Review เกาะสมุย ไปกับโปรโมชั่นการบินไทย

[thanakd]

สวัสดีทุกๆ ท่านชาว RFT นะครับ วันนี้ผมมีรีวิวมาฝากอีกแล้วครับ
เนื่องจากเมื่อวันหยุดเทศกาลวันแม่ที่ผ่านมา ผมไปเที่ยวเกาะสมุยมาครับ
แต่งานนี้แอบนอกใจรถไฟนะครับ เนื่องจากได้โปรโมชั่นพิเศษของการบินไทยครับ

Route : กรุงเทพ-เกาะสมุย
From: DMK ท่าอากาศยานดอนเมือง
Destination: URT ท่าอากาศยานนานาชาติสุราษฎร์ธานี
Flight: TG1253 (การบินไทย)
Date: ศุกร์ที่ 10 ส.ค. 2550
Time: 09:35am - 10:50am

จริงๆ Trip นี้วางแผนไว้นานแล้วครับ ตั้งแต่ต้นเดือน ก.ค. ว่าจะไปเที่ยวสมุยในช่วงวันแม่
ก็เลยรีบเช็คราคาที่พักและตั๋วโดยสาร ก็เลยไปเจอราคาโปรโมชั่นของการบินไทยครับ
Click ที่นี่เพื่อดูรายละเอียดค่าโดยสารการบินไทยโปรโมชั่นพิเศษ
หลังจากนั้นก็รีบไป Booking ตั๋วจนได้เป็น E-Ticket ออกมาครับ


และแล้วก็มาถึงวันเดินทางครับ เช้าตรู่ของวันศุกร์ที่ 10 ส.ค. 2550 ก็ออกจากบ้านเพื่อจะ
รีบบึ่งไปสนามบินดอนเมืองที่คุ้นเคย ผมขึ้น Taxi จากหน้าปั๊ม ปตท. ถ.วิภาวดี ประมาณ 7.30 น.
ไปถึงสนามบินยังไม่ 8 โมงเลยครับ ก็เลยไป Check-In จนได้ Boarding Pass ออกมา
(ผม Check-In เป็นคนที่ 56 จากผู้โดยสารทั้งหมด 170 คนครับ)


เหลือเวลาอีกตั้งชั่วโมงครึ่ง ก็เลยไปหาอาหารเช้าทานเสียหน่อย และทราบมาจาก
เจ้าหน้าที่เคาน์เตอร์ว่าไม่มีบริการอาหารบนเครื่อง มีแต่ของว่าง ก็เลยเดินมาจนถึง
ร้าน "ครัวเสวย" ครับ ผมชอบเดินมาร้านนี้เพราะว่า อยู่ติดกับสำนักงานลูกเรือนกแอร์ อิอิ


แล้วก็ได้ข้ามต้มกุ้งมากิน 1 ชาม ราคา 80 บาทไทย พร้อมปริมาณกุ้งตามที่เห็นในภาพ -*-


หลังจากทานข้าวต้มซากกุ้งเรียบร้อยแล้ว ก็เข้ามาภายในบริเวณโถงผู้โดยสารขาออกครับ
คนเยอะพอสมควร 80% เท่าที่เห็นเป็นชาวต่างชาติครับ และสายการบินยอดนิยมก็คือ นกแอร์
เพราะเหมา Gate (ทางออกขึ้นเครื่อง) ไปประมาณ 7 Gate ได้


ส่วนของการบินไทย เท่าที่เห็นวันนั้นก็มี Gate 62,64,66 แค่นี้ล่ะครับ
และในเที่ยวบินของผมนั้น อยู่ที่ Gate 66 ครับ (อยากได้ Gate 69 จัง)


งวงประจำ Gate


มาแล้วครับ เจ้าป้าจำปีแห่ง TG ที่จะพาผมไปสุราษฎร์ฯ ในวันนี้
เป็น Boeing 737-400 ซึ่งมีนามพระราชทานว่า "ศรีสุราษฎร์" ครับ


สภาพอากาศครึ้มมากๆ สงสัยว่าฝนจะตก


และแล้วสายการบินก็ประกาศเรียกผู้โดยสารขึ้นเครื่องครับ


ภายใน Cabin ยังดูโล่งๆ เพราะผมขึ้นมาเร็วกว่าคนอื่นครับ เที่ยวบินนี้ผู้โดยสารเต็มครับ


สรรพสิ่งภายในกระเป๋าหน้าท้อง


ช่องว่างระหว่างที่นั่ง สำหรับคนตัวไม่เล็กอย่างผม พอนั่งได้ครับ ไม่ถึงกับอึดอัด ชิวๆ
(เคยนั่งของแอร์เอเชียไปสิงคโปร์ ทรมานมากมาย....)


หมอนอิง และหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ซึ่งมีข่าวหน้า 1 เกี่ยวกับเครื่องบินตก (จรรโลงใจมาก)


และแล้วก็ถึงเวลา Push Back ครับ พี่ๆ ทีมช่าง ก็มายืนส่ง มีโบกมือบ๊ายบายด้วย


ระหว่างที่กำลัง Taxi ไปเรื่อยๆ เพื่อจะไปยังรันเวย์ ฝนก็ตกครับ


เลี้ยวเข้าสู่รันเวย์ 21R


เสียงลูกเรือประกาศ "Cabin crew prepare for take off"


แล้วก็เชิดหน้าทะยานสู่ท้องฟ้าครับ ภาพด้านล่างที่เห็นเป็นบริเวณแยกหลักสี่ (ทศท)



_________________
Please mind the gap between train and platform!

[thanakd]

และแล้วลูกเรือ Tom & Jerry ก็ออกมาแจกอาหารว่างครับ


ลายกล่องแบบเดิมๆ ครับ "ชะนีแบกโลก"


ภายในกล่องก็มี น้ำผลไม้รวม ขนมเค้ก แล้วก็ชุดเครื่องปรุงกาแฟครับ


ระหว่างทานของว่างไป ก็นั่งชมบรรยากาศทะเลเมฆไป -*- ตกหลุมอากาศบ้างเป็นระยะ


ตามมาด้วยน้ำส้มลอยฟ้า สำหรับผม ผมว่าใครที่นั่งการบินไทย แล้วไม่ดื่มน้ำส้มนี่ เสียดายแย่


แล้วก็ล้างปากด้วย น้ำดื่มลอยฟ้า อีกสักแก้ว


เมื่ออิ่มหมี ไม่ใช่สิ อิ่มขนมแล้ว ก็ไปล้างมือในห้องน้ำ


ล้าง... เอ่อ เป็นอันว่าเข้าใจกันก็แล้วกันเนอะ


หลังจากเสร็จกิจ (ฟังดูทะแม่งๆ นะ) ก็กลับมาที่นั่งตามเดิม เห็นชายหาดชุมพรแล้ว
นั่นหมายความว่า จะถึงแล้วล่ะสิเนี่ย


และแล้วเสียงลูกเรือก็ประกาศ "Cabin crew prepare for landing"
(แอบเห็นทางรถไฟอยู่ข้างล่าง ก็เลยถ่ายรูปมาเสียหน่อย แฟนพันธ์แท้ลองทายดูซิครับ
ว่ารางที่เห็นนั้น เป็นรางบริเวณสถานีอะไร)


Landing...


Flip กางเมื่อล้อแตะพื้น ลงไม่ค่อยนิ่มสักเท่าไร


เมื่อสัญญาณรัดเข็มขัดดับลง ผู้คนก็รีบลุกขึ้นกันอย่างที่เห็นเนี่ยแหละครับ ไม่รู้จะรีบไปไหน


แล้วผมก็มาถึงสนามบิน จ.สุราษฎร์ฯ โดยสวัสดิภาพ ขอบคุณกัปตันเสวี และลูกเรือทุกคนนะครับ
โดยเฉพาะพี่คนนี้ บริการดีมากมาย ให้เต็ม 10 คะแนนเลยครับ

** ขออนุญาตบุคคลในภาพเป็นที่เรียบร้อยแล้วก่อนนำลงในเว็บบอร์ด **


_________________
Please mind the gap between train and platform!

[thanakd]

หลังจากลงจากเครื่องบินแล้ว ก็มาต่อรถโค้ชของ บ.พันทิพย์ เพื่อต่อไปยังท่าเรือดอนสัก
ซึ่งจะมีรถมารับที่สนามบินของทุกเที่ยวบินครับ (แอร์เอเชีย,วันทูโก และการบินไทย)
Click ที่นี่เพื่อดูข้อมูลการเดินรถของ บ.พันทิพย์
ราคาค่าโดยสาร รถ+เรือ ทั้งหมด 280 บาทครับ


แล้วก็มาถึงท่าเรือดอนสักบ่ายโมงพอดีครับ เลยต้องรีบวิ่งไปขึ้นเรือ ไม่งั้นต้องรออีก 1 ชั่วโมง


แล้วก็ขึ้นเรือ


สำหรับเรือเฟอร์รี่ รับได้ 270 คนครับ ตรงทางขึ้นเรือจะมีพนักงานคอยกดเครื่องนับจำนวน
ผู้โดยสารด้วยครับ เห็นได้ว่าให้ความสำคัญเรื่องความปลอดภัยได้ดีทีเดียว


ทางเข้าไปยังภายในห้องพัก VIP (ติดแอร์)


ที่นั่งภายในห้องพัก VIP (ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มนะครับ)


วิวทะเล ในมุมมองแบบอยู่ในเรืออย่างแท้จริง


ใช้เวลาประมาณ 95 นาที ก็ถึงท่าเรือหน้าทอน เกาะสมุยครับ


บริเวณท่าเรือที่สร้างใหม่ ใหญ่โตมากมาย


นี่ครับ ภาพเต็มๆ ของเรือเฟอร์รี่


อีกสักรูป (รูปนี้ผมตั้งใจถ่ายเพื่อมาทำเป็น Wallpaper น่ะครับ)


หลังจากนั้นก็มีพนักงานของ Serene Hill Resort and Spa มารับผมไปยังที่พักครับ
ซึ่งอยู่ที่หาดละไม ห่างจากท่าเรือหน้าทอนประมาณ 20 ก.ม. ครับ


_________________
Please mind the gap between train and platform!

[thanakd]

แล้วก็เดินทางมาถึงที่พักครับ Serene Hill Resort and Spa ขอบอกว่า สวยมากๆ
โดยมีเจ้าหน้าที่ที่สุดแสนจะเป็นกันเองมาคอยต้อนรับและให้การบริการอย่างดี
เรียงตามลำดับในภาพเลยนะครับ คุณตุ๊ก คุณพัด และคุณกิ๊ฟท์

** ขออนุญาตบุคคลในภาพเป็นที่เรียบร้อยแล้วก่อนนำลงในเว็บบอร์ด **

ส่วนคนนี้ คุณปู เป็นคนที่ไปรับผมมาจากท่าเรือครับ

** ขออนุญาตบุคคลในภาพเป็นที่เรียบร้อยแล้วก่อนนำลงในเว็บบอร์ด **

เนื่องจากที่พักที่นี่ จัดทำเป็นแบบอยู่บนภูเขาครับ ซึ่งห้องพักผมอยู่สูงสุดเลย


ตะกายขึ้นไปเองคงไม่ไหวแน่ๆ ครับ ที่นี่เขาก็มีบริการรถกอล์ฟขึ้นไปส่งด้วยครับ


แล้วก็มาถึงที่พักบนยอดเขาซีรีนแล้วครับ แฮ่กๆ รถขึ้นได้แค่นี้ แต่ห้องพักผมยังต้องไปต่อ


ตะกายตามบันไดหินขึ้นไป


ถึงแล้วครับ ห้องพักของผม หมายเลขห้อง 120


ภายในห้องพักครับ เตียงนอนสปริง เด้งดึ๋งได้อีกแล้วครับ


ห้องน้ำครับ มีน้ำอุ่นและน้ำเย็นครับ อีกทั้งมีการจุดเทียนไว้ในห้องน้ำด้วยครับ


ห้องแต่งตัว พร้อมตู้เสื้อผ้า แยกออกจากห้องนอนนะครับ


มองจากหน้าต่างในห้องพัก จะเห็นทะเลอยู่ไม่ไกล


ห้องพักแบบไทยประยุกต์ก็มีนะครับ สวยมาก


โดยภาพรวมของบรรยากาศ รวมกับการให้บริการของพนักงานที่นี่ ประทับใจมากครับ
ตั้งแต่เจ้าหน้าที่ต้อนรับจนถึงแม่บ้าน คนสวน ทุกคนมีอัธยาศัยดีกับลูกค้ามากๆ ครับ


_________________
Please mind the gap between train and platform!

[thanakd]

สระว่ายน้ำครับ ใหญ่โตและน่าลงเล่นเป็นที่สุดเลยครับ ^^'


เหมือนกำลังว่ายอยู่ในป่าลึก


ถ้าเหนื่อยก็ว่ายมาแวะทานเครื่องดื่มได้อีกต่างหาก


น้ำ Apple สัก 1 แก้วดับกระหาย (แก้วละ 45 บาทครับ)


หลังจากนั้นผมก็ออกตระเวนราตรีครับ โดยการเช่ารถ Toyota Vios ในราคาวันละ 1,500 บาท
เช่าจากที่พักนะครับ ถ้าไปเช่าเองข้างนอก รู้สึกว่าจะอยู่ที่ 1,800.- ครับ (แต่ก็แพงอ่ะ)
ตื่นเช้ามา ก็ลงมาทานอาหารเช้า ซึ่งรวมอยู่กับราคาที่พักแล้ว ไม่ต้องจ่ายเพิ่ม
ซึ่งเป็นอาหารเช้าแบบ ABF ครับ โดยมี Morning Welcome Drink เป็นน้ำดื่มเย็นๆ


ตามมาด้วย ABF ครับ


ผลไม้ทานเพิ่ม (รวมอยู่ในชุด)


ขนมปังหน้าหมู ขอบอกว่าอร่อยมากๆ ครับ ราคาจานละ 80 บาทเท่านั้น (ไม่รวมในชุดนะครับ)


หลังจากทานอาหารเช้าเรียบร้อยแล้ว ผมก็ออกเที่ยวตามที่ต่างๆ บนเกาะสมุยครับ
(แต่ส่วนมากไม่ได้ถ่ายรูปมานะครับ เนื่องจากแบตหมด) เท่าที่มีก็นี่ครับ วัดพระใหญ่


ก๋วยเตี๋ยวเรือหน้าทอน อร่อยดีครับ ชามละ 30 บาท


หินตา..


หินยาย..


ท่าเรือหน้าทอนยามพระอาทิตย์ตก


หลังจากนั้นก็ขับรถวนเวียนไปแถวๆ เฉวงครับ หาดูฝรั่ง ซึ่งเยอะมาก อิอิ
แล้วสุดท้ายไม่รู้จะไปไหน ก็เลยไปดูหนังครับ เรื่อง คู่แรด ที่เมเจอร์สมุยครับ


โรงหนังที่นี่มี 3 โรงครับ แต่มีหนังฉายอยู่แค่เรื่องเดียว คือ คู่แรด -*-
โอ๊ะ..ตรงทางเข้าโรงหนังมีป้ายนี้ สงสัยผมจะเข้าไปไม่ได้แล้วสิ


หลังจากนั้นก็แวะทานข้ามต้มปลา อร่อยจับจิต อยู่ใกล้ๆ โลตัสนั่นแหละครับ ชามละ 30 บาท
แล้วก็กลับไปนอนครับ เพราะวันรุ่งขึ้นจะต้องเดินทางกลับกรุงเทพแล้ว


นี่ครับ Toyota Vios ที่ตะลุยไปกับผมรอบเกาะสมุยตลอด 3 วัน 2 คืน
(เติมน้ำมัน เบนซิน 95 หมดไปทั้งสิ้น 800 บาทครับ)



_________________
Please mind the gap between train and platform!

[thanakd]

แล้วก็มาถึงวันเดินทางกลับกรุงเทพครับ

Route: เกาะสมุย-กรุงเทพ
From: URT ท่าอากาศยานนานาชาติสุราษฎร์ธานี
Destination: DMK ท่าอากาศยานดอนเมือง
Flight: TG1274 (การบินไทย)
Date: อาทิตย์ที่ 12 ส.ค. 2550
Time: 7:00pm - 8:10pm

การเดินทางก็เหมือนกับวันที่มาอ่ะครับ ทางโรงแรมมาส่งผมที่ท่าเรือหน้าทอน
เพื่อขึ้นเรือเที่ยวเวลาบ่าย 2 (ไม่งั้นจะ Check-In เที่ยวบินของการบินไทยไม่ทันครับ)
แต่ถ้าจะกลับกับสายการบินอื่น ต้องมาเร็วกว่านี้ครับ แล้วก็นั่งเรือกลับไปยัง
ท่าเรือดอนสัก ต่อรถโค้ชของเจ้าเดิมกลับไปยังสนามบินสุราษฎร์ฯ ครับ
(ผมขอไม่โพสรูปนะครับ เพราะจะซ้ำกับภาพตอนต้นๆ)

แล้วก็มาถึงสนามบินครับ ประมาณ 6 โมงเย็นพอดี ก็เข้าไป Check-In ครับ
แล้วก็ได้ Boarding Pass ออกมา ผม Check-In เป็นคนที่ 51 จากผู้โดยสารร้อยกว่าคนครับ
ซึ่งเที่ยวบินนี้ ผู้โดยสารไม่เต็มครับ ประมาณ 85% ของที่นั่งทั้งหมด


แล้วก็มีเวลาเหลืออีกตามเคย ก็เลยไปนั่งทานอาหารภายในสนามบินครับ


ขนมจีบทานเพิ่ม...


แล้วสายการบินก็ประกาศเรียกผู้โดยสารขึ้นเครื่องครับ
สำหรับที่สนามบินสุราษฎร์มี Gate เดียวครับ แต่จะไปแยกกันข้างในอีกที
ระหว่างลงไปเดินขึ้นเครื่องเอง กับใช้งวงครับ ซึ่งของการบินไทย จะใช้งวง
นอกนั้นสายการบินอื่นๆ (แอร์เอเชีย,วันทูโก) ต้องลงบันไดไปเดินขึ้นเครื่องเองครับ


เที่ยวนี้บินกลับกรุงเทพกับ Boeing 737-400 เช่นเดิมครับ
แต่เป็นเจ้าป้าที่มีนามพระราชทานว่า "ศรีสะเกษ"


เก้าอี้นกพลัส เอ่อ..ไม่ใช่สิ นั่นมันของนกแอร์ แต่นี่คืนเก้าอี้นั่งชั้นธุรกิจของเที่ยวบินนี้ครับ


สรรพสิ่งภายในกระเป๋าหน้าท้องก็เหมือนเดิมครับ ขอไม่โพสซ้ำนะครับ
แต่จะมีเพิ่มเติมก็ตรงที่มีผ้าห่มแจกเพิ่มครับ


แล้วก็นี่ครับ ดอกมะลิวันแม่โดยมีตราการบินไทยด้วย เนื่องจากบินวันแม่พอดี
ผมมีอยู่หลายดอกเลยครับ ใครอยากได้ ก็ PM ขอมาได้นะครับ


แล้วก็ได้รับกล่องอาหารใหญ่กว่าลายชะนีแบกโลกครับ เพราะมันคือลาย ชะนีสร้างโลก


ข้างในก็ประกอบไปด้วย น้ำดื่ม น้ำผลไม้รวม ชุดกาแฟ ขนมเค้ก และสลัดทูน่าครับ


แล้วผมก็เดินทางกลับถึงดอนเมืองโดยสวัสดิภาพครับ ขอบคุณกับตัน...(จำชื่อไม่ได้)...
และลูกเรือทุกคนเลยนะครับ เที่ยวบินนี้ผมประทับใจมากๆ ครับ

** ขออนุญาตบุคคลในภาพเป็นที่เรียบร้อยแล้วก่อนนำลงในเว็บบอร์ด **

ป.ล. เนื่องจากเที่ยวบินนี้ผู้โดยสารไม่เต็ม และผมเลือกนั่งแถวหลังสุด ก็เลยได้เม้าส์กับ
ลูกเรือด้วยครับ สนุกสนานเฮฮามากมาย บวกกับได้ของกินเพียบเลยครับ ฮ่าๆๆๆ
นี่ครับ ลูกเรือที่ผมได้ทำการสานสัมพันธ์อันดีด้วยบนเครื่องครับ น่ารักมากจริงๆ ทั้งคู่เลย
ขอบคุณสำหรับดอกไม้อีกครั้งนะครับ หวังว่าคงได้เจอกันเที่ยวบินหน้าครับ...

** ขออนุญาตบุคคลในภาพเป็นที่เรียบร้อยแล้วก่อนนำลงในเว็บบอร์ด **



จบ Review ครับ ยาวไป หวังว่าคงไม่เบื่อที่จะอ่านนะครับ ขอบคุณครับ
_________________
Please mind the gap between train and platform!