View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42751
Location: NECTEC
|
Posted: 14/07/2022 11:00 pm Post subject: |
|
|
ก็ดูกันไปครับ ว่าจะได้แจ้งเกิดหรือเปล่า เพราะ ต้องเจาะอุโมงค์ช่องเขาแห่งใหม่ ทางลอยฟ้า การบูรณะอาคารสถานีชุมทางหาดใหญ่ และ สร้างทางสายสงขลาขึ้นมาใหม่
https://www.dailynews.co.th/news/1248162/ |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42751
Location: NECTEC
|
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44640
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 20/07/2022 9:45 am Post subject: |
|
|
ชงครม.ไฟเขียวสร้างรถไฟทางคู่ เฟส 2 2.74 แสนล้าน
Source - ฐานเศรษฐกิจ
Wednesday, July 20, 2022 05:34
"กรมราง" เปิดแผนลุยก่อสร้างรถไฟทางคู่ เฟส 2 จำนวน 7 เส้นทาง 2.74 แสน ล้าน นำร่องชงครม.เคาะช่วงขอนแก่น-หนองคาย ภายในเดือนส.ค.นี้ เล็งเวนคืนปี 66-67 ลุยตอกเสาเข็มปี 66 คาดแล้วเสร็จปี 69
กระทรวงคมนาคมเร่งรัดโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ระยะที่ 2 จำนวน 7 เส้นทาง วงเงิน 2.74 แสนล้านบาท ซึ่งจะช่วยพัฒนาระบบขนส่งทางรางให้มีประสิทธิภาพลดต้นทุนการขนส่งเชื่อมโยงฐานการผลิตและการเดินทางระหว่างภูมิภาคอย่างต่อเนื่องในอนาคต
นายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์อธิบดีกรมการขนส่งทางราง(ขร.) เปิดเผยว่า สำหรับความคืบหน้าโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ระยะที่ 2 ปัจจุบันกระทรวงคมนาคมอยู่ระหว่างผลักดันระบบรางผ่านการพัฒนาขีดความสามารถของโครงการรถไฟทางคู่ ซึ่งรถไฟทางคู่ในระยะที่ 1 ได้ดำเนินการก่อสร้างแล้ว จึงเริ่มเข้าสู่การผลักดันโครงการในระยะที่ 2 โดยเส้นทางที่มีศักยภาพในการพัฒนาในขณะนี้ คือ ช่วงขอนแก่นหนองคาย ซึ่งเป็นช่วงที่จะเชื่อมต่อระบบรางให้สมบูรณ์แบบ
"การดำเนินงานในปัจจุบันอยู่ระหว่างพิจารณารายละเอียดการเวนคืนที่ดิน เพื่อเสนอข้อมูลไปยังสำนักงบประมาณ โดยกรมการปกครองจะเป็นหน่วยงานที่เข้ามาช่วยสำรวจการเวนคืน คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จเพื่อเสนอโครงการเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) อนุมัติภายในเดือนสิงหาคมนี้ หลังจากนั้นจะเริ่มเข้าสู่ขั้นตอนการประกวดราคาทันที เพื่อเร่งรัดในโครงข่ายทางรางสมบูรณ์และสนับสนุนการขนส่งสินค้าทางรางระหว่างไทย ลาว และจีน"
สำหรับโครงการรถไฟทางคู่ระยะที่ 2 ช่วงขอนแก่น-หนองคายมีระยะทาง 167 กิโลเมตร (กม.) มูลค่าโครงการ 29,748 ล้านบาทประกอบด้วย ค่าจ้างที่ปรึกษา สำรวจอสังหาริมทรัพย์ราว 9 ล้านบาท ค่าจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน 369 ล้านบาท ค่าที่ปรึกษาจัดการประกวดราคาประมาณ 7 ล้านบาท ค่าก่อสร้าง 28,759 ล้าน บาท และค่าจ้างควบคุมงานก่อสร้าง 604 ล้านบาท โดยมี ระยะเวลาดำเนินโครงการระหว่างปี 2565-2569
รายงานข่าวจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กล่าวว่า หลังจากรฟท.เสนอกระทรวงคมนาคมและที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) พิจารณาอนุมัติการลงทุนรถไฟทางคู่ ช่วงขอนแก่นหนองคาย แล้วเสร็จ หลังจากนั้นจะเริ่มจัดทำร่างเอกสารประกวดราคา (ทีโออาร์) และเริ่มขั้นตอนประกวดราคาทันที และจะเริ่มขั้นตอนสำรวจอสังหาริมทรัพย์ และจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน ในปี 2566- 2567 โดยคาดว่าจะเริ่มก่อสร้างปี 2566 ใช้ระยะเวลาก่อสร้าง 36 เดือน ดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จต้นปี 2569
นอกจากนี้ รฟท.ยังอยู่ระหว่างผลักดันรถไฟทางคู่ระยะที่ 2 ในเส้นทางอื่นๆ ให้ครบตามแผนพัฒนา 7 เส้นทาง ประกอบด้วย 1. ช่วงขอนแก่น-หนองคายระยะทาง 167 กิโลเมตร (กม.) วงเงิน 2.97 หมื่นล้านบาท โดยมีรูปแบบระดับโครงสร้างพื้นดินและทางยกระดับรถไฟ ทั้งหมด 15 สถานี ย่านกองเก็บและขนถ่ายสินค้า 3 แห่ง ได้แก่ 1. สถานีหนองตะไก้ 2. สถานีนาทา 3. สถานีเขาสวนกวาง ความเร็วในการให้บริการ 100-120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง 2. ช่วงปากน้ำโพเด่นชัย ระยะทาง 285 กิโลเมตร(กม.) วงเงิน 6.28 หมื่นล้านบาท
โดยมีรูปแบบระดับโครง สร้างพื้นดิน ทางยกระดับรถไฟ และอุโมงค์ ทั้งหมด 39 สถานี ย่านกองเก็บและขนถ่ายสินค้า 3 แห่งได้แก่ 1. สถานีบางกะทุ่ม 2. สถานีวังกะพี้ 3. สถานีศิลาอาสน์ความเร็วในการให้บริการ 100-120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง 3. ช่วงชุมพร-สุราษฎร์ธานี ระยะทาง 168 กิโล เมตร (กม.) วงเงิน 2.42 หมื่นล้านบาท โดยมีรูปแบบระดับโครง สร้างพื้นดินและทางยกระดับรถไฟ ทั้งหมด 22 สถานี ย่าน กองเก็บและขนถ่ายสินค้า 1 แห่งคือ สถานีชุมทางบ้านทุ่งโพธิ์ ความเร็วในการให้บริการ 100-120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
4. ช่วงสุราษฎร์ธานี-ชุมทางหาดใหญ่-สงขลา ระยะทาง 321 กิโลเมตร (กม.) วงเงิน 5.73 หมื่นล้านบาท โดยมีรูปแบบระดับโครงสร้างพื้นดิน ทางยกระดับรถไฟ และอุโมงค์ ทั้งหมด 65 สถานี ย่านกองเก็บและขนถ่ายสินค้า 2 แห่ง ได้แก่ 1. สถานีชุมทางทุ่งสง 2. สถานีบางกล่ำ ความเร็วในการให้บริการ 100-120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
5. ช่วงเด่นชัย-เชียงใหม่ ระยะทาง 189 กิโลเมตร (กม.) วงเงิน 5.68 หมื่นล้านบาท โดย มีรูปแบบระดับโครงสร้างพื้นดิน ทางยกระดับรถไฟ และอุโมงค์ทั้งหมด 17 สถานี ย่านกองเก็บและขนถ่ายสินค้า 2 แห่ง ได้แก่ 1. สถานีห้างฉัตร 2. สถานีสารภีความเร็วในการให้บริการ 80-120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
6. ช่วงชุมทางถนนจิระอุบลราชธานี ระยะทาง 308 กิโล เมตร (กม.) วงเงิน 3.75 หมื่นล้านบาท โดยมีรูปแบบระดับโครงสร้างพื้นดินและทางยกระดับทั้งหมด 35 สถานี ย่านกองเก็บและขนถ่ายสินค้า 4 แห่ง ได้แก่ 1. ที่หยุดรถบ้านตะโก 2. สถานีบุ ษี 3. สถานีหนองแวง 4. สถานีบุ่งหวายความเร็วในการให้บริการ 100-120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
และ 7. ช่วงชุมทางหาด ใหญ่-ปาดังเบซาร์ ระยะทาง 45 กิโลเมตร (กม.) วงเงิน 6.66 พันล้านบาท โดยมีรูปแบบระดับโครงสร้างพื้นดินและทางยกระดับทั้งหมด 3 สถานี ย่านกองเก็บและขนถ่ายสินค้า 1 แห่ง คือ สถานีปาดังเบซาร์ ความเร็วในการให้บริการ 100-120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ที่มา: นสพ.ฐานเศรษฐกิจ ฉบับวันที่ 21 - 23 ก.ค. 2565
Last edited by Mongwin on 21/07/2022 11:27 am; edited 1 time in total |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42751
Location: NECTEC
|
Posted: 21/07/2022 10:45 am Post subject: |
|
|
ว่ากันเรื่องโครงสร้างชานชาลาในโครงการรถไฟทางคู่ช่วงนครปฐมชุมพร พอดีได้มีโอกาสเยี่ยมชมโครงการในสัญญาที่1-3
ผมมีประเด็นสงสัยในชานชาลาของสัญญาที่3 หัวหินประจวบฯที่สร้างจากชานชาลาต่ำแล้วยกสูงขึ้นทีหลัง ดูด้วยสายเหมือนจะไม่แข็งแรง แถมรฟท ก็ไม่มีคำตอบเรื่องการรับน้ำหนักต่อตารางเมตร และไม่มีใครรับรองว่ามันจะมันยุบตัวหรือพังในอนาคต แต่สิ่งที่รฟท ให้คำตอบได้คือในสัญญาที่3นึ้ใช้งบประมาณก่อสร้างน้อยสุด เอกชนผู้รับจ้างจึงเลือกวัสดุที่ไม่เหมือนกันสัญญาอื่นๆในโครงการ ไอ้กระผมก็ขี้สงสัยในเมื่อโครงการเดียวกันมันควรจะเหมือนกันทั้งโครงการดิ เมื่อประมูลในราคาที่ต่ำกว่าเจ้าอื่นก็แสดงว่าคำนวณต้นทุนมาแล้วและสามารถดำเนินการก่อสร้างได้ไม่ใช่ว่ามาเปลี่ยนแปลงเองเพียงเพราะงบน้อยกว่าผมว่ามันไม่ใช่เลย 😅😅😅
ปล.ไม่รู้จะยุบตัว พังลงวันไหนก็ไม่รู้ ชีวิตผู้โดยสารประชาชนอย่างเราๆต้องมาเสี่ยงอะไรแบบนี้ด้วย
https://www.facebook.com/groups/923310448202985/posts/1292586901275336/ |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44640
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44640
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44640
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 25/07/2022 4:59 pm Post subject: |
|
|
โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่สายใต้ ช่วงนครปฐม-ชุมพร
25 ก.ค. 65 16:15
https://www.facebook.com/southernlinetrackdoublingproject/posts/pfbid0KeAb63eGHEa3UFtQCggLG9Dv9msZjxP8rLb1T4xf8whGpnJHuTcptoR1HCkpqMfcl
ความก้าวหน้างานก่อสร้าง
😊👉สัญญาที่ 1 ช่วงนครปฐม หนองปลาไหล
ผู้รับจ้าง บริษัท เอ.เอส.แอสโซซิเอท เอนยิเนี่ยริ่ง 1964 จำกัด
ผลงานถึงวันที่ 14 กรกฎาคม 2565
แผนงานสะสม = 97.979%
ผลงานสะสม = 96.530 %
ช้ากว่าแผน = -1.449 %
😊👉สัญญาที่ 2 ช่วงหนองปลาไหล-หัวหิน
ผู้รับจ้าง บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน)
ผลงานถึงวันที่ 14 กรกฎาคม 2565
แผนงานสะสม = 97.580 %
ผลงานสะสม = 94.912 %
ช้ากว่าแผน = 2.668 %
😊👉สัญญาที่ 3 ช่วงหัวหิน - ประจวบคีรีขันธ์
ผู้รับจ้าง บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน)
ผลงานถึงวันที่ 14 กรกฎาคม 2565
แผนงานสะสม = 100.00%
ผลงานสะสม = 100.00 %
ผลงานแล้วเสร็จ
😊👉สัญญาที่ 4 ช่วงประจวบคีรีขันธ์-บางสะพานน้อย
ผู้รับจ้าง กิจการร่วมค้า เคเอส-ซี
ผลงานถึงวันที่ 14 กรกฎาคม 2565
แผนงานสะสม = 90.469 %
ผลงานสะสม = 87.063 %
ช้ากว่าแผน = -3.406 %
😊👉สัญญาที่ 5 ช่วงบางสะพานน้อย-ชุมพร
ผู้รับจ้าง กิจการร่วมค้า เอสทีทีพี
ผลงานถึงวันที่ 14 กรกฎาคม 2565
แผนงานสะสม = 100.00 %
ผลงานสะสม = 89.631 %
ช้ากว่าแผน = -10.369 % |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42751
Location: NECTEC
|
Posted: 26/07/2022 3:06 pm Post subject: |
|
|
^^^^
ใช้ลิงก์นี้รุงรังน้อยกว่าครับ
https://www.facebook.com/southernlinetrackdoublingproject/posts/3251998325054901
คึกคัก! รถไฟ หาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ ลุยทางคู่เชื่อมไทย-มาเลย์ 6 พันล้าน
เศรษฐกิจ-ยานยนต์
26 กรกฎาคม 2565 เวลา 13:12 น.
รถไฟ หาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ คึกคัก! ผู้โดยสารไทย-มาเลเซีย แห่ใช้บริการ 100 กว่าคน/ขบวน เชื่อมไทย-มาเลเซีย 1 ชั่วโมง 50 บาท รฟท. ลุยทำทางคู่เฟสสอง 6.6 พันล้าน ชงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไฟเขียว
รายงานข่าวจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) แจ้งว่า ขบวนรถไฟโดยสาร เส้นทาง ชุมทางหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ (มาเลเซีย) ได้รับการตอบรับจากผู้โดยสารอย่างคึกคัก หลังจาก รฟท.ได้กลับมาเปิดให้บริการในเส้นทางดังกล่าวอีกครั้ง ตั้งแต่เมื่อวันที่ 15 ก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการรองรับการเปิดพรมแดนระหว่างประเทศไทย และประเทศมาเลเซีย รวมทั้งเป็นการอำนวยความสะดวกในการเดินทางให้แก่ประชาชน และประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง โดยเส้นทางนี้ปิดให้บริการตั้งแต่ช่วงเกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ประมาณเดือน มี.ค.63 รวมแล้วปิดให้บริการมานานกว่า 2 ปี
รายงานข่าวแจ้งต่อว่า รฟท. เปิดให้บริการเส้นทาง ชุมทางหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ 4 ขบวน (ไป-กลับ) ประกอบด้วย ขบวนที่ 947 หาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ ออกจากสถานีชุมทางหาดใหญ่ เวลา 07.30 น. ถึงสถานีปาดังเบซาร์ เวลา 08.25 น., ขบวนที่ 948 ปาดังเบซาร์-หาดใหญ่ เดินทางออกจากสถานีปาดังเบซาร์ เวลา 08.55 น. ถึงสถานีชุมทางหาดใหญ่ เวลา 09.50 น., ขบวนที่ 949 หาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ ออกจากสถานีชุมทางหาดใหญ่ เวลา 14.00 น. ถึงสถานีปาดังเบซาร์ เวลา 14.55 น. และขบวนที่ 950 ปาดังเบซาร์-หาดใหญ่ ออกจากสถานีปาดังเบซาร์ เวลา 15.40 น. ถึงสถานีชุมทางหาดใหญ่ เวลา 16.35 น. โดย 1 ขบวนพ่วง 5 ตู้ รองรับผู้โดยสารได้ประมาณ 350 คน
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า เส้นทางชุมทางหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ มีระยะทางประมาณ 45 กิโลเมตร (กม.) ค่าโดยสาร 50 บาท ใช้เวลาการเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง ขณะนี้มีผู้โดยสารมาใช้บริการเฉลี่ยกว่า 100 คนต่อขบวน และมีแนวโน้มจะเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะวันศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ มีผู้โดยสารใช้บริการจำนวนมาก ผู้โดยสารส่วนใหญ่เป็นชาวมาเลเซีย เดินทางด้วยรถไฟของมาเลเซีย มาลงที่สถานีปาดังเบซาร์ แล้วต่อขบวนรถไฟจากปาดังเบซาร์ เดินทางมาท่องเที่ยวในเมืองหาดใหญ่ จ.สงขลา และบางส่วนก็เดินทางต่อไปยังพื้นที่อื่นๆ ด้วย ส่วนผู้โดยสารที่เดินทางจากสถานีชุมทางหาดใหญ่ ก็จะมาลงที่สถานีปาดังเบซาร์ เพื่อต่อรถไฟของมาเลเซีย เพื่อเดินทางต่อไปยังเมืองบัตเตอร์เวอร์ธ (รัฐปีนัง) ประเทศมาเลเซีย
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า สำหรับเส้นทาง ชุมทางหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ ระยะทาง 45 กม. วงเงิน 6.66 พันล้านบาท ได้รับการบรรจุอยู่ในโครงการรถไฟทางคู่ ระยะ (เฟส) ที่ 2 ด้วย ซึ่ง รฟท. อยู่ระหว่างดำเนินการเสนอขออนุมัติโครงการไปยังหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยเส้นทางนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการภายใต้ยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมของไทย ปี 58-65 เพื่อพัฒนาโครงข่ายคมนาคมเชื่อมโยงประตูการค้า และเมืองหลักในภูมิภาค เชื่อมไปยังประเทศมาเลเซีย ตามแนวเส้นทางรถไฟเดิม ประกอบด้วย 4 สถานี ได้แก่ สถานีชุมทางหาดใหญ่, สถานีศาลาทุ่งลุง, สถานีคลองแงะ, สถานีปาดังเบซาร์ และยังมีป้ายหยุดรถอีก 3 ป้าย คือ บ้านพรุ, คลองรำ และท่าข่อย. ...
https://www.dailynews.co.th/news/1290874/
https://www.facebook.com/TransportDailynews/posts/601198891457349/?d=n |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44640
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 27/07/2022 9:01 am Post subject: |
|
|
ขอบคุณครับ |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42751
Location: NECTEC
|
Posted: 27/07/2022 1:24 pm Post subject: |
|
|
ทางลอดใต้รางรถไฟทางคู่โผล่ หลังน้ำท่วมมานานขาดการดูแล ชาวบ้านโวยสร้างให้เปลืองงบ
วันพุธ ที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2565 เวลา 10:46 น.
วันที่ 27 กรกฎาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเกิดเหตุกรณีน้ำท่วมภายในอุโมงค์ทางลอดใต้รางรถไฟในโครงการรถไฟทางคู่ชุมทางจิระฯ-ขอนแก่น ทำให้ส่งผลกระทบกับการสัญจรของประชาชนในพื้นที่ริมทางรถไฟ ทำให้การรถไฟแห่งประเทศไทยสั่งปฏิบัติการเชิงรุกตรวจสอบ และแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขังภายในอุโมงค์ทางลอดเพื่อให้การสัญจรผ่านอุโมงค์ทางลอด และสะพานข้ามทางรถไฟเป็นไปด้วยความปลอดภัย
ในขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวก็ได้รับข้อมูลจากประชาชนในพื้นที่ถึงข้อบกพร่องจากการก่อสร้างอุโมงค์ทางลอดของโครงการรถไฟทางคู่ฯ เนื่องจากการก่อสร้างไม่ตอบโจทย์กับสภาพพื้นที่โดยรอบ ทำให้อุโมงค์ทางลอดรถไฟฯ บริเวณดังกล่าว ถูกปล่อยทิ้งร้างไม่มีคนสนใจรวมถึงไร้ซึ่งการใช้ประโยชน์ โดยจากการลงพื้นที่บริเวณสถานีรถไฟบ้านหนองไข่น้ำ(เดิม) ตำบลหนองไข่น้ำ อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งปัจจุบันสเป็นสถานีที่เลิกใช้งานไปแล้ว โดยมีการยุบไปรวมกับสถานีบ้านกระโดนที่อยู่ใกล้กันแทน แต่จุดบริเวณดังกล่าวก็ยังได้มีการก่อสร้างอุโมงค์ทางลอดแบบ 1 ช่องจราจร สำหรับรถจักรยานยนต์ คนเดินเท้าและสัตว์เลี้ยงใช้ข้ามไปยังพื้นที่ฝั่งตรงข้าม ติดตั้งเสาไฟส่องสว่างและเครื่องสูบน้ำอัตโนมัติ แต่เป็นที่น่าสังเกตว่าอุโมงค์ทางลอดดังกล่าวไม่น่าจะมีการใช้ประโยชน์ เนื่องจากมีน้ำท่วมขังอยู่เต็มภายในทางลอดจนหญ้า พืชน้ำและตะไคร่น้ำขึ้นปกคลุมเต็มอุโมงค์ทางลอด เนื่องจากทางขึ้นลงทางลอดด้านหนึ่งติดกับหมู่บ้านจัดสรรในขณะที่อีกฝั่งเป็นพื้นที่ทางการเกษตร มีเพียงถนนดินที่ชาวบ้านใช้เดินทางมายังสถานีรถไฟบ้านหนองไข่น้ำเดิม พอสถานีเลิกใช้งานก็ไม่มีใครใช้เส้นทางสัญจรอีก ทำให้ทางลอดจุดนี้แทบจะไม่มีคนใช้เดินทางสัญจรผ่าน การก่อสร้างทางลอดในจุดดังกล่าวจึงไม่รู้ว่าทางผู้ออกแบบโครงการฯสร้างไว้ให้ผู้ใดใช้งาน เป็นการสิ้นเปลืองงบประมาณโดยใช่เหตุ
//----------------------
ขาวบ้านคนเดียวกันนั้น ขอให้ รฟท. ทำเอง แล้วก็โบ้ยเมื่อเกิดน้ำท่วมเนื่องจากความไม่รับผิดชอบ ของ อบต. เนี่นะ ช่างไม่กระดากปาก ไม่ละอายแก้ใจเวลาให้ข่าวเลยนะครับ
Last edited by Wisarut on 30/07/2022 7:17 pm; edited 1 time in total |
|
Back to top |
|
|
|