View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
Tohoku_Line
3rd Class Pass
Joined: 08/04/2010 Posts: 193
Location: Bangkok/Ubonratchathani
|
Posted: 19/06/2012 3:22 am Post subject: |
|
|
ทางคู่ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ ถ้าเสร็จเมื่อไหร่น่าจะช่วยเรื่องเวลาของรถสายอีสานได้มากขึ้น เพราะทุกวันนี้รถช้าๆก็เพราะมัวรอหลีกกันในทางช่วงนั้น อย่าง ข.67 นี่จากกรุงเทพฯถึงโคราชใช้เวลาปาเข้าไปกว่า 5 ชั่วโมงเลย แต่พอพ้นโคราชไปได้เท่านั้นแหละทั้งที่เหลือระยะทางไกลกว่า แต่ถ้ารถวิ่งเร่งทำเวลาหน่อยสัก 4-5 ชั่วโมงก็ถึงอุบลราชธานีได้แล้ว
ขอให้เกิดก่อนด้วยเถอะครับ สำหรับทางคู่ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ ไม่งั้นถ้าทางคู่ชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่นมาก่อนก็คงแทบไม่ได้ช่วยอะไรกับทางรถไฟสายอุบลราชธานีเลย |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44836
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 19/06/2012 6:35 am Post subject: |
|
|
ทางคู่มาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ ซึ่งเป็นคอขวดของทางรถไฟสายอีสานนั้น เพิ่งผ่านความเห็นชอบของคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติเมื่อปลายปีที่แล้วครับ ยังอยู่ในขั้นตอนการจัดทำรายผลการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (Environment Impact Assessment = EIA) หากผ่านเมื่อไหร่ก็ต้องออกแบบรายละเอียดในการก่อสร้างต่อไป
ทางคู่สายนี้มีความยุ่งยากพอสมควร เพราะมีช่วงที่ผ่านพื้นที่ลุ่มน้ำชั้น 1B และป่าอนุรักษ์ และมีหลายช่วงที่มีรัศมีความโค้งแคบ ก่อนหน้านี้ก็มีข่าวว่าจะเปลี่ยนแนวเส้นทาง เจาะอุโมงค์เพิ่ม แต่เข้าใจว่าล้มเลิกไป อีกอย่างผมไม่แน่ใจว่าสถานะล่าสุด ทางคู่มาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระนั้น งบหมื่นกว่าล้านต้น ๆ จะพอหรือไม่ ได้รับอนุมัติเพิ่มงบหรือยัง ไม่ค่อยได้ติดตามข่าวต่อครับ
ส่วนทางคู่นครปฐม-หัวหิน ก็ผ่านความเห็นชอบของคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติแล้วเช่นกัน แต่ยังอยู่ในขั้นตอนจัดทำ EIA |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42784
Location: NECTEC
|
Posted: 19/06/2012 9:03 am Post subject: |
|
|
ข่าวทางคู่ สามสาย ที่ว่าจะประมูลปีนี้ เพราะ รฟท. ออกแบบเสร็จแล้ว มีในโพสต์ทูเดย์ฉบัย 19 มิถุนายน 2555 ด้วยแต่ไม่เอาออนไลน์แฮะ
รายละเอียดเท่าที่ทราบมีดังนี้
1. ทางคู่ฉะเชิงเทรา - คลอง 19 - แ่ก่งคอย 106 กิโลเมตร มูลค่า 11,348 ล้านบาท
2. ทางคู่ถนนจิระ - ขอนแก่น 185 กิโลเมตร มูลค่า 17,046 ล้านบาท
3. ทางคู่ประจวบคีรีขันธ์ - ชุมพร 167 กิโลเมตร มูลค่า 10,302 ล้านบาท
รวม 38696 ล้านบาท
ที่ยังออกแบบไม่เสร็จ เลยต้องเอาไปประมูลปีถัดไป มีดั่งนี้
1. มาบกระเบา - ถนนจิระ 132 กิโลเมตร มูลค่า 19,017 ล้านบาท - อาจต้องสร้างทางใหม่ ช่วงดงพระยาเย็น (มาบกระเบา - ปากช่อง)
2. นครปฐม - หนองปลาดุก - หัวหิน 165 กิโลเมตร มูลค่า 17,856 ล้านบาท (ติดสลัมที่รุกที่รถไฟ ช่วง นครปฐม - โพรงมะเดื่อ)
3. ลพบุรี - ปากน้ำโพ - 118 กิโลเมตร มูลค่า 10,938 ล้านบาท (ต้อง ทำทางใหม่ออกไปทางท่าวุ้งเพื่อไม่ให้มีปัญหากะพระปรางค์สามยอด)
//---------------------------------
รถไฟทางคู่คืบ คาดแล้วเสร็จภายในปี 58
โดย: ทีมข่าวเศรษฐกิจ
ไทยรัฐออนไลน์
19 มิถุนายน 2555, 12:15 น.
ร.ฟ.ท.ตั้งเป้าเปิดประมูลรถไฟรางคู่เพิ่ม 3 เส้นทางในปีนี้
ASTV 19 มิถุนายน 2555, 12:48 น
รฟท.เผยความคืบหน้าโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ระยะเร่งด่วน 6 เส้นทาง คาดเปิดบริการได้ในปี 2558 เชื่อจะช่วยย่นระยะเวลาเดินทางได้มากกว่าครึ่ง
19 มิ.ย. นางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) และประธานกรรมการ การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการดำเนินโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ของ ร.ฟ.ท.ว่า ภายในปีนี้จะสามารถเปิดประกวดราคาโครงการรถไฟทางคู่ได้ 3 เส้นทาง ได้แก่
1.เส้นทางฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย ระยะทาง 106 กม. มูลค่าประมาณ 11,348 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างเสนอให้ ครม.พิจารณาอนุมัติดำเนินการ
2.เส้นทางชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น ระยะทาง 185 กม.มูลค่าประมาณ 17,046 ล้านบาท และ
3.เส้นทางประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร ระยะทาง 167 กม.มูลค่าประมาณ 10,312 ล้านบาท ปัจจุบันบริษัทที่ปรึกษาอยู่ระหว่างสรุปแบบรายละเอียด หลังจากนั้น สนข.จะส่งเรื่องให้ ร.ฟ.ท.ไปดำเนินการเพื่อประกวดราคาต่อไป
ส่วนเส้นทางรถไฟทางคู่ที่เหลือตามแผนระยะเร่งด่วน 3 เส้นทาง ได้แก่
1.เส้นทางสายมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ ระยะทาง 132 กม. มูลค่าประมาณ 19,017 ล้านบาท
2.เส้นทางนครปฐม-หนองปลาดุก-หัวหิน ระยะทาง 165 กม. มูลค่าประมาณ 17,856 ล้านบาท และ 3.
เส้นทางลพบุรี-ปากน้ำโพ ระยะทาง 118 กม.มูลค่าประมาณ 10,938 ล้านบาท
ยังอยู่ระหว่างการออกแบบรายละเอียด ซึ่ง ร.ฟ.ท.ว่าจ้างที่ปรึกษาไปเมื่อเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา และจะใช้เวลาในการศึกษาอีกประมาณ 6 เดือน
ทั้งนี้ ภายหลังการก่อสร้างระบบรถไฟทางคู่ระยะเร่งด่วน 6 เส้นทางแล้วเสร็จ รวมระยะทาง 873 กม. ซึ่งคาดว่าจะเปิดให้บริการในปี 2558 จะทำให้ประเทศไทยมีระบบรถไฟทางคู่รวม 1,124 กม.ทั่วประเทศ หรือคิดเป็น 27.8% ของโครงข่ายรถไฟไทย ส่งผลให้ลดระยะเวลาในการเดินทางได้มาก เช่น
1. เส้นทางชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น เมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จจะใช้เวลาในการเดินทางลดลง
1.1 สำหรับรถโดยสารเหลือเป็น 1.50 ชั่วโมง จากเดิม 3 ชั่วโมง
1.2 สำหรับรถสินค้า เหลือระยะเวลาเดินทาง 2 ชั่วโมง จากเดิม 6 ชั่วโมง
2. นอกจากนั้น ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพด้านความปลอดภัย เนื่องจากมีการปรับปรุงราง ซ่อมทาง ออกแบบจุดตัดระหว่างทางรถไฟกับถนนให้มีความปลอดภัยสูงสุดด้วย.
Last edited by Wisarut on 19/06/2012 2:59 pm; edited 3 times in total |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44836
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 19/06/2012 9:22 am Post subject: |
|
|
^^^
ทางคู่มาบกระเบา-ชุมทางถนนจิระ 132 กม. ระยะทางสั้นกว่า นครปฐม-ชุมทางหนองปลาดุก-หัวหินตั้ง 30 กม. แต่งบแพงกว่าตั้งพันกว่าล้าน แสดงว่าสร้างได้ยากจริง ๆ ครับ เพราะมีส่วนที่เป็นทางภูเขา
ส่วนลพบุรี-ปากน้ำโพ ปัญหาอยู่ที่ตัวเมืองลพบุรีนั่นแหละครับ จะทำทางคู่ไปอย่างไร ปวดหัวแทนคนออกแบบครับ (ปัญหา EIA พระปรางค์สามยอดด้วย)
-----------
รฟท.เตรียมเปิดประกวดราคาก่อสร้างรถไฟทางคู่เพิ่มเติมในปีนี้อีก 3 เส้นทาง
สำนักข่าวไทย วันอังคาร ที่ 19 มิ.ย. 2555
กรุงเทพฯ 19 มิ.ย.-นางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) และประธานกรรมการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการดำเนินโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ของรฟท.ว่า ภายในปีนี้จะสามารถเปิดประกวดราคาได้ 3 เส้นทาง
นางสร้อยทิพย์ กล่าวว่า สำหรับโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ที่จะเปิดประกวดราคาปีนี้ได้แก่ 1.เส้นทางฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย ระยะทาง 106 กิโลเมตร มูลค่าประมาณ 11,348 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณา 2.เส้นทางชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น ระยะทาง 185 กิโลเมตร มูลค่าประมาณ 17,046 ล้านบาท และ3.เส้นทางประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร ระยะทาง 167 กิโลเมตร มูลค่าประมาณ 10,312 ล้านบาท ปัจจุบันบริษัทที่ปรึกษาอยู่ระหว่างสรุปแบบรายละเอียด หลังจากนั้นสนข.จะส่งเรื่องให้รฟท.ไปดำเนินการเพื่อประกวดราคาต่อไป
ส่วนเส้นทางรถไฟทางคู่ที่เหลือตามแผนระยะเร่งด่วน 3 เส้นทาง ได้แก่
1.เส้นทางสายมาบกระเบา-ชุมทางถนนจิระ ระยะทาง 132 กิโลเมตร มูลค่าประมาณ 19,017 ล้านบาท
2.เส้นทางนครปฐม-หนองปลาดุก-หัวหิน ระยะทาง 165 กิโลเมตร มูลค่าประมาณ 17,856 ล้านบาท และ
3.เส้นทางลพบุรี-ปากน้ำโพ ระยะทาง 118 กิโลเมตร มูลค่าประมาณ 10,938 ล้านบาท อยู่ระหว่างการออกแบบรายละเอียด ซึ่งรฟท.ว่าจ้างที่ปรึกษาไปในเดือนนี้ และจะใช้เวลาในการศึกษาอีกประมาณ 6 เดือน
ทั้งนี้ ภายหลังการก่อสร้างระบบรถไฟทางคู่ระยะเร่งด่วน 6 เส้นทา รวมระยะทาง 873 กิโลเมตร คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในปี 2558 จะทำให้ประเทศไทยมีระบบรถไฟทางคู่รวม 1,124 กิโลเมตรทั่วประเทศ หรือคิดเป็นร้อยละ 27.8 ของโครงข่ายรถไฟไทย ส่งผลให้ลดระยะเวลาในการเดินทางได้มาก เช่น เส้นทางชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น เมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จจะใช้เวลาในการเดินทางสำหรับรถโดยสารเหลือ 1.50 ชั่วโมง จากเดิม 3 ชั่วโมง สำหรับรถสินค้า เหลือระยะเวลาเดินทาง 2 ชั่วโมง จากเดิม 6 ชั่วโมง นอกจากนั้น ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพด้านความปลอดภัย เนื่องจากมีการปรับปรุงราง ซ่อมทาง ออกแบบจุดตัดระหว่างทางรถไฟกับถนนให้มีความปลอดภัยสูงสุดด้วย.- สำนักข่าวไทย
Last edited by Mongwin on 19/06/2012 12:20 pm; edited 1 time in total |
|
Back to top |
|
|
pitipon_7
3rd Class Pass
Joined: 30/08/2010 Posts: 158
Location: สถานีชุมทางบ้านดินแดง
|
Posted: 19/06/2012 11:05 am Post subject: |
|
|
ทางคู่ ช่วงประจวบ-ชุมพร คิดว่าจะช่วยแก้ปัญหาในการหลีกกันได้มากกว่าช่วง นครปฐม-หัวหิน นะครับ เพราะรถโดยสารสายใต้ส่วนใหญ่จะหลีกกันใน ช่วงประจวบ-ชุมพร ถ้าทำช่วงนี้คิดว่าน่าจะได้ประโยชน์มากกว่านะครับ |
|
Back to top |
|
|
alderwood
1st Class Pass (Air)
Joined: 10/04/2006 Posts: 6593
Location: กรุงเทพ-ราชสีมา
|
Posted: 19/06/2012 3:18 pm Post subject: |
|
|
ทางคู่ช่วงมาบกระเบา - ชุมทางถนนจิระนั้น นอกจากจะลงทุนสูงและออกแบบค่อนข้างยากในทางเขา ยังมีช่วงนครราชสีมา - ชุมทางถนนจิระที่มีลักษณะคล้ายๆกับช่วงลพบุรี-ท่าแคครับ ออกมาแทบไม่มีพื้นที่ แถมข้างทางฝั่งนึงก็เป็นถนนที่ใช้สัญจรกันมาก อีกข้างนึงก็เป็นซอยทางลัด ซึ่งถ้าปิดไปจะกระทบกับบ้านบางหลังแถวนั้นแน่นอน ที่จะไม่มีทางออกจากบ้านเลยครับ
=========================================
จุดตัดมีไม่เยอะครับ แค่ 4 จุดเอง แถมถ้ายกระดับนั้นจะทำค่อนข้างลำบาก ด้วยระยะทางแค่ 2 กิโลเมตรเศษ ขึ้นไม่ทันไรก็ลงแล้ว แถมมันจะไปกระทบกับจุดตัดด้วยครับ ถ้ายกระดับไป จุดตัดทั้งหมด อาจจะต้องทำทางอ้อมไกลเพื่อลอดใต้สพานยกระดับ หรือปิดถาวรเลยล่ะครับ
V
V
V _________________ รักรถไฟมั่นใจโคปเตอร์ || Railway Racing Team || Korat Spotter
Last edited by alderwood on 19/06/2012 5:05 pm; edited 1 time in total |
|
Back to top |
|
|
Tohoku_Line
3rd Class Pass
Joined: 08/04/2010 Posts: 193
Location: Bangkok/Ubonratchathani
|
Posted: 19/06/2012 4:48 pm Post subject: |
|
|
ทางช่วงนครราชสีมา-ชุมทางถนนจิระ ถ้าจัดงบประมาณได้ ผมว่าทำเป็นทางยกระดับไปเลยก็ดีนะครับ หมดปัญหาเรื่องจุดตัดถนนเสมอระดับในเขตเทศบาลนครนครราชสีมาหลายจุดไปด้วย |
|
Back to top |
|
|
srinopkun
1st Class Pass (Air)
Joined: 08/04/2010 Posts: 2877
Location: นครปฐม
|
Posted: 19/06/2012 5:18 pm Post subject: |
|
|
แปลกดีนะ .....
ตรงนี้น่ะ (นครราชสีมา - จิระ) รถไฟมีมาตั้งนานแล้ว ....
พอจะแก้ไข กลับจะคิดให้รถไฟ "หลบ" ... ไม่ยักคิดให้ถนน "หลบ"
ทั้งๆที่รถหนัก (รถไฟ) หากทำทางยกระดับ ค่าก่อสร้างสูงมาก ... รถเบา (รถยนต์) ค่าก่อสร้างถูกกว่า
หลายครั้งที่ผมยืนดูความยุ่งเหยิงของการจราจรหน้าบ้านญาติผม (อยู่แถวๆจิระ) มองว่า ถ.ไชยณรงค์นี่ ถ้าปิดซะได้ 1 จุดละ
ให้ไปเข้าทาง ถ.ไปหัวทะเล ... แล้วตรอกโรงต้ม ให้มาใช้ราชดำเนิน ก็ลดไปแล้ว 2 จุดตัด
น่าจะดีกว่ามาให้สร้างอะไรแพงๆ เพราะหากวางแผนดีๆ เผลอๆ เทศบาลเขาช่วยสนับสนุนด้วยแหละ
@ น้าแมว ...
หากขยายทางคู่ "บ้านหลังนั้น" เขาก็ยินดีเฉือนที่ให้นะ ถ้าไม่มาก เขาก็คงไม่ว่ากระไรหรอก แต่ถ้าเยอะก็คงคุยกันนานหน่อย |
|
Back to top |
|
|
black_express
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/03/2006 Posts: 10060
Location: อุตรดิตถ์ - กรุงเทพฯ
|
Posted: 20/06/2012 9:44 am Post subject: |
|
|
พอเข้าใจครับว่า พระเวสสันดรนั้น มิใช่มีแต่เพียงในชาดกเท่านั้น
อยู่มาตั้งร้อยกว่าปี ทำได้เพียงแต่ดูที่ดินของตัวเองโดนเฉือน โดนบุกรุกไปเรื่อยๆ จนกระทั่งไม่มีเส้นทางให้วิ่งกันแล้ว |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44836
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 21/06/2012 5:07 pm Post subject: |
|
|
สนข. เตรียมพร้อมพัฒนาเส้นทางรถไฟสายใต้เชื่อมโครงข่ายสู่มาเลเซีย ชมรถไฟทางคู่มาเลเซียเพื่อรองรับการเปิดประตูสู่ประชาคมอาเซียน
สำนักข่าวแห่งชาติ กรมประชาสัมพันธ์ 21 มิ.ย. 55
สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งจราจร เตรียมพร้อมพัฒนาเส้นทางรถไฟสายใต้เชื่อมโครงข่ายสู่มาเลเซีย ชมรถไฟทางคู่มาเลเซีย เพื่อรองรับการเปิดประตูสู่ประชาคมอาเซียน
นางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) และคณะผู้บริหาร ได้นำคณะสื่อมวลชนเยี่ยมชมตัวอย่างการพัฒนาระบบรางของประเทศมาเลเซียที่มีแนวทางการพัฒนาที่สอดคล้องกับโครงการพัฒนาโครงข่ายระบบรถไฟทางคู่สายใต้ของประเทศไทย เพื่อเตรียมความพร้อมเข้าสู่ประชาคมอาเซียน สำหรับจุดแรกได้เดินทางไปเยี่ยมชมสถานีรถไฟปาดังเบซาร์ รัฐเปอร์ลิส เชื่อมต่อเส้นทางรถไฟระหว่างไทยกับมาเลเซียและเป็นประตูการขนส่งด้วยระบบรางระหว่างสองประเทศ และได้เดินทางต่อไปยังสถานีรถไฟบูกิตแจม รัฐปีนัง เพื่อเยี่ยมชมการพัฒนาระบบรถไฟทางคู่สายเมืองอิโปห์-ปาดังเบซาร์ ซึ่งเป็นการพัฒนาเส้นทางรถไฟที่เชื่อมต่อกับประเทศไทยที่ปัจจุบันอยู่ระหว่างการก่อสร้างและพัฒนาการเดินรถจากระบบทางเดี่ยวให้เป็นระบบรถไฟทางคู่ ทั้งนี้เมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จจะเชื่อมต่อกับเส้นทางรถไฟสายใต้ของไทยที่ปาดังเบซาร์ ซึ่งในอนาคตจะได้รับการพัฒนาเป็นระบบทางคู่เช่นเดียวกัน
ด้านนายทนงศักดิ์ พงษ์ประเสริฐ หัวหน้าสำนักงานประจำการรถไฟแห่งประเทศไทย พื้นที่ศูนย์ภาคใต้ กล่าวยอมรับว่า ปัจจุบันปริมาณการขนส่งสินค้าโดยรถไฟระหว่างไทยกับมาเลเซียลดลงร้อยละ 20 สาเหตุเกิดจากปริมาณหัวรถจักรมีให้บริการไม่เพียงพอ จึงทำให้เสียโอกาสเป็นอย่างมาก ส่วนขบวนรถโดยสารที่ให้บริการระหว่างไทยกับมาเลเซียมี...เที่ยวต่อวัน โดยปัจจุบันมาเลเซียได้ดำเนินโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่เกือบแล้วเสร็จร้อยละ 90 ซึ่งเริ่มต้นก่อสร้างตั้งแต่ปี 2008 ดังนั้นประเทศไทยควรเร่งดำเนินโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ เพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในอีก 3 ปีข้างหน้า
---------
สนข.เตรียมพัฒนาทางรถไฟทางคู่สายใต้รองรับ AEC
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 21 มิถุนายน 2555 17:34 น. |
|
Back to top |
|
|
|