View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
ExtendeD
1st Class Pass (Air)
Joined: 04/07/2006 Posts: 9054
Location: สังกัดหน่วยสำรวจสะพาน ตะลอนทั่วราชอาณาจักร
|
Posted: 02/12/2007 8:19 pm Post subject: |
|
|
pattharachai wrote: | สะพานโครงเหล็กที่เชียงใหม่ตามภาพของพี่เต้ย เข้าใจว่าเป็นสะพานนวรัฐแห่งเดิมครับ ก่อนที่จะมีการสร้างสะพานนวรัฐแห่งใหม่ ตรงถนนที่ตัดตรงไปสถานีรถไฟหนะครับ |
พี่เห็นสะพานนี้ครั้งแรกก็ตอนที่ไปงานรับปริญญาของพี่สาวที่อยู่ที่พิษณุโลก ( แต่มาเรียนปริญญาตรีที่เชียงใหม่ ) ตอนนั้นแปลกใจมากเลยครับ คิดว่ามีรถไฟวิ่งผ่านมาแถวนี้ด้วย แต่พอได้ผ่านไปกลับไม่ใช่สะพานรถไฟ... ความรู้สึกที่นั่งรถผ่านสะพานโครงเหล็กนี่ไม่เหมือนกับตอนที่นั่งรถไฟเลยครับ เทียบกันไม่ได้เลยแม้แต่น้อย... ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ ไปโน่นไปนี่ก็เยอะ แต่ไม่ค่อยรู้อะไรกับเขาเลย...
black_express wrote: | ยืนยันตามคุณบอยครับ ว่าเป็นโครงสะพานนวรัฐ ( เดิม ) ซึ่งกรมรถไฟหลวง ได้นำขึ้นมาเป็นสะพานข้ามแม่น้ำปิงเชื่อมตัวเมืองเชียงใหม่กับสถานีรถไฟ บริเวณท่าแพ
เคยข้ามมาสองหน ( ถ้าจำไม่ผิดนะครับ ) แต่ยอมรับว่า เก็บรักษาไว้ดีจังเลย |
รับทราบตามนั้นครับพี่ตึ๋ง
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
หลังจากออกจากสถานีเชียงใหม่มา ก็จะมี overpass ข้ามทางรถไฟ แบบที่เห็นอยู่นี้ 3 แห่งครับ
overpass แห่งแรกเป็นถนนเมืองเชียงใหม่ด้านใต้ overpass แห่งที่ 3 เป็นถนนหมายเลข 121 ส่วน overpass แห่งที่ 2 นั้นผมหาดูในแผนที่ไม่มีชื่อ หรือหมายเลขถนนกำกับไว้ครับ
หลังจากที่ผ่าน overpass ของถนนหมายเลข 121 ไปแล้ว ไม่นานก็จะมาถึง สถานีสารภี ครับ
สถานีสารภี ในเส้นทางสายเหนือ ( ปลายทางสถานีเชียงใหม่ )
เป็นสถานีระดับที่ 3 อักษรย่อ ภี. รหัสสถานี 1220
ตั้งอยู่ในตำบลยางเนิ้ง อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่
ระยะทางจากสถานีกรุงเทพ 742.78 กิโลเมตร
ระบบสัญญาณที่ใช้ : ประแจกลหมู่ชนิดบังคับด้วยเครื่องกลไฟฟ้าสัมพันธ์ หรือสายลวด กับสัญญาณไฟสี ก.2 *
* อ้างอิงจาก file station_north.pdf ที่ download มาจาก http://portal.rotfaithai.com
รายละเอียดเกี่ยวกับตำบลยางเนิ้ง อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ สามารถหาเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaitambon.com
พอผ่าน สถานีสารภี มา ก็จะเริ่มเห็นหมอกจาง ๆ แล้วล่ะครับ
_________________ Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.
|
|
Back to top |
|
|
black_express
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/03/2006 Posts: 10060
Location: อุตรดิตถ์ - กรุงเทพฯ
|
Posted: 02/12/2007 8:34 pm Post subject: |
|
|
ExtendeD wrote: | ส่วน overpass แห่งที่ 2 นั้นผมหาดูในแผนที่ไม่มีชื่อ หรือหมายเลขถนนกำกับไว้ครับ |
เป็นโครงการทางเลี่ยงเมืองของกรมโยธาธิการครับ พอปฏิรูประบบราชการ กรมทางหลวงชนบทเป็นผู้รับผิดชอบโครงการแทน |
|
Back to top |
|
|
ExtendeD
1st Class Pass (Air)
Joined: 04/07/2006 Posts: 9054
Location: สังกัดหน่วยสำรวจสะพาน ตะลอนทั่วราชอาณาจักร
|
Posted: 02/12/2007 8:47 pm Post subject: |
|
|
ถ้าหันมองออกไปนอกประตูทางด้านขวาของขบวนรถก็จะเห็นหมอกจาง ๆ ลอยอยู่เหนือต้นไม้ครับ
พอหันกลับไปมองท้ายขบวนอีกครั้ง ก็เห็นว่าหมอกเริ่มหนาขึ้นเรื่อย ๆ
มองออกไปนอกประตูทางด้านซ้ายของขบวนรถบ้างครับ ข้างหน้าหมอกหนาจนมองไม่เห็นทางเลยล่ะครับ
ท้ายขบวนอีกสักทีครับ ผมมองตัวเลขที่อยู่ที่เสาโทรเลขไม่เห็นเลยล่ะครับ ก็เลยอ้างอิงตำแหน่งที่แน่ชัดไม่ได้
แต่พอผ่านเสาเตือนของ สถานีป่าเส้า มา หมอกก็เริ่มบางลง ทัศนวิสัยกลับมาเกือบจะเป็นปกติแล้วล่ะครับ ได้สัมผัสหมอกแค่ไม่นาน ก็ยังดีครับ เพราะตอนนั้นยังไม่ได้เข้าสู่หน้าหนาวอย่างเต็มตัวเลย ผมไม่คิดว่าจะได้เห็นหมอกหนา ๆ แบบนี้ซะด้วยซ้ำครับ เป็นของแถมที่ไม่คาดคิดว่าจะได้เลย
_________________ Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.
|
|
Back to top |
|
|
ExtendeD
1st Class Pass (Air)
Joined: 04/07/2006 Posts: 9054
Location: สังกัดหน่วยสำรวจสะพาน ตะลอนทั่วราชอาณาจักร
|
Posted: 02/12/2007 9:27 pm Post subject: |
|
|
ขบวนที่ 102 มาถึง สถานีป่าเส้า เวลา 07.15 น. ครับ ที่เห็นอยู่นี้ก็คืออาคารสถานี ถึงเป็นสถานีเล็ก ๆ แต่บรรยากาศเงียบสงบมากเลยครับ ที่ชานชาลาด้านหน้าอาคารสถานียังมีการตกแต่งเป็นสวนเล็ก ๆ ปลูกต้นไม้สวยดีครับ อากาศคงดี ต้นไม้ก็เลยสวย
ป้ายประเพณีทางด้านทิศใต้ครับ ในรางที่ 2 มี ขบวนรถด่วนพิเศษดีเซลรางปรับอากาศที่ 11 ต้นทางสถานีกรุงเทพ - ปลายทางสถานีเชียงใหม่ มาจอดรอหลีกอยู่ด้วยครับ
สถานีป่าเส้า ในเส้นทางสายเหนือ ( ปลายทางสถานีเชียงใหม่ )
เป็นสถานีระดับที่ 3 อักษรย่อ ปส. รหัสสถานี 1218
ตั้งอยู่ในตำบลอุโมงค์ อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน
ระยะทางจากสถานีกรุงเทพ 734.64 กิโลเมตร
ระบบสัญญาณที่ใช้ : ประแจกลสายลวดพร้อมสัญญาณหางปลาชนิดมีเสาเตือน เสาเข้าเขตใน และเสาออก ก.3 *
* อ้างอิงจาก file station_north.pdf ที่ download มาจาก http://portal.rotfaithai.com
รายละเอียดเกี่ยวกับตำบลอุโมงค์ อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน สามารถหาเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaitambon.com
ที่เห็นนี้คือเสาสัญญาณเข้าสำหรับขบวนรถเที่ยวขึ้นของ สถานีป่าเส้า ครับ มี " ป้ายอนุญาตให้ใช้ความเร็วผ่านประแจ * " ติดอยู่ด้วย
* รายละเอียดเกี่ยวกับ " ป้ายอนุญาตให้ใช้ความเร็วผ่านประแจ " รวมถึงป้ายสัญญาณต่าง ๆ ที่ใช้ในกิจการรถไฟไทย สามารถอ่านได้จาก file " signalsign.pdf " ที่ download จาก rotfaithai.com
ประมาณ 4 นาทีหลังจากผ่าน สถานีป่าเส้า มา ก็เริ่มเห็นทั้งบ้านเรือน แล้วก็จำนวนรถที่วิ่งผ่านไปมาเยอะขึ้นเรื่อย ๆ แสดงว่าเรากำลังจะไปถึง สถานีลำพูน แล้วล่ะครับ
_________________ Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.
|
|
Back to top |
|
|
nutbeam
3rd Class Pass
Joined: 02/04/2007 Posts: 226
Location: บ้านฉิมพลี
|
Posted: 02/12/2007 9:45 pm Post subject: |
|
|
ตอนนั้นพี่เต้ยไปอากาศยังไม่หนาวเท่าไหร่ แต่ถ้าไปตอนนี้คงจะหนาวมากเลย
เพราะที่กรุงเทพยังขนาดนี้ แล้วที่เชียงใหม่จะขนาดไหน _________________ ความรักเหมือนการเดินทางไม่มีที่สิ้นสุด แต่ความรักฉันจะหยุดลงที่ปลายทางทางรถไฟ |
|
Back to top |
|
|
ExtendeD
1st Class Pass (Air)
Joined: 04/07/2006 Posts: 9054
Location: สังกัดหน่วยสำรวจสะพาน ตะลอนทั่วราชอาณาจักร
|
Posted: 02/12/2007 9:49 pm Post subject: |
|
|
ผมยังจำโค้งนี้ได้ดี ปีที่แล้วได้ลงไปเดิน ปีนี้มาเกาะท้ายรถไฟ ปีหน้าจะได้ผ่านมาแถวนี้อีกหรือเปล่านะ... ที่เห็นนี้คือโค้งขวาที่อยู่ทางทิศเหนือของ สถานีลำพูน ครับ
ในเช้าวันนั้น ขบวนที่ 102 มาถึงที่ สถานีลำพูน เวลา 07.21 น. ครับ
พอผู้โดยสารขึ้นไปบนขบวนรถกันครบทุกคนแล้ว นายสถานีก็ให้สัญญาณโบกธงเขียวปล่อยขบวนที่ 102 ออกจาก สถานีลำพูน ครับ
มัวแต่เกาะท้ายขบวนเพลิน จริง ๆ แล้วน่าจะเดินไปที่บชท. หัวขบวน จะได้ไปถ่าย Hitachi 4515 เก็บเอาไว้ มุมนั้นไม่ย้อนแสงด้วย โอ๊ย... _________________ Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.
|
|
Back to top |
|
|
ExtendeD
1st Class Pass (Air)
Joined: 04/07/2006 Posts: 9054
Location: สังกัดหน่วยสำรวจสะพาน ตะลอนทั่วราชอาณาจักร
|
Posted: 03/12/2007 5:43 am Post subject: |
|
|
พอส่งขบวนที่ 102 ออกจาก สถานีลำพูน ไปแล้ว ผมกับเจ้าตี๋ก็ขึ้นมอเตอร์ไซค์รับจ้างจากหน้าสถานีไปเที่ยวในตัวเมืองลำพูนครับ เส้นทางเข้าไปที่ตัวเมืองนั้นจะเป็นถนนเล็ก ๆ เงียบสงบไม่ค่อยมีรถวิ่งผ่านไปมามากนัก
หันซ้ายหันขวามองข้างทางเพลิน ๆ ไม่นานก็มาถึง วัดพระธาตุหริภุญชัยวรมหาวิหาร ครับ
ข้อมูลเกี่ยวกับ วัดพระธาตุหริภุญชัยวรมหาวิหาร สามารถหาเพิ่มเติมได้จาก
1. Website ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
2. Website ของกรมสรรพากร
3. nueng555.igetweb.com
4. ezytrip.com
5. moohin.com
ข้างหน้าของ วัดพระธาตุหริภุญชัยวรมหาวิหาร นั้น มีแม่น้ำกวงไหลผ่าน ถ้าตรงไปตามทางที่เห็นนี้เรื่อย ๆ ก็จะไปลอดใต้ทางรถไฟที่ สะพานข้ามแม่น้ำกวง ครับ
_________________ Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.
|
|
Back to top |
|
|
ExtendeD
1st Class Pass (Air)
Joined: 04/07/2006 Posts: 9054
Location: สังกัดหน่วยสำรวจสะพาน ตะลอนทั่วราชอาณาจักร
|
Posted: 03/12/2007 6:36 am Post subject: |
|
|
nutbeam wrote: | ตอนนั้นพี่เต้ยไปอากาศยังไม่หนาวเท่าไหร่ แต่ถ้าไปตอนนี้คงจะหนาวมากเลย
เพราะที่กรุงเทพยังขนาดนี้ แล้วที่เชียงใหม่จะขนาดไหน |
อากาศตอนนั้นยังไม่ถึงขั้นหนาวครับ เย็นสบายกำลังดีเลย ( ยกเว้นตอนที่อยู่บนขบวนที่ 109 นะ ) ถ้าได้ไปเชียงใหม่อีก ก็อยากจะขึ้นไปบนดอยอินทนนท์อีกครั้ง ไปครั้งที่แล้วประทับใจจริง ๆ ช่วงสงกรานต์อากาศข้างล่างร้อนสุด ๆ แต่พอขึ้นไปถึงข้างบนลมพัดมาทีสะดุ้งเลย
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เมื่อเดินเข้าไปในบริเวณ วัดพระธาตุหริภุญชัยวรมหาวิหาร ก็จะเห็น ซุ้มประตู สีขาวที่เห็นอยู่นี้
ซึ่งข้อมูลที่ได้จาก Website ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ได้ให้ไว้ว่า
Website ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย wrote: | ก่อนเข้าไปในบริเวณวัด จะผ่านซุ้มประตูฝีมือโบราณสมัยศรีวิชัย ก่ออิฐถือปูนประดับลวดลายวิจิตรพิสดาร ประกอบด้วยซุ้มยอดเป็นชั้นๆ หน้าซุ้มประตูมีสิงห์ใหญ่คู่หนึ่งยืนเป็นสง่าบนแท่นสูงประมาณ 1 เมตร สิงห์คู่นี้ปั้นขึ้นในสมัยพระเจ้าอาทิตยราชเมื่อทรงถวายวังให้เป็นสังฆาราม |
เดินผ่าน ซุ้มประตู เข้าไปก็จะเห็น วิหารหลวง อยู่ข้างหน้าครับ
ผมพยายามจะเก็บภาพของ วิหารหลวง หลังนี้ให้ได้แบบเต็ม ๆ แต่ว่าก็ทำได้ดีที่สุดแค่นี้ล่ะครับ เพราะผมถอยไปจนติดซุ้มประตูแล้ว
ข้อมูลที่ได้จาก Website ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับ วิหารหลวง หลังนี้ไว้ว่า
Website ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย wrote: | เมื่อผ่านซุ้มประตูเข้าไปแล้ว จะเห็นวิหารหลังใหญ่เรียกว่า วิหารหลวง เป็นวิหารหลังใหญ่มีพระระเบียงรอบด้าน มีมุขออกทั้งด้านหน้าและด้านหลัง เป็นวิหารที่สร้างขึ้นใหม่แทนวิหารหลังเก่า ซึ่งถูกพายุพัดพังทลายไปเมื่อ พ.ศ. 2458วิหารหลวงใช้เป็นที่บำเพ็ญกุศล และประกอบศาสนกิจทุกวันพระ ภายในวิหารประดิษฐานพระพุทธปฏิมาใหญ่ 3 องค์ก่ออิฐถือปูน ลงรักปิดทองบนแท่นแก้วและมีพระพุทธปฏิมาโลหะขนาดกลางสมัยเชียงแสนชั้นต้นและชั้นกลางอีกหลายองค์ |
ข้อมูลตามป้าย wrote: | วัดพระธาตุหริภุญชัยวรมหาวิหาร
ตำบลในเมือง อำเภอเมืองลำพูน จังหวัดลำพูน
ได้รับคัดเลือกเป็น
วัดพัฒนาตัวอย่างดีเด่นเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 6 รอบ
5 ธันวาคม 2542
กรมศาสนา กระทรวงศึกษาธิการ |
พระเสตังคมณีศรีเมืองหริภุญชัย ที่ประดิษฐานอยู่ภายใน วิหารหลวง ครับ
_________________ Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.
|
|
Back to top |
|
|
ExtendeD
1st Class Pass (Air)
Joined: 04/07/2006 Posts: 9054
Location: สังกัดหน่วยสำรวจสะพาน ตะลอนทั่วราชอาณาจักร
|
Posted: 03/12/2007 7:17 am Post subject: |
|
|
ใกล้ ๆ กับ วิหารหลวง เป็นที่ตั้งของ องค์พระธาตุหริภุญชัย ครับ
ด้านนอกของรั้วที่ล้อมรอบ องค์พระธาตุหริภุญชัย นั้น จะมีพื้นที่ที่เตรียมไว้ให้พุทธศาสนิกชน จุดธูปเทียนเพื่อกราบไหว้องค์พระธาตุด้วยครับ และจะได้เห็นป้าย ห้ามไม่ให้สุภาพสตรีเข้าไปในบริเวณพระธาตุ ด้วยครับ
Website ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับ องค์พระธาตุหริภุญชัย ไว้ว่า
Website ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย wrote: | พระบรมธาตุหริภุญชัย ตั้งอยู่หลังวิหารหลวง ประดิษฐานพระเกศธาตุบรรจุในโกศทองคำ เจดีย์ประกอบด้วยฐานปัทม์ แบบฐานบัวลูกแก้วย่อเก็จ ต่อจากฐานบัวลูกแก้วเป็นฐานเขียงกลมสามชั้น ตั้งรับองค์ระฆังกลม บัลลังก์ย่อเหลี่ยม เจดีย์มีลักษณะใกล้เคียงกับพระธาตุดอยสุเทพที่จังหวัดเชียงใหม่ มีสัตถบัญชร (ระเบียงหอก ซึ่งเป็นรั้วเหล็กและทองเหลือง) 2 ชั้น สำเภาทองประดิษฐานอยู่ประจำรั้วชั้นนอกทั้งทิศเหนือและทิศใต้ มีซุ้มกุมภัณฑ์ และฉัตรประจำสี่มุม หอคอยประจำทุกด้านรวม 4 หอ บรรจุพระพุทธรูปนั่งทุกหอ นอกจากนี้ยังมีโคมประทีป และแท่นบูชาก่อประจำไว้เพื่อเป็นที่สักการะบูชาของพุทธศาสนิกชนทั่วไป พระบรมธาตุนี้นับเป็นปูชนียสถานอันสำคัญยิ่งในล้านนามาตั้งแต่สมัยโบราณ ในวันเพ็ญเดือน 6 จะมีงานนมัสการ และสรงน้ำพระบรมธาตุทุกปี ตามประวัติกล่าวว่า เมื่อ พ.ศ. 1440 พระเจ้าอาทิตยราชกษัตริย์วงศ์รามัญผู้ครองนครลำพูนได้สร้างมณฑปครอบโกศทองคำ บรรจุพระบรมธาตุไว้ภายในและมีการสร้างเสริมกันต่อมาอีกหลายสมัย ต่อมาใน พ.ศ. 1986 พระเจ้าติโลกราช กษัตริย์ผู้ครองนครเชียงใหม่ได้ปฏิสังขรณ์บูรณะเสริมองค์พระเจดีย์ขึ้นใหม่เป็นแบบลังกา ซึ่งปรากฏอยู่ในปัจจุบันนี้ ทั้งนี้เพราะในสมัยพระเจ้าติโลกราชได้มีการติดต่อสัมพันธ์กับลังกา |
ด้านหลังของ องค์พระธาตุหริภุญชัย เป็นที่ตั้งของ อาคารพิพิธภัณฑ์ ๕๐ ปี ครับ ประตูยังไม่เปิด ผมก็เลยไม่ได้เข้าไปดูครับ
เดินอ้อมออกมาทางอีกด้านหนึ่งของ วิหารหลวง ทางด้านนี้จะเป็นลานกว้าง ๆ ไกลออกไปที่เห็นเป็นยอดแหลม ๆ สูง ๆ นั้นคือ สุวรรณเจดีย์ หรือ ปทุมวดีเจดีย์ ครับ
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมของ สุวรรณเจดีย์ หรือ ปทุมวดีเจดีย์ นั้น Website ของกรมสรรพากร ได้ระบุไว้ว่า
Website ของกรมสรรพากร wrote: | สุวรรณเจดีย์ หรือ ปทุมวดีเจดีย์ ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือขององค์พระธาตุหริภุญชัย เป็นเจดีย์ที่มีลักษณะการก่อสร้างแบบเดียว กับ เจดีย์สี่เหลี่ยมหรือเจดีย์กู่กุดที่วัดจามเทวี จังหวัดลำพูน องค์เจดีย์สร้างด้วยศิลาแลงและอิฐ เป็นเจดีย์ทรงปราสาทมีฐานสี่เหลี่ยมซ้อนชึ้นไป ห้าชั้น แต่ละชั้นประดับซุ้มจระนำทั้งสี่ด้าน ด้านละสามซุ้ม ภายในซุ้มจะประดิษฐานพระพุทธรูปดินเผาประทับยืนประทับอยู่ ซึ่งมีร่องรอย ของการลงรักปิดทอง ปัจจุบันเหลือให้เห็นเพียงไม่กี่องค์ ส่วนบนสุดของเจดีย์เป็นกลีบบัวปูนปั้นหุ้มด้วยโลหะแผ่น ส่วนยอดปลายสุดทำเป็น กรวยแหลมเรียวยาวขึ้นไปสุวรรณเจดีย์องค์นี้มีพระพิมพ์ที่สำคัญและมีชื่อเสียงของเมืองลำพูนบรรจุอยู่ภายใน คือ พระเปิม |
ส่วนอีกด้านหนึ่ง ที่เห็นเป็นหอสูง ๆ สีแดงเข้มนั้น คือ หอระฆัง ครับ
Website ของกรมสรรพากร ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับ หอระฆัง แห่งนี้เอาไว้ว่า
Website ของกรมสรรพากร wrote: | หอระฆัง ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือขององค์พระธาตุหริภุญชัย เป็นหอสำหรับแขวนระฆังและกังสดาลขนาดใหญ่ สร้างขึ้นโดย พระครูพิทักษ์เจติยานุกิจ (ครูบาคำฟู) เมื่อ พ.ศ. ๒๔๘๑ ด้านบนแขวนระฆังขนาดใหญ่ซึ่งหล่อขึ้นในสมัยเจ้าหลวงดาราดิเรกรัตนไพโรจน์ เจ้าผู้ครองนครลำพูน องค์ที่ ๗ และชั้นล่างห้อยกังสดาลขนาดใหญ่ซึ่งหล่อขึ้นเมื่อ พ.ศ. ๒๔๐๓ ฝีมือครูบาสูงเม่นโดยกัญจนมหาเถระ เจ้าอาวาส วัดป่าเมืองแพร่ และเจ้าหลวงเมืองเชียงใหม่ เป็นศรัทธาสร้างหล่อกังสดาลนี้ ในวัดพระสิงห์เมืองเชียงใหม่เพื่อไว้เป็นเครื่องบูชาพระธาตุหริภุญชัย |
ที่เห็นอยู่ในรูปนี้คือ กังสดาลขนาดใหญ่ ( ระฆังวงเดือน ) ตามข้อมูลข้างบนครับ ( ใหญ่จริง ๆ ครับ )
_________________ Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.
|
|
Back to top |
|
|
ExtendeD
1st Class Pass (Air)
Joined: 04/07/2006 Posts: 9054
Location: สังกัดหน่วยสำรวจสะพาน ตะลอนทั่วราชอาณาจักร
|
Posted: 03/12/2007 8:00 am Post subject: |
|
|
ออกจาก วัดพระธาตุหริภุญชัยวรมหาวิหาร ผมพาเจ้าตี๋เดินต่อไปตาม ถนนรอบเมือง เลียบแม่น้ำกวงไปเรื่อย ๆ ครับ จนมาถึงสี่แยกที่เห็นอยู่นี้ ก็ได้เห็นซุ้มประตูใหญ่ ๆ สะดุดตาครับ นั่นก็คือ ประตูท่าขาม ครับ
ผมเดินเลี้ยวขวาออกจากถนนรอบเมือง มาตามถนนหมายเลข 114 ที่เป็นทางไปสู่จังหวัดลำปาง เพื่อมาดูบรรยากาศของแม่น้ำกวงให้ชัด ๆ ครับ มองไปตามทางนี้ก็เป็นทิศทางเดียวกันกับที่เคยมองตอนที่ยังยืนอยู่ข้างหน้า วัดพระธาตุหริภุญชัยวรมหาวิหาร ครับ จะเห็น สะพานท่าสิงห์ ซึ่งอยู่บริเวณข้างหน้า วัดพระธาตุหริภุญชัยวรมหาวิหาร ซึ่งเป็นสถานที่จำหน่ายสินค้า OTOP ครับ
จากนั้นก็กลับมาเดินตามถนนรอบเมืองอีกครั้ง ตรงเข้าไปในตัวเมืองเรื่อย ๆ ก็จะผ่านวัดเล็ก ๆ แห่งหนึ่ง ก็คือ วัดธงสัจจะ ครับ ประตูวัดทางด้านนี้ก็ไม่ได้เปิดเอาไว้ ส่วนข้อมูลที่หาได้จากพลังแห่ง Google ก็ไม่ได้ทำให้รู้เรื่องราวเกี่ยวกับวัดแห่งนี้เพิ่มมากขึ้นเลยครับ
เพราะฉะนั้นก็ออกเดินกันต่อไปตามถนนรอบเมืองที่เห็นอยู่นี้ไปเรื่อย ๆ หลังจากถ่ายรูปนี้แล้ว เจ้าตี๋มองออกไปทางด้านซ้ายก็ไปเห็นร้านขายก๋วยเตี๋ยวอยู่ร้านหนึ่งครับ ก็ได้ก๋วยเตี๋ยวจากร้านนั้นล่ะครับ เป็นดีเซลมื้อเช้า...
อิ่มแล้วก็ออกเดินกันต่อครับ จากร้านขายก๋วยเตี๋ยวผมกับเจ้าตี๋ก็ยังคงเดินตามถนนรอบเมืองมาเรื่อย ๆ จนมาถึงบริเวณซุ้มประตูลี้ ซึ่งเป็นทางเข้าไปที่สถานีขนส่ง แต่ที่นั่นไม่ใช่จุดหมายที่ผมกับเจ้าตี๋จะไปครับ
_________________ Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.
|
|
Back to top |
|
|
|