View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
black_express
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/03/2006 Posts: 10060
Location: อุตรดิตถ์ - กรุงเทพฯ
|
Posted: 22/08/2007 10:15 am Post subject: |
|
|
หลังจากนมัสการด้วยดอกไม้ธูปเทียนบริเวณข้างนอกแล้ว เราเข้าไปเยี่ยมชมข้างในอาคารพิพิธภัณฑ์กันเลยครับ มีรูปหล่อโลหะหลวงปู่มั่น ตั้งเด่นเป็นประธานให้ผู้เยี่ยมชมได้คารวะ
สำหรับประวัติของท่าน มียืดยาว ผมขอทำ link ไว้ให้ศึกษาครับ
http://www.luangpumun.org/pumun.html
สิ่งที่น่าสนใจก็คือ พระธาตุที่ตั้งอยู่ในตู้กระจกด้านหน้ารูปหล่อโลหะ แทนที่จะเป็นกระดูกเช่นที่เราเห็นทั่วไป กลับหลอมละลายคล้ายเซรามิก เป็นปรากฎการณ์ที่เหนือคำบรรยายใดๆ โดยเฉพาะพระธาตุของพระอริยสงฆ์ด้านวิปัสสนาธุระ
และคงอีกนาน กว่าวงการวิทยาศาสตร์จะหาคำอธิบายได้
ในหนังสือ " หยดน้ำบนใบบัว " ที่คณะศิษย์หลวงตามหาบัว จัดพิมพ์ขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องราวที่หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน เล่าเอง โดยเฉพาะความผูกพันใกล้ชิดอยู่ปรนนิบัติหลวงปู่มั่น ภูริทัตตเถระ ซึ่งถือว่าเป็นอาจารย์ของท่านตลอดมา จนถึงช่วงละสังขาร ได้กล่าวถึงความเคร่งครัดในวัตรปฏิบัติ และคอยกำชับตักเตือนลูกศิษย์ให้เพียรปฏิบัติธรรม ด้วยสายตาที่คมกล้า ถึงขั้นล่วงรู้จิตผู้อื่น อาการคล่องแคล่วว่องไวดังไก่ป่า หากพระ เณร มัวแต่คุยกันในกุฎิ ไม่หมั่นปฏิบัติธรรม ท่านจะเดินไปเคาะข้างฝากุฎินั้นเพื่อให้สติทันที หรือยกมาพูดเทศนาเป็นตัวอย่างในที่ประชุมสงฆ์ช่วงเช้า จนพระ เณรกลัวท่านมาก ในความล่วงรู้จิตใจผู้อื่น จนไม่กล้าประพฤติตนออกนอกลู่นอกทาง
หลวงปู่มั่นเคยพูดในที่ประชุมสงฆ์ว่า เป็นข้อดีที่หลวงตามหาบัว ซึ่งได้บวชเรียน ศึกษานักธรรมถึงระดับมหา มาศึกษาธรรมะ และวิปัสนาธุระกับท่าน จะได้เปรียบเทียบหัวข้อธรรมะจากพระไตรปิฎก ตรงกับที่หลวงปู่มั่นศึกษาค้นคว้ามาจากในป่า ถูกต้องหรือไม่ แต่เป็นที่น่ามหัศจรรย์ตรงที่ว่า ตรงกันทุกประการ....
บางครั้ง บางหน ลูกศิษย์กับอาจารย์ ถึงกับทะเลาะกันด้วยหัวข้อธรรมะต่างๆ ที่มีความเห็นไม่ตรงกัน จนบรรดาพระ เณร แตกตื่น เข้ามามุงดูก็มี แต่สุดท้าย ข้อคิดเห็นของหลวงปู่มั่น เป็นฝ่ายถูก
เรื่องราวโดยพิสดารอื่นๆ นอกเหนือจากนี้ยังมีอีกมาก หากผู้ใดที่สนใจ ต้องไปหาอ่านจากหนังสือเล่มนี้แล้วล่ะครับ...
Last edited by black_express on 29/03/2012 12:41 pm; edited 2 times in total |
|
Back to top |
|
|
black_express
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/03/2006 Posts: 10060
Location: อุตรดิตถ์ - กรุงเทพฯ
|
Posted: 22/08/2007 11:02 am Post subject: |
|
|
เราหันมาดูหนังสือ สิ่งของบริขารต่างๆ ที่ทางพิพิธภัณฑ์จัดแสดงกันดีกว่า....
สุทธิบัตรของหลวงปู่มั่น ภูริทัตตเถระ ถือเหมือนบัตรประจำตัวพระสงฆ์ของคณะสงฆ์ไทยนั่นแหละครับ
ประวัติโดยย่อของท่าน
หนังสือแต่งตั้งหลวงปู่มั่น ภูริทัตตเถระ เป็นพระอุปัชฌาย์ได้ โดยเจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ ขณะที่หลวงปู่มั่นไปจำพรรษาที่วัดเจดีย์หลวง แต่ท่านมักหลีกญาติโยม ออกไปธุดงค์ตามป่าเขามากกว่า จนกระทั่งคณะสงฆ์ลูกศิษย์ท่าน นิมนต์กลับมาโปรดญาติโยมที่ภาคอีสานหลังจากนั้น...
หลวงปู่มั่น จะเคารพตัวอักษร และสนใจอ่านหนังสือมาก เพราะท่านถือว่าเป็นสื่อนำความรู้ทางธรรมะแก่ผู้อ่านได้รู้ และปฏิบัติตาม ดังจะเห็นได้จากตัวอย่างหนังสือธรรมะเล่มต่างๆ ที่อยู่ในกุฎิท่าน ตามภาพ
ผมทราบว่า มีหลวงพ่อเกษม เขมโก ที่สุสานไตรลักษณ์ ลำปาง อีกท่านหนึ่ง ที่เคารพตัวหนังสือ โดยจะเก็บกระดาษหนังสือที่ตกทิ้งตามถนนหนทาง เวลาออกบิณฑบาตร นำใส่ย่ามกลับไปที่กุฎิด้วยครับ
Last edited by black_express on 22/08/2007 3:21 pm; edited 2 times in total |
|
Back to top |
|
|
black_express
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/03/2006 Posts: 10060
Location: อุตรดิตถ์ - กรุงเทพฯ
|
Posted: 22/08/2007 12:00 pm Post subject: |
|
|
พระพุทธรูปบูชาที่หลวงปู่มั่นประดิษฐ์เอง และนำไปประจำตัวอยู่เสมอ
ภาพหลวงปู่มั่น ร่วมกับหมู่สงฆ์ในขณะนั้นครับ
เข้าหมวดเครื่องอัฐบริขารที่ท่านใช้ล่ะครับ มีจำนวนน้อยเท่าที่จำเป็น
ผมเห็นภาพในสติ๊กเกอร์ที่มีผู้ทำจำหน่ายให้บูชาทั่วไป คนทำจะรู้หรือเปล่าหนอ ? ว่า...
สีของจีวรที่ท่านใช้ประจำนั้น เป็น สีกรัก ( สีแก่นขนุน ) ไม่ใช่สีเหลืองเหมือนสีจีวรพระสงฆ์ทั่วไป
เครื่องใช้ประจำวันของหลวงปู่มั่นครับ จะมีเท่าที่จำเป็นจริงๆ เท่านั้น |
|
Back to top |
|
|
black_express
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/03/2006 Posts: 10060
Location: อุตรดิตถ์ - กรุงเทพฯ
|
Posted: 22/08/2007 12:14 pm Post subject: |
|
|
จากนี้ ก็เข้าหมวดบริขารเบ็ดเตล็ดของท่านล่ะครับ มีตามที่ญาติโยมอุปัฎฐากของท่าน นำมาถวาย แต่หลวงปู่มั่นจะใช้เท่าที่จำเป็นเช่นกัน ที่เหลือ ให้แจกจ่ายแก่คณะสงฆ์ทั้งหมด
ต่อมาวันหนึ่ง ในช่วงปี พ.ศ. ๒๔๘๗ ขณะที่ท่านและคณะสงฆ์อยู่ที่เสนาสนะป่าบ้านหนองผือ ตำบลนาใน อำเภอพรรณานิคม จังหวัดสกลนคร หลวงปู่มั่น เริ่มอาพาธหนัก เมื่อญาติโยมนำยามาถวายให้ท่านฉันรักษาตัว ท่านบอกเพียงว่า ตอนนี้ สังขารท่านเหมือนต้นไม้ที่ตายแล้ว จะหมั่นบำรุงรดน้ำ ให้ปุ๋ย ให้ยาสักเท่าใดๆ ก็ไม่มีวันที่จะฟื้นขึ้นมาเจริญงอกงามได้อีก
นั่น...เป็นสิ่งที่ท่านบอกแก่คนทั่วไปได้ทราบว่า ช่วงเวลาสุดท้ายที่ท่านจะละสังขารได้ใกล้เข้ามาถึงแล้ว
ทางการแพทย์ให้ความเห็นว่า ท่านอาพาธด้วยวัณโรคเรื้อรัง
ถึงกระนั้น ท่านได้เอาธุระเร่งอบรมสั่งสอนศิษยานุศิษย์ทางสมถวิปัสสนาเป็นอันมาก ได้มีการเทศนาอบรมจิตใจศิษยานุศิษย์เป็นประจำวัน ซึ่งศิษย์ผู้ใกล้ชิด ได้บันทึกธรรมเทศนาของท่านไว้และได้รวบรวมพิมพ์ขึ้นเผยแพร่ ให้ชื่อว่า "มุตโตทัย"
จนกระทั่งวาระสุดท้ายแห่งชีวิต หลวงปู่มั่น ได้สั่งให้ลูกศิษย์สร้างแคร่ไม้พาท่านจากเสนาสนะป่าบ้านภู่ อำเภอพรรณานิคม ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่สะดวกแก่หมอแผนปัจจุบันผู้เดินทางมารักษา และศิษยานุศิษย์ที่จะมาเยี่ยมพยาบาล ออกสู่ถนนใหญ่ซึ่งมีรถของแขวงการทางสกลนครที่จอดรอรับท่านเดินทางต่อ ไปยังวัดป่าสุทธาวาส ในเขตชุมชนเมืองสกลนคร เพื่อละสังขาร ณ ที่นั่น เนื่องจากท่านเล็งเห็นว่า หากท่านละสังขาร ณ เสนาสนะป่าบ้านภู่ แล้ว จะสร้างภาระแก่ชุมชนบ้านป่าแห่งนั้น ในการจัดงาน จัดหาที่พักต้อนรับแขกเหรื่อผู้มาร่วมงานซึ่งมีจำนวนมาก ตลอดจนชีวิตสัตว์ทั้งปวงในอาณาบริเวณนั้นที่จะต้องสูญสิ้นไปเพื่อประกอบอาหารเลี้ยงแขกเหรื่อที่มาในงานของท่าน ซึ่งในตัวเมืองสกลนคร มีตลาดสดที่อำนวยความสะดวกในด้านต่างๆ มากกว่า
นับเป็นความเมตตาอันสูงส่งของท่านที่มีต่อญาติโยมชาวบ้าน และบรรดาสรรพสัตว์ทั้งปวง มิให้ประสบความเดือดร้อนจากท่านโดยแท้....
เมื่อเวลา 2.23 น. ของวันที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ.2492 หลวงปู่มั่น ภูริทัตตเถระ ได้ละสังขารด้วยอาการสงบท่ามกลางศิษยานุศิษย์ทั้งหลาย สิริชนมายุของท่านได้ 79 ปี 9 เดือน 21 วัน รวมพรรษาได้ 56 พรรษา
Last edited by black_express on 29/03/2012 1:02 pm; edited 7 times in total |
|
Back to top |
|
|
black_express
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/03/2006 Posts: 10060
Location: อุตรดิตถ์ - กรุงเทพฯ
|
Posted: 22/08/2007 1:04 pm Post subject: |
|
|
หลังจากวันละสังขาร ทางจังหวัดสกลนคร และคณะศิษยานุศิษย์ทุกหมู่เหล่า ได้จัดประชุมเพลิงศพหลวงปู่มั่น ภูริทัตตเถระ ณ จิตกาธาร ประกอบด้วยฟืนไม้จันทร์หอม ซึ่งผู้มีจิตศรัทธาสั่งซื้อมาจากฝั่งลาว ในบริเวณวัดป่าสุทธาวาส อ.เมืองฯ จ.สกลนคร เมื่อวันที่ 31 มกราคม พ.ศ.2493
เมื่อประชุมเพลิงแล้วเสร็จ อัฐิขององค์หลวงปู่มั่น ได้ถูกแบ่งแจกไปตามจังหวัดต่างๆ และประชาชนได้เถ้าอังคารไป ซึ่งหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน ซึ่งอยู่ใกล้ชิดเหตุการณ์มาตลอด ได้กล่าวว่า ถูกกวาดจนหมดเกลี้ยง เหมือนถูกล้างด้วยน้ำ ปานนั้น.....
ชั่วเวลาอีกไม่นานนัก อัฐิของหลวงปู่มั่น ภูริทัตตเถระ ได้กลายเป็นพระธาตุ สร้างความตื่นเต้น อัศจรรย์ใจแก่ประชาชนที่ได้ทราบข่าว และพบเห็นด้วยตนเอง จนเป็นที่เลื่องลือว่า หลวงปู่มั่น ภูริทัตตเถระ ได้บรรลุธรรมอันวิเศษตามรอยพระพุทธองค์ พ้นจากห้วงวัฎสงสารโดยสิ้นเชิง
...................................
ขอกราบนมัสการในคุณธรรมอันยอดยิ่ง จริยวัตร และวัฏปฏิบัติที่เคร่งครัดของหลวงปู่มั่น ภูริทัตตเถระ มา ณ ที่นี้ |
|
Back to top |
|
|
black_express
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/03/2006 Posts: 10060
Location: อุตรดิตถ์ - กรุงเทพฯ
|
Posted: 22/08/2007 5:19 pm Post subject: |
|
|
จาก อาคารพิพิธภัณฑ์บริขารหลวงปู่มั่น ภูริทัตตเถระ เราไปเยี่ยมชม จันทสารเจติยานุสรณ์ หลวงปู่หลุย จันทสาโร ซึ่งตั้งอยู่บริเวณใกล้กันนะครับ
สำหรับอาคารเจติยานุสรณ์ มีประวัติโดยย่อกล่าวไว้ว่า เกิดจากพระราชกระแสองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อเสด็จพระราชดำเนินพระราชทานเพลิงศพหลวงปู่หลุย จันทสารเถระ ( จันทสาโร ) ซึ่งเป็นพระเถระชั้นผู้ใหญ่ฝ่ายวิปัสนาธุระ ศิษย์หลวงปู่มั่น ภูริทัตตเถระ ว่า
" ควรสร้างเจดีย์ที่วัดป่าสุทธาวาส อำเภอเมืองสกลนคร จังหวัดสกลนคร ที่วัดนี้ มีอัฐิธาตุของพระอาจารย์มั่น ภูริทัตตเถระ ท่านจะได้อยู่ใกล้กัน "
และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ร่างแบบเจดีย์องค์นี้ด้วยพระองค์เอง พระราชทาน
เราเข้าไปนมัสการหลวงปู่หลุย กันเลยนะครับ สำหรับประวัติของหลวงปู่หลุย จันทสาโร โดยละเอียดนั้น ผมขอทำ link เพื่อผู้สนใจเข้าไปศึกษาดูตามข้างล่างครับ
http://www.dharma-gateway.com/monk/monk_biography/lp-louis/lp-louis-hist-04-01.htm
ภายในเจดีย์ ด้านล่าง ประกอบด้วยภาพลงรักปิดทองชุดพุทธประวัติ
และภาพเขียนหลวงปู่เสาร์ กันตสีโล หลวงปู่มั่น ภูริทัตตเถระ และหลวงปู่หลุย จันทสาโร ฝีมือวาดสวยงามมากๆ ครับ |
|
Back to top |
|
|
black_express
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/03/2006 Posts: 10060
Location: อุตรดิตถ์ - กรุงเทพฯ
|
Posted: 22/08/2007 5:29 pm Post subject: |
|
|
ขึ้นไปด้านบนเจดีย์ มีหุ่นรูปเหมือนหลวงปู่หลุย จันทสาโร และอัฐธาตุของท่าน แสดงลักษณะเด่นชัดของพระอริยสงฆ์ฝ่ายวิปัสนาธุระ ที่ยังหาเหตุผลทางวิทยาศ่าสตร์มาอธิบายไม่ได้
ขอเวลา กราบนมัสการท่านสักครู่นะครับ
เครื่องอัฐบริขารของท่าน พร้อมคำอธิบายโดยย่อ เกือบลืมบอกไปครับว่า นอกจากท่านจะมีความสามารถด้านการคำนวณแล้ว ท่านยังมีความสามารถด้านยารักษาโรคพื้นบ้าน ด้านช่างต่างๆ
โดยเฉพาะกรดสำหรับพระธุดงค์ ที่มั่นคง แน่นหนาเป็นพิเศษ ใช้งานได้นานด้วยครับ
เสียดายที่เป็นตู้กระจก ซึ่งสะท้อนแสงเกือบทุกด้าน ภาพเลยไม่สวย
ผมใช้เวลาเยี่ยมชมที่ วัดป่าสุทธาวาส ร่วมชั่วโมง ตอนนี้ ได้เวลานัดกับญาติผมที่เพิ่งมาตั้งครอบครัวอยู่ที่สกลนครแล้วล่ะ
ช่วงบ่าย จะพาไปเที่ยววัดพระธาตุพนม |
|
Back to top |
|
|
nupaporn
3rd Class Pass
Joined: 17/08/2007 Posts: 25
Location: jira junction
|
Posted: 22/08/2007 6:42 pm Post subject: |
|
|
เที่ยวอิสาน ไม่ไป ไม่รู้ เด้อพี่น้อง
ม่วนขนาดเด้อ.....!!! ยังไม่เคยได้มีโอกาสได้ไปเที่ยวทางอิสานเหนือเลย ติดตามอยู่ค่า... _________________ กลับมาแล้ว ยังไม่ตาย แต่ที่หายหัวหายตัว เพราะมีเหตุผลบางประการจ้า.. |
|
Back to top |
|
|
black_express
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/03/2006 Posts: 10060
Location: อุตรดิตถ์ - กรุงเทพฯ
|
Posted: 22/08/2007 11:33 pm Post subject: |
|
|
อ่า...ขอต้อนรับสมาชิกใหม่จากเมืองโคราชบ้านเอ็ง ครับ
สวัสดีตอนใกล้เที่ยงคืนเลยล่ะ |
|
Back to top |
|
|
black_express
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/03/2006 Posts: 10060
Location: อุตรดิตถ์ - กรุงเทพฯ
|
Posted: 23/08/2007 3:50 pm Post subject: |
|
|
ขณะที่อิ่มอร่อยกับมื้อกลางวันที่ร้านอาหารใกล้สี่แยกบ้านธาตุนาเวงนั้น ญาติผมถามขึ้นมาว่า จะไปเทียวที่ไหนต่อ ?
ตอนแรก..คิดว่าจะกลับขอนแก่น แต่มองดูเวลายังพอเที่ยวได้อีกสักแห่ง ไปนครพนมหรือ ? ไกลไปนิด คิดอยู่สักพัก ไปนมัสการพระธาตุพนมดีกว่า
ที่ตอบไปนั้น เพราะช่วงหนึ่ง ผมเคยมาเยี่ยมน้าซึ่งมารับราชการอยู่ที่ อ.นาแก และที่จังหวัดสกลนคร มาเยี่ยมติดพันอยู่ติดๆ กันราวสอง - สามปี ก็พอคุ้นสถานที่กับเส้นทางช่วงสกลนคร - นาแก - ธาตุพนม ไม่น้อย
ขอไปย้อนความหลังกันสักหน่อย เพราะระยะทางช่วงดังกล่าว ห่างกันราวๆ 80 กม.เท่านั้น
ญาติผมอาสาร่วมไปนมัสการพระธาตุพนมด้วย ท่ามกลางความยินดีปรีดาของครอบครัว เพราะเจ้านี้มัวแต่ยุ่งคุมงานก่อสร้างที่ อ.สูงเนิน เดือนหนึ่งจะแวะมาหาครอบครัวแค่วันเดียว หรือสองวันเท่านั้น
ไม่ถึงชั่วโมง ครอบครัวผมกับครอบครัวญาติ ก็มาถึงวัดพระธาตุพนม วรมหาวิหาร ท่ามกลางบรรยากาศคึกคักทั้งรถรา ผู้คน นักท่องเที่ยว เพราะตรงกับช่วงเวลาแห่เทียนพรรษาของจังหวัดนครพนม ถวายแด่วัดแห่งนี้พอดี มีมากมายจนต้องปิดถนนบางสาย เลยไม่ได้มีโอกาสดูริมฝั่งแม่น้ำโขงสมดังตั้งใจ
คิดว่า คงไม่มีใครที่ไม่เคยได้ยินชื่อของพระธาตุพนมนะครับ ประวัติเรื่องราวความเป็นมามีอยู่ยืดยาว เราดูตาม link ดีกว่า
http://www.thatphanom.com/his_003.php
และก็..พระธาตุพนม เป็นพระธาตุประจำราศีเกิดของชาวปีวอก และผู้ที่เกิดวันอาทิตย์ ด้วยครับ ดังนั้น เป็นโอกาสอันดีอย่างยิ่งของผม ที่ได้มานมัสการบูชาองค์พระธาตุพนม เพราะเป็นคนเกิดปีวอก วันอาทิตย์ และวันนั้น ตรงกับวันอาสาฬหบูชา
ราศีอื่นอย่าเพิ่งน้อยใจนะครับ ไปไหว้พระธาตุตามราศีที่ผมทำ link ให้ดูก็ได้ สำหรับคนเกิดปีจอ คงจะหาทางบูชาลำบากหน่อย เพราะต้องรอถึงวันลอยกระทง ปล่อยโคมลอย โคมไฟ ไปบูชาพระธาตุเกศแก้วจุฬามณี บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์
http://www.geocities.com/ruammitra/ho-pratade.html
ขอแวะดูบรรยากาศแห่เทียนพรรษาที่บริเวณหน้าวัดพระธาตุพนมกันสักนิด นะครับ
มีมวยโบราณชกโชว์นำขบวนด้วยครับ เข้าใจว่าเป็น มวยโคราช กระมัง ? |
|
Back to top |
|
|
|