View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44637
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 21/01/2011 6:38 am Post subject: |
|
|
จ่อประมูลรถไฟทางคู่แก่งคอยต้นปี-รอสวล.ไฟเขียวรายงาน
Friday, 21 January 2011 05:55
ASTVผู้จัดการรายวัน - ร.ฟ.ท.เตรียมประมูลรถไฟทางคู่ ช่วงฉะเชิงเทรา-แก่งคอยมูลค่า 1.1 หมื่นล้านบาทต้นปี 54 เผยรอผลสิ่งแวดล้อมเท่านั้น เหตุแนวเส้นทางเข้าเขตป่าสงวน ส่วนแบบพร้อมเปิดประมูลหาผู้รับเหมาก่อสร้างได้ทันทีหลังผ่านความเห็นชอบ
นายจำรูญ ตั้งไพศาลกิจ รองปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ในช่วงต้นปี 2554 การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) จะสามารถเปิดประมูลก่อสร้างโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า (อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา)-แก่งคอย ระยะทาง 106 กิโลเมตร มูลค่า 11,348 ล้านบาทได้ เนื่องจากออกแบบก่อสร้างเสร็จเรียบร้อยแล้วโดยขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการขอรับความเห็นชอบในการใช้พื้นที่ดำเนินโครงการในเขตป่าสงวนแห่งชาติ จาก อบต.ท้องที่ ซึ่ง ร.ฟ.ท.ได้ส่งรายงานผลวิเคราะห์ผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม เพิ่มเติมไปยังคณะกรรมการผู้ชำนาญการจากคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติแล้วซึ่งหากผ่านการเห็นชอบ จะเริ่มขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้างได้ทันที
ทั้งนี้ ในส่วนพื้นที่ที่มีปัญหาเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม เป็นจุดก่อสร้างอุโมงค์บริเวณเขาพระพุทธฉาย จังหวัดสระบุรี ซึ่งแนวการก่อสร้างจะขนานไปกับอุโมงค์เดิม กิโลเมตรที่ 147+100 ถึงกิโลเมตรที่ 148+307 ระยะทาง 1.2 กิโลเมตร ตลอดจนจุดก่อสร้างสถานีเพิ่มเติม 1 แห่งที่สถานีไผ่นาบุญ ช่วงกิโลเมตร 162+819 ระหว่างสถานีบุใหญ่ และสถานีแก่งคอยเพื่อใช้เป็นสถานีควบคุมระบบอาณัติสัญญาณ ซึ่งต้องผ่านป่าอนุรักษ์ธรรมชาติ และแนวก่อสร้างยังต้องผ่านพื้นที่ลุ่มน้ำ A1 หลายแห่ง ซึ่งในขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้างนั้นจะมีการแบ่งงานก่อสร้างออกเป็น 2 สัญญาคือ สัญญาก่อสร้าง และวางระบบ
โดยเป็นการก่อสร้างทางรถไฟสายใหม่ 1 สายทาง คู่ขนานไปกับทางรถไฟสายเดิม และจะต้องมีการเวนคืนที่ดิน 119 ไร่ ซึ่งเริ่มต้นจากสถานีฉะเชิงเทรา ผ่านสถานีบางน้ำเปรี้ยว สถานีคลองสิบเก้า แล้วแยกขนานไปกับทางรถไฟสายคลองสิบเก้า-แก่งคอย ผ่านสถานีองครักษ์ วิหารแดง บุใหญ่ สิ้นสุดปลายทางที่สถานีแก่งคอย รวมระยะทาง 106 กิโลเมตร ผ่าน 3 จังหวัดคือ ฉะเชิงเทรา นครนายกและสระบุรี
นอกจากนี้ร.ฟ.ท.ยังมีโครงการรถไฟทางคู่อีก 5 สายทาง โดยร.ฟ.ท.รับผิดชอบการศึกษาความเหมาะสมและจัดทำรายงานผลวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม 3 สายทาง ประกอบด้วย 1. สายเหนือช่วงลพบุรี-นครสวรรค์ 2. สายตะวันออกเฉียงเหนือ ช่วงมาบกะเบานครราชสีมา และ 3. สายใต้ ช่วงนครปฐม-หัวหิน ระยะทางรวม 415 กิโลเมตร วงเงินลงทุนประมาณ 36,100 ล้านบาท
อีก 2 สายทาง คือ สายตะวันออกเฉียงเหนือ ช่วงชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น และสายใต้ ช่วงประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร ระยะทางรวม 352 กิโลเมตร วงเงินลงทุนประมาณ 30,010 ล้านบาท สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เป็นผู้รับผิดชอบการศึกษาออกแบบซึ่งคาดว่าจะได้ผู้รับจ้างประมาณเดือนมกราคม2554 นี้
Last edited by Mongwin on 21/01/2011 8:48 am; edited 1 time in total |
|
Back to top |
|
|
nop2
2nd Class Pass (Air)
Joined: 06/03/2008 Posts: 985
Location: เพชรบุรี
|
Posted: 21/01/2011 8:38 am Post subject: |
|
|
ผมกระทบสิ่งแว้ดล้อมผมว่าไม่เท่าไรครับ ผมกระทบความเสียกับคนรุกที่กับคนสัมปทานรถประจำทางมีมากกว่า _________________ "You are star I am darkness Our love brighter than the sun .." |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44637
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 21/01/2011 8:52 am Post subject: |
|
|
แปลกใจว่า ทุกทีเราจะกังวลว่าพอสร้างทางคู่แล้ว หลาย ๆ สถานีจะล้มหายตายจากไป เพราะหมดความจำเป็นในการเป็นสถานีทางสะดวก
แต่กรณีนี้กลับต้องสร้างสถานีไผ่นาบุญ ช่วงกิโลเมตร 162+819 ระหว่างสถานีบุใหญ่ และสถานีแก่งคอยเพิ่มเติมอีก |
|
Back to top |
|
|
Nakhonlampang
1st Class Pass (Air)
Joined: 29/03/2006 Posts: 3293
Location: เสนานิคม1-คลองหลวง
|
Posted: 21/01/2011 11:02 am Post subject: |
|
|
^
คงเป็นเพราะว่าจะมีการสร้างทางคู่เลี่ยงเมือง (Chord Line) เพื่อเลี้ยวไปทางสถานีหนองบัวด้วย โดยจะมีทางแยกออกไปที่ กม.163+350 จึงทำให้มีความจำเป็นต้องสร้างสถานีเพิ่มเติม เพื่อช่วยดูแลการเดินรถบริเวณทางแยก ซึ่งสถานีที่มีอยู่เดิมในด้านนี้ที่อยู่ใกล้ที่สุดคือสถานีบุใหญ่นั้นอยู่ห่างเกินไป (กม.149+000) ครับ ครั้นจะให้อยู่ในความดูแลของสถานีชุมทางแก่งคอยก็อยู่ค่อนข้างไกลเช่นกัน |
|
Back to top |
|
|
headtrack
1st Class Pass (Air)
Joined: 30/05/2009 Posts: 1627
Location: ละแวกภาคกลางตอนบน และภาคเหนือตอนล่าง
|
Posted: 21/01/2011 11:19 am Post subject: |
|
|
"อะ...อะ..." ...ลงทุนเสียแยะ...ในที่สุดก็ "ตอนสมบูรณ์" เดิมๆ ร่วมสมัย เสียแล้วหรือนี่...
น่าเอา "หางปลา" ที่ลิจากสมัยเปลี่ยนเป็นไฟสีในทางสายหลักต่างๆ มาติดตั้งเข้าใช้การเสียนี่จริงๆ... _________________
Find me on Instagram: @632knongtsaikhaow
Last edited by headtrack on 21/01/2011 11:38 am; edited 1 time in total |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44637
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 21/01/2011 11:23 am Post subject: |
|
|
หวังว่าคงไม่ต้องจ้างพนักงานคุมประแจ เดินวันละหลายกิโลไปโยกคันประแจนะครับ เพราะระบบควบคุมไฟฟ้าถูกคนร้ายลักเอาไปขายอย่างเช่นในอุโมงค์
ขอบคุณพี่หนุ่มมากครับที่ช่วยไขข้อสงสัย |
|
Back to top |
|
|
Nakhonlampang
1st Class Pass (Air)
Joined: 29/03/2006 Posts: 3293
Location: เสนานิคม1-คลองหลวง
|
Posted: 21/01/2011 12:24 pm Post subject: |
|
|
เข้าใจว่าจุดที่เป็นทางแยกแบบนี้ควรอยู่ในเขตสถานีเพราะมีการเดินรถในลักษณะชุมทางทีมีกระแสการเดินรถตัดกัน ทำให้ต้องมีการจอดรอทางอยู่เป็นประจำ ซึ่งปกติขบวนรถไม่ควรจอดรอทางอยู่นอกเขตสถานี
(กรณีการควบคุมการเดินรถจากศูนย์ควบคุม และเพิ่มระบบอาณัติสัญญาณเข้าไปในตอนระหว่างสถานีทั่วไป เพื่อแบ่งตอนย่อยๆ ให้สามารถเพิ่มขบวนรถเข้าไปในระหว่างสถานีได้มากกว่าระบบตอนสมบูรณ์ ซึ่งอาณัติสัญญาณที่เพิ่มลงไปก็คงไม่ได้ประสงค์จะให้มีการจอดรอทางกันระหว่างสถานี แต่มีไว้เพื่อความปลอดภัยในการเดินรถที่เดินตามกันมากกว่านะครับ)
ถ้าเทียบกับ Chord Line อีก 2 แห่งในโครงการเดียวกัน คือที่สถานีชุมทางฉะเชิงเทรา และสถานีชุมทางบ้านภาชีแล้ว จุดทางแยกจากเส้นทางสายฉะเชิงเทรา-แก่งคอยนี้ค่อนข้างห่างไกลสถานีมาก
ที่บ้านภาชีและฉะเชิงเทรานั้น จุดแยกของทางสายหลักเองก็อยู่ใกล้ๆกับสถานี ปลาย Chord Line ที่เชื่อมกับทางสายหลักทั้ง 2 ด้าน ก็อยู่ไกลสถานีไม่มาก วัดจากศูนย์กลางสถานีออกไปก็ราว 2 กม. หรือน้อยกว่านั้น เมื่อมีการรอทางเนื่องจากมีขบวนรถตัดกระแสกันก็น่าจะถือได้ว่าอยู่ในเขตสถานีนะครับ
ในขณะที่ Chord Line ที่แก่งคอยนั้น จุดแยกจากสายฉะเชิงเทรา-แก่งคอยอยู่ห่างจากแก่งคอย 4 กม.กว่า ด้านไปหนองบัวก็ไม่ต่ำกว่า 4 กม. (ความยาว Chord Line เท่ากับ 4.05 กม.) ลองนึกถึงว่าหากรถจากทางบุใหญ่จะไปแก่งคอย ต้องจอดรอทางรถที่มาจากหนองบัวอยู่มืดๆ ขบวนเดียว คงจะไม่ค่อยดีนักนะครับ |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44637
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 24/01/2011 1:15 am Post subject: |
|
|
ทางคู่แหลมฉบังเลื่อน ติดก่อสร้าง-เหมืองพัง
ไทยโพสต์ 24 มกราคม 2554
รถไฟทางคู่ฉะเชิงเทรา-แหลมฉบัง เลื่อนยาว ติดปัญหาก่อสร้างถนนอื้อ เหมืองหินพังทลาย
นายจำรูญ ตั้งไพศาลกิจ รองปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า โครงการก่อสร้างทางคู่เส้นทางรถไฟสายชายฝั่งทะเลตะวันออก ฉะเชิงเทรา-ศรีราชา-แหลมฉบัง มีแนวโน้มจะล่าช้าออกไปอย่างไม่มีกำหนด เนื่องจากขณะนี้ได้ตรวจพบปัญหาใหญ่ 3 จุด คือ บริเวณสถานีแหลมฉบัง, บริเวณกิโลเมตรที่ 117 ที่มีการก่อสร้างสะพานข้ามทางรถไฟ (บริเวณแยกไทยออยล์) ซึ่งอยู่ระหว่างหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อแก้ไขปัญหาแล้ว
ส่วนอีกปัญหาคือเกิดการพังทลายของเหมืองหิน บริเวณกิโลเมตรที่ 110 ซึ่งการตรวจราชการ เมื่อวันที่ 23 ธ.ค.53 ที่ผ่านมา พบว่าขอบหน้าผาที่ห่างจากจุดกลางเพียง 6.7 เมตร มีการพังทลายของเหมืองหิน ซึ่งจะทำให้มีความเสี่ยงด้านความปลอดภัยในการเดินรถ
ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า มีสาเหตุมาจากบริษัทเอกชนผู้รับสัมปทานบัตรเหมืองหิน ทำการขุดหินบริเวณติดกับแนวเขตทางรถไฟ และเกิดพังทลายทำให้พื้นเป็นหน้าผาสูง อย่างไรก็ตาม การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.)ได้ว่าจ้างมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์มาศึกษาและหาแนวทางการแก้ไข โดยต้องใช้งบประมาณกว่า 120 ล้านบาท
"แนวทางที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์เสนอมานั้น คณะทำงานได้มอบหมายให้ ร.ฟ.ท. ไปเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จก่อนฤดูฝนปี 54 โดยให้ร่วมกับกรมทางหลวงและกรมทางหลวงชนบท ซึ่งมีประสบการณ์การแก้ปัญหาให้การสนับสนุน ร.ฟ.ท.ทางเทคนิคด้วย" นายจำรูญกล่าว. |
|
Back to top |
|
|
boatteam
2nd Class Pass (Air)
Joined: 05/04/2010 Posts: 910
Location: แจ้งวัฒนะ หลักสี่ ปากเกร็ด
|
Posted: 24/01/2011 7:35 am Post subject: |
|
|
Mongwin wrote: |
ส่วนอีกปัญหาคือเกิดการพังทลายของเหมืองหิน บริเวณกิโลเมตรที่ 110 ซึ่งการตรวจราชการ เมื่อวันที่ 23 ธ.ค.53 ที่ผ่านมา พบว่าขอบหน้าผาที่ห่างจากจุดกลางเพียง 6.7 เมตร มีการพังทลายของเหมืองหิน ซึ่งจะทำให้มีความเสี่ยงด้านความปลอดภัยในการเดินรถ
ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า มีสาเหตุมาจากบริษัทเอกชนผู้รับสัมปทานบัตรเหมืองหิน ทำการขุดหินบริเวณติดกับแนวเขตทางรถไฟ และเกิดพังทลายทำให้พื้นเป็นหน้าผาสูง อย่างไรก็ตาม การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.)ได้ว่าจ้างมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์มาศึกษาและหาแนวทางการแก้ไข โดยต้องใช้งบประมาณกว่า 120 ล้านบาท.....
|
หาแต่ประโยชน์ส่วนตัว จนไม่คิดถึงความเสียหาย ของบุคคลอื่น
จนทำให้ ร.ฟ.ท. ต้องเสียประโยชน์จากการเปิดใช้บริการเส้นทางดังกล่าวออกไป
ทั้งยังเสียงบประมาณโดยใช่เหตุ ที่ต้องมาทำการศึกษาและหาแนวทางแก้ไขอีก
แบบนี้ต้องดำเนินการให้ถึงที่สุด และหาตัวอีแอบ ที่อยู่ข้างหลังมาดำเนินคดีด้วย
_________________ สถานีบ้านเกิดอรัญประเทศ สุดเขตแดนสยามฝั่งตะวันออก |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44637
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 24/01/2011 12:14 pm Post subject: |
|
|
อย่างนี้ ต้องใช้เทคโนโลยีเดียวกับสะพานถ้ำกระแซครับ
---------------------------
รฟท.จ้างกุนซือลุยบิ๊กโปรเจ็กท์
ข่าวเทคโนโลยี หนังสือพิมพ์แนวหน้า -- จันทร์ที่ 24 มกราคม 2554 12:53:53 น.
แหล่งข่าวจาก การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยว่า ร.ฟ.ท.เตรียมประกาศเชิญชวนเอกชนที่สนใจเข้ารับการคัดเลือกเป็นที่ปรึกษาออก แบบรายละเอียดโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ 3 คือ สาย ลพบุรี-ปากน้ำโพ, สายมาบกะเบา-นครราชสีมา และสายนครปฐม-หนองปลาดุก-หัวหิน วงเงินค่าจ้างรวมประมาณ 400-500 ล้านบาท ในเดือนมกราคม 2554 นี้ โดยคาดว่าจะสรุปผลการคัดเลือกที่ปรึกษาได้ในเดือนมีนาคม 2554
โดยตามแผนกำหนดให้บริษัทที่ปรึกษาศึกษาออกแบบรายละเอียดให้แล้วเสร็จภายในเดือนกันยายน 2554 ก่อนเริ่มกระบวนการประกวดราคาหาผู้รับเหมาก่อสร้างในเดือนตุลาคม 2554 โดยการก่อสร้างจะเริ่มในต้นปี 2555 แล้วเสร็จในปี 2557
"ตอนนี้ยังไม่ได้รับการยืนยันเรื่องงบค่าที่ปรึกษา ซึ่งร.ฟ.ท.ได้ขอบรรจุไว้ในงบไทยเข้มแข็ง แต่เพื่อไม่ให้การดำเนินโครงการรถไฟทางคู่ 3 เส้นทางล่าช้า จึงต้องเริ่มกระบวนการคัดเลือกที่ปรึกษาไปเลย โดยกำหนดในเงื่อนไขว่าจะลงนามสัญญาเมื่อได้รับการจัดสรรงบ คาดว่าน่าจะได้รับพอดีกับที่คัดเลือกที่ปรึกษาแล้วเสร็จ"แหล่งข่าว กล่าว
สำหรับโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ทั้งหมดจะมี 5 เส้นทาง ระยะทางรวม 767 กิโลเมตร มูลค่า 6.6 หมื่นล้านบาท ซึ่งรฟท.จะศึกษาออกแบบรายละเอียดเอง 3 สาย คือ สายลพบุรี-ปากน้ำโพ ระยะทาง 118 กิโลเมตร วงเงินลงทุน 7,860 ล้านบาท, สายมาบกะเบา-นครราชสีมา ระยะทาง 132 กิโลเมตร วงเงินลงทุน 11,640 ล้านบาท และ สายนครปฐม-หนองปลาดุก-หัวหิน ระยะทาง 165 กิโลเมตร วงเงินลงทุน 16,600 ล้านบาท
ส่วนอีก 2 สาย สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เป็นผู้รับผิดชอบในการศึกษาออกแบบรายละเอียด คือ สาย นครราชสีมา-ขอนแก่น ระยะทาง 185 กิโลเมตร วงเงินลงทุน 13,010 ล้านบาท ค่าจ้างที่ปรึกษาวงเงิน 150 ล้านบาท และสายประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร ระยะทาง 167 กิโลเมตร วงเงินลงทุน 17,000 ล้านบาท ค่าจ้างที่ปรึกษาวงเงิน 164 ล้านบาท |
|
Back to top |
|
|
|