รวมข่าวโครงการรถไฟทางคู่

Wisarut · Posted: 01/08/2016 3:15 pm Post subject:

ร.ฟ.ท.ชงเพิ่มงบสถานีบ้านไผ่1.2พันล.
มติชน
ฉบับวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2559 (กรอบบ่าย)

นายสราวุธ เบญจกุล ประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยว่า ในการประชุมบอร์ดครั้งล่าสุด ที่ประชุมได้พิจารณาอนุมัติให้ ร.ฟ.ท.ทำเรื่องเสนอกระทรวงคมนาคมเพื่อพิจารณาก่อนเสนอขอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติวงเงินค่าก่อสร้างสถานีบ้านไผ่ อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น ภายใต้โครงการรถไฟทางคู่สาย จิระ-ขอนแก่น ระยะทาง 187 กิโลเมตร (กม.) เพิ่มเติมอีกประมาณ 1,200 ล้านบาท จากวงเงินรวมทั้งโครงการอยู่ที่ 2.53 หมื่นล้านบาท หลังจากประชาชนในพื้นที่เห็นว่ารูปแบบเดิมที่สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ออกแบบไว้บดบังทัศนียภาพ และส่งผลให้แยกเมืองออกเป็น 2 ฝั่ง จึงต้องการให้แก้ไขแบบก่อสร้างใหม่ให้เหมาะสม

"การออกแบบสถานีบ้านไผ่ที่กำหนดไว้จะเป็นสถานีระดับคันดินซึ่งบดบังทัศนียภาพในพื้นที่ ชาวบ้านจึงต้องการให้ก่อสร้างเหมือนสถานีขอนแก่น ทางบอร์ด ร.ฟ.ท.จึงเห็นชอบและได้อนุมัติให้ดำเนินการตามแบบใหม่ ซึ่งจะต้องขออนุมัติวงเงินค่าก่อสร้างในเส้นทางก่อสร้างรถไฟทางคู่จิระ-ขอนแก่นเพิ่มเติม" นายสราวุธกล่าว

นายสราวุธกล่าวว่า นอกจากนี้บอร์ดยังได้อนุมัติให้ดำเนินการจัดหาว่าจ้างที่ปรึกษาควบคุมงานโครงการรถไฟทางคู่ 4 เส้นทาง คือ สาย มาบกะเบา-จิระ ระยะทาง 132 กม. วงเงิน 29,853 ล้านบาท สายนครปฐม-หัวหิน ระยะทาง 165 กม. วงเงิน 20,306 ล้านบาท สายประจวบคีรีขันธ์ชุมพร ระยะทาง 167 กม. วงเงิน 17,290 ล้านบาท และสายลพบุรี-ปากน้ำโพ ระยะทาง 148 กม. วงเงิน 24,840 ล้านบาท โดยอนุมัติว่าจ้างที่ปรึกษาประมาณ 2,000 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการคัดเลือกบริษัทที่ปรึกษาควบคุมงาน คาดว่าจะได้ที่ปรึกษาภายในเดือนตุลาคมนี้

นายสราวุธกล่าวว่า ที่ประชุมบอร์ด ร.ฟ.ท. ยังอนุมัติให้ ร.ฟ.ท.เดินรถเชื่อมต่อเพื่อให้บริการประชาชนที่ใช้บริการรถไฟฟ้าใต้ดินเอ็มอาร์ที สามารถเชื่อมต่อการเดินทางกับรถไฟฟ้าสายสีม่วงช่วงเตาปูน-บางใหญ่ ระหว่างสถานีบางซื่อและสถานีเตาปูน รวมระยะทาง 1 สถานี หรือ 1 กม.ด้วย โดยการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) จะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ สำหรับการให้บริการเดินรถดังกล่าวจะเปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 6 สิงหาคม 2559- 5 สิงหาคม 2560 รวมระยะเวลา 12 เดือน ในช่วงชั่วโมงเร่งด่วน เช้าระหว่างเวลา 06.30-09.30 น. จะให้บริการจำนวน 24 เที่ยว และช่วงเย็นระหว่างเวลา 16.30-20.30 น. ให้บริการจำนวน 32 เที่ยว
//---------

ของบเพิ่ม 1200 ล้านบาททำสถานีบ้านไผ่เป็นสถานีลอยฟ้า เหมือนสถานีขอนแก่น ตามที่คนบ้านไผ่เรียกร้อง
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=1410706712276723&set=a.109195855761155.16402.100000122231436&type=3&theater

Mongwin · Posted: 04/08/2016 5:31 pm Post subject:

ติดตามความคืบหน้า...
การก่อสร้างรถไฟทางคู่ ชุมทางถนนจิระ - ขอนแก่น

https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=1766456453567172&id=100006085021713

Wisarut · Posted: 05/08/2016 8:17 pm Post subject:

เช็ก 20 โปรเจกต์เร่งด่วนคมนาคม รถไฟทางคู่อืด โดนรื้อ TOR แก้ปมล็อกสเปก
โดย MGR Online
5 สิงหาคม 2559 15:39 น. (แก้ไขล่าสุด 5 สิงหาคม 2559 17:00 น.)

โครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่ง ตามแผนปฏิบัติการ (Action Plan) ด้านคมนาคมขนส่งระยะเร่งด่วน พ.ศ. 2559 ซึ่งมี 20 ครงการ วงเงินลงทุนกว่า 1.7 แสนล้านบาท เครื่องมือสำคัญของรัฐบาลในการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเร่งรัดการประกวดราคาเพื่ออัดเม็ดเงินเข้าระบบในปี 2559 ให้มากที่สุด พบมอเตอร์เวย์ 3 สายเปิดประมูลฉลุย ส่วน รฟม.ดันเปิดประมูลรถไฟฟ้ารวด 3 สาย เหลือ ร.ฟ.ท.ต้องลุ้น รถไฟทางคู่รถไฟความเร็วสูง 2 สายยังอืด ด้าน “อาคม” สั่งปั้น Action Plan ปี 2560 อัดลงทุนต่อเนื่อง จัดทัพทางคู่อีก 8 เส้นทาง มอเตอร์เวย์ ทางด่วน

จากการติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงานแผนปฏิบัติการปี 2559 ถึงวันที่ 22 ก.ค. พบว่าการดำเนินโครงการต่างๆ ยังเป็นไปตามเป้าหมายซึ่งการบรรจุโครงการไว้ในแผนนั้นหมายถึงจะต้องเปิดประมูลได้ภายในปี 2559 โดยในเดือน ก.ค.นี้ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) สามารถเปิดประมูลโครงการรถไฟฟ้าได้ถึง 3 สาย คือ รถไฟฟ้าสายสีชมพู (แคราย-มีนบุรี) ระยะทาง 34.5 กม. วงเงิน 53,490 ล้านบาท และสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) ระยะทาง 29.1 กม. วงเงิน 51,810 ล้านบาท จะสรุปการพิจารณาข้อเสนอใน ม.ค. 2560 ลงนามสัญญาใน เม.ย. 2560

รถไฟฟ้าสายสีส้ม ด้านตะวันออก (ศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี) ระยะทาง 21 กม. มูลค่า 109,540 ล้านบาท ขายซองประมูลเมื่อ 15-29 ก.ค. คาดว่าจะพิจารณาข้อเสนอจบใน ก.พ. 2560 ลงนามสัญญาก่อสร้าง พ.ค. 2560 ส่วนงานเดินรถอยู่ระหว่างจัดทำรายงานวิเคราะห์ ตาม พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ 2556 (PPP)

ขณะนี้ รฟม.เหลือรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ (เตาปูน-ราษฎร์บูรณะ) ระยะทาง 23.6 กม. วงเงิน 131,004.30 ล้านบาท ซึ่งอยู่ระหว่างพิจารณารายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ที่มีการเปลี่ยนแปลงแผนงานในพื้นที่กรุงรัตนโกสินทร์ ตามแผนจะเสสอ ครม.ใน ก.ค.-ส.ค. เปิดประมูลช่วง พ.ย. 2559

ส่วนการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) อาจต้องออกแรงดันมากกว่าหากไม่ต้องการให้โครงการหลุดเป้าหมาย โดยเฉพาะรถไฟทางคู่ 6 เส้นทาง เพิ่งเปิดประมูลไปได้สายเดียว คือ ช่วง ชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น ระยะทาง 185 กม. วงเงิน 23,802.53 ล้านบาท โดยเริ่มก่อสร้างไปเมื่อ มี.ค. 2559 ขณะนี้คืบหน้า 2.99%

ส่วนอีก 5 เส้นทาง ได้แก่ 1. ช่วงประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร ระยะทาง 167 กม, วงเงิน 17,249.90 ล้านบาท ครม.เห็นชอบตั้งแต่ 26 เม.ย. 2559 อยู่ระหว่างการปรับปรุงร่างเอกสารประกวดราคา (TOR) เพื่อเปิดกว้างและแก้ข้อครหาล็อกสเปก ให้เป็นมาตรฐานตามความเห็นของคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ (คตร.) 2. ช่วงมาบกระเบา-ชุมทางถนนจิระ ระยะทาง 132 กม. วงเงิน 26,004 ล้านบาท ผ่านบอร์ด สศช.แล้ว อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการกำกับนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) เพื่อเตรียมเสนอ ครม.ต่อไป

3. ช่วงนครปฐม-หัวหิน ระยะทาง 165 กม. วงเงิน 20,036.53 ล้านบาท 4. ช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ ระยะทาง 148 กม. วงเงิน 24,840.54 ล้านบาท รอคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมพิจารณา EIA ขณะที่คาดว่าบอร์ด สศช. จะพิจารณาในต้นเดือนส.ค. จากนั้นจะเสนอ ครม.ขออนุมัติได้ และ 5. ช่วงหัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ ระยะทาง 90 กม. วงเงิน 10,301.95 ล้านบาท ผลศึกษา EIA ยังไม่ผ่านคณะกรรมการสิ่งแวดล้อม โดยคาดว่าจะเข้าบอร์ด สศช.รอบ ส.ค.นี้

“ตอนนี้เหลือแค่ความเห็นหน่วยงานและการพิจารณาร่างTOR ของ คตร. และล่าสุด ครม.สั่งให้รองนายกฯสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ มาช่วยตรวจสอบ TOR โครงการที่มีมูลค่าเกิน 1,000 ล้านบาทด้วย ส่วนรถไฟความเร็วสูง กทม.-หัวหิน และ กทม.-ระยอง ยังเหลือทำรายละเอียดเรื่องการใช้ประโยชน์จากพื้นที่สองข้างทางเพิ่มเติม”

ส่วนมอเตอร์เวย์ สายพัทยา-มาบตาพุด ระยะทาง 32 กม.วงเงิน 17,819.47 ล้านบาท ประมูลครบทั้ง 13 สัญญาแล้ว ก่อสร้างคืบหน้า 1.313%, สายบางปะอิน-นครราชสีมา ระยะทาง 196 กม. วงเงิน76,600 ล้านบาท แบ่งงานโยธา 40 ตอน คาดว่าจะลงนามสัญญา 25 ตอนใน ส.ค.นี้ และอีก 15 ตอน เปิดประมูล ก.ย.-ธ.ค.นี้, สายบางใหญ่-กาญจนบุรี ระยะทาง 96 กม.วงเงิน 49,120 ล้านบาท แบ่งงานโยธา 25 ตอน ประมูลแล้ว 9 ตอน ก 16 ตอน ประมูลใน ก.ย. ส่วนสุวรรณภูมิ เฟส 2 วงเงิน 50,322.22 ล้านบาท ประมูลแล้ว 2 สัญญา จาก 7 สัญญา

“อาคม” สั่งทำแผนปี 60 จัดเมกะโปรเจกต์ อัดลงทุนต่อเนื่องไม่ต่ำกว่า 7-8 แสนล้าน

โดยขณะนี้กระทรวงคมนาคมอยู่ระหว่างจัดทำแผนปฏิบัติการปี 2560 ซึ่งเบื้องต้นจะมีรถไฟทางคู่ อีก 8 เส้นทาง ได้แก่ 1. ชุมทางถนนจิระ-อุบลราชธานี วงเงิน 49,951.13 ล้านบาท 2. ปากน้ำโพ-เด่นชัย วงเงิน 64,921.05 ล้านบาท 3. ขอนแก่น-หนองคาย วงเงิน 23,727.34 ล้านบาท 4. เด่นชัย-เชียงใหม่ วงเงิน 63,353.88 ล้านบาท 5. ชุมพร-สุราษฎร์ธานี วงเงิน 34,726.36 ล้านบาท 6. สุราษฎร์ธานี-หาดใหญ่-สงขลา วงเงิน 51,065.38 ล้านบาท 7. หาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ วงเงิน 13,271.20 ล้านบาท 8. สุราษฎร์ธานี-พังงา-ภูเก็ต (ทางรถไฟสายใหม่เพื่อการท่องเที่ยว) วงเงิน 19,059.50 ล้านบาท

รถไฟฟ้าได้แก่ สายสีน้ำเงิน ช่วงบางแค-พุทธมณฑลสาย 4 วงเงิน 21,120 ล้านบาท สายสีส้ม (ตะวันตก) ช่วงตลิ่งชัน-ศูนย์วัฒนธรรม วงเงิน 85,288 .54 ล้านบาท สายสีเขียว ช่วงสมุทรปราการ-บางปู วงเงิน 9,529.54 ล้านบาท และช่วงคูคต-ลำลูกกา วงเงิน 9,236.07 ล้านบาท รถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์ ช่วงพญาไท-บางซื่อ-ดอนเมือง วงเงิน 31,139.35 ล้านบาท

และยังมีมอเตอร์เวย สายนครปฐม-ชะอำ ระยะทาง 119 กม. วงเงิน 80,600 ล้านบาท และทางด่วน สายพระราม3-ดาวคะนอง-วงแหวนรอบนอก ระยะทาง 16.923 กม. มูลค่าโครงการ กว่า 3 หมื่นล้านบาท รวมถึงรถไฟสายสีแดง ส่วนต่อขยายจากรังสิต-ม.ธรรมศาสตร์ วงเงิน 6,018 ล้านบาท, ช่วงตลิ่งชัน-ศาลายา/ตลิ่งชัน-ศิริราช วงเงิน 17,966.16 ล้านบาท และรถไฟทางคู่สายใหม่ เด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ วงเงิน 76,980 ล้านบาท สายบ้านไผ่-นครพนม วงเงิน 60,353 ล้านบาท

Mongwin · Posted: 05/08/2016 9:37 pm Post subject:

^^^
ทางคู่ประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร ออก TOR มาแล้ว ก็ยังต้องมาปรับแก้กันอีกนะครับ Confused

ช้ามาก ๆ

Wisarut · Posted: 08/08/2016 3:13 pm Post subject:

ไฟเขียวรถไฟทางคู่3เส้นทาง บอร์ดสศช.เร่งชงครม.อนุมัติ-ประกวดราคา ต.ค.นี้
โดย ฐานเศรษฐกิจ -
ออนไลน์เมื่อ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2559
ตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ
ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,181 วันที่ 7 – 10 สิงหาคม พ.ศ. 2559

บอร์ดสภาพัฒน์ไฟเขียวรถไฟทางคู่ 3 เส้นทาง รวมระยะทาง 400 กม. วงเงินลงทุนกว่า 5.5 หมื่นล้าน เร่งนำเสนอครม.อนุมัติและประกวดราคาตุลาคมนี้ จ่อคิวต่อจากมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ วงในเผยรองนายกฯสมคิดส่งคนกำกับทีโออาร์ เพื่อให้เป็นสัญญามาตรฐาน นำไปใช้กับโครงการอื่นๆได้ ลดความล่าช้า

นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย(ร.ฟ.ท.) เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่ามติที่ประชุมคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือบอร์ดสภาพัฒน์ได้เห็นชอบ 3 โครงการรถไฟทางคู่แล้วประกอบด้วย

1.เส้นทางนครปฐม-หัวหิน ระยะทาง 165 กิโลเมตร วงเงินลงทุน 2 หมื่นล้านบาท
2.เส้นทางลพบุรี-ปากน้ำโพ ระยะทาง 148 กิโลเมตร วงเงินลงทุน 2.4 หมื่นล้านบาท และ
3. เส้นทางหัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ ระยะทาง 90 กิโลเมตร วงเงินลงทุน 1 หมื่นล้านบาท

โดยหลังจากนี้จะเร่งนำเสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.) อนุมัติให้ดำเนินการคาดว่าจะเสนอได้ทั้ง 3 เส้นทางพร้อมกันในเดือนกันยายนนี้ ส่วนเส้นทางมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ ระยะทาง 132 กิโลเมตร วงเงินลงทุน 2.9 หมื่นล้านบาทอยู่ระหว่างการรอครม.อนุมัติให้ดำเนินการ หลังจากนั้นจะเร่งจัดทำเอกสารและนำออกประกวดราคาได้ในเดือนตุลาคมนี้ โดยจ่อคิวจากเส้นทางประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร ระยะทาง 167 กิโลเมตร วงเงินลงทุน 1.7 หมื่นล้านบาท ที่ปัจจุบันเตรียมประกาศประกวดราคาในสิงหาคมนี้และเร่งคัดเลือกผู้รับจ้างให้แล้วเสร็จในปลายปี 2559

“คาดว่าเส้นทางมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระจะได้รับอนุมัติในเดือนสิงหาคมนี้ ส่วน 3 เส้นทางที่บอร์ดสภาพัฒน์เห็นชอบแล้วนั้นคาดว่าจะเสนอครม.ได้ในเดือนกันยายนนี้ต่อเนื่องกันไป ซึ่งทั้ง 5-6 เส้นทางที่เร่งผลักดันขึ้นอยู่กับว่าผู้บริหารระดับสูงของร.ฟ.ท. และกระทรวงคมนาคมจะสามารถผลักดันรัฐบาลให้เปิดประมูลได้มากน้อยเพียงใด โดยเมื่อครม.อนุมัติแล้วจะนำเข้าสู่กระบวนการเปิดรับฟังความเห็นร่างเอกสารประกวดราคาแล้วนำเสนอบอร์ดร.ฟ.ท.อนุมัตินำออกประกาศประกวดราคาคาดว่าเดือนตุลาคม-พฤศจิกายนนี้ก่อนที่จะให้ยื่นซองเอกสารประกวดราคา ในปลายปีนี้ต่อไป”

ด้านแหล่งข่าวระดับสูงร.ฟ.ท.กล่าวว่า ล่าสุดนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีได้ส่งทีมงานมากำกับการร่างเอกสารประกวดราคาเส้นทางประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร เพื่อให้เป็นสัญญามาตรฐานสามารถนำไปใช้กับโครงการอื่นๆได้ให้ไม่ล่าช้าอีกต่อไป

“น่าจะรัดกุมขึ้นและเป็นทีโออาร์ที่ได้มาตรฐานต้นแบบจริงๆ นั่นหมายถึงว่าเส้นทางอื่นๆก็จะสามารถนำเอกสารประกวดราคาไปปรับใช้งานได้ทันทีเพราะผ่านการตรวจสอบมาเรียบร้อยแล้ว ไม่ต้องมีข้อครหาว่าจะเป็นการกีดกันรายใดรายหนึ่งอีกต่อไป ทั้งนี้คาดว่ากระบวนการกว่าจะได้ตัวผู้รับเหมาในต้นปีหน้าค่อนข้างจะชัดเจน ดังนั้นจึงค่อนข้างแน่นอนว่าเส้นทางประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร และเส้นทางมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ น่าจะเป็นการประกวดราคาทิ้งทวนภายในปลายปีนี้”

ล่าสุดนั้นเส้นทางเด่นชัย – เชียงราย –เชียงของ ระยะทางกว่า 326 กิโลเมตร วงเงินลงทุนกว่า 7 หมื่นล้านบาทซึ่งถือว่าเป็นโครงการระดับเมกะโปรเจ็กต์รถไฟทางคู่ของร.ฟ.ท.ที่ดำเนินการมาทั้งหมดแถมยังลุ้นผ่านการรับรองคุณภาพสิ่งแวดล้อม(อีไอเอ)มานานกว่า 10 ปีก็ได้รับการอนุมัติจากระดับคณะกกรมการผู้ชำนาญการ(คชก.) ภายใต้คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ(กก.วล.) เรียบร้อยแล้ว เร่งนำเสนอกก.วล.อนุมัติโดยเร็วต่อไป ปัจจุบันร.ฟ.ท. อยู่ระหว่างการแบ่งออกเป็น 3 สัญญาทั้งสัญญาการก่อสร้างเส้นทาง ก่อสร้างอุโมงค์ ควบคู่ไปกับการนำเสนอกระทรวงคมนาคมเร่งนำเสนอครม.อนุมัติให้ดำเนินการต่อไป โดยจะได้ตัวผู้รับจ้างก่อสร้างเส้นทางในปี 2560

Wisarut · Posted: 09/08/2016 12:26 am Post subject:

nutsiwat · Posted: 09/08/2016 11:23 am Post subject:

Wisarut · Posted: 10/08/2016 10:23 am Post subject:

รฟท.จ่อดันทางคู่ 3 เส้นเข้าครม.ส.ค.นี้
โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
วันที่ 10 สิงหาคม 2559, 08:45
ลั่นตอกเสาเข็มต้นปี 60 เปิดหวูดประมูลสร้างรถไฟทางคู่ 5 สาย
โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์
10 สิงหาคม 2559, 06:15

ร.ฟ.ท.จ่อดันรถไฟทางคู่ 3 เส้นทางเข้าครม.เดือน ส.ค.นี้ หลังบอร์ด สศช.ไฟเขียวแผน ระบุจะเร่งร่างทีโออาร์อัดประกวดราคารวดเดียว 5 เส้นทาง

นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าของการพัฒนาโครงการรถไฟทางคู่ โดยระบุว่า สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ได้เห็นชอบโครงการรถไฟทางคู่เพิ่มเติม 3 เส้นทาง ประกอบไปด้วย

1.เส้นทางนครปฐม - หัวหิน ระยะทาง 165 กิโลเมตร (กม.) วงเงินลงทุน 2 หมื่นล้านบาท 2.เส้นทางลพบุรี - ปากน้ำโพ ระยะทาง 148 กม. วงเงินลงทุน 2.4 หมื่นล้านบาท และ 3. เส้นทางหัวหิน - ประจวบคีรีขันธ์ ระยะทาง 90 กม. วงเงินลงทุน 1 หมื่นล้านบาท ซึ่งกระบวนการหลังจากนี้ ร.ฟ.ท. จะเร่งรวบรวมข้อมูลโครงการเพื่อเสนอครม.

อย่างไรก็ดี ในส่วนของความคืบหน้าเส้นทางมาบกะเบา - จิระ ระยะทาง 132 กม. วงเงินลงทุน 2.9 หมื่นล้านบาท ปัจจุบันอยู่ระหว่างการรอครม.อนุมัติให้ดำเนินการเช่นเดียวกัน ส่วนเส้นทางประจวบคีรีขันธ์ - ชุมพร ระยะทาง 167 กม. วงเงินลงทุน 1.7 หมื่นล้านบาท ที่ ครม.ได้เห็นชอบให้ดำเนินการแล้วนั้น ร.ฟ.ท. อยู่ระหว่างเตรียมประกาศประกวดราคา

แหล่งข่าวจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) กล่าวว่า โครงการรถไฟทางคู่ที่ได้รับการเห็นชอบจาก สศช. หากรวบรวมข้อมูลแล้วเสร็จ ก็คาดว่าจะเสนอเข้า ครม.ได้ภายในเดือน ส.ค.นี้

นายกมล ตั้งจิตเจริญชัย รองผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) กล่าวว่า หากพิจารณากรอบระยะเวลาคร่าวๆ หลังจากประกาศประกวดราคาแล้ว คาดว่าจะใช้ระยะเวลาในการขั้นตอนการประกวดราคาได้แล้วเสร็จประมาณเดือน พ.ย.นี้ จากนั้นจะสามารถลงนามในสัญญาจ้างภายใน ธ.ค. และก่อสร้างต้นปีหน้าพร้อมกันทั้ง 5 เส้นทาง

Mongwin · Posted: 10/08/2016 5:34 pm Post subject:

Mongwin · Posted: 10/08/2016 8:31 pm Post subject:

คมนาคมตั้งเป้าพัฒนารถไฟทางคู่เพิ่ม 7 เส้นทางในปีหน้า
โดย MGR Online 10 สิงหาคม 2559 18:40 น.

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมจัดทำการรับฟังข้อคิดเห็นของนักลงทุน หรือ Market Sounding ภายใต้โครงการจัดทำแผนแม่บทพัฒนาที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย ตามเส้นทางรถไฟทางคู่ 6 เส้นทาง จำนวน 12 ย่านสถานี โดยมีผู้แทนจากการรถไฟฯ ผู้แทนภาคเอกชนกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ และกลุ่มบริการนักท่องเที่ยวร่วมประชุมและเสนอแนวทางความคิด ว่า เพื่อให้แผนแม่บทการพัฒนาที่ดินของการรถไฟมีประสิทธิภาพ สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจนำรายได้มาสู่การรถไฟฯ ภายใต้แผนฟื้นฟูกิจการรถไฟ นอกเหนือจากการปรับปรุงประสิทธิภาพการขนส่ง ทั้งปรับปรุงทางทั่วประเทศให้ขบวนรถทุกภาคสามารถเดินรถได้เร็วขึ้น การแก้ไขปัญหาจุดตัดทั่วประเทศ รวมทั้งการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ซึ่งในแผนปฏิบัติการ (Action Plan) ด้านคมนาคมขนส่งระยะเร่งด่วนปี 2558-2559 มีโครงการรถไฟทางคู่ 6 เส้นทาง เส้นทางประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร , ชุมทางจิระ-ขอนแก่น , มาบกะเบา-จิระ , นครปฐม-หัวหิน , ลพบุรี-ปากน้ำโพ และหัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ และแผนปฏิบัติการปี 2560 จะเพิ่มอีก 7 เส้นทาง ประกอบด้วย ปากน้ำโพ-เด่นชัย , เด่นชัย-เชียงใหม่ , ชุมทางถนนจิระ-อุบลราชธานี , ขอนแก่น-หนองคาย , ชุมพร-สุราษฎร์ธานี , สุราษฎร์ธานี-หาดใหญ่-สงขลา และหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ รวมเป็นโครงข่ายรถไฟทางคู่ทั่วประเทศ 13 เส้นทาง

นอกจากนี้ การรถไฟฯ ยังมีแผนการใช้ประโยชน์จากที่ดินที่มีอยู่ทั่วประเทศให้มีประสิทธิภาพ จึงต้องปรับปรุงอัตราค่าเช่าให้เป็นปัจจุบัน พัฒนาที่ดินในเชิงพาณิชย์ทั้งภายในและโดยรอบสถานี เพื่อนำผลตอบแทนมาใช้คืนการลงทุนโครงการรถไฟทางคู่ ซึ่งปัจจุบันการรถไฟทำสัญญากับผู้เช่าแบบชั่วคราวแบบ 1 ปี 3 ปี สูงสุดไม่เกิน 5 ปี และขณะนี้การรถไฟฯ ได้ว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาเพื่อศึกษาทบทวนแผนแม่บทเดิม พร้อมวิเคราะห์แนวทางการพัฒนาและแนวทางการร่วมลงทุนกับเอกชน (PPP) เนื่องจากแต่ละย่านสถานีมีข้อจำกัดแตกต่างกัน ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในเดือนพฤศจิกายนนี้ จากนั้นจะนำผลศึกษาเสนอคณะกรรมการ ร.ฟ.ท. และจะจัดลำดับการพัฒนาในแต่ละสถานี โดยดูศักยภาพและความสนใจของนักลงทุน เป็นต้น