ชงเอกชนเช่ารางกู้วิกฤตรถไฟ

donatt76 · Posted: 15/07/2007 10:01 am Post subject:

ส่วนตัวแล้ว ยินดีครับที่จะเปิดให้อกชน เข้ามาเดินรถไฟแข่ง แต่ขออย่างนึงครับ (อันที่จริงหลายอย่าง)

1. อย่าเอาราคาค่าโดยสารมากำหนดเหมือน ขสมก กับ บขส...เปิดให้เค้าขายราคาสูง ที่เค้าสามารถเดินรถได้ไปเลยครับ...จะได้มีล้อเลื่อนดีๆใหม่ๆ มาเป็นตัวเลือกให้คนไทย ส่วนถ้าราคามันไม่เหมาะสม อุปสงค์ อุปทาน มันจะจัดการเองครับ

2. ช่วยกำหนดเอกชนด้วยว่า ล้อเลื่อนที่จะเอาเข้ามาบริการ ต้องเป็นของใหม่ (อาจจะเก่าจากที่อื่นก็ได้) แต่ไม่ใช่เช่ามาจากรถเก่าหมดสภาพของการรถไฟ เหมือนที่เชิดชัยเคนทำ

3. อย่าแกล้งเอกชน...เช่นบังคับให้เดินตามรถหวานเย็นที่แสนเชื่องช้า (เค้าเร็วว่า ก็ต้องจอดให้เค้าแซงนะ) หรือให้เดินรถในเวลาไม่สวย เช่น กรุงเทพฯ - เชียงใหม่ ให้ออก 23.00 ไปถึงโน่นบ่าย

4. อันนี้เรียกร้องผู้ใช้บริการ...อย่าเรียกร้องให้เค้าใช้ราคาถูก เพราะ คงไม่มีเอกชนรายไหนยอมขาดทุนหรอกครับ...ให้เค้าเก็บค่าโดยสารถูก เราก็ได้บริการห่วยๆอย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้

5. เอกชนเข้ามาแข่งแล้ว...การรถไฟต้องยอมแปรรูปเป็นบริษัทเอกชนเช่นกันครับ...ไม่อย่างนั้นแข่งกับเค้าไม่ได้...อันนี้ผมว่า ยากที่จะทำที่สุดครับ สหภาพค้านหัวชนฝาแน่ เพราะสิ่งแรกที่เอกชนจะทำ คือ ยุบสหภาพนั่นเอง

กลัวว่า พอเปิดให้เอกชนมาแข่ง ก็จะจำกัดโน่น จำกัดนี่ จนรับไม่ไหวมากกว่า

Wisarut · Posted: 16/07/2007 9:49 am Post subject:

ซิเมนต์ไทยฯ ร่วมทุน" การรถไฟ " ซื้อ" หัวรถจักร " เสริมเขี้ยวขนส่ง

ประชาชาติธุรกิจ วันที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2550 ปีที่ 31 ฉบับที่ 3914

CTL ยักษ์ลอจิสติกเครือซิเมนต์ไทยเล็งโดดร่วมทุน ร.ฟ.ท.ลงทุนหัวรถจักร แคร่มูลค่าหลาย 100 ล้านบาท หลังคมนาคมไฟเขียว เหตุ ร.ฟ.ท.บ่จี๊หนี้บาน เผยล่าสุดทุ่ม 100 ล้านซื้อหุ้นบริษัทเดินเรือฉลอม "Jumbo Barge & Tgus" พันธมิตรเก่า 28% เสริมเขี้ยวเล็บขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบ พร้อมลุยงานลอจิสติกในเขมร-เวียดนามรับเครือซิเมนต์ไทยขยายฐานผลิต ล่าสุดจัดตั้งบริษัท "SCG Logistics Management" ในเครือสยามซีเมนต์กรุ๊ป เปิดบริการกัมพูชาสิงหาคมนี้

จากปัญหาที่การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) มีภาระเรื่องหนี้สินจำนวนมาก ทำให้กระทรวงคมนาคมมีนโยบายที่จะเปิดให้ภาคเอกชนเข้าไปมีส่วนร่วมทุนเรื่องรถ แคร่ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่ง โดยขณะนี้อยู่ระหว่างศึกษารูปแบบ และความชัดเจนในเรื่องของการจัดเวลาของ ร.ฟ.ท.เพื่อส่งเสริมนโยบายด้าน ลอจิสติกของรัฐบาลเรื่องการขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบ (Multimodal Transport Operation-MTO)

นายภาณุมาศ ศรีศุข กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซิเมนต์ไทย โลจิสติกส์ จำกัด หรือ CTL เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ในอนาคตหากการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) มีนโยบายเปิดโอกาสให้บริษัทเอกชนเข้าไปมีส่วนรวมในการดำเนินการขนส่งสินค้าได้มากขึ้นในหลายๆ รูปแบบ เช่น การนำหัวรถจักรมาวิ่งบริการ

โดยเอกชนลงทุนหัวรถจักร และแคร่เอง ทาง CTL เองมีความสนใจ แต่การลงทุนอาจไม่ใช่ CTL รายเดียว เพราะหัวรถจักร 1 หัวลงทุนเกือบ 100 ล้านบาท ยังไม่รวมแคร่บรรทุกสินค้าด้านหลัง เป็นเรื่องที่ต้องศึกษา และติดตามกันต่อไป

ส่วนใหญ่การขนส่งทางรถไฟ CTL จะเน้นทุกสินค้าอุตสาหกรรมที่มีปริมาณการขนส่งจำนวนมาก เช่น การขนส่งปูนซีเมนต์ ซึ่งเป็นของหนัก, การขนส่งวัสดุก่อสร้าง, การขนส่งสินค้าเกษตร กรรม อย่างข้าวโพดเป็นของหนัก เพราะฉะนั้นการขนส่งทางรางรถไฟ หรือการขนส่งต่อเนื่องทาง CTL ดำเนินการอยู่แล้วระดับหนึ่ง

การขนส่งสินค้าทางรถไฟนอกจากจะช่วยผู้ประกอบการอย่าง CTL แล้ว ในแง่ของประเทศชาติคงจะดีขึ้น เพราะการขนส่งทางรถไฟทำให้ประหยัดค่าน้ำมันในการขนส่ง ปัจจุบันราคาน้ำมันมีแต่จะปรับราคาขึ้น ขณะที่ประเทศไทยมีการนำเข้าน้ำมันจำนวนมาก ค่าใช้จ่ายยิ่งเพิ่มขึ้น แต่รถไฟใช้น้ำมันน้อยกว่ารถยนต์ 3-4 เท่าเมื่อเทียบตันต่อตัน รวมทั้งช่วยลดภาวะโลกร้อน

"นโยบายของ CTL หรือเครือปูนซิเมนต์ไทย ดำเนินการสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล และคณะกรรมการลอจิสติกแห่งชาติอยู่แล้วทั้งเรื่องการขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบ การนำระบบไอที E-logistics" นายภาณุมาศกล่าวและว่า

เมื่อ 4-5 เดือนที่ผ่านมาทาง CTL ได้เซ็นสัญญาร่วมทุนกับบริษัท Jumbo Barge & Tgus ซึ่งเป็นบริษัทที่ทำธุรกิจเดินเรือบรรทุกสินค้า (เรือฉลอม) ในแม่น้ำ และเป็นพันธมิตรที่ CTL ใช้บริการเรือของ Jumbo Barge มานานแล้ว เพื่อให้เกิดความมั่นใจทั้งสองฝ่ายจึงเข้าไปถือหุ้นประมาณร้อยละ 27-28 โดยจ่ายเงินค่าหุ้นไปประมาณ 100 กว่าล้านบาท เป็นการแสดงเจตจำนงในระยะยาวเรื่องการขนส่งต่อเนื่องทางน้ำ ถือเป็นสิ่งที่สอดคล้องกับนโยบายของประเทศเรื่องการขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบ

นอกจากนี้ ทาง CTL อยู่ระหว่างเตรียมงานที่จะรองรับการขยายฐานการผลิตของเครือปูน ซิเมนต์ไทยไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ได้แก่ กัมพูชาและเวียดนาม โดยในส่วนของกัมพูชา ล่าสุดทาง CTL ได้ไปจัดตั้งบริษัท SCG Logistics Management ในเครือสยามซีเมนต์กรุ๊ป ซึ่งจะเปิดให้บริการได้เดือนสิงหาคม 2550

"ในเขมรวันนี้ มีงานในปูนซิเมนต์ไทย 1 ล้านตันแล้ว การทำลอจิสติกในเขมรจะดำเนินนโยบายเดียวกับไทยด้วยการสร้างเครือข่ายพันธมิตรในท้องถิ่น ซึ่งมีความชำนาญกว่า เราเพียงเอาอุปกรณ์ไอทีเข้าไปออกแบบระบบงาน การจ่ายของ เอกสาร การปิดบัญชี คนขับรถอ่านภาษาอังกฤษไม่ออก ต้องทำภาษาเขมรให้ ตอนนี้ส่งคนที่มีความชำนาญสูงไป 1 คน และเจ้าหน้าที่อีก 3 คนไปฝึกอบรมให้คนเขมรพัฒนาขึ้นมาให้ได้ ซึ่งระบบไอทีต่างๆ จะลงที่เขมรเสร็จเดือนหน้า จะไปทำต่อในเวียดนาม" นายภาณุมาศกล่าวและว่า

นอกจากนี้ จะมีการขนส่งสินค้านอกเครือในกัมพูชาและเวียดนามด้วย เช่น ปัจจุบันมีบริษัทในประเทศสิงคโปร์นำเข้าเครื่องดื่ม และมีผู้ลงทุนคนไทยไปลงทุนทำน้ำตาล และในระยะยาวหาก CTL นำเข้าถ่านหินไปกัมพูชา ในกัมพูชาอาจมีการส่งออกปูนซีเมนต์

Wisarut · Posted: 18/07/2007 9:52 am Post subject:

สุรยุทธ์จี้ก้น รฟท.ยกเครื่องแก้ขาดทุน
ถกสหภาพดึงเอกชนสัมปทาน

เดลินิวส์ - วันที่ 18 กรกฎาคม 2550

นายสรรเสริญ วงศ์ชะอุ่ม รมช.คมนาคม เปิดเผยว่า ในการประชุมครม.วันที่ 17 ก.ค.ที่ผ่านมา พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ได้สอบถามความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ว่ากระทรวงฯ ได้ดำเนินการไปถึงไหนแล้ว โดยได้รายงานว่า รฟท.อยู่ระหว่างการพิจารณาแก้ไขกฎหมาย ซึ่งได้เปิดโอกาสให้เอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในการบริหารและเช่าใช้รางในการเดินรถ เพื่อให้ รฟท.มีรายได้เพิ่มขึ้น

พร้อมกันนั้น ในเร็ว ๆ นี้จะจัดประชุมร่วมกันระหว่างคณะกรรมการ รฟท. ผู้บริหารและสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ รฟท.เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว เพื่อให้เกิดความเข้าใจตรงกัน เนื่องจากที่ผ่านมาสหภาพฯ มีความกังวลว่าหากเปิดทางให้เอกชนเข้ามามีบทบาทจะกระทบกับสถานการณ์เป็นรัฐวิสาหกิจ

“นายกรัฐมนตรีแสดงความเป็นห่วง รฟท. เพราะการแก้ปัญหาต่าง ๆ มีความล่าช้า ซึ่งกระทรวงฯ จะเร่งหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อจัดทำแผนฟื้นฟู รฟท.ในระยาวให้เห็นผลเป็นรูปธรรมโดยเร็ว”

นอกจากนี้ รฟท.กำลังปรับปรุงกฎหมายบางส่วน เพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการบริหารงาน คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือน ก.ค.นี้ หลังจากนั้นจะเสนอเรื่องเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการกลั่นกรอง ซึ่งมีนายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.อุตสาหกรรมเป็นประธาน เพื่อพิจารณาอนุมัติก่อน ครม.พิจารณาต่อไป

“การลงทุนระบบราง มีความสำคัญต่อการพัฒนาประเทศในอนาคต เพราะการขนส่งทางรางจะช่วยทำให้ต้นทุนการบริหารจัดการต่ำ ตรงต่อเวลา โดยในอนาคต รฟท.จะเปิดให้เอกชนเข้ามาร่วมทุนมากขึ้น ซึ่งมีเอกชนจากหลายประเทศให้ความสนใจที่จะเข้ามาลงทุนโดยเฉพาะจีน”.

black_express · Posted: 18/07/2007 10:25 am Post subject:

ผมว่านะ...ไหนๆ ก็มีผู้สนใจจะร่วมลงทุนจัดหารถจักร ล้อเลื่อน มาบริการตั้งหลายราย นับว่าเป็นข่าวที่ดี ที่ยังมองเห็นความสำคัญของระบบการขนส่งด้วยรางในประเทศไทย

แต่การจัดหารถจักร ล้อเลื่อน มาบริการเอง ผลประโยชน์ที่ได้ กลับเป็นของเอกชนผู้ลงทุน แต่ใช้พนักงานของการรถไฟฯ เป็นผู้ควบคุม และจัดระบบการเดินรถ โดยได้รับเพียงค่าบริการ และรับผิดชอบด้านการซ่อมบำรุง ลงทุนก่อสร้างทางโดยได้รับงบประมาณจากรัฐบาลซึ่งได้บ้าง ไม่ได้บ้าง ตามแต่นโยบายของผู้นำประเทศ และเจ้ากระทรวง มันยังไงๆ อยู่นะครับ เพราะการขนส่งในปัจจุบันนี้ รอไม่ได้ แถมต้องวางแผนรองรับเอาไว้เผื่ออนาคต ซึ่งต้องลงมือทำกันจริงๆ จังๆ ด้วย

ถ้าจะให้ผลประโยชน์ตกถึงมือของการรถไฟฯ ได้เต็มที่ โดยพนักงานไม่ต้องแบ่งภาคไปให้บริการแก่ขบวนรถไฟของเอกชน และไม่มีอัตรากำลังเพิ่มเติมแบบนี้

ตั้งบริษัทลูกขึ้นมาบริหารงานเดินรถสินค้าดีกว่าครับ นักเรียนวิศวกรรมรถไฟที่จบมา ยังมีโอกาสได้งานทำบ้างในฐานะพนักงานบริษัท ไม่ต้องรออัตราบรรจุของการรถไฟฯ

kaset_BKK · 3rd Class Pass Joined: 14/07/2007 Posts: 3

ผมว่ามันก็ดีนะครับ
โดยเรื่องค่าบริการ ให้เอกชนตั้งได้ตามใจชอบเลย
เพราะเป็น option เสริมจากสิ่งที่การรถไฟมีให้กับประชาชนอยู่แล้ว

เหมือนโรงพยาบาลรัฐ ใครไปรักษาก็ได้ กับโรงพยาบาลเอกชน
ผมว่า ถ้าเอกชนสนใจเดินรถโดยสาร อาจจะเป็นแบบนี้ก็ได้นะครับ

ดูจากขบวนรถที่พ่วงไม่เต็มหน่วย ซื้อรถพ่วงมาเสริม เช่น
อาจจะเป็นรถนั่งปรับอากาศ บนขบวนรถเร็วสายอีสานใต้ก็ได้
กลางวันมันก็ร้อน น่าจะขายได้

แต่ราคาสู้รถบัสได้หรือเปล่านี่สิครับ

ผมอยากดูว่า ถ้าแยกต้นทุนออกจากกันระหว่าง ต้นทุนการเดิมรถ กับต้นทุนทำราง
จะเป็นอย่างไร

รถบัส ไม่ต้องทำถนนเอง ทำราคาถูกหน่อยได้ อย่างกทม. โคราช ๑๙๘ บาท
แต่รถไฟแดวู ๓ร้อยกว่าบาท ที่สู้กันไม่ได้เพราะรถไฟทำรางเอง
ถ้ารัฐลงทุนทำทางรถไฟ
โดยการรถไฟ เป็นเหมือนกรมทางหลวง ที่คอยดูแลเส้นทางให้อยู่ในสภาพดี
การรถไฟ เห็นเหมือนตำรวจจราจร ควบคุมการเข้าและออกของขบวนรถ
การรถไฟ เหมือนพวก CWC เมื่อรถเกิดปัญหา เข้าไปช่วยแต่เก็บเงิน
การรถไฟ เหมือนพวก บีควิก ออโต้เซิฟ ซ่อมบำรุงรถตามเวลาให้
เก็บค่าใช้ราง เหมือนค่าทางด่วน แต่ว่าไม่มีด่านเก็บเงินนะ เก็บไปก่อนใช้แล้ว

ให้เอกชนรับผิดชอบเดินรถ หาซื้อรถมาวิ่งบนราง
คุณๆท่านอื่นเห็นว่าจะรุ่งมั๊ยครับ
ถ้าเอกชนเจ๊ง อาจจะซื้อรถเขามาถูกๆก็ได้ เพราะเจ๊งแล้ว รถก็ไม่รู้จะเอาไปทำอะไร
แล้วธนาคารยึดไปก็ ธนาคารก็ไม่รู้จะเก็บไว้ให้สนิมกินหรือไง
สู้ตัดขายถูกๆแก้ขาดทุนดีกว่า

Wisarut · Posted: 24/07/2007 6:50 pm Post subject:

ครม.เปิดทาง รฟท.ปรับปรุงโครงสร้าง-แก้ปัญหาขาดทุน

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 24 กรกฎาคม 2550 18:09 น.

คณะรัฐมนตรีไฟเขียวแผนปรับโครงสร้างการบริหารจัดการของ รฟท. เพื่อฟื้นฟูฐานะการเงิน โดยเฉพาะกรอบการเดินรถเชิงพาณิชย์จะให้เอกชนเข้ามาให้บริการ และมีการแข่งขันมากขึ้น ขณะที่ ผู้ช่วยผู้ว่าการ รฟท.ยอมรับงบการเงินประจำปี 2550 จะขาดทุนกว่า 9,000 ล้านบาท จึงขออนุมัติคณะรัฐมนตรีกู้เงินระยะยาว 5,000 ล้านบาท นำมาเป็นทุนหมุนเวียน

นางเนตรปรียา ชุมไชโย ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีอนุมัติแผนปรับปรุงโครงสร้างการบริหารจัดการเพื่อฟื้นฟูฐานะการเงินของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ทั้งกรอบโครงสร้างสาขาการขนส่งทางรถไฟ การแก้ไข พ.ร.บ.รฟท. การฟื้นฟูฐานะของ รฟท. โดยเฉพาะการเดินรถแบ่งเป็นการเดินรถเชิงพาณิชย์และสังคม ซึ่งในเชิงสังคมจะให้ รฟท.เป็นผู้ให้บริการเพื่อลดภาระให้กับประชาชน ส่วนการเดินรถในเชิงพาณิชย์จะเปิดให้เอกชนเข้ามาให้บริการและมีการแข่งขันมากขึ้น เพราะที่ผ่านมาภาคเอกชนได้เข้ามาให้บริการในเบื้องต้นแล้ว แต่จากนี้ไปจะให้ลงทุนซื้อหัวรถจักร ตู้สินค้า รวมถึงบุคลากร เพื่อให้บริการ โดยคณะรัฐมนตรีให้กระทรวงคมนาคมแก้ไข พ.ร.บ.รฟท. ให้เสร็จภายใน 30 วัน

ด้านนายโชติชัย สุวรรณาภรณ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ รฟท. กล่าวว่า รายงานงบการเงินประจำปี 2550 ของ รฟท. คาดว่าจะมีรายได้ 8,983 ล้านบาท มีรายจ่าย 18,146 ล้านบาท ทำให้ขาดทุนถึง 9,113 ล้านบาท ดังนั้น คณะรัฐมนตรีจึงอนุมัติให้ รฟท. กู้เงินระยะยาวจำนวน 5,000 ล้านบาท โดยกระทรวงการคลังเป็นผู้ค้ำประกัน เพื่อแก้ปัญหาขาดทุนเงินสดและใช้หมุนเวียนในกิจการและนำไปใช้ปรับปรุงประสิทธิภาพต่าง ๆ เพื่อลดค่าใช้จ่าย รฟท.ในอนาคต

newdriver · Posted: 24/07/2007 10:53 pm Post subject:

อยากให้มีการเชื่อมต่อทางรถไฟสาย มหาชัย และ แม่กลอง เข้ากับทางรถไฟสายหลักเพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้เดินทางโดยรถไฟ เพราะทางรถไฟสองสายนี้โดดเดี่ยวมาแต่แรกและผู้ใช้บริการลดลงไปทุกที

Wisarut · Posted: 25/07/2007 10:01 am Post subject:

ครม.เปิดทาง รฟท.ปรับปรุงโครงสร้าง-แก้ปัญหาขาดทุน

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 24 กรกฎาคม 2550 18:09 น.
Matichon - 24 July 2007

คณะรัฐมนตรีไฟเขียวแผนปรับโครงสร้างการบริหารจัดการของ รฟท. เพื่อฟื้นฟูฐานะการเงิน โดยเฉพาะกรอบการเดินรถเชิงพาณิชย์จะให้เอกชนเข้ามาให้บริการ และมีการแข่งขันมากขึ้น ขณะที่ ผู้ช่วยผู้ว่าการ รฟท.ยอมรับงบการเงินประจำปี 2550 จะขาดทุนกว่า 9,000 ล้านบาท จึงขออนุมัติคณะรัฐมนตรีกู้เงินระยะยาว 5,000 ล้านบาท นำมาเป็นทุนหมุนเวียน

นางเนตรปรียา ชุมไชโย ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีอนุมัติแผนปรับปรุงโครงสร้างการบริหารจัดการเพื่อฟื้นฟูฐานะการเงินของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ทั้งกรอบโครงสร้างสาขาการขนส่งทางรถไฟ การแก้ไข พ.ร.บ.รฟท. การฟื้นฟูฐานะของ รฟท. โดยเฉพาะการเดินรถแบ่งเป็นการเดินรถเชิงพาณิชย์และสังคม ซึ่งในเชิงสังคมจะให้ รฟท.เป็นผู้ให้บริการเพื่อลดภาระให้กับประชาชน ส่วนการเดินรถในเชิงพาณิชย์จะเปิดให้เอกชนเข้ามาให้บริการและมีการแข่งขันมากขึ้น เพราะที่ผ่านมาภาคเอกชนได้เข้ามาให้บริการในเบื้องต้นแล้ว แต่จากนี้ไปจะให้ลงทุนซื้อหัวรถจักร ตู้สินค้า รวมถึงบุคลากร เพื่อให้บริการ โดยคณะรัฐมนตรีให้กระทรวงคมนาคมแก้ไข พ.ร.บ.รฟท. ให้เสร็จภายใน 30 วัน

ด้านนายโชติชัย สุวรรณาภรณ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ รฟท. กล่าวว่า รายงานงบการเงินประจำปี 2550 ของ รฟท. คาดว่าจะมีรายได้ 8,983 ล้านบาท มีรายจ่าย 18,146 ล้านบาท ทำให้ขาดทุนถึง 9,113 ล้านบาท ดังนั้น คณะรัฐมนตรีจึงอนุมัติให้ รฟท. กู้เงินระยะยาวจำนวน 5,000 ล้านบาท โดยกระทรวงการคลังเป็นผู้ค้ำประกัน เพื่อแก้ปัญหาขาดทุนเงินสดและใช้หมุนเวียนในกิจการและนำไปใช้ปรับปรุงประสิทธิภาพต่าง ๆ เพื่อลดค่าใช้จ่าย รฟท.ในอนาคต

--------------------------------------------------------------------------------

Mahachai · Posted: 25/07/2007 12:08 pm Post subject:

ขาดทุน ครึ่งต่อครึ่งเลยนะครับเนี่ย จะไหวไหมเนี่ย Crying or Very sad

_________________
Click on the image for full size

รถไฟวิ่งไปรวดเร็วดั่งใจหวัง