ทางรถไฟสายใต้ควรสร้างเป็นรางคู่หรือไม่

suraphat

เมื่อกล่าวถึงสถานีรถไฟธนบุรีแล้ว หลายคนก็คงเข้าใจว่า ได้ยกเลิกใช้ไปแล้ว ซึ่งก็จริงของเขาคือ เขาจะไม่ได้ใช้ตัวอาคารสถานีเป็นสถานที่ที่ให้คนขึ้นหรือลงขบวนรถอีกต่อไปแล้ว ดังจะเห็นได้จากทางรถไฟเขาก็ได้รื้อออกไปหมดแล้วพร้อมกับตลาดศาลาน้ำร้อน

แต่เราอย่าลืมว่ายังมีทางรถไฟเหลืออยู่อีก 3 เส้นที่เข้าไปใกล้ตัวอาคารสถานีมากที่สุด โดยจะเข้าไปใกล้บริเวณริมคลองบางกอกน้อยด้านทิศเหนือ(ซึ่งก็คือบริเวณโกดังสินค้า หรือที่รับส่งสินค้าสถานีธนบุรีเดิม) ซึ่งในบริเวณนี้ทางกรุงเทพมหานคร เขาได้ขอให้ใช้เป็นบริเวณสถานีธนบุรีแทนโดยอาจเป็นสถานีธนบุรี2ก็ได้ (คล้ายๆกับ บางซื่อ 2 ในปัจจุบัน) ซึ่งไม่แน่เราเองอาจจะต้องมาขึ้นรถกันที่สถานที่แห่งใหม่แห่งนี้ก็ได้ในอนาคต เพราะเมื่อเราได้เดินทางเข้าไปดูที่อาคารรับส่งสินค้า(เก่า)แห่งนี้แล้ว เราก็จะเห็นว่ามีการก่อสร้างสถานที่จำหน่ายตั๋วโดยสารไว้ด้วยแล้ว ซึ่งก็ไม่เคยได้มีใครเข้าไปสำรวจอาคารใหม่แห่งนี้เลย (ไม่เหมือนสถานีอื่น ที่มีคนเข้าไปสำรวจกันเยอะแยะ แต่ที่นี่ไม่เคยมี)

ส่วนสาเหตุว่าทำไมผมทราบ เพราะตอนนั้นกำลังมีข่าวเรื่องของการรื้อตลาดศาลาน้ำร้อนออกจากที่เก่าให้ไปอยู่ที่ใหม่ที่อยู่ในปัจจุบันนี้ แต่ชาวตลาดเขาไม่ยอม ซึ่งกระผมก็ได้มีโอกาสเข้าไปเดินดูบริเวณข้างเคียงทั้งหมด ซึ่งในตอนนั้น ก็ได้มีการนำเอารถ ตญ. ที่พ่นข้างตู้ไว้ว่า"เสนอตัดบัญชีแล้ว"มาจอดอยู่ในอาคารสถานีเต็มไปหมด แต่ขณะนั้นอาคารสถานีนี้เขาก็ยังใช้งานอยู่บางส่วน(ยังมีขบวนรถเข้าออกได้อยู่)

ซึ่งก็ทำให้กระผมเกิดข้อสงสัยว่า สถานที่แห่งนี้จะเป็นสถานที่ที่จะใช้เก็บรถเก่าแล้วปล่อยให้ทิ้งร้างไปเลยหรืออย่างไร(ทั้งตัวสถานีและย่านสถานี) จนกระผมต้องถามผ่านไปยังหนังสือพิมพ์ไทยรัฐเมื่อปี 2544 ว่าจะมีการยกเลิกการใช้อาคารสถานีแห่งนี้ไปด้วยหรืออย่างไร(ยกเลิกไปพร้อมๆกับตลาดศาลาน้ำร้อนเก่า) แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบกลับมาแต่อย่างใด

เนื่องจากในขณะนั้น กระผมได้เห็นว่าได้มีการรื้ออาคารบ้านพักรถไฟบริเวณตรงข้ามกับอาคารโรงรถจักรธนบุรี ซึ่งทำให้เข้าใจว่าในบริเวณบ้านพักรถไฟนี้เขาจะให้นำไปให้โรงพยาบาลศิริราชได้ก่อสร้างต่อไป(เป็นความเข้าใจในขณะนั้น)

แต่แล้วคำตอบที่ได้รับจากการติดตามนี้ก็คือ เขาจะใช้บริเวณย่านสถานีรถไฟ(Rail Yard)ธนบุรี ไปให้โรงพยาบาลศิริราชได้ใช้ต่อไป ส่วนอาคารสถานีรถไฟธนบุรีนั้นเขาก็จะไม่รื้อเนื่องจากได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานของกรมศิลปากรไปแล้ว ดังนั้นจึงรื้อไม่ได้ตามกฎหมายโบราณสถาน โดยที่ตัวอาคารแห่งนี้ก็ยังเป็นสถานที่ทำงานของฝ่ายเดินรถอยู่ยังไงละครับ ซึ่งก็ยังมีตั๋วล่วงหน้าจำหน่ายอยู่ในสถานที่แห่งนี้ โดยตั๋วจะระบุว่าจำหน่ายที่ ธบ. อยู่

ซึ่งเมื่อพูดถึงกฎหมายโบราณสถานแล้วที่ให้นึกถึงอาคารสถานีรถไฟในหลายๆที่ที่เขาห้ามรื้อแต่ก็ยังมีตัวอาคารอยู่เช่นอาคารสถานีรถไฟสงขลา หรืออาคารสถานีรถไฟสายใต้ในช่วงจาก ลย.- คฐ. เช่นอาคารสถานี มว. โร. ที่เราจะเห็นว่าได้มีการทิ้งร้างอาคารเก่าไว้ดังนี้เป็นต้น แต่เขาก็ได้ไปสร้างอาคารสถานีใหม่ในบริเวณใกล้เคียงดังที่เราได้พบเห็นอยู่ในปัจจุบันนี้ยังไงเล่า โดยเขาได้เลิกใช้อาคารไปเมื่อทางคู่ช่วง ตช.- คฐ. ได้เปิดใช้

ซึ่งในขณะนั้นทางคู่ในช่วง บซ. - ตช. ยังมีปัญหาอยู่ในเรื่องของ Spec. ของตัวงานในช่วงดัง(กล่าวคือตัวสะพานกับตัวรางมันไม่ตรงกับSpec.ที่กำหนดไว้) ซึ่งก็ทำให้เราเองไม่ได้มีโอกาสได้เห็นว่ามีการใช้สะพานพระราม 6 อย่างเต็มภาคภูมิอยู่ในปัจจุบันนี้ยังไงละครับ(กล่าวคือใช้ได้ไปมาทั้ง 2 ทางได้ทั้งๆที่ได้เป็นทางคู่แล้วโดยเฉพาะในทางช่วง บำ. - ซอ.)

โดยตัวอาคารเหล่านี้เขาห้ามรื้อ แต่จะยังคงปล่อยให้มีการผุพังไปตามกาลเวลา

แต่ก็ดีอยู่เหมือนกันที่ถ้าใช้อาคารที่รับส่งสินค้าเก่าเป็นสถานที่ขึ้นลงรถไฟ(หรือเป็นสถานีธนบุรี 2)แล้ว ก็จะสะดวกเนื่องจากอาคารแห่งนี้อยู่ติดริมคลองบางกอกน้อย ซึ่งถ้ามีเรือข้ามฟากนำผู้โดยสารมาขึ้นที่ท่าในบริเวณใกล้เคียงอาคารนี้แล้ว ก็จะทำให้ผู้โดยสารสามารถที่จะขึ้นรถไฟได้ทันที โดยเดินต่อไปเพียงไม่กี่ก้าวเท่านั้น ก็จะถึงตัวอาคารนี้แล้วได้โดยสะดวก โดยที่ไม่ต้องไปขึ้นรถไฟที่อาคารสถานี อ้. นี้แต่อย่างไร

pattharachai · Last edited by pattharachai on 21/08/2007 8:26 pm; edited 1 time in total

suraphat

ขออภัยด้วยที่ข้อมูลผมอาจจะไม่ทันสมัย เนื่องจากกระผมเองก็จะไม่ค่อยได้ติดตามในเรื่องของทางคู่ในเส้นทางสายใต้นี้เท่าไหร่นัก จึงอาจยังไม่ทราบว่าข้อมูลในปัจจุบันนี้เป็นอย่างไรกันบ้าง ทั้งนี้เพราะเนื่องจากเมื่อเรานั่งรถไฟผ่านไปในเส้นทางช่วงนี้แล้วเราก็จะพบว่าได้มีการยกเลิกการใช้อาคารสถานีในแบบเก่าไปเกือบทั้งหมดเช่นอาคารสถานี ฉล. หรือ โร. ซึ่งปัจจุบันนี้ก็ยังไม่ทราบว่าอาคารเก่าเหล่านี้ได้ถูกรื้ออกไปแล้ว แล้วให้ไปใช้ตัวอาคารใหม่แทน ซึ่งก็อยากจะให้ติดตามว่าจะยังมีอาคารสถานีอื่นจะยังถูกรื้ออยู่ต่อไปอีกหรือไม่

ซึ่งกระผมเชื่อแน่ว่าต่อไปก็อาจจะเป็นเหมือนกับอาคารสถานีในช่วง หใ - ปซ. ที่ปัจจุบันนี้เหลืออาคารสถานี(ในช่วงนี้)อยู่สถานีเดียวคือ อาคารสถานี คง. อยู่เพียงสถานีเดียว ทั้งๆที่แต่ก่อนทางในช่วงนี้ ก็มีสถานีมากถึง 5 สถานีเลยทีเดียว(โดยไม่นับสถานีต้นทางปลายทางนะ) ซึ่งแม้กระทั่งตั๋วฉีกเองก็ยังไม่มีชื่อของสถานีได้ครบถึง 5 สถานีเลย มีแต่เพียงชื่อสถานี คง. อยู่เพียงสถานีเดียวเท่านั้น

หรือในบางที่ก็มีการพัฒนาอาคารสถานีขึ้นมาจากป้ายหยุดรถ เช่นสถานี คเ (ตามคำบอกเล่าของชาวบ้านที่อาศัยอยู่แถวนั้น)

หรืออย่างบางที่ก็ได้มีการยกเลิกอย่างเป็นทางการเลยก็มี(ที่กระผมเห็นมานะ)คือ ที่หยุดรถสถานี ตพ. ที่ตั้งอยู่หน้าวัดหนองตาพดในจังหวัด พบ.

ซึ่งอย่างหนึ่งที่กระผมอยากเห็นก็คืออาคารสถานีในแต่ละที่นั้นได้ตั้งอยู่ที่ สทล. ที่เท่าไหร เช่น สถานี บข. ตั้งอยู่ที่ สทล. ที่ 13-0 หรือ สถานี รต. ตั้งอยู่ที่ สทล.ที่ 30-1 หรือที่หยุดรถ รม. ก็ตั้งอยู่ที่ สทล. 4-5 ถึง 4-6 (เนื่องจากสถานที่นี้เป็นป้ายหยุดรถ)ดังนี้เป็นต้น

Wisarut

suraphat · Posted: 21/08/2007 9:46 pm Post subject: รถไป ปซ.

เอ! เดี๋ยวนี้มีแต่ขบวนรถคอนเทนเนอร์อย่างเดียวแล้วหรอ? ส่วนขบวนรถอื่นก็แทบไม่เคยได้เห็นเลยหรือ เช่นขบวนรถ ขต. ที่ขนแร่ยิบซั่มไปมาเลย์นั้นยังไงเล่า สมัยก่อนนั้นยังเห็นวิ่งเช้าวิ่งเย็นอยู่เลย(ว้าวตกข่าวอีกแล้ว หลังจากที่ไม่ได้ไปเสียนาน ที่ หใ นี้) ซึ่งก็ยังจำได้เลยว่า ขบวนรถเที่ยวแรกที่ไปมาเลย์ ก็จะออกเวลา 06.30 น. ส่วนภาคบ่ายก็จะออกราว 13.00 น. จาก หใ นะโดยเป็นรถ ขต. เสียเป็นส่วนใหญ่ราว 80% ของรถในขบวน โดยจะมีบางตู้ก็จะเป็นรถชนิดอื่นไปบ้าง( เช่น ตญ. บตญ. หรือ บทต.บ้างเป็นต้น) ซึ่งก็เป็นสถานที่ที่กองทัพมดนำสินค้าเข้ามาจำหน่ายได้ทางหนึ่งละ เนื่องจากมีรถประเภทอื่นบังอยู่ ในเวลาทำขบวนยังไงเล่า(แบบว่าผมเคยได้เป็นกองทัพมดแบบนี้มาก่อนแหละ555)

beer45 · Posted: 24/08/2007 6:43 am Post subject:

ผมตอบตามกระทู้นะครับ เห็นด้วยเกี่ยวกับการสร้างรางคู่ในทางสายใต้ครับ แต่มันขาดงบอ่ะครับ หรือแม้ว่าทางคู่ในสายใดก็เห็นด้วยทั้งหมดครับ เพราะช่วยลดความล่าช้าในการหลีกขบวนรถลงได้มาก การขนส่งใช้เวลาสั้นลงครับ

tentarmy43 · 2nd Class Pass Joined: 10/10/2007 Posts: 665

ดีครับ
ผมก้อ(ก็)เห้นด้วยนะครับ ทำทางคู่จะได้ย่นระยะเวลาด้วยครับ คงจะช่วยได้เยอะนะครับ.เอาใจช่วยนะครับ

oatnp2531 · Posted: 25/10/2007 9:59 pm Post subject:

ขอด้วยคนครับเพราะเป็นทางผ่าน ความจริงก็ดีนะครับถ้าจะสร้างทางคู่ยาวไปถึงทุ่งสงเลย เพราะจะได้ลดการจราจรระหว่างขบวนขาขึ้น-ขาลง ไม่ต้องมารอหลีกกันให้เสียเวลา และถ้าให้ดีก็ปรับปรุงทางไปด้วย จะได้สมบูรณ์แบบเหมือนกับเส้นทางสายอื่นบ้างครับ

pitsanume · Posted: 26/10/2007 7:56 am Post subject:

ถ้ามีโครงการนี้จริง ๆ ก็คงจะดีมาก ๆ เลยครับ การเดินทางลงใต้คงจะรวดเร็วขึ้นแน่นอนเลย
เห็นด้วยครับ ถ้ามีโครงการนี้จริง ๆ

tatom · Posted: 26/10/2007 9:12 am Post subject:

เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง การเดินทางขึ้นลงของชาวปักษ์ใต้ ค่อนข้างจะยาวนาน บางจังหวัดระยะทางเป็นพันกว่ากิโลเมตร ชาวปักษ์ใต้นิยมโดยสารรถไฟนอกจากจะปลอดภัยแล้ว การนั่ง เดิน และนอนด้วย คงจะทำให้การเดินทางไม่เมื่อยและเหนื่อยมากนัก หากสร้างรางคู่คงจะใช้เวลาสั้นลง ลดการสับหลีก รอหลีก โดยเฉพาะช่วงหัวหิน - สุราษฎร์ธานี