม. และ รฟท. กลับ ไม่เดินหน้าทั้งที่ รัฐบาล คสช. แทบจะไม่ได้เปลี่ยนแปลงแผนดำเนินงานจากรัฐบาลเพื่อไทยเลยมีเพียงแค่โครงการรถไฟความเร็วสูง (High Speed Train)เท่านั้นที่ให้ระงับไว้ เชื่อว่าเกิดจากขบวนการที่คอยสร้างปัญหาทำให้งานล่าช้า หวังทำลายความเชื่อมั่นที่มีต่อรัฐบาลคสช. โดยอาศัยผู้บริหารระดับสูงใน รฟม. และ รฟท. ที่มีความสัมพันธ์แนบแน่นกลับกลุ่มการเมืองเดิมต่อเชื่อมกับกลุ่มเสนาธิการทหารใกล้ตัวผู้ใหญ่ในรัฐบาลนี้และผู้บริหารระดับสูงในสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.)”

แหล่งข่าวกล่าวว่า ขบวนการนี้ทำงานแบบโยนลูกให้กันสอดรับเป็นอย่างดี หากงานไหนตรงความต้องการก็ช่วยกันแม้กระทั่งหาที่ปรึกษาต่างๆมาสนับสนุน แต่หากไม่เห็นด้วยก็ให้ความเห็นค้าน เช่น ในงานสัมปทานเดินรถโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง มีการให้ที่ปรึกษาของธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย (ADB) ให้ความเห็นว่าเอกชนลงทุนดำเนินการจะแพงกว่ารัฐดำเนินการทั้งที่รู้ว่าไม่เป็นความจริงและขัดต่อนโยบายส่งเสริมการให้รัฐและเอกชนร่วมลงทุน(PPP) แต่พอเป็นโครงการAirport Linkรฟท.จะซื้อรถไฟฟ้าเองทั้งที่มีราคาสูงมาก และยังไม่มีแผนการให้บริการเดินรถและซ่อมบำรุงที่ชัดเจนกลับสนับสนุน หรือกรณีโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูที่ รฟม.จะจัดซื้อMonorailเอง ซึ่งยังมีประเด็นที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ให้ไปพิจารณาทบทวนให้รอบคอบว่าควรเป็นระบบMonorailหรือHeavy Railให้เหมาะสมกับพื้นที่และเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน และมีข้อสังเกตว่าการจัดซื้อระบบMonorailจะทำให้เกิดการผูกขาดล็อคสเป็กได้ แต่ผู้บริหาร รฟม.กลับไม่ดำเนินการอ้างว่าต้องใช้เวลานาน

“แก็งนี้แข็งแกร่งมากไม่กลัวรัฐบาลและบอร์ด มุ่งหวังผลประโยชน์ในการจัดซื้อระบบรถไฟฟ้าและการตั้งบริษัทลูกต่างๆใน รฟม. และ รฟท.เพื่อเดินรถหรือดำเนินการพัฒนาเชิงพาณิชย์ ทั้งที่รู้ว่าไม่มีประสิทธิภาพและจะเป็นภาระแก่รัฐ ขบวนการนี้นึกจะแต่งตั้งใครก็ทำ ย้ายใครก็ย้าย และไม่ต้องการให้หน่วยงานคือ รฟม. และ รฟท. มีผู้ว่าการตัวจริงเพื่อทำงานสำเร็จ อาศัยผู้บริหารระดับสูงในหน่วยงานสร้างปัญหาและยืมมือสื่อมวลชนที่ใกล้ชิดรัฐบาลเก่าคอยสนับสนุน หากโครงการไหนมีแนวโน้มจะสำเร็จ แต่ไม่ตรงตามความต้องการก็จะกลั่นแกล้งเพราะได้ผลสองทางคือ สกัดหรือชะลองานที่ไม่ตรงตามความต้องการไว้จนเลือกตั้งใหม่รอรัฐบาลใหม่มาเปลี่ยนแปลงและดิสเครดิตทำลายความเชื่อมั่นที่มีต่อรัฐบาล คสช.”

ตำแหน่งผู้ว่าการ รฟท. และ รฟม. เป็นเดิมพันสำคัญที่แก็งค์นี้ต้องการ หากไม่ใช่คนจากกลุ่มตนเป็นคงใช้ทุกวิถีทางสร้างปัญหาขัดขวาง เช่นที่ รฟท. กระบวนการสรรหาผ่านมากว่า 6 เดือนแล้วยังไม่แล้วเสร็จ มีการตั้งข้อสังเกตต่างๆสร้างปัญหา และที่ รฟม. มีความพยายามบิดเบือนว่าคุณสมบัติของผู้สมัครที่กำหนดให้ห้ามเป็นรักษาการผู้ว่าการ รฟม.เป็นเงื่อนไขที่ไม่เป็นธรรม กีดกันบุคคลที่เป็นรักษาการผู้ว่าการ การบิดเบือนนี้หวังผลเพื่อสร้างปัญหาในการสรรหาผู้ว่าการ รฟม. ทั้งที่การกำหนดคุณสมบัติผู้สมัครห้ามเป็นรักษาการผู้ว่าการนี้ทำให้เกิดความเท่าเทียมและเป็นธรรมแก่ผู้แข่งขันทุกราย ทำให้เกิดความโปร่งใสและแข่งขันเต็มที่ ซึ่งในกรณีบุคคลที่เป็นรักษาการผู้ว่าการ รฟม. หากเลือกที่จะลงสมัครสรรหาผู้ว่าการก็สามารถไม่รับเป็นรักษาการผู้ว่าการได้ ซึ่งเป็นสิทธิส่วนบุคคลที่จะพิจารณา โดย รฟม. สามารถแต่งตั้งรักษาการผู้ว่าการตามมาตรา27ของ พรบ. รฟม. ที่ระบุว่า ในกรณีที่ไม่มีผู้ว่าการ ให้รองผู้ว่าการอาวุโสสูงสุดตามลำดับเป็นผู้รักษาการ ถ้าไม่มีหรือมีแต่ปฏิบัติหน้าที่ไม่ได้ให้แต่งตั้งกรรมการคนใดคนหนึ่งเป็นผู้รักษาการแทนได้ ที่ผ่านมาในการสรรหาผู้ว่าการ รฟม. ตำแหน่งรักษาการผู้ว่าการมักมีผลทำให้ผู้แข่งขันรายอื่นเสียเปรียบ ให้คุณให้โทษผู้แข่งขันรายอื่นได้ ทำให้การสรรหาไม่เป็นธรรมและไม่โปร่งใส

การคัดเลือกเอกชนให้บริการโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย เป็นอีกเป้าหมายสำคัญของแก็งค์นี้ เพราะต้องการล้มการเจรจากับBMCLเพื่อเปิดประมูลแบบแยกอิสระไม่ต่อเนื่องกับสายสีน้ำเงินเดิม แม้กระทรวงคมนาคมและบอร์ด รฟม.สั่งการให้เร่งรัดกลับคอยสร้างปัญหาจนงานไม่เดิน อ้างความโปร่งใส ต้องการให้เกิดการแข่งขัน ล่าสุดพยายามถ่วงเวลาต้องการขอข้อมูลเพิ่มเติมอีก ทั้งที่ รฟม. และที่ปรึกษา รฟม.ได้จัดทำข้อมูลครบถ้วนชัดเจนยืนยันว่าการเจรจากับBMCLเพื่อเดินรถต่อเนื่องสำหรับสายสีน้ำเงินทั้งสายเป็นประโยชน์ที่สุด โดยเสนอบอร์ด รฟม.เห็นชอบแล้ว และได้รายงานต่อกระทรวงคมนาคมและคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ(คตร.) ถือว่าเป็นเกมส์ถ่วงเวลาและดิสเครดิตรัฐบาลที่แยบยลมาก ต้องจับตาดูว่ารัฐบาลและกระทรวงคมนาคมจะแก้ไขปัญหานี้อย่างไร

Wisarut · Posted: 15/12/2014 1:28 am Post subject:

รฟม.แจงคืบหน้ารถไฟฟ้า"ประจิน" ฉลองอุโมงค์ลอดแม่น้ำเจ้าพระยาพรุ่งนี้
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
updated: 14 ธธันวาคม 2557 เวลา 11:40:57 น.

รฟม.แจงความคืบหน้าการก่อสร้างรถไฟฟ้า คาดสายสีม่วงเปิดวิ่ง ส.ค.59
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
14 ธันวาคม 2557 12:40 น.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ได้เปิดเผยความคืบหน้า งานก่อสร้างรถไฟฟ้า ที่กำลังดำเนินการขณะนี้ ประกอบด้วย

สายสีม่วง ช่วงบางซื่อ-บางใหญ่ ระยะทาง 23 กิโลเมตร งานก่อสร้างภาพรวม คืบหน้าแล้ว 96.30% โดยในส่วนงานโยธา คืบหน้าประมาณ 99% คาดแล้วเสร็จสมบูรณ์ ในเดือน เมษายน 2558 ขณะเดียวกันอยู่ระหว่างเร่งรัดงานระบบรถไฟฟ้าของบริษัท รถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีเอ็มซีแอล ให้จัดหารถมาวิ่งทดสอบเพื่อพร้อมเปิดบริการอย่างไม่เป็นทางการทันปลายปี 2558 หรือต้นปี 2559 ก่อนมีกำหนดการเปิดให้บริการ เป็นทางการ ในเดือนสิงหาคม 2559

ด้านสายสีน้ำเงิน ช่วงบางซื่อ-ท่าพระและหัวลำโพง-บางแค ระยะทาง 27 กิโลเมตร การก่อสร้างคืบหน้า 56.33 % เร็วกว่าแผนงาน 0.31 %

ขณะที่สายสีเขียว ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ ระยะทาง 12.8 กิโลเมตร โดยมีผลงานคืบหน้าประมาณ 44.42% หรือเร็วกว่าแผน 2.30 % ซึ่งทั้ง 2 เส้นทาง คาดว่าจะเปิดใช้บริการตามแผนงานในปี 2560

ส่วนสายทางที่ขออนุมัติ เพื่อประมูลก่อสร้าง จำนวน 6 สาย ระยะทางรวม 142.8 กิโลเมตร จะเริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี 2557 นี้เป็นต้นไป ได้แก่

1. สายสีแดงส่วนต่อขยายจากรังสิต-ม.ธรรมศาสตร์ ระยะทาง 10 กิโลเมตร
2. สายสีแดง Missing Link ช่วงบางซื่อ-หัวลำโพงระยะทาง 6.5 กิโลเมตรและช่วงบางซื่อ-พญาไท-หัวหมาก ระยะทาง 19.5 กิโลเมตร
3. สายต่อขยายแอร์พอร์ตลิงก์จากสนามบินสุวรรณภูมิ-สนามบินดอนเมือง ระยะทาง 21.8 กิโลเมตร 4. สายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี ระยะทาง 34.6 กิโลเมตร
5. สายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี ระยะทาง 20 กิโลเมตร
6. สายเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง ระยะทาง 30.4 กิโลเมตร

ขณะเดียวกัน ในวันพรุ่งนี้ (15 ธ.ค.) พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงคมนาคม จะเดินทางมาเป็นประธานพิธีฉลองความสำเร็จ หัวเจาะอุโมงค์รถไฟฟ้าลอดแม่น้ำเจ้าพระยา (Breaking Through Ceremony of Chao Phraya TBM) ณ สถานที่ก่อสร้างสถานีสนามไชย พร้อมติดตามความคืบหน้าภาพรวมของโครงการ รถไฟฟ้า สายสีน้ำเงิน ช่วงบางซื่อ-ท่าพระและหัวลำโพง-บางแค ด้วย

Wisarut · Posted: 15/12/2014 9:55 am Post subject:

รำแก้บนที่สถานีรถไฟฟ้าใต้ดินเพชรบุรี
https://www.youtube.com/watch?feature=player_embedded&v=3E6XUwspQoQ

ชิงเก้าอี้ผู้ว่าฯรฟม.คึกคัก คุมลงทุนรถไฟฟ้า2แสนล.
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
15 ธันวาคม 2557 08:19 น.

แห่ยื่นสมัครสรรหาผู้ว่าฯรฟม. 7 ราย "พงศ์ภาณุ"คาดสรุปผลเสนอบอร์ดรฟม.ได้ในม.ค.เพื่อให้เริ่มทำงาน ก.พ.58 ขณะที่ ปี58 มีเม็ดเงินลงทุนรถไฟฟ้าสูงถึง 2 แสนล.

นายพงศ์ภาณุ เศวตรุนทร์ รองปลัดกระทรวงการคลังและกรรมการ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ในฐานะประธานคณะกรรมการสรรหาผู้ว่าฯ รฟม. เปิดเผยว่า จากที่ได้ประกาศรับสมัครผู้ว่าฯ รฟม. ตั้งแต่วันที่ 21 พฤศจิกายน-12 ธันวาคม 2557ที่ผ่านมา ปรากฏว่ามีผู้มายื่นใบสมัคร 7 ราย คือ

1.นายกฤต ธนิศราพงศ์
2. นายธีรวิทย์ จารุวัฒน์
3. นายพีระยุทธ สิงห์พัฒนากุล
4. นายต่อศักดิ์ โชติมงคล
5. นายสุระชัย เอี่ยมวชิรสกุล
6. นายอานนท์ ทับเที่ยง และ
7. นายรณชิต แย้มสอาด

โดยขั้นตอนจากนี้ คณะกรรมการสรรหาฯ จะตรวจสอบคุณสมบัติเบื้องต้น จากนั้นจะเชิญผู้ที่ผ่านการพิจารณาคุณสมบัติเบื้องต้นมาสัมภาษณ์และแสดงวิสัยทัศน์ เชื่อว่าจะสามารถรายงานผลการสรรหาผู้ว่าฯ รฟม.ต่อคณะกรรมการ (บอร์ด) ที่มี พล.อ.ยอดยุทธ บุญญาธิการ เป็นประธานให้รับทราบได้ภายในเดือนมกราคม 2558 และผู้ว่า รฟม.คนใหม่จะสามารถเริ่มงานได้ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2558

ทั้งนี้จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าผู้ที่มายื่นใบสมัครส่วนใหญ่เป็นผู้บริหารหรือเคยเป็นผู้บริหารองค์กรขนาดใหญ่มาแล้ว โดยนายกฤต ธนิศราพงศ์ เป็นที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน ซึ่งเคยมีชื่อสมัครเข้ารับการสรรหาผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) และผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) นายธีรวิทย์ จารุวัฒน์ อดีตกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) หรือ TOT นายพีระยุทธ สิงห์พัฒนากุล ปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองผู้ว่า (วิศวกรรม) รฟม.

นายต่อศักดิ์ โชติมงคล อดีตผู้อำนวยการยาสูบ โรงงานยาสูบ กระทรวงการคลัง นายสุระชัย เอี่ยมวชิรสกุล อดีตกรรมการผู้จัดการ บริษัท ธนารักษ์ พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด (ธพส.) นายอานนท์ ทับเที่ยง อดีตกรรมการผู้จัดการใหญ่ TOT และนายรณชิต แย้มสอาด ปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองผู้ว่า (ฝ่ายบริหาร) และรักษาการผู้ว่าฯ รฟม.

โดยก่อนหน้านี้นายพงศ์ภาณุ เคยระบุว่า คุณสมบัติของผู้ที่สามารถสมัครเข้ารับการสรรหาผู้ว่าฯรฟม. คือ ต้องมีอายุไม่เกิน 58 ปีบริบูรณ์ ไม่เป็นข้าราชการการเมือง จบการศึกษาระดับปริญญาตรี และมีความรู้ความชำนาญด้านการบริหารองค์กร โดยจะต้องดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่ารองผู้บริหารสูงสุดของหน่วยงานที่มีรายได้ไม่น้อยกว่า 5,000 ล้านบาทต่อปีและเพิ่มเงื่อนไขว่าจะต้องไม่เป็นผู้รักษาการผู้ว่าการ รฟม. ในวันยื่นใบสมัคร เพื่อให้เกิดการแข่งขันที่โปร่งใสและเป็นธรรม โดยยืนยันว่าการกำหนดคุณสมบัติ เป็นไปอย่างถูกต้อง ไม่ขัดต่อกฎหมาย

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้รัฐบาลต้องการขับเคลื่อนโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าหลายสายให้สำเร็จเป็นรูปธรรม โดยในปี 2558 จะมีเม็ดเงินลงทุนโครงการรถไฟฟ้าถึง 2 แสนล้านบาท จึงถือเป็นภารกิจหลักของผู้ว่าฯรฟม. คนใหม่ ที่ต้องผลักดันโครงการรถไฟฟ้าสายต่างๆให้เป็นไปตามแผน

Wisarut · Posted: 15/12/2014 12:10 pm Post subject:

รถไฟฟ้าใต้ดิน เตรียมปรับขึ้นราคาใหม่ 1 ม.ค.58 สถานีละ1 - 2 บาท โดยราคาใหม่จะอยู่ที่ 16-42 บาท
https://www.youtube.com/watch?v=5iavqqCs0qs
http://news.thaipbs.or.th/content/%E0%B8%94%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%82%E0%B8%97%E0%B8%A5%E0%B8%A5%E0%B9%8C%E0%B9%80%E0%B8%A7%E0%B8%A2%E0%B9%8C%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%82%E0%B8%B6%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%84%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%9C%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%87-22-%E0%B8%98%E0%B8%84%E0%B8%99%E0%B8%B5%E0%B9%89

Wisarut · Posted: 15/12/2014 12:28 pm Post subject:

พิธีฉลองความสำเร็จหัวเจาะอุโมงค์รถไฟฟ้าลอดแม่น้ำเจ้าพระยา โครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน สัญญา 2 ช่วงสถานีสนามไชย-สถานีท่าพระ
จาก รฟม.
15 ธันวาคม 2557

วันนี้ (15 ธันวาคม 2557) พลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และคณะเดินทางมาร่วมพิธีฉลองความสำเร็จหัวเจาะอุโมงค์รถไฟฟ้าลอดแม่น้ำเจ้าพระยา โครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน สัญญา 2 ช่วงสถานีสนามไชย-สถานีท่าพระ ณ สถานที่ก่อสร้างสถานีสนามไชย โดยมีปลัดกระทรวงคมนาคม ประธานกรรมการ รฟม. กรรมการ รฟม. ผู้ว่าการ รฟม. พร้อมคณะผู้บริหาร รฟม. และมีผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) ให้การต้อนรับและนำคณะเยี่ยมชมความก้าวหน้าในการก่อสร้างสถานีสนามไชยพร้อมเป็นเกียรติร่วมถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกับหัวเจาะอุโมงค์รถไฟฟ้าและคณะทำงานขุดเจาะอุโมงค์

การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ในฐานะหน่วยงานที่รับผิดชอบการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ช่วงหัวลำโพง-บางแค และช่วงบางซื่อ-ท่าพระ และบริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้รับจ้างก่อสร้างงานโยธา สัญญาที่ 2 (ช่วงสถานีสนามไชย-สถานีท่าพระ) จัดพิธีฉลองความสำเร็จหัวเจาะอุโมงค์รถไฟฟ้าลอดแม่น้ำเจ้าพระยา (Breaking through Ceremony of Chao Phraya TBM) บริเวณสถานีสนามไชย โดยวัตถุประสงค์การจัดงานในครั้งนี้เพื่อแสดงถึงความก้าวหน้าในการก่อสร้างและตอกย้ำความสำเร็จในการขุดเจาะอุโมงค์รถไฟฟ้าลอดใต้แม่น้ำเจ้าพระยาสายแรกในประเทศไทย โดยการขุดเจาะอุโมงค์รถไฟฟ้ามีความลึกลงไปจากระดับผิวแม่น้ำเจ้าพระยาประมาณ 34 เมตร

ทั้งนี้ โครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน สัญญา 2 ได้ดำเนินงานโดยมีความก้าวหน้า (ณ สิ้นเดือนพฤศจิกายน 2557) เท่ากับร้อยละ 68.09 ซึ่งเร็วกว่าแผนร้อยละ 2 โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2559 และ รฟม. ได้กำหนดให้เปิดเดินรถไฟฟ้าทั้งระบบในเดือนเมษายน 2562