RailServe.Com

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai Gallery in Facebook

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311416
ทั่วไป:13309599
ทั้งหมด:13621015
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - ตะลอน ๔ บุรี เยือนเมืองสองพันบุรี + ลุยสายน้ำตกยามเช้า
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

ตะลอน ๔ บุรี เยือนเมืองสองพันบุรี + ลุยสายน้ำตกยามเช้า
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 5, 6, 7 ... 11, 12, 13  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ทริปตะลอนทัวร์สไตล์รถไฟไทยดอทคอม
View previous topic :: View next topic  
Author Message
newdriver
3rd Class Pass
3rd Class Pass


Joined: 06/06/2007
Posts: 37
Location: หนามแดง สมุทรปราการ

PostPosted: 29/09/2007 2:22 pm    Post subject: Reply with quote

ขอบคุณครับที่ไปเยี่ยมบ้านผม(บ้านหลังที่2ของผม) แต่ผมไม่ได้กลับสุพรรณหลายเดือนแล้วคิดถึงสุพรรณจังเลยครับ Crying or Very sad
_________________
สุดปลายทางแล้วแต่การเดินทางยังไม่จบจนกว่าจะหมดลมหายใจ
Back to top
View user's profile Send private message Send e-mail
ExtendeD
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 04/07/2006
Posts: 9054
Location: สังกัดหน่วยสำรวจสะพาน ตะลอนทั่วราชอาณาจักร

PostPosted: 30/09/2007 8:51 pm    Post subject: Reply with quote

ได้เวลาเข้าไปชมด้านใน " หอคอยบรรหาร - แจ่มใส " แล้วครับ ที่นี่คือประตูทางเข้า เดินเข้าไปด้วยกันเลยครับ

Click on the image for full size

สำหรับข้อมูลของหอคอยแห่งนี้ ใน" website ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย " ให้รายละเอียดไว้ว่า...

http://www.tat.or.th wrote:
หอคอยบรรหาร-แจ่มใส ตั้งอยู่ในสวนเฉลิมภัทรราชินี เป็นหอคอยชมวิวแห่งแรก และสูงที่สุดในประเทศไทยมองเห็นโดดเด่นอยู่กลางเมือง มีความสูงถึง 123.25 เมตร ฐานกว้าง 30 เมตร การขึ้นเที่ยวชมหอคอย จะมีจุดแวะพักชมวิว 4 ชั้น ชั้นที่ 1 เป็นที่จำหน่ายบัตรและของที่ระลึก ชั้นที่ 2 เป็นร้านจำหน่ายเครื่องดื่มอาหารว่างและจุดนั่งชมสวน ชั้นที่ 3 เป็นร้านจำหน่ายของที่ระลึกและจุดชมตัวเมือง ชั้นที่ 4 อยู่ในระดับสูงสุด 78.75 เมตร เป็นจุดชมทิวทัศน์ของจังหวัดสุพรรณบุรีโดยรอบ มีกล้องส่องทางไกลบริการ ผนังห้องแสดงภาพวาดสีน้ำมันเกี่ยวกับสมเด็จพระนเรศวรมหาราช



พื้นที่บริเวณชั้นที่ 1 ของหอคอยแห่งนี้จะเป็นร้านขายของที่ระลึกต่าง ๆ ...

Click on the image for full size


รวมไปถึงเสื้อ และหมวกสีเหลืองติดตราสัญลักษณ์เฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา ด้วยครับ

Click on the image for full size


เดินวนจนรอบชั้นที่ 1 แล้วก็ได้เวลาซื้อบัตรขึ้นชมหอคอยแล้วครับ โดยที่อัตราค่าเข้าชมของผู้ใหญ่คือ 30 บาท ส่วนเด็ก 15 บาท เจ้าหน้าที่ที่ประจำอยู่ภายในหอคอยนี้จะใส่เครื่องแบบเป็นเสื้อสีม่วงอย่างที่เห็นอยู่นี้ครับ

Click on the image for full size
_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

Click on the image for full size
Back to top
View user's profile Send private message
ExtendeD
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 04/07/2006
Posts: 9054
Location: สังกัดหน่วยสำรวจสะพาน ตะลอนทั่วราชอาณาจักร

PostPosted: 30/09/2007 9:11 pm    Post subject: Reply with quote

ลิฟท์ขึ้นชั้นบนก็จะอยู่ใกล้ ๆ กับเคาน์เตอร์จำหน่ายบัตรขึ้นชมหอคอยครับ น้อง ๆ นักเรียนก็เริ่มทยอยกันลงมาสักพักแล้วครับ ที่เห็นอยู่นี้เป็นกลุ่มรั้งท้ายเลย

Click on the image for full size


หลังจากที่ก้าวเข้ามาในลิฟท์ จะพบเจ้าหน้าที่ผู้หญิงอยู่ 1 คนครับ แล้วเราจะได้รับแจ้งว่า ลิฟท์จะพาเราไปส่งที่ชั้นที่ 4 ก่อน หลังจากนั้นเราก็จะต้องเดินลงบันไดมาที่ชั้นที่ 3 แล้วรอลิฟท์มาส่งที่ชั้นที่ 2 และกลับสู่ชั้นที่ 1 ตามลำดับครับ

ระหว่างอยู่ในลิฟท์จะมีบางช่วงที่สามารถมองเห็นด้านนอกได้ ประตูที่เห็นอยู่นี้ก็เป็นประตูที่อยู่ริมถนนเดียวกันกับ " ขุนไกรไนท์ฟู๊ด " ครับ

Click on the image for full size


หากมองดูที่ป้ายที่อยู่ด้านข้างประตูลิฟท์ที่เห็นอยู่นี้ ก็จะเห็นตำแหน่งของลิฟท์ในเวลานั้นครับ อย่างตอนนี้ ผมก็ผ่านชั้นที่ 2 ไปแล้วครับ

Click on the image for full size
_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

Click on the image for full size
Back to top
View user's profile Send private message
ExtendeD
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 04/07/2006
Posts: 9054
Location: สังกัดหน่วยสำรวจสะพาน ตะลอนทั่วราชอาณาจักร

PostPosted: 30/09/2007 9:25 pm    Post subject: Reply with quote

ตอนนี้เราก็มาถึงชั้นที่ 4 แล้วครับ

Click on the image for full size


บรรยากาศของชั้นบนสุดของหอคอยแห่งนี้ ก็เป็นอย่างที่เห็นอยู่นี้ครับ

Click on the image for full size


ผนังส่วนใหญ่จะเป็นกระจก เพื่อให้นักท่องเที่ยวสามารถชมเมืองสุพรรณบุรีจากมุมสูงได้ โดยที่จะมีกล้องส่องทางไกลตั้งเอาไว้ให้บริการนักท่องเที่ยวด้วย ส่วนเสาผนังปูนที่คั่นกลางระหว่างผนังกระจกใส ก็จะมีรูปภาพสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัดสุพรรณบุรีติดเอาไว้ พร้อมกับป้ายแสดงรายละเอียดของสถานที่นั่น ๆ ให้นักท่องเที่ยวได้อ่านด้วย สำหรับเสาหลักของหอคอยที่อยู่ตรงกลางก็จะมีภาพวาดสีน้ำมันขนาดใหญ่ติดเอาไว้โดยรอบครับ

Click on the image for full size
_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

Click on the image for full size
Back to top
View user's profile Send private message
ExtendeD
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 04/07/2006
Posts: 9054
Location: สังกัดหน่วยสำรวจสะพาน ตะลอนทั่วราชอาณาจักร

PostPosted: 30/09/2007 9:52 pm    Post subject: Reply with quote

nirakan wrote:
พอดีสะดุดตากับหมวก ผมว่าเหมาะกับเสื้อโปโลของเว็บเราดีแท้

ไม่รู้ว่า นอกเหนือจากที่นั่นแล้ว ที่ไหนมีขายอีกบ้างนะ จะหาซื้อมาใส่คู่กับเสื้อนะครับพี่

ส้ม+น้ำเงิน


ถ้าเจาะจงจะเอาหมวกสีน้ำเงินขลิบส้มแบบนี้ ท่าทางจะหายากกว่าหมวกสีเหลืองเยอะเลยล่ะครับ พี่ก็เพิ่งจะสังเกตเห็น สีเดียวกันเป๊ะเลย บังเอิญจริง ๆ laugh

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

เรามาเริ่มชมเมืองสุพรรณบุรีจากมุมสูงกันจากจุดนี้เลยดีกว่าครับ ผมคิดว่าสำหรับพวกเราแล้ว คงต้องหยอดเหรียญเพื่อใช้บริการเจ้ากล้องส่องทางไกลตัวนี้กันทุกคนแน่ ๆ เลย นั่นก็เพราะว่าตามป้ายที่ติดเอาไว้ที่กระจก หากส่องดูจากกล้องตัวนี้แล้ว จะสามารถมองเห็น " วัดไผ่โรงวัว ", พื้นที่ของอำเภอสองพี่น้อง และ " สถานีรถไฟสุพรรณบุรี " ครับ

Click on the image for full size

สำหรับค่าใช้จ่ายในการใช้กล้องส่องทางไกลแต่ละครั้งเป็นเงิน 10 บาท และสามารถส่องดูได้นาน 3 นาทีครับ ส่วนตำแหน่งของสถานีรถไฟสุพรรณบุรีนั้นอยู่ตรงไหน แล้วจะเห็นชัดมาก หรือน้อยแค่ไหน ถ้ามีเวลาว่างก็ลองมาส่องดูนะครับ สุพรรณบุรีใกล้แค่นี้เอง ( เที่ยวเมืองไทย ไม่ไปไม่รู้ ) Razz


หากยืนอยู่ใกล้ ๆ กล้องส่องทางไกลตัวเมื่อสักครู่นี้แล้วมองออกไปด้านนอกจะเห็นตัวเมืองสุพรรณบุรีเป็นแบบนี้ครับ

Click on the image for full size


เดินถัดมาที่ผนังปูนจะมีรูปภาพของ " วัดป่าเลไลยก์วรวิหาร " ติดอยู่ครับ

Click on the image for full size

ด้านล่างรูปภาพวัดป่าเลไลยก์นี้ มีป้ายบอกรายละเอียดของวัดแห่งนี้ด้วยครับ

ข้อมูลตามป้าย wrote:
วัดป่าเลไลยก์วรวิหาร ตำนานแห่งวรรณคดี
อยู่ในเขตอำเภอเมืองฯ เดิมเป็นวัดร้าง ชื่อ " วัดลานมะขวิด " รัชกาลที่ 4 โปรดเกล้าให้บูรณะ และสถาปนา เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชื่อ " วัดป่าเลไลยก์วรวิหาร " ในพระวิหารมีพระพุทธรูปปูนปั้นปิดทองแบบทวารวดีองค์ใหญ่ สูง 23.46 เมตร รอบองค์ 11.20 เมตร ชาวบ้านเรียก " หลวงพ่อโต " มีเรื่องนับเนื่องอยู่ในวรรณคดี ขุนช้างขุนแผน และนิราศสุพรรณ

_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

Click on the image for full size
Back to top
View user's profile Send private message
ExtendeD
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 04/07/2006
Posts: 9054
Location: สังกัดหน่วยสำรวจสะพาน ตะลอนทั่วราชอาณาจักร

PostPosted: 30/09/2007 10:12 pm    Post subject: Reply with quote

ผนังกระจกช่วงต่อไป ไม่มีกล้องส่องทางไกลติดตั้งเอาไว้ครับ ก็เลยได้แต่ยืนมองดูด้วยตาเปล่า แม่น้ำที่เห็นอยู่ในรูปนี้ก็คือ " แม่น้ำท่าจีน " ครับ

Click on the image for full size


เดินต่อไปทางขวาเรื่อย ๆ ก็จะมาถึงผนังกระจกที่มีกล้องส่องทางไกลตัวที่ 2 สำหรับมองดู " วัดป่าเลไลยก์วรวิหาร ", " สนามกีฬาจังหวัดสุพรรณบุรี " และ " ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง " ติดตั้งอยู่ครับ

Click on the image for full size


ด้านข้างมีรูปภาพของ " พระบรมราชานุสรณ์ดอนเจดีย์ " ติดอยู่ครับ

Click on the image for full size

ข้อมูลตามป้าย wrote:
พระบรมราชานุสรณ์ดอนเจดีย์ เอกลักษณ์เอกราช
ตั้งอยู่ตำบลดอนเจดีย์ อำเภอดอนเจดีย์ สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2135 เพื่อเทิดพระเกียรติ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช เมื่อทรงชนะสงครามยุทธหัตถีกับพระมหาอุปราชา ทำให้ไทยเป็นไท สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ได้ค้นพบเจดีย์นี้ ใน พ.ศ. 2456 ซึ่งรัชกาลที่ 6 ได้เสด็จมากระทำพิธีบวงสรวงเป็นครั้งแรกในปีนั้น ได้มีการสร้างเจดีย์องค์ใหม่ทรงลังกากลม ขนาด 30.00 x 66.00 เมตร ครอบเจดีย์องค์เดิมไว้เมื่อ พ.ศ. 2495

_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

Click on the image for full size
Back to top
View user's profile Send private message
ExtendeD
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 04/07/2006
Posts: 9054
Location: สังกัดหน่วยสำรวจสะพาน ตะลอนทั่วราชอาณาจักร

PostPosted: 30/09/2007 10:31 pm    Post subject: Reply with quote

ผนังกระจกช่วงต่อไป มีกล้องส่องทางไกลสำหรับมอง " พระบรมราชานุสรณ์ดอนเจดีย์ ", " วัดป่าเลไลยก์วรวิหาร ", " ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง " และ " วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ ( พระผงสุพรรณ ) " แต่เพียงแค่มองด้วยตาเปล่า ก็พอจะมองเห็นมังกรยักษ์สีแดง ที่อยู่ในบริเวณของศาลเจ้าพ่อหลักเมืองได้ครับ

Click on the image for full size


ผนังกระจกช่วงต่อมา ก็ไม่มีกล้องส่องทางไกลติดตั้งไว้อีกแล้วครับ แต่ถ้ามองออกไปด้านนอกก็จะเห็นประตูทางเข้า " สวนภัทรราชินี " ทางด้านถนนนางพิมครับ

Click on the image for full size


ใกล้ ๆ กันมีรูปภาพของ " วัดพระศรีมหาธาตุ " ติดอยู่ครับ

Click on the image for full size

ข้อมูลตามป้าย wrote:
วัดพระศรีมหาธาตุ รอยประวัติศาสตร์รุ่งเรืองพระเครื่องลือชา
ตั้งอยู่กลางเมืองเก่าในเขตเทศบาลเป็นวัดเก่าแก่ก่อสร้างก่อน พ.ศ. 1951 ภายในวัดมีพระปรางค์องค์ประธานงามเด่นตระหง่าน สันนิษฐานว่าก่อสร้างราวศตวรรษที่ 16 เป็นสถานที่ที่แสดงถึงความเป็นเมืองที่ยิ่งใหญ่ในอดีต เมื่อ พ.ศ. 2456 ได้มีการเปิดกรุพระปรางค์พบพระเครื่องที่เลื่องชื่อ คือพระผงสุพรรณ และพระกำแพงศอกบริเวณหน้าพระปรางค์ มีเจดีย์สมัยอู่ทองอยู่ 2 องค์ และมีพระพุทธรูปหินทรายจำนวนมาก

_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

Click on the image for full size
Back to top
View user's profile Send private message
ExtendeD
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 04/07/2006
Posts: 9054
Location: สังกัดหน่วยสำรวจสะพาน ตะลอนทั่วราชอาณาจักร

PostPosted: 30/09/2007 10:45 pm    Post subject: Reply with quote

กล้องส่องทางไกลตัวต่อไป จะใช้มองเขาวง จังหวัดสระบุรี, อำเภอศรีประจันต์ และเขตติดต่อกับจังหวัดอยุธยา สระบุรีครับ

Click on the image for full size


ผนังช่วงต่อมา ไม่มีกล้องส่องทางไกลติดตั้งไว้ครับ

Click on the image for full size


เดินต่อไปอีก ก็จะเห็นรูปภาพของ " ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง " ติดอยู่

Click on the image for full size

ข้อมูลตามป้าย wrote:
ศาลเทพารักษ์หลักเมือง ประเพณีสืบเนื่อง " งานทิ้งกระจาด "
อยู่ในเขตอำเภอเมืองฯ ภายในศาลมีเทวรูปพระพิษณุเก่าแก่จำหลักศิลาหยกอยู่ 2 องค์ สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพได้ริเริ่มสร้างศาลฯ แบบไทย เป็นตึกก่ออิฐถือปูน กษัตริย์ที่เคยเสด็จมากระทำพิธีพลีกรรม คือรัชกาลที่ 5 เมื่อ พ.ศ. 2448 และรัชกาลที่ 6 เมื่อ พ.ศ. 2466 ชาวไทยเชื้อสายจีนเชื่อว่า เป็นที่สิงสถิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ประจำเมือง จึงเกิดประเพณียิ่งใหญ่ คือ " งานทิ้งกระจาด "

_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

Click on the image for full size
Back to top
View user's profile Send private message
ExtendeD
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 04/07/2006
Posts: 9054
Location: สังกัดหน่วยสำรวจสะพาน ตะลอนทั่วราชอาณาจักร

PostPosted: 30/09/2007 10:53 pm    Post subject: Reply with quote

กล้องส่องทางไกลตัวสุดท้ายที่อยู่บนชั้นที่ 4 นี้ ใช้สำหรับมองถนนสายกรุงเทพฯ - สุพรรณบุรี, อำเภอบางปลาม้า และ " วัดไผ่โรงวัว " ครับ

Click on the image for full size


ใกล้ ๆ กันจะมีตราประทับเป็นรูปหอคอย ให้นักท่องเที่ยวประทับบนบัตรเข้าชมหอคอยเพื่อเก็บไปเป็นที่ระลึกครับ

Click on the image for full size


ประทับตราแล้วจะเป็นแบบบัตรที่อยู่ทางขวา ส่วนทางซ้ายนี้เป็นบัตรเข้าชมสำหรับผู้ใหญ่ราคา 30 บาท ส่วนบัตรของเด็กราคา 10 บาทจะเป็นสีน้ำเงินครับ

Click on the image for full size
_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

Click on the image for full size
Back to top
View user's profile Send private message
ExtendeD
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 04/07/2006
Posts: 9054
Location: สังกัดหน่วยสำรวจสะพาน ตะลอนทั่วราชอาณาจักร

PostPosted: 01/10/2007 7:56 am    Post subject: Reply with quote

ทีนี้มาดูรูปวาดสีน้ำมันที่ติดอยู่รอบ ๆ เสาหลักของหอคอยแห่งนี้กันบ้างครับ เป็นภาพพระราชประวัติของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ซึ่งมีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 7 ภาพ ถ้าเรียงตามลำดับเหตุการณ์ก่อน - หลังแล้วก็ต้องเริ่มจากรูปนี้...

ข้อมูลตามป้าย wrote:
สมเด็จพระนเรศวรฯ เมื่อครั้งปฐมวัย
สมเด็จพระนเรศวรมหาราช พระมหากษัตริย์ลำดับที่ 18 แห่งกรุงศรีอยุธยา เสด็จพระราชสมภพเมื่อพุทธศักราช 2098 ณ เมืองพิษณุโลก
ทรงเป็นพระราชโอรสในสมเด็จพระมหาธรรมราชาธิราช และพระวิสุทธิกษัตรี สมเด็จพระพี่นางทรงพระนามว่า พระสุพรรณกัลยาณี
พระราชอนุชาทรงพระนามว่า สมเด็จพระเอกาทศรถ


Click on the image for full size


ข้อมูลตามป้าย wrote:
สมเด็จพระนเรศวรฯ ทรงเล่นชนไก่กับพระมหาอุปราชา
สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงเล่นชนไก่กับพระมหาอุปราชา ไก่พระมหาอุปราชาแพ้ได้มีการกล่าวคำถากถางว่าทรงเป็นเชลย
เป็นเหตุการณ์สำคัญทำให้ทรงคิดกอบกู้เอกราช


Click on the image for full size


ข้อมูลตามป้าย wrote:
สมเด็จพระนเรศวรฯ และสมเด็จพระเอกาทศรถเสด็จไล่ตามพระยาจีนจันตุ
สมเด็จพระนเรศวรมหาราชและสมเด็จพระเอกาทศรถ ทรงเรือกราบกันยาเสด็จไล่ตามเรือพระยาจีนจันตุที่เข้ามาสืบข่าวให้กรุงกัมพูชา
แล้วลอบหนี เมื่อพุทธศักราช 2121 วีรกรรมครั้งนี้ปรากฏ เลื่องลือว่าทรงเข้ารบด้วยพระองค์เองอย่างกล้าหาญยิ่ง


Click on the image for full size


ข้อมูลตามป้าย wrote:
สมเด็จพระนเรศวรฯ ทรงพระแสงปืนข้ามแม่น้ำสะโตง
สมเด็จพระนเรศวรมหาราช เสด็จทรงนำทัพและครัวไทยข้ามแม่น้ำสะโตง ทรงยิงปืนนกสับ ถูกสุรกรรมานายทัพหน้าพม่า
ซึ่งตามมาตายอยู่กับคอช้าง พระแสงปืนดังกล่าวได้นามปรากฏต่อมาว่า " พระแสงปืนต้นข้ามแม่น้ำสะโตง " นามพระแสงนี้
ได้ใช้เป็นชื่อพระแสงสำคัญอันเป็นเครื่องราชูปโภคสำหรับแผ่นดิน


Click on the image for full size
_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

Click on the image for full size
Back to top
View user's profile Send private message
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ทริปตะลอนทัวร์สไตล์รถไฟไทยดอทคอม All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 5, 6, 7 ... 11, 12, 13  Next
Page 6 of 13

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©