รวมข่าวโครงการรถไฟทางคู่

Mongwin · Posted: 03/11/2009 7:40 am Post subject:

สร้างปีละ 50-100 กิโลก็ยังดีครับ 10 ปีได้ใช้งาน
ปัญหาคือไม่เริ่มสร้างเสียทีมากกว่า

anusorn · Posted: 03/11/2009 9:22 am Post subject:

เห็นด้วยกับอาจารย์หม่องครับ สร้างให้ได้ระยะทางปีละ 3 สถานีก็ชื่นใจแล้ว อย่างน้อยก็มีการพัฒนา และแสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ในการบริหารจัดการในทางบวก แม้ติดในเรื่องงบประมาณก็ตาม ทุกวันนี้ถนนบางเส้นสร้างมาดีแต่ไม่ค่อยมีรถวิ่งออกเยอะแยะ เอางบสักเสี้ยวของถนนในแต่ละปีมาสร้างทางรถไฟเต๊อะ

เผลอๆ 3 ปีแผล็บเดียว ได้ทางคู่ต่อจาก นครปฐม - ราชบุรี ไม่รู้ตัว

CENTENNIAL · Posted: 03/11/2009 1:36 pm Post subject:

เป็นความคิดที่ดีครับ Laughing

ถ้างบสร้างทางรถไฟแบบทางคู่มาตรฐานสูง ตกกิโลเมตรละ 100 ล้าน

ขอปีละ 20-30 กิโลเมตร หรือประมาณ 2-3 ช่วงสถานีก็ยังดีครับ ผ่านไป 10 ปี ก็ได้มา 200 กว่ากิโลเมตร หรือ 20 กว่าสถานีแล้ว

Tan · Posted: 03/11/2009 8:54 pm Post subject:

เพิ่มเติมนะครับ
ครม.ไฟเขียวเงินกู้ 4.7 หมื่นล้าน สร้างรถไฟฟ้า-หัวรถจักรดีเซล โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 3 พฤศจิกายน 2552 15:50 น.
ครม.อนุมัติกรอบกู้เงิน ตปท.จำนวน 4.7 หมื่นล้าน เพื่อลงทุนสร้างรถไฟฟ้าสายสีม่วง พร้อมไฟเขียวเงินกู้ซื้อรถจักรดีเซลไฟฟ้า 7 คัน พร้อมโครงการจัดหารถโบกี้สินค้า 308 ตู้ และโครงการสร้างโครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบ 3จี ของ ทีโอที วงเงิน 2.3 หมื่นล้าน

มีรายงานข่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ ที่ประชุมมีมติอนุมัติกรอบการเจรจากู้เงินต่างประเทศ ภายใต้แผนการบริหารหนี้สาธารณะ ปีงบประมาณ 2553 โดยกำหนดกรอบวงเงินที่จะขอกู้เงินต่างประเทศ 6 โครงการ เป็นมูลค่า 1,353 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 47,300 ล้านบาท

แผนการกู้เงินแบ่งเป็นโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีม่วง บางใหญ่-บางซื่อ ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) วงเงินกู้จากรัฐบาลญี่ปุ่น โดยองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น (ไจก้า) วงเงิน 19,735 ล้านบาท โครงการจัดหารถจักรดีเซลไฟฟ้า 7 คัน น้ำหนักกดเพลา 20 ตัน ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) วงเงินกู้ลักษณะ Export Credit จำนวน 1,050 ล้านบาท โครงการจัดหารถโบกี้บรรทุกตู้สินค้า 308 คัน ของ ร.ฟ.ท.เป็นวงเงินกู้ลักษณะ Export Credit จำนวน 700 ล้านบาท
โครงการจัดหารถจักรดีเซลไฟฟ้า 7 คัน น้ำหนักกดเพลา 15 ตัน ของ ร.ฟ.ท.เป็นวงเงินกู้ลักษณะ Export Credit จำนวน 750 ล้านบาท โครงการจัดหารถจักรดีเซลไฟฟ้า 13 คัน น้ำหนักกดเพลา 20 ตัน ของ ร.ฟ.ท.เป็นวงเงินกู้ลักษณะ Export Credit จำนวน 1,950 ล้านบาท และโครงการสร้างโครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบ 3จี ของ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) วงเงินกู้ลักษณะ Export Credit จำนวน 23,200 ล้านบาท

ทั้งนี้ มอบหมายให้กระทรวงการคลัง รับฟังความคิดเห็นจากประชาชนและผู้เกี่ยวข้อง ก่อนเสนอสัญญาเงินกู้และเอกสารที่เกี่ยวข้องเพื่อเสนอที่ประชุมสภาให้ความเห็นชอบต่อไป

ปล.จริงเท็จประการใดต้องรอดูครับ อ่อ ๆ แล้วก็เคยได้ยินว่าหัวรถจักรที่จะจัดหามานั้นมาจากประเทศจีน ยังไงก็รอดูต่อไปครับ

Wisarut · Posted: 03/11/2009 11:29 pm Post subject:

ูููู^^^
ข่าวซ้ำแล้วครับ ดูได้ที่นี่
http://portal.rotfaithai.com/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=679&postdays=0&postorder=asc&start=630

//------------------------------------------------
ดูข่าวนี้ สนธิ เพิ่งจะพูดได้ถูกใจ ก็เพราะ หนุนเรื่องทางคู่ ให้เป็นเรื่องสำคัญอันดับต้นแทนมอเตอร์เวย์ไปโคราช ก็คราวนี้เอง รายละเอียดดูได้ที่นี่ครับ

“สนธิ”หนุนสร้างรถไฟรางคู่-แย้มนโยบายพรรคฯ ทวงคืน ปตท.

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 1 พฤศจิกายน 2552 03:37 น.

“สนธิ” อัด “มาร์ค” 9 เดือนทำสังคมเน่าเฟะ แก้ไม่ตกคอร์รัปชัน ชี้ไอ้โม่งทำ ธ.กรุงเทพฯพาณิชย์การ ล่มสลายลอยนวลอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ เศร้าเด็กไทยเมิน ปัญหาคอร์รัปชัน ชนวนทำให้ลูกหลานต้องรับภาระหนักอื้อ แนะสร้างรถไฟรางคู่ ประเทศพัฒนากว่าโครงการมอเตอร์เวย์ สู่อีสาน แย้มนโยบาย “พรรคการเมืองใหม่” ทวงคืน ปตท.ให้กลับเป็นสมบัติของชาติอีกครั้ง

Wisarut

ประโยชน์ “คอร์ด ไลน์” ที่คนไม่พูดถึง
คอลัมน์ สนธนาภาษารถไฟ
Written by Administrator
Transport Journal ฉบับที่ 554 ศุกร์ที่ 6 พฤศจิกายน 2552 16:57

“คอร์ด ไลน์” ในความหมายคือ เส้นทางที่ตัดตรง หรือทางเลี่ยงเมือง การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้สร้างคอร์ด ไลน์ ขึ้นในบริเวณสามเหลี่ยมยมราช (ที่ถูกต้องเป็นสามเหลี่ยมจิตรลดา) เพื่อเชื่อมการเดินรถระหว่างสายเหนือกับสายตะวันออก และสายตะวันออกกับสายใต้ ทางเลี่ยงเมืองจึงมีประโยชน์อย่างยิ่งต่อการเดินรถไฟ

รฟท. กำลังเตรียมการเวน คืนที่ดินประมาณ 119 ไร่ ในพื้นที่ 3 บริเวณ เพื่อดำเนินการก่อสร้างทางคู่เลี่ยงเมือง คือ พื้นที่บริเวณนอกย่านสถานีชุมทางฉะเชิงเทรา, ชุมทางบ้านภาชี และชุมทางแก่งคอย

1. ทางคู่เลี่ยงเมืองที่ชุมทางฉะเชิงเทรา อยู่ระหว่าง กม.61+190 ถึง กม. 62+600 เชื่อมสายคลอง 19-แก่งคอย กับสายฉะเชิงเทรา-สัตหีบ ระยะทาง 1.41 กม.

2. ทางคู่เลี่ยงเมืองที่ชุมทางบ้านภาชี อยู่ระหว่าง กม. 92+000 ถึง กม. 93+600 เชื่อมทางรถไฟสายเหนือ กับสายตะวันออกเฉียงเหนือ ระยะทาง 1.60 กม.

3. ทางคู่เลี่ยงเมืองที่ชุมทางแก่งคอย อยู่ระหว่าง กม. 163+350 ถึง กม. 167+400 เชื่อมสายตะวันออกเฉียงเหนือ กับสายคลองสิบเก้า-แก่งคอย ระยะทาง 4.05 กม.

การดำเนินการเวนคืนที่ดินเพื่อก่อสร้างทางคู่เลี่ยงเมืองดังกล่าว ถือว่าส่วนหนึ่งในโครงการก่อสร้างทางคู่ในเส้นทางรถไฟสายชายฝั่งทะเลตะวัน ออก ช่วงฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย ตามแผนจะดำเนินการให้แล้วเสร็จในเวลา 15 เดือน นับจากเดือนตุลาคม และจะเริ่มการก่อสร้างตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2553 ใช้ระยะเวลาก่อสร้าง 36 เดือน
การเดินรถระหว่างภาคทุกวันนี้ ขาดความคล่องตัว และเสียเวลามาก ไม่ว่าจะเป็นสายเหนือกับสายตะวันออกเฉียงเหนือ, สายตะวันออกกับสายตะวันออกเฉียงเหนือ (ที่จะมุ่งหน้าไปสายเหนือ) และสายคลองสิบเก้า-แก่งคอย กับสายฉะเชิงเทรา-สัตหีบ ล้วนต้องใช้วิธีสับเปลี่ยนทำขบวนใหม่ ซึ่งแต่ละจุดต้องใช้เวลาถึงประมาณ 30 นาที
เมื่อการก่อสร้าง “คอร์ด ไลน์” แล้วเสร็จสมบูรณ์พร้อมๆ กับการก่อสร้างทางคู่ในราวกลางปี 2556 ขบวนรถไฟจะวิ่งได้คล่องตัว รวดเร็ว ปลอดภัย โดยเฉพาะความจุของทาง ซึ่งในทางทฤษฎีเพิ่มได้สูงถึง 420 ขบวนต่อวัน หรือเพิ่มจากปัจจุบันได้ถึง 10 เท่าตัวทีเดียว

casanotoey · 3rd Class Pass (Air) Joined: 03/07/2006 Posts: 412

มีข้อสงสัยครับ ซื้อรถจักรใหม่ นน กดเพลา 20 ตัน แต่ สะพานที่บ้านเราส่วนใหญ่ มันแค่ 15 ตัน จะไหวหรือครับ

Wisarut · Posted: 16/11/2009 12:53 pm Post subject:

digimontamer · 3rd Class Pass (Air) Joined: 12/05/2009 Posts: 487

สาธุ ขอให้โครงการสำเร็จด้วยเถิดครับ ผมรอนั่งรถไฟจากนครปฐมไปเพชรบุรีแบบไม่ต้องหลีกมานานแล้ว

Wisarut · Posted: 21/12/2009 7:36 pm Post subject:

การรถไฟฯเดินหน้ารถไฟรางคู่ 3 เส้นทาง
เนชั่นทันข่าว 21 ธค. 2552 14:33 น.

นายยุทธนา ทัพเจริญ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) บอกว่า ในปีหน้าเส้นทางรถไฟรางคู่จะมีพร้อมดำเนินการได้ คือ

1. เส้นทางสายตะวันออกเฉียงเหนือ เริ่มตั้งแต่ มาบกะเบา - จังหวัดนครราชสีมา ระยะทาง 129 กิโลเมตร ใช้วงเงินงบประมาณ 1.1 พันล้านบาท ซึ่งหากสามารถหาผู้รับเหมาที่จะเข้ามาดำเนินการได้ในปีหน้าก็สามารถเริ่มงานได้ทันที

2. ส่วนเส้นทางสายเหนือ จังหวัดลพบุรี – นครสวรรค์ ระยะทาง 113 กิโลเมตร และ

3. สายใต้ จังหวัดนครปฐม – หัวหิน ระยะทาง 165 กิโลเมตร จะมีการพัฒนาในระยะต่อไป

ทั้งนี้คาดว่าหากทั้ง 3 เส้นทางสามารถเปิดให้บริการได้ จะมีปริมาณสินค้าที่ขนส่งทางรถไฟเพิ่มขึ้นจาก 264,000 ตันต่อปีในปัจจุบัน เป็น 576,000 ตันต่อปี และลดต้นทุนค่าขนส่งได้ 27 % หรือ คิดเป็น 94.56 ล้านบาทต่อปี

นายยุทธนาบอกอีกว่า ในปีหน้ารัฐบาลมีนโยบายให้เป็นปีแห่งคมนาคมปลอดภัย โดยได้จัดสรรงบให้ 600 ล้านบาท ซึ่ง 400 ล้านบาทจะใช้ในการปรับปรุงเส้นทางรถไฟทั่วประเทศให้อยู่ในสภาพที่ใช้งานได้ และอีก 200 ล้านบาท จะใช้ในการพัฒนาและปรับปรุง 169 สถานี จากทั้งหมดที่มีอยู่ 442 สถานี เพื่อให้มีการบริการที่ทันสมัยมากขึ้น