รวมข่าวโครงการรถไฟทางคู่

[Mongwin]

โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ
17 พ.ย. 65 17:37 น.
https://www.facebook.com/lopburipaknampho/posts/515575120487893

อัพเดตความก้าวหน้าโครงการ เดือนตุลาคม พ.ศ. 2565
สัญญาที่ 1 ช่วงบ้านกลับ-โคกกะเทียม
(ทางรถไฟยกระดับ)
ความก้าวหน้าสะสม = 80.06%
แผนงานสะสม = 80.44%
ช้ากว่าแผน = -0.38%
*มีการปรับแผนงาน ให้สอดคล้องกับการขยายสัญญาการก่อสร้างโครงการ

โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ
17 พ.ย. 65 17:41 น.
https://www.facebook.com/lopburipaknampho/posts/515577540487651

อัพเดตความก้าวหน้าโครงการ เดือนตุลาคม พ.ศ. 2565
สัญญาที่ 2 ช่วงท่าแค-ปากน้ำโพ
ความก้าวหน้าสะสม = 74.57 %
แผนงานสะสม = 80.28 %
ช้ากว่าแผนงาน = -5.71 %
*มีการปรับแผนงาน ให้สอดคล้องกับการขยายสัญญาก่อสร้างโครงการ

โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ
17 พ.ย. 65 17:44 น.
https://www.facebook.com/lopburipaknampho/posts/515579093820829

อัพเดตความก้าวหน้าโครงการ เดือนตุลาคม พ.ศ. 2565
สัญญาที่ 3 งานระบบอาณัติสัญญาณและโทรคมนาคม (ST8)
ความก้าวหน้าสะสม = 25.92%
แผนงานสะสม = 98.43%
ช้ากว่าแผนงาน = -72.51%

[Mongwin]

เริ่มงาน I-Girder อีกครั้ง ในรอบ 3 เดือนหลังจากน้ำท่วมลพบุรี โครงการรถไฟทางคู่สายเหนือ สัญญาที่ 1
sawang songmue นานาสาระ
Nov 19, 2022


https://www.youtube.com/watch?v=An-XaCQkLVM

[Mongwin]

รื้อแบบข้างในอุโมงค์สะพานข้ามแม่น้ำลพบุรี เรียนผูกแล้วต้องเรียนแก้ เรียนให้รู้แน่ต้องเรียนแก้ให้ถูก
sawang songmue นานาสาระ
Nov 21, 2022


https://www.youtube.com/watch?v=s3lYyVWkRlc

[Mongwin]

ให้ไวเคาะสนิมชงครม.8สาย3แสนล.
Source - เดลินิวส์
Monday, November 21, 2022 04:12

ทางคู่เฟส2+1รวม1,549กม. น้องใหม่'ศรีราชา-มาบตาพุด'

รายงานข่าวจากกระทรวงคมนาคม แจ้งว่า อยู่ระหว่างเร่งรัดผลักดันโครงการรถไฟทางคู่ ระยะ (เฟส) ที่ 2 จำนวน 7 เส้นทาง ระยะทางรวม 1,479 กิโลเมตร (กม.) วงเงิน 275,301 ล้านบาท เพื่อเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติ โดยตั้งเป้าหมายว่าภายในปี 65 จะเสนอเส้นทาง ช่วงขอนแก่น-หนองคาย ระยะทาง 167 กม. วงเงินลงทุน 29,748 ล้านบาท ให้ ครม. พิจารณาอนุมัติเป็นเส้นทางแรก หากเห็นชอบจะเข้าสู่ขั้นตอนการประกวด ราคาทันที เพื่อให้เริ่มก่อสร้างได้ภายในปี 66 ส่วนที่เหลืออีก 6 เส้นทาง จะทยอยเสนอให้ ครม. พิจารณาอนุมัติภายในปี 66 ต่อไป

รายงานข่าวแจ้งต่อว่า ขณะนี้รถไฟทางคู่ เฟสที่ 2 ทั้ง 7 เส้นทาง การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) อยู่ระหว่างเร่งดำเนินงานในทุกขั้นตอน มีความคืบหน้าดังนี้

1.ช่วงขอนแก่นหนองคาย รายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ (กก.วล.) แล้วตั้งแต่เมื่อวันที่ 3 ต.ค. 61 รอกรมการปกครอง พิจารณาตรวจสอบ และรับรองความถูกต้องของท้องที่การปกครอง และแนวเขตการปกครองของร่างพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) กำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน คาดว่าจะเสนอ ครม.อนุมัติโครงการภายในปี 65,

2.ช่วงชุมทางถนนจิระ-อุบลราชธานี ระยะทาง 308 กม. วงเงิน 37,527 ล้านบาท รายงานอีไอเอผ่านความเห็นชอบ จาก กก.วล. แล้วเมื่อวันที่ 20 ก.ค.63 กระทรวงคมนาคม ได้สั่งการให้ รฟท.ปรับปรุงข้อมูลโครงการให้เป็นปัจจุบัน คาดว่า จะเสนอ ครม. อนุมัติโครงการภายในปี 66,

3.ช่วงปากน้ำโพเด่นชัย ระยะทาง 281 กม. วงเงิน 62,859 ล้านบาท รายงาน อีไอเอผ่านความเห็นชอบจาก กก.วล. แล้วเมื่อวันที่ 11 พ.ค. 65 รฟท. อยู่ระหว่างปรับปรุงข้อมูล คาดว่าจะเสนอ ครม.อนุมัติภายในปี 66,

4.ช่วงชุมพร-สุราษฎร์ธานี ระยะทาง 168 กม. วงเงิน 24,294 ล้านบาท รฟท. อยู่ระหว่างปรับปรุงข้อมูล และจัด ทำรายงานอีไอเอ คาดว่าจะเสนอสำนักงานนโยบายและแผน สิ่งแวดล้อม (สผ.) ภายในเดือน พ.ย. 65 และเสนอ ครม.อนุมัติ ภายในปี 66,

5.ช่วงสุราษฎร์ธานี-ชุมทาง หาดใหญ่-สงขลา ระยะทาง 321 กม. วงเงิน 57,375 ล้านบาท อยู่ระหว่างปรับปรุงข้อมูล และอยู่ระหว่างการพิจารณารายงานอีไอเอ ซึ่ง รฟท. ส่งข้อมูลเพิ่มเติมให้ สผ. เสนอ คณะกรรมการผู้ชำนาญพิจารณารายงานการประเมินผลกระทบ สิ่งแวดล้อม (คชก.) พิจารณาแล้ว คาดว่าจะเสนอ ครม.อนุมัติภายในปี 66,

6.ช่วงชุมทางหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ ระยะทาง 45 กม. วงเงิน 6,661 รายงานอีไอเอ ผ่านความเห็นชอบแล้วเมื่อวันที่ 1 ส.ค. 61 รฟท. อยู่ระหว่างปรับปรุงข้อมูลให้เป็นปัจจุบัน คาดว่าจะเสนอ ครม.อนุมัติโครงการภายในปี 66 และ

7.ช่วงเด่นชัย-เชียงใหม่ ระยะทาง 189 กม. วงเงิน 56,837 ล้านบาท รฟท. อยู่ระหว่างปรับปรุงรายงาน อีไอเอตามความเห็นของ คชก. พร้อมทั้งปรับปรุงข้อมูลโครงการฯ คาดว่าจะเสนอ ครม.อนุมัติภายในปี 66

รายงานข่าวแจ้ง ด้วยว่า ภายในปี 66 นอกจากกระทรวงคมนาคมจะพยายามผลักดันเสนอโครงการรถไฟทางคู่ เฟส 2 ให้ครบ ทั้ง 7 เส้นทางแล้ว ยังมีแผนเสนอโครงการรถไฟทางคู่สายใหม่ ช่วงชุมทางศรีราชา-มาบตาพุด ระยะทาง 70 กม. วงเงิน 30,454 ล้านบาท ให้ ครม. พิจารณาด้วย ขณะนี้ รฟท. ได้ศึกษาความเหมาะสมและออกแบบรายละเอียดแล้วเสร็จ อยู่ระหว่างปรับปรุงข้อมูลอีกเล็กน้อยจะช่วยพัฒนาโครงข่ายการเดินทาง และเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งทางรางจากภาคกลางไปยังเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี).

ที่มา: นสพ.เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 21 พ.ย. 2565

[Wisarut]

[Wisarut]

[Wisarut]

เผยเอกสารจาก.... รฟท.
ประเด็น สถานีรถไฟอุบล ไม่รวมสมัย
แจงแบบนี้ประชาชนเลือกเองตั้งแต่ปี 59
การรถไฟแห่งประเทศไทยขอชี้แจงกรณีภาพอาคารสถานี
รถไฟอุบลราชธานี ในโครงการรถไฟทางคู่ ช่วงชุมทางถนนจิระ- อุบลราชธานี ที่เผยแพร่ในสื่อสังคมออนไลน์นั้นเป็นภาพเก่าซึ่งปัจจุบันได้ปรับปรุงข้อมูลเสร็จสิ้นแล้ว โดยคำนึงถึงความสวยงาม มีอัตลักษณ์ และประโยชน์ใช้สอยที่คุ้มค่าเป็นสำคัญ
กรณีสื่อสังคมออนไลน์ได้นำเสนอรูปภาพสถานีรถไฟอุบลราชธานี ในโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงชุมทางถนนจิระ-อุบลราชธานี พร้อมกับระบุว่ามีการออกแบบที่ไม่ทันสมัยนั้น การรถไฟฯ ขอเรียนซี้แจงว่า ภาพสถานีอุบลราชธานีในโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงชุมทางถนนจิระ-อุบลราชธานี ที่สื่อออนไลน์ได้นำไปเผยแพร่นั้น เป็นภาพร่างแรกๆของการศึกษาที่การรถไฟ ฯ ได้จัดทำขึ้นในช่วงของการจัดทำร่างแบบเมื่อประมาณเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๕๙ โดยขณะนั้นยังเป็นภาพมุมมองสามมิติ (Perspective) ซึ่งยังไม่ได้มีการลงรายละเอียด ขั้นตอนการศึกษารูปแบบด้านสถาปัตยกรรมของอาคารสถานี อย่างไรก็ตาม ต่อมาการรถไฟฯ ได้มีการดำเนินศึกษา
ออกแบบค้านสถาปัตยกรรมอาคารสถานีตามขั้นตอนที่กำหนดโดยเปิดให้ภาคประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการแสดงความเห็นในรายละเอียด ซึ่งได้ดำเนินการเสร็จสิ้นไปแล้วเมื่อช่วงเดือนเมษายน ๒๕๕๙ ทำให้อาคารสถานีอุบลราชธานี คงความสวยงาม มีอัตลักษณ์ และคำนึงถึงความคุ้มค่า รวมถึงประโยชน์ใช้สอยที่ประชาชนได้รับเป็นสำคัญ
ทั้งนี้ การรถฟฯ ยืนยันว่า สถานีอุบลราชธานี ถือเป็นสถานี
ที่มีความสำคัญในโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงชุมทางถนนจิระ-อุบลราชธานี เนื่องจากเป็นสถานีปลายทางและเป็นย่านสำหรับการจัดขบวนรถและซ่อมบำรุง โดยได้มีการปรับปรุงออกแบบอาคารและสถานีอย่างพิถีพิถัน ให้สามารถใช้งานอาคารสถานีเดิม ซึ่งยังมีสภาพสมบูรณ์แข็งแรง มีรูปแบบที่ควรคำแก่การอนุรักษ์ ควบคู่ไปกับการสร้างอาคารใหม่ได้อย่างลงตัวโดยในส่วนอาคารสถานีเดิม ได้เข้าไปปรับปรุงพื้นที่ภายในสถานีและจัดพื้นที่ใช้สอยภายในใหมให้มีความเหมาะสม ขณะที่พื้นที่
อาคารใหม่ใด้ก่อสร้างข้างอาคารสถานีเดิมเพื่อรองรับผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้น ซึ่งได้ออกแบบให้มีรูปแบบ สถาปัตยกรรมที่สอดคล้องกับอาคารสถานีเดิมเพื่อให้ดูเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน พร้อมกับนำรูปทรงของดอกบัวซึ่งเป็นดอกไม้ประจำจังหวัดอุบลราชธานีมาประยุกต์ใช้ในการออกแบบทางเข้าอาคารด้วย
ดังมีรายละเอียดตามภาพประกอบ (สิ่งที่ส่งมาด้วย)
ท้ายนี้ การรถไฟฯ ขอย้ำว่า พร้อมรับฟังความเห็น
จากประชาชนทุกภาคส่วน เพื่อนำมาพิจารณาปรับปรุงโครงการลงทุนและการให้บริการในมิติต่างๆ อย่างรอบด้าน ให้มีความครอบคลุมครบถ้วน โดยคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของการให้บริการต่อประชาชนเป็นสำคัญ
https://www.facebook.com/yourubonratchathani/posts/3295052900753486

[Mongwin]

ประชุมหอการค้าทั่วประเทศ ปัดฝุ่นโครงการเสนอรัฐ สอดคล้อง BCG
ฐานเศรษฐกิจ วันที่ 23 พฤศจิกายน 2565 - 06:42 น.

ประชุมหอการค้าทั่วไทย “สนั่น อังอุบลกุล” นำผลประชุม APEC ผลักดันสู่แนวปฏิบัติ หอการค้า 5 ภาค รวบรวมผลสรุป “สมุดปกขาว” เสนอรองนายกรัฐมนตรี ปัดฝุ่นโครงการเก่า สอดคล้อง BCG หอภาคตะวันออกชงจัดงาน EEC Fair หอภาคกลางตั้งนิคม Food Valley หอใต้เสนอระเบียงเศรษฐกิจเวลเนสอันดามัน หอภาคเหนือดันโครงการ NEC ประตูเชื่อมเพื่อนบ้าน

นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า หอการค้าไทยและสภาหอการค้าฯได้จัดสัมมนา หอการค้าทั่วประเทศครั้งที่ 40 ในวันที่ 25-27 พฤศจิกายน 2565 ที่จังหวัดอุบลราชธานี โดยจะมีการรวบรวมและสรุปประเด็นแนวทางการผลักดันเศรษฐกิจไทยในปี 2566 ปัญหาและอุปสรรคที่เกี่ยวข้องในรูปแบบ “สมุดปกขาว” เพื่อยื่นให้กับ นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานต่อไป

การจัดประชุมสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศครั้งนี้ ตนจะได้นำเสนอประเด็นว่าด้วยเศรษฐกิจชีวภาพ-เศรษฐกิจหมุนเวียน-เศรษฐกิจสีเขียว (Bangkok Goals on BCG Model) ที่เป็นผลจากการประชุม APEC ที่ผ่านมา เข้ามาหารือกับหอการค้าทั่วประเทศ โดยจะร่วมกันหาแนวทางการขับเคลื่อนตามความถนัดและความสามารถของแต่ละจังหวัด พร้อมทั้งเดินหน้าแผนพัฒนาเศรษฐกิจ ซึ่งร่วมกับกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) คนรุ่นใหม่ เพราะพิสูจน์แล้วว่าสามารถขับเคลื่อนได้อย่างแท้จริง

พร้อมทั้งจะมีการหารือกันถึงการลดความเหลื่อมล้ำของสังคม การสร้างขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศ การดึงดูดนักลงทุนต่างชาติ การผลักดันการขอใบอนุญาตให้เข้าสู่ระบบออนไลน์ การสร้างยุทธศาสตร์การค้ากับประเทศคู่ค้าสำคัญ โดยมีเป้าหมายในปี 2566 ได้แก่ จีน, ซาอุดีอาระเบีย, ญี่ปุ่น, เวียดนาม และอินเดีย

อย่างไรก็ดี แม้ภาวะเศรษฐกิจโลกในปีหน้าจะยังมีความชะลอตัว แต่หอการค้ายังคงเชื่อมั่นว่า เศรษฐกิจไทยยังมีโอกาส หลังจากการประชุม APEC ที่ผ่านมาแสดงให้เห็นถึงการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์เป้าหมายต่าง ๆ โดยเฉพาะ ความตกลงเขตการค้าเสรีเอเชีย-แปซิฟิก หรือ Free Trade Area of the Asia-Pacific (FTAAP) ที่จะร่วมกันผลักดันให้เกิดขึ้น

นอกจากนี้ ประเทศไทยยังมีจุดแข็งในเรื่องของการท่องเที่ยวที่คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาไม่ต่ำกว่า 20 ล้านคน ไทยยังมีโอกาสขยายการค้า การส่งออก-ลงทุน พร้อมทั้งจะร่วมมือกับ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ในการขับเคลื่อนและดึงดูดการลงทุนต่อไป

พร้อมกันนี้หอการค้ายังให้หน่วยงานศึกษาและโอกาสความเป็นได้สำหรับคนต่างชาติที่จะเข้ามาซื้ออสังหาฯในระบบเช่า-ซื้อ จะมีประโยชน์ต่อประเทศอย่างไรด้วย

ภาคเหนือเร่งขับเคลื่อน 4 มิติ

นายสมบัติ ชินสุขเสริม ประธานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจพื้นที่ภาคเหนือ หอการค้าไทย กล่าวว่า หอภาคเหนือจะนำเสนอ 4 มิติเกี่ยวกับการพัฒนาระหว่างปี 2566-2570 ได้แก่

1) การพัฒนาด้านเศรษฐกิจ BCG Economy (Bio-Circular-Green Economy) หรือเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว

2) ส่งเสริมการค้าการลงทุนในภาคเหนือ ยกระดับสินค้าอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ เชื่อมโยงอุตสาหกรรมดิจิทัล

3) การส่งเสริมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ที่จะมุ่งเน้นการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ health and wellness ผสมผสานกับวัฒนธรรมพื้นถิ่น และ

4) การพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานโลจิสติกส์ เชื่อมโยงเครือข่ายทั้งในและต่างประเทศ

ส่วนโครงการเร่งด่วนเบื้องต้นจะมี 4 ด้าน คือ

1) โครงการด้าน NEC (Northern Economic Corridor : NEC) ประกอบไปด้วย โครงการจัดตั้งคณะกรรมการ NEC ภาคเหนือ, โครงการ NEC Valley ในจังหวัดเชียงใหม่ และโครงการ Special Economic Zones ซึ่งจะเป็นประตูเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้านสู่ภูมิภาค 10 จังหวัดในภาคเหนือ จะมีจังหวัดเชียงรายและจังหวัดตาก

2) แผนแม่บทในการจัดการเรื่องน้ำภาคเหนือ จากปัญหาน้ำท่วมหนักและแล้งจัดทุกปี

3) โครงการส่งเสริมการท่องเที่ยว Happy Model ซึ่งจะขับเคลื่อนและยกระดับ Wellness Tourism และ

4) โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ภาคเหนือ ตอนนี้มีมติเห็นชอบการก่อสร้างรถไฟทางคู่ช่วงปากน้ำโพ (นครสวรรค์)-เด่นชัย และเร่งรัดการก่อสร้างรถไฟทางคู่สายนครสวรรค์-แม่สอด

อีสานฐานอุตฯชีวภาพ

นายสวาท ธีระรัตนนุกูลชัย ประธานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หอการค้าไทย กล่าวว่า ภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะเสนอรัฐบาลในธีม “ปลุกเศรษฐกิจอีสานฟื้นเศรษฐกิจไทย” ด้วยการ

1) ปลุกพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจให้มีความพร้อมเกี่ยวกับการพัฒนาเกษตรมูลค่าสูง การบริการดูแลสุขภาพ การแพทย์ และการท่องเที่ยวคุณภาพสูง ตลอดจนการบริหารจัดการน้ำ

2) สร้างประตูสู่การค้าการลงทุนในระดับนานาชาติและอาเซียน เน้นไปที่อนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง

3) เปิดประตูการท่องเที่ยว จากเส้นทางเดิมให้ขยายตัวเพิ่มขึ้น และ

4) สร้าง wellness center รวมทั้งศูนย์สุขภาพทั้งหมด โดยใช้เกษตรปลอดภัย ยกระดับองค์ความรู้ด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม สู่การเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ

“ภาคอีสานส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องเดิมต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา จะใช้ประโยชน์จากช่องทางต่าง ๆ ในเขตอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง เช่น ช่องทางการขนส่งระบบรางไปสู่จีนและยุโรป มาเลย์ สิงคโปร์ นอกจากนี้ก็หนุน NeEC ปั้นเศรษฐกิจอุตสาหกรรม 4 จังหวัด (ขอนแก่น-นครราชสีมา-อุดรธานี-หนองคาย) เป็นระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ให้เป็นฐานการผลิตอุตสาหกรรมชีวภาพเพื่อบุกกลุ่ม CLV และจีนตอนใต้ ยกระดับการค้าชายแดน สร้างสะพานแม่น้ำโขง หนุนโลจิสติกส์การขนส่งไทย-ลาว-จีน และยังมีเรื่องการบริหารจัดการน้ำ 365 วัน เพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก การยกระดับการเกษตรโดยใช้มาตรฐานเกษตรอินทรีย์ สร้างจุดขายให้พื้นที่ภาคอีสานเป็นฮับเมืองแห่งอาหารและสมุนไพร ตลอดจนโครงการโค 1 ล้านตัวด้วย” นายสวาทกล่าว

ภาคกลางพัฒนา Food Valley

ด้าน นายธวัชชัย เศรษฐจินดา รองประธานกรรมการหอการค้าไทยและประธานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจพื้นที่ภาคกลาง เปิดเผยว่า ภาคกลางได้มีการทำแผนพัฒนาเศรษฐกิจภาคเอกชนภูมิภาคกับกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ซึ่งมีการนำเสนอโปรเจ็กต์ทั้งหมด 3 เรื่อง ได้แก่

1) การจัดตั้งตั้งนิคมวิจัยและพัฒนา เรียกว่า “Food Valley” ในจังหวัดปทุมธานี เป็นศูนย์วิจัยและพัฒนาอาหารแปรรูป

2) การเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ของประเทศ เบื้องต้นจะต้องมีการจัดทำแผนโลจิสติกส์ของประเทศ

3) การปรับปรุงผังเมืองในกลุ่มปริมณฑล 4 จังหวัด (ปทุมธานี-นครปฐม-สมุทรสาคร-สมุทรปราการ) ควรจะมีการปรับผังเมืองให้รองรับกับพื้นที่อยู่อาศัย

และ 4) เรื่องท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์สร้างสรรค์ มี 3 เส้นทาง คือ ทวารวดี-ละโว้-อยุธยา มีกลุ่มเป้าหมายเป็นนักท่องเที่ยวที่มีกำลังซื้อสูง นำแนวคิดเศรษฐกิจสร้างสรรค์ร่วมกับ Happy Model และใช้หลักการคิดของ BCG โดยทาง อว.จะช่วยเรื่องของการทำคอนเทนต์ สตอรี่ ด้าน ททท.จะช่วยเรื่องการทำตลาดและประชาสัมพันธ์ ในส่วนหอการค้ามี นครปฐม สุพรรณบุรี ลพบุรี พระนครศรีอยุธยา เป็นกลุ่มบริหารจัดการท่องเที่ยว

จัด EEC Fair เทียบเท่า BOI Fair

นายปรัชญา สมะลาภา ประธานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจพื้นที่ภาคตะวันออก หอการค้าไทย กล่าวว่า ภาคตะวันออกมี 3 เรื่องหลักที่จะเสนอ ได้แก่

1) เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ต้องการให้รัฐบาลสนับสนุนการจัดงาน “EEC Fair” อยากให้เป็นงานใหญ่เทียบเท่ากับงาน “BOI Fair” ในอดีต เพื่อสร้างการรับรู้ถึงศักยภาพและความพร้อมของ EEC ในการรองรับอุตสาหกรรม S-curve ต่อนักธุรกิจต่างชาติ เป็นโครงการของคนไทยทั้งประเทศที่จะได้รับประโยชน์

2) โครงการจัดตั้งศูนย์กลางโลจิสติกส์ในการส่งออกผลไม้ไปต่างประเทศ โดยต้องการให้รัฐบาลเจรจากับทางการจีนให้จัดส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบผลไม้ที่ประเทศไทย ก่อนส่งออกไปจีนเพื่อไม่ให้มีปัญหาปลายทาง นอกจากนี้จะผลักดันโครงการระเบียงผลไม้ภาคตะวันออก (EFC) จะมีการจัดพัฒนาระบบห้องเย็นด้วย

3) การเทรดคาร์บอนเครดิต จะต้องมีมาตรการมาช่วยเหลือให้กับภาคเกษตร โดยจะเริ่มจากสวนยางพาราในจังหวัดระยอง จันทบุรี และตราด ซึ่งทางการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) จะเริ่มดำเนินการ ซึ่งทางหอการค้าจะกระตุ้นไปยังรัฐบาลให้เข้าไปช่วยส่งเสริม กยท.ในการดำเนินการ

เวลเนสอันดามัน

นายวัฒนา ธนาศักดิ์ รองประธานกรรมการหอการค้าไทยและประธานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจพื้นที่ภาคใต้ เปิดเผยว่า มีเรื่องหลักที่จะมีการนำเสนอ 4 เรื่อง ซึ่งเป็นโครงการเดิมที่เคยมีการนำเสนอไปแล้วแต่ยังไม่ได้ ได้แก่

1) แผนพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจเวลเนสอันดามัน Andaman Wellness Economic Corridor (AWC) (พ.ศ. 2565 -2574)

โดยมีพื้นที่เป้าหมาย 4 จังหวัด (ภูเก็ต-พังงา-กระบี่-ระนอง) จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันด้านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ เป็นยุทธศาสตร์ด้านการเยียวยา ฟื้นฟู และช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโรคโควิด ซึ่งมีการนำร่องจังหวัดภูเก็ตใน 3 อำเภอ (อำเภอเมือง-กะทู้-ถลาง) โดยแบ่งการดำเนินงานเป็น 2 ระยะ ระยะที่ 1 เชื่อมงานบริการให้อยู่ในหน้าต่างเดียวกัน ระยะที่ 2 พัฒนา super license ในกิจการสปาและนวดเพื่อสุขภาพ

2) Phuket Expo 2028 ได้มีการนำเสนอภาครัฐไปแล้ว ขณะนี้อยู่ในช่วงของการเจรจา ตอนนี้มีคู่แข่งอยู่ 4 เมือง ใน 4 ประเทศ (มลรัฐมินนิโซตา สหรัฐอเมริกา-มาลากา สเปน-เบลเกรด เซอร์เบีย-San Carlos de Bariloche อาร์เจนตินา)

3) โครงการสะพานเศรษฐกิจเชื่อมฝั่งทะเลอ่าวไทย-อันดามัน (แลนด์บริดจ์-Land Bridge) ซึ่งจะช่วยยกระดับประเทศไทยสู่การเป็นศูนย์กลางการขนส่งทางน้ำภูมิภาค อีกทั้งยังเป็นการเปิดเส้นทางเดินเรือใหม่ของมหาสมุทรอินเดียและมหาสมุทรแปซิฟิก เพิ่มความสะดวกรวดเร็วในการขนส่งสินค้า รวมถึงสามารถดึงดูดนักลงทุนจากทั่วโลกเข้ามาในพื้นที่ได้

[Mongwin]

สะพาน BC3 Formtraveller ติดตั้งแบบด้านในและโครงหลังคา โครงการรถไฟทางคู่สายเหนือ สัญญาที่ 1 ลพบุรี
sawang songmue นานาสาระ
Nov 24, 2022


https://www.youtube.com/watch?v=QhSPXpmB3J0

[Mongwin]

โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่สายใต้ ช่วงนครปฐม-ชุมพร
24 พ.ย. 65 11:18 น.

https://www.facebook.com/southernlinetrackdoublingproject/posts/598845952042331

ความก้าวหน้างานก่อสร้าง ผลงานถึงวันที่ 17 พฤศจิกายน 2565
👉สัญญาที่ 1 ช่วงนครปฐม – หนองปลาไหล
ผู้รับจ้าง บริษัท เอ.เอส.แอสโซซิเอท เอนยิเนี่ยริ่ง 1964 จำกัด
แผนงานสะสม = 100.00 %
ผลงานสะสม = 96.675 %
ช้ากว่าแผน = -3.325 %

👉สัญญาที่ 2 ช่วงหนองปลาไหล-หัวหิน
ผู้รับจ้าง บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน)
แผนงานสะสม = 100.00 %
ผลงานสะสม = 94.969 %
ช้ากว่าแผน = -5.031 %

👉สัญญาที่ 3 ช่วงหัวหิน - ประจวบคีรีขันธ์
ผู้รับจ้าง บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน)
ผลงานแล้วเสร็จ = 100.00%

👉สัญญาที่ 4 ช่วงประจวบคีรีขันธ์-บางสะพานน้อย
ผู้รับจ้าง กิจการร่วมค้า เคเอส-ซี
แผนงานสะสม = 96.862 %