View previous topic :: View next topic
Author
Message
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 44847
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 22/07/2012 9:10 am Post subject:
รบ.เดินหน้าพัฒนาด่านชายแดนรับ AEC- เสริมมูลค่าการค้ากับมาเลย์
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 22 กรกฎาคม 2555 11:41 น.
นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ตรวจด่านศุลกากรตามแนวชายแดนในจังหวัดภาคใต้ และพื้นที่การค้าชายแดนไทย-มาเลเซีย โดยเฉพาะบริเวณด่านสะเดา จ.สงขลา มีมูลค่าสินค้านำเข้า-ส่งออก สูงถึง 300,000 ล้านบาท และคาดว่าจะเพิ่มสูงขึ้นเป็น 400,000 ล้านบาท ในปี 2558 หลังเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ เออีซี
นายกิตติรัตน์ กล่าวว่า ปัจจุบันมีปัญหาการจราจรจากปริมาณรถบรรทุกผ่านเข้า-ออกเป็นจำนวนมาก ต้องต่อแถวรอคิวปล่อยสินค้า หลายกิโลเมตร เนื่องจากด่านศุลกากรคับแคบ จึงจำเป็นต้องขยายพื้นที่เพื่อก่อสร้างด่านศุลกากรสะเดาแห่งใหม่ บนพื้นที่ 661 ไร่ วงเงินลงทุนประมาณ 650 ล้านบาท แต่ยังมีปัญหาต้องเจรจากับชาวบ้านในพื้นที่ ซึ่งเข้าไปอาศัยเป็นเวลานานแต่เป็นที่ดินของรัฐ โดยชาวบ้านเกินครึ่งให้ความร่วมมือ คาดว่าเดินหน้าก่อสร้างได้
ส่วนการพัฒนาปรับปรุงด่านการค้าในภาคใต้ ยังมีความจำเป็นที่จะต้องเร่งพัฒนาควบคู่ไปกับโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ เพื่อรองรับการค้ากับมาเลเซีย ทั้งระบบรถไฟรางคู่ การสร้างทางมอเตอร์เวย์จากหาดใหญ่-ด่านสะเดา ระยะทาง 56 กิโลเมตร และการขยายเส้นทางจากถนนเพชรเกษม มายังท่าเรือน้ำลึกระนอง ระยะทาง 130 กิโลเมตร เพื่อรองรับการค้ากับพม่าด้านเกาะสอง และการเชื่อมโยงเส้นทางจากกรุงเทพฯ - กาญจนบุรี รองรับการสร้างท่าเรือน้ำลึกทวาย
------------
'กิตติรัตน์'ลงจ.สงขลา เร่งก่อสร้างด่านศุลกากรสะเดาแห่งใหม่
ไทยรัฐออนไลน์ 22 ก.ค. 55
นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมคณะลงพื้นที่ด่านศุลกากรสะเดา อ.สะเดา จ.สงขลา
รับทราบความคืบหน้าการก่อสร้างด่านศุลกากรสะเดาแห่งใหม่ รองรับการค้าชายแดนเต็มรูปแบบ และประชาคมอาเซียนในปี 2558
นายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เดินทางมาด้วย ร่วมดูพื้นที่ 661 ไร่ก่อสร้างด่านศุลกากรสะเดาแห่งใหม่
คณะนายกิตติรัตน์ เดินทางไปด่านปาดังเบซาร์ ดูความคืบหน้าสร้างมอเตอร์เวย์สะเดา-หาดใหญ่ มูลค่า 15,000 ล้านบาท
เดินหน้าพัฒนาระบบโลจิสติกส์ และต้องตะลึงพบว่าประเทศมาเลเซียได้สร้างระบบรถไฟรางคู่ระบบไฮ-สปีดจ่อเข้าชายแดนไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 44847
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 22/07/2012 2:38 pm Post subject:
'กิตติรัตน์'เตรียมพัฒนา ด่านศุลกากรชายแดนใต้ รับปริมาณการค้าเพิ่ม
ไทยรัฐออนไลน์ 22 กรกฎาคม 2555, 13:37 น.
"กิตติรัตน์" เผยเตรียมปรับปรุงพัฒนาด่านศุลกากร 'สะเดา ปาดังเบซาร์ ท่าเรือน้ำลึกระนอง' วงเงิน 1.6-2 ล้านล้านบาท รองรับ ปี 2558 ที่ไทยจะเข้าสู่ "ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน" ภายหลังเดินทางตรวจด่านศุลกากรตามแนวชายแดนในจังหวัดภาคใต้วานนี้
วันที่ 22 ก.ค. นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีคลัง กล่าวภายหลังจากเดินทางตรวจด่านศุลกากรตามแนวชายแดนในจังหวัดภาคใต้วานนี้ (21 ก.ค.) ว่า การค้าชายแดนไทย-มาเลเซีย นับว่ามีความสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจการค้าชายแดนในภาพรวม เพราะการค้าชายแดนใต้มีมูลค่าการค้ากว่า 60% ของการค้าชายแดนทั้งหมด และมีสัดส่วนมากกว่า 15% ของการค้าทั้งประเทศ โดยเฉพาะด่านสะเดา จ.สงขลา มีมูลค่าสินค้านำเข้า-ส่งออก ในปี54 สูงถึง 3 แสนล้านบาท และคาดว่าจะเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องทุกปี ปีละไม่ต่ำกว่า 20% และเชื่อว่าจะเพิ่มเป็น 4 แสนล้านบาทได้ภายในปี 2558 หลังเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน
รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง กล่าวอีกว่า ปัจจุบันรถบรรทุกที่ผ่านเข้าออกที่ด่านพรมแดนสะเดามีปัญหาจราจรติดขัดมาก ต้องต่อแถวรอคิวการปล่อยสินค้าหลายกิโลเมตร เพราะด่านคับแคบ ดังนั้นเพื่อเป็นการพัฒนาศักยภาพของด่านให้พร้อม กรมศุลกากรจึงต้องขยายพื้นที่เพิ่มเติม โดยก่อสร้างด่านศุลกากรสะเดาแห่งใหม่ บนพื้นที่ 661 ไร่ วงเงินลงทุนประมาณ 650 ล้านบาท แต่ยังมีปัญหาต้องเจรจากับชาวบ้านในพื้นที่ ซึ่งได้เข้าไปอาศัยเป็นเวลานานแต่เป็นที่ดินของรัฐ โดยชาวบ้านเกินครึ่งให้ความร่วมมือแล้ว คาดว่าจะเดินหน้าก่อสร้างได้ เพราะเงินชดเชยให้กับชาวบ้านต้องการผ่านเงินลงทุนจากรัฐบาล ไม่ต้องดึงมาจากงบประมาณประจำ เพราะจะเกิดความล่าช้า โครงการไม่เดินหน้า
การพัฒนาปรับปรุงด่านในภาคใต้ มีทั้งด่านสะเดา ด่านปาดังเบซาร์ รวมทั้งท่าเรือน้ำลึกระนอง ซึ่งต้องเร่งพัฒนาโครงสร้างต่างๆ มารองรับการค้ากับมาเลเซียทั้งระบบรางคู่รถไฟ ทางมอเตอร์เวย์จากหาดใหญ่-ด่านสะเดา ระยะทาง 56 กิโลเมตร การพัฒนาขยายเส้นทางจากถนนเพชรเกษมมายังท่าเรือน้ำลึกระนองระยะทาง 130 กิโลเมตร รองรับการค้ากับพม่าด้านเกาะสอง และการเชื่อมโยงเส้นทางจากกรุงเทพฯ-กาญจนบุรี รองรับการสร้างท่าเรือน้ำลึกทวาย ในวันนี้ พล.อ.เต็งเส่ง ประธานาธิบดีสหภาพพม่าเดินทางมาตรวจเยี่ยมดูนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด เพื่อพัฒนานิคมอุตสาหกรรมในพม่า
"การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ จะใช้เงินจากวงเงินลงทุน 1.6-2 ล้านล้านบาท ด้วยการยกร่าง พ.ร.บ.ขึ้นมาอีกฉบับรองรับ" นายกิตติรัตน์ กล่าว
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 44847
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 26/07/2012 3:46 pm Post subject:
รมช.คมนาคม เร่งพัฒนาโลจิสติกส์-โครงสร้างพื้นฐาน-แก้กฎระเบียบก่อนเปิด AEC
ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 26 กรกฎาคม 2555 15:26:55 น.
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รมช.คมนาคม กล่าวว่า ไทยจำเป็นต้องพัฒนาเส้นทางขนส่งทางบกที่มีอยู่เดิมให้มีประสิทธิภาพ อาทิ ถนน สะพานข้ามแดน และด่านการค้าชายแดนเป็นอันดับแรก ก่อนเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) เนื่องจากการพัฒนาระบบการขนส่งรางคู่ หรือ รถไฟความเร็วสูงต้องใช้ระยะเวลานาน แต่ในระยะกลางและระยะยาวจะต้องปรับไปใช้ระบบรางคู่และรถไฟความเร็วสูงมากขึ้นเพื่อลดต้นุทนโลจิสติกส์ ซึ่งต้องผลักดันให้เป็นวาระแห่งชาติ
นอกจากนี้ ต้องพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เพราะหากต้นทุนโลจิสติกส์สูง นักลงทุนก็จะไม่เข้ามาลงทุนในไทย โดยจะต้องปรับเปลี่ยนไปใช้ระบบการขนส่งทางรางให้มากขึ้นกว่าทางถนน และพิจารณาจุดเชื่อมต่อทางเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้านที่สำคัญ เนื่องจากไทยไม่สามารถพัฒนาจุดเชื่อมต่อได้ทุกจุด โดยจุดที่สำคัญอันดับหนึ่ง คือ เส้นทาง R3 เชื่อมโยง ไทย-ลาว-จีน
สำหรับการแก้ไขกฎระเบียบเพื่อรองรับ AEC ขณะนี้ได้ปรับปรุงไปบ้างแล้ว เช่น พ.ร.บ.การขนส่ง พ.ร.บ.ทางอากาศ ซึ่งคาดว่าจะเสร็จได้ภายใน 3 ปี และการเปิดเสรีทางโลจิสติกส์ ซึ่งจะทำให้มีบริการของต่างชาติมากขึ้นเพราะสามารถถือหุ้นได้ถึง 70% ผู้ประกอบการไทยก็ต้องปรับตัวให้ดีขึ้นเพื่อให้แข่งขันกับประเทศอื่นได้ แต่ประชาชนจะมีทางเลือกในการรับบริการที่ดี
อย่างไรก็ตาม ปัญหาคอร์รัปชั่นและความไม่มีเสถียรภาพทางการเมืองจะบั่นทอนความเชื่อมั่นของนักลงทุนชาวต่างชาติ ซึ่งรัฐบาลต้องเร่งดำเนินการปราบปรามคอร์รัปชั่นอย่างจริงจังตามที่ได้ประกาศนโยบายไว้ ซึ่งที่ผ่านมากระทรวงคมนาคมได้พยายามต่อรองโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ให้ปรับราคาลดลงได้ไม่ต่ำกว่า 10%
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 44847
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 29/07/2012 10:06 pm Post subject:
กรอ.ชงเมกะโปรเจคท์เข้าครม.พรุ่งนี้
เนชั่นทันข่าว 29 ก.ค. 55 20.57 น.
กรอ.ชงเมกะโปรเจคท์เข้าครม.พรุ่งนี้ "ขยายถนนอีสาน-สร้างรถไฟรางคู่-ยกระดับสนามบินอุบล"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในการประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนภูมิภาค(กรอ.) ครั้งที่ 6/2555 ที่ห้องรัตนสุวรรณ โรงแรมทองธารินทร์ อ.เมือง จ.สุรินทร์ โดยมี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในการประชุม ซึ่งมติที่ประชุมกรอ.จะถูกนำเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)อีกครั้งในวันพรุ่งนี้(30ก.ค.)ในการประชุมครม.นอกสถานที่หรือครม.สัญจรครั้งที 6 ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ โดยที่ประชุมมีการเสนอโครงการจาก 4 ด้าน ได้แก่
1.ด้านการส่งเสริมและการลงทุน
2.ด้านการพัฒนาโครงข่ายคมนาคมและระบบโลจิสติกส์
3.ด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ และ
ด้านที่ 4 คือด้านการส่งเสริมการท่องเที่ยวและบริการ
1.ด้านการส่งเสริมและการลงทุน ประกอบด้วย 2 เรื่องได้แก่
โครงการศึกษาวิจัยนครราชสีมา : เมืองศูนย์กลางเศรษฐกิจในอนุภาค และ
โครงการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษอุตสาหกรรมแปรรูปสินค้าเกษตรชายแดน ที่ อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์
2.ด้านการพัฒนาโครงข่ายคมนาคมและระบบโลจิสติกส์ ประกอบด้วย 3 เรื่องคือ
1.การพัฒนาและขยายเส้นทางการจราจร ที่แยกย่อยออกเป็น10เรื่อง ได้แก่
(1) โครงการก่อสร้างขยายทางหลวงหมายเลข304 สายอ.กบินทร์บุรี-อ.ปักธงชัย 2ช่วง
(2) การเร่งรัดโครงการสร้างถนนเลี่ยงเมืองจ.สุรินทร์ ระยะทาง 21.30 กิโลเมตร
(3)โครงการขยายเส้นทางจราจรทางหลวงหมายเลข205 (โนนไทย-หนองบัวโคก ระยะทาง 31กิโลเมตร เป็น4ช่องจราจร
(4) โครงการขยายทางหลวงหมายเลข201 ช่วงอ.สีคิ้ว -อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา -บ้านแปรง ต.หนองบัวโค ก อ.จัตุรัส จ.ชัยภูมิ ระยะทาง 52 กิโลเมตร เป็น4ช่องจราจร
(5) การเร่งรัดโครงการขยายทางหลวงหมายเลข 24 อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ - อ.เดชอุดม จ.อุบลราชธานี เป็น4ช่องจราจร ตลอดทั้งเส้น
(6) โครงการขยายช่องทางจราจรของจ.สุรินทร์ จาก2ช่องจราจร เป็น4ช่องจราจรจำนวน 3 เส้นทาง เพื่ออำนวยความสะดวกการเชื่อมโยงระหว่างจังหวัด และกับประเทศเพื่อนบ้าน(กัมพูชา)
(7) การขยายทางหลวงหมายเลข226 อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครราชสีมา -บ้านหนองกระทิง จ.บุรีรัมย์ ช่วง ก.ม. 22+100 ถึง ก.ม. 78+700
(8) โครงการก่อสร้างวงแหวนรอบเมือง จ.นครราชสีมา ตอน2(ด้านเหนือ)
(9) โครงการพัฒนาเส้นทางคมนาคมแบบ4ช่องจราจรโดยรถยนต์จาก อ.เสนางคนิคม ถึง อ.ขานุมาน จ.อำนาจเจริญ(ชายแดนสปป.ลาว) ระยะทาง 50 ก.ม. และ
(10) โครงการปรับปรุงช่องการจราจร เส้นทางหมายเลข 2201 (บ้านนาเจริญ-บ้านละลม-บ้านแชร์ไปร์ อ.ภูสิงห์-ช่องสะงำ จ.ศรีษะเกษ เพื่อเชื่อมโยงไปยังประเทศเพื่อนบ้าน
2.โครงการก่อสร้างเส้นทางรถไฟรางคู่ นครราชสีมา -บุรีรัมย์-สุรินทร์-ศรีษะเกษ -อุบลราชธานี ให้แล้วเสร็จในปี2562 และ
3.โครงการยกระดับสนามบินอุบลราชธานี เป็นศูนย์กลางการบินอินโดจีน
3.ด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ประกอบด้วย 2 เรื่อง ได้แก่
โครงการอ่างเก็บน้ำโป่งขุนเพชร จ.ชัยภูมิ และ
โครงการพัฒนาลุ่มน้ำชีตอนบน เขื่อนชีบน และเขื่อนยางนาดี จ.ชัยภูมิ
และด้านที่4 คือด้านการส่งเสริมการท่องเที่ยวและบริการ ประกอบด้วย 3 เรื่อง ได้แก่
1.ขอสนับสนุนและส่งเสริมการดำเนินโครงการ "นำช้างคืนถิ่น" และ "คชอาณาจักร" เพื่อให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว ที่สำคัญของประเทศ
2.พัฒนาพื้นที่ป่าเสื่อมโทรมในเขตอำเภอวังน้ำเขียวให้เป็นสวนพฤกษศาสตร์เพื่อการเรียนรู้ และ
3. ส่งเสริมเส้นทางการท่องเที่ยวเชื่อมโยงอีสานใต้กับประเทศเพื่อนบ้าน
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 44847
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 29/07/2012 10:22 pm Post subject:
กรอ.ย่นแผนสร้างรถไฟรางคู่ "โคราช-อุบล" ชงครม.ดัน จันทร์นี้
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 29 กรกฎาคม 2555 21:56 น.
กรอ.ดันรถไฟรางคู่ 3.9 หมื่นล้าน โคราช-อุบล เชื่อมเขมร พัฒนาการค้าอีสานตอนล่าง พร้อมไฟเขียวปรับปรุงเส้นทางโลจิสติก 10 เส้น วงเงิน 1.8 หมื่นล้านบาท เข้าครม.พรุ่งนี้ เล็งยกระดับ 3 จุดผ่อนปรนเขื่อมเพื่อนบ้าน ส่งเสริมการค้าชายแดน
วันนี้(29 ก.ค.) ที่โรงแรมทองธารินทร์ จ.สุรินทร์ นายจารุพงษ์ เรืองสุวรรณ รมว.คมนาคม แถลงภายหลังการประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ (กรอ.) ภูมิภาค โดยมีน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ว่า ที่ประชุมกรอ. เห็นชอบให้เร่งรัดการสร้างรถไฟทางคู่ เส้นทางนครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี ระยะทางประมาณ 300 กิโลเมตร วงเงินค่าก่อสร้างประมาณ 39,000 ล้านบาท ให้แล้วเสร็จในปี 62 เร็วกว่าแผนที่กำหนดไว้ในปี 68 หลังจากที่การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ได้ทำการศึกษาไว้เสร็จสิ้นแล้ว ซึ่งเส้นทางดังกล่าวจะช่วยสนับสนุนระบบการขนส่งของภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างได้สะดวกขึ้น ลดต้นทุนให้กับผู้ประกอบการขนส่งสินค้าและประชาชนจะไม่เสียเวลาในการเดินทางมากเหมือนในอดีต
นอกจากนี้ กรอ.ยังเห็นชอบการพัฒนาโครงข่ายคมนาคมทางถนนจำนวน 10 โครงการ วงเงิน 18,000 ล้านบาท โดยมีโครงการหลักๆ เช่น โครงการก่อสร้างเส้นทางถนนเลี่ยงเมืองจังหวัดสุรินทร์ระยะทาง 7.6 กิโลเมตร การขยายทางหลวงจาก 2 ช่องเป็น 4 ช่องจราจร และโครงการปรับปรุงช่องจราจรโดยเฉพาะสาย 2201 ที่จังหวัดศรีสะเกษ เพื่อเชื่อมโยงไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ขณะเดียวกันยังเห็นชอบในการพัฒนาโครงข่ายคมนาคมทางอากาศโดยเฉพาะโครงการยกรับดับสนามบินอุบลราชธานีเป็นศูนย์กลางของอินโดจีน เพื่อรองรับการเป็นประชาคมอาเซียนในปี 58
กรอ.เห็นชอบการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำทั้ง การผลักดันการก่อสร้างโครงการอ่างเก็บน้ำโป่งขุนเพชร จังหวัด ชัยภูมิให้แล้วเสร็จในปี 57 เพื่อเป็นแหล่งน้ำให้กับการใช้น้ำตามลำน้ำชี ซึ่งมีการเพาะปลูกเป็นจำนวนมากและเห็นชอบให้มีการเร่งรัดโครงการพัฒนาลุ่มน้ำชีตอนบนเขื่อนชีบน และเขื่อนยางนาดีจังหวัดชัยภูมิให้แล้วเสร็จโดยเร็วโดยผ่านการศึกษาผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมเสร็จเรียบร้อยแล้ว ซึ่งจะมีการพิจารณาทบทวนค่าเวรคืนที่ดินแก่ประชาชนในพื้นที่ที่เหมาะสมด้วย
รวมถึงเห็นชอบให้มีการสนับสนุนงบประมาณ จำนวน 20 ล้านบาท เพื่อศึกษาวิจัยโครงการนครราชสีมาเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจใหม่ในภูมิภาค โดยมอบหมายให้กรมโยธาธิการและผังเมืองศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการ พร้อมเตรียมให้มีการศึกษาความเป็นไปได้ในโครงการจัดตั้งเขตเศรพิเศษอุตสาหกรรมแปรรูปสินค้าเกษตรชายแดนที่อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ ให้การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ทำการศึกษาต่อไป
ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวข้างต้นที่ประชุมกรอ.เห็นชอบให้นำเสนอเข้าสู่ที่ประชุมครม.เพื่อให้มีมิตเห็นชอบในวันที่ 30 ก.ค.ต่อไป
ด้าน นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวเสริมว่า ที่ประชุมได้พิจารณาในส่วนของการส่งเสริมการค้าชายแดน ซึ่งเป็นเรื่องที่มีการพิจารณามาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อครั้งการประขุม กรอ.ครั้งที่ 5 ที่ จ.ชลบุรี โดยมีการเสนอให้ยกระดับจุดผ่อนปรนให้เป็นด่านชายแดนถาวร จำนวน 3 แห่ง ได้แก่ จุดผ่อนปรนช่องสายตะกู จ.บุรีรัมย์ เชื่อมต่อประเทศกัมพูชา จุดผ่อนปรนบ้านยักษ์คุ จ.อำนาจเจริญ เชื่อมต่อประเทศลาว และจุดผ่อนปรนช่องตาอู จ.อุบลราชธานี เชื่อมต่อประเทศลาว โดยที่ประชุมได้มอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศ และหน่วยงานความมั่นคงทำการศึกษารายละเอียดเพื่อนำเสนอเข้าสู่ที่ประชุม ครม.ต่อไป
Back to top
Tohoku_Line
3rd Class Pass Joined: 08/04/2010 Posts: 193
Location: Bangkok/Ubonratchathani
Posted: 30/07/2012 1:09 am Post subject:
สาธุ ถ้าเร่งมือทำจริงนี่ดีเลย รถโดยสารเส้นทางนี้ก็เยอะพอสมควร
แถมบอกการศึกษาโครงการก่อสร้างก็ทำเรียบร้อยแล้ว ถ้ามีเงินทุนและตั้งใจจะทำจริงก็คงเริ่มได้ในอีกไม่นาน
อีกอย่างถ้า รฟท ทำทางคู่เสร็จก็น่าจะชักชวนผู้ประกอบการขนส่งในพื้นที่หันมาขนส่งทางรถไฟไปเลย ใช้ตัวจังหวัดหรือสถานีระดับอำเภอใหญ่ๆเป็นจุดรับ-ส่งกระจายสินค้า
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42785
Location: NECTEC
Posted: 01/08/2012 10:49 am Post subject:
ผู้ว่าประชุมฟังแผน รถไฟรางคู่ นครปฐม หัวหิน
ข่าว/ภาพ : คนอาสาฯ
ข่าวหัวหิน
วันพฤหัสบดีที่ 12 กรกฏาคม 2012 เวลา 15:40 น.
เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 11 ก.ค. ที่ผ่านมา นายวีระ ศรีวัฒนตระกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นประธานในการประชุมรับฟังสรุปแผนการก่อสร้างทางรถไฟรางคู่ นครปฐม หัวหิน โดยมี 4 บริษัทที่รับเหมาเป็นผู้บรรยาย
การประชุมในครั้งนี้สืบเนื่องจากคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบด้านการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานของการรถไฟแห่งประเทศไทย ซึ่งแผนการลงทุนดังกล่าวได้รวมถึงการพัฒนาโครงข่ายระบบรถไฟรางคู่ (ระยะเร่งด่วน) สายนครปฐม หัวหิน ดังนั้นทางด้านบริษัทผู้รับเหมาในด้านสำรวจและออกแบบจึงได้ลงพื้นที่เพื่อรับฟังคำแนะนำจากทุกภาคส่วนเพื่อเป็นแนวทางในการศึกษาความเหมาะสมและสามารถออกแบบเบื้องต้นระบบรถไฟรางคู่ เพื่อการขนส่งและการจัดการโลจิสติกส์ ระยะที่ 1 หลังจากสำรวจเสร็จเรียบร้อยแล้วก็จะสรุปรายงานส่งให้การรถไฟแห่งประเทศไทยต่อไป
สำหรับแผนการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานของการรถไฟแห่งประเทศไทย ระยะเร่งด่วย พ.ศ. 2553 2557 ได้ใช้งบประมาณถึง 176 ล้านบาทเศษ โดยได้จัดทำเป็นรถไฟรางคู่ ในหลายเส้นทาง และเส้นทาง นครปฐม หัวหิน ก็เป็นอีก 1 เส้นทางที่ได้รับการอนุมัติให้ดำเนินการสำรวจแลก่อสร้าง คาดว่า จะใช้เวลาในการสำรวจประมาณ 6 เดือน หลังจากนั้นก็จะเสนอให้ก่อนสร้างเป็นลำดับต่อไป.
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 44847
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 03/08/2012 10:38 am Post subject:
รถไฟทางคู่เข้าบอร์ด 10 ส.ค.
หนังสือพิมพ์บ้านเมือง -- ศุกร์ที่ 3 สิงหาคม 2555 00:00:10 น.
นางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม และในฐานะประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยภายหลังจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติและผ่านการพิจารณาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) แล้ว ซึ่งขณะนี้ รฟท.อยู่ระหว่างจัดเตรียมเอกสารการประกวดราคาโครงการรถไฟทางคู่สายฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย ระยะทาง 106 กิโลเมตร วงเงิน 11,348 ล้านบาท โดยคาดว่าผู้บริหารของ รฟท.จะรายงานให้ที่ประชุมบอร์ด รฟท.รับทราบในวันที่ 10 ส.ค.นี้ หลังจากนั้นจึงจะสามารถดำเนินการตามขั้นตอนประกวดราคาต่อไป อย่างไรก็ตามจะใช้เวลาก่อสร้าง 3 ปี ทั้งนี้รถไฟทางคู่สายดังกล่าวจะเป็นเส้นทางที่เชื่อมต่อกับสายฉะเชิงเทรา-แหลมฉบังระยะทาง 79 กิโลเมตร ที่ก่อสร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยจะช่วยให้ภาคการขนส่งสินค้า และการให้บริการมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เนื่องจากจะสามารถใช้ความเร็วได้ถึง 100-120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เพราะไม่มีจุดตัด และการจอดเพื่อรอหลีกเหมือนในปัจจุบัน
สำหรับการโครงการรถไฟทางคู่ในเส้นทางต่างๆ นั้น หากก่อสร้างแล้วเสร็จก็จะช่วยแก้ไขปัญหาจุดตัดของรถไฟไปพร้อมกัน เนื่องจากมีการออกแบบให้สอดรับกลับการเดินทาง โดยรถไฟจะวิ่งได้โดยไม่มีจุดตัดหรือการรอหลีก ซึ่งจะปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ส่วนหัวรถจักรที่จะนำมาให้บริการหลังการก่อสร้างแล้วเสร็จ รฟท.ได้สั่งซื้อไปแล้ว จะส่งมอบในล็อตแรกได้ประมาณปลายปี 2556 โดยจะเอาไปใช้ในเส้นทางฉะเชิงเทรา-แหลมฉบังก่อน หลังจากนั้นก็จะทยอยนำไปให้บริการในเส้นทางอื่นๆ
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 44847
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 03/08/2012 12:38 pm Post subject:
ร.ฟ.ท.เร่งเปิดประมูลรถไฟทางคู่ฉะเชิงเทรา-แก่งคอย วงเงิน 11,348 ล้านบาท
ฐานเศรษฐกิจ วันศุกร์ที่ 03 สิงหาคม 2012 เวลา 11:01 น.
นางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม ในฐานะประธานคณะกรรมการ(บอร์ด) การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยว่า ในที่ประชุมบอร์ด ร.ฟ.ท. วันที่ 10 สิงหาคมนี้ คาดว่าจะมีการรายงานความคืบหน้าโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่สายชายฝั่งทะเลตะวันออก ช่วงฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย พร้อมทางคู่ เลี่ยงเมือง(Chord Lines) จำนวน 3 แห่ง ระยะทาง 106 กิโลเมตร วงเงิน11,348 ล้านบาท ซึ่ง ร.ฟ.ท.อยู่ระหว่างจัดเตรียมเอกสารการประกวดราคาโครงการ หลังจากได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี(ครม.) และผ่านการพิจารณาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) แล้ว โดยคาดว่าจะเปิดประกวดราคาได้เร็วๆ นี้ และตามแผนจะใช้เวลาก่อสร้าง 3 ปี
"การประกวดราคาคงจะเป็นในลักษณะเปิดให้รายเดียวดำเนินการทั้งหมด ส่วนแหล่งเงินลงทุนก็คงต้องให้กระทรวงการคลังเป็นผู้ค้ำ และสำนักงบประมาณเป็นผู้จัดหาแหล่งเงินให้ จึงไม่น่าเป็นห่วงในเรื่องของงบประมาณดำเนินโครงการ" นางสร้อยทิพย์กล่าว
สำหรับแนวเส้นทางรถไฟทางคู่ สายฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย จะเชื่อมต่อกับรถไฟทางคู่สายฉะเชิงเทรา-แหลมฉบัง ระยะทาง 79 กิโลเมตร ซึ่งขณะนี้ได้ดำเนินการก่อสร้างเสร็จแล้ว ซึ่งจะช่วยให้การขนส่งสินค้าและการให้บริการมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะจะใช้ความเร็วได้ประมาณ 100-120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เนื่องจากไม่มีจุดตัดกับถนน และไม่ต้องเสียเวลาจอดเพื่อรอสับหลีกกันเหมือนในปัจจุบัน
ส่วนการประกวดราคา จะเป็นในลักษณะเปิดคัดเลือกผู้รับเหมาเพียงรายเดียวดำเนินการทั้งหมด ส่วนแหล่งเงินลงทุนนั้นกระทรวงการคลังจะเป็นผู้จัดหาแหล่งเงินกู้และค้ำประกันเงินกู้ภายในประเทศให้ ร.ฟ.ท.สำหรับดำเนินโครงการทั้งในส่วนของค่าเวนคืนที่ดินและรื้อย้ายสิ่งปลูกสร้าง ค่าดำเนินการประกวดราคาค่าก่อสร้าง และค่าจ้างที่ปรึกษาควบคุมงานก่อสร้าง ดังนั้นในเรื่องงบประมาณสำหรับดำเนินโครงการนั้น ไม่น่าเป็นห่วง
สำหรับความคืบหน้าของสายประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร ระยะทาง 167 กิโลเมตรวงเงิน 17,000 ล้านบาทและสายถนนจิระ-ขอนแก่น ระยะทาง 185 กิโลเมตร วงเงิน13,010 ล้านบาท อยู่ระหว่างรอพิจารณาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม คาดว่าจะแล้วเสร็จใน 6 เดือน คาดจะประกวดราคาได้ประมาณต้นปี 2556 ซึ่งจะใช้เวลาก่อสร้าง 3 ปีเช่นเดียวกัน
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 44847
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 03/08/2012 3:10 pm Post subject:
ชาวอำเภอบ้านไผ่ ขอนำเสนอผลกระทบที่เกิดจากโครงการรถไฟรางคู่ จิระ - ขอนแก่น
เผยแพร่เมื่อ 2 ส.ค. 2012 โดย EminemshowNewlook
Back to top