View previous topic :: View next topic
Author
Message
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 44667
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 11/09/2015 11:17 am Post subject:
อุดรฯยื่น 7 ข้อเสนอ รองรับรถไฟทางคู่ผ่านเมือง
โพสต์ทูเดย์ 11 กันยายน 2558 เวลา 09:38 น.
โดย...ยุทธพงษ์ กำหนดแน่
แม้แผนการก่อสร้างรถไฟทางคู่ กทม.-หนองคาย ช่วงผ่าน จ.อุดรธานี จะก่อสร้างตามแนวรางเดิม ซึ่งตัวสถานีอุดรธานีนั้นก็จะสร้างบริเวณสถานีรถไฟเดิม ซึ่งกระทบต่อยุทธศาสตร์ย้ายการรับส่งสินค้าออกไปที่สถานีรถไฟหนองตะไก้ ต.โนนสูง อ.เมืองอุดรธานี ซึ่งจะเป็น"คอนเทนเนอร์ยาร์ด" ซึ่งปัจจุบันมีการขนส่งยางแท่งด้วยรถไฟไปยังท่าเรือและนิคมอุตสาหกรรมชายฝั่งทะเลภาคตะวันออก
อย่างไรก็ตาม ภาครัฐและเอกชนอุดรธานีก็ยังยืนยันที่จะพัฒนาสถานีหนองตะไก้ให้เป็นพื้นที่ขนส่งสินค้าเช่นเดิม โดยเสนอให้สถานีอุดรธานีเป็นจุดเฉพาะการรับ-ส่งผู้โดยสาร ส่วนการขนส่งสินค้านั้นให้ใช้สถานีหนองตะไก้ ซึ่งจากการประชุมร่วมกันระหว่างเทศบาลนครอุดรธานี การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) อิทธิพนธ์ ตรีวัฒนสุวรรณ นายกเทศมนตรีนครอุดรธานี พร้อมด้วยผู้นำชุมชน 23 ชุมชนที่ติดทางรถไฟ ก็ได้ยื่นข้อเสนอ 7 ข้อถึง รฟท.
ข้อเสนอทั้ง 7 ประกอบด้วย
1.ขอให้ยกระดับทางรถไฟทั้งหมดช่วงผ่านเมือง เหมือนกับโครงการรถไฟทางคู่ความเร็วปานกลาง
2.ก่อสร้างและคงไว้คลองและถนนเลียบคู่ขนานทางรถไฟ แก้ปัญหาน้ำท่วมเมือง
3.การเวนคืนผู้เช่าในพื้นที่การรถไฟฯ ให้พิจารณาตามจริง
4.ขอเป็นสถานีเฉพาะส่งผู้โดยสาร ส่วนสินค้าให้ดำเนินการนอกเมือง หรือที่ จ.อุดรธานี พิจารณาเลือกที่สถานีหนองตะไก้
5.พื้นที่ด้านล่างทางยกระดับ ขอจัดเป็นพื้นที่สีเขียว เป็นปอดของเมือง
6.จัดพื้นที่จอดรถขนส่งมวลชน แยกคนละส่วนกับพื้นที่จอดรถอื่น รองรับขนส่งมวลชนในอนาคต อาทิ รถราง รถเมล์ติดแอร์และ
7.ถนนด้านศาลเจ้าปู่ย่า ขอเชื่อมทางเข้าออกนอกเหนือจากทางเข้าหลักถนนทองใหญ่
ด้าน วีระ ศานติวรกุล ผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรม กล่าวว่า ในส่วนของเทศบาลนครอุดรธานีที่มีสถานีรถไฟอุดรธานีเป็นจุดสำคัญที่จะต้องพัฒนา เบื้องต้นศึกษาไว้ 2 แนวทาง คือ สถานีระดับดินหรือสถานียกระดับ แต่ค่อนข้างแน่นอนว่าจะทำการก่อสร้างแบบยกระดับ
ทั้งนี้ โครงการรถไฟทางคู่ดังกล่าวเริ่มต้นจากสถานีรถไฟนครราชสีมา สิ้นสุดโครงการที่สถานีรถไฟหนองคาย ผ่านพื้นที่ 4 จังหวัด คือ นครราชสีมา ขอนแก่น อุดรธานี และหนองคาย ระยะทางประมาณ 355 กิโลเมตร เป็นทางคู่ขนาดทางมาตรฐาน 1.435 เมตร วางขนานด้านทิศตะวันออกไปกับแนวเส้นทางรถไฟทางคู่ของ รฟท. รองรับรถไฟความเร็วสูงสุด 200 กิโลเมตร/ชั่วโมง ขบวนรถสินค้าวิ่งร่วมด้วยความเร็ว 120 กิโลเมตร/ชั่วโมง มูลค่าโครงการประมาณ 235,325 ล้านบาท รัฐบาลได้กำหนดเป้าหมายให้สามารถเปิดให้บริการได้ในปี 2565
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 44667
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 11/09/2015 6:15 pm Post subject:
โครงการศึกษาและออกแบบระบบรถไฟทางคู่ ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า ช่วงหาดใหญ่ ปาดังเบซาร์
Back to top
ksomchai
1st Class Pass (Air) Joined: 08/04/2009 Posts: 6384
Location: เมืองทองเนื้อเก้า มะพร้าว สัปรด สวยสดหาด เขา ถ้ำ งามล้ำน้ำใจ ป่าชุ่มน้ำผืนใหญ่ แหล่งวางไข่ปลาทู
Posted: 11/09/2015 8:23 pm Post subject:
Mongwin wrote: อุดรฯยื่น 7 ข้อเสนอ รองรับรถไฟทางคู่ผ่านเมือง
โพสต์ทูเดย์ 11 กันยายน 2558 เวลา 09:38 น.
โดย...ยุทธพงษ์ กำหนดแน่
ฯลฯ
ทั้งนี้ โครงการรถไฟทางคู่ดังกล่าวเริ่มต้นจากสถานีรถไฟนครราชสีมา สิ้นสุดโครงการที่สถานีรถไฟหนองคาย ผ่านพื้นที่ 4 จังหวัด คือ นครราชสีมา ขอนแก่น อุดรธานี และหนองคาย ระยะทางประมาณ 355 กิโลเมตร เป็นทางคู่ขนาดทางมาตรฐาน 1.435 เมตร วางขนานด้านทิศตะวันออกไปกับแนวเส้นทางรถไฟทางคู่ของ รฟท. รองรับรถไฟความเร็วสูงสุด 200 กิโลเมตร/ชั่วโมง ขบวนรถสินค้าวิ่งร่วมด้วยความเร็ว 120 กิโลเมตร/ชั่วโมง มูลค่าโครงการประมาณ 235,325 ล้านบาท รัฐบาลได้กำหนดเป้าหมายให้สามารถเปิดให้บริการได้ในปี 2565
สรุปว่า อนาคต จะมีทั้งทางคู ๑ เมตร และทางคู่ ๑.๔๓๕ เมตร วิ่งขนานกันไป ๔ ทาง ขึ้น-ล่อง นะครับ _________________
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42753
Location: NECTEC
Posted: 14/09/2015 10:06 am Post subject:
การรถไฟแห่งประเทศไทย เตรียมลงพื้นที่รับฟังความคิดเห็นโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงสุราษฎร์ธานี ชุมทางหาดใหญ่- สงขลา ขานรับนโยบายรัฐบาลในการส่งเสริมการลงทุนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งสาธารณะ เชื่อมโยงระหว่างประเทศ
แหล่งที่มา : สวท.สงขลา
วันที่ข่าว : 14 กันยายน 2558
การรถไฟแห่งประเทศไทย เตรียมลงพื้นที่รับฟังความคิดเห็นโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงสุราษฎร์ธานี ชุมทางหาดใหญ่- สงขลา ขานรับนโยบายรัฐบาลในการส่งเสริมการลงทุนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งสาธารณะ เชื่อมโยงระหว่างประเทศ ลดระยะเวลาในการเดินทาง
นายวรรณนพ ไพศาลพงศ์ รองวิศวกรใหญ่ด้านการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน การรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า การรถไฟแห่งประเทศไทยได้ดำเนินโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงสุราษฎร์ธานี ชุมทางหาดใหญ่- สงขลา เพื่อให้การพัฒนาโครงข่ายรถไฟทางคู่สอดคล้องกับแนวทางการแก้ไขปัญหาตามมติของคณะรัฐมนตรี (ครม.) และนโยบายที่ส่งเสริมการลงทุนในโครงข่ายที่สำคัญของประเทศ เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งสาธารณะ ทั้งในพื้นที่ชนบท พื้นที่เมือง และเชื่อมโยงระหว่างประเทศ ช่วยลดระยะเวลาในการเดินทาง ช่วยประหยัดพลังงานเชื้อเพลิง ตามเส้นทางคมนาคมสีเขียว รวมทั้งเพื่อศักยภาพในการบริการขนส่งสินค้าและการท่องเที่ยวตามสถานที่ที่สำคัญในเขตภาคใต้
ในการนี้ การรถไฟแห่งประเทศไทย ได้เล็งเห็นความสำคัญของการมีส่วนร่วมภาคประชาชนในพื้นที่โครงการ ตลอดจนส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะเป็นประโยชน์สูงสุดต่อโครงการงานบริการที่ปรึกษา เพื่อศึกษาความเหมาะสมและออกแบบรายละเอียดโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงสุราษฎร์ธานี ชุมทางหาดใหญ่- สงขลา จึงได้กำหนดเปิดเวทีประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ครั้งที่ 1 ในวันจันทร์ที่ 21 กันยายน 2558 เวลา 08.30 12.00 น. ณ ห้องเก้าแสน ชั้น 9 โรงแรมลี การ์เดนส์ พลาซ่า อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เพื่อแนะนำรายละเอียดเบื้องต้นโครงการ อาทิ เหตุผลและความจำเป็นในการดำเนินโครงการ , วัตถุประสงค์ , พื้นที่ศึกษาโครงการ , แนวทางขั้นตอนการศึกษา , ขอบเขตและระยะเวลาการศึกษา , แนวคิดการออกแบบเบื้องต้น ตลอดจนแนวทางการศึกษาด้านสิ่งแวดล้อม และขั้นตอนการดำเนินโครงการ พร้อมรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากกลุ่มเป้าหมาย เพื่อนำมาพิจารณาประกอบการศึกษาความเหมาะสมของโครงการเพื่อลดผลกระทบให้มากที่สุดต่อไป
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 44667
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 14/09/2015 7:30 pm Post subject:
ร.ฟ.ท.เตรียมสรุปรายละเอียดโครงการรถไฟทางคู่เสนอ ครม.
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 14 กันยายน 2558 19:10 น.
นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย หรือ ร.ฟ.ท. เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ที่อยู่ในความดูแลของ ร.ฟ.ท. ว่า ที่ผ่านมาได้ทำรายละเอียดโครงการในลักษณะรวมโครงการเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีแล้ว ซึ่งจะต้องกลับมาสรุปรายละเอียดใหม่อีกครั้ง โดยการแยกเป็นรายละเอียดแต่ละโครงการให้ชัดเจนในทั้งหมด 4 เส้นทาง ประกอบด้วย
- เส้นทางลพบุรี ปากน้ำโพ ระยะทาง 148 กิโลเมตร วงเงิน 24,842.44 ล้านบาท
- เส้นทางนครปฐม หัวหิน ระยะทาง 165 กิโลเมตร วงเงิน 20,038 ล้านบาท
- เส้นทางประจวบศีรีขันธ์-ชุมพร ระยะทาง 167 กิโลเมตร วงเงิน 17,929.53 ล้านบาท และ
- เส้นทางสายมาบกะเบา - ชุมทางถนนจิระ ระยะทาง 132 กิโลเมตร วงเงิน 29,855.08 ล้านบาท
ซึ่งภายในสัปดาห์นี้ ร.ฟ.ท.จะส่งรายละเอียดโครงการทั้ง 4 เส้นทางมายังกระทรวงคมนาคมก่อนที่จะนำเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีอนุมัติโครงการอีกครั้ง
ขณะที่ขั้นตอนศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม อยู่ระหว่างทำการศึกษา ซึ่งเป็นลักษณะดำเนินการควบคู่กันไป พร้อมมั่นใจว่าภายในปลายปีนี้ ร.ฟ.ท.จะสามารถเปิดประกวดราคาโครงสร้างพื้นฐานในความดูแลได้ทั้ง 6 เส้นทาง ซึ่งรวมถึง
- เส้นทางช่วงฉะเชิงเทรา - คลองสิบเก้า - แก่งคอย ระยะทาง 106 กิโลเมตร วงเงิน 10,524.88 ล้านบาท และ
- ช่วงชุมทางถนนจิระ - ขอนแก่น ระยะทาง 187 กิโลเมตร วงเงิน 24,000 ล้านบาท
และในการประชุมคณะกรรมการ ร.ฟ.ท. วันที่ 29 กันยายนนี้ จะมีการนำรายละเอียดโครงการช่วงชุมทางถนนจิระ - ขอนแก่น เสนอต่อที่ประชุมก่อนที่จะเปิดขายซองได้ในวันที่ 30 กันยายนนี้
Back to top
Aesthetics
3rd Class Pass Joined: 31/07/2015 Posts: 30
Posted: 14/09/2015 9:14 pm Post subject:
Mongwin wrote: โครงการศึกษาและออกแบบระบบรถไฟทางคู่ ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า ช่วงหาดใหญ่ ปาดังเบซาร์
ถ้าสังเกตจากแผนที่ สนามบินหาดใหญ่ก็ห่างจากแนวรางประมาณ 10 กม ถ้าสร้างแอร์พอร์ตลิงค์แบบประหยัด แบบชุดสุดค้ม แบบรางเดี่ยว มีสถานีระหว่างทางไว้หลีก 2-3 สถานี ไปลิ้งค์กับรางเดิม ใช้ Kiha 40 หรือ Kiha 150 มือสอง ซ่อมให้ถึง แอร์ฉ่ำๆ ออกจากหาดใหญ่-สนามบินทุก 15-30 นาที หรือจะวิ่งเลยไปถึงพัทลุง ทุก 1 - 2 ชม ให้เวลาเดินรถแน่นอน น่าจะเกิดประโยชน์มากยิ่งขึ้นนะครับ
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42753
Location: NECTEC
Posted: 15/09/2015 4:04 am Post subject:
Aesthetics wrote:
ถ้าสังเกตจากแผนที่ สนามบินหาดใหญ่ก็ห่างจากแนวรางประมาณ 10 กม ถ้าสร้างแอร์พอร์ตลิงค์แบบประหยัด แบบชุดสุดค้ม แบบรางเดี่ยว มีสถานีระหว่างทางไว้หลีก 2-3 สถานี ไปลิ้งค์กับรางเดิม ใช้ Kiha 40 หรือ Kiha 150 มือสอง ซ่อมให้ถึง แอร์ฉ่ำๆ ออกจากหาดใหญ่-สนามบินทุก 15-30 นาที หรือจะวิ่งเลยไปถึงพัทลุง ทุก 1 - 2 ชม ให้เวลาเดินรถแน่นอน น่าจะเกิดประโยชน์มากยิ่งขึ้นนะครับ
กรณี เช่นนี้ ให้ รถไฟสาย ไปปากบรา รับงานเชื่อมสนามบินหาดใหญ่ที่คลองหอยโข่งแทนครับ
ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย มั่นใจภายในปลายปีนี้( 2558) จะสามารถเปิดประมูลรถไฟทางคู่ได้ใน 6 เส้นทาง
ผู้สื่อข่าว : นภสร แก้วคำ(2) / สวท.
ผู้เรียบเรียง : ชนิดา ศรีปัญญา
แหล่งที่มา : Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
14 กันยายน 2558
...
ผู้ว่าการ ร.ฟ.ท. กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงค์ ส่วนต่อขยายพญาไท - บางซื่อ - ดอนเมือง ว่าภายในเดือนกันยายนนี้ ร.ฟ.ท.จะนำเสนอโครงการเพื่อขออนุมัติ ช่วงพญาไท - บางซื่อ ต่อกระทรวงคมนาคมพิจารณาก่อนเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ส่วนช่วงบางซื่อ - ดอนเมือง จะต้องรอความชัดเจนการปรับเปลี่ยนการก่อสร้างสถานีกลางบางซื่อ และความชัดเจนของโครงการความร่วมมือพัฒนาระบบขนส่งทางรางของไทยระหว่างไทย - จีน และไทย - ญี่ปุ่นก่อนจึงจะได้ข้อสรุปโครงการ รวมถึงการศึกษารายละเอียดโครงการมิสซิ่งลิ้งค์เชื่อมโยงหัวลำโพง - บางซื่อ
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42753
Location: NECTEC
Posted: 15/09/2015 11:12 pm Post subject:
ในกรณีทางคู่ขอนแก่น - หนองคาย จะออกแบบดั่งนี้
1. สถานีอุดรธานี ระดับดิน
https://www.facebook.com/railkhonkaen.nongkhai/photos/pb.740559992719937.-2207520000.1442332262./790049691104300/
2. สถานีอุดรธานี ลอยฟ้า
https://www.facebook.com/railkhonkaen.nongkhai/photos/pb.740559992719937.-2207520000.1442332262./790049711104298/
สนข.ลงพื้นที่ปาดังเบซาร์ ตีตั๋วสำรวจรถไฟฟ้ามาเลเซีย
ข่าวหาดใหญ่ - สงขลา
สงขลาทูเดย์ ข่าวรายวัน
15 สิงหาคม 2558
ผู้บริหาร สนข. ลงพื้นที่ปาดังเบซาร์ นั่ง สำรวจรถไฟฟ้ามาเลเซีย เผยเปิดให้บริการ 2 ขบวน แบบธรรมดาและด่วน พิเศษ เพื่อดูงานรองรับการเชื่อมรถ ไฟฟ้าสายปาดังเบซาร์-หาดใหญ่ ที่ อยู่ระหว่างการศึกษาออกแบบโครง การในขณะนี้
เมื่อปลายเดือนกรกฎาคม 2558 ผู้บริหารสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) กระทรวงคมนาคม ลงพื้นที่ปาดังเบซาร์
อ.สะเดา จ.สงขลา และนั่งไฟฟ้ามาเลเซีย ที่เพิ่งเปิดให้บริการ เมื่อวันที่ 7 และ 11 กรกฎาคมที่ผ่านมา เพื่อศึกษาดูงานในเส้นทาง ปาดังเบซาร์-บัตเตอร์เวอร์ธและบัตเตอร์เวอร์ธ-กัวลาลัมเปอร์ ซึ่งขบวนรถรถไฟฟ้าที่เปิดให้บริการจะเป็น 2 แบบคือ
1. รถไฟฟ้าขบวนธรรมดา (จอดทุกสถานี) และรถไฟฟ้าขบวนด่วนพิเศษ (จอดเฉพาะสถานีจังหวัดหรือเมืองสำคัญ) โดยรถไฟฟ้าขบวนด่วนพิเศษ ปาดังเบซาร์-บัตเตอร์ เวอร์ท จะจอดสถานีสำคัญๆ 5 สถานี ประกอบด้วย อะลอสตาร์, สุไหงปัตตานี. บูกิตปาตายัม, และบัตเตอร์เวอร์ธ
2. ขณะที่รถไฟฟ้าขบวนธรรมดาปาดังเบซาร์-บัตเตอร์เวอร์ธ จะจอดทุกสถานี ทั้งสถานีสำคัญและสถานีย่อย ซึ่งสถานนีย่อยขบวนรถด่วนพิเศษจะไม่จอด เป็นทางเลือกให้กับผู้โดยสารและผู้ใช้บริการ รวมระยะทางปาดังเบซาร์-บัต เตอร์เวอร์ธประมาณ 240 กิโลเมตร
ทั้งสองขบวนจะเป็นรถไฟฟ้าปรับอากาศเหมือนกัน อาจจะมีแตกต่าง กันเรื่องที่นั่งคล้ายกับรถไฟฟ้าใต้ดินที่นั่งหันหน้าเข้าหากัน และมีที่ยืนกรณีผู้ โดยสารหนาแน่น ต่างกันตรงที่การจอด สถานี รถไฟฟ้าขบวนธรรมดาจะจอดทุก สถานี ในขณะที่รถไฟฟ้าขบวนด่วนพิเศษจะจอดเฉพาะสถานีจังหวัดหรือเมืองสำคัญเท่านั้น ตารางเวลาของขบวนรถไฟฟ้ามาเลเซียทั้งสองขบวน (เวลามาเซียจะเร็วกว่าของไทย 1 ชั่วโมง) เริ่มที่รถไฟฟ้าขบวนธรรมดา สถานีต้นทางคือ อีโปร์ (ก่อนถึงกัวลาลัมเปอร์) 05.00 น. (ตอนเช้า) มาถึงสถานบัตเตอร์เวอร์ธประมาณ 05.50 น. ใช้เวลาประมาณ 50 นาที จอดที่สถานีบัตเตอร์เวอร์ธ ประมาณ 40 นาที ก่อนจะออกจากบัตเตอร์เวอร์ธประมาณ 06.00 น.กว่า และถึงสถานีปาดังเบซาร์ประมาณ 09.15 น. ซึ่งจะจอดที่สถานีปาดังเบซาร์ประมาณ 3-4 ชั่วโมง ก่อนจะเดินทางออกจากสถานีปาดังเบซาร์ในเวลา 15.00 น.
ส่วนรถไฟฟ้าขบวนด่วนพิเศษเริ่มต้นจากสถานีต้นทางกัวลาลัมเปอร์ ออกจากสถานนีกัวลาลัมเปอร์ เวลา 09.15 น. จะเดินทางถึงสถานีปาดังเบซาร์ เวลา 15.00 น. ก่อนจะเดินทางออกจากสถานี ปาดังเบซาร์ เวลา 16.00 น. ไปถึงสถานีบัต เตอร์เวอร์ธ ประมาณ 17.00 น.เศษ หลังจากนั้นก็จะเดินทางออกจากสถานีบัตเตอร์เวอรธ์ ไปยังสถานีกัวลาลัมเปอร์ ซึ่งเป็นสถานีต้นทาง
จากการพูดคุยกับเจ้าหน้าที่มาเลเซียตามแนวในการเปิดให้บริการรถไฟฟ้าปลายปี (2558) จะเปิดให้บริการวันละ 20 เที่ยว โดยจะมีรถไฟฟ้าทุกครึ่งชั่วโมงตามแผนที่กำหนดไว้ทั้งรถไฟฟ้าขบวนธรรมดาและรถไฟฟ้าขบวนด่วนพิเศษ ทั้งหมดจะวิ่งมาถึงสถานีปาดังเบซาร์ทั้งหมด ตอนนี้อยู่ระหว่างการบริหารเวลาของเขาอยู่ หากมีการเปิดได้ครบทั้ง 20 เที่ยว? นอกจากนี้ ปัจจุบันมาเลเซียมีรถด่วนลังกาวี ซึ่งจะออกจากกัวลาลัมเปอร์ 4 ทุ่ม 15 นาที มาถึงปาดังเบซาร์ เวลา 07.40 น.และจะออกจากสถานีปาดังเบซาร์เวลา 08.30 น. ไปยังสถานีชุมทางหาดใหญ่ ตรงนี้ทางมาเลเซียกำลังอยู่ใน ระหว่างการพิจารณาเรื่องการบริหารเวลา เพื่อให้สอดคล้องกับการเดินทางของผู้โดยสารของรถไฟฟ้าทั้ง 2 ขบวนที่เพิ่งเปิดให้บริการ สำหรับจำนวนตู้รถไฟฟ้าขบวนธรรมดากับรถไฟฟ้าขบวนด่วนพิเศษทั้งสองขบวนมีประมาณ 6 ตู้ๆ ละประมาณ 80 ที่นั่ง ส่วนจำนวนผู้โดยสารที่ใช้บริการรถไฟฟ้าทั้งสองขบวนเริ่มต้นวัน-สองวันแรกยังไม่คึกคึก แต่ตอนนี้ทั้งมาเลเซียและคนไทยที่เดินทางเข้าไปทำงานในมาเลเซียนิยมเดินทางมากขึ้น
โดยความเร็วของรถไฟฟ้าทั้งสอง ขบวนใช้ความเร็วไม่น้อยกว่า 140 กิโล เมตรต่อชั่วโมง ใช้เวลาจากสถานีกัวลา ลัมเปอร์ จนถึงสถานีปาดังเบซาร์ใช้เวลา ประมาณ 5 ชั่วโมงครึ่ง ทั้งสองขบวน โดย อัตราค่าโดยสาระหว่างรถไฟฟ้าขบวนธรรมดากับขบวนด่วนพิเศษ จะแตกต่างกันประมาณ 50 บาท เท่านั้น ?ยกตัวอย่างจากสถานีปาดังเบซาร์ ไปถึงสถานีอะลอสตาร์ ถ้าเป็นรถ ไฟฟ้าขบวนธรรมดา ราคา 18 เหรียญริง กิตมาเลเซีย ในขณะที่ราคาของรถไฟฟ้าขบวนด่วนพิเศษราคา 23 เหรียญริงกิต มาเลเซีย และรถไฟฟ้าขบวนด่วนพิเศษจากสถานีปาดังเบซาร์ถึงสถานีบัตเตอร์ เวอร์ธ 29 เหรียญริงกิตมาเลเซีย (ประมาณ 290 บาท) และจากปาดังเบซาร์ถึงสถานีกัวลาลัมเปอร์ 88 เหรียญ (ประมาณ 880บาท)? ส่วนรถไฟฟ้าขบวนธรรมดาจากปาดังเบซาร์ ถึงสถานีบัตเตอร์เวอร์ธ 21 เหรียญริงกิตมาเลเซีย (ประมาณ 210 บาท) ใช้เวลาเดินทาง 1 ชั่วโมงเศษ และหากเทียบกับการเดินทางโดยรถยนต์ผ่านทางด่วน (มอเตอร์เวย์)จากปาดังเบซาร์ถึงกัวลาลัมเปอร์ก็จะใช้เวลา 5 ชั่วโมงกว่าเหมือนกัน แต่การเดิน ทางโดยรถยนต์จะมีค่าใช้จ่ายสูงกว่า โดยเฉพาะค่าทางด่วน ซึ่งสูงมาก ขณะเดียวกันการเดินทาง โดยรถ ยนต์จะมีปัญหาในช่วงเข้าเมือง โดยเฉพาะกัวลาลัมเปอร์จะเสียเวลามาก เนื่องจากจะมีปัญหารถติดสำหรับถนนเข้าเมืองทุกเส้นทาง นี่คือจุดอ่อนของการเดินทางโดยรถยนต์ ยกตัวอย่างเดิน ทางโดยรถยนต์จากปาดังเบซาร์ ไปถึง หาดใหญ่ใช้เวลา 1 ชั่วโมงแล้ว เนื่องจากต้องเผื่อเวลารถติดและการจราจรหนาแน่น สำหรับการเดินทางของผู้บริหารสนข.ด้วยการนั่งรถไฟฟ้ามาเลเซียครั้ง นี้ เพื่อศึกษารูปแบบและบริการ เนื่อง จากในขณะนี้สนข.อยู่ระหว่างการศึกษาออกแบบโครงการรถไฟฟ้าสายหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ ซึ่งจะต้องเชื่อมกับรถไฟฟ้าของมาเลเซียในอนาคต
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42753
Location: NECTEC
Posted: 16/09/2015 4:14 pm Post subject:
รฟท.ลุยรถไฟทางคู่สุราษฎร์ฯ-สงขลา เตรียมเปิดรับฟังความเห็น
โดย ไทยรัฐออนไลน์
16 กันยายน 2558 เวลา 13:25 น.
ร.ฟ.ท. เดินหน้าโครงการรถไฟทางคู่ช่วงสุราษฎร์ธานี-ชุมทางหาดใหญ่-สงขลา ระยะทาง 323 กม. เตรียมเปิดรับฟังความคิดเห็นประชาชนครั้งที่ 1 วันที่ 23 ก.ย.นี้...
เมื่อวันที่ 16 ก.ย.2558 นายวรรณนพ ไพศาลพงศ์ รองวิศวกรใหญ่ด้านก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน รักษาราชการแทนวิศวกรใหญ่โครงการพิเศษและก่อสร้างการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) กล่าวว่า การรถไฟแห่งประเทศไทยจ้างกลุ่มบริษัทที่ปรึกษา 6 บริษัท ดำเนินงานโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ช่วงสุราษฎร์ธานี-ชุมทางหาดใหญ่-สงขลา โดยทั้งนี้ โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ช่วงสุราษฎร์ธานี-ชุมทางหาดใหญ่-สงขลา ใช้ระยะเวลา 1 ปี ซึ่งเริ่มตั้งแต่วันที่ 3 ส.ค. สิ้นสุดวันที่ 27 ก.ค. 2559 มีระยะทางรวม 323 กิโลเมตร มีสถานี/ป้ายหยุดรถไฟ 60 แห่ง ผ่านพื้นที่ทั้งหมด 4 จังหวัด คือ
สุราษฎร์ธานี ระยะทาง 67 กิโลเมตร ผ่านพื้นที่ 4 อำเภอ 11 ตำบล จำนวนสถานี/ป้ายหยุดรถไฟ 13 แห่ง
จ.นครศรีธรรมราช ระยะทาง 119 กิโลเมตร ผ่านพื้นที่ 7 อำเภอ 30 ตำบล จำนวนสถานี/ป้ายหยุดรถไฟ 23 แห่ง
จ.พัทลุง ระยะทาง 77 กิโลเมตร ผ่านพื้นที่ 6 อำเภอ 23 ตำบล จำนวนสถานี/ป้ายหยุดรถไฟ 18 แห่ง และ
จ.สงขลา ระยะทาง 60 กิโลเมตร ผ่านพื้นที่ 5 อำเภอ 16 ตำบล จำนวนสถานี/ป้ายหยุดรถไฟ 6 แห่ง
ขณะที่ การออกแบบทางรถไฟเบื้องต้น คือ ก่อสร้างทางรถไฟใหม่ 1 ทาง ในเขตทางเดิม กำหนดความเร็วในการออกแบบไว้ที่ 160 กม./ชม. ก่อสร้างรั้ว 2 ข้างทางรถไฟ เพื่อป้องกันอันตรายตลอดแนวทางรถไฟ ออกแบบจุดตัดทางรถไฟตลอดแนวเส้นทางโครงการเพื่อป้องกันอุบัติเหตุจากทางลักผ่าน และปรับปรุงสถานีให้เหมาะแก่การใช้งานและมีความทันสมัย โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาจุดตัดทางรถไฟจะมีการออกแบบให้เลือกหลายรูปแบบตามความสำคัญของพื้นที่และประโยชน์ที่จะได้รับ เช่น สะพานรถไฟข้ามถนน /สะพานรถยนต์ข้ามทางรถไฟ/ สะพานกลับรถรูปตัวยู (U) และตัวเอช (H) /ทางลอดทางรถไฟ และทางบริการข้างทางรถไฟ เป็นต้น โดยจะไม่มีการเวนคืนพื้นที่เพิ่มเติมแต่อย่างใด แต่จะสร้างในเขตทางรถไฟทั้งหมด ส่วนที่สถานีช่องเขา อ.ทุ่งสง จะมีการเจาะอุโมงค์ระยะทาง 235.9 เมตร.
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 44667
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Back to top