View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
ExtendeD
1st Class Pass (Air)
Joined: 04/07/2006 Posts: 9054
Location: สังกัดหน่วยสำรวจสะพาน ตะลอนทั่วราชอาณาจักร
|
Posted: 25/11/2007 11:31 am Post subject: |
|
|
tuie wrote: | เรื่องที่คุณเต้ยทำสารบัญกระทู้ในหน้าแรกนั้น เป็นความคิดสร้างสรรค์จริงๆ พี่ชอบมากเลยครับ ว่างๆจะขออนุญาตเลียนแบบไปทำสารบัญกระทู้เรื่องยาวๆของพี่บ้างครับ เผื่อท่านผู้ชมจะได้สะดวกในการค้นหาภาพและเรื่องราวที่ต้องการจะชมมากยิ่งขึ้น |
ด้วยความยินดีครับพี่ตุ้ย ( ยินดีจริง ๆ ยินดีจริง ๆ ครับ ) บางครั้งผมก็หยิบยืมเอาวลีเด็ดของพี่ตุ้ยมาใช้เหมือนกันครับ ทำกระทู้นี้ก็ไปแอบฉกของพี่บอมบ์มาใช้นิดหน่อย ๆ มีแบบอย่างให้เดินตามใครบ้างจะไม่ชอบ จะได้ไม่ต้องคิดเอง เอ๊ย ไม่ใช่ จะได้เอามาประยุกต์ปรับปรุงให้เข้ากับสไตล์ของตัวเองให้มันดีขึ้นต่างหาก
tuie wrote: | มีอยู่หลายครั้งที่พี่ออกเดินทางในช่วงบ่าย เช่น ไปทุ่งสงโดยขบวน ๑๖๙ แต่ลางานไว้ทั้งวันแล้ว เหลือเวลาช่วงเช้าถึงเที่ยงก็ใช้เวลาว่างให้คุ้มค่าโดยการนั่งรถไฟไป-กลับสายตะวันออกเที่ยวเสียก่อน แล้วกลับมาขึ้นขบวน ๑๖๙ ให้ทัน |
ถ้าเป็นตัวผมที่ต้องรอขึ้นขบวนที่ 169 อยู่ผมว่าผมคงไปได้แค่ฉะเชิงเทราเท่านั้นล่ะครับพี่ตุ้ย ไกลกว่านั้นเส้นกราฟแสดงความเสี่ยงต่อการตกรถจะพุ่งสูงปรี๊ด ๆ เลยครับ น่ากลัวจริง ๆ น่ากลัวจริง ๆ
tuie wrote: | รอชมเรื่องราวการเดินทางครั้งนี้อยู่เช่นเคยนะครับ พี่ว่าคุณเต้ยนำเสนอในสไตล์ของคุณเต้ยอย่างที่เคยเป็นมาก็ดีแล้ว ขอชื่นชมในความละอียดของข้อมูล การเตรียมตัว ความตั้งใจในการถ่ายภาพ ความทุ่มเทในการสำรวจ แสวงหาสิ่งดีๆ ที่หลายๆคนรวมทั้งพี่มิอาจทำได้ดีเช่นนี้ ไม่ต้องกลัวว่าใครจะบ่นว่าน่าเบื่อ ยืดยาวเกินไปนะครับคุณเต้ย พี่ว่าเหตุหนึ่งที่บ้านเมืองของเราไม่ค่อยจะพัฒนาเท่าที่ควรก็เพราะคนขี้อิจฉา ดีแต่พูด มือไม่พายเอาเท้าราน้ำฯลฯ นี่แหละครับ
ชักจะบ่นยาวตามประสาคนอายุมากอีกแล้ว เอาเป็นว่าขอเป็นกำลังใจในการนำเสนอเช่นเดียวกับแฟนๆกระทู้ของคุณเต้ยท่านอื่นนะครับ
นสน.าย. |
ที่ต้องนำเสนอกระชับสั้น ๆ แบบนี้ เป็นเพราะเหตุผลเรื่องเวลาที่ได้เคยบอกไป แล้วเส้นทางไปพลูตาหลวงนี้ก็เป็นเส้นทางที่พี่ ๆ น้อง ๆ ได้เคยนำเสนอแล้วหลายครั้ง สำหรับเส้นทางสายเหนือพี่ ๆ น้อง ๆ หลาย ๆ คนก็เดินทางผ่านไปมาบ่อย จนหลับตาก็ยังรู้ว่าอยู่ที่ช่วงเสาโทรเลขไหนแล้ว ถ้าผมยังจะยัดเยียดแบบละเอียดยิบคาดว่าลูกทัวร์ทั้งหลายคงจะอิ่มจนท้องแตกแน่ ๆ ครับพี่ตุ้ย แถมเดี๋ยวถ้าน้องเจฟกลับมาก็คงมีของฝากจากทางสายเหนือมาเพิ่มอีก 1 เมนู งานนี้ถ้าไม่ได้เห็นวิวสายเหนือจนระงับความอยากเที่ยวเอาไว้ไม่อยู่ ก็คงได้เอียนกันไปข้างหนึ่งแน่ ๆ ครับ
ผมเองก็โต ( จนจะแก่เลยบางซื่อไป ) แล้ว ไม่มีเวลาไปยุ่งวุ่นวายกับเรื่องของเด็ก ๆ หรอกครับ เรื่องนั้นสำหรับผมมันจบไปนานแล้ว ผมจะจำเอาไว้แค่เรื่องดี ๆ ที่น้องบางคนมีให้กับผมเท่านั้น ส่วนคนที่อยู่ในมุมมืดก็ขอให้มุดหัวอยู่ในถ้ำต่อไป... อุ๊บ... ว่าจะไม่พาดพิงถึงบุคคลอื่นแล้วนะเนี่ย
แต่ทุกครั้งที่ลงกระทู้ยาว ๆ เนี่ย ในใจจะคิดอยู่ 2 อย่างก็คือถ้าไม่ทำให้ดีจะเป็นการใช้ทรัพยากรให้สิ้นเปลืองไปเปล่า ๆ แล้วอีกอย่างก็คือไม่แน่ใจว่ากำลังพร่ำเพ้ออยู่คนเดียวหรือเปล่า เพราะยิ่งยาวเท่าไหร่ กระทู้ยิ่งเงียบ...
nutbeam wrote: | รอติดตามชมถึงจุดหมายปลายทางเลยนะครับ เหนือสุดก็ไปแล้ว ตะวันออก ก็ไปแล้ว
อีสานก็ไปแล้ว เหลือ ใต้สุดนะครับ |
ไม่ได้เหลือแค่ใต้สุดอย่างเดียวนะครับ ถ้านับเฉพาะเส้นทางที่มีขบวนรถโดยสารให้บริการ ยังเหลือ
- สายคีรีรัฐนิคม ( ความหวังริบหรี่เลือนลาง )
- สายปาดังเบซาร์
- สายกันตัง ( อันนี้หมูมาก )
- จากชุมทางหาดใหญ่ - สุไหงโกลก เท่านี้ล่ะครับ ผมกับเจ้าตี๋ก็จะได้เห็นครบทุกกิโลเมตรของทางรถไฟทั่วประเทศแล้ว
saraburi wrote: | พูดถึงใต้สุดพี่เต้ย ปีหน้าถ้าพี่มีเวลาไปใต้สุดไหมพี่ จะได้ลากนายตรวจเว็บไปด้วย ฮิฮิ |
นั่นสิน้องอ๋อง เห็นนายตรวจบ่น ๆ เอาไว้ตั้งแต่พี่ลงรูปที่สถานีชุมทางทุ่งสงแล้ว พาไปด้วยท่าทางคณะทัวร์เราจะปลอดภัย ไม่มีใครกล้ามาแหยม... ว่าแต่เมื่อคืนได้ลอยยี่เป็งเผื่อพวกเราหรือเปล่าก็ไม่รู้
ถ้าจะไปจริง ๆ น้องอ๋องชวนไปให้ทั่ว ๆ นะ ช่วงนี้ไวรัสทำให้คนไข้น้อยใจกำลังระบาดอย่างหนัก
nathapong wrote: | อ่า ตอนนี้ นายตรวจเว็บ น่าจะไปลอคคอ เก็บกระทงแถว ๆ ริมปิงกับ นสน.บัวแล้วน้ำ นะน้องอ๋อง.... |
อ้าว งานนี้น้องบอยไปด้วยเหรอครับเนี่ย... อากาศเย็น ๆ แบบนี้ บรรยากาศคงดี ถ้าใครกลับมาแล้วอ้วนผิดปกติล่ะก็...
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
จาก สถานีบ้านพลูตาหลวง ผมให้พี่มอเตอร์ไซค์รับจ้างพาไปเที่ยวที่สถานที่ท่องเที่ยวที่อยู่ใกล้ ๆ ครับ ตามมาเรื่อย ๆ ครับ เดี๋ยวก็รู้ว่าไปที่ไหน ที่เห็นอยู่ในรูปนี้คือถนนที่อยู่ด้านหน้าอาคารสถานีครับ สุดถนนนี้ก็จะเป็นถนนใหญ่ จะไปเที่ยวก็ต้องเลี้ยวขวาครับ ส่วนหัวมุมทางซ้ายนั้นเป็นที่ตั้งของร้านขายอาหารตามสั่งที่พี่ ๆ น้อง ๆ หลายคนติดใจกันนักหนา แต่วันนั้นที่ผมผ่านไปนี่ดูเงียบ ๆ นะ เปิดขายหรือเปล่าก็ไม่รู้...
เลี้ยวขวาจากถนนหน้าอาคารสถานีมาแล้ว ก็จะเข้าสู่ถนนใหญ่ที่เห็นอยู่นี้ครับ จากตรงนี้ก็ตรงไปเรื่อย ๆ ผ่านสี่แยกแห่งหนึ่ง ( ผมจำชื่อไม่ได้แล้ว )
แล้วก็ตรงไปตามทางเรื่อย ๆ ครับ สักพักถ้ามองไปทางขวา ก็จะเห็นแนวของทางรถไฟที่วางต่อมาจาก สถานีบ้านพลูตาหลวง ผ่านไปที่ ท่าเรือพาณิชย์สัตหีบ แจมโบรี ... ครับ จากตรงนั้นพี่เขาก็ยังพาผมตรงไปเรื่อย ๆ จนเลี้ยวซ้ายเข้าสู่เขตทหารมาจนถึงที่นี่ครับ " หาดนางรำ " จากป้ายบริเวณทางเข้านี้เราต้องเลี้ยวไปทางซ้ายครับ มองเห็นน้ำทะเลแล้ว
สำหรับรายละเอียดของ " หาดนางรำ " นั้น หาได้จาก " Website ของฐานทัพเรือสัตหีบ " ครับ
ในวันนั้นมีนักท่องเที่ยวหลายคนแวะมาเล่นน้ำทะเลที่นี่ครับ ส่วนจะมีมากน้อยแค่ไหน ดูจากจำนวนรถที่จอดอยู่ในลานจอดรถสิครับ... ขับรถตรงผ่านลานจอดรถนี้ไป จะเป็นทางไปสู่ " หาดนางรอง " ซึ่งจะเปิดให้เข้าไปเฉพาะวันหยุดเท่านั้นครับ
บริเวณรอบ ๆ หาดนางรำนี้ จะสามารถมองเห็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของหาดแห่งนี้ได้หลายจุดครับ นั่นก็คือรูปปั้นรูปนางรำที่เห็นอยู่นี้นั่นเอง
_________________ Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.
Last edited by ExtendeD on 25/11/2007 7:58 pm; edited 2 times in total |
|
Back to top |
|
|
ExtendeD
1st Class Pass (Air)
Joined: 04/07/2006 Posts: 9054
Location: สังกัดหน่วยสำรวจสะพาน ตะลอนทั่วราชอาณาจักร
|
Posted: 25/11/2007 12:21 pm Post subject: |
|
|
เดินมาที่ชายหาดดีกว่าครับ ขอดูทะเลสัตหีบหน่อยเถอะ เกิดมาไม่เคยเห็น
หลังจากที่ได้สัมผัสทะเล และชายหาดแห่งนี้ ความรู้สึกแรกก็คือ คิดว่าน้ำทะเลที่นี่ใสมากเลยครับ เมื่อประมาณ 45 วันก่อน ( ต้นเดือนกันยายน ) ที่ได้ไปพักที่หัวหิน น้ำทะเลไม่เห็นใสแบบนี้เลย ขอยัดเยียดมุมมองแบบ 180 องศาให้ได้ชมกัน ณ บัดนี้ มองทางขวาจะเห็นสะพานทอดยาวออกไปในทะเล...
มองตรงไปข้างหน้า เห็นท้องทะเลโล่ง ๆ ไกลสุดตาครับ
ส่วนทางซ้ายจะมีเกาะเล็ก ๆ อยู่ 2 เกาะ
มองจากมุมต่ำ เลียบพื้นน้ำทะเลใส ๆ
รูปนี้เป็นรูปที่ผมไม่น่าถ่ายเลยครับ เพราะต้องใช้ Skill S Curve Level สูงสุดอีกครั้ง ยิ่งกว่าที่ได้เห็นกันตอนที่ผมอยู่ที่ " สถานีสุพรรณบุรี " อีกครับ ผลจากการใช้ท่านั้น ทำให้กระดาษจดบันทึกที่ได้จดทั้ง
- ปดท. ( ประกาศเดินทัวร์ ) ที่ได้จดเวลาต่าง ๆ เอาไว้ว่าตามแผนการณ์ที่ได้วางเอาไว้จะต้องเดินทางไปที่ไหนบ้าง 1... 2... 3...
- กำหนดเวลาของขบวนรถไฟที่จะผ่านไปถึงสถานีที่ผมวางแผนจะไปสำรวจ
- ตำแหน่งที่ตั้งของสถานีตามรายทาง
- ร้านอาหารเด็ด ๆ ที่มีผู้ให้คำแนะนำให้ไปชิม และอีกมากมายสาธยายไม่หมด
ที่ผมเสียบเอาไว้ที่กระเป๋ากางเกงด้านหลัง หล่นหายไปครับ กว่าจะไปรู้ตัวว่าทำหล่นหาย ก็ตอนที่ไปถึงสถานที่ท่องเที่ยวอีกที่หนึ่งที่อยู่ไม่ไกลจากที่นี่แล้วครับ ใจหายแว๊บเลย เพราะรายละเอียดทุกอย่างผมจดอยู่ข้างในนั้นหมด ยังดีที่วางแผนการเดินทางด้วยตัวเอง ก็เลยพอจะจำได้ว่าในวันหนึ่ง ๆ นั้นต้องขึ้นรถขบวนไหน ไปที่ไหนบ้าง ถึงแม้จะจำรายละเอียดข้างในกระดาษจดบันทึกได้บ้าง แต่ในเมื่อไม่มีมันอยู่ในมือแล้ว ก็คล้าย ๆ กับว่าการเดินทางที่รออยู่ข้างหน้าต้องไปคลำ ๆ เอาเองแล้วล่ะครับ ส่วนรายละเอียดที่จดเอาไว้หลังจากนั้นเป็นต้นมา ผมก็อาศัยจดเอาไว้ในตั๋วรถไฟที่ซื้อมาระหว่างเดินทางครับ เพราะฉะนั้นข้อมูลที่ให้ไปอาจจะไม่ละเอียดมากนัก หรือบางครั้งอาจจะไม่ปะติดปะต่อกันอย่างที่ควรจะเป็น ผมก็ขอชี้แจงเอาไว้ตรงนี้เลย ถ้ารายละเอียดตรงไหนหายไป แล้วผมไปหาตั๋วรถไฟที่จดเอาไว้เจอทีหลัง จะเข้ามาเพิ่มเติมให้ครับ _________________ Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.
Last edited by ExtendeD on 25/11/2007 7:59 pm; edited 1 time in total |
|
Back to top |
|
|
ExtendeD
1st Class Pass (Air)
Joined: 04/07/2006 Posts: 9054
Location: สังกัดหน่วยสำรวจสะพาน ตะลอนทั่วราชอาณาจักร
|
Posted: 25/11/2007 12:51 pm Post subject: |
|
|
ต่อจากนั้นผมก็เดินไปทางซ้ายครับ ( ไปทางหาดนางรอง ) เดินผ่านลานจอดรถไป เพราะที่แหลมเล็ก ๆ ที่อยู่ทางซ้ายนั้นมีอะไรน่าสนใจให้เดินไปดูครับ แต่ระหว่างทางก่อนจะไปถึงที่แหลมนั้น ก็เดินผ่านรูปปั้นพระฤาษีกับนางรำที่อยู่ริมถนนก่อน
สิ่งที่ผมบอกว่าน่าสนใจที่อยู่ที่แหลมเล็ก ๆ นี้ก็คือรูปปั้นตัวละครในวรรณคดีเรื่อง " พระอภัยมณี " ครับ รูปปั้นที่เห็นอยู่ใกล้ที่สุดก็คงจะเป็นตัวนี้ครับ ชีเปลือยหรือเปล่าเนี่ย...
ถัดมาก็เป็น ผสสม. ผีเสื้อสมุทร ไม่ใช่ ผบ.สส. ที่บ้าน นะครับ
ใกล้ ๆ กันมีรูปปั้นของพระอภัยมณี เป่าปี่อยู่ข้าง ๆ นางเงือก
หันมองไปทางขวาเห็นม้านิลมังกรด้วยครับ ถัดไปอีกไกล ๆ นั้นคงจะเป็นทางไปสู่ " หาดนางรอง " ที่พี่ ๆ ทหารเขาบอกว่าสวยกว่าหาดนางรำนี้อีกครับ แต่ย้ำอีกครั้งว่าเปิดให้เข้าไปเฉพาะวันหยุดเท่านั้น...
มองมุมกว้างอีกสักครั้ง จะเห็นรูปปั้นเกือบทั้งหมดที่อยู่ที่แหลมแห่งนี้ครับ ขาดก็เพียงแต่ม้านิลมังกรเท่านั้นที่อยู่อีกด้านหนึ่ง ไม่สามารถนำมาอยู่ในรูปเดียวกันได้...
ทิ้งท้ายที่ " หาดนางรำ " แห่งนี้ด้วยรูปของชายหาดที่มองจากบริเวณแหลมพระอภัยมณี ( ผมตั้งชื่อเอง ) แห่งนี้ครับ
ผมเพิ่งมารู้ทีหลังว่าที่หาดนางรำนี้มีศาลของกรมหลวงชุมพรฯ ด้วย ไม่อย่างนั้นก็คงได้ถ่ายรูปมาฝากกันแล้ว แต่เวลาเท่าที่มีในตอนนั้นก็คงจะเดินเที่ยวได้แค่นั้นล่ะครับ ถ้าได้ไปพักค้างที่บ้านพักริมหาดนั้นก็คงจะดี _________________ Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.
|
|
Back to top |
|
|
ExtendeD
1st Class Pass (Air)
Joined: 04/07/2006 Posts: 9054
Location: สังกัดหน่วยสำรวจสะพาน ตะลอนทั่วราชอาณาจักร
|
Posted: 25/11/2007 3:01 pm Post subject: |
|
|
มาถึงหาดนางรำแล้ว พี่ ๆ น้อง ๆ หลายคนก็คงพอจะเดาออกว่าผมต้องไปที่ไหนต่อ... ใช่แล้วครับพี่ ๆ มอเตอร์ไซค์รับจ้างพาผม เจ้าตี๋ แล้วก็น้องพีไปเที่ยวกันต่อที่ท่าเรือพาณิชย์สัตหีบ ( ท่าเรือจุกเสม็ด ) นั่นเอง รู้แล้วสินะครับ ว่าที่นั่นมีอะไร...
ท่าเรือที่พูดถึงนี้อยู่ติด ๆ กับทางเข้า - ออกหาดนางรำเลยครับ ย้อนกลับออกมาทางเดิมแล้วเลี้ยวซ้ายไปตามทางที่เห็นอยู่นี้ก็ถึงแล้วล่ะครับ
ตามปกติแล้วที่ท่าเรือแห่งนี้จะมีทั้งเรือหลวงจักรีนฤเบศร และ เรือหลวงสิมิลัน เทียบท่าอยู่ แต่ในวันนั้นที่ผมไป โชคไม่ค่อยจะดีครับ นอกจากจะทำกระดาษจดบันทึกหายแล้ว เรือหลวงจักรีนฤเบศรพระเอกคนสำคัญ กลับไปจอดซ่อมอยู่ที่อู่ซะอย่างนั้น จากการสอบถามพี่ ๆ ทหารเรือที่อยู่ในบริเวณนั้น ได้ความว่ากว่าจะซ่อมเสร็จก็คงจะประมาณกลางเดือนธันวาคม - เดือนมกราคม 2551 นั่นล่ะครับ... แต่ไหน ๆ ก็มาแล้ว ไม่ให้เสียเที่ยว ไปบุกเรือหลวงสิมิลันกันเลยดีกว่าครับ
สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมของเรือหลวงจักรีนฤเบศร สามารถหาเพิ่มเติมได้ที่
- Website ของกองทัพเรือ Royal Thai Navy
- Website ของฐานทัพเรือสัตหีบ
- หมูหิน.คอม
ส่วนรายละเอียดเพิ่มเติมของเรือหลวงสิมิลัน สามารถหาเพิ่มเติมได้ที่
- Website ของฐานทัพเรือสัตหีบ
- ข้อมูลจำเพาะจาก Website ของกองทัพเรือ
ที่เห็นนี้เป็นบริเวณทางขึ้นไปบนเรือครับ ซุ้มที่อยู่ทางซ้ายจะมีพี่ ๆ ทหารประจำอยู่ ก่อนขึ้นไปบนเรือเราต้องเอาบัตรประชาชนไปแลกกับบัตร Visitor ก่อนครับ
ข้าง ๆ กับทางขึ้นไปบนเรือ มีป้ายแจ้งข้อปฏิบัติในการเยี่ยมชมเรือหลวงสิมิลันติดตั้งอยู่ครับ
ข้อมูลตามป้าย wrote: | ข้อปฏิบัติการเยี่ยมชม ร.ล. สิมิลัน
๑. เปิดเยี่ยมชมระหว่างเวลา ๐๙.๐๐ น. - ๑๗.๐๐ น. โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
๒. เรือรบเป็นสถานที่ราชการ โปรดแต่งกายสุภาพ และงดสูบบุหรี่
๓. ห้ามนำกระเป๋าสัมภาระ กระเป๋าถือ อาหาร เครื่องดื่ม สัตว์เลี้ยง และกล้องวีดีโอขึ้นบนเรือ
๔. ห้ามพกอาวุธ และวัตถุอันตรายขึ้นบนเรือโดยเด็ดขาด
๕. Foreign visitors require The permission from Royal Thai Navy ( ชาวต่างประเทศไม่อนุญาตให้เยี่ยมชมเรือ )
๖. การเยี่ยมชมเรือให้ใช้เส้นทางบริเวณที่กำหนดเท่านั้น โปรดปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด
๗. โปรดแสดงบัตรประจำตัวประชาชน / บัตรประจำตัวข้าราชการกับเจ้าหน้าที่
๘. บุคคลซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตราย และไม่สามารถปฏิบัติตามข้อปฏิบัติดังกล่าวได้ เจ้าหน้าที่จะไม่อนุญาตให้เยี่ยมชมเรือ
โปรดให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่เมื่อขอตรวจค้น
ขอขอบคุณอย่างสูง
ร.ล. สิมิลัน |
เมื่อแลกบัตรแล้ว ก็ขึ้นไปข้างบนเรือหลวงสิมิลันกันเลยครับ ถึงตอนนี้ผมเห็นว่าทั้งเจ้าตี๋กับน้องพีตื่นเต้นสุด ๆ เลยล่ะครับ ผมเองก็ตื่นเต้นไม่แพ้กัน เพราะนี่ก็เป็นครั้งแรกของผมที่ได้ขึ้นไปบนเรือหลวงตัวจริง เสียงจริง หลังจากที่ได้เห็นแต่ในโทรทัศน์มานาน
_________________ Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.
Last edited by ExtendeD on 02/12/2007 7:49 pm; edited 1 time in total |
|
Back to top |
|
|
ExtendeD
1st Class Pass (Air)
Joined: 04/07/2006 Posts: 9054
Location: สังกัดหน่วยสำรวจสะพาน ตะลอนทั่วราชอาณาจักร
|
Posted: 25/11/2007 3:50 pm Post subject: |
|
|
เพียงแค่ก้าวขึ้นมาบนเรือก็รับรู้ได้ถึงความยิ่งใหญ่ของเรือหลวงสิมิลันลำนี้ครับ ภาพแรกที่ได้เห็นก็คือมีพี่ ๆ น้อง ๆ ทหารเรืออยู่ข้างบนเรือกันหลายสิบคน แต่ผมกลับไม่รู้สึกว่าบริเวณนั้นคับแคบเลยแม้แต่น้อย
การเดินชมเรือหลวงสิมิลันก็จะมีลูกศรกำหนดทิศทางให้เดินครับ แล้วก็จะเห็นป้ายเขตหวงห้ามติดอยู่ด้านหน้าประตูหลายบาน ก็เลยไม่มีรูปภายในเรือหลวงสิมิลันมาให้ดูกันนะครับ แต่บอกได้ว่าเท่าที่จำได้ข้างในนั้นก็มีทั้งห้องพัก ห้องสมุด บริเวณที่รับ - ส่งเสบียง ห้องบังคับการ และที่สำคัญที่สุดก็คือห้องครัวครับ ส่วนรูปร่างหน้าตาก็เหมือน ๆ กับที่เห็นในหนังฝรั่งนั่นล่ะครับ
ถ้าหากมาเยี่ยมชมเป็นหมู่คณะจะมีพี่ ๆ ทหารเรือพาเดินชมบริเวณต่าง ๆ ภายในเรือหลวงสิมิลันครับ ในตอนนั้นผมก็เลยให้เจ้าตี๋แอบเนียนเดินเข้าไปรวมกับนักท่องเที่ยวกลุ่มหนึ่ง โดยมีผมกับน้องพีเดินตามไปห่าง ๆ คอยเงี่ยหูฟัง แล้วช่วยกันเก็บข้อมูลมาให้ได้มากที่สุด เท่าที่หน่วยสืบราชการลับจดข้อมูลมาได้ก็มีดังนี้
- เรือหลวงจักรีนฤเบศร เพิ่งจะเข้าอู่ซ่อมวันนี้ ( 15 ตุลาคม ) นี่เอง มีกำหนดซ่อมประมาณ 45 วัน ( ให้มันได้อย่างนี้สิ )
- เรือหลวงสิมิลันเป็นเรือลำเลียงน้ำมัน และเสบียงเพื่อส่งให้กับเรือหลวงจักรีนฤเบศร อีกต่อหนึ่ง
- เรือหลวงสิมิลันนั้นมีเพียงแค่ลานจอดเฮลิคอปเตอร์เท่านั้น ไม่มีลานให้เครื่องบินรบทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า ( เขาเรียกว่าอะไร ผมได้ยินไม่ถนัด ) เหมือนกับเรือหลวงจักรีนฤเบศร
แอบเนียนเดินตามนักท่องเที่ยวกลุ่มนั้นมาจนถึงบริเวณที่มีร้านขายของที่ระลึก รวมไปถึงขนมและน้ำดื่มที่เห็นอยู่นี้ ผมก็พาเจ้าตี๋กับน้องพี แยกตัวออกมา ก่อนที่เขาจะรู้ตัว
ผมปล่อยให้เจ้าตี๋ พาน้องพีไปเลือกซื้อขนมตามสบาย แต่ต้องไม่เกินงบที่ให้ไป ( 20 บาท ล้อเล่นครับ ) ส่วนผมก็มาเดินเก็บรายละเอียดในบริเวณที่อยู่ใกล้ ๆ กัน ซึ่งก็จะมีทั้งแบบจำลองของเรือหลวงสิมิลัน...
ป้ายแสดงประวัติความเป็นมา รวมถึงภารกิจหลักของเรือหลวงสิมิลัน
ข้อมูลตามป้าย wrote: | ร.ล.สิมิลัน ( H.T.M.S. SIMILAN ) เป็นเรือประเภท เรือส่งกำลังบำรุงขนาดใหญ่ มีระวางขับน้ำเต็มที่ 22,000 ตัน ซึ่งถือว่าเป็นเรือรบที่มีระวางขับน้ำมากที่สุดในภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีขีดความสามารถที่สำคัญคือ มีระบบรับ - ส่งสิ่งของในทะเลที่มีความทันสมัย และเป็นมาตรฐานสากลของประเทศเนเธอแลนด์ สามารถส่งกำลังบำรุงให้กับเรือในทะเลได้ทั้งของแข็ง ( เสบียงแห้ง, เสบียงสด ) และของเหลว ( น้ำมันเชื้อเพลิง, น้ำจืด ) |
ข้อมูลตามป้าย wrote: | ประวัติความเป็นมา
เนื่องด้วยกองทัพเรือมีเรือขนาดใหญ่ ประกอบด้วยเรือคอร์เวต, เรือฟริเกต และเรือบรรทุกเฮลิคอปเตอร์ การจะทำให้เรือเหล่านี้สามารถปฏิบัติการในทะเลได้อย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน โดยไม่ต้องกลับเข้ามาที่ฐานทัพจำเป็นต้องมีเรือส่งกำลังบำรุงที่สามารถให้การสนับสนุนแก่เรือดังกล่าวได้ กองทัพเรือจึงได้ลงนามว่าจ้างต่อเรือลำนี้จากประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยทำการต่อเรือที่อู่ต่อเรือหูตง เมืองเซี่ยงไฮ้ ประกอบพิธีวางกระดูกงูเรือเมื่อ 8 มิ.ย. 38 และขึ้นระวางประจำการใน 12 ส.ค. 39 |
ข้อมูลตามป้าย wrote: | ในปีพ.ศ. 2539 ช่วงที่กำลังดำเนินการต่อสร้างเรือและติดตั้งอุปกรณ์ต่าง ๆ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเสด็จไปทอดพระเนตรบน ร.ล.สิมิลัน ณ ท่าเทียบเรือหูตง ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน นอกจากนั้นแล้วในปีเดียวกันยังเสด็จประทับแรมบน ร.ล.สิมิลัน ในวโรกาสเสด็จปฏบัติพระราชกรณียกิจหมู่เกาะอันดามันและนิโคบาร์ ประเทศอินเดีย ซึ่งถือว่าเป็นพระมหากรุณาธิคุณ ที่ทรงให้ความสำคัญกับ ร.ล.สิมิลัน และกองทัพเรืออย่างหาที่สุดมิได้ |
ข้อมูลตามป้าย wrote: | ภารกิจหลัก
สนับสนุนและส่งกำลังบำรุงให้กับกองเรือในทะเล
ภารกิจรอง
๑. การสนับสนุนด้านการรักษาพยาบาล
๒. การสนับสนุนการซ่อมบำรุง
๓. การบรรเทาสาธารณภัย
๔. การลำเลียงผู้อพยพ
๕. การควบคุมมลภาวะในทะเล
๖. การค้นหา ช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางทะเล |
_________________ Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.
Last edited by ExtendeD on 02/12/2007 7:51 pm; edited 1 time in total |
|
Back to top |
|
|
ExtendeD
1st Class Pass (Air)
Joined: 04/07/2006 Posts: 9054
Location: สังกัดหน่วยสำรวจสะพาน ตะลอนทั่วราชอาณาจักร
|
Posted: 25/11/2007 5:04 pm Post subject: |
|
|
navy_blue wrote: | พี่เต้ยเคยได้ยินเสียงนกหวีดเรือหรือเปล่าครับ เสียงมันจะสูงๆ |
เสียงที่ว่านี้ พี่ไม่ได้ยินครับ
พี่ติดตาติดใจทั้งหาดนางรำ แล้วก็ที่ร.ล. สิมิลันเลยครับ ถ้ามีโอกาสแวะไปอีกครั้งแน่ ๆ ครับ
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ที่ด้านท้ายเรือที่อยู่ในบริเวณชั้นเดียวกับร้านขายของนั้น จะเป็นลานกว้าง ๆ มีธงติดอยู่ด้วยครับ ได้ยินแว่ว ๆ มาว่า ที่ต้องติดธงเอาไว้ที่ท้ายเรือด้วยครับ
เดินเข้าไปดูที่ธงกันสักหน่อย ที่ธงนี้มีสัญลักษณ์รูปช้างติดอยู่ตรงกลางครับ เป็นสัญลักษณ์ของกองทัพเรือไทย ผมหาจังหวะที่ลมพัดธงให้เห็นชัด ๆ ทั้งผืนไม่ได้เลยครับ ลมแรงจริง ๆ จะบอกว่าตัวแทบปลิว เดี๋ยวก็มีคนหาว่าโม้ ไม่เชื่อก็ไปยืนตรงนั้นดูเอาเองครับ ชวนให้ไปเที่ยวสุด ๆ ผมว่าไปหางานใหม่ทำเป็นประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวดีกว่า อายุขนาดนี้ หน้าตาประมาณนี้ จะมีใครรับเข้าทำงานหรือเปล่าเนี่ย...
ไปเกาะท้ายเรือครับ พี่ทหารคนนั้นบอกว่าเรือทั้ง 2 ลำที่เห็นจอดอยู่ในรูปนี้ ก็เปิดให้ขึ้นไปเยี่ยมชมได้เช่นกันครับ แต่ดูจากเวลา คงไม่ทันแล้วล่ะครับ แค่กว่าจะเดินดูจนทั่วเรือหลวงสิมิลันนี้ลำเดียว ก็เกือบจะได้เวลาที่นัดกับพี่ ๆ มอเตอร์ไซค์รับจ้างเอาไว้แล้วครับ เอาไว้ปีหน้าฟ้าใหม่ค่อยแอบซุ่มมาแก้ตัวอีกที
จากท้ายเรือเดินมาตามทางเดินที่อยู่ด้านข้างครับ เดินผ่านมาใต้เรือบดที่แขวนอยู่ด้านบน ไม่ต้องกลัวว่ามันจะหล่นลงมานะครับ มีการยึดเอาไว้อย่างดี หรือไม่อย่างนั้นก็ถือซะว่า แม้ไม่ได้เป็นทหารก็ได้มาพลีชีพบนเรือหลวง ตายสมศักดิ์ศรีแล้วครับ
เดินมาถึงบริเวณหัวเรือ ไปสะดุดตากับความใหญ่โตอลังการของเชือกและโซ่คู่นี้ครับ ใหญ่มาก 2 มือกำไม่มิดครับ เชือกนั้นใช้คล้องเอาไว้กับหมุดที่ปักอยู่บริเวณท่าเรือ ส่วนโซ่นั้นก็คือโซ่ที่มีสมอเรือติดอยู่ครับ
_________________ Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.
Last edited by ExtendeD on 02/12/2007 7:52 pm; edited 1 time in total |
|
Back to top |
|
|
Adithepc20
1st Class Pass (Air)
Joined: 05/07/2006 Posts: 3403
Location: ลาดพร้าว 71 หรือ ชานเมือง 9
|
Posted: 25/11/2007 5:19 pm Post subject: |
|
|
รอชมภาพการเดินทางชุดใหม่จากพี่เต้ยต่อไปครับ _________________ ฮิตาชิ 4506 ขณะทำขบวนรถสินค้าที่ 879 ออกจากสถานีชุมทางศรีราชา วันที่ 20 เม.ย. 2553 เวลา 16.50 น.
|
|
Back to top |
|
|
ExtendeD
1st Class Pass (Air)
Joined: 04/07/2006 Posts: 9054
Location: สังกัดหน่วยสำรวจสะพาน ตะลอนทั่วราชอาณาจักร
|
Posted: 25/11/2007 5:29 pm Post subject: |
|
|
ข้างบนนั้นคือห้องบังคับการ เป็นเขตหวงห้ามครับ ผมได้แต่เอามือป้องแล้วส่องดูผ่านกระจกเข้าไป เห็นแล้วก็คิดถึงหนังหลาย ๆ เรื่องที่เคยได้ดูเลยล่ะครับ
เดินไปดูบริเวณหัวเรือครับ เกาะที่เห็นอยู่นี้ ได้ยินพี่เขาบอกว่าคือ " เกาะขาม " ครับ แต่เกาะไหนล่ะเนี่ย มีตั้งหลายเกาะ
เดินถอยกลับมาทางช่วงกลางของเรือ จะมีบันไดขึ้นไปบนดาดฟ้าอีก 1 ชั้นครับ ไหน ๆ ก็มาแล้ว เดินขึ้นไปเลยครับ
นี่คือบรรยากาศที่ได้เห็นเมื่อขึ้นมายืนอยู่ที่ชั้นบนสุดครับ มองไปไกลสุดตาเลยล่ะครับ เห็นพี่เขาบอกว่าที่ธงหัวเรือนี้มีแม่ย่านางเรือด้วยล่ะครับ แล้วธงชาติที่ติดอยู่ที่หัวเรือนี้เป็นธงที่ติดไว้เพื่อบอกสัญชาติของเรือลำนั้น ๆ ครับ
ส่งท้ายสำหรับเรือหลวงสิมิลันด้วยเจ้านี่ครับ ไฟสัญญาณ หรือ ไฟสื่อสารครับ ที่เคยเห็นในหนัง จะเปิด ปิด เปิด ปิด เป็นสัญญาณวาบ ๆ ครับ
_________________ Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.
Last edited by ExtendeD on 02/12/2007 7:53 pm; edited 1 time in total |
|
Back to top |
|
|
the_nut
3rd Class Pass (Air)
Joined: 03/07/2006 Posts: 280
Location: ดินแดง
|
Posted: 25/11/2007 7:37 pm Post subject: |
|
|
ภาพสวยพร้อมรายละเอียดเป๊ะๆเหมือนเดิมเลยครับ ผมล่ะชอบจริงๆ
รอติดตามครับ(เพราะไปเที่ยวเองไม่ได้ ) _________________
Last edited by the_nut on 25/11/2007 9:51 pm; edited 1 time in total |
|
Back to top |
|
|
New_Henry
2nd Class Pass
Joined: 19/11/2006 Posts: 562
Location: สถานีรถไฟ
|
Posted: 25/11/2007 7:50 pm Post subject: |
|
|
จะรอชมไปจนจบรายการเลยครับ... _________________
|
|
Back to top |
|
|
|