รวมข่าวโครงการรถไฟทางคู่

[saraburi]

[Wisarut]

แอสคอนโวยผลประมูลทางคู่ + เชื่อมีความไม่ชอบมาพากลจี้สนช.-คมนาคมสอบด่วน
ด้านร.ฟ.ท.ยันโปร่งใสทุกขั้นตอน

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 2288 17 ม.ค. - 19 ม.ค. 2551

"แอสคอน" โวยผลการประมูลทางคู่ ฉะเชิงเทรา-ศรีราชา-แหลมฉบัง ไม่เป็นธรรม เชื่อการตรวจสอบคุณสมบัติ-การทำงานไม่โปร่งใส เตรียมยื่นเรื่องให้กรรมาธิการคมนาคม-กระทรวงคมนาคม ตรวจสอบด่วน ขณะที่การรถไฟฯ ยันทำงานโปร่งใสทุกขั้นตอน แจงตรวจอบรอบคอบแล้ว

นายพัฒนพงษ์ ตนุมัธยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสคอน คอนสตรัคชั่นจำกัด (มหาชน) เปิดเผย "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า จากที่บริษัทได้เข้าร่วมซื้อเอกสารประกวดราคา และยื่นข้อเสนอ โครงการก่อสร้างทางคู่สายชายฝั่งทะเลตะวันออก พร้อมติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณและโทรคมนาคม ช่วงฉะเชิงเทรา-ศรีราชา-แหลมฉบัง ระยะทาง 78 กิโลเมตร ของการรถไฟฯ แห่งประเทศไทย (รฟท.) นั้น เชื่อว่ามีความไม่โปร่งใสในขั้นตอนการดำเนินงานหลายขั้นตอน และไม่คำนึงถึงผลประโยชน์สูงสุดของประเทศ


โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ การรถไฟฯ พิจารณาว่าคุณสมบัติของบริษัทที่ร่วมทุนกับบริษัทจากประเทศเยอรมันนีไม่ชัดเจน และเมื่อทางบริษัทส่งเอกสารชี้แจงเพิ่มเติม เพื่อพิสูจน์ว่าบริษัทมีความพร้อมในการดำเนินการ การรถไฟฯ กลับปฏิเสธที่จะพิจารณาเอกสารดังกล่าว ทำให้บริษัทไม่ได้รับความเป็นธรรม


อีกทั้งจากผลการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ร่วมยื่นเอกสาร ซึ่งจัดทำโดยการรถไฟฯ เองยังมีการระบุไว้ชัดเจนด้วยว่า มีผู้ยื่นเอกสารบางรายที่ยื่นเอกสารไม่ครบตามกำหนดแต่กลับผ่านการพิจารณาคุณสมบัติ หรือในกรณีที่บริษัทที่เสนอราคาต่ำสุดเอง ก็ยังมีการระบุไว้ในผลการตรวจสอบคุณสมบัติด้วยว่าไม่มีผลงานตามข้อกำหนดของการรถฯ


ดังนั้นจึงมีเหตุให้เชื่อว่ามีความไม่โปร่งใสในการดำเนินการ ทางบริษัทจึงเตรียมที่จะยื่นหนังสือร้องเรียนไปยังคณะกรรมาธิการคมนาคม สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และ กระทรวงคมนาคม เพื่อให้ตรวจสอบเรื่องดังกล่าว และจะขอความเป็นธรรมให้แก่บริษัทด้วย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.แอสคอนกล่าว


ต่อเรื่องนี้นั้น นายนคร จันทศร รองผู้ว่าการด้านบริหารโครงการระบบรถไฟฟ้า ในฐานะรักษาการผู้ว่าการ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยภายหลังการแข่งขันด้านราคาโครงการก่อสร้างทางคู่สายชายฝั่งทะเลตะวันออกฯ นั้น ยืนยันว่าการดำเนินการของการรถไฟฯ เป็นไปอย่างถูกต้อง เหมาะสม และมีการตรวจสอบอย่างดีแล้ว ไม่น่าจะมีปัญหาตามที่เอกชนร้องเรียน


ขณะที่แหล่งข่าวรายหนึ่งจากการรถไฟฯ ได้ชี้แจงว่า ในทุกขั้นตอนการรถไฟฯ ได้ดำเนินการอย่างรอบคอบ และเป็นธรรมแล้ว และยืนยันว่าการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ยื่นข้อเสนอเป็นไปอย่างถูกต้อง ครบถ้วน และได้ตัดสินแต่ละรายอย่างเป็นธรรม ส่วนที่มีข้อสงสัยว่ามีบางรายไม่ยื่นเอกสารรับรองเงื่อนไขข้อกำหนด นั้น ในส่วนของการรถไฟฯ ถือว่าเอกสารการยืนยันยอมรับเงื่อนไขตามทีโออาร์ไม่ใช่สาระสำคัญ เพราะสาระสำคัญที่จะพิจารณาคือประสบการณ์การทำงาน ผลงาน ความรับผิดชอบ และความโปร่งใสของผู้ยื่นข้อเสนอแต่ละราย

[Wisarut]

การรถไฟฯฝันผุดทางคู่สายใหม่ + เล็งชงรัฐบาลใหม่ขอ7.6พันล.สร้างทางสายฉะเชิงเทรา-แก่งคอย
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 2290 24 ม.ค. - 26 ม.ค. 2551

การรถไฟฯ เตรียมชงแผนผุดทางคู่สายใหม่ ช่วงฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย ระยะทาง 106 กม. เสนอรัฐบาลใหม่ไฟเขียว พร้อมของบลงทุนก่อสร้าง 7,648 ล้านบาท เตรียมจ้างที่ปรึกษาทบทวนแบบรายละเอียด ค่าจ้าง 40 ล้านบาท ก่อนเสนอให้รัฐบาลใหม่พิจารณาอนุมัติก่อสร้าง คาดเปิดให้ที่ปรึกษายื่นข้อเสนอได้ต้น ก.พ.นี้



นายอารักษ์ ราษฎร์บริหาร หัวหน้าเจ้าหน้าที่ด้านการเงิน การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผย "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า การรถไฟฯ เตรียมที่จะเสนอขอความเห็นชอบจากรัฐบาลใหม่ เพื่อดำเนินโครงการก่อสร้างทางคู่ ช่วงฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย พร้อมทางเชื่อมระหว่างสายทาง (Chord Lines) 3 แห่ง ระยะทาง 106 กิโลเมตร โดยคาดว่าจะใช้งบประมาณในการลงทุน 7,648 ล้านบาท

โดยโครงการดังกล่าวเป็นโครงการ ที่ได้รับการบรรจุไว้ในแผนปฏิบัติการพัฒนาระบบโลจิสติกส์ ระยะเร่งด่วน เนื่องจากเป็นเส้นทางขนส่งหลักที่มีความสำคัญในการเชื่อมโยงการขนส่งระบบรางจากภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มายังพื้นที่บริเวณชายฝั่งทะเลตะวันออก เข้าสู่ท่าเรือแหลมฉบังได้โดยตรง

สำหรับเนื้องานโครงการดังกล่าว จะเป็นการก่อสร้างทางรถไฟใหม่เพิ่มอีก 1 ทาง คู่ขนานไปกับ ทางรถไฟปัจจุบันช่วงฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย พร้อมติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณ และก่อสร้างทางเชื่อมระหว่างสายทาง 3 แห่ง โดยไม่ผ่านสถานีชุมทาง ได้แก่
1. ทางเชื่อมที่ชุมทางฉะเชิงเทรา 1 กม. สำหรับเชื่อมสายคลองสิบเก้า-แก่งคอยกับสายฉะเชิงเทรา-สัตหีบ,
2. ทางเชื่อมที่ชุมทางแก่งคอย 3.4 กม. เชื่อมสายตะวันออกเฉียงเหนือกับสายคลองสิบเก้า-แก่งคอย และ
3. ทางเชื่อมที่ชุมทางบ้านภาชี 1 ก.ม. เชื่อมสายเหนือกับสายตะวันออกเฉียงเหนือ

นอกจากนี้ รฟท. อยากจะเร่งทางคู่ สายเหนือ สายตะวันออกเฉียงเหนือและสายใต้ ความยาวทั้งหมด 832 กิโลเมตร ด้วย อันประกอบด้วย



1. ลพบุรี - นครสวรรค์ - พิษณุโลก - ชุมทางบ้านดารา
2. มาบกระเบา - ปากช่อง
3. เชียงใหม่ - ลำพูน
4. ประจวบคีรีขันธ์ - บางสะพานใหญ่ - ชุมพร
5. เขาชุมทอง - ชะอวด
6. แหลมโตนด - พัทลุง - บ้านต้นโดน

หัวหน้าเจ้าหน้าที่ด้านการเงิน กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า โครงการดังกล่าวมีระยะเวลาดำเนินการประมาณ 6 ปี ซึ่งต้องใช้งบประมาณในการลงทุนก่อสร้างประมาณ 7,648 ล้านบาท โดยการรถไฟฯ จะเสนอขอรับการสนับสนุนจากรัฐบาล

ด้านแหล่งข่าวระดับสูงรายหนึ่ง จากการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้การรถไฟฯ อยู่ระหว่างดำเนินการว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษา เพื่อทำการทบทวนผลการศึกษา และแบบรายละเอียดใหม่ เนื่องจากของเดิมเป็นผลการศึกษาที่จัดทำไว้ประมาณ 10 ปีแล้ว จึงต้องทบทวนใหม่ โดยการรถไฟฯ จะเชิญชวนกลุ่มบริษัทที่ปรึกษาที่มีประสบการณ์ด้านการออกแบบรายละเอียด และศึกษาความเหมาะสมในการลงทุนด้านต่างๆ ทั้งเศรษฐกิจ การเงิน วิศวกรรม รวมถึงสิ่งแวดล้อม ประมาณ 6 รายให้มาร่วมยื่นข้อเสนอ ซึ่งขณะนี้กำลังจัดทำเอกสารเชิญชวน โดยจะเปิดให้ยื่นเอกสารในวันที่ 4 กุมภาพันธ์นี้ เพื่อให้ทบทวนแบบให้เหมาะสมกับสภาพการณ์ปัจจุบันที่สุด ภายใต้กรอบวงเงินว่าจ้าง 40 ล้านบาท ระยะเวลาดำเนินการประมาณ 6 เดือน

ทั้งนี้ ประโยชนที่คาดว่าจะได้รับจากโครงการดังกล่าว คือ จะสามารถช่วยรองรับการขนส่ง สินค้าระหว่างพื้นที่ ชายฝั่งทะเลตะวันออก และท่าเรือแหลมฉบังกับพื้นที่บริเวณภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ คอนเทนเนอร์ ซีเมนต์ผง ผลิตภัณฑ์น้ำมันก๊าซ และสินค้าเกษตรต่างๆ


นอกจากนั้น ยังช่วยแบ่งเบาปริมาณการจราจรบนถนนสายต่างๆ ที่เชื่อมภาคตะวันออกกับภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ลดการใช้น้ำมันสำหรับรถยนต์บรรทุก ลดอุบัติเหตุ และลดการสูญเสียต่างๆ บนถนน


รวมถึงจะมีส่วนช่วยทำให้ผู้ประกอบการด้านการขนส่งสินค้า หันมาใช้การขนส่งระบบรางมากขึ้น เป็นประโยชน์ต่อการใช้พลังงานและลดต้นทุนการขนส่งของประเทศ และยังเป็นการสนับสนุนให้เกิดการเปลี่ยนรูปแบบการขนส่งไปสู่ระบบราง และสนับสนุนการพัฒนาระบบโลจิสติกส์ของประเทศด้วย

[nutty]

เอ.. แล้วทำไมทางอีสานเหนือถึงเลือกแค่ช่วงเมืองพล-บ้านไผ่ล่ะครับ

[Wisarut]

[puggi]

เกือบ สองเดือนแล้ว

ไม่รู้ว่าเซ็นสัญญาหรือยัง

ปกติ หลังจากรู้ผล การประมูล หรือผลการคัดเลือก ก็แค่ตรวจสอบเอกสาร พอเป็นพิธี รวมถึงเรื่องร้องเรียนต่างๆ

หากไม่มีปัญหาร ก็จะเซ็น สัญญาภายใน 30-45 วัน

ทำไม เงียบไปเลยนะเนี่ย น่าจะรีบๆสร้างน้ำมันยิ่งแพงหูตูบ

[puggi]

เมื่อวานฟังรายการ ข่าวข้น คนข่าว

เห็นบอกว่า เซ็นสัญญาก่อสร้างเรียบร้อยไปแล้วในวันครบรอบ111 ปี การรถไฟ

เลยไป เวปการรถไฟ มีข่าวมาดังนี้ครับ

[pak_nampho]

ใช่ครับจากข่าวค่ำทีวี การก่อสร้างทางคู่ช่วงฉะเชิงเทรา-ศรีราชา-แหลมฉบัง การรถไฟฯได้ถือโอกาสวาระมงคลครบรอบ 111 ปีการรถไฟ ฯ
ในวันที่ 26 มีนาคม 2551 ลงนามในสัญญาจ้างครับ...ดีใจกับอาร์ม ด้วย
_________________
+++++++++++++++++ ๑๑๖ ปี รถไฟไทยก้าวไกล....จากรถจักรไอน้ำ +++++++++++++++++

....................บุตร ครฟ. พขร.ตรี แขวงรถพ่วงปากน้ำโพ ...................

[Mongwin]

งานนี้คุณ nirakan ต้องติดตามความคืบหน้าการก่อสร้างมาให้พวกเราดูเป็นระยะๆ แน่นอนครับ

[Wisarut]

ล่าสุด ผู้รับเหมาบ่นว่า งบ 3982 ล้านบาท ทำท่าจะไม่พอมือ กับการ ทำทางคู่ ฉะเชิงเทรา - ศรีราชา - แหลมฉบังเพราะ ต้นทุนเครื่องเหล็ก หิน ปูน ทราย พุ่งทะยานฟ้า
ทำท่าจะขาดทุนเอา ต้องเร่งทำโครงการให้เสร็จก่อนเวลา และ ผลิตหมอนคอนกรีตให้เยอะๆ จะได้ลดต้นทุนไปได้มาก