รวมข่าวโครงการรถไฟทางคู่

[Thai_thief]

จะเอาแบบมาเลย์ ก็อย่าืลืมทำรั้วด้วยนะครับ ความเร็ว 160 เจอน้องวัวเข้าไป คงดูไม่จืด

[Mongwin]

รถไฟโหมโรงรางคู่จิระ-ขอนแก่น
วันอังคารที่ 08 พฤษภาคม 2012 เวลา 14:22 น. กอง บก.ฐานเศรษฐกิจ

ร.ฟ.ท.เดินเครื่องประมูลโครงการรถไฟทางคู่เส้นทางจิระ-ขอนแก่น งบลงทุน 25,000 ล้านบาท "สร้อยทิพย์" เผยหาก EIA ผ่านความเห็นชอบคาดคมนาคมชงครม.อนุมัติภายใน 1-2 เดือนนี้ เตรียมนำคณะผู้บริหาร กลุ่มบริษัทที่ปรึกษาและสื่อมวลชนไปรับฟังความเห็นผู้ประกอบการผลิตสินค้ารายใหญ่และผู้ใช้บริการโลจิสติกส์ทางรางที่โคราช

นางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร(สนข.) เปิดเผย "ฐานเศรษฐกิจ"ถึงความคืบหน้าโครงการรถไฟทางคู่เส้นทางจิระ-ขอนแก่นว่าขณะนี้การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เตรียมเปิดขายซองประกวดราคาหลังจากที่รอมานานกว่า 1 ปี พร้อมทั้งมอบเรื่องให้ ร.ฟ.ท. เป็นเจ้าภาพนำเสนอกระทรวงคมนาคมต่อไป หากโครงการ ผ่านการเห็นชอบผลกระทบสิ่งแวดล้อมหรือ EIA คาดว่าน่าจะนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรีได้ภายใน 1-2 เดือนนี้ เพื่อขออนุมัติให้ดำเนินโครงการต่อไป

"โครงการนี้เปิดรับฟังความคิดเห็นของประชาชนครบ 3 ครั้งแล้วโดยผลสรุปในเบื้องต้นเห็นว่ามีความเหมาะสมในการลงทุนเนื่องจากมีผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ(EIRR) สูงถึง 19.94% เมื่อเปิดให้บริการจะช่วยให้การคมนาคมขนส่งทั้งสินค้าและผู้โดยสารมีความสะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย รวมทั้งช่วยส่งเสริมคุณภาพชีวิตของประชาชนในระยะยาว ช่วยสร้างโอกาสใหม่ทางเศรษฐกิจเพื่อให้สามารถแข่งขันกับประเทศต่าง ๆ บนเวทีการค้าอาเซียนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น"

โดยโครงการรถไฟทางคู่เส้นทางจิระ-ขอนแก่น แนวเส้นทางเริ่มต้นจากสถานีชุมทางถนนจิระครอบคลุมพื้นที่ 10 อำเภอ ของ 2 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดนครราชสีมาและขอนแก่น รวม 19 สถานีระยะทาง 187 กิโลเมตร นอกจากนี้ยังจัดสร้างย่านกองเก็บสินค้าอีกจำนวน 3 สถานี ที่หยุดรถ 7 แห่ง ซึ่งออกแบบกำหนดให้ก่อสร้างรางเพิ่มขนานกับแนวเส้นทางเดิม ส่วนปัญหาจุดตัดทางรถไฟในเส้นทางมีด้วยกัน 4 รูปแบบ คือ
1.ถนนยกระดับข้ามทางรถไฟ
2.ถนนยกระดับกลับรถรูปตัวยู
3.ท่อเหลี่ยมลอดใต้ทางรถไฟ และ
4.การยกระดับรถไฟเฉพาะสถานีขอนแก่น

ผอ.สนข.กล่าวอีกว่าโดยวันที่ 11-12 พฤษภาคมนี้ สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร(สนข.) ร่วมกับกลุ่มบริษัทที่ปรึกษาโครงการได้จัดกิจกรรมติดตามความคืบหน้าในโครงการ "เยือนแดนย่าโม ตามรอยรถไฟทางคู่ จิระ-ขอนแก่น เชื่อมโยงโลจิสติกส์ เปิดประตูเศรษฐกิจภาคอีสาน" ตามโครงการศึกษาความเหมาะสมและออกแบบ ระบบรถไฟทางคู่ เพื่อการขนส่งและการจัดการโลจิสติกส์ (ระยะเร่งด่วน ช่วงชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น)

ในโอกาสนี้ยังจะได้เข้าพบนายทศพล ตันติวงศ์ ในฐานะผู้ประกอบการธุรกิจผลิตแป้งมันรายใหญ่ที่สุดของประเทศไทย ที่ผลิตแป้งมันเข้าสู่ตลาดในประเทศและส่งออกต่างประเทศ ทั้งเอเชียและยุโรป โดยบริษัท สงวนวงษ์อุตสาหกรรม จำกัด เพื่อเข้าเยี่ยมชมกระบวนการผลิตและการขนส่งแป้งมัน พร้อมร่วมฟังการบรรยาย ในประเด็น การพัฒนาระบบการขนส่งให้เหมาะสม เพื่อรองรับรถไฟทางคู่ มุ่งสู่การเพิ่มศักยภาพโลจิสติกส์ประเทศไทย รวมทั้งโครงข่าย CY และการขนส่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตภายหลังการพัฒนาระบบรถไฟทางคู่

นอกจากนั้นยังเข้าพบนายโชคชัย คัมภิรานนท์ จาก บริษัท เอ็นดีซี โลจิสติกส์ จำกัด ผู้ประกอบธุรกิจให้บริการเกี่ยวกับการขนส่งสินค้าทางรถไฟในพื้นที่นครราชสีมาอีกด้วย ทั้งนี้สนข.ยังเตรียมพัฒนาย่านกองเก็บและขนถ่ายสินค้า (Container Yard : CY) สถานีชุมทางถนนจิระ ซึ่งเป็นจุดเชื่อมต่อการขนส่งทางถนนกับทางรถไฟที่รองรับการขนส่งสินค้าสำคัญ (แป้งมันสำปะหลัง,ข้าว) ในโซนตะวันออกของจังหวัดนครราชสีมา รองรับการเติบโตทางเศรษฐกิจไว้อีกด้วย

ทั้งนี้โครงการเส้นทางรถไฟทางคู่ช่วงชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่นมีจำนวน 26 สถานี จุดเริ่มต้นโครงการอยู่ที่สถานีชุมทางถนนจิระ จังหวัดนครราชสีมา และจุดสิ้นสุดอยู่ที่สถานีขอนแก่น มีสถานีกองเก็บสินค้า(CY)จำนวน 3 แห่งคือที่นครราชสีมา บัวใหญ่และสถานีท่าพระ ขอนแก่น ใช้งบประมาณการลงทุน 25,353 ล้านบาท แบ่งเป็นค่าใช้จ่ายทั่วไปและสิ่งอำนวยความสะดวกภาคสนาม 497 ล้านบาท ค่าโครงสร้างทางวิ่งทางรถไฟ 9,135 ล้านบาท ค่างานสถานี 3,873 ล้านบาท ค่างานระบบอาณัติสัญญาณและโทรคมนาคม 5,571 ล้านบาท ค่างานย่านกองเก็บและขนถ่ายตู้สินค้า(CY) 654 ล้านบาท ค่ารื้อย้ายสิ่งปลูกสร้าง 5 ล้านบาท ค่าก่อสร้างงานแก้ไขปัญหาจุดตัดทางรถไฟ 5,413 ล้านบาท ค่าเวนคืนเพื่อแก้ไขปัญหาจุดตัดทางรถไฟ 201 ล้านบาท

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจฉบับที่ 2,738 10-12 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

[Mongwin]

เอกชนหนุนรัฐสร้างรถไฟทางคู่ 'จิระ-ขอนแก่น'
ไทยรัฐออนไลน์ 12 พฤษภาคม 2555, 17:48 น.

เอกชนหนุนรัฐเร่งสร้างรถไฟทางคู่จิระ-ขอนแก่น ระบุ รฟท.ต้องเร่งเพิ่มหัวรถจักรเพื่อให้การขนส่งราบรื่น ย้ำขนส่งทางรางต้นทุนต่ำกว่าทางรถบรรทุก

เมื่อวันที่ 12 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร หรือ สนข. ได้นำคณะสื่อมวลชนลงพื้นที่ สำรวจโครงการรถไฟทางคู่จิระ-ขอนแก่น ซึ่งอยู่ระหว่างเตรียมการประกวดราคาก่อสร้าง โดยกระทรวงคมนาคมเตรียมเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาเดินหน้าโครงการผ่านการ พิจารณาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (EIA). รวมทั้ง สนข.ยังได้พาเยี่ยมชมย่านกองเก็บและขนถ่ายสินค้า (Container Yard : CY) ที่สถานีรถไฟจิระ และพบปะกับภาคเอกชนในพื้นที่ ซึ่งมีการใช้ประโยชน์ระบบขนส่งทางรางในขณะนี้

นางธิดารัตน์ รอดอนันต์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สงวนวงศ์ อุตสาหกรรม จำกัด กล่าวว่า บริษัทซึ่งเป็นผู้ผลิตแป้งมันสำปะหลังเพื่อการส่งออกและจำหน่ายในประเทศ และในการขนส่งสินค้าเพื่อส่งมอบให้ลูกค้านั้น ส่วนหนึ่งมีการใช้ระบบขนส่งทางราง เพื่อนำสินค้าไปที่ลาดกระบังก่อนนำส่งทางรถบรรทุกไปที่ท่าเรือกรุงเทพ โดยยอมรับว่าการขนส่งด้วยระบบราง มีต้นทุนที่ถูกว่าการขนส่งทางรถยนต์ ประมาณ 14 สตางค์ต่อกิโลกรัม แต่ในปีที่ผ่านมา การขนส่งสินค้าทางรางต้องประสบปัญหาลดลงจากที่เคยมีสัดส่วนการขนส่งทางรางเมื่อเทียบกับการขนส่งระบบอื่นที่ 25 % ลดลงเหลือ 17% มาจากผลกระทบ น้ำท่วม และส่วนหนึ่งมากจากปัญหารถไฟขาดแคลนหัวรถจักร และในอนาคต หากการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) มีการจัดซื้อหัวรถจักรได้ตามแผน รวมทั้งมีการก่อสร้างรถไฟทางคู่จิระ-ขอนแก่นแล้วเสร็จ บริษัทฯก็พร้อมที่จะใช้ระบบขนส่งทางรางที่มีต้นทุนต่ำกว่าเพิ่มขึ้น ซึ่งในอนาคตเชื่อว่าจะมีสัดส่วนมากกว่า 30% เมื่อเทียบกับระบบขนส่งประเภทอื่น

ด้าน นายโชคชัย คัมภิรานนท์ ผู้บริหาร บริษัทเอ็นดีซีโลจิสติกส์ จำกัด ซึ่งเป็น บริษัทที่รับส่งสินค้าทางราง กล่าวว่า เมื่อการก่อสร้างรถไฟทางคู่จิระ-ขอนแก่นแล้วเสร็จก่อน จะทำให้การขนส่งสินค้าทางรางเกิดความคล่องตัวมากขึ้น และที่สำคัญคือการจัดซื้อหัวรถจักรของแท้ที่ขาดแคลน เนื่องจาก รฟท.ไม่ได้งบประมาณจากรัฐในการจัดซื้อหัวรถจักรตั้งแต่ปี 2538 โดยขณะนี้ทราบว่ารฟท. อยู่ระหว่างการจัดซื้อหัวรถจักรใหม่อีก 20 หัว ซึ่งจะรับมอบในปลายปี 2556 ซึ่งก็จะช่วยลดเวลาในการขนส่งผ่านระบบราง จากเดิมต้องใช้ระยะเวลาในการดำเนินการเตรียมการและขนส่งอย่างน้อย 7 วัน ลงเหลือ 3-4 วัน เท่ากับระบบขนส่งทางรถบรรทุก แต่การขนส่งทางรางจะมีต้นทุนต่ำกว่า ส่งผลดีต่อโลจิสติกส์ของประเทศโดยตรง

ขณะที่ นางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เปิดเผยว่า ความคืบหน้าโครงการรถไฟทางคู่เส้นทางจิระ-ขอนแก่น ซึ่งเป็น 1 ในโครงการพัฒนาระบบรางที่รัฐบาลเคยอนุมัติงบประมาณ รวมวงเงินกว่า 170,000 ล้านบาท ขณะนี้การรถไฟแห่งประเทศไทย ได้ดำเนินการออกแบบรายละเอียด ควบคู่ไปกับการศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม หรือ EIA ซึ่งเมื่อผ่านการพิจารณาแล้ว สนข. จะมีการส่งแผนรายละเอียดกลับไปให้ รฟท.จัดทำแผนก่อสร้างและกำหนดวงเงินงบประมาณ ก่อนที่จะนำเสนอให้กระทรวงคมนาคม นำเข้าขออนุมัติจากคณะรัฐมนตรีต่อไป โดยกระบวนการประกวดราคาน่าจะดำเนินการแล้วเสร็จจนถึงเริ่มก่อสร้างได้ใน ปี 2557 และใช้ระยะเวลาก่อสร้าง 2-3 ปี

สำหรับโครงการจัดหาหัวรถจักรใหม่ จำนวน 20 หัว วงเงินรวม 3,300 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนขายซองประกวดราคา คาดว่าจะได้ตัวเอกชนที่จัดหารถในเดือนกันยายนปีนี้ หลังจากนั้นจะใช้ระยะเวลา 15 เดือนในการรับมอบหัวรถจักรคันแรก และจะรับมอบหัวรถจักรอีกเดือนละ 5-6 หัว ไปจนครบจำนวน ก่อนที่จะมีการจัดหาหัวรถจักรอีก 50 หัว ตามแผนของ รฟท.ต่อไป ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โครงการรถไฟทางคู่เส้นทางจิระ-ขอนแก่น แนวเส้นทางเริ่มต้นจากสถานีชุมทางถนนจิระ ครอบคลุมพื้นที่ 10 อำเภอ ของ 2 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดนครราชสีมาและขอนแก่น รวม 19 สถานีระยะทาง 187 กิโลเมตร

นอกจากนี้ยังจัดสร้างย่านกองเก็บสินค้าอีกจำนวน 3 สถานี ที่หยุดรถ 7 แห่ง ซึ่งออกแบบกำหนดให้ก่อสร้างรางเพิ่มขนานกับแนวเส้นทางเดิม ส่วนปัญหาจุดตัดทางรถไฟในเส้นทางมีด้วยกัน 4 รูปแบบ คือ
1.ถนนยกระดับข้ามทางรถไฟ
2.ถนนยกระดับกลับรถรูปตัวยู
3.ท่อเหลี่ยมลอดใต้ทางรถไฟ และ
4.การยกระดับรถไฟเฉพาะสถานีขอนแก่น

ทั้งนี้โครงการเส้นทางรถไฟทางคู่ช่วงชุม ทางถนนจิระ-ขอนแก่น มีจำนวน 26 สถานี จุดเริ่มต้นโครงการอยู่ที่สถานีชุมทางถนนจิระ จังหวัดนครราชสีมาและจุดสิ้นสุดอยู่ที่สถานีขอนแก่น มีสถานีกองเก็บสินค้า (CY) จำนวน 3 แห่งคือที่นครราชสีมา บัวใหญ่ และสถานีท่าพระขอนแก่น ใช้งบประมาณการลงทุน 25,353 ล้านบาท แบ่งเป็นค่าใช้จ่ายทั่วไปและสิ่งอำนวยความสะดวกภาคสนาม 497 ล้านบาท ค่าโครงสร้างทางวิ่งทางรถไฟ 9,135 ล้านบาท ค่างานสถานี 3,873 ล้านบาท ค่างานระบบอาณัติสัญญาณและโทรคมนาคม 5,571 ล้านบาท ค่างานย่านกองเก็บและขนถ่ายตู้สินค้า (CY) 654 ล้านบาท ค่ารื้อย้ายสิ่งปลูกสร้าง 5 ล้านบาท ค่าก่อสร้างงานแก้ไขปัญหาจุดตัดทางรถไฟ 5,413 ล้านบาท ค่าเวนคืนเพื่อแก้ไขปัญหาจุดตัดทางรถไฟ 201 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม โครงการดังกล่าวได้เปิดรับฟังความคิดเห็นของประชาชนครบ 3 ครั้งแล้วโดยผลสรุปในเบื้องต้นเห็นว่ามีความเหมาะสมในการลงทุนเนื่องจากมีผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ (EIRR) สูงถึง 19.94%เมื่อเปิดให้บริการจะช่วยให้การคมนาคมขนส่งทั้งสินค้า และผู้โดยสารมีความสะดวกรวดเร็ว ปลอดภัย รวมทั้งช่วยส่งเสริมคุณภาพชีวิตของประชาชนในระยะยาวช่วยสร้างโอกาสใหม่ทางเศรษฐกิจเพื่อให้สามารถแข่งขันกับประเทศต่างๆ

[Mongwin]

กระทรวงคมนาคม เดินหน้าก่อสร้างรถไฟทางคู่ช่วงชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น
สำนักข่าวแห่งชาติ กรมประชาสัมพันธ์ 13 พ.ค.55

กระทรวงคมนาคม เดินหน้าก่อสร้างรถไฟทางคู่ช่วงชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น เพื่อพัฒนาระบบโลจิสติกให้มีความสะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย คาดเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้ภายในเดือนตุลาคมนี้

นางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร หรือ สนข. เปิดเผยความคืบหน้าโครงการรถไฟทางคู่ ช่วงชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น ซึ่งเป็นหนึ่งใน 6 เส้นทางพัฒนารถไฟทางคู่ระยะเร่งด่วน พ.ศ.2553-2558 ว่า ขณะนี้ สนข. ได้ออกแบบศึกษารายละเอียด รวมทั้งเปิดรับฟังความคิดเห็นประชาชนเรียบร้อยแล้ว เหลือเพียงโครงการผ่านการเห็นชอบผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม หรือ EIA หากขั้นตอนดังกล่าวผ่านแล้ว จะสู่กระบวนการจัดจ้างผู้รับเหมาก่อสร้าง ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของการรถไฟแห่งประเทศไทย หรือ ร.ฟ.ท.จะเป็นผู้นำเสนอกระทรวงคมนาคม คาดว่าภายในเดือนตุลาคมนี้ จะนำเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติโครงการได้ จากนั้นจะเข้าสู่กระบวนการเปิดซองประกวดราคา หากเป็นไปตามแผนโครงการจะบรรจุเข้าปีงบประมาณปี 2557 และโครงการดังกล่าวจะเริ่มก่อสร้างได้ภายในปี 2559

อย่างไรก็ตาม หากโครงการดังกล่าวก่อสร้างแล้วเสร็จ จะมีความเหมาะสมทั้งด้านเศรษฐกิจการลงทุน เนื่องจากมีผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ (EIRR)สูงถึงร้อยละ 19.94 เมื่อเปิดให้บริการจะช่วยให้การคมนาคมขนส่งทั้งสินค้าและผู้โดยสารมีความสะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย รวมทั้งช่วยส่งเสริมคุณภาพชีวิตของประชาชนในระยะยาว สำหรับรูปแบบโครงการรถไฟทางคู่เส้นทางจิระ-ขอนแก่น แนวเส้นทางเริ่มต้นจากสถานีชุมทางถนนจิระ ครอบคลุมพื้นที่ 10 อำเภอ ของ 2 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดนครราชสีมาและขอนแก่น รวม 19 สถานี เป็นย่านเก็บกองสินค้า 3 สถานี ที่หยุดรถ ป้ายหยุดรถ 7 แห่ง ระยะทาง 187 กิโลเมตร ก่อสร้างรางขนาด 1 เมตรเพิ่มเติมขนานกับแนวเส้นทางเดิม 1 ราง มูลค่าการลงทุนประมาณ 25,000 ล้านบาท

[Mongwin]

สนข.หวั่นทางคู่จิระ-ขอนแก่นช้า
ข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ -- อังคารที่ 15 พฤษภาคม 2555 00:00:44 น.

แหล่งข่าวจากสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงจิระ-ขอนแก่น ระยะทาง 187 กิโลเมตร มูลค่ากว่า 25,000 ล้านบาท ว่า โครงการมีความล่าช้ากว่าแผนออกไปอีกกว่า 1 ปี เนื่องจากกระทรวงคมนาคมไม่สามารถจัดทำรายละเอียดโครงการเพื่อเสนอของบประมาณในปี2556 ดังนั้นจึงต้องยื่นเรื่องเพื่อของบประมาณใหม่ในปี2557 และคาดว่าจะเริ่มก่อ สร้างในปี 2559

[nutsiwat]

เส้นทางในจังหวัดขอนแก่นจะมีอยู่ช่วงหนึ่งที่ 2 ข้างทางจะมีพื้นที่ที่เป็นสิ่งก่อสร้างขนาบ 2 ข้างทาง อาจเป็นไปได้ไหมที่จะต้องทำเส้นทางอ้อม หรือต้องขอเวนคืนพื้นที่เพื่อก่อสร้างเส้นทางรถไฟยกระดับตามวิดีทัศน์

วิดีทัศน์ที่ได้ชมถือเป็นจุดเร่ิมต้นของการก่อสร้างเส้นทางรถไฟรางคู่ที่สมบูรณ์แบบมาก หากโครงการนี้สำเร็จ เส้นทางสายอื่น ๆ ทั่วประเทศก็จะทยอยก่อสร้างตามแบบดังกล่าว แต่ผมอยากจะให้อีกเส้นทางหนึ่งที่อยากจะให้ก่อสร้างเหมือนที่วิดีทัศน์ฉาย คือ เส้นทางสายใหม่ สายบ้านไผ่ - มหาสารคาม - ร้อยเอ็ด - มุกดาหาร - นครพนม เพราะเป็นเส้นทางที่สร้างใหม่

[Mongwin]

ด้านใต้ของสถานีรถไฟขอนแก่น ที่ฝั่งตะวันตก (สามเหลี่ยมกลับรถจักรเก่า) มีชุมชนเรียงราย ต้องรื้อย้ายออกอย่างแน่นอนครับ

-------------------

รถไฟไทยพัฒนา..เศรษฐกิจประเทศเจริญจริงหรือ?
สยามธุรกิจ ฉบับที่ 1301 ประจำวันที่ 19-5-2012 ถึง 22-5-2012

เมื่อกล่าวถึงรถไฟไทย คงทราบกันดีว่า เกิดขึ้นมาก่อนประเทศเพื่อนบ้าน แต่ระยะเวลาที่ผ่านมาได้หยุดการพัฒนาไปอย่างยาวนาน จนประเทศเพื่อนบ้านหลายๆ ประเทศพัฒนาแซงหน้าไปไกลแล้ว คำถามจึงเกิดขึ้นว่า การขนส่งสินค้าทางรถไฟมี ต้นทุนในการขนส่งสินค้าถูกกว่าระบบอื่น ทำไม? ประเทศไทยจึงหยุดการพัฒนาไป อย่างยาวนาน ที่สำคัญระบบขนส่งทางรางเป็นดังหัวใจหลักในการพัฒนาลอจิสติกส์ ของประเทศ หรือเป็นเสมือนเส้นเลือดใหญ่หล่อเลี้ยงประเทศ

เมื่อมีคำถามก็ต้องมีคำตอบ เหล่า บรรดากูรู บอกกับ “สยามธุรกิจ” ว่า การที่รถไฟไทยหยุดพัฒนามานาน สาเหตุเพราะรัฐบาลที่ผ่านมาไม่มีความจริงใจที่ จะพัฒนารถไฟไทยอย่างจริงจัง!

อย่างไรก็ดี ปัจจุบันรถไฟไทยกำลัง อยู่ในช่วงขาขึ้น เพราะรัฐบาลเล็งเห็นความสำคัญมากกว่าอดีตที่ผ่านมา จึงวาง นโยบายให้มีการพัฒนาระบบรถไฟใหม่ โดย มีแผนว่าจะผุดทั้งรถไฟความเร็วสูง หรือ ไฮสปีดเทรน และรถไฟทางคู่ ทั่วประเทศ โดย สำนักงานนโยบายและแผนการขน ส่งและจราจร (สนข.) เป็นผู้ศึกษา

ล่าสุด สนข. ได้นำคณะสื่อมวลชน ลงพื้นที่ สำรวจโครงการรถไฟทางคู่จิระ-ขอนแก่น ซึ่งอยู่ระหว่างเตรียมการประกวดราคาก่อสร้าง โดยกระทรวงคมนาคม เตรียมเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาเดินหน้าโครงการผ่านการพิจารณาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) รวมทั้ง สนข.ยังได้พาเยี่ยมชมย่านกองเก็บ และขนถ่ายสินค้า (Container Yard : CY) ที่สถานีรถไฟจิระ และพบปะกับภาคเอกชนในพื้นที่ ซึ่งมีการใช้ประโยชน์ระบบขนส่งทางรางในขณะนี้

นางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ ผู้อำนวยการ สนข. บอกว่า ความคืบหน้าโครงการรถไฟทางคู่เส้นทางจิระ-ขอนแก่น ซึ่งเป็น 1 ในโครงการพัฒนาระบบรางที่รัฐบาล เคยอนุมัติงบประมาณ รวมวงเงินกว่า 170,000 ล้านบาท ขณะนี้การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ได้ดำเนิน การออกแบบรายละเอียด ควบคู่ไปกับการศึกษาผลกระทบ ด้านสิ่งแวดล้อม หรือ EIA ซึ่งเมื่อผ่านการพิจารณาแล้ว สนข. จะมีการส่งแผนรายละเอียด กลับไปให้ร.ฟ.ท.จัดทำแผนก่อสร้างและ

กำหนดวงเงินงบประมาณ ก่อนที่จะนำเสนอ ให้กระทรวงคมนาคม นำเข้าขออนุมัติจากคณะรัฐมนตรีต่อไป โดยกระบวนการประกวด ราคาน่าจะดำเนินการแล้วเสร็จจนถึงเริ่ม ก่อสร้างได้ในปี 2557 และใช้ระยะเวลา ก่อสร้าง 2-3 ปี

“ในอนาคตหากมีการพัฒนาระบบรถไฟทางคู่ดังกล่าวให้เป็นระบบทางคู่ตลอดแนวเส้นทางควบ คู่กับการพัฒนา CY แล้ว จะสามารถ ลดระยะเวลาการเดินทางระหว่าง จ.นครราชสีมา กับ ขอนแก่น จาก 3 ชั่วโมง เหลือเพียง 1.30 ชั่วโมง และเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งสินค้าจาก 4 แสนตันต่อปี เป็น 4 ล้านตันต่อปี และรองรับผู้โดยสารได้มากถึง 10 ล้านคนต่อปี”

อย่างไรก็ตาม โครงการดังกล่าวได้เปิดรับฟังความคิดเห็นของประชาชนครบ 3 ครั้งแล้ว โดยผลสรุปในเบื้องต้นเห็นว่ามีความเหมาะสมในการลงทุนเนื่อง จากมีผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ (EIRR) สูงถึง 19.94% หรือมูลค่า 25,000 ล้านบาท และเมื่อเปิดให้บริการจะช่วยให้การ คมนาคมขนส่งทั้งสินค้า และผู้โดยสารมีความสะดวกรวดเร็ว ปลอดภัย รวมทั้ง ช่วยส่งเสริมคุณภาพชีวิตของประชาชน ในระยะยาวช่วยสร้างโอกาสใหม่ทางเศรษฐกิจเพื่อให้สามารถแข่งขันกับประเทศต่างๆ

นายโชคชัย คัมภิรานนท์ เจ้าของบริษัท เอ็นดีซี โลจิสติกส์ จำกัด ซึ่งเป็นผู้ประกอบการธุรกิจให้บริการเกี่ยวกับการขนส่งสินค้าทางรถไฟ บอกว่า เมื่อการก่อสร้างรถไฟทางคู่จิระ-ขอนแก่นแล้วเสร็จก่อน จะทำให้การขนส่งสินค้าทางรางเกิดความคล่องตัวมากขึ้น และที่สำคัญคือการจัดซื้อหัวรถจักรของแท้ที่ขาดแคลน เนื่องจาก ร.ฟ.ท.ไม่ได้งบประมาณจากรัฐในการจัดซื้อหัวรถจักรตั้งแต่ปี 2538 โดยขณะนี้ทราบว่า ร.ฟ.ท. อยู่ระหว่างการจัดซื้อหัวรถจักรใหม่อีก 20 หัว ซึ่งจะรับมอบในปลายปี 2556 เชื่อว่า จะช่วยลดเวลาในการขนส่งผ่านระบบราง จากเดิมต้องใช้ระยะเวลาในการดำเนินการเตรียมการและขนส่งอย่าง น้อย 7 วัน ลงเหลือ 3-4 วัน เท่ากับระบบขนส่งทางรถบรรทุก แต่การขนส่งทางรางจะมีต้นทุนต่ำกว่า ส่งผลดีต่อลอจิสติกส์ของประเทศโดยตรง

ขณะที่ นางธิดารัตน์ รอดอนันต์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สงวนวงศ์ อุตสาหกรรม จำกัด บอกว่า บริษัทซึ่งเป็นผู้ผลิตแป้งมันสำปะหลังเพื่อการส่งออกและจำหน่ายในประเทศ และในการขนส่งสินค้าเพื่อส่งมอบให้ลูกค้านั้น ส่วนหนึ่งมีการใช้ระบบขนส่งทางราง เพื่อนำสินค้าไปที่ลาดกระบัง ก่อนนำส่งทางรถบรรทุกไปที่ท่าเรือกรุงเทพ โดยยอมรับว่าการขนส่งด้วยระบบราง มีต้นทุนที่ถูกว่าการขนส่งทางรถยนต์ ประมาณ 14 สตางค์ต่อกิโลกรัม แต่ในปีที่ผ่านมา การขนส่งสินค้าทางรางต้องประสบปัญหาลดลงจากที่เคยมีสัดส่วนการขนส่งทางรางเมื่อเทียบกับการขนส่งระบบอื่นที่ 25% ลดลงเหลือ 17% มาจากผลกระทบน้ำท่วม และส่วนหนึ่งมาจากปัญหารถไฟขาดแคลนหัวรถจักร และในอนาคต หาก ร.ฟ.ท. มีการจัดซื้อหัวรถจักรได้ตามแผน รวมทั้งมีการก่อสร้างรถไฟทางคู่จิระ-ขอนแก่นแล้วเสร็จ บริษัทก็พร้อมที่จะใช้ระบบขนส่งทางรางที่มีต้นทุนต่ำกว่าเพิ่มขึ้น ซึ่งในอนาคตเชื่อว่าจะมีสัดส่วนมากกว่า 30% เมื่อเทียบกับระบบขนส่งประเภทอื่น

[thanaratKK]

ชุมชนระหว่าง กม.451/5-453/17 ก็ต้องรื้อถอน ย้ายเช่นกันครับ แถมทางสภาพทางเป็นแอ่งบนเนินมีน้ำขัง

[Mongwin]

แถว ๆ กม. 452-453 ผมว่ายังไม่โดนรื้อกระมังครับ เพราะโครงการรถไฟทางคู่ชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่นไปไม่ถึง
แต่รถไฟความเร็วสูง ผ่านแน่นอน ถ้าสร้างจริง ๆ

[ksomchai]

ยินดีกับพี่น้องภาคอิสานเหนือ นะครับ ที่มีแนวโน้มว่าจะสร้างทางคู่จริง ๆ มีความคืบหน้าเรื่อย ๆ

ส่วนสายใต้ช่วงประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร ไม่มีข่าวคืบหน้าเลย ได้เห็นแต่เพียงแผ่นพับ ๑ แผ่น ของโครงการที่ส่งมาให้ที่บ้านทุกเดือน




_________________