View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
puggi
3rd Class Pass
Joined: 04/07/2006 Posts: 119
|
Posted: 27/03/2008 4:17 pm Post subject: |
|
|
Wisarut wrote: | ล่าสุด ผู้รับเหมาบ่นว่า งบ 3982 ล้านบาท ทำท่าจะไม่พอมือ กับการ ทำทางคู่ ฉะเชิงเทรา - ศรีราชา - แหลมฉบังเพราะ ต้นทุนเครื่องเหล็ก หิน ปูน ทราย พุ่งทะยานฟ้า
ทำท่าจะขาดทุนเอา ต้องเร่งทำโครงการให้เสร็จก่อนเวลา และ ผลิตหมอนคอนกรีตให้เยอะๆ จะได้ลดต้นทุนไปได้มาก |
เมื่อก่อน เหล็ก โลละ 20กว่าบาท
เมื่ออาทิตย์ก่อนเช็คราคา ล่อไป 37 บาท
โรงเหล็กบอกว่า จะเอาเปล่า หากว่าเอา จะล็อคให้ก่อน ไม่งั้นเดี๋ยวอาจจะเจอกันป้ายหน้า 40 ขึ้นแน่
ไม่รุ้ว่า รางรถไฟ ใช้เหล็กเท่าไหร่ด้วย |
|
Back to top |
|
|
heerchai
1st Class Pass (Air)
Joined: 29/07/2006 Posts: 7730
Location: อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา
|
Posted: 27/03/2008 6:46 pm Post subject: |
|
|
ต้องคอยลุ้นให้งานเสร็จเร็วๆ เทวดาสาธุ |
|
Back to top |
|
|
HID_4513
3rd Class Pass (Air)
Joined: 12/07/2006 Posts: 418
Location: S a L a Y a
|
Posted: 27/03/2008 7:35 pm Post subject: |
|
|
ข่าวดีจริงๆ หวังว่าโครงการจะเดินหน้าต่อจนเสร็จนะครับ |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42751
Location: NECTEC
|
Posted: 09/04/2008 10:38 am Post subject: |
|
|
สนข.สานฝันรับแนวคิด'สมัคร' + ดึงร.ฟ.ท.ร่วมปั้นแผนทางคู่-รถไฟก้างปลาทั่วประเทศ/ลุ้นของบกว่า 800 ล.ศึกษาจบใน 4 ปี
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 2311 06 เม.ย. - 09 เม.ย. 2551
สนข. รับลูกแนวคิด "สมัคร" ดึง ร.ฟ.ท.ร่วมตั้งทีมงาน กำหนดแนวทางพัฒารถไฟทางคู่-รถไฟก้างปลาทั่วประเทศ ชงของบกว่า 800 ล้าน เร่งศึกษาจบใน 4 ปี ด้านการรถไฟฯ พร้อมยุบแผนพัฒนาทางคู่เดิม 2,429 กม. ค่า 4 แสนล้าน หวังลุ้นของใหม่
แหล่งข่าวระดับสูงรายหนึ่ง จากสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) กล่าวกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า ขณะนี้ สนข. ได้เตรียมที่จะจัดตั้งคณะทำงานร่วมกับการรถไฟแห่งประเทศไทย เพื่อกำหนดความชัดเจนของแผนการดำเนินโครงการรถไฟทางคู่ทั่วประเทศ และรถไฟก้างปลา ตามดำริของนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ซึ่งคาดว่ามีการประชุมหารือในรายละเอียด เพื่อสรุปแผนงานต่อคณะกรรมการพัฒนาระบบขนส่งทางรางและระบบขนส่งมวลชน ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานในเร็วๆ นี้
ขณะที่แหล่งข่าวระดับสูงรายหนึ่ง จากการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) กล่าวว่า คณะทำงานที่จะตั้งขึ้นนี้ จะมีหน้าที่ในการพิจารณาร่วมกัน เพื่อกำหนดแผนการดำเนินงานก่อสร้างโครงการรถไฟทางคู่ และระบบรถไฟก้างปลาทั่วประเทศ ให้สามารถดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ เพื่อสร้างทางรถไฟและระบบรถไฟฟ้าให้เป็นทางคู่ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของระบบการขนส่งผู้โดยสาร และสินค้าระหว่างเมือง รวมถึงเพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางระหว่างเมืองหลักกับกรุงเทพมหานครด้วย ซึ่งต้องดูให้ชัดเจนทั้งแนวเส้นทาง รูปแบบการลงทุน แบบรายละเอียด และระยะเวลาในการดำเนินการ อย่างไรก็ดีต้องขึ้นอยู่ที่นโยบายของรัฐบาลด้วยว่าจะมีความชัดเจนอย่างไร
ส่วนแผนงานเดิมที่การรถไฟฯ ได้จัดทำไว้ก่อนหน้านี้ คือแผนการดำเนินงานเบื้องต้นของแผนการก่อสร้างทางคู่ในทางประธานสายหลัก ให้มีแนวสายทางครอบคลุมทุกภูมิภาค โดยมุ่งเน้นการรองรับด้านการโดยสาร รวมทั้งสิ้น 2,429 กิโลเมตร ภายใต้กรอบวงเงิน 400,000 ล้านบาท ซึ่งประกอบด้วย เส้นทางสายเหนือ ระยะทางรวม 567 กิโลเมตร เส้นทางสายตะวันออกเฉียงเหนือ ระยะทางรวม 795 กิโลเมตร เส้นทางสายใต้ ระยะทางรวม 881 กิโลเมตร และเส้นทางสายตะวันออก ระยะทางรวม 186 กิโลเมตร คงต้องยกเลิกไป
"จากแผนงานเดิมที่ทำไว้นั้น ทำไว้นานหลายปีแล้ว ที่สำคัญเป็นเพียงแค่การวางระบบเส้นทางในส่วนของการรถไฟฯ เท่านั้น ยังไม่ได้มีการมองในภาพรวมในด้านการรองรับระบบโลจิสติกส์ การเชื่อมโยงโครงข่ายกับระบบขนส่งอื่นๆ และการเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้าน จึงถือว่าเป็นการเหมาะสมหากจะศึกษาแผนใหม่เพื่อให้มีความชัดเจนมากขึ้น" แหล่งข่าวรายเดิมกล่าว
อนึ่ง นอกจากโครงการก่อสร้างทางคู่ในเส้นทางรถไฟสายชายฝั่งทะเลตะวันออก ช่วงฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย มูลค่า 7,648 ล้านบาท ที่การรถไฟฯ กำลังดำเนินการปรับแบบรายละเอียดอยู่ ทาง สนข. ได้เสนอขอตั้งงบประมาณไว้ในร่างแผนการบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.2551-2554 เพื่อศึกษาแผนงาน 2 แผนงาน คือ แผนงานจัดทำแผนแม่บทเพื่อพัฒนาระบบรถไฟทางคู่ และระบบรถไฟความเร็วสูงทั่วประเทศ ศึกษาความเหมาะสมและออกแบบเบื้องต้น (ระยะที่1) วงเงิน 345 ล้านบาท ซึ่งจะดำเนินการในปี 2551-2552 และแผนงานพัฒนาระบบรถไฟทางคู่ และรถไฟก้างปลาทั่วประเทศ ศึกษาความเหมาะสมและออกแบบเบื้องต้น (ระยะที่ 2) วงเงิน 480 ล้านบาท ซึ่งจะดำเนินการระหว่างปี 2553-2554 ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์
// -------------------------------------------------------------------------
ฮ่วย ของดีๆ ที่เขาทำไมไม่ยอมทำ แต่ รักจะศึกษาใหม่ไปเรื่อยนะเอ็ง ... คิดเหมือน บร่รดา สมเด็จผู้รักการปลูกปราสาทขอม คื่อ สมเด็จองค์เก่า สุรคตไปแล้ว สมเด็จองค์ใหม่ไม่สร้าง หรือ สานต่อ ความคิดเช่นนี้ เปนความคิดที่สามารถทำให้ประเทศ และ จักรวรรดิ เสื่อม ลงได้อย่างง่ายดายดีแท้ |
|
Back to top |
|
|
black_express
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/03/2006 Posts: 10060
Location: อุตรดิตถ์ - กรุงเทพฯ
|
Posted: 09/04/2008 12:28 pm Post subject: |
|
|
อ่านข่าวแล้ว แปลสั้นๆ แบบลูกทุ่ง คงหมายความว่า ระบบรางคู่ของทางสายหลักที่เป็นกระดูกสันหลังทั้งสายเหนือ สายอีสาน และสายใต้ จะยกเลิกไป แล้วศึกษาเฉพาะเส้นทางที่เอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มนายทุน และเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้าน เท่านั้น ?
ศึกษาอีกกี่ชาติ ถึงจะแล้วเสร็จ เห็นเป็นรูปธรรม ? ที่จำเป็นต้องทำ กลับรื้อ แล้วศึกษาใหม่
ผมคิดว่าลักษณะก้างปลาตามที่พูดถึง คงเป็นก้างปลาตะเพียน เต็มไปทั้งตัวจนหาสาระอะไรไม่ได้ เหมาะลงทอดทั้งตัวในกระทะน้ำมันร้อนๆ เท่านั้น ถึงจะทานได้ |
|
Back to top |
|
|
CENTENNIAL
1st Class Pass (Air)
Joined: 30/03/2006 Posts: 3642
Location: Thailand
|
Posted: 09/04/2008 2:10 pm Post subject: |
|
|
ล้มเหลวแน่นอนเลยครับ ดูทรงแล้ว อาการเลี้ยงๆ เขี่ยไป เขี่ยมา แบบนี้
ผมว่าผมคาดการณ์ไม่ผิดแน่
เชื่อว่าภายใน 4 ปี นี้ จะไม่มีทางรถไฟใหม่ๆ เพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน แม้กระทั่งรางคู่
เศร้า
เออ พี่น้องชาวสายตะวันออกเลียบชายฝั่งครับ ตอนนี้มีความเปลี่ยนแปลงอะไรบ้างหรือยังครับ บริษัทผู้รับเหมาสร้างรางคู่ ได้นำเครื่องมือ อุปกรณ์ไปเตรียมสร้างทาง บ้างหรือยัง หรือ มีการดันดิน ถมดิน เตรียมสร้างคันทางบ้างหรือยังครับ |
|
Back to top |
|
|
Maximus
3rd Class Pass
Joined: 01/04/2008 Posts: 28
Location: บางกอก
|
Posted: 09/04/2008 10:19 pm Post subject: |
|
|
มีความคืบหน้าอย่างไรจะแจ้งให้ทราบเป็นระยะนะครับ
Last edited by Maximus on 21/05/2022 3:51 pm; edited 1 time in total |
|
Back to top |
|
|
puggi
3rd Class Pass
Joined: 04/07/2006 Posts: 119
|
Posted: 10/04/2008 8:09 am Post subject: |
|
|
หาเรื่อง ทำมา หารับประทาน กับงบ การศึกษาโครงการจริงๆเลย
นี่แหละที่กังวลที่สุด ใครเข้ามาก็ ตั้งงบ ขอรับประทานไว้ก่อน
จริงๆ ควรจะทำรางคู่ ให้ครบของเดิม
ส่วน ไอเดียจะบรรเจิดขนาดไหน ก็ค่อยต่อยอด เป็นเส้นทางใหม่ไปเลย
เฮ้อ เอวังประเทศไทย |
|
Back to top |
|
|
anusorn
1st Class Pass (Air)
Joined: 04/09/2006 Posts: 1642
Location: มณฑลอาคเนย์
|
Posted: 10/04/2008 8:43 am Post subject: |
|
|
saraburi wrote: | nirakan wrote: | CENTENNIAL wrote: |
เพราะเห็นกลุ่ม KTMfan บรรยาย สรรพคุณของ Class29 รถจักรจากจีน ตามที่ได้รับทราบจาก พนักงานรถไฟของ KTM แล้ว อยากจะซื้อต่อเพื่อเอาไปปลูกสะระแหน่ เลย |
555+
ถอดแค็บมาทำเป็นสำนักงานของสำนักข่าวปลายิ้ม เหงือกแดงเลยดีไหมครับ |
ผมก็กลัว น้องหัวโตตัวผอมจากแดนมังกรจะมาทำสวนปลูกผักชีในไทยเหมือนกันครับ |
รถประเภทไม่มีหลังคาคลุมทางเดินช่างเครื่องเนี่ย อยากรู้ว่าถ้าวิ่งในตอนที่ฝนตกทั้งวี่ ทั้งวัน หรือฝนตกหนัก ตอนกลางคืน ถ้าเกิดรถมีปัญหาจะเช็คเครื่อง หรือแก้ปัญหาเฉพาะหน้าทางเทคนิคกันอย่างไรครับ ถ้าให้มือถือร่มข้างหนึ่ง อีกข้างหนึ่งถือไฟฉาย มันจะคล่องตัวหรือ |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42751
Location: NECTEC
|
Posted: 11/04/2008 11:57 am Post subject: |
|
|
'เอดีบี' ไล่บี้ 'เจบิค' ขอทำรางคู่
Thairath [11 เม.ย. 51 - 05:31]
นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังผู้อำนวยการสำนักงานผู้แทนประจำประเทศไทยของธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย (เอดีบี) เข้าพบเพื่อแสดงความสนใจการลงทุนในโครงการก่อสร้างระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน 9 สาย และรถไฟทางคู่ทั่วประเทศ วานนี้ (10 เม.ย.) ว่า เอดีบีได้เสนอเงื่อนไขเงินกู้แบบผ่อนปรน และอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 1-4% ต่อปี พร้อมกับเงินให้เปล่าอีกจำนวน 1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพื่อศึกษาการจัดทำระบบตั๋วร่วมที่จะเชื่อมโยงโครงข่ายขนส่งทุกระบบเข้าด้วยกัน
ทั้งนี้ เอดีบีมีผู้เชี่ยวชาญที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านของเทคโนโลยีการวางระบบตั๋วร่วมที่มีประสบการณ์วางระบบในประเทศญี่ปุ่น และฮ่องกงมาแล้ว ตนจึงได้มอบหมายให้สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ไปพิจารณาเรื่องแนวคิดและรูปแบบที่เหมาะสมกับโครงข่ายระบบขนส่งมวลชนของไทย รวมทั้งการต่อเชื่อมกับระบบขนส่งอื่นๆโดยเฉพาะโครงข่ายต่อเชื่อมในอนาคต ร่วมกับการขนส่งทางน้ำ ทั้งเรือด่วนเจ้าพระยา และในคลองแสนแสบว่า มีความเป็นไปได้เพียงใด โดยให้ศึกษาทั้งข้อดีข้อเสีย และแนวทางการดำเนินการ ตลอดจนการตัดแบ่งรายได้ระบบการเคลียริ่งต่างๆว่าจะเป็นแบบใด
ส่วนการพิจารณาเปรียบเทียบระหว่างแหล่งเงินกู้เจบิคและเอดีบีนั้น กระทรวงการคลังจะเป็นผู้พิจารณาในรายละเอียด เพราะทั้ง 2 องค์กร เสนออัตราดอกเบี้ยพิเศษให้ แต่จะขึ้นอยู่กับการเจรจาในแต่ละโครงการ รวมถึงเงื่อนไข และการผ่อนชำระคืน ซึ่งไม่ได้ยึดจากอัตราดอกเบี้ยที่ถูกกว่าอย่างเดียว แม้ก่อนหน้านี้ เจบิค จะเสนอให้รถไฟฟ้าสายสีม่วงกู้ในอัตราดอกเบี้ย 1.4% ก็ตาม
ที่สำคัญ จะต้องหารือกับกระทรวงการคลัง และประสานกับเจ้าของหน่วยงานที่รับผิดชอบในแต่ละโครงการด้วย เอดีบีสนใจการพัฒนาโครงข่ายระบบรถไฟรางคู่ โดยเฉพาะการต่อเชื่อมเส้นทางจากคุนมิงของประเทศจีนผ่านมายังห้วยทรายในลาว และเข้ามายังเด่นชัย เชียงราย ผ่านมายังกรุงเทพฯ และต่อไปยังบ้านภาชี อยุธยา ส่วนสายใต้ต่อไปหัวหิน สายตะวันออกเชื่อมแหลมฉบัง-มาบตาพุด และสายตะวันออกเชื่อมสุพรรณบุรี กาญจนบุรี เข้าไปยังทวายของพม่า พร้อมกันนี้ ยังให้ สนข.ไปศึกษาหาต้นทุนที่แท้จริงของโครงข่ายรถไฟฟ้าทุกสาย และการตั้งโรงงานผลิตรถไฟฟ้าขึ้นภายในประเทศเพื่อให้ต้นทุนต่ำลงด้วย.
// -----------------------------------------------------------------------
เอดีบีใจดีให้ไทยกู้แบบผ่อนปรน
Post Today 11 April 2008
โพสต์ทูเดย์ สันติ เผยเอดีบียื่นเงื่อนไขปล่อยกู้แบบผ่อนปรนให้ไทยลงทุนโครงการเมกะโปรเจกต์ พร้อมให้เงินเปล่าศึกษาระบบตั๋วร่วม
นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมว.คมนาคม กล่าวว่า ตัวแทนของธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย (เอดีบี) ได้เข้าพบและเสนอเงื่อนไขการให้เงินกู้แบบผ่อนปรนกับโครงการเมกะโปรเจกต์ของไทย อัตราดอกเบี้ย 1-4% พร้อมสนับสนุนเงินในการศึกษาพัฒนาระบบตั๋วร่วมกว่า 30 ล้านบาท โดยจะส่งผู้เชี่ยวชาญเข้ามาศึกษาร่วมกับสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) และการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.)
การศึกษาพัฒนาระบบตั๋วร่วมนั้น ตนได้ให้กรอบกว้างๆ ไปว่า ต้องดูรูปแบบที่เหมาะสมกับการใช้ตั๋วร่วมของคนกรุงเทพฯ มากที่สุด ควรมีวิธีจัดระบบโครงสร้างและอัตราส่วนแต่ละส่วนอย่างไรบ้าง เนื่องจากในอนาคตหากโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าแล้วเสร็จ จะมีเอกชนเข้ามาบริหารระบบ รถหลายราย จึงต้องศึกษารูปแบบต่างๆ ที่เกี่ยวข้องไว้รองรับ
เงินกู้ที่เอดีบีเสนอไม่ได้จำกัดวงเงิน ขึ้นอยู่กับโครงการเมกะโปรเจกต์ที่ไทย จะทำ และยังสนใจให้เงินกู้ลงทุนก่อสร้างรถไฟทางคู่ทั่วประเทศ 2,000 กม.ของ ไทยด้วย นายสันติ กล่าว
นอกจากนี้ ได้ขอให้ศึกษาพัฒนาระบบตั๋วร่วมในเส้นทางของระบบฟีดเดอร์หรือระบบขนคนจากสถานีรถไฟฟ้าส่งถึงหน้าบ้าน พร้อมกับศึกษาการใช้ตั๋วร่วมในการเดินทางด้วยเรือโดยสาร และในอนาคต หากโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้า 9 สายทาง 8 ทิศแล้วเสร็จ จะมีความเป็นไปได้หรือไม่ที่ใช้ระบบตั๋วใบเดียว เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชน
สำหรับในรายละเอียดต่างๆ นั้น ผู้เชี่ยวชาญของเอดีบีและ สนข. รฟม. ต้องพิจารณาศึกษาร่วมกันทั้งระบบที่จะนำมาใช้ ไม่ว่าจะเป็นการจัดสรรแบ่งรายได้ให้ ผู้ประกอบการระบบขนส่ง วิธีคิดที่จะใช้ ตั๋วใบเดียว การตัดยอดเงินเพื่อให้เกิดความเป็นธรรม เป็นต้น
ในเรื่องสัดส่วนการกู้เงินจากสถาบันการเงินแต่ละแห่ง เพื่อนำมาใช้ในการลงทุนก่อสร้างโครงการเมกะโปรเจกต์นั้น เป็นหน้าที่กระทรวงการคลังที่จะต้องพิจารณาความเหมาะสม ซึ่งอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระหว่างธนาคารเพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น หรือเจบิก กับเอดีบี ไม่ได้มีความแตกต่างกันมากนัก และที่ผ่านมาไทยเคยกู้เงินจากเอดีบีมาแล้ว |
|
Back to top |
|
|
|