RailServe.Com

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai.Com

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311331
ทั่วไป:13292192
ทั้งหมด:13603523
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - รวมข่าวโครงการรถไฟทางคู่
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

รวมข่าวโครงการรถไฟทางคู่
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 386, 387, 388 ... 391, 392, 393  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44915
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 27/02/2024 1:24 pm    Post subject: Reply with quote

ข่าวนวัตกรรมขนส่งเดลินิวส์-Dailynews
27 ก.พ. 67 13:09

เปิดคำฟ้อง“หลังคาชานชาลารถไฟไม่กันแดดกันฝน”
*”ประชาชน“เดือดร้อนเสียหายร้อง”ศาลปกครอง“
*ยกสถานีปากช่องของเดิมดีๆรื้อสร้างใหม่แย่มาก
*ชานฯยาว400เมตรทำหลังคาหย่อมๆสั้น25เมตร
*ไม่มีทางลาดขึ้นลง-พื้นหินขัดเสี่ยงอุบัติเหตุลื่นล้ม
*รฟท.ละเลยเพิกเฉยขอให้มีคำสั่งแก้ไขทั่วประเทศ

https://www.facebook.com/TransportDailynews/posts/945069430403625
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44915
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 27/02/2024 1:29 pm    Post subject: Reply with quote

ทางคู่ 16 เส้น 3,154 กม. 4 แสนล้าน 3 รัฐบาลจากยุค คสช.ถึงเศรษฐา | เดลินิวส์
Source - เว็บไซต์เดลินิวส์
Tuesday, February 27, 2024 08:07

เข้าโหมดระยะ(เฟส)ที่ 2 ของรถไฟทางคู่ เมื่อที่ประชุมคณะกรรมการ(บอร์ด) การรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) วันที่ 22 ก.พ. 2567 อนุมัติโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่เฟส 2 จำนวน 3 เส้นทาง ระยะทางรวม 634 กม.วงเงินรวม 133,146 ล้านบาท

3 เส้นทางประกอบด้วย 1.ช่วงปากน้ำโพ-เด่นชัย 281 กม. วงเงิน 81,143 ล้านบาท 2.ช่วงชุมทางถนนจิระ-อุบลราชธานี 308 กม. วงเงิน 44,103 ล้านบาท และ 3.ช่วงชุมทางหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ 45 กม. วงเงิน 7,900 ล้านบาท รฟท. จะเสนอกระทรวงคมนาคมภายในเดือนก.พ.นี้ เพื่อพิจารณาเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ต่อไป

ก่อนหน้านี้ รฟท. เสนอโครงการรถไฟทางคู่เฟส 2 ทั้ง 7 เส้นทาง รวม 1,483 กม. วงเงินลงทุน 2.7แสนล้านบาท ไปยังกระทรวงคมนาคมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อพิจารณาแต่มีความเห็นว่าหากทำพร้อมกันทั้ง 7 เส้นทางจะใช้งบฯจำนวนมาก จึงให้กรมการขนส่งทางราง(ขร.) และ รฟท. จัดลำดับความสำคัญแต่ละเส้นทางและทยอยดำเนินการ

เส้นทางที่ถูกจัดไว้เป็นอันดับที่ 1 ช่วงขอนแก่น-หนองคาย 167 กม. วงเงิน 29,748 ล้านบาท ผ่านความเห็นชอบจาก ครม.แล้วเมื่อวันที่ 16 ต.ค. 2566 เพื่อเชื่อมโครงการรถไฟทางคู่เฟสแรกช่วงชุมทางจิระ-ขอนแก่น ที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง สนับสนุนการเชื่อมต่อเส้นทางหนองคาย-นครราชสีมา-สระบุรี-ฉะเชิงเทรา- แหลมฉบัง-มาบตาพุด ขนส่งสินค้าจากสาธารณรัฐประชาชนจีนตอนใต้ สปป.ลาว และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มายังท่าเรือแหลมฉบังและมาบตาพุด

โครงการช่วงขอนแก่น-หนองคายอยู่ในขั้นตอนการจัดทำร่างรายละเอียดเงื่อนไขการประกวดราคา(TOR) จะแล้วเสร็จภายในเดือน มี.ค.2567 เข้าสู่ขั้นตอนการประกวดราคา ตามแผน 5 ปี (2567-2571) ส่วนอันดับที่ 2 ช่วงปากน้ำโพ-เด่นชัย และอันดับ3 ช่วงชุมทางถนนจิระ-อุบลราชธานี ขณะที่อันดับ 4 ได้ขยับช่วงชุมทางหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ ซึ่งเดิมอยู่อันดับสุดท้ายขึ้นมาก่อน ตามนโยบายของรัฐบาลใหม่ นายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน ที่ต้องการส่งเสริมการค้าชายแดนและการขนส่งสินค้าข้ามชายแดน อีกทั้งเส้นทางนี้มีระยะทางสั้น ก่อสร้างได้รวดเร็ว

อันดับที่ 5-7 ที่เหลืออีก 3 เส้นทาง ช่วงชุมพร-สุราษฎร์ธานี 168 กม. วงเงิน 24,294 ล้านบาท, ช่วงสุราษฎร์ธานี-หาดใหญ่-สงขลา 321 กม. วงเงิน 67,459 ล้านบาท และช่วงเด่นชัย-เชียงใหม่ 189 กม. วงเงิน 56,837 ล้านบาท รฟท.จะทยอยเร่งรัดผลักดันเข้าบอร์ด กระทรวงคมนาคม และครม. ภายในปี 2567 เพื่อเติมเต็มให้ครบทั้ง7เส้นทาง

ลงรายละเอียด 3 เส้นทางที่ผ่านบอร์ด ทางคู่ปากน้ำโพ-เด่นชัย ระยะทาง 280.54 กม. เป็นระดับดิน 235 กม. ทางรถไฟยกระดับ 40.33 กม. และอุโมงค์ 5.22 กม. มี 36 สถานี (สถานีขนาดเล็ก 27 สถานี สถานีขนาดกลาง 8 สถานี สถานีขนาดใหญ่ 1 สถานี) ที่หยุดรถ 4 แห่ง มีย่านกองเก็บตู้สินค้า(CY) 3 แห่ง (สถานีรถไฟบางกระทุ่ม วังกะพี้ และศิลาอาสน์ ) จะมีการเวนคืน 1,089 ไร่

ช่วงชุมทางถนนจิระ – อุบลราชธานี จะก่อสร้างทางรถไฟใหม่เพิ่มขึ้น 1 ทาง ขนานไปทางรถไฟเดิม ระยะทางรวม 307.7 กม. เป็นระดับดิน 292.60 กม. ทางรถไฟยกระดับ 3 แห่ง ระยะทางรวม 15 กม.มี 35 สถานี (สถานียกระดับ 3 แห่ง) ป้ายหยุดรถ 6 แห่ง ออกแบบลดผลกระทบจากการแบ่งแยกชุมชน ด้วยการสร้าง สะพานลอย 14 แห่ง ทางคนลอด 27 แห่ง และทางสัตว์ลอด 15 แห่ง ต้องเวนคืน 43 ไร่

ช่วงหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ จะก่อสร้างทางรถไฟใหม่เพิ่มขึ้น 1 ทาง ขนานทางรถไฟเดิม ระยะทางรวม 44.50 กม. มีทางรถไฟยกระดับ 2 แห่ง ระยะทาง 4.60 กม. มี 3 สถานี ที่หยุดรถ 3 แห่ง ต้องเวนคืน 21 ไร่.

นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรฟท. บอกว่า หากผ่านความเห็นชอบจาก ครม. จะเดินหน้าทั้ง 3 เส้นทางได้ทันทีเนื่องจากผ่านการพิจารณารายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม(อีไอเอ) จากคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ(กก.วล.) แล้ว แม้ชุมทางหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ กก.วล.จะเห็นชอบอีไอเอตั้งแต่เดือน ส.ค.2561

แต่จากการหารือกับสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) ได้รับคำยืนยันว่า โครงการจะเริ่มนับหนึ่งตั้งแต่นำทั้ง 7 เส้นทางเสนอกระทรวงคมนาคม และสอบถามความเห็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเมื่อประมาณปี 2563-2564 ส่งผลให้อีไอเอไม่ขาดอายุ ตามปกติหากอีไอเอผ่านความเห็นชอบจาก กก.วล. ต้องดำเนินโครงการภายใน 5 ปี หากไม่ดำเนินการภายในกำหนดต้องปรับปรุง หรือทำรายงานอีไอเอใหม่

สำหรับโครงการรถไฟทางคู่ เฟสแรก 7 เส้นทาง รวม 993 กม. วงเงินรวม 1.2 แสนล้านบาท ก่อสร้างแล้วเสร็จและเปิดบริการแล้ว 3 เส้นทาง 1.ช่วงชุมทางฉะเชิงเทรา-ชุมทางคลองสิบเก้า-ชุมทางแก่งคอย 106 กม. 2.ช่วงชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น 187 กม.และ 3.ช่วงหัวหิน – ประจวบคีรีขันธ์ 84 กม.

อีก 4 เส้นทาง กำลังก่อสร้าง 1.ช่วงประจวบคีรีขันธ์ – ชุมพร 167 กม. 2.ช่วงมาบกะเบา – ชุมทางถนนจิระ 132 กม. 3.ช่วงนครปฐม – หัวหิน 169 กม. 4.ช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ 148 กม. ตามแผนเดิมจะต้องแล้วเสร็จตั้งแต่ปี2565 และเปิดบริการปี 2566 แต่จากปัญหาอุปสรรคต่างๆ รวมทั้งการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้ปรับแผนงานใหม่ทั้งหมดจะก่อสร้างแล้วเสร็จและทยอยเปิดบริการประมาณปี 2567-2569

นอกจากนี้รฟท. ยังอยู่ระหว่างก่อสร้างโครงการรถไฟทางคู่ 2 สายใหม่ สายเหนือ ช่วงเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ 323 กม. วงเงิน 7.29 หมื่นล้านบาท และสายอีสาน ช่วงบ้านไผ่-มหาสารคาม-ร้อยเอ็ด-มุกดาหาร-นครพนม 355 กม. วงเงิน 6.68 หมื่นล้านบาท มีแผนเปิดบริการปี 2570-2571

นับรวมทางคู่ 16 เส้นทาง ระยะทาง 3,154 กม.งบประมาณกว่า 4 แสนล้าน ของกระทรวงคมนาคม เพื่อเปลี่ยนถ่ายทางเดี่ยวสู่ทางคู่ ลดระยะเวลาการเดินทางได้อย่างน้อย 30% ลดต้นทุนการขนส่ง ลดอุบัติเหตุจุดตัดรถไฟ เพิ่มความปลอดภัยและทำให้คุณภาพชีวิตประชาชนดีขึ้นด้วยระบบราง

ตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ที่ก่อกำเนิดในรัฐบาลยุคคสช.ปี 2559 ภายใต้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ทำต่อในรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์2 จนมาถึงรัฐบาลผสมข้ามขั้วนายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน ที่ผลักดันเดินหน้า….แต่!!! ต้องรอให้ก่อสร้างแล้วเสร็จและเปิดบริการก่อน.

Photo Credit /ขอบคุณกรมการขนส่งทางราง

—————

นายสปีด
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44915
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 27/02/2024 7:35 pm    Post subject: Reply with quote

รถไฟทางคู่โคราชไม่จบ รฟท.จ่อเปลี่ยนเส้นทางไม่ผ่านเมือง ปชช.โวยไม่ยอมเคาะ เสียโอกาสหลายปี
Source - มติชนออนไลน์
Tuesday, February 27, 2024 19:10

รถไฟทางคู่โคราชไม่จบ รฟท.จ่อเปลี่ยนเส้นทางไม่ผ่านเมือง ปชช.โวยไม่ยอมเคาะ เสียโอกาสหลายปี

เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ ที่ห้องประชุมหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา นายกิตติศักดิ์ ธีระวัฒนา รอง ผวจ.นครราชสีมา เป็นประธานการประชุมร่วมกับคณะอนุกรรมการจัดระบบการจราจรทางบกจังหวัดนครราชสีมา (อจร.นม.) ครั้งที่ 1/2567 โดยมีผู้แทนหน่วยงานรัฐและเอกชนรวมทั้งภาคประชาชน

ในระเบียบวาระที่ 3.2 ผู้แทนฝ่ายก่อสร้างโครงการพิเศษ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) นำเสนอผ่านระบบวีดิทัศน์ทางไกล (VCS : Webex Meetings) ชี้แจงความคืบหน้าโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ สัญญาที่ 1 งานโยธาและระบบราง ช่วงมาบกะเบา-คลองขนานจิตร ผลงานสะสม 90.3 % ล่าช้าเพียงเล็กน้อย สัญญาที่ 2 คลองขนานจิตร-ชุมทางถนนจิระ รอ ครม.อนุมัติ งบดำเนินการปรับรูปแบบช่วงสถานีรถไฟโคกกรวด-ชุมทางถนนจิระ ตามข้อเรียกร้องของประชาชน ไม่เอาแนวคันดินต้องการให้เป็นตอม่อและรื้อถอนสะพานสีมาธานีรวมทั้งช่วงผ่านทางเข้ากองทัพภาคที่ 2 ค่ายสุรนารี ต้องมีความสูงเกิน 5 เมตร เพื่อให้รถยนต์ขนาดใหญ่สามารถลอดผ่านได้สะดวก

ทั้งนี้ รฟท. ได้ศึกษารูปแบบวิธีการและขั้นตอน ระยะเวลา งบประมาณและการบริหารจัดการจราจรทางเลี่ยงและผลกระทบในระหว่างดำเนินโครงการ ฯ เพื่อลดผลกระทบที่เกิดขึ้นในอนาคตทุกมิติและการขยายตัวของเมืองทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นผลดีต่อการดำเนินชีวิตความเป็นอยู่ของชาวโคราช รวมทั้งความเป็นไปได้ของหลักวิศวกรรมก่อสร้างและอยู่ในกรอบวงเงิน ครม.อนุมัติ โดยมีแนวทางดังนี้

1.เขตทางเดิมทางรถไฟระดับดิน
2.เขตทางเดิมทางรถไฟเริ่มยกระดับ หลังลอดผ่านทางต่างระดับนครราชสีมา รื้อถอนสะพานสีมาธานี ส่งผลกระทบการจราจรระหว่างก่อสร้าง 2.6 ปี
3.ทางรถไฟเบี่ยงจากสถานีโคกกรวดเข้าสู่ MR2 ช่วงนครราชสีมา-หนองคาย และ
4.ทางรถไฟแบ่งสัญญาหยุดที่สถานีโคกกรวด เข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 290 ถ.วงแหวนนครราชสีมา ด้านทิศเหนือ
โดยแนวทาง 3 และ 4 เส้นทางรถไฟเชื่อมต่อที่สถานีหนองแมว ต.ด่านคล้า อ.โนนสูง กรณีจะเป็นแนวทางใด ทั้งหมดเป็นการศึกษาความเหมาะสมเท่านั้นต้องรอข้อสรุปอีกครั้ง

นายประพนธ์ ธรรมประทีป สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ส.อบจ.) นครราชสีมา อ.เมือง เขต 4 เปิดเผยว่า ชาวโคราชได้รวมตัวเรียกร้องให้รัฐบาลและ รฟท. ปรับรูปแบบการก่อสร้างช่วงผ่านตัวเมือง เดิมทางวิ่งระดับดินเป็นทางวิ่งยกระดับ เพื่อแก้ปัญหาจราจรและการระบายน้ำ รูปแบบยกระดับทั้งหมด 7.85 กิโลเมตร ค่าก่อสร้างเพิ่มขึ้น 4,791 ล้านบาท ระยะเวลาเพิ่มขึ้น 28 เดือน ซึ่งผ่านกระบวนการประชาพิจารณ์เมื่อปี 2562 ขั้นตอนรอ ครม.เห็นชอบอนุมัติงบ ขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนแต่อย่างใด การเปลี่ยนเส้นทางรถไฟและไม่ทุบสะพานสีมาธานี โครงการต้องล่าช้าทำให้ประชาชนเสียโอกาสที่จะได้ใช้บริการรถไฟทางคู่เต็มรูปแบบ

ด้านนายภาณุ เล็กสุนทร ผู้แทนภาคประชาชน กล่าวว่า ขณะนี้ รฟท. ยังไม่ยอมเคาะจะใช้แนวทางไหน เปลี่ยนรัฐบาลก็ปรับรูปแบบและไม่ยอมดำเนินการตามมติชาวโคราช อนาคตจะส่งผลกระทบต่อคะแนน ส.ส พรรคเพื่อไทย (พท.)
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44915
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 28/02/2024 5:34 pm    Post subject: Reply with quote

รถไฟทางคู่โคราชส่อบานปลายมีฉันทานุมัติภาคเอกชนต้องยกระดับผ่านเมืองทุบสะพานสีมา
28 กุมภาพันธ์ 2567 16:48 น. สยามรัฐออนไลน์ ภูมิภาค

จากกรณีผู้แทนการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ชี้แจงความคืบหน้าการดำเนินโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ สัญญาที่ 2 คลองขนานจิตร-ชุมทางถนนจิระ ข้อเรียกร้องของชาวโคราชไม่เอาคันดินต้องการตอม่อและรื้อถอนสะพานข้ามทางรถไฟโรงแรมสีมาธานีรวมทั้งช่วงผ่านกองทัพภาคที่ 2 ค่ายสุรนารี ต้องมีความสูงเกิน 5 เมตร เพื่อให้รถยนต์ขนาดใหญ่สามารถลอดผ่านได้สะดวก จึงต้องปรับรูปแบบช่วงผ่านตัวเมือง เดิมทางระดับดินเป็นทางยกระดับ 7.85 กิโลเมตร ค่าก่อสร้างเพิ่ม 4,791 ล้านบาท ขั้นตอนผ่านกระบวนการประชาพิจารณ์ รอ ครม.เห็นชอบอนุมัติงบประมาณ ทำใหการดำเนินโครงการต้องหยุดชะงัก รวมทั้งนำเสนอผลการศึกษาความเหมาะสมแนวทางการก่อสร้างทางรถไฟไม่เข้าตัวเมือง เส้นทางเบี่ยงจากสถานีโคกกรวด เข้าสู่ MR 2 หรือทางหลวง 290 ด้านทิศเหนือ เชื่อมต่อสถานีหนองแมว อ.โนนสูง ทำให้ชาวโคราชสับสนและวิตกกังวลหากรถไฟทางคู่ถือเป็นขนส่งสาธารณะให้บริการเชิงสังคมกับคนท้องถิ่น หากไม่เข้าตัวเมือง จะส่งผลกระทบในอนาคตอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ตามที่เสนอข่าวมาเป็นลำดับ

วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 14.00 น.ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า ที่มูลนิธิสว่างเมตตาธรรมสถาน (หลักเสียงเซียงตึ๊ง) อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายสุรวุฒิ เชิดชัย อดีตนายกเทศบาลนคร (ทน.) นครราชสีมา ในฐานะกรรมการบริหารรถไฟฟ้า รฟท. (รฟฟท.) ซึ่งเป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงคมนาคม รับผิดชอบเกี่ยวกับกิจการของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ชี้แจงข้อมูลให้ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) องค์กรธุรกิจ กลุ่มคนไทยเชื้อสายจีน ผู้นำชุมชนและประชาชนที่สนใจ พร้อมนำเสนอพาวเวอร์พอยต์รูปแบบการก่อสร้างรถไฟทางคู่ในพื้นที่อื่นๆ ปรากฏได้รับความสนใจมีการซักถามข้อสงสัยค่อนข้างมาก จากนั้นทุกภาคส่วนมีฉันทานุมัติรถไฟทางคู่ต้องเข้าตัวเมืองและรื้อถอนสะพานสีมาธานี กรณี รฟท.อ้างทางวิ่งสั้นไม่พอที่จะยกระดับตามความสูงกำหนดกว่า 5 เมตร ควรพิจารณารื้อถอนสะพานหัวทะเลด้วย

ทั้งนี้ นายสุรวุฒิ กล่าวว่า ชาวโคราชได้พูดคุยแสดงความคิดเห็น โดยวิเคราะห์ข้อมูลเดิมประกอบกับข้อมูลใหม่ ทุกฝ่ายมีความเห็นตรงกันเพื่อประโยชน์สูงสุดต่อส่วนรวมและอนาคตลูกหลาน เส้นทางรถไฟความเร็วสูงและทางคู่ต้องยกระดับผ่านเขตเมือง รื้อสะพานสีมาธานี เพื่อสร้างอุโมงค์ทางลอดแทนจะสามารถแก้ปัญหาจราจรคับคั่งลดต้นทุนน้ำมันเชื้อเพลิง หากยกระดับตามที่ต้องการจะนำไปสู่การพัฒนาเส้นทางจราจรต่างๆรวมทั้งการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขังซ้ำซาก นอกจากนี้ยังเกิดการเปลี่ยนแปลงทด้านเศรษฐศาสตร์ของเมืองไปในทิศทางที่ดี เนื่องจากมีภูมิทัศน์สวยงาม ทั้งนี้การตอบโจทย์ไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อพัฒนาเมืองโคราชพร้อมรองรับความเจริญในอนาคต แต่ต้องอาศัยความร่วมมือช่วยกันขับเคลื่อนผลักดันสนับสนุนด้วย
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44915
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 28/02/2024 8:26 pm    Post subject: Reply with quote

รฟท.พร้อมลุยทางคู่ตั้งเป้าเฟส2 ต้องได้7เส้นทางในปี’67
Nimda Variety
Feb 28, 2024


https://www.youtube.com/watch?v=o18BuqM2tUg
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44915
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 29/02/2024 7:50 pm    Post subject: Reply with quote

“สุรพงษ์” สั่ง รฟท. ติดตั้งแผงกันแดดกันฝนเพิ่ม หลังคาคลุมชานชาลาทางคู่สั้น! | เดลินิวส์
Source - เว็บไซต์เดลินิวส์
Thursday, February 29, 2024 17:07

“สุรพงษ์” สั่ง รฟท. ติดตั้งแผงกันแดดกันฝน โครงการรถไฟทางคู่ทุกสายเพิ่มเติม หลังพบหลังคาคลุมชานชาลาสั้น ด้าน รฟท. แจงต้องสูง และห่างจากรางรถไฟ ชี้เพื่อความปลอดภัย ระบายควันรถไฟ จี้เร่งเปิดบริการทางคู่สายอีสาน ช่วงบันไดม้า-คลองขนานจิตร 29.70 กม. ปลายปีนี้ เปิดตลอดเส้น 135 กม. ปี 68 ยันไม่ทุบสะพานสีมาธานี สร้างทางรถไฟยกระดับ

เมื่อวันที่ 29 ก.พ. นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รมช.คมนาคม เปิดเผยว่า ได้ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าโครงการรถไฟทางคู่ระยะเร่งด่วน ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ ระยะทาง 135 กิโลเมตร(กม.) ณ สถานีรถไฟมวกเหล็กใหม่สูงเนิน และโคกกรวด โดยปัจจุบันภาพรวมการก่อสร้างช่วงมาบกะเบา – คลองขนานจิตร คืบหน้า 95.76% ช้ากว่าแผนงาน 4.23% เนื่องจากอยู่ระหว่างการเวนคืนพื้นที่จากประชาชน พร้อมกันนี้ยังได้ตรวจเยี่ยมสถานีรถไฟมวกเหล็กใหม่ ซึ่งอยู่ระหว่างการก่อสร้างอาคารและส่วนประกอบ เพื่อรองรับโครงการรถไฟทางคู่ในเส้นทางดังกล่าว ได้ให้ รฟท. เร่งรัดดำเนินการในด้านต่างๆ ให้แล้วเสร็จตามแผนที่กำหนด

นายสุรพงษ์ กล่าวอีกว่า ขณะนี้ช่วงบันไดม้า ถึงคลองขนานจิตร อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ระยะทาง 29.70 กม. ก่อสร้างเสร็จแล้ว อยู่ระหว่างการออกหนังสือรับรองการแล้วเสร็จของงาน จึงมอบหมายให้ รฟท. เร่งดำเนินการให้สามารถเปิดให้บริการทางคู่ช่วงดังกล่าวได้ภายในปลายปี 67 เพื่อรองรับการเดินทางของผู้โดยสารให้ได้รับความสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย ในโอกาสนี้ รฟท. ได้รายงานถึงการออกแบบหลังคาคลุมชานชาลารถไฟทางคู่ที่มีลักษณะสั้น โดยชี้แจงว่า ตามรูปแบบโครงสร้าง จำเป็นต้องมีความสูง และมีระยะห่างจากรางรถไฟเพียงพอ เพื่อที่จะให้พ้นจากเขตโครงสร้าง ซึ่งจะทำให้เกิดความปลอดภัยในการเดินรถ อีกทั้งหัวรถจักรที่ใช้งานเป็นระบบรถดีเซลไฟฟ้า มีการปล่อยควัน ดังนั้นการออกแบบหลังคาต้องคำนึงถึงเรื่องการระบายอากาศจากควันรถเป็นสำคัญ เพราะหากหลังคาคลุมชานชาลารถไฟมีลักษณะยาว อาจเป็นอุปสรรคของการทำงานกรณีหากเกิดเหตุบริเวณสถานี

อย่างไรก็ตามเพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้บริการ จึงมอบนโยบายให้ รฟท. ดำเนินการติดตั้งแผงกันแดด และฝนเพิ่มเติมในโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ในเส้นทางต่างๆ ให้แก่ผู้ใช้บริการ นอกจากนี้ผู้โดยสารสามารถรอขึ้นขบวนรถบริเวณชั้นจำหน่ายตั๋วโดยสาร หรือภายในอาคารสถานี ซึ่งได้จัดที่นั่งไว้ให้บริการ และเมื่อขบวนรถใกล้ถึงสถานี ผู้โดยสารสามารถใช้ลิฟต์ หรือบันไดมายังชานชาลา เพื่อขึ้นขบวนรถได้อีกด้วย

นายสุรพงษ์ กล่าวด้วยว่า ขณะเดียวกันได้มอบให้ รฟท. เร่งแก้ไขปัญหาชุมชนโดยรอบทางรถไฟ ในพื้นที่สัญญาที่ 1 และสัญญาที่ 3 ซึ่งมีทั้งหมด 110 แปลง โดยให้ใช้วิธีเจรจาปรองดองเกี่ยวกับพื้นที่ เพื่อใช้ก่อสร้าง และจ่ายเงินค่าทดแทนสำหรับผู้ถูกเวนคืนอย่างเหมาะสม เป็นธรรม ซึ่งความคืบหน้าขณะนี้อยู่ระหว่างการเสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.) คาดว่าจะได้รับอนุมัติดำเนินการในเดือน มี.ค.67 และสามารถจ่ายเงินค่าเวนคืนได้ในเดือน พ.ค. – ต.ค.67 ส่วนสัญญาที่ 2 ช่วงคลองขนานจิตร – ชุมทางถนนจิระ จะมีการออกพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินที่จะเวนคืนใหม่ ตามพระราชบัญญัติ 2562 โดย รฟท. ได้จัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในเขตพื้นที่โครงการ ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน พ.ศ. 2548 แล้ว ส่วนใหญ่เห็นด้วยกับโครงการดังกล่าว

นายสุรพงษ์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ได้ลงพื้นที่บริเวณจุดตัดทางรถไฟแยกสีมาธานี ซึ่ง รฟท. ได้เสนอแนวทางให้สร้างสะพานรถไฟในเขตทางเดิมระดับพื้นดิน โดยไม่ทุบสะพานสีมาธานี เนื่องจากเป็นแนวทางที่สามารถดำเนินการได้รวดเร็ว และประหยัดงบประมาณแผ่นดิน ที่สำคัญส่งผลกระทบต่อประชาชนน้อยที่สุด ทั้งนี้กระทรวงคมนาคมจะมีการพิจารณาเงื่อนไขในด้านต่างๆ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน และประเทศชาติเป็นสำคัญ ทั้งนี้มั่นใจว่าโครงการพัฒนารถไฟทางคู่สายตะวันออกเฉียงเหนือ ช่วงมาบกะเบา – ชุมทางถนนจิระ จะมีความพร้อมเปิดให้บริการภายในปี 68.
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44915
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 01/03/2024 5:09 pm    Post subject: Reply with quote

'สุรพงษ์' เร่งลงทุนรถไฟทางคู่สายอีสาน ดันเปิดบริการปี 2568
Source - กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
Friday, March 01, 2024 15:32

“สุรพงษ์” ลงพื้นที่ดันโครงการรถไฟความเร็วสูงอยุธยา และรถไฟทางคู่ ช่วงมาบกะเบา – ชุมทางถนนจิระ เข็นลงทุน 29,968 ล้านบาท จ่อเสนอ ครม.เวนคืนที่ดินภายใน มี.ค.นี้ ปักธงเปิดให้บริการปี 2568

นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมโครงการลงทุนก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงสถานีอยุธยา พร้อมติดตามความคืบหน้าโครงการรถไฟทางคู่ระยะเร่งด่วน ช่วงมาบกะเบา – ชุมทางถนนจิระ ณ สถานีรถไฟมวกเหล็กใหม่ สูงเนิน และโคกกรวด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพระบบการขนส่งทางราง และอำนวยความสะดวกในการเดินทางแก่ผู้โดยสารอย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ดี การลงพื้นที่โครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง และการติดตามความคืบหน้าโครงการรถไฟทางคู่ระยะเร่งด่วน ช่วงมาบกะเบา – ชุมทางถนนจิระครั้งนี้ ถือเป็นการดำเนินการตามนโยบาย Quick Win “คมนาคม เพื่อความอุดมสุขของประชาชน” เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพระบบการขนส่งทางราง และอำนวยความสะดวกการเดินทางแก่ผู้โดยสารให้เกิดการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยได้มอบหมายให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เร่งรัดดำเนินโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ รถไฟทางสายใหม่ และรถไฟความเร็วสูง ให้เสร็จตามแผนที่กำหนด

สำหรับภาพรวมจากการลงพื้นที่ในครั้งนี้ ได้เริ่มตรวจเยี่ยมตั้งแต่พื้นที่การก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงสถานีอยุธยา โดยรูปแบบโครงสร้างอาคารได้ยึดการดำเนินการตามผลการศึกษา การออกแบบรายละเอียด และมติคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด ซึ่งเป็นการสร้างทางรถไฟบนแนวเส้นทางเดิม ไม่ได้ทำการเวนคืนที่ดินเพิ่มเติมแต่อย่างใด เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อประชาชน ชุมชน ตลอดจนโบราณสถานในพื้นที่ใกล้เคียง

อีกทั้งรูปแบบการก่อสร้างได้ยึดหลักอารยสถาปัตย์ ให้มีสิ่งอำนวยความสะดวก และคำนึงถึงประโยชน์ในการให้บริการแก่พี่น้องประชาชนเป็นสำคัญ ซึ่งปัจจุบันภาพรวมการก่อสร้างโครงการมีคืบหน้าไปแล้วกว่า 31% ซึ่งการรถไฟฯ ได้เร่งรัดติดตามการก่อสร้าง รวมถึงแก้ไขปัญหาต่างๆ เพื่อให้สามารถเปิดให้บริการได้ตามแผนงานที่วางไว้

ขณะที่ความคืบหน้าโครงการรถไฟทางคู่ระยะเร่งด่วน ช่วงมาบกะเบา – ชุมทางถนนจิระ ระยะทาง 135 กิโลเมตร จำนวน 20 สถานี ซึ่งเริ่มต้นก่อสร้างที่สถานีมาบกะเบา อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี ผ่านพื้นที่ อำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี อำเภอปากช่อง อำเภอสีคิ้ว อำเภอสูงเนิน และมาสิ้นสุดโครงการที่สถานีชุมทางถนนจิระ อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา วงเงินลงทุนประมาณ 29,968 ล้านบาท

โดยปัจจุบันภาพรวมการก่อสร้างช่วงมาบกะเบา – คลองขนานจิตร ด้านงานโยธาคืบหน้าไปแล้ว 95.768% ช้ากว่าแผนงานที่กำหนดไว้ 4.232% เนื่องจากอยู่ระหว่างการเวนคืนพื้นที่จากประชาชน พร้อมกันนี้ยังได้ตรวจเยี่ยมสถานีรถไฟมวกเหล็กใหม่ ซึ่งอยู่ระหว่างการก่อสร้างอาคารและส่วนประกอบเพื่อรองรับโครงการรถไฟทางคู่ในเส้นทางดังกล่าว คาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ในปี 2568 ซึ่งมอบหมายให้การรถไฟฯ เร่งรัดดำเนินการในด้านต่างๆ ให้แล้วเสร็จตามแผนที่กำหนด

ขณะที่แนวทางการเปิดให้บริการรถไฟทางคู่ ช่วงบันไดม้าถึงคลองขนานจิตร อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ระยะทาง 29.70 กิโลเมตร โดยปัจจุบันภาพรวมการก่อสร้างงานโยธาแล้วเสร็จ อยู่ระหว่างการออกหนังสือรับรองการแล้วเสร็จของงาน จึงรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมจึงมอบหมายให้การรถไฟฯ เร่งดำเนินการให้สามารถเปิดให้บริการทางคู่ช่วงดังกล่าวได้ภายในปลายปี 2567 เพื่อรองรับการเดินทางของผู้โดยสารให้ได้รับความสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย

ในโอกาสนี้ การรถไฟฯ ได้รายงานชี้แจงการออกแบบหลังคาคลุมชานชาลารถไฟทางคู่ที่มีลักษณะสั้น ซึ่งตามรูปแบบโครงสร้างสะพาน จำเป็นจะต้องมีความสูงและมีระยะห่างจากรางรถไฟเพียงพอ เพื่อที่จะให้พ้นจากเขตโครงสร้างซึ่งจะทำให้เกิดความปลอดภัยในการเดินรถ อีกทั้ง หัวรถจักรที่ใช้งานเป็นระบบรถดีเซลไฟฟ้า มีการปล่อยควัน ดังนั้น การออกแบบหลังคาต้องคำนึงถึงเรื่องการระบายอากาศจากควันรถเป็นสำคัญเพราะหากหลังคาคลุมชานชาลารถไฟมีลักษณะยาว อาจเป็นอุปสรรคของการทำงานกรณีหากเกิดเหตุบริเวณสถานีได้

อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้บริการ จึงมอบนโยบายให้การรถไฟฯ ดำเนินการติดตั้งแผงกันแดดและฝนเพิ่มเติมในโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ในเส้นทางต่างๆ ให้แก่ผู้ใช้บริการ นอกจากนี้ ผู้โดยสารยังสามารถรอขึ้นขบวนรถบริเวณชั้นจำหน่ายตั๋วโดยสาร หรือภายในอาคารสถานี ซึ่งได้จัดที่นั่งไว้ให้บริการ และเมื่อขบวนรถใกล้ถึงสถานี ผู้โดยสารสามารถใช้ลิฟต์ หรือบันไดมายังชานชาลาเพื่อขึ้นขบวนรถได้อีกด้วย

นายสุรพงษ์ ยังมอบนโยบายให้การรถไฟฯ เร่งรัดแก้ไขปัญหาชุมชนโดยรอบทางรถไฟ ในพื้นที่สัญญาที่ 1 และสัญญาที่ 3 ซึ่งมีจำนวนทั้งหมด 110 แปลง โดยให้ใช้วิธีเจรจาปรองดองเกี่ยวกับพื้นที่เพื่อใช้ก่อสร้าง และจ่ายเงินค่าทดแทนสำหรับผู้ถูกเวนคืนอย่างเหมาะสม เป็นธรรม ซึ่งความคืบหน้าขณะนี้อยู่ระหว่างการเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) คาดว่าจะได้รับอนุมัติดำเนินการในเดือน มี.ค. 2567 และสามารถจ่ายเงินค่าเวนคืนได้ในเดือน พ.ค. – ต.ค.2567

ส่วนสัญญาที่ 2 ช่วงคลองขนานจิตร – ชุมทางถนนจิระ จะมีการออกพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินที่จะเวนคืนใหม่ ตามพระราชบัญญัติ 2562 โดยการรถไฟฯ ได้ดำเนินการจัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในเขตพื้นที่โครงการ ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน พ.ศ. 2548 แล้ว โดยส่วนใหญ่เห็นด้วยกับโครงการดังกล่าว

“มีความมั่นใจว่าโครงการพัฒนารถไฟทางคู่สายตะวันออกเฉียงเหนือช่วงมาบกะเบา – ชุมทางถนนจิระ จะมีความพร้อมเปิดให้บริการภายในปี 2568 ตามเป้าหมายที่วางไว้” นายสุรพงษ์ กล่าวทิ้งท้าย
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44915
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 02/03/2024 7:09 am    Post subject: Reply with quote

(คลิป)ถกเดือด! ปมทุบ-ไม่ทุบสะพานสีมาธานี โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ช่วงเข้าเมืองโคราช ยังไร้ข้อยุติ
Source - ผู้จัดการออนไลน์
Friday, March 01, 2024 22:19

ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- ถกเดือดปมทุบ-ไม่ทุบสะพานสีมาธานี โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ช่วงเข้าเมืองโคราช สุดท้ายยังไร้ข้อยุติ ประชุมลงความเห็นให้นำไปพิจารณาหาแนวทางการแก้ไขปัญหา ขณะที่ผู้ว่าการรถไฟฯ ตัดพ้ออย่ามองการรถไฟฯเป็นคู่ขัดแย้งประชาชน

วันนี้ (1 มี.ค. ) ที่ห้องประชุมหลวงพ่อคูณปริสุทโธ ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมขนส่งทางบก พร้อมด้วย นายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง และนายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย ลงพื้นที่ชี้แจงความคืบหน้าโครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงและโครงการรถไฟทางคู่ สายมาบกระเบา-จิระ พร้อมกับเปิดรับฟังความคิดเห็นของตัวแทนประชาชนในจังหวัดนครราชสีมาในโครงการก่อสร้างทางรถไฟทางคู่

โดยมีตัวแทนภาคประชาชน เอกชน หน่วยงานราชการในจังหวัดนครราชสีมา และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรโดยเฉพาะฝั่งของพรรคเพื่อไทยที่เป็น ส.ส.ในจังหวัดนครราชสีมา เข้าร่วมรับฟัง ซึ่งทางผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทยได้มีการชี้แจงความคืบหน้าในโครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงในช่วง ต.โคกกรวด - ต.บ้านใหม่ อ.เมือง จ.นครราชสีมา ซึ่งตามแบบเดิมนั้นจะเป็นการยกระดับโดยใช้คันดินแต่ได้มีการกลุ่มชาวบ้านในพื้นที่ได้ออกมาเรียกร้องให้เปลี่ยนแบบเนื่องจากแบบคันดินนั้นจะเป็นการแบ่งเมืองออกเป็น 2 ฝั่ง ทำให้การเดินทางสัญจรนั้นค่อนข้างลำบาก และปัญหาที่สำคัญก็คือจะเกิดปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่ เพราะตั้งแต่ตำบลโคกกรวดตลอดจนถึงตำบลบ้านใหม่นั้นเกิดปัญหาน้ำท่วมอยู่เป็นประจำทุกปีโดยเฉพาะในพื้นที่ตำบลบ้านใหม่ ซึ่งหลังจากมีการประท้วงคัดค้านทางการรถไฟได้มีการประชุมหารือในการเปลี่ยนจากคันดินเป็นตอม่อแล้วโดยเพิ่มงบประมาณไปอีกกว่า 7 พันล้านบาท เพื่อสร้างเป็นตอม่อ

จากนั้นในที่ประชุมได้มีการเปิดรับฟังความคิดเห็นจากตัวแทนประชาชนชาวโคราชถึงปัญหาในโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ในช่วงเข้าสู่อำเภอเมืองนครราชสีมาโดยเฉพาะบริเวณสะพานข้ามทางรถไฟสีมาธานี ซึ่งเป็นปัญหายาวนานมากว่า 9 ปีแล้ว โดยรูปแบบปัจจุบันที่มีการนำเสนอจากการรถไฟแห่งประเทศไทยนั้นจะเป็นรูปแบบของการยกระดับรถไฟทางคู่แต่ไม่มีการทุบสะพานข้ามทางรถไฟสีมาธานี แต่ทางกลุ่มตัวแทนประชาชนได้มีความต้องการที่จะให้ทางการรถไฟนั้นทุบสะพานข้ามทางรถไฟสีมาธานีทิ้ง เพื่อความสะดวกในการเดินทางของประชาชนในพื้นที่

บรรยากาศในที่ประชุมนั้นค่อนข้างที่จะมีความตึงเครียดหลังจากที่ตัวแทนภาคประชาชนได้มีการพูดจี้แจงถึงความต้องการของชาวโคราชในการที่จะให้ทางการรถไฟฯนั้นทุบสะพานแห่งนี้ทิ้ง พร้อมกับพูดในทำนองโยนความผิดให้การรถไฟแห่งประเทศไทย และมองว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย เป็นคู่ขัดแย้ง กับประชาชนชาวโคราช

จนทำให้ผู้ว่าการรถไฟต้องออกมาตัดพ้อในทำนองว่า “อยากให้เข้าใจและเห็นใจเจ้าหน้าที่ของการรถไฟเพราะที่ผ่านมาก็ทำงานเต็มที่มาตลอด ไม่อยากให้ประชาชนเข้าใจผิดว่าเป็นความผิดของการรถไฟฯ เพราะบางอย่างนั้นไม่สามารถทำตามใจประชาชนได้ 100% ด้วยระเบียบของทางราชการ และไม่อยากให้ประชาชนชาวโคราชมองการรถไฟฯเป็นคู่ขัดแย้งในเรื่องนี้”


หลังจากมีการพูดจาโต้ตอบเพื่อชี้แจงรายละเอียดระหว่างตัวแทนภาคประชาชนการผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย ทางที่ประชุมก็มีการลงความเห็นว่าจะนำเรื่องนี้ไปพิจารณาถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ โดยเฉพาะบริเวณสะพานข้ามทางรถไฟสีมาธานีว่าจะทุบหรือไม่ทุบอย่างไร

ภายหลังการประชุม นายชัยวัฒน์ วงศ์เบญจรัตน์ คณะกรรมการที่ปรึกษาหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา ในฐานะตัวแทนภาคเอกชนได้ออกมาเปิดเผยว่า ในฐานะที่เป็นตัวแทนภาคเอกชนที่ได้มีการส่วนร่วมในการประชุมโครงการรถไฟความเร็วสูงและรถไฟทางคู่มาโดยตลอดนั้น ในมุมมองส่วนตัวตนมีความคิดเห็นว่าควรจะทุบสะพานข้ามทางรถไฟสีมาธานีทิ้ง เพราะว่าประชาชนจะได้ประโยชน์จากการเดินทางที่สะดวกยิ่งขึ้น เพราะในรูปแบบเดิมตั้งแต่มีการคุยกันตั้งแต่ช่วงปี 2562 นั้น จะเป็นการทุบสะพานทิ้งและมีการสร้างอุโมงค์ทางลอดทางรถไฟ ซึ่งถ้าสร้างตามแบบที่คุยกันไว้นั้นชาวโคราชจะได้ประโยชน์ในการเดินทางสะดวกยิ่งขึ้นเพราะไม่จำเป็นต้องไปขึ้นสะพานเกือกม้ากลับรถถ้าหากไม่ทุบสะพานทิ้งก็จำเป็นต้องมีสะพานกลับรถ อีกทั้งยังเป็นการสอดรับกับโครงการสร้างอุโมงค์ทางลอดอีก 2 โครงการที่กำลังก่อสร้างอยู่ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งประชาชนชาวโคราชมีแต่ได้ประโยชน์ถ้าทางการรถไฟฯนั้นสามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบโครงการ
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44915
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 03/03/2024 8:39 am    Post subject: Reply with quote

สั่งแก้หลังคาชานฯสั้นจุ๊ด
Source - เดลินิวส์
Sunday, March 03, 2024 07:15

นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รมช.คมนาคม เปิดเผยว่า เพื่ออำนวยความสะดวก ผู้ใช้บริการ จึงมอบนโยบายให้ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ติดตั้งแผงกันแดดและฝนเพิ่มเติมในโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ในเส้นทางต่าง ๆ ให้ผู้ใช้บริการ ทั้งนี้ รฟท. ชี้แจงถึงการออกแบบหลังคาคลุมชานชาลารถไฟทางคู่ที่สั้นว่า ตามรูปแบบโครงสร้าง จำเป็นต้องมีความสูง และมีระยะห่างจากรางรถไฟเพียงพอ เพื่อให้พ้นจากเขตโครงสร้างจะทำให้เกิดความปลอดภัยในการเดินรถ อีกทั้งหัวรถจักรที่ใช้งานเป็นระบบรถดีเซลไฟฟ้า มีการปล่อยควัน การออกแบบหลังคาต้องคำนึงถึงเรื่องการระบายอากาศจากควันรถเป็นสำคัญ เพราะหากหลังคาคลุมชานชาลารถไฟยาว อาจเป็นอุปสรรคของการทำงานกรณีเกิดเหตุบริเวณสถานีได้

ทีมข่าวนวัตกรรมขนส่งเดลินิวส์ รายงานว่า ประชาชนและผู้โดยสารจำนวนมากวิพากษ์วิจารณ์ถึงปัญหาหลังคาชานชาลารถไฟทางคู่สั้นจุ๊ดไม่กันแดดกันฝนมานาน แต่รฟท.ละเลยเพิกเฉยไม่ยอมแก้ไข ล่าสุดมีประชาชนไปฟ้องศาลปกครองขอความเป็นธรรมแล้ว โดยขอให้ศาลฯสั่งการให้รฟท.แก้ไขทั่วประเทศเพื่ออำนวยความสะดวกประชาชน.

ที่มา: นสพ.เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 4 มี.ค. 2567 (กรอบบ่าย)
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44915
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 03/03/2024 8:40 am    Post subject: Reply with quote

หอการค้าวอนรัฐลงทุนโลจิสติกส์'สงขลา-สตูล'
Source - ข่าวสด
Sunday, March 03, 2024 07:32

นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่าได้นำคณะผู้บริหารลงพื้นที่เยี่ยมเยือนหอการค้าจังหวัดสงขลา และสตูล ระหว่างวันที่ 29 ก.พ.-1 มี.ค.2567 และประชุมร่วมกันเกี่ยวกับประเด็นการพัฒนาเส้นทางการคมนาคมเพื่อยกระดับเศรษฐกิจและการ ท่องเที่ยวภาคใต้ โดยภาคเอกชนสงขลานำเสนอโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวทางน้ำและพัฒนาเมืองท่าเรือสำราญ ในลักษณะท่าเรือแวะพักบริเวณแหลมสนอ่อนที่จะช่วยดึงดูดการท่องเที่ยวทางทะเลให้กับจ.สงขลา โดยที่ผ่านมาได้เสนอโครงการผ่าน กรอ.สงขลา ไปยังกรมเจ้าท่า ปี 2568-2570 ควรเร่งรัดให้เกิดขึ้นโดยเร็วที่สุด คาดว่าจะช่วยสร้างรายได้จากนักท่องเที่ยวทางน้ำกว่า 1,600 ล้านบาทต่อปี

เร่งแผนโครงการรถไฟทางคู่หาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ ระยะทาง 45 กิโลเมตร ที่จะพัฒนาไปตามแนวเส้นทางรถไฟเดิม 4 สถานี ได้แก่ 1.สถานีชุมทางหาดใหญ่ 2.สถานีศาลาทุ่งลุง 3.สถานีคลองแงะ 4.สถานีปาดังเบซาร์ เพื่อพัฒนาโครงข่ายคมนาคมไปยังประเทศมาเลเซียรองรับความต้องการขนส่งสินค้าระหว่างกันที่มีเพิ่มสูงอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะสินค้าประเภทยางพารา

นอกจากนี้ ยังเสนอให้รัฐบาลยกเลิกประกาศพื้นที่ความมั่นคง 4 อำเภอ จ.สงขลา ได้แก่ อำเภอเทพา จะนะ นาทวี และสะบ้าย้อย สร้างภาพลักษณ์เมืองปลอดภัย ส่งเสริมบรรยากาศการฟื้นตัวของเมืองท่องเที่ยว

ส่วนเอกชนจังหวัดสตูลเสนอให้รัฐบาลเจรจากับมาเลเซียเพื่อหาแนวทางการจัดทำโครงการสะพานสตูล-เปอร์ลิส (Andaman Gateway) ซึ่งจะทำให้เกิดการเพิ่มมูลค่าทางการค้าและการท่องเที่ยวในพื้นที่มากขึ้น เนื่องจากสตูลสามารถยกระดับเป็นเมืองท่องเที่ยวคุณภาพสูงได้จากความสมบูรณ์ของธรรมชาติทางทะเล มีการ ท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ มีบ่อน้ำพุร้อนและอาหารฮาลาลพื้นถิ่น

ที่มา: นสพ.ข่าวสด ฉบับวันที่ 4 มี.ค. 2567 (กรอบบ่าย)
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 386, 387, 388 ... 391, 392, 393  Next
Page 387 of 393

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©