View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
newdriver
3rd Class Pass
Joined: 06/06/2007 Posts: 37
Location: หนามแดง สมุทรปราการ
|
Posted: 29/09/2007 2:22 pm Post subject: |
|
|
ขอบคุณครับที่ไปเยี่ยมบ้านผม(บ้านหลังที่2ของผม) แต่ผมไม่ได้กลับสุพรรณหลายเดือนแล้วคิดถึงสุพรรณจังเลยครับ _________________ สุดปลายทางแล้วแต่การเดินทางยังไม่จบจนกว่าจะหมดลมหายใจ |
|
Back to top |
|
|
ExtendeD
1st Class Pass (Air)
Joined: 04/07/2006 Posts: 9054
Location: สังกัดหน่วยสำรวจสะพาน ตะลอนทั่วราชอาณาจักร
|
Posted: 30/09/2007 8:51 pm Post subject: |
|
|
ได้เวลาเข้าไปชมด้านใน " หอคอยบรรหาร - แจ่มใส " แล้วครับ ที่นี่คือประตูทางเข้า เดินเข้าไปด้วยกันเลยครับ
สำหรับข้อมูลของหอคอยแห่งนี้ ใน" website ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย " ให้รายละเอียดไว้ว่า...
http://www.tat.or.th wrote: | หอคอยบรรหาร-แจ่มใส ตั้งอยู่ในสวนเฉลิมภัทรราชินี เป็นหอคอยชมวิวแห่งแรก และสูงที่สุดในประเทศไทยมองเห็นโดดเด่นอยู่กลางเมือง มีความสูงถึง 123.25 เมตร ฐานกว้าง 30 เมตร การขึ้นเที่ยวชมหอคอย จะมีจุดแวะพักชมวิว 4 ชั้น ชั้นที่ 1 เป็นที่จำหน่ายบัตรและของที่ระลึก ชั้นที่ 2 เป็นร้านจำหน่ายเครื่องดื่มอาหารว่างและจุดนั่งชมสวน ชั้นที่ 3 เป็นร้านจำหน่ายของที่ระลึกและจุดชมตัวเมือง ชั้นที่ 4 อยู่ในระดับสูงสุด 78.75 เมตร เป็นจุดชมทิวทัศน์ของจังหวัดสุพรรณบุรีโดยรอบ มีกล้องส่องทางไกลบริการ ผนังห้องแสดงภาพวาดสีน้ำมันเกี่ยวกับสมเด็จพระนเรศวรมหาราช |
พื้นที่บริเวณชั้นที่ 1 ของหอคอยแห่งนี้จะเป็นร้านขายของที่ระลึกต่าง ๆ ...
รวมไปถึงเสื้อ และหมวกสีเหลืองติดตราสัญลักษณ์เฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา ด้วยครับ
เดินวนจนรอบชั้นที่ 1 แล้วก็ได้เวลาซื้อบัตรขึ้นชมหอคอยแล้วครับ โดยที่อัตราค่าเข้าชมของผู้ใหญ่คือ 30 บาท ส่วนเด็ก 15 บาท เจ้าหน้าที่ที่ประจำอยู่ภายในหอคอยนี้จะใส่เครื่องแบบเป็นเสื้อสีม่วงอย่างที่เห็นอยู่นี้ครับ
_________________ Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.
|
|
Back to top |
|
|
ExtendeD
1st Class Pass (Air)
Joined: 04/07/2006 Posts: 9054
Location: สังกัดหน่วยสำรวจสะพาน ตะลอนทั่วราชอาณาจักร
|
Posted: 30/09/2007 9:11 pm Post subject: |
|
|
ลิฟท์ขึ้นชั้นบนก็จะอยู่ใกล้ ๆ กับเคาน์เตอร์จำหน่ายบัตรขึ้นชมหอคอยครับ น้อง ๆ นักเรียนก็เริ่มทยอยกันลงมาสักพักแล้วครับ ที่เห็นอยู่นี้เป็นกลุ่มรั้งท้ายเลย
หลังจากที่ก้าวเข้ามาในลิฟท์ จะพบเจ้าหน้าที่ผู้หญิงอยู่ 1 คนครับ แล้วเราจะได้รับแจ้งว่า ลิฟท์จะพาเราไปส่งที่ชั้นที่ 4 ก่อน หลังจากนั้นเราก็จะต้องเดินลงบันไดมาที่ชั้นที่ 3 แล้วรอลิฟท์มาส่งที่ชั้นที่ 2 และกลับสู่ชั้นที่ 1 ตามลำดับครับ
ระหว่างอยู่ในลิฟท์จะมีบางช่วงที่สามารถมองเห็นด้านนอกได้ ประตูที่เห็นอยู่นี้ก็เป็นประตูที่อยู่ริมถนนเดียวกันกับ " ขุนไกรไนท์ฟู๊ด " ครับ
หากมองดูที่ป้ายที่อยู่ด้านข้างประตูลิฟท์ที่เห็นอยู่นี้ ก็จะเห็นตำแหน่งของลิฟท์ในเวลานั้นครับ อย่างตอนนี้ ผมก็ผ่านชั้นที่ 2 ไปแล้วครับ
_________________ Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.
|
|
Back to top |
|
|
ExtendeD
1st Class Pass (Air)
Joined: 04/07/2006 Posts: 9054
Location: สังกัดหน่วยสำรวจสะพาน ตะลอนทั่วราชอาณาจักร
|
Posted: 30/09/2007 9:25 pm Post subject: |
|
|
ตอนนี้เราก็มาถึงชั้นที่ 4 แล้วครับ
บรรยากาศของชั้นบนสุดของหอคอยแห่งนี้ ก็เป็นอย่างที่เห็นอยู่นี้ครับ
ผนังส่วนใหญ่จะเป็นกระจก เพื่อให้นักท่องเที่ยวสามารถชมเมืองสุพรรณบุรีจากมุมสูงได้ โดยที่จะมีกล้องส่องทางไกลตั้งเอาไว้ให้บริการนักท่องเที่ยวด้วย ส่วนเสาผนังปูนที่คั่นกลางระหว่างผนังกระจกใส ก็จะมีรูปภาพสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัดสุพรรณบุรีติดเอาไว้ พร้อมกับป้ายแสดงรายละเอียดของสถานที่นั่น ๆ ให้นักท่องเที่ยวได้อ่านด้วย สำหรับเสาหลักของหอคอยที่อยู่ตรงกลางก็จะมีภาพวาดสีน้ำมันขนาดใหญ่ติดเอาไว้โดยรอบครับ
_________________ Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.
|
|
Back to top |
|
|
ExtendeD
1st Class Pass (Air)
Joined: 04/07/2006 Posts: 9054
Location: สังกัดหน่วยสำรวจสะพาน ตะลอนทั่วราชอาณาจักร
|
Posted: 30/09/2007 9:52 pm Post subject: |
|
|
nirakan wrote: | พอดีสะดุดตากับหมวก ผมว่าเหมาะกับเสื้อโปโลของเว็บเราดีแท้
ไม่รู้ว่า นอกเหนือจากที่นั่นแล้ว ที่ไหนมีขายอีกบ้างนะ จะหาซื้อมาใส่คู่กับเสื้อนะครับพี่
ส้ม+น้ำเงิน |
ถ้าเจาะจงจะเอาหมวกสีน้ำเงินขลิบส้มแบบนี้ ท่าทางจะหายากกว่าหมวกสีเหลืองเยอะเลยล่ะครับ พี่ก็เพิ่งจะสังเกตเห็น สีเดียวกันเป๊ะเลย บังเอิญจริง ๆ
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เรามาเริ่มชมเมืองสุพรรณบุรีจากมุมสูงกันจากจุดนี้เลยดีกว่าครับ ผมคิดว่าสำหรับพวกเราแล้ว คงต้องหยอดเหรียญเพื่อใช้บริการเจ้ากล้องส่องทางไกลตัวนี้กันทุกคนแน่ ๆ เลย นั่นก็เพราะว่าตามป้ายที่ติดเอาไว้ที่กระจก หากส่องดูจากกล้องตัวนี้แล้ว จะสามารถมองเห็น " วัดไผ่โรงวัว ", พื้นที่ของอำเภอสองพี่น้อง และ " สถานีรถไฟสุพรรณบุรี " ครับ
สำหรับค่าใช้จ่ายในการใช้กล้องส่องทางไกลแต่ละครั้งเป็นเงิน 10 บาท และสามารถส่องดูได้นาน 3 นาทีครับ ส่วนตำแหน่งของสถานีรถไฟสุพรรณบุรีนั้นอยู่ตรงไหน แล้วจะเห็นชัดมาก หรือน้อยแค่ไหน ถ้ามีเวลาว่างก็ลองมาส่องดูนะครับ สุพรรณบุรีใกล้แค่นี้เอง ( เที่ยวเมืองไทย ไม่ไปไม่รู้ )
หากยืนอยู่ใกล้ ๆ กล้องส่องทางไกลตัวเมื่อสักครู่นี้แล้วมองออกไปด้านนอกจะเห็นตัวเมืองสุพรรณบุรีเป็นแบบนี้ครับ
เดินถัดมาที่ผนังปูนจะมีรูปภาพของ " วัดป่าเลไลยก์วรวิหาร " ติดอยู่ครับ
ด้านล่างรูปภาพวัดป่าเลไลยก์นี้ มีป้ายบอกรายละเอียดของวัดแห่งนี้ด้วยครับ
ข้อมูลตามป้าย wrote: | วัดป่าเลไลยก์วรวิหาร ตำนานแห่งวรรณคดี
อยู่ในเขตอำเภอเมืองฯ เดิมเป็นวัดร้าง ชื่อ " วัดลานมะขวิด " รัชกาลที่ 4 โปรดเกล้าให้บูรณะ และสถาปนา เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชื่อ " วัดป่าเลไลยก์วรวิหาร " ในพระวิหารมีพระพุทธรูปปูนปั้นปิดทองแบบทวารวดีองค์ใหญ่ สูง 23.46 เมตร รอบองค์ 11.20 เมตร ชาวบ้านเรียก " หลวงพ่อโต " มีเรื่องนับเนื่องอยู่ในวรรณคดี ขุนช้างขุนแผน และนิราศสุพรรณ |
_________________ Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.
|
|
Back to top |
|
|
ExtendeD
1st Class Pass (Air)
Joined: 04/07/2006 Posts: 9054
Location: สังกัดหน่วยสำรวจสะพาน ตะลอนทั่วราชอาณาจักร
|
Posted: 30/09/2007 10:12 pm Post subject: |
|
|
ผนังกระจกช่วงต่อไป ไม่มีกล้องส่องทางไกลติดตั้งเอาไว้ครับ ก็เลยได้แต่ยืนมองดูด้วยตาเปล่า แม่น้ำที่เห็นอยู่ในรูปนี้ก็คือ " แม่น้ำท่าจีน " ครับ
เดินต่อไปทางขวาเรื่อย ๆ ก็จะมาถึงผนังกระจกที่มีกล้องส่องทางไกลตัวที่ 2 สำหรับมองดู " วัดป่าเลไลยก์วรวิหาร ", " สนามกีฬาจังหวัดสุพรรณบุรี " และ " ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง " ติดตั้งอยู่ครับ
ด้านข้างมีรูปภาพของ " พระบรมราชานุสรณ์ดอนเจดีย์ " ติดอยู่ครับ
ข้อมูลตามป้าย wrote: | พระบรมราชานุสรณ์ดอนเจดีย์ เอกลักษณ์เอกราช
ตั้งอยู่ตำบลดอนเจดีย์ อำเภอดอนเจดีย์ สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2135 เพื่อเทิดพระเกียรติ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช เมื่อทรงชนะสงครามยุทธหัตถีกับพระมหาอุปราชา ทำให้ไทยเป็นไท สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ได้ค้นพบเจดีย์นี้ ใน พ.ศ. 2456 ซึ่งรัชกาลที่ 6 ได้เสด็จมากระทำพิธีบวงสรวงเป็นครั้งแรกในปีนั้น ได้มีการสร้างเจดีย์องค์ใหม่ทรงลังกากลม ขนาด 30.00 x 66.00 เมตร ครอบเจดีย์องค์เดิมไว้เมื่อ พ.ศ. 2495 |
_________________ Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.
|
|
Back to top |
|
|
ExtendeD
1st Class Pass (Air)
Joined: 04/07/2006 Posts: 9054
Location: สังกัดหน่วยสำรวจสะพาน ตะลอนทั่วราชอาณาจักร
|
Posted: 30/09/2007 10:31 pm Post subject: |
|
|
ผนังกระจกช่วงต่อไป มีกล้องส่องทางไกลสำหรับมอง " พระบรมราชานุสรณ์ดอนเจดีย์ ", " วัดป่าเลไลยก์วรวิหาร ", " ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง " และ " วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ ( พระผงสุพรรณ ) " แต่เพียงแค่มองด้วยตาเปล่า ก็พอจะมองเห็นมังกรยักษ์สีแดง ที่อยู่ในบริเวณของศาลเจ้าพ่อหลักเมืองได้ครับ
ผนังกระจกช่วงต่อมา ก็ไม่มีกล้องส่องทางไกลติดตั้งไว้อีกแล้วครับ แต่ถ้ามองออกไปด้านนอกก็จะเห็นประตูทางเข้า " สวนภัทรราชินี " ทางด้านถนนนางพิมครับ
ใกล้ ๆ กันมีรูปภาพของ " วัดพระศรีมหาธาตุ " ติดอยู่ครับ
ข้อมูลตามป้าย wrote: | วัดพระศรีมหาธาตุ รอยประวัติศาสตร์รุ่งเรืองพระเครื่องลือชา
ตั้งอยู่กลางเมืองเก่าในเขตเทศบาลเป็นวัดเก่าแก่ก่อสร้างก่อน พ.ศ. 1951 ภายในวัดมีพระปรางค์องค์ประธานงามเด่นตระหง่าน สันนิษฐานว่าก่อสร้างราวศตวรรษที่ 16 เป็นสถานที่ที่แสดงถึงความเป็นเมืองที่ยิ่งใหญ่ในอดีต เมื่อ พ.ศ. 2456 ได้มีการเปิดกรุพระปรางค์พบพระเครื่องที่เลื่องชื่อ คือพระผงสุพรรณ และพระกำแพงศอกบริเวณหน้าพระปรางค์ มีเจดีย์สมัยอู่ทองอยู่ 2 องค์ และมีพระพุทธรูปหินทรายจำนวนมาก |
_________________ Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.
|
|
Back to top |
|
|
ExtendeD
1st Class Pass (Air)
Joined: 04/07/2006 Posts: 9054
Location: สังกัดหน่วยสำรวจสะพาน ตะลอนทั่วราชอาณาจักร
|
Posted: 30/09/2007 10:45 pm Post subject: |
|
|
กล้องส่องทางไกลตัวต่อไป จะใช้มองเขาวง จังหวัดสระบุรี, อำเภอศรีประจันต์ และเขตติดต่อกับจังหวัดอยุธยา สระบุรีครับ
ผนังช่วงต่อมา ไม่มีกล้องส่องทางไกลติดตั้งไว้ครับ
เดินต่อไปอีก ก็จะเห็นรูปภาพของ " ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง " ติดอยู่
ข้อมูลตามป้าย wrote: | ศาลเทพารักษ์หลักเมือง ประเพณีสืบเนื่อง " งานทิ้งกระจาด "
อยู่ในเขตอำเภอเมืองฯ ภายในศาลมีเทวรูปพระพิษณุเก่าแก่จำหลักศิลาหยกอยู่ 2 องค์ สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพได้ริเริ่มสร้างศาลฯ แบบไทย เป็นตึกก่ออิฐถือปูน กษัตริย์ที่เคยเสด็จมากระทำพิธีพลีกรรม คือรัชกาลที่ 5 เมื่อ พ.ศ. 2448 และรัชกาลที่ 6 เมื่อ พ.ศ. 2466 ชาวไทยเชื้อสายจีนเชื่อว่า เป็นที่สิงสถิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ประจำเมือง จึงเกิดประเพณียิ่งใหญ่ คือ " งานทิ้งกระจาด " |
_________________ Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.
|
|
Back to top |
|
|
ExtendeD
1st Class Pass (Air)
Joined: 04/07/2006 Posts: 9054
Location: สังกัดหน่วยสำรวจสะพาน ตะลอนทั่วราชอาณาจักร
|
Posted: 30/09/2007 10:53 pm Post subject: |
|
|
กล้องส่องทางไกลตัวสุดท้ายที่อยู่บนชั้นที่ 4 นี้ ใช้สำหรับมองถนนสายกรุงเทพฯ - สุพรรณบุรี, อำเภอบางปลาม้า และ " วัดไผ่โรงวัว " ครับ
ใกล้ ๆ กันจะมีตราประทับเป็นรูปหอคอย ให้นักท่องเที่ยวประทับบนบัตรเข้าชมหอคอยเพื่อเก็บไปเป็นที่ระลึกครับ
ประทับตราแล้วจะเป็นแบบบัตรที่อยู่ทางขวา ส่วนทางซ้ายนี้เป็นบัตรเข้าชมสำหรับผู้ใหญ่ราคา 30 บาท ส่วนบัตรของเด็กราคา 10 บาทจะเป็นสีน้ำเงินครับ
_________________ Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.
|
|
Back to top |
|
|
ExtendeD
1st Class Pass (Air)
Joined: 04/07/2006 Posts: 9054
Location: สังกัดหน่วยสำรวจสะพาน ตะลอนทั่วราชอาณาจักร
|
Posted: 01/10/2007 7:56 am Post subject: |
|
|
ทีนี้มาดูรูปวาดสีน้ำมันที่ติดอยู่รอบ ๆ เสาหลักของหอคอยแห่งนี้กันบ้างครับ เป็นภาพพระราชประวัติของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ซึ่งมีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 7 ภาพ ถ้าเรียงตามลำดับเหตุการณ์ก่อน - หลังแล้วก็ต้องเริ่มจากรูปนี้...
ข้อมูลตามป้าย wrote: | สมเด็จพระนเรศวรฯ เมื่อครั้งปฐมวัย
สมเด็จพระนเรศวรมหาราช พระมหากษัตริย์ลำดับที่ 18 แห่งกรุงศรีอยุธยา เสด็จพระราชสมภพเมื่อพุทธศักราช 2098 ณ เมืองพิษณุโลก
ทรงเป็นพระราชโอรสในสมเด็จพระมหาธรรมราชาธิราช และพระวิสุทธิกษัตรี สมเด็จพระพี่นางทรงพระนามว่า พระสุพรรณกัลยาณี
พระราชอนุชาทรงพระนามว่า สมเด็จพระเอกาทศรถ |
ข้อมูลตามป้าย wrote: | สมเด็จพระนเรศวรฯ ทรงเล่นชนไก่กับพระมหาอุปราชา
สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงเล่นชนไก่กับพระมหาอุปราชา ไก่พระมหาอุปราชาแพ้ได้มีการกล่าวคำถากถางว่าทรงเป็นเชลย
เป็นเหตุการณ์สำคัญทำให้ทรงคิดกอบกู้เอกราช |
ข้อมูลตามป้าย wrote: | สมเด็จพระนเรศวรฯ และสมเด็จพระเอกาทศรถเสด็จไล่ตามพระยาจีนจันตุ
สมเด็จพระนเรศวรมหาราชและสมเด็จพระเอกาทศรถ ทรงเรือกราบกันยาเสด็จไล่ตามเรือพระยาจีนจันตุที่เข้ามาสืบข่าวให้กรุงกัมพูชา
แล้วลอบหนี เมื่อพุทธศักราช 2121 วีรกรรมครั้งนี้ปรากฏ เลื่องลือว่าทรงเข้ารบด้วยพระองค์เองอย่างกล้าหาญยิ่ง |
ข้อมูลตามป้าย wrote: | สมเด็จพระนเรศวรฯ ทรงพระแสงปืนข้ามแม่น้ำสะโตง
สมเด็จพระนเรศวรมหาราช เสด็จทรงนำทัพและครัวไทยข้ามแม่น้ำสะโตง ทรงยิงปืนนกสับ ถูกสุรกรรมานายทัพหน้าพม่า
ซึ่งตามมาตายอยู่กับคอช้าง พระแสงปืนดังกล่าวได้นามปรากฏต่อมาว่า " พระแสงปืนต้นข้ามแม่น้ำสะโตง " นามพระแสงนี้
ได้ใช้เป็นชื่อพระแสงสำคัญอันเป็นเครื่องราชูปโภคสำหรับแผ่นดิน |
_________________ Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.
|
|
Back to top |
|
|
|