View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
shinoda
3rd Class Pass (Air)
Joined: 16/10/2006 Posts: 309
Location: พิจิตร
|
Posted: 25/11/2007 8:45 pm Post subject: |
|
|
แอบตามไปชม ร.ล.สิมิลัน มาแล้วครับ
ติดตามชมเรื่อย ๆ ครับผม.. |
|
Back to top |
|
|
HID_4513
3rd Class Pass (Air)
Joined: 12/07/2006 Posts: 418
Location: S a L a Y a
|
Posted: 25/11/2007 8:51 pm Post subject: |
|
|
น้ำใสมากๆครับ สวยสุดๆ
รอชมอยู่นะครับ ของดีๆอย่างนี้ |
|
Back to top |
|
|
black_express
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/03/2006 Posts: 10060
Location: อุตรดิตถ์ - กรุงเทพฯ
|
Posted: 25/11/2007 9:22 pm Post subject: |
|
|
ผมว่าคุณเต้ยไม่ต้องคิดอะไรมากเลยครับ เพราะผมถือว่าเป็นสไตล์เฉพาะตัวในการนำเสนอ แบบ อ.ตุ้ย เสนอไปทีละช่วง ทีละตอนแบบนี้ ได้ข้อมูลละเอียดดี
และยังมีความรู้ต่างๆ แถมฟรีให้มาด้วย
ทะเลที่สัตหีบ สีสวยจริงๆ ครับ ขอยืนยัน แถมเป็นสถานที่สุดโปรดของบรรดาพรานเบ็ดอีกด้วย
พอมีใครจำได้หรือเปล่าครับว่า รล.สิมิลัน เคยขึ้นบกคราวเกิดสึนามิ ที่ฐานทัพเรือพังงา ดีที่ไม่ถูกถอดอุปกรณ์ไปทั้งหมด เหลือแต่ลำเรือไว้เป็นอนุสรณ์แบบเรือตำรวจน้ำ |
|
Back to top |
|
|
ExtendeD
1st Class Pass (Air)
Joined: 04/07/2006 Posts: 9054
Location: สังกัดหน่วยสำรวจสะพาน ตะลอนทั่วราชอาณาจักร
|
Posted: 25/11/2007 9:32 pm Post subject: |
|
|
Adithepc20 wrote: | รอชมภาพการเดินทางชุดใหม่จากพี่เต้ยต่อไปครับ |
ขอบคุณครับน้องอู๋ ถ้าน้องอู๋ยังไปถ่ายรูปที่หัวลำโพง ตอนเย็น ๆ บ่อย ๆ อีกไม่นานเราอาจจะได้เจอกันครับ
Renovated wrote: | เคยไปหาดนางรำมา 2 หนครับ หนแรกไปลง พต. ต่อรถ กับไปรถส่วนตัว .... ถึงแม้จะผ่านไปหลายปี แต่ก็น้ำยังใสปิ๊งเหมือนเดิมเลย สวยจริงๆ สวยจริงๆ |
พี่เคยได้ยินหลาย ๆ คนเขาพูดกันนะน้องแม็กซ์ ว่าถ้าอยากเล่นน้ำทะเลใส ๆ เนี่ย ให้ลงใต้ไปที่แบบไกล ๆ เลย แต่ไม่นึกเลยครับว่าเพียงแค่มาแถว ๆ สัตหีบเนี่ย ก็ได้เห็นน้ำทะเลใส ๆ น่าเล่น ( มาก ๆ ) แบบนี้แล้ว เสียดายที่ไม่มีโอกาสได้ลงน้ำนะเนี่ย... เดี๋ยวลองเอารูปไปยั่วพี่ ๆ น้อง ๆ ที่บ้านปากน้ำดีกว่า
therock wrote: | พี่เต้ยครับแบบเดียวกับตอนที่ไปปากน้ำโพเลยครับใช้ชุดรถที่กลับจากพลูตาหลวงไปพิษณุโลกต่อเลยครับ |
การหมุนเวียนรถระหว่าง 116 - 283 - 284 - 115 เป็นเรื่องปกติแล้วล่ะครับ น้องกร...
shinoda wrote: | แอบตามไปชม ร.ล.สิมิลัน มาแล้วครับ
ติดตามชมเรื่อย ๆ ครับผม.. |
จริง ๆ แล้วน้องอ๊อฟน่าจะให้เจ้าถิ่นพาไปเที่ยวแถว ๆ ตลาดสัตหีบนะครับ อุตส่าห์มาไกลขนาดนี้แล้ว แต่ไม่เป็นไร ครั้งหน้ายังมี แล้วมาใหม่นะครับ
HID_4513 wrote: | น้ำใสมากๆครับ สวยสุดๆ
รอชมอยู่นะครับ ของดีๆอย่างนี้ |
ดีใจครับที่ถูกใจกัน ก็ขอบคุณมากครับ จะพยายามนำเสนออย่างต่อเนื่องไม่ให้ขาดตอนครับ
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บ่ายวันนั้นขบวนที่ 284 ออกจากสถานีบ้านพลูตาหลวง 13.35 น. ตรงตามกำหนดเวลาครับ ตอนนั้นในใจผมบอกกับตัวเองว่าจะต้องกลับไปเยือนแถว ๆ นี้อีกครั้งให้ได้ เวลาแค่ 1 ชั่วโมงครึ่งกับบรรยากาศดี ๆ แบบนี้ มันไม่พอหรอกครับ...
ขบวนที่ 284 ก็วิ่งมาตามเส้นทางเดิมที่ผ่านมาเมื่อตอนเช้าครับ แล้วก็ยังทำเวลาได้ดีเหมือนเดิม เข้าไปถึงสถานีต่าง ๆ ตามรายทางแทบจะตรงเวลาเป๊ะ ๆ เลย ทั้งฝีมือพี่ ๆ เจ้าหน้าที่ และสภาพรถจักรยอดเยี่ยมเลยครับ
ผมนั่งมองวิวข้างทางไปเพลิน ๆ ไม่ได้เน้นหนักไปที่การถ่ายรูปแล้ว เพราะว่ารูปภาพชานชาลาของสถานีต่าง ๆ ส่วนใหญ่ก็ได้เก็บเอาไว้ครบหมดแล้วตั้งแต่ช่วงเช้า ใช้ได้บ้าง ไม่ได้บ้าง ถ้าคลิกไปดูก็จะได้เห็นกันแล้ว ตอนนี้แสงจะส่องเข้ามาจากทางด้านซ้ายของขบวนรถ ถ้ายังคิดจะถ่ายอีกก็คงจะดูไม่ดีเท่ากับเมื่อช่วงเช้าแล้วล่ะครับ ระหว่างนี้ก็เลยมานั่งล้อมวงอุดหนุนคุณพี่แม่ค้าคนเดิมที่ผูกขาดการค้าบนขบวนที่ 283 / 284 ไปแล้ว ส่วนเมนูก็เหมือนเดิมครับ ลูกชิ้น ทอดมัน ไส้กรอก มื้อนี้มีเพิ่มมาเป็นน้ำอัดลมคลายร้อนด้วยครับ...
Edit wrote: | จนกระทั่งขบวนที่ 284 มาถึงสถานีชุมทางศรีราชา ผมเห็นรถจักรดีเซลไฟฟ้า General Electric อยู่ที่นี่ 3 คันครับ ต่างรุ่น แต่สัญชาติเดียวกัน
- คันแรกเป็น GEA. หมายเลข 4544 ลากบทต. มายาวเหยียด
- GEK. ที่เห็นอยู่ไกล ๆ นั้น คือ GEK. หมายเลข 4020 ทำขบวนรถน้ำมันครับ
- ส่วนอีกคันเป็นดีเซลเปล่า GEA. หมายเลข 4524 จอดอยู่ทางด้านซ้ายของขบวนรถก็เลยไม่ปรากฏอยู่ในรูปครับ |
ที่สถานีบางพระ รถจักรดีเซลไฟฟ้า Alsthom ( ALS. ) หมายเลข 4154 ทำขบวนรถน้ำมันจอดรอหลีกอยู่บนทางประธานครับ
ออกจากสถานีบางพระมา พวกเราก็กินอิ่มกันพอดี ดูเหมือนพวกเด็ก ๆ จะเริ่มง่วงแล้วล่ะครับ ยังดีที่ผู้โดยสารบนขบวนรถในขณะนั้นก็ยังไม่มาก ยังพอมีที่ให้กลิ้งไปกลิ้งมาได้ตามสบาย เจ้าตี๋กับน้องพีก็เลยได้นอนกันแบบสบาย ๆ ส่วนผมเองก็ขอเอนหลัง มองท้องฟ้าสวย ๆ ภูเขาข้างทาง และต้นมะพร้าวสักครู่ครับ...
จนขบวนที่ 284 มาถึงที่สถานีชลบุรีก็ได้พบกับขบวนรถสินค้าอีก 1 ขบวนที่ได้รถจักรดีเซลไฟฟ้า General Electric ( GEA. ) หมายเลข 4528 ทำขบวน มาจอดรอหลีกอยู่ครับ
_________________ Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.
Last edited by ExtendeD on 26/11/2007 10:40 am; edited 2 times in total |
|
Back to top |
|
|
ExtendeD
1st Class Pass (Air)
Joined: 04/07/2006 Posts: 9054
Location: สังกัดหน่วยสำรวจสะพาน ตะลอนทั่วราชอาณาจักร
|
Posted: 25/11/2007 10:11 pm Post subject: |
|
|
nirakan wrote: | ปล. พี่เต้ย ที่ผมว่า "มันตามมาหลอกหลอน" ไม่ใช่สะพาน แต่เป็นบ้านคนใต้สะพานต่างหาก |
ถ้าใจเราไม่คิดถึงเขา ก็ไม่มีอะไรมาหลอกหลอนหรอกนะน้องอาร์ม ก้อนหินอยู่ในมือจะถือเอาไว้ก็หนัก จะบีบให้แตกก็ไม่มีแรงมากพอ สู้เขวี้ยงมันทิ้งไปซะ แค่นี้ก็จบ แต่อย่าเขวี้ยงไปโดนหัวใครเข้าล่ะ
เรื่องเตือนคนอื่นล่ะเก่งนัก ทีตัวเองเอาตัวไม่ค่อยจะรอด
black_express wrote: | ผมว่าคุณเต้ยไม่ต้องคิดอะไรมากเลยครับ เพราะผมถือว่าเป็นสไตล์เฉพาะตัวในการนำเสนอ แบบ อ.ตุ้ย เสนอไปทีละช่วง ทีละตอนแบบนี้ ได้ข้อมูลละเอียดดี
และยังมีความรู้ต่างๆ แถมฟรีให้มาด้วย
ทะเลที่สัตหีบ สีสวยจริงๆ ครับ ขอยืนยัน แถมเป็นสถานที่สุดโปรดของบรรดาพรานเบ็ดอีกด้วย
พอมีใครจำได้หรือเปล่าครับว่า รล.สิมิลัน เคยขึ้นบกคราวเกิดสึนามิ ที่ฐานทัพเรือพังงา ดีที่ไม่ถูกถอดอุปกรณ์ไปทั้งหมด เหลือแต่ลำเรือไว้เป็นอนุสรณ์แบบเรือตำรวจน้ำ |
ขอบคุณครับพี่ตึ๋ง จะน้อมรับ และปฏิบัติตามคำแนะนำของพี่ครับ
ตอนที่เกิดสึนามิร.ล. สิมิลันคงจะจอดเทียบอยู่ที่ท่าสินะครับ เพราะในข่าวเขาบอกว่า เรือที่อยู่ในทะเลจะได้รับผลกระทบน้อยกว่าเรือที่จอดเทียบท่าอยู่ ถ้าอยู่ในทะเลให้รีบออกห่างจากชายฝั่งให้มากที่สุดน่ะครับ แต่ก็ไม่อยากจะเชื่ออยู่ดีว่าเรือลำใหญ่ขนาดนี้จะถูกพัดขึ้นฝั่งได้
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
15.39 น. ขบวนที่ 284 ก็กลับมาถึงที่สถานีพานทองครับ
ตัวอาคารสถานีพานทองครับ
สถานีพานทอง ในเส้นทางสายตะวันออก ( ชุมทางฉะเชิงเทรา - ชุมทางศรีราชา - ชุมทางเขาชีจรรย์ - สัตหีบ )
เป็นสถานีระดับที่ 4 อักษรย่อ งท. รหัสสถานี 3029
ตั้งอยู่ในตำบลพานทอง อำเภอพานทอง จังหวัดชลบุรี
ระยะทางจากสถานีกรุงเทพ 91.53 กิโลเมตร
ระบบสัญญาณที่ใช้ : ประแจกลไฟฟ้าชนิดบังคับสัมพันธ์ด้วยรีเลย์ และสัญญาณไฟสี ก.1ก *
* อ้างอิงจาก file station_east.pdf ที่ download มาจาก http://portal.rotfaithai.com
รายละเอียดเกี่ยวกับตำบลพานทอง อำเภอพานทอง จังหวัดชลบุรี สามารถหาเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaitambon.com
มาจนถึงช่วงนี้ก็ยังคงได้เห็นทั้งบ้านเรือน แล้วก็พื้นที่ของโรงงานต่าง ๆ อยู่บ่อยครั้งครับ เรียกว่าเป็นเป็นทางรถไฟที่ผ่านพื้นที่เขตอุตสาหกรรมก็คงไม่ผิดครับ สำหรับเส้นทางสายนี้ ส่วนคลองที่เห็นอยู่นี้อยู่ไม่ไกลจากสถานีพานทองครับ น่าเสียดายเพียงแค่ว่าตั้งแต่สถานีชุมทางฉะเชิงเทรา - สถานีบ้านพลูตาหลวงนั้น เกือบทุกสะพานเป็นสะพานคอนกรีตทั้งหมดครับ ไม่มีสะพานโครงเหล็กขนาดใหญ่ให้เห็นเลย ถ้าเป็นแบบนี้ผมก็ตกงานสิครับเนี่ย
Edit wrote: | คลองนี้อยู่บริเวณเสาโทรเลขที่ 90/5 ครับ |
ช่วงนี้เป็นบริเวณเสาโทรเลขที่ 84/11 ครับ ข้างทางจะเป็นทุ่งเขียว ๆ สบายตา ไกลออกไปก็จะเป็นชุมชน มีวัดตั้งอยู่ด้วยครับ
ขบวนที่ 284 มาถึงที่สถานีดอนสีนนท์เวลา 16.00 น. พอดีครับ
ตัวอาคารสถานีดอนสีนนท์ครับ
สถานีดอนสีนนท์ ในเส้นทางสายตะวันออก ( ชุมทางฉะเชิงเทรา - ชุมทางศรีราชา - ชุมทางเขาชีจรรย์ - สัตหีบ )
เป็นสถานีระดับที่ 4 อักษรย่อ ดอ. รหัสสถานี 3026
ตั้งอยู่ในตำบลหนองตีนนก อำเภอบ้านโพธิ์ จังหวัดฉะเชิงเทรา
ระยะทางจากสถานีกรุงเทพ 75.97 กิโลเมตร
ระบบสัญญาณที่ใช้ : ประแจกลไฟฟ้าชนิดบังคับสัมพันธ์ด้วยรีเลย์ และสัญญาณไฟสี ก.1ก *
* อ้างอิงจาก file station_east.pdf ที่ download มาจาก http://portal.rotfaithai.com
รายละเอียดเกี่ยวกับตำบลหนองตีนนก อำเภอบ้านโพธิ์ จังหวัดฉะเชิงเทรา สามารถหาเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaitambon.com
ถ้าลองสังเกตดูดี ๆ จะเห็นว่าลักษณะของอาคารสถานีพานทอง กับอาคารสถานีดอนสีนนท์จะคล้ายกัน เพียงแต่ว่าอาคารสถานีดอนสีนนท์นั้นจะมีขนาดใหญ่กว่าครับ _________________ Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.
Last edited by ExtendeD on 26/11/2007 10:36 am; edited 1 time in total |
|
Back to top |
|
|
black_express
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/03/2006 Posts: 10060
Location: อุตรดิตถ์ - กรุงเทพฯ
|
Posted: 25/11/2007 10:17 pm Post subject: |
|
|
ExtendeD wrote: | น่าเสียดายเพียงแค่ว่าตั้งแต่สถานีชุมทางฉะเชิงเทรา - สถานีบ้านพลูตาหลวงนั้น เกือบทุกสะพานเป็นสะพานคอนกรีตทั้งหมดครับ ไม่มีสะพานโครงเหล็กขนาดใหญ่ให้เห็นเลย ถ้าเป็นแบบนี้ผมก็ตกงานสิครับเนี่ย |
คุณเต้ยคงตกงานแน่ๆ ครับ ถ้าไปดูตามเส้นทางสายชุมทางแก่งคอย - ชุมทางคลองสิบเก้า
นอกจากจะเป็นสะพาน คสล.แทบทั้งหมดแล้ว เสาโทรเลขยังไม่มีให้เห็นอีกด้วย |
|
Back to top |
|
|
ExtendeD
1st Class Pass (Air)
Joined: 04/07/2006 Posts: 9054
Location: สังกัดหน่วยสำรวจสะพาน ตะลอนทั่วราชอาณาจักร
|
Posted: 25/11/2007 11:15 pm Post subject: |
|
|
black_express wrote: | คุณเต้ยคงตกงานแน่ๆ ครับ ถ้าไปดูตามเส้นทางสายชุมทางแก่งคอย - ชุมทางคลองสิบเก้า
นอกจากจะเป็นสะพาน คสล.แทบทั้งหมดแล้ว เสาโทรเลขยังไม่มีให้เห็นอีกด้วย |
ผมเพิ่งได้คุยเรื่องนี้กับพี่อ้น Nai_SapaN เมื่อไม่กี่อาทิตย์ที่ผ่านมานี้เองครับพี่ตึ๋ง ห่วง ๆ อยู่ว่าเส้นทางรถไฟที่จะเกิดขึ้นใหม่ ( ไม่ว่าจะอีกนานแค่ไหนก็ตาม ) จะได้เห็นสะพานคอนกรีตมาแทนที่สะพานโครงเหล็กน่ะครับ ผมไม่รู้ว่าปัจจัยเรื่องตำแหน่งที่ตั้งของสะพาน มีส่วนในการกำหนดหรือเปล่าว่าตรงนี้ต้องสร้างเป็นสะพานคอนกรีต หรือสะพานโครงเหล็กน่ะครับ ห่วงจริง ๆ
กังวลไปล่วงหน้ายาวไปหน่อยล่ะครับ หันกลับมาดูเท่าที่มี แค่สะพานโครงเหล็กที่ยังไม่ได้สำรวจในตอนนี้ก็ยังเหลืออยู่อีกตั้งเยอะครับ โดยเฉพาะในเส้นทางสายใต้ ก็คงต้องค่อย ๆ เก็บกันไปเรื่อย ๆ ...
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ฟาร์มที่เห็นอยู่นี้อยู่ไม่ไกลจากสถานีดอนสีนนท์ครับ ไม่แน่ใจว่าเป็นฟาร์มเลี้ยงหมู หรือเลี้ยงเป็ดไก่ แต่ที่แน่ ๆ มาจนถึงตรงนี้ผมก็มองไม่เห็นโรงงานใหญ่ ๆ เหมือนกับตอนที่ยังอยู่ในเขตจังหวัดชลบุรีแล้วล่ะครับ
แล้วเราก็กลับขึ้นมาบนสะพานข้ามแม่น้ำบางปะกงอีกครั้งเมื่อเวลา 16.13 น. ครับ เมื่อเช้ายังไม่ได้ถ่ายรูปแม่น้ำบางปะกงให้ดูเลย ผ่านมาอีกครั้งตอนบ่ายก็มาดูระดับน้ำในแม่น้ำกันสักหน่อย
ผมยังจำได้ดีเมื่อตอนเป็นเด็ก ที่บ้านผมทั้งมาเที่ยว ทั้งมาทำธุระที่จังหวัดชลบุรีบ่อยมาก ผมเองก็ได้ติดรถของพ่อไปด้วยบ่อยครั้ง แล้วเส้นทางที่พ่อผมขับรถผ่านเป็นประจำก็คือถนนบางนาตราดนี่ล่ะครับ เวลาขึ้นสะพานข้ามแม่น้ำบางปะกงทีไร โรคประจำตัวก็กำเริบทุกครั้ง แต่ก็ยังไม่วายชอบมองออกไปนอกหน้าต่าง เพราะอยากดูแม่น้ำสายนี้ ที่กว้างใหญ่มากกว่าทุกแม่น้ำที่เคยเห็น ( ในตอนนั้น ) ครับ ยังจำสะพานข้ามแม่น้ำบางปะกงเมื่อหลายปีก่อนได้ดีครับ พื้นถนนช่วงกลางสะพานจะเป็นโครงเหล็ก มองลงไปเห็นแม่น้ำด้วยล่ะครับ จนมาถึงตอนนี้ผมก็ยังคงได้ผ่านไปในเส้นทางนั้นอย่างน้อยปีละครั้ง ( ไปเช็งเม้ง ) สะพานข้ามแม่น้ำบางปะกงเปลี่ยนแปลงไป แต่ความกว้างใหญ่ของแม่น้ำบางปะกงไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ
เมื่อตอนขาไปไม่ได้ถ่ายรูปตอนที่ขบวนที่ 283 อยู่บนโค้งนี้เอาไว้ ตอนขากลับก็ขอยัดเยียด เอ๊ย... ตอกย้ำ เอ๊ย... ขอเก็บภาพเอาไว้สักหน่อยครับ ช่วงนี้เป็นอะไรไม่รู้พูดผิดบ่อย ๆ
ผมพอจะรู้มาบ้างครับ ว่าพอขบวนที่ 284 มาถึงที่สถานีชุมทางฉะเชิงเทราแล้ว จะมีผู้โดยสารกลุ่มใหญ่ก้าวขึ้นมาบนรถ แต่ก็เพิ่งได้เห็นกับตาวันนี้นี่เอง จากบชส. ที่เคยว่าง ไม่สิ ต้องเรียกว่า " โล่ง " มากกว่า พอขบวนรถออกจากสถานีชุมทางฉะเชิงเทราไปแล้ว ก็ไม่มีที่ว่างเหลือเลยครับ
หลังจากนั้นเป็นต้นมา ผมก็ไม่เห็นขบวนรถสินค้าอีกเลยครับ เป็นอันว่าวันนั้นทั้งวันไม่เจอ Hitachi ในเส้นทางสายพลูตาหลวงเลยแม้แต่คันเดียว ทำให้อดคิดไม่ได้ว่าน้องพี อาจจะเป็นตัวการทำให้ผมกับเจ้าตี๋ไม่เจอรถจักรสีน้ำเงินสัญชาติญี่ปุ่นครับ เพราะถ้ายังจำกันได้ทริปที่ผมไปราชบุรี กับเพชรบุรีนั้นก็ไม่เจอ Hitachi เลยสักคัน ไม่น่าพามาด้วยเลย
พอขบวนที่ 284 มาถึงสถานีหัวหมาก ก็ต้องรอหลีก ขบวนรถชานเมืองที่ 383 ต้นทางสถานีกรุงเทพ - ปลายทางสถานีชุมทางฉะเชิงเทรา ที่ผมจำได้ดี ก็เพราะว่าบชส. ท้ายรถไฟขบวนนั้นมีชายหนุ่มตัวสูง ๆ ใส่เสื้อเชิ๊ตสีฟ้า - น้ำเงิน ยืนโบกอะไรสักอย่างอยู่ครับ ผมไม่แน่ใจแต่คิดว่าตาไม่ฝาดครับ
แล้วก็มาถึงสถานีที่ผมเฝ้ารอนั่นก็คือสถานีมักกะสันครับ เมื่อเช้าตอนที่อยู่บนขบวนที่ 283 มองเข้าไปในรั้วของโรงงานมักกะสันเห็น บฟก. จอดอยู่ 1 คัน แต่ยังไม่ทันมองให้ชัด ๆ เลย พอกลับมาถึงที่นี่อีกทีก็มืดแล้วครับ อดอีกแล้ว
มาจนถึงที่นี่ครับ ที่หยุดรถพญาไท ลองหยิบกล้องขึ้นมาส่องอีกครั้ง รูปที่ออกมาชัดกว่าที่คิดครับ ไม่น่าเชื่อเลย อีกไม่นานบริเวณนี้ก็คงจะไม่ได้เป็นเหมือนกับในภาพแล้ว ก็ขอเก็บเอาไว้เป็นประวัติศาสตร์หน่อยก็แล้วกัน...
จบทริปฆ่าเวลาไปพลูตาหลวงด้วยรูปนี้ครับ ขบวนที่ 284 กลับมาถึงหัวลำโพงเมื่อเวลา 18.34 น. ช้าไปไม่ถึง 10 นาทีครับ ยอดเยี่ยมเลย
การเดินทางตลอดวันนั้น เป็นอีก 1 วันที่น่าจดจำจริง ๆ ครับ แต่ถ้าได้เจอ Hitachi ด้วยจะดีกว่านี้ หลังจากนี้ก็จะเข้าสู่ทริปใหญ่ของจริงที่ได้วางแผนเอาไว้แล้วครับ _________________ Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.
|
|
Back to top |
|
|
ExtendeD
1st Class Pass (Air)
Joined: 04/07/2006 Posts: 9054
Location: สังกัดหน่วยสำรวจสะพาน ตะลอนทั่วราชอาณาจักร
|
Posted: 26/11/2007 7:45 am Post subject: |
|
|
หลังจากก้าวลงมาจากขบวนที่ 284 แล้ว ผมก็พาเจ้าตี๋กับน้องพีไปอาบน้ำครับ ต่อจากนั้นก็ไปกินไก่ KFC แล้วก็ถือโอกาสนั่งรอให้ชุดรถโดยสารของขบวนรถด่วนที่ 51 ต้นทางสถานีกรุงเทพ - ปลายทางสถานีเชียงใหม่ ถอยมาเทียบชานชาลา อยู่ภายในร้านด้วยครับ
ประมาณ 20.35 น. ชุดรถโดยสารของขบวนที่ 51 ก็ค่อย ๆ ถอยเข้ามาเทียบในชานชาลาที่ 10 ครับ ช่วงนั้นผมพยายามเพ่ง ๆ มอง ๆ ลุ้นอยู่ว่าในคืนนั้นขบวนที่ 51 จะพ่วงบชท. มาแทนบชท.ป. หรือเปล่า แต่ยังไม่ทันรู้ผล ผมก็ไปสะดุดตากับบนท.ป. ที่พ่วงอยู่เป็นคันท้ายสุดของขบวนครับ จากที่เคยเป็นบนท.ป. CTV กลับกลายเป็น บนท.ป. 40 ไปเสียแล้ว แถมบนท. 28 ที่พ่วงต่อจากบนท.ป. ก็กลายเป็นบนท. 32 ไปอีกคัน แสดงว่าวันที่กลับมาจากเด่นชัย ผมตาไม่ฝาดจริง ๆ ด้วย
ระหว่างบชท. กับ บชท.ป. ผมสังเกตตรงคิ้วใกล้ ๆ กับหลังคาครับ ถ้าเห็นเหลี่ยม ๆ ยื่นออกมาแต่ไกลแสดงว่าเป็นบชท. แต่ถ้าเห็นเป็นตัวรถเกลี้ยง ๆ จากหน้าต่างไล่ขึ้นไปเป็นหลังคาเลย ไม่มีอะไรยื่นออกมากันน้ำฝนนี่แสดงว่าเป็นบชท.ป. ครับ แล้วผลก็ปรากฏว่ารถที่พวกผม 3 คนจะได้นั่งในคืนนั้นก็คือ...
ผมรีบพาเด็ก ๆ ขึ้นไปข้างบนบชท.ป. หมายเลข 8 คันที่เห็นอยู่นี้ครับ เพราะว่ายังไม่เคยได้รูปภาพข้างในห้องโดยสารของรถคันนี้เก็บเอาไว้เลย เห็นเบาะที่นั่งเป็นแบบนี้ แต่ว่าในคืนนั้นพวกผมก็นั่งและนอนกันสบายดี ไม่มีแมลงมารบกวนครับ ส่วนบชท.ป. หมายเลข 3 นั้นคงไม่มีปัญหาเรื่องแมลงครับ เพราะว่าที่นั่งนั้นเป็นเบาะหนัง
หลังจากจัดกระเป๋าให้เข้าที่แล้ว ผมก็นั่งอยู่กับเจ้าตี๋แล้วก็น้องพีสักพัก พอเจ้าตัวเล็กหลับผมก็ให้เจ้าตี๋คอยดูน้องเอาไว้ ส่วนตัวผมก็ลงไปข้างล่าง เดินไปดูชุดรถโดยสารของขบวนที่ 51 แบบชัด ๆ อีกสักครั้ง แล้วก็ไปดักรอดูรถจักรที่หัวขบวนครับ ในตอนนั้นผมก็เห็นว่าขบวนที่ 51 ในขณะนั้นไม่ได้ขาดแต่รถจักรอย่างเดียวครับ บพห. ยังไม่มาเลย
ผมนั่งรออยู่นาน เวลาก็ผ่านไปจนกระทั่ง 22.02 น. บพห. ที่พี่ ๆ เจ้าหน้าที่เขารออยู่ก็ค่อย ๆ ถูกดันถอยเข้ามาพ่วงรวมกับชุดโดยสารที่จอดรออยู่แล้วครับ
พอรถจักรคันที่พาบพห. มา ถอยออกไป รถจักรที่รับหน้าที่ทำขบวนที่ 51 ในคืนนั้นก็ถอยเข้ามาพ่วงกับชุดรถ แทบจะทันทีเลยครับ ท่าทางจะรออยู่ข้างนอกนานแล้ว
เหลือแค่เพียงให้พี่ช่างเครื่องตรวจเช็คความเรียบร้อยของขบวนรถก่อน แล้วจากนั้นขบวนที่ 51 ก็พร้อมจะออกเดินทางแล้วครับ
ในคืนวันนั้นขบวนรถด่วนที่ 51 ต้นทางสถานีกรุงเทพ - ปลายทางสถานีเชียงใหม่ ประกอบด้วย รถจักรดีเซลไฟฟ้า General Electric ( GEA. ) หมายเลข 4553 + บพห. 70 + บชส. ลำปาง ( 1197 ) + 3 บชส. เชียงใหม่ ( 1019 + 1120 + 1168 ) + 2 บชส. ศิลาอาสน์ ( 1009 + 1143 ) + บกข. 1011 + บชท. 82 + บชท.ป. 8 + บนท. 1023 + บนท. 1049 + บนท.ป. 1074 ครับ
ขึ้นเหนือเกือบทุกครั้งจะได้เจอ GEA. 4553 คันนี้เป็นประจำเลยล่ะครับ อย่างไปเชียงใหม่ปลายปีที่แล้วรถจักรคันนี้ก็เป็นรถจักรสับเปลี่ยนอยู่ที่สถานีเชียงใหม่ทั้งวันเลย วันนี้ยังตามมาเจอกันอีก _________________ Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.
Last edited by ExtendeD on 26/11/2007 1:31 pm; edited 1 time in total |
|
Back to top |
|
|
ExtendeD
1st Class Pass (Air)
Joined: 04/07/2006 Posts: 9054
Location: สังกัดหน่วยสำรวจสะพาน ตะลอนทั่วราชอาณาจักร
|
Posted: 26/11/2007 9:33 am Post subject: |
|
|
ความเคลื่อนไหวที่หัวลำโพงในค่ำคืนนั้น เท่าที่ผมจดมาได้ก็คือ
จากที่ได้ยินเสียงประกาศภายในสถานี
- ขบวนรถด่วนพิเศษดีเซลรางปรับอากาศที่ 40 ต้นทางสถานีสุราษฎร์ธานี - ปลายทางสถานีกรุงเทพ จะมาถึงเวลาประมาณ 22.40 น.
จากที่ได้เห็นมากับตา
- ขบวนรถเร็วที่ 107 ต้นทางสถานีกรุงเทพ - ปลายทางสถานีเด่นชัย ได้บนท.ป. 40 ไปแทน บนท.ป. 32 ( กระโดดข้ามมา 2 ขั้นเลยทีเดียว )
- ขบวนรถด่วนที่ 67 ต้นทางสถานีกรุงเทพ - ปลายทางสถานีอุบลราชธานี ออกเดินทางช้ากว่ากำหนดเวลา มากกว่า 30 นาที
- ขบวนรถด่วนที่ 51 ต้นทางสถานีกรุงเทพ - ปลายทางสถานีเชียงใหม่ ออกจากสถานีกรุงเทพเวลา 22.16 น. ครับ
ผลจากการไปตะลอนมาทั้งวันไปกลับรวมแล้วเก็บไปได้ประมาณ 368 กิโลเมตร ทำให้ในคืนนั้นค่อนข้างเพลียครับ หลับเกือบตลอดทาง ถึงแม้แอร์ของบชท.ป. หมายเลข 8 จะเย็นสู้ บชท.ป. หมายเลข 3 ที่เคยขึ้นเมื่อหลายเดือนก่อนไม่ได้ แต่ก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์เย็นสบายดี ระหว่างทางผมลืมตาตื่นมาแค่ 3 ครั้ง ที่...
- สถานีอยุธยา เวลา 00.01 น.
- สถานีลพบุรี เวลา 01.07 น. และ
- สถานีตะพานหิน เวลา 04.17 น. จากนั้นก็หลับไม่ลงแล้วครับ ลุกไปล้างหน้าแปรงฟัน
พอขบวนที่ 51 วิ่งผ่านสถานีบางกระทุ่มไป ผมก็ปลุกเจ้าตี๋กับน้องพีให้ไปล้างหน้าแปรงฟัน เตรียมตัวลงจากขบวนรถครับ เล่ามาถึงขนาดนี้พี่ ๆ น้อง ๆ หลายคนก็คงจะรู้แล้วล่ะครับ ว่าผมคงจะก้าวลงจากขบวนรถที่สถานีพิษณุโลกแห่งนี้
ในเช้าวันนั้นขบวนที่ 51 มาถึงที่สถานีพิษณุโลกเวลา 05.30 น. ครับ พี่ ๆ เจ้าหน้าที่กำลังเติมน้ำให้กับรถจักรอยู่พอดีเลย
05.45 น. ก็ได้เวลาที่ทางสถานีปล่อยขบวนที่ 51 ให้ออกเดินทางต่อครับ รวมเวลาที่ขบวนที่ 51 จอดอยู่ที่สถานีพิษณุโลกในเช้าวันนั้นก็ 15 นาทีครับ
มาดูแผนที่ของ Pointasia แสดงพื้นที่รอบ ๆ สถานีพิษณุโลกกันสักหน่อยครับ รายละเอียดอยู่ในแผนที่แล้วนะครับ
บรรยากาศช่วงเช้าที่สถานีพิษณุโลกไม่ได้เงียบเหงานะครับ เพราะตามกำหนดเวลาแล้ว จะมีขบวนรถวิ่งออกจากสถานี 2 ขบวนด้วยกัน ก็คือ ขบวนรถท้องถิ่นที่ 403 ต้นทางสถานีพิษณุโลก - ปลายทางสถานีศิลาอาสน์ และ ขบวนรถธรรมดาที่ 202 ต้นทางสถานีพิษณุโลก - ปลายทางสถานีกรุงเทพ ผู้โดยสารที่เห็นเดินไปมาอยู่ข้างหน้าช่องจำหน่ายตั๋วนี้ ส่วนใหญ่ก็เป็นผู้โดยสารของขบวนรถทั้ง 2 ขบวนที่พูดถึงนี้ล่ะครับ
แต่ในช่วงเช้ามืดของวันนั้น ขบวนรถเร็วที่ 115 ต้นทางสถานีกรุงเทพ - ปลายทางสถานีพิษณุโลก ยังมาไม่ถึงสถานีปลายทางแห่งนี้เลยครับ ก็เลยมีเพียงแค่ขบวนที่ 403 เท่านั้นที่ออกจากสถานีพิษณุโลกไปตามกำหนดเวลา
สถานีพิษณุโลก ในเส้นทางสายเหนือ ( ปลายทางสถานีเชียงใหม่ )
เป็นสถานีระดับที่ 1 อักษรย่อ พล. รหัสสถานี 1118
ตั้งอยู่ในตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก
ระยะทางจากสถานีกรุงเทพ 389.28 กิโลเมตร
ระบบสัญญาณที่ใช้ : ประแจกลไฟฟ้าชนิดบังคับสัมพันธ์ด้วยรีเลย์ และสัญญาณไฟสี ก.1ก *
* อ้างอิงจาก file station_north.pdf ที่ download มาจาก http://portal.rotfaithai.com
รายละเอียดเกี่ยวกับตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก สามารถหาเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaitambon.com
ที่ผมมาที่สถานีพิษณุโลกนี้เพื่อมาต่อรถครับ หลังจากซื้อตั๋วแล้ว ผมก็เอากระเป๋าเป้ทั้ง 3 ใบไปฝากที่ห้องรับฝากสัมภาระที่วันนั้นโชคดีเหลือเกินที่เปิดทำการเร็วกว่าทุก ๆ วันที่เคยเห็น จะได้ไม่ต้องแบกกระเป๋าติดตัวไปด้วย จากนั้นก็พาเด็ก ๆ เดินไปที่ตลาดที่อยู่ข้าง ๆ สถานี เพื่อไปหาเสบียงมาตุนเอาไว้เป็นมื้อเช้าครับ
ที่เห็นอยู่ในรูปนี้เป็นเพียงแค่ช่วงทางเดินเข้าไปสู่ตลาดเท่านั้นนะครับ ทางเข้าตลาดจริง ๆ ต้องเดินไปตามชานชาลาที่อยู่ข้าง ๆ รางตันไปจนถึงบริเวณที่มีหลอดไฟนีออน 6 หลอดนั้นแล้วเลี้ยวขวาไปครับ
เห็นรางตันนี้แล้วยังนึกถึงตอนเด็ก ๆ ที่เคยเห็นว่ามีตญ. บตญ. มาจอดอยู่ในรางนี้ ผมเองก็เคยมาปีนรถสินค้าที่จอดอยู่ที่นี่หลายครั้ง แต่มาดูสภาพตอนนี้แล้ว สงสัยจะไม่ได้ใช้งานมานานมากแล้วล่ะครับ _________________ Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.
Last edited by ExtendeD on 28/11/2007 7:34 pm; edited 3 times in total |
|
Back to top |
|
|
ExtendeD
1st Class Pass (Air)
Joined: 04/07/2006 Posts: 9054
Location: สังกัดหน่วยสำรวจสะพาน ตะลอนทั่วราชอาณาจักร
|
Posted: 26/11/2007 10:18 am Post subject: |
|
|
เสบียงของเช้าวันนั้นก็เป็นอาหารแบบพื้น ๆ ธรรมดาครับ ข้าวเหนียวไก่ทอด หมูปิ้ง โอวัลตินเย็น นมเย็น ปริมาณพอเหมาะสำหรับผู้ใหญ่ 1 เด็กกำลังโตอีก 2 ครับ
พอผม เจ้าตี๋ แล้วก็น้องพีเดินกลับมาถึงที่สถานีพิษณุโลกอีกครั้ง ก็เห็นผู้โดยสารที่กำลังรอโดยสารไปกับขบวนที่ 202 มานั่งรอกันอยู่เต็มทั้งชานชาลาที่ 1 และ 2 เลยครับ รู้สึกจะกลายเป็นเรื่องปกติแล้วล่ะครับ สำหรับรถธรรมดาเที่ยวเช้าขบวนนี้ เพราะผมมากี่ที ๆ ก็เห็นขายดีแบบนี้ตลอด
06.14 น. ขบวนรถเร็วที่ 115 ต้นทางสถานีกรุงเทพ - ปลายทางสถานีพิษณุโลก ก็เข้ามาถึงสถานีปลายทาง เลื้อยไปจอดอยู่ในรางที่ 3 ครับ แต่ทั้งมือทั้งปากผมมันแผล่บมีเศษไก่ทอดติดอยู่เล็กน้อย ก็เลยไม่ได้ลุกไปเก็บภาพเอาไว้ครับ กำลังอร่อยอยู่เลย
จากนั้นรถจักรดีเซลไฟฟ้า Alsthom ( ALS. ) หมายเลข 4143 ก็รับหน้าที่เป็นรถจักรสับเปลี่ยนจัดขบวนที่ 115 ให้กลายร่างเป็น ขบวนรถธรรมดาที่ 202 ต้นทางสถานีพิษณุโลก - ปลายทางสถานีกรุงเทพ ครับ
อธิบายให้เข้าใจง่าย ๆ ได้ดังต่อไปนี้
- ถอยเข้ามาพ่วงต่อกับชุดรถโดยสารของขบวนที่ 115 แล้วดันให้บพห. ที่อยู่ด้านหน้านั้นเลยจากประแจที่เห็นอยู่ในรูปไป แล้วก็ตัดออกจากริ้วขบวน
- ดึงบชส. และบสส. ทั้งหมดถอยกลับมาให้พ้นบริเวณประแจ รอให้ประแจเปลี่ยนเป็นท่าเลี้ยว แล้วดันบชส. และบสส. นั้นไปจอดไว้ในรางที่ 2 ( ทางประธาน )
- รถจักรวิ่งกลับมาในรางที่ 3 เพื่อลากบพห. ไปพ่วงต่อกับชุดรถที่จอดรออยู่ในรางที่ 2
เพียงแค่นี้ก็ปฏิบัติการกลายร่างจากขบวนที่ 115 เป็นขบวนที่ 202 ก็เสร็จเรียบร้อยแล้วครับ จบหน้าที่แล้ว Als. 4143 ก็กลับไปนอนหลับต่อ...
หลังจากขั้นตอนการกลายร่างสำเร็จ การทำความสะอาดบนขบวนรถเสร็จสิ้น ผู้โดยสารที่เคยเห็นว่านั่งรอกันอยู่เต็มชานชาลาไปหมด ก็ขึ้นไปนั่งรอบนขบวนรถครับ จนชานชาลาที่เห็นว่าเคยคึกคักกลายเป็นแบบนี้... วิ้ว... ( เสียงลมพัด )
ผมพาเด็ก ๆ ขึ้นไปหาที่นั่งบนบชส. ท้ายขบวน จากนั้นไม่นานก็เห็นรถจักรคันที่ทำขบวนที่ 115 มา วิ่งออกมาอีกครั้งครับ คงกินอิ่มเตรียมพร้อมจะกลับกรุงเทพแล้วสินะ แล้วผมก็พาเด็ก ๆ เดินไปที่หัวขบวนเพื่อไปดูรถจักรครับ พระเอกคนใหม่ของเราก็คือ รถจักรดีเซลไฟฟ้า Hitachi หมายเลข 4519 ครับ อาถรรพ์น้องพี ไม่มีจริง ๆ ด้วย ผมคงคิดมากไปเอง
06.36 น. รถจักรพ่วงกับขบวนรถเรียบร้อยแล้ว เหลือเพียงแค่ตรวจสอบความเรียบร้อย แล้วก็รอสัญญาณปล่อยขบวนรถจากทางสถานีครับ
ขบวนที่ 202 ในวันนั้นประกอบด้วย Hitachi 4519 + บพห. 38 + บสส. 38 + 6 บชส. ( 290 + 121 + 285 + 172 + 234 + 433 ) บชส. 3 คันแรกนั้นเป็นรถชุดเดียวกันกับขบวนที่ 283 / 284 เมื่อวันก่อนหน้านี้ครับ _________________ Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.
|
|
Back to top |
|
|
|