Ads Service

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai Gallery in Facebook

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311311
ทั่วไป:13280326
ทั้งหมด:13591637
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - รวมข่าวโครงการรถไฟทางคู่
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

รวมข่าวโครงการรถไฟทางคู่
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 160, 161, 162 ... 390, 391, 392  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42782
Location: NECTEC

PostPosted: 01/06/2017 11:07 am    Post subject: Reply with quote

ประกาศร่าง TOR ประกวดราคาด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์
หน่วยงาน : ฝ่ายโครงการพิเศษและก่อสร้าง
ชื่อเรื่อง : โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงลพบุรี - ปากน้ำโพ สัญญาที่ 2 ช่วงท่าแค - ปากน้ำโพ (กม. 136+341 - กม.252+225)
งบประมาณ/ราคากลาง : 8,786,860,000.00 บาท

Click on the image for full size
ประกอบดวยการกอสรางทางวิ่งรถไฟในโครงการ เปนการกอสรางทางรถไฟใหมเพิ่ม ๑ ทาง โดย
จะทําการกอสรางทางรถไฟระดับพื้นดิน (At grade) ทางขนานไปกับทางรถไฟเดิม ระยะทางประมาณ 116กิโลเมตร งานกอสรางสถานีรถไฟใหมและงานปรับปรุงสถานีรถไฟเดิมรวม 18 สถานีแบงเปนงานกอสรางสถานีรถไฟใหม 8 สถานี และงานปรับปรุงสถานีรถไฟเดิม 10 สถานีงานกอสรางยานเก็บกองและขนถายตูสินคา (CY) ที่สถานีนครสวรรค งานกอสรางอาคารศูนยควบคุมการเดินรถ (Central Traffic Control : CTC) ที่สถานีนครสวรรค

งานกอสรางโยธาและอื่นๆ ของโครงการ เชน งานระบบระบายน้ํา งานสะพานลอยคนเดินขาม งานรั้ว เปนตน งานกอสรางถนนยกระดับขามทางรถไฟ (Flyover) ถนนกลับรถยกระดับรูปตัวยู (Overpass U-Turn) ถนนลอดใตสะพานทางรถไฟ (Underpass) ถนนลอดใตสะพานทางรถไฟโดยใชทอเหลี่ยม (Underpass Box) เพื่อแกปญหาจุดตัดระหวางถนนกับทางรถไฟ งานระบบราง เปนทางกวาง 1เมตร (Meter Gauge) งานรื้อยายสิ่งปลูกสรางและอุปสรรคตางๆที่อยูในเขตพื้นที่โครงการ (ถามี) โดยผูรับจางตองดําเนินการรื้อยายตามความจําเปน และเหมาะสมตามแตกรณี
http://www.railway.co.th/auction/tor/detailtor.asp?codetor=603075696
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44739
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 01/06/2017 4:23 pm    Post subject: Reply with quote

ยังไม่สะเด็ดน้ำ! รับฟังความเห็นรอบ 4 รถไฟทางคู่"เด่นชัย-เชียงใหม่"
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ 31 พ.ค. 2560 เวลา 18:24:42 น.

ยังไม่สะเด็ดน้ำ! รับฟังความเห็นรอบ 4 รถไฟทางคู่ "เด่นชัย-เชียงใหม่" ลงทุน 6 หมื่นล้าน ดันแพร่ฮับขนส่งภาคเหนือตอนบน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าระหว่างวันที่ 31 พ.ค.-2 มิ.ย.2560 สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เปิดรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ครั้งที่ 4 โครงการศึกษาและออกแบบรถไฟทางคู่ ช่วงเด่นชัย–เชียงใหม่ เพื่อนำเสนอผลสรุปแนวเส้นทางโครงการที่เหมาะสม รูปแบบโครงสร้างทางรถไฟ ความคุ้มค่า และประโยชน์ของโครงการ การเวนคืนที่ดินและผลกระทบสิ่งแวดล้อม

โดยได้นำเสนอผลสรุปแนวเส้นทางที่เหมาะสม มีระยะทางรวม 189 กม. แบ่งเป็น 2 ช่วง คือ ช่วงเด่นชัย-ลำปาง ระยะทางประมาณ 104 กม. เป็นการสร้างทางรถไฟคู่ไปกับแนวเขตทางเดิม พร้อมปรับรัศมีโค้งของทางรถไฟเดิม เพื่อให้รถไฟสามารถวิ่งได้เร็วขึ้น โดยสามารถใช้ความเร็วได้สูงสุด 120 กม./ชม.

และช่วงลำปาง-เชียงใหม่ ระยะทางประมาณ 85 กม. เป็นการก่อสร้างทางคู่ขนานในแนวเขตทางเดิมบางส่วนและตัดแนวทางรถไฟใหม่บางส่วน เพื่อให้เป็นแนวเส้นตรงมากที่สุด โดยสามารถทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 160 กม./ชม. ตลอดเส้นทาง

ส่วนการออกแบบโครงสร้างทางรถไฟ จะออกแบบให้สอดคล้องกับการออกแบบรถไฟทางคู่ของกระทรวงคมนาคม ที่เป็นไปตามมาตรฐานของ American Railway Engineering and maintenance-of-Way Association (AREMA) และการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ที่กำหนดให้สามารถรองรับน้ำหนักกดเพลา 20 ตัน (U20)

ส่วนการศึกษาความเหมาะสมทางด้านเศรษฐกิจของโครงการพบว่ามีอัตราผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ (EIRR) 12.06% มูลค่าปัจจุบันสุทธิ (NPV) 291 ล้านบาท อัตราส่วนผลประโยชน์ต่อต้นทุนเท่ากับ 1.01% ซึ่งถือว่าเป็นไปตามเกณฑ์การวิเคราะห์ผลตอบแทนทางเศรษฐกิจของธนาคารโลก และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ

โดยใช้งบประมาณในการก่อสร้าง 61,220 ล้านบาท แบ่งเป็นค่าก่อสร้าง 60,464 ล้านบาท และค่าจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน 756 ล้านบาท นอกจากนี้ โครงการฯ ยังให้ความสำคัญกับมาตรการลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม เนื่องจากจังหวัดแพร่เป็นจังหวัดที่มีแนวเส้นทางผ่านพื้นที่ป่าสงวน 3 แห่ง และผ่านพื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ 1

โครงการจึงออกแบบโครงสร้างทางรถไฟให้เป็นอุโมงค์และโครงสร้างทางยกระดับ เพื่อลดการสูญเสียพื้นที่ป่าไม้ ไม่รบกวนการดำรงชีวิตของสัตว์ป่า และลดผลกระทบต่อการทำลายพื้นที่ต้นน้ำส่วนมาตรการรองรับการจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน โครงการได้ดำเนินการตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ.2530 และคู่มือการกำหนดเงินค่าทดแทนฯ ของกระทรวงคมนาคม พ.ศ. 25560 เพื่อให้เกิดความยุติธรรมแก่ผู้ที่ถูกเวนคืนมากที่สุด

ภายหลังจากการสัมมนา สนข.จะนำผลที่ได้เสนอต่อกระทรวงคมนาคม สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและคณะรัฐมนตรี เพื่อขออนุมัติดำเนินโครงการ จากนั้นจึงว่าจ้างผู้รับเหมาและที่ปรึกษาควบคุมงานก่อสร้าง และเข้าสู่กระบวนการจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน จากนั้นดำเนินการก่อสร้างอีกประมาณ 4 ปี จึงแล้วเสร็จ ใช้ระยะเวลารวม 5-6 ปี

สำหรับอำเภอเด่นชัย จังหวัดแพร่ถือเป็นชุมทางการขนส่งทางรถไฟสู่ภาคเหนือ ส่งผลให้จังหวัดแพร่มีการขยายตัวทางด้านการผลิตและอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง

โครงการรถไฟทางคู่ ช่วงเด่นชัย-เชียงใหม่ จึงถือเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยผลักดันจังหวัดแพร่ให้เป็นประตูสู่ล้านนา และศูนย์กลางในการขนถ่ายสินค้าหลักของภาคเหนือตอนบนในอนาคต ตามยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสาธารณูปโภค และยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาและส่งเสริมการท่องเที่ยวด้านวัฒนธรรม การท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์และสุขภาพ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตให้แก่คนในชุมชน
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42782
Location: NECTEC

PostPosted: 02/06/2017 4:35 pm    Post subject: Reply with quote

สนข.ทุ่ม6หมื่นล้าน หวังยกระดับขนส่ง สร้างรถไฟทางคู่ เด่นชัย-เชียงใหม่
โดย ไทยรัฐออนไลน์
2 มิถุนายน 2560 13:14

สนข. โชว์ผลศึกษารถไฟทางคู่ สายเด่นชัย-เชียงใหม่ เตรียมทุ่มงบประมาณกว่า 6 หมื่นล้าน เพื่อยกระดับคมนาคมขนส่ง-ท่องเที่ยว สู่ผู้นำของอาเซียน...

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 2 มิ.ย.60 ที่ห้องแกรนด์บอลรูม โรงแรมเชียงใหม่ ฮิลล์ นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร เป็นประธานเปิดการสัมมนารับฟังความคิดเห็นของประชาชน ครั้งที่ 4 โครงการศึกษาและออกแบบรถไฟทางคู่ ช่วงเด่นชัย–เชียงใหม่ เพื่อนำเสนอผลสรุปแนวเส้นทางโครงการที่เหมาะสม รูปแบบโครงสร้างทางรถไฟ ความคุ้มค่าและประโยชน์ของโครงการ การเวนคืนที่ดินและผลกระทบสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากทุกภาคส่วน โดยมีผู้สนใจ ทั้งจากหน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น องค์กรธุรกิจเอกชน สถาบันการศึกษาในพื้นที่ ตลอดจนตัวแทนภาคประชาชนและสื่อมวลชน ในจังหวัดเชียงใหม่ เข้าร่วมงานกว่า 200 คน

การสัมมนาครั้งนี้ได้นำเสนอผลสรุปแนวเส้นทางที่เหมาะสม ระยะทางรวม 189 กิโลเมตร แบ่งเป็น 2 ช่วง คือ ช่วงเด่นชัย–ลำปาง ระยะทางประมาณ 104 กิโลเมตร เป็นการสร้างทางรถไฟคู่ไปกับแนวเขตทางเดิม พร้อมปรับรัศมีโค้งของทางรถไฟเดิม เพื่อให้รถไฟสามารถวิ่งได้เร็วขึ้น โดยสามารถใช้ความเร็วได้สูงสุด 120 กม./ชม. และช่วงลำปาง –เชียงใหม่ ระยะทางประมาณ 85 กิโลเมตร เป็นการก่อสร้างทางคู่ขนานในแนวเขตทางเดิมบางส่วนและตัดแนวทางรถไฟใหม่บางส่วน เพื่อให้เป็นแนวเส้นตรงมากที่สุด โดยสามารถทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 160 กม./ ชม. ตลอดเส้นทาง ส่วนการออกแบบโครงสร้างทางรถไฟ จะออกแบบให้สอดคล้องกับการออกแบบรถไฟทางคู่ของกระทรวงคมนาคม ที่เป็นไปตามมาตรฐานของ American Railway Engineering and maintenance – of – Way Association (AREMA) และการรถไฟแห่งประเทศไทย ที่กำหนดให้สามารถรองรับน้ำหนักกดเพลา 20 ตัน (U20) ส่วนการศึกษาความเหมาะสมทางด้านเศรษฐกิจของโครงการ พบว่ามีอัตราผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ (EIRR) 12.06% มูลค่าปัจจุบันสุทธิ (NPV) 291 ล้านบาท อัตราส่วนผลประโยชน์ต่อต้นทุนเท่ากับ 1.01 % ซึ่งถือว่าเป็นไปตามเกณฑ์การวิเคราะห์ผลตอบแทนทางเศรษฐกิจของธนาคารโลก และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ โดยใช้งบประมาณในการก่อสร้าง 61,220 ล้านบาท แบ่งเป็นค่าก่อสร้าง 60,464 ล้านบาท และค่าจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน 756 ล้านบาท

สำหรับมาตรการลดผลกระทบสิ่งแวดล้อม โครงการให้ความสำคัญกับการแนวเส้นทางที่ผ่านพื้นที่ชุมชนและเส้นทางคมนาคม โดยเฉพาะจังหวัดเชียงใหม่ที่ถือได้ว่าเป็นศูนย์กลางของการคมนาคมขนส่งของภาคเหนือ โดยโครงการได้ออกแบบการแก้ไขปัญหาจุดตัดทางรถไฟกับถนนให้มีความเหมาะสมและสอดคล้องกับความต้องการของชุมชน นอกจากนี้ ยังมีการแจ้งให้ประชาชนรับทราบและเตรียมพร้อมเกี่ยวกับแผนการก่อสร้าง เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาจราจรที่อาจเกิดขึ้น ส่วนมาตรการด้านการจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน โครงการได้ดำเนินการตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ.2530 และคู่มือการกำหนดเงินค่าทดแทนฯ ของกระทรวงคมนาคม พ.ศ. 2560 เพื่อให้เกิดความยุติธรรมแก่ผู้ที่ถูกเวนคืนมากที่สุด

นายชัยวัฒน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า หากมีการพัฒนาโครงการรถไฟทางคู่ช่วงเด่นชัย - เชียงใหม่ จะส่งผลให้เส้นทางรถไฟสายเหนือมีการเชื่อมต่อโครงข่ายระบบรางที่สมบูรณ์มากขึ้น เพิ่มขีดความสามารถด้านโลจิสติกส์ ที่สำคัญยังเพิ่มศักยภาพด้านการท่องเที่ยวการค้า และการลงทุนในพื้นที่ภาคเหนือ เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยขับเคลื่อนให้ภาคเหนือกลายเป็นผู้นำด้านการท่องเที่ยวของอาเซียนในอนาคตได้ โดยเฉพาะจังหวัดเชียงใหม่ที่เป็นเมืองหลักของภาคเหนือ เป็นศูนย์กลางทั้งด้านอุตสาหกรรมและการคมนาคม และยังคงมีศักยภาพในการพัฒนาสูง ทั้งนี้ ภายหลังจากการสัมมนา สนข. จะนำผลสรุปที่ได้เสนอต่อกระทรวงคมนาคม สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและคณะรัฐมนตรี เพื่อขออนุมัติดำเนินโครงการ จากนั้น จึงว่าจ้างผู้รับเหมาและที่ปรึกษาควบคุมงานก่อสร้าง และเข้าสู่กระบวนการจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน ต่อด้วยดำเนินการก่อสร้าง ใช้ระยะเวลารวมประมาณ 6 ปีจึงแล้วเสร็จ โดยผู้ที่สนใจสามารถติดตามความคืบหน้าและรายละเอียดโครงการ ได้ที่ www.denchai-chiangmai-doubletrack.com และแฟนเพจรถไฟทางคู่เด่นชัย-เชียงใหม่.

//------------------------------------------


สนข.โชว์ผลศึกษารถไฟทางคู่เด่นชัย-เชียงใหม่
ฐานเศรษฐกิจ
2 มิถุนายน 2560

สนข.โชว์ผลศึกษารถไฟทางคู่เด่นชัย-เชียงใหม่ ทุ่มงบกว่า 6 หมื่นล้าน ยกระดับคมนาคมขนส่ง-ท่องเที่ยวสู่ผู้นำของอาเซียน

2 มิ.ย.60 – ณ ห้องแกรนด์บอลรูม โรงแรมเชียงใหม่ฮิลล์ 2000 จังหวัดเชียงใหม่ นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร เป็นประธานเปิดการสัมมนารับฟังความคิดเห็นของประชาชนครั้งที่ 4 โครงการศึกษาและออกแบบรถไฟทางคู่ ช่วงเด่นชัย–เชียงใหม่ เพื่อนำเสนอผลสรุปแนวเส้นทางโครงการที่เหมาะสม รูปแบบโครงสร้างทางรถไฟ ความคุ้มค่าและประโยชน์ของโครงการ การเวนคืนที่ดินและผลกระทบสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากทุกภาคส่วน โดยมีผู้สนใจ ทั้งจากหน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น องค์กรธุรกิจเอกชน สถาบันการศึกษาในพื้นที่ ตลอดจนตัวแทนภาคประชาชนและสื่อมวลชน ในจังหวัดเชียงใหม่ เข้าร่วมงานกว่า 200 คน

การสัมมนาครั้งนี้ได้นำเสนอผลสรุปแนวเส้นทางที่เหมาะสม ระยะทางรวม 189 กิโลเมตร แบ่งเป็น 2 ช่วง คือ ช่วงเด่นชัย –ลำปาง ระยะทางประมาณ 104 กิโลเมตร เป็นการสร้างทางรถไฟคู่ไปกับแนวเขตทางเดิม พร้อมปรับรัศมีโค้งของทางรถไฟเดิม เพื่อให้รถไฟสามารถวิ่งได้เร็วขึ้น โดยสามารถใช้ความเร็วได้สูงสุด 120 กม./ชม. และช่วงลำปาง –เชียงใหม่ ระยะทางประมาณ 85 กิลเมตร เป็นการก่อสร้างทางคู่ขนานในแนวเขตทางเดิมบางส่วนและตัดแนวทางรถไฟใหม่บางส่วน เพื่อให้เป็นแนวเส้นตรงมากที่สุด โดยสามารถทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 160 กม./ชม. ตลอดเส้นทาง ส่วนการออกแบบโครงสร้างทางรถไฟจะออกแบบให้สอดคล้องกับการออกแบบรถไฟทางคู่ของกระทรวงคมนาคมที่เป็นไปตามมาตรฐานของ American Railway Engineering and maintenance of Way Association (AREMA) และการรถไฟแห่งประเทศไทย

ที่กำหนดให้สามารถรองรับน้ำหนักกดเพลา 20 ตัน (U20)

ส่วนการศึกษาความเหมาะสมทางด้านเศรษฐกิจของโครงการพบว่ามีอัตราผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ (EIRR) 12.06% มูลค่าปัจจุบันสุทธิ(NPV) 291 ล้านบาท

อัตาส่วนผลประโยชน์ต่อต้นทุนเท่ากับ 1.01 % ซึ่งถือว่าเป็นไปตามเกณฑ์การวิเคราะห์ผลตอบแทนทางเศรษฐกิจของธนาคารโลก และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ โดยใช้งบประมาณในการก่อสร้าง 61,220 ล้านบาท แบ่งเป็นค่าก่อสร้าง 60,464 ล้านบาท และค่าจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน 756 ล้านบาท

สำหรับมาตรการลดผลกระทบสิ่งแวดล้อม โครงการให้ความสำคัญกับการแนวเส้นทางที่ผ่านพื้นที่ชุมชนและเส้นทางคมนาคม โดยเฉพาะจังหวัดเชียงใหม่ที่ถือได้ว่าเป็นศูนย์กลางของการคมนาคมขนส่งของภาคเหนือ โดยโครงการได้ออกแบบการแก้ไขปัญหาจุดตัดทางรถไฟกับถนนให้มีความเหมาะสมและสอดคล้องกับความต้องการของชุมชน นอกจากนี้ยังมีการแจ้งให้ประชาชนรับทราบและเตรียมพร้อมเกี่ยวกับแผนการก่อสร้าง เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาจราจรที่อาจเกิดขึ้น ส่วนมาตรการด้านการจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน โครงการได้ดำเนินการตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ.2530 และคู่มือการกำหนดเงินค่าทดแทนฯ ของกระทรวงคมนาคม พ.ศ. 2560 เพื่อให้เกิดความยุติธรรมแก่ผู้ที่ถูกเวนคืนมากที่สุด

หากมีการพัฒนาโครงการรถไฟทางคู่ช่วงเด่นชัย – เชียงใหม่ จะส่งผลให้เส้นทางรถไฟสายเหนือมีการเชื่อมต่อโครงข่ายระบบรางที่สมบูรณ์มากขึ้น เพิ่มขีดความสามารถด้านโลจิสติกส์ ที่สำคัญยังเพิ่มศักยภาพด้านการท่องเที่ยวการค้า และการลงทุนในพื้นที่ภาคเหนือ เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยขับเคลื่อนให้ภาคเหนือกลายเป็นผู้นำด้านการท่องเที่ยวของอาเซียนในอนาคตได้ โดยเฉพาะจังหวัดเชียงใหม่ที่เป็นเมืองหลักของภาคเหนือ เป็นศูนย์กลางทั้งด้านอุตสาหกรรมและการคมนาคม และยังคงมีศักยภาพในการพัฒนาสูง

ทั้งนี้ ภายหลังจากการสัมมนา สนข. จะนำผลสรุปที่ได้เสนอต่อกระทรวงคมนาคม สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและคณะรัฐมนตรี เพื่อขออนุมัติดำเนินโครงการ จากนั้นจึงว่าจ้างผู้รับเหมาและที่ปรึกษาควบคุมงานก่อสร้าง และเข้าสู่กระบวนการจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน ต่อด้วยดำเนินการก่อสร้างใช้ระยะเวลารวมประมาณ 6 ปีจึงแล้วเสร็จ

โดยผู้ที่สนใจสามารถติดตามความคืบหน้าและรายละเอียดโครงการได้ที่ www.denchai-chiangmai-doubletrack.com และแฟนเพจรถไฟทางคู่เด่นชัย-เชียงใหม่
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42782
Location: NECTEC

PostPosted: 03/06/2017 10:45 pm    Post subject: Reply with quote

ซุปเปอร์บอร์ดจัดซื้อจัดจ้าง เกาะติดงานช่วงอุโมงค์พระพุทธฉาย เร่งทยอยเปิดต.ค.นี้
โดย MGR Online
3 มิถุนายน 2560 20:06 น.
ซุปเปอร์บอร์ดและบอร์ดรถไฟลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าก่อสร้างเส้นทางฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอยและช่วงการก่อสร้างอุโมงค์ลอดเขาพระพุทธฉาย 1.2 กม. ล่าสุดสัญญา 1 คืบหน้า 40.22% ส่วนสัญญา 2 คืบหน้า 57.50% ร.ฟ.ท.คาดทะยอยเปิดให้บริการช่วงฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้าตั้งแต่ตค. นี้

วันนี้ (3 มิถุนายน 2560) นายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์ รักษาการผู้ว่าการรถไฟฯ นำคณะกรรมการกำกับการจัดซื้อจัดจ้าง กรมบัญชีกลาง ที่นำโดยนายประสาร ไตรรัตน์วรกุล และคณะกรรมการรถไฟ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ เส้นทางรถไฟสายชายฝั่งทะเลตะวันออกช่วงฉะเชิงเทรา - คลองสิบเก้า – แก่งคอยสัญญาที่ 2 ช่วงอุโมงค์รถไฟลอดใต้เขาพระพุทธฉาย เพื่อที่จะกำกับติดตามดูงาน ตลอดจนรับฟังปัญหาอุปสรรค และข้อเสนอแนะ เพื่อเป็นประโยชน์ต่อการก่อสร้างรถไฟทางคู่ของการรถไฟฯ อีก 7 เส้นทาง

นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ประธานกรรมการในคณะกรรมการกำกับการจัดซื้อจัดจ้าง หรือ ซุปเปอร์บอร์ดจัดซื้อจัดจ้าง เปิดเผยว่า การติดตามงานก่อสร้างเส้นทางรถไฟทางคู่สายชายฝั่งทะเลตะวันออก ช่วงชุมทางรถไฟฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย เป็นการเพิ่มความเข้าใจแก่คณะกรรมการฯ เนื่องจากรถไฟทางคู่สายนี้เป็น 1 ใน 2 สาย ที่ก่อสร้างไปแล้วก่อนตั้งคณะกรรมการกำกับฯ และเป็น 1 ใน 7 สายรถไฟทางคู่ที่คณะกรรมการเข้ามากำกับดูแลการจัดซื้อจัดจ้าง

โดยซุปเปอร์บอร์ดจัดซื้อ ได้ติดตาม 3 เรื่อง คือ 1. การรับทราบข้อมูลความสัมพันธ์ของงานอาณัติสัญญากับงานโยธาและราง ที่ซ้อนกันอยู่และหากประสานงานดี ก็สามารถบริหารจัดการได้ 2. งานอุโมงค์รถไฟทางรอดใต้เขาพระพุทธฉาย ซึ่งเป็นสัญญาที่ 2 มีความคืบหน้าตามแผน และ3. เพื่อ รับทราบถึงต้นทุนค่าใช้จ่ายในการก่อสร้าง ซึ่งจะผูกโยงกับการตั้งราคากลางในงานจัดซื้อจัดจ้างโครงการอื่นๆ และทำให้ประเมินว่า การก่อสร้างรถไฟทางคู่ในเส้นทางที่เหลือก็น่าจะทำได้ตามแผน และแล้วเสร็จตามกำหนด

สำหรับการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงฉะเชิงเทรา - คลองสิบเก้า – แก่งคอย ได้เริ่มดำเนินการเมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2559 ระยะเวลาการดำเนินงาน 36 เดือน (เดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ.2559 ถึงเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ.2562) ระยะทางรวมประมาณ 106 กิโลเมตร โดยแบ่งออกเป็น 2 สัญญา ดังนี้

สัญญาที่ 1 งานก่อสร้างทางรถไฟทางคู่ ช่วงฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-วิหารแดง และช่วงบุใหญ่-แก่งคอยพร้อมทางคู่เลี่ยงเมือง (Chord Lines) 3 แห่ง (ฉะเชิงเทรา แก่งคอย และภาชี) ระยะทางรวมประมาณ 97 กิโลเมตร งบประมาณในการก่อสร้าง 9,825 ล้านบาท กำหนดก่อสร้างแล้วเสร็จ กุมภาพันธ์ 2561 บริษัทคู่สัญญาก่อสร้าง คือ บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน)

สัญญาที่ 2 งานก่อสร้างทางรถไฟทางคู่ ช่วงวิหารแดง-บุใหญ่ ระยะทางรวมประมาณ 9 กิโลเมตร และอุโมงค์รถไฟลอดใต้เขาพระพุทธฉาย 1.2 กิโลเมตร งบประมาณในการก่อสร้าง 407 ล้านบาท กำหนดก่อสร้างแล้วเสร็จ มีนาคม 2561บริษัทคู่สัญญาก่อสร้าง คือ บริษัท ไร้ท์ทันเน็ลลิ่ง จำกัด

โดยงานอุโมงค์รถไฟลอดใต้เขาพระพุทธฉาย ระยะทาง 1.2 กิโลเมตร ได้ดำเนินการเจาะทะลุเรียบร้อยแล้ว ซึ่งเป็นงานที่อยู่ในส่วนของสัญญาที่ 2 งานก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงวิหารแดง – บุใหญ่ ระยะทางประมาณ 9 กิโลเมตร และอุโมงค์รถไฟลอดใต้เขาพระพุทธฉาย ระยะทาง 1.2 กิโลเมตร บริษัท คู่สัญญาก่อสร้างคือ บริษัท ไร้ท์ทันเน็ลลิ่ง จำกัด การเจาะอุโมงค์ดังกล่าว ได้ดำเนินการโดยใช้เทคโนโลยี New Austrian Tunneling Method (NATM) เป็นเทคนิคที่ดีที่สุดในการใช้การวัดแบบคำนวณและเชิงประจักษ์ในเวลาจริงเพื่อหาการสนับสนุนที่มีประสิทธิภาพด้านความปลอดภัยที่สูงที่สุดสำหรับการซับในของอุโมงค์ เสริมสร้างความแข็งแกร่งของอุโมงค์ ซึ่งเมื่อเจาะอุโมงค์แล้ว ก็จะเริ่มงานวางรางเป็นขั้นตอนต่อไป

ความคืบหน้าโครงการสัญญาที่ 2 มีแผนงานสะสม 63.93% ผลงานที่ทำได้ 57.50% ช้ากว่าแผน 6.43% เนื่องจากปัญหาการขออนุญาตเข้าพื้นที่ และสภาพภูมิอากาศ ส่วนสัญญาที่ 1 มีความก้าวหน้า 40.22% เร็วกว่าแผน 21.48%

สำหรับโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ในเส้นทางรถไฟสายชายฝั่งทะเลตะวันออกช่วงฉะเชิงเทรา - คลองสิบเก้า - แก่งคอย เป็นการก่อสร้างทางรถไฟใหม่จำนวน 1 ทาง คู่ขนานไปกับทางเดิม เริ่มจากสถานีฉะเชิงเทรา ไปตามทางรถไฟสายตะวันออกเดิม (สายอรัญประเทศ) ผ่านสถานีบางน้ำเปรี้ยวถึงสถานีคลองสิบเก้า แยกขนานไปกับทางรถไฟสายคลองสิบเก้า – แก่งคอย ผ่านสถานีองครักษ์ วิหารแดง บุใหญ่ สุดปลายทางที่สถานีแก่งคอย ซึ่งผ่านพื้นที่อำเภอเมือง และอำเภอบางน้ำเปรี้ยว จังหวัดฉะเชิงเทรา พื้นที่อำเภอองครักษ์ และอำเภอบ้านนา จังหวัดนครนายก และพื้นที่อำเภอวิหารแดง อำเภอเมือง และอำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42782
Location: NECTEC

PostPosted: 04/06/2017 11:35 am    Post subject: Reply with quote

ประมูลทางคู่นครปฐม-หัวหิน
เศรษฐกิจ
Webmaster2017-06-04 11:00:00

รายงานข่าวจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) แจ้งว่า ได้เปิดขายซองเอกสารประกวดราคาโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ช่วงนครปฐม-หัวหิน 2 สัญญา มูลค่ารวม 16,066 ล้านบาท ตั้งแต่วันที่ 30 พ.ค. ที่ผ่านมาไปจนถึงวันที่ 6 มิ.ย. นี้ จากนั้นจะเปิดให้ยื่นเอกสารประกวดราคาวันที่ 21 ก.ค. แจ้งผลผู้มีสิทธิ์เสนอราคา 31 ก.ค. และเสนอราคาทางอิเล็กทรอนิกส์วันที่ 10 ส.ค.โดยแบ่งประมูลก่อสร้าง ออกเป็น 2สัญญาตามมติคณะกรรมการกำกับการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ (ซูเปอร์บอร์ดจัดซื้อจัดจ้าง) ได้แก่สัญญาที่ 1 ช่วงนครปฐม-หนองปลาไหล 93 กม. วงเงิน 8,390 ล้านบาท และสัญญาที่ 2 ช่วงหนองปลาไหล-หัวหิน 76 กม.วงเงิน 7,676 ล้านบาท

นอกจากนี้ รฟท. ยังอยู่ระหว่างรับฟังความคิดเห็นร่างเงื่อนไขการประมูล (ทีโออาร์) รถไฟทางคู่อีก 3 เส้นทางรวม 5 สัญญาเป็นครั้งที่ 1 ตั้งแต่วันที่ 31พ.ค. ที่ผ่านมาถึงวันที่ 6 มิ.ย.นี้เช่นกัน ได้แก่ประจวบคีรีขันธ์-ชุมพรสัญญาที่ 1 ช่วงประจวบคีรีขันธ์-บางสะพานน้อย มูลค่า 6,575 ล้านบาท และสัญญาที่ 2ช่วงบางสะพานน้อย-ชุมพร มูลค่า 6,066 ล้านบาท, เส้นทางมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ สั
ญญาที่ 1 ช่วงมาบกะเบา-คลองขนานจิตรมูลค่า 7,373 ล้านบาทและสัญญาที่ 2 คลองขนานจิตร-ชุมทางถนนจิระ 6,869 ล้านบาทและเส้นทางลพบุรี-ปากน้ำโพ สัญญาที่ 2 ช่วงท่าแค-ปากน้ำโพ วงเงิน 8,786 ล้านบาทรวมทั้งเปิดรับฟังความคิดเห็นทีโออาร์โครงการจัดซื้อรถจักรดีเซลไฟฟ้าน้ำหนักกดเพลา 16 ตันต่อเพลา 50 คันมูลค่า 6,240 ล้านบาทด้วย

นายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์ กรรมการและรักษาการผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กล่าวว่า การเปิดประมูลรถไฟทางคู่ 5 เส้นทางตามมติซูเปอร์บอร์ดจัดซื้อจัดจ้างยังคงเดินหน้าตามแผนแต่ ต้องขอความเห็นจากซูเปอร์บอร์ดฯ เพิ่มเติมในเส้นทางลพบุรี-ปากน้ำโพและเส้นทางมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ ซึ่งมีสัญญาที่เป็นการก่อสร้างสะพานและอุโมงค์เพราะเป็นงานที่เป็นลักษณะเฉพาะเมื่อได้ข้อสรุปก็จะนำร่างทีโออาร์รับความคิดเห็นกับผู้เกี่ยวข้องต่อไปพร้อมปรึกษาซูปเปอร์บอร์ดฯ ว่า รฟท. ต้องนำโครงการจัดซื้อรถจักรดีเซลไฟฟ้า 50คันให้ซูปเปอร์บอร์ดฯ พิจารณาด้วยหรือไม่ เพราะเป็นโครงการที่มีมูลค่ามากกว่า 5,000 ล้านบาท
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42782
Location: NECTEC

PostPosted: 05/06/2017 4:54 pm    Post subject: Reply with quote

Wisarut wrote:
ซุปเปอร์บอร์ดจัดซื้อจัดจ้าง เกาะติดงานช่วงอุโมงค์พระพุทธฉาย เร่งทยอยเปิดต.ค.นี้
โดย MGR Online
3 มิถุนายน 2560 20:06 น.

ทางคู่ตะวันออกลิ่วกว่าครึ่ง คิดเพิ่มความแกร่งอุโมงค์
เดลินิวส์
จันทร์ที่ 5 มิถุนายน 2560 เวลา 10.21 น.
เร่งทางคู่ฉะเชิงเทรา-แก่งคอย
จันทร์ที่ 5 มิถุนายน 2560 เวลา - 00:00

รฟท. พอใจ โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่เส้นทางชายฝั่งตะวันออกช่วงฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย คืบ 50% ด้านบริษัทเสนอเพิ่มความแกร่งอุโมงค์อ้อนของบเพิ่ม


นายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์ รองอธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) ในฐานะรักษาการผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 3 มิ.ย.ที่ผ่านมาได้นำคณะกรรมการกำกับการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ (ซุปเปอร์บอร์ด) คณะกรรมการ (บอร์ด) รฟท. และผู้เกี่ยวข้องตรวจเยี่ยมโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่เส้นทางชายฝั่งตะวันออกช่วงฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย สัญญาที่ 2 ช่วงก่อสร้างอุโมงค์รถไฟลอดใต้เขาพระพุทธฉาย จ.สระบุรี  ระยะทาง 1.2 กม. ซึ่งเจาะทะลุเรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 16 พ.ค.ที่ผ่านมา และมีความคืบหน้าโดยรวม 57.50 % ช้ากว่าแผน 6.43% เนื่องจากเข้าพื้นที่ล่าช้าและสภาพภูมิอากาศ ส่วนสัญญาที่ 1 ก้าวหน้า 40.22% เร็วกว่าแผน 21.48% คาดว่าเดือน ก.ค.จะวางรางภายในอุโมงค์ รวมแล้วการก่อสร้างทั้งโครงการคืบหน้ากว่า 50% แล้ว เมื่อแล้วเสร็จปี 62 จะเขื่อมกับรถไฟทางคู่แหลมฉบังรองรับนโยบายระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออกหรืออีอีซีซึ่งรถไฟทางคู่แหลมฉบับจะเสร็จหลัง 1 ปี
 
ด้านนายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ประธานซุปเปอร์บอร์ด รฟท. กล่าวว่า ได้เข้ามาทำความเข้าใจต้นทุนค่าใช้จ่ายก่อสร้างว่าสัมพันธ์กับราคากลางที่ตั้งไว้หรือไม่โดยเฉพาะการตอกเสาเข็มบางจุดเป็นดินอ่อนค่าเสาเข็มสูงมากราคาประมูล 9,000 ล้านสัญญา 1 เป็นค่าเสาเข็ม 2 พันล้านบาท รวมอยู่ในวิสัยของวงเงินโครงการ งานขุดเจาะอุโมงค์บริษัทคนไทยทำได้และแนะนำให้เพิ่มความแข็งแกร่งชั้นหินของผนังอุโมงค์ 1.20 เมตรด้วยคอนกรีตเสริมเหล็กทั้งหมด จากที่จะทำในจุดที่หินอ่อนตัว  แต่วงเงินประมูลที่ได้ 400 กว่าล้าน ไม่เพียงพอ ขณะที่ราคากลาง 600 ล้าน จะนำข้อมูลไปพิจารณาและไปพัฒนารถไฟทางคู่อีก 7 สาย

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า รถไฟทางคู่เส้นทางสายตะวันออกฯ จะก่อสร้างทางรถไฟใหม่ 1 เส้นคู่ขนานทางเดิมเริ่มจากสถานีฉะเชิงเทราไปตามสายอรัญประเทศสุดปลายทางสถานีแก่งคอยผ่าน อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา อ.องครักษ์ อ.บ้านนา จ.นครนายก และ อ.วิหารแดง อ.เมือง อ.แก่งคอย จ.สระบุรี สัญญาที่ 1 งานก่อสร้างรถไฟทางคู่ช่วงฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-วิหารแดง และช่วงบุใหญ่-แก่งคอย พร้อมทางคู่เลี่ยงเมือง 3 แห่ง (ฉะเชิงเทรา แก่งคอย ภาชี) 97 กม. งบก่อสร้าง 9.8 พันล้านบาทแล้วเสร็จ ก.พ. 62 โดยมีคู่สัญญาก่อสร้างคือบริษัทซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) ส่วนสัญญาที่ 2 งานก่อสร้างทางคู่ช่วงวิหารแดง-บุใหญ่ 9 กม.และอุโมงค์ลอดใต้เขาพระพุทธฉาย 1.2 กม. งบก่อสร้าง 407.04 ล้านบาท กำหนดแล้วเสร็จ มี.ค.61 โดยมีคู่สัญญาคือบริษัท ไร้ท์ทันเน็ลลิ่ง
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42782
Location: NECTEC

PostPosted: 06/06/2017 8:24 pm    Post subject: Reply with quote

Wisarut wrote:
ประมูลทางคู่นครปฐม-หัวหิน
เศรษฐกิจ
Webmaster2017-06-04 11:00:00

ร.ฟ.ท.ปิดขายซองทางคู่นครปฐม-หัวหิน6มิ.ย.
ข่าวเศรษฐกิจ
INN News
วันอาทิตย์ที่ 4 มิถุนายน พ.ศ.2560 14:01 น.

ร.ฟ.ท.ปิดขายซองทางคู่นครปฐม-หัวหิน มูลค่า 1.6 หมื่นล้านบาท 6 มิ.ย.นี้ พร้อมแจ้งผู้มีสิทธิ์ประมูลตามคุณสมบัติ 31 ก.ค. 60

นายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์ รักษาการผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย หรือ ร.ฟ.ท. เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการรถไฟทางคู่ 5 เส้นว่า คณะกรรมการจัดซื้อจัดจ้างได้มีมติให้รฟท.เดินหน้าตามแผนงานในการเปิดประมูลหลังจากได้มีการปรับ TOR ใหม่และได้รับความเห็นชอบแล้ว โดยขณะนี้อยู่ระหว่างเปิดขายซองประกวดราคา การก่อสร้างรถไฟทางคู่ช่วงนครปฐม-หัวหินงบประมาณลงทุน 16,066 ล้านบาท ซึ่งจะปิดรับซองวันสุดท้ายในวันอังคารที่ 6 มิถุนายนนี้ หลังจากนั้นจะใช้ระยะเวลาพิจารณาประมาณ 2 สัปดาห์ และจะแจ้งผลผู้มีสิทธิ์ประมูลในช่วงสิ้นเดือนกรกฎาคม 2560 หรือ 31 กรกฎาคม

ขณะเดียวกันในส่วนเส้นทาง ลพบุรี-ปากน้ำโพและเส้นทางมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ จะต้องขอความคิดเห็นเพิ่มเติม เนื่องจากยังติดปัญหาในบางพื้นที่ก่อนจะจัดทำ TOR
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44739
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 07/06/2017 9:37 am    Post subject: Reply with quote

ปีหน้าเปิดใช้ทางคู่สายตะวันออก เฟสแรก "ฉะเชิงเทรา-บางน้ำเปรี้ยว"
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ 07 มิ.ย. 2560 เวลา 07:45:27 น.

คอลัมน์ เวนคืนอัพเดต

รถไฟทางคู่สายตะวันออกช่วง "ฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย" ระยะทาง 106 กม. หลังเริ่มงานก่อสร้างพร้อมกับรถไฟทางคู่สายอีสาน "จิระ-ขอนแก่น" เมื่อเดือน ก.พ. 2559 ที่ผ่านมา ถึงขณะนี้ทำผลงานก่อสร้างรุดหน้าไปได้แล้ว 50% ซึ่งเร็วกว่าแผนงานที่วางไว้

จากผลงานที่ก้าวหน้า ทำให้ "ร.ฟ.ท.-การรถไฟแห่งประเทศไทย" เตรียมเปิดให้บริการเร็วขึ้น ประเดิมเฟสแรกช่วง "ฉะเชิงเทรา-บางน้ำเปรี้ยว" ภายในเดือน ต.ค. 2561 และเปิดตลอดเส้นทางในปี 2562

แหล่งข่าวจากการรถไฟแห่งประเทศไทยเปิดเผยกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ทางคู่ฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย มีระยะทาง 106 กม. ซึ่งแบ่งงานก่อสร้างเป็น 2 สัญญาขณะนี้มีความคืบหน้า 50% โดยสัญญาที่ 1 งานก่อสร้างทางรถไฟทางคู่ช่วงฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-วิหารแดง และช่วงบุใหญ่-แก่งคอย พร้อมทางคู่เลี่ยงเมือง (Chord Line) 3 แห่ง วงเงิน 9,825 ล้านบาท มี บมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น เป็นผู้ก่อสร้าง ความคืบหน้าอยู่ที่ 45% เร็วกว่าแผน 22%

สัญญาที่ 2 งานก่อสร้างทางรถไฟทางคู่ช่วงวิหารแดง-บุใหญ่ พร้อมอุโมงค์รถไฟ วงเงิน 407 ล้านบาท มี บจ.ไร้ท์ทันเน็ลลิ่ง เป็นผู้ก่อสร้าง มีความคืบหน้าอยู่ที่ 60% ช้ากว่าแผน 7% ซึ่งวันที่ 17 พ.ค.ที่ผ่านมา ได้ดำเนินการเจาะอุโมงค์รถไฟลอดใต้เขาพระพุทธฉาย ระยะทาง 1.2 กม. เสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยใช้เทคโนโลยีการก่อสร้างจากประเทศออสเตรเลียมาดำเนินการ

"คาดว่าจะเปิดให้บริการช่วงแรก คือ ฉะเชิงเทรา-บางน้ำเปรี้ยว ระยะทาง 20 กม. ในเดือน ต.ค. 2561 จากนั้นจะเปิดให้บริการเต็มเส้นทางภายในปี 2562"

สำหรับโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ในเส้นทางรถไฟสายชายฝั่งทะเลตะวันออก ช่วงฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย เป็นการก่อสร้างทางรถไฟใหม่ จำนวน 1 ทาง คู่ขนานไปกับทางเดิม เริ่มจากสถานีฉะเชิงเทรา ไปตามทางรถไฟสายตะวันออกเดิม (สายอรัญประเทศ) ผ่านสถานีบางน้ำเปรี้ยวถึงสถานีคลองสิบเก้า

จากนั้นแยกขนานไปกับทางรถไฟสายคลองสิบเก้า-แก่งคอย ผ่านสถานีองครักษ์ วิหารแดง บุใหญ่ สุดปลายทางที่สถานีแก่งคอย ซึ่งผ่านพื้นที่อำเภอเมือง และอำเภอบางน้ำเปรี้ยว จังหวัดฉะเชิงเทรา พื้นที่อำเภอองครักษ์ และอำเภอบ้านนา จังหวัดนครนายก และพื้นที่อำเภอวิหารแดง อำเภอเมือง และอำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี

เมื่อแล้วเสร็จจะเป็นรถไฟทางคู่อีกหนึ่งเส้นทาง มาเสริมแกร่งระบบโลจิสติกส์ในพื้นที่อีสานและภาคตะวันออกของประเทศไทย
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42782
Location: NECTEC

PostPosted: 07/06/2017 4:05 pm    Post subject: Reply with quote

‘เทศบาลโคราช’ ชี้วิกฤตผ่าเมืองโคราช ไม่สร้างทางรถไฟยกระดับ จะกลายเป็นเมืองอกแตก
มติชน
วันที่ 6 มิถุนายน 2560 - 13:43 น.


โคราชงง “ขอนแก่น-อุดร” ได้ทางรถไฟยกระดับแต่โคราชอาจจะไม่ยก อนาคตโคราชจะเป็นเมืองอกแตก “นายสุรวุฒิ เชิดชัย” ชี้รูปแบบก่อสร้างเส้นทางรถไฟทางคู่ของ “สนข.” หากไม่ยกระดับช่วงผ่านตัวเมืองโคราช ไม่เป็นผลดีต่อวิถีการใช้ชีวิตชุมชนใหญ่หาก “ยกเลิกจุดตัดทางข้ามรถไฟ” ทำให้ส่งผลกระทบต่อการสัญจรไปมาหาสู่กัน เหมือนกำแพงกั้นขับรถเข้าเมือง ร้องภาครัฐที่เกี่ยวข้องฟังเสียงคนท้องถิ่น การสร้างความเจริญให้เมืองต้องไม่กระทบวิถีชุมชน ถ้ายกระดับทางรถไฟเล็งเนรมิตขนส่งมวลชนเชื่อมโคกกรวดถึงหัวทะเล

รถไฟทางคู่สร้างความเจริญให้โคราช

นายสุรวุฒิ เชิดชัย นายกเทศมนตรีนคร นครราชสีมา เปิดเผยถึงโครงการรถไฟทางคู่ ชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่นว่า “โครงการนี้จะสร้างความเจริญให้กับชาวโคราชอย่างแน่นอน และสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งมวลชนโดยลดระยะเวลาการเดินทาง ประหยัดพลังงานและให้ประชาชนมีทางเลือกในสัญจรจากเมืองโคราชไปสู่ภูมิภาคต่างๆ ได้เพิ่มขึ้น ส่งผลให้เมืองโคราชมีความเจริญพัฒนายิ่งขึ้นและเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ”

ไม่เห็นด้วยปิดทางข้ามรถไฟถาวร

“ที่ตนมองโครงการสร้างทางรถไฟ ช่วงเส้นทางผ่านตัวเมืองโคราชถึงสถานีรถไฟชุมทางถนนจิระ มีจุดตัดเป็นถนนข้ามทางรถไฟเชื่อมต่อองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่มีอาณาเขตติดต่อกันและชุมชนขนาดใหญ่ เริ่มตั้งแต่ ต.โคกกรวด ถึงตัวเมืองโคราชต้องเป็นทางยกระดับไม่ใช่ทางพื้นถนนหลัก ไม่ว่าจะเป็นทางรถไฟความเร็วสูงหรือทางคู่ ซึ่งปัจจุบันทางข้ามรางรถไฟจะใช้เจ้าหน้าที่การรถไฟแห่งประเทศไทย ควบคุมการเปิด-ปิดเครื่องกั้น แต่รูปแบบการก่อสร้างของสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ได้ยกเลิกจุดตัดทางข้ามถาวร ให้ใช้ถนนเลียบทางรถไฟและทางต่างระดับหรือสะพานข้ามทางรถไฟหัวทะเล ซึ่งเป็นจุดเดิมและก่อสร้างใหม่ที่หน้าทางเข้าค่ายสุรนารีแทน ทำให้ส่งผลกระทบต่อการสัญจรไปมาหาสู่กัน”

“ทางรถไฟยกระดับ” เหมาะกับเมืองโคราช

“หากใช้เป็นทางรถไฟยกระดับตนมองว่าจะเหมาะสมมากกว่า เพราะว่าเวลาเราต้องการตัดถนนเพิ่มเพื่อระบายการจราจรให้โครงข่ายจราจรได้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น และการวางท่อระบายน้ำที่จะเชื่อมต่อถ้าเป็นทางรถไฟยกระดับจะทำให้การพัฒนาเมืองโคราชได้ดีขึ้น ในอนาคตการจราจรค่อนข้างหนาแน่นสิ่งเหล่านี้จะช่วยลดปัญหาจราจรได้”

ไม่ต้องมาสร้างทางยกระดับข้ามทางรถไฟ

นายสุรวุฒิกล่าวอีกว่า “มองง่ายๆ หากทางรถไฟไม่ยกระดับจะสร้างได้ครั้งเดียวจบเลยเมืองโคราชทำอะไรต่อไม่ได้ ต้องไปสร้างสะพานยกระดับเพื่อให้รถวิ่งข้ามทางรถไฟแทนสร้างไปเรื่อยๆ แล้วเมืองโคราชมีกี่ทางข้ามรางรถไฟก็ต้องทำไปไม่มีจบ แต่หากยกระดับทางรถไฟจุดเดียวแก้ปัญหาได้ทั้งหมดไม่ต้องมาสร้างทางยกระดับข้ามทางรถไฟให้เสียรูปแบบการจราจรของเมือง การเดินท่อประปาท่อระบายน้ำก็จะยาก การจราจรและความเจริญของเมืองก็จะมีปัญหา”

เนรมิตขนส่งมวลชนเชื่อมโคกกรวด-หัวทะเล

“ตนมองถึงอนาคตหากมีทางรถไฟยกระดับ เทศบาลฯ หรือจังหวัดก็สามารถเช่าหรือขอพื้นที่ข้างรางรถไฟในการเปิดเส้นทางขนส่งมวลชนเช่นเชื่อมจากโคกกรวดไปหัวทะเล คู่ขนานกับรางรถไฟยกระดับในอนาคตอีกด้วย จะสอดคล้องกันทั้งระบบสาธารณูปโภคของเมืองโคราช”

โคราชไม่ยกระดับจะเป็น “เมืองอกแตก”

“ที่ จ.ขอนแก่น และ จ.อุดรธานี ยกระดับนี่คือการเชื่อมเมืองทำให้เมืองไม่ถูกผ่าเป็น 2 เมือง แต่หากโคราชไม่ยกระดับจะเป็นเมืองอกแตก การที่จะสร้างความเจริญให้เมืองเติบโตอย่างมีคุณภาพ ทางภาครัฐก็ต้องฟังเสียงประชาชนในโคราชอยู่แล้ว เพราะสิ่งที่รัฐต้องการคือทำทางรถไฟเข้าเมืองโคราช เพราะต้องการเห็นคุณภาพชีวิตดีขึ้น เห็นความเจริญของเมืองดีขึ้น เมื่อต้องการเห็น 2 อย่างนี้ก็ต้องทำให้ทางรถไฟยกระดับเท่านั้น ก็คงต้องมีการมาพูดคุยกันได้ในเรื่องขนส่งมวลชน”

ทางยกระดับข้ามทางรถไฟต้องชานเมือง

“ส่วนภาพทางยกระดับข้ามทางรถไฟที่ถูกเผยแพร่ทางโซเชียลเหมือนเป็นบริเวณทางแยกหัวรถไฟ มองว่าทางยกระดับแบบนี้ไม่ควรอยู่ในเมืองควรอยู่ชานเมืองมากกว่า หากทางรถไฟถูกยกระดับทุกอย่างจบเลยไม่ต้องสร้างทางข้ามยกระดับให้มีปัญหาทัศนียภาพของเมือง อย่างทางตัดผ่านทางรถไฟเมืองโคราชมีกว่า 20 จุด หากยกระดับขึ้นทางตัดข้ามรถไฟก็ไม่มี จะทำให้การเชื่อมเมือง 2 ฝั่งทางรถไฟก็จะขยายถนนเพิ่มในอนาคตได้อีกด้วย” นายสุรวุฒิกล่าวทิ้งท้าย

รฟท.เตรียมเคลียร์พื้นที่ตึกถนนมุขมนตรี

ล่าสุดกลุ่มผู้เช่าที่ดิน รฟท. บริเวณถนนมุขมนตรี เริ่มตั้งแต่ฝั่งตรงข้ามสำนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) จังหวัดนครราชสีมา และฝั่งตรงข้ามโรงเรียนมารีย์วิทยา ส่วนใหญ่เป็นอาคารพาณิชย์ รวมกว่า 60 คูหา ซึ่งมีการเช่าที่ดิน รฟท. เพื่อปลูกสร้างเป็นร้านค้า เป็นเวลาร่วม 30 ปี แจ้งกับสื่อมวลชนว่าทาง รฟท.ยกเลิกการให้เช่าที่ดินและให้ย้ายออกในเร็วๆ นี้เพื่อเคลียร์พื้นที่รองรับทางรถไฟทางคู่และรถไฟความเร็วสูง ล่าสุดมีกระแสข่าวว่าธนาคารออมสิน สาขามุขมนตรี ซึ่งตั้งอยู่หน้าอาคารสถานีรถไฟนครราชสีมาก็จะย้ายที่ทำการภายในเดือนกรกฎาคมนี้เช่นกัน
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42782
Location: NECTEC

PostPosted: 07/06/2017 5:14 pm    Post subject: Reply with quote

โครงการรถไฟรางคู่ เด่นชัย-เชียงใหม่ มีการเปิดประเด็ยเรื่องขุนตานและทาชมพู

ช่วงสถานีเด่นชัย ถึง สถานีห้างฉัตร ใช้แนวรางรถไฟเดิม
ช่วงสถานีห้างฉัตร ถึง สถานีลำพูน ตัดเส้นทางใหม่ ลัดตรงไม่อ้อมไป อ้อมมา เหมือนเก่า
ถ้ำขุนตานถูกตัดออกจากเส้นทาง มาเจาะอุโมงค์ใหม่ จากสถานีแม่ตานน้อย
ตรงเข้าสู่สถานีศาลาแม่ทาเลย ย่นระยะทางไปได้หลายสิบกิโลเมตร
https://www.facebook.com/krubartong.cnx/posts/725896174258180
Back to top
View user's profile Send private message
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 160, 161, 162 ... 390, 391, 392  Next
Page 161 of 392

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©