Ads Service

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai.Com

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311324
ทั่วไป:13288448
ทั้งหมด:13599772
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - รวมข่าวโครงการรถไฟทางคู่
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

รวมข่าวโครงการรถไฟทางคู่
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 62, 63, 64 ... 390, 391, 392  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44847
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 22/07/2012 9:10 am    Post subject: Reply with quote

รบ.เดินหน้าพัฒนาด่านชายแดนรับ AEC- เสริมมูลค่าการค้ากับมาเลย์
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 22 กรกฎาคม 2555 11:41 น.

นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ตรวจด่านศุลกากรตามแนวชายแดนในจังหวัดภาคใต้ และพื้นที่การค้าชายแดนไทย-มาเลเซีย โดยเฉพาะบริเวณด่านสะเดา จ.สงขลา มีมูลค่าสินค้านำเข้า-ส่งออก สูงถึง 300,000 ล้านบาท และคาดว่าจะเพิ่มสูงขึ้นเป็น 400,000 ล้านบาท ในปี 2558 หลังเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ เออีซี

นายกิตติรัตน์ กล่าวว่า ปัจจุบันมีปัญหาการจราจรจากปริมาณรถบรรทุกผ่านเข้า-ออกเป็นจำนวนมาก ต้องต่อแถวรอคิวปล่อยสินค้า หลายกิโลเมตร เนื่องจากด่านศุลกากรคับแคบ จึงจำเป็นต้องขยายพื้นที่เพื่อก่อสร้างด่านศุลกากรสะเดาแห่งใหม่ บนพื้นที่ 661 ไร่ วงเงินลงทุนประมาณ 650 ล้านบาท แต่ยังมีปัญหาต้องเจรจากับชาวบ้านในพื้นที่ ซึ่งเข้าไปอาศัยเป็นเวลานานแต่เป็นที่ดินของรัฐ โดยชาวบ้านเกินครึ่งให้ความร่วมมือ คาดว่าเดินหน้าก่อสร้างได้

ส่วนการพัฒนาปรับปรุงด่านการค้าในภาคใต้ ยังมีความจำเป็นที่จะต้องเร่งพัฒนาควบคู่ไปกับโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ เพื่อรองรับการค้ากับมาเลเซีย ทั้งระบบรถไฟรางคู่ การสร้างทางมอเตอร์เวย์จากหาดใหญ่-ด่านสะเดา ระยะทาง 56 กิโลเมตร และการขยายเส้นทางจากถนนเพชรเกษม มายังท่าเรือน้ำลึกระนอง ระยะทาง 130 กิโลเมตร เพื่อรองรับการค้ากับพม่าด้านเกาะสอง และการเชื่อมโยงเส้นทางจากกรุงเทพฯ - กาญจนบุรี รองรับการสร้างท่าเรือน้ำลึกทวาย

------------

'กิตติรัตน์'ลงจ.สงขลา เร่งก่อสร้างด่านศุลกากรสะเดาแห่งใหม่
ไทยรัฐออนไลน์ 22 ก.ค. 55

Click on the image for full size
นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมคณะลงพื้นที่ด่านศุลกากรสะเดา อ.สะเดา จ.สงขลา

Click on the image for full size
รับทราบความคืบหน้าการก่อสร้างด่านศุลกากรสะเดาแห่งใหม่ รองรับการค้าชายแดนเต็มรูปแบบ และประชาคมอาเซียนในปี 2558

Click on the image for full size
นายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เดินทางมาด้วย ร่วมดูพื้นที่ 661 ไร่ก่อสร้างด่านศุลกากรสะเดาแห่งใหม่

Click on the image for full size
คณะนายกิตติรัตน์ เดินทางไปด่านปาดังเบซาร์ ดูความคืบหน้าสร้างมอเตอร์เวย์สะเดา-หาดใหญ่ มูลค่า 15,000 ล้านบาท

Click on the image for full size
เดินหน้าพัฒนาระบบโลจิสติกส์ และต้องตะลึงพบว่าประเทศมาเลเซียได้สร้างระบบรถไฟรางคู่ระบบไฮ-สปีดจ่อเข้าชายแดนไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44847
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 22/07/2012 2:38 pm    Post subject: Reply with quote

'กิตติรัตน์'เตรียมพัฒนา ด่านศุลกากรชายแดนใต้ รับปริมาณการค้าเพิ่ม
ไทยรัฐออนไลน์ 22 กรกฎาคม 2555, 13:37 น.

"กิตติรัตน์" เผยเตรียมปรับปรุงพัฒนาด่านศุลกากร 'สะเดา ปาดังเบซาร์ ท่าเรือน้ำลึกระนอง' วงเงิน 1.6-2 ล้านล้านบาท รองรับ ปี 2558 ที่ไทยจะเข้าสู่ "ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน" ภายหลังเดินทางตรวจด่านศุลกากรตามแนวชายแดนในจังหวัดภาคใต้วานนี้

วันที่ 22 ก.ค. นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีคลัง กล่าวภายหลังจากเดินทางตรวจด่านศุลกากรตามแนวชายแดนในจังหวัดภาคใต้วานนี้ (21 ก.ค.) ว่า การค้าชายแดนไทย-มาเลเซีย นับว่ามีความสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจการค้าชายแดนในภาพรวม เพราะการค้าชายแดนใต้มีมูลค่าการค้ากว่า 60% ของการค้าชายแดนทั้งหมด และมีสัดส่วนมากกว่า 15% ของการค้าทั้งประเทศ โดยเฉพาะด่านสะเดา จ.สงขลา มีมูลค่าสินค้านำเข้า-ส่งออก ในปี54 สูงถึง 3 แสนล้านบาท และคาดว่าจะเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องทุกปี ปีละไม่ต่ำกว่า 20% และเชื่อว่าจะเพิ่มเป็น 4 แสนล้านบาทได้ภายในปี 2558 หลังเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน

รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง กล่าวอีกว่า ปัจจุบันรถบรรทุกที่ผ่านเข้าออกที่ด่านพรมแดนสะเดามีปัญหาจราจรติดขัดมาก ต้องต่อแถวรอคิวการปล่อยสินค้าหลายกิโลเมตร เพราะด่านคับแคบ ดังนั้นเพื่อเป็นการพัฒนาศักยภาพของด่านให้พร้อม กรมศุลกากรจึงต้องขยายพื้นที่เพิ่มเติม โดยก่อสร้างด่านศุลกากรสะเดาแห่งใหม่ บนพื้นที่ 661 ไร่ วงเงินลงทุนประมาณ 650 ล้านบาท แต่ยังมีปัญหาต้องเจรจากับชาวบ้านในพื้นที่ ซึ่งได้เข้าไปอาศัยเป็นเวลานานแต่เป็นที่ดินของรัฐ โดยชาวบ้านเกินครึ่งให้ความร่วมมือแล้ว คาดว่าจะเดินหน้าก่อสร้างได้ เพราะเงินชดเชยให้กับชาวบ้านต้องการผ่านเงินลงทุนจากรัฐบาล ไม่ต้องดึงมาจากงบประมาณประจำ เพราะจะเกิดความล่าช้า โครงการไม่เดินหน้า

การพัฒนาปรับปรุงด่านในภาคใต้ มีทั้งด่านสะเดา ด่านปาดังเบซาร์ รวมทั้งท่าเรือน้ำลึกระนอง ซึ่งต้องเร่งพัฒนาโครงสร้างต่างๆ มารองรับการค้ากับมาเลเซียทั้งระบบรางคู่รถไฟ ทางมอเตอร์เวย์จากหาดใหญ่-ด่านสะเดา ระยะทาง 56 กิโลเมตร การพัฒนาขยายเส้นทางจากถนนเพชรเกษมมายังท่าเรือน้ำลึกระนองระยะทาง 130 กิโลเมตร รองรับการค้ากับพม่าด้านเกาะสอง และการเชื่อมโยงเส้นทางจากกรุงเทพฯ-กาญจนบุรี รองรับการสร้างท่าเรือน้ำลึกทวาย ในวันนี้ พล.อ.เต็งเส่ง ประธานาธิบดีสหภาพพม่าเดินทางมาตรวจเยี่ยมดูนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด เพื่อพัฒนานิคมอุตสาหกรรมในพม่า

"การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ จะใช้เงินจากวงเงินลงทุน 1.6-2 ล้านล้านบาท ด้วยการยกร่าง พ.ร.บ.ขึ้นมาอีกฉบับรองรับ" นายกิตติรัตน์ กล่าว


Click on the image for full size
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44847
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 26/07/2012 3:46 pm    Post subject: Reply with quote

รมช.คมนาคม เร่งพัฒนาโลจิสติกส์-โครงสร้างพื้นฐาน-แก้กฎระเบียบก่อนเปิด AEC
ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 26 กรกฎาคม 2555 15:26:55 น.

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รมช.คมนาคม กล่าวว่า ไทยจำเป็นต้องพัฒนาเส้นทางขนส่งทางบกที่มีอยู่เดิมให้มีประสิทธิภาพ อาทิ ถนน สะพานข้ามแดน และด่านการค้าชายแดนเป็นอันดับแรก ก่อนเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) เนื่องจากการพัฒนาระบบการขนส่งรางคู่ หรือ รถไฟความเร็วสูงต้องใช้ระยะเวลานาน แต่ในระยะกลางและระยะยาวจะต้องปรับไปใช้ระบบรางคู่และรถไฟความเร็วสูงมากขึ้นเพื่อลดต้นุทนโลจิสติกส์ ซึ่งต้องผลักดันให้เป็นวาระแห่งชาติ

นอกจากนี้ ต้องพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เพราะหากต้นทุนโลจิสติกส์สูง นักลงทุนก็จะไม่เข้ามาลงทุนในไทย โดยจะต้องปรับเปลี่ยนไปใช้ระบบการขนส่งทางรางให้มากขึ้นกว่าทางถนน และพิจารณาจุดเชื่อมต่อทางเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้านที่สำคัญ เนื่องจากไทยไม่สามารถพัฒนาจุดเชื่อมต่อได้ทุกจุด โดยจุดที่สำคัญอันดับหนึ่ง คือ เส้นทาง R3 เชื่อมโยง ไทย-ลาว-จีน

สำหรับการแก้ไขกฎระเบียบเพื่อรองรับ AEC ขณะนี้ได้ปรับปรุงไปบ้างแล้ว เช่น พ.ร.บ.การขนส่ง พ.ร.บ.ทางอากาศ ซึ่งคาดว่าจะเสร็จได้ภายใน 3 ปี และการเปิดเสรีทางโลจิสติกส์ ซึ่งจะทำให้มีบริการของต่างชาติมากขึ้นเพราะสามารถถือหุ้นได้ถึง 70% ผู้ประกอบการไทยก็ต้องปรับตัวให้ดีขึ้นเพื่อให้แข่งขันกับประเทศอื่นได้ แต่ประชาชนจะมีทางเลือกในการรับบริการที่ดี

อย่างไรก็ตาม ปัญหาคอร์รัปชั่นและความไม่มีเสถียรภาพทางการเมืองจะบั่นทอนความเชื่อมั่นของนักลงทุนชาวต่างชาติ ซึ่งรัฐบาลต้องเร่งดำเนินการปราบปรามคอร์รัปชั่นอย่างจริงจังตามที่ได้ประกาศนโยบายไว้ ซึ่งที่ผ่านมากระทรวงคมนาคมได้พยายามต่อรองโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ให้ปรับราคาลดลงได้ไม่ต่ำกว่า 10%
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44847
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 29/07/2012 10:06 pm    Post subject: Reply with quote

กรอ.ชงเมกะโปรเจคท์เข้าครม.พรุ่งนี้
เนชั่นทันข่าว 29 ก.ค. 55 20.57 น.

กรอ.ชงเมกะโปรเจคท์เข้าครม.พรุ่งนี้ "ขยายถนนอีสาน-สร้างรถไฟรางคู่-ยกระดับสนามบินอุบล"

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในการประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนภูมิภาค(กรอ.) ครั้งที่ 6/2555 ที่ห้องรัตนสุวรรณ โรงแรมทองธารินทร์ อ.เมือง จ.สุรินทร์ โดยมี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในการประชุม ซึ่งมติที่ประชุมกรอ.จะถูกนำเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)อีกครั้งในวันพรุ่งนี้(30ก.ค.)ในการประชุมครม.นอกสถานที่หรือครม.สัญจรครั้งที 6 ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ โดยที่ประชุมมีการเสนอโครงการจาก 4 ด้าน ได้แก่
1.ด้านการส่งเสริมและการลงทุน
2.ด้านการพัฒนาโครงข่ายคมนาคมและระบบโลจิสติกส์
3.ด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ และ
ด้านที่ 4 คือด้านการส่งเสริมการท่องเที่ยวและบริการ

1.ด้านการส่งเสริมและการลงทุน ประกอบด้วย 2 เรื่องได้แก่
โครงการศึกษาวิจัยนครราชสีมา : เมืองศูนย์กลางเศรษฐกิจในอนุภาค และ
โครงการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษอุตสาหกรรมแปรรูปสินค้าเกษตรชายแดน ที่ อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์

2.ด้านการพัฒนาโครงข่ายคมนาคมและระบบโลจิสติกส์ ประกอบด้วย 3 เรื่องคือ
1.การพัฒนาและขยายเส้นทางการจราจร ที่แยกย่อยออกเป็น10เรื่อง ได้แก่
(1) โครงการก่อสร้างขยายทางหลวงหมายเลข304 สายอ.กบินทร์บุรี-อ.ปักธงชัย 2ช่วง
(2) การเร่งรัดโครงการสร้างถนนเลี่ยงเมืองจ.สุรินทร์ ระยะทาง 21.30 กิโลเมตร
(3)โครงการขยายเส้นทางจราจรทางหลวงหมายเลข205 (โนนไทย-หนองบัวโคก ระยะทาง 31กิโลเมตร เป็น4ช่องจราจร
(4) โครงการขยายทางหลวงหมายเลข201 ช่วงอ.สีคิ้ว -อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา -บ้านแปรง ต.หนองบัวโค ก อ.จัตุรัส จ.ชัยภูมิ ระยะทาง 52 กิโลเมตร เป็น4ช่องจราจร
(5) การเร่งรัดโครงการขยายทางหลวงหมายเลข 24 อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ - อ.เดชอุดม จ.อุบลราชธานี เป็น4ช่องจราจร ตลอดทั้งเส้น
(6) โครงการขยายช่องทางจราจรของจ.สุรินทร์ จาก2ช่องจราจร เป็น4ช่องจราจรจำนวน 3 เส้นทาง เพื่ออำนวยความสะดวกการเชื่อมโยงระหว่างจังหวัด และกับประเทศเพื่อนบ้าน(กัมพูชา)
(7) การขยายทางหลวงหมายเลข226 อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครราชสีมา -บ้านหนองกระทิง จ.บุรีรัมย์ ช่วง ก.ม. 22+100 ถึง ก.ม. 78+700
(8) โครงการก่อสร้างวงแหวนรอบเมือง จ.นครราชสีมา ตอน2(ด้านเหนือ)
(9) โครงการพัฒนาเส้นทางคมนาคมแบบ4ช่องจราจรโดยรถยนต์จาก อ.เสนางคนิคม ถึง อ.ขานุมาน จ.อำนาจเจริญ(ชายแดนสปป.ลาว) ระยะทาง 50 ก.ม. และ
(10) โครงการปรับปรุงช่องการจราจร เส้นทางหมายเลข 2201 (บ้านนาเจริญ-บ้านละลม-บ้านแชร์ไปร์ อ.ภูสิงห์-ช่องสะงำ จ.ศรีษะเกษ เพื่อเชื่อมโยงไปยังประเทศเพื่อนบ้าน
2.โครงการก่อสร้างเส้นทางรถไฟรางคู่ นครราชสีมา -บุรีรัมย์-สุรินทร์-ศรีษะเกษ -อุบลราชธานี ให้แล้วเสร็จในปี2562 และ
3.โครงการยกระดับสนามบินอุบลราชธานี เป็นศูนย์กลางการบินอินโดจีน

3.ด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ประกอบด้วย 2 เรื่อง ได้แก่
โครงการอ่างเก็บน้ำโป่งขุนเพชร จ.ชัยภูมิ และ
โครงการพัฒนาลุ่มน้ำชีตอนบน เขื่อนชีบน และเขื่อนยางนาดี จ.ชัยภูมิ
และด้านที่4 คือด้านการส่งเสริมการท่องเที่ยวและบริการ ประกอบด้วย 3 เรื่อง ได้แก่
1.ขอสนับสนุนและส่งเสริมการดำเนินโครงการ "นำช้างคืนถิ่น" และ "คชอาณาจักร" เพื่อให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว ที่สำคัญของประเทศ
2.พัฒนาพื้นที่ป่าเสื่อมโทรมในเขตอำเภอวังน้ำเขียวให้เป็นสวนพฤกษศาสตร์เพื่อการเรียนรู้ และ
3. ส่งเสริมเส้นทางการท่องเที่ยวเชื่อมโยงอีสานใต้กับประเทศเพื่อนบ้าน
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44847
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 29/07/2012 10:22 pm    Post subject: Reply with quote

กรอ.ย่นแผนสร้างรถไฟรางคู่ "โคราช-อุบล" ชงครม.ดัน จันทร์นี้
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 29 กรกฎาคม 2555 21:56 น.

กรอ.ดันรถไฟรางคู่ 3.9 หมื่นล้าน โคราช-อุบล เชื่อมเขมร พัฒนาการค้าอีสานตอนล่าง พร้อมไฟเขียวปรับปรุงเส้นทางโลจิสติก 10 เส้น วงเงิน 1.8 หมื่นล้านบาท เข้าครม.พรุ่งนี้ เล็งยกระดับ 3 จุดผ่อนปรนเขื่อมเพื่อนบ้าน ส่งเสริมการค้าชายแดน

วันนี้(29 ก.ค.) ที่โรงแรมทองธารินทร์ จ.สุรินทร์ นายจารุพงษ์ เรืองสุวรรณ รมว.คมนาคม แถลงภายหลังการประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ (กรอ.) ภูมิภาค โดยมีน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ว่า ที่ประชุมกรอ. เห็นชอบให้เร่งรัดการสร้างรถไฟทางคู่ เส้นทางนครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี ระยะทางประมาณ 300 กิโลเมตร วงเงินค่าก่อสร้างประมาณ 39,000 ล้านบาท ให้แล้วเสร็จในปี 62 เร็วกว่าแผนที่กำหนดไว้ในปี 68 หลังจากที่การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ได้ทำการศึกษาไว้เสร็จสิ้นแล้ว ซึ่งเส้นทางดังกล่าวจะช่วยสนับสนุนระบบการขนส่งของภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างได้สะดวกขึ้น ลดต้นทุนให้กับผู้ประกอบการขนส่งสินค้าและประชาชนจะไม่เสียเวลาในการเดินทางมากเหมือนในอดีต

นอกจากนี้ กรอ.ยังเห็นชอบการพัฒนาโครงข่ายคมนาคมทางถนนจำนวน 10 โครงการ วงเงิน 18,000 ล้านบาท โดยมีโครงการหลักๆ เช่น โครงการก่อสร้างเส้นทางถนนเลี่ยงเมืองจังหวัดสุรินทร์ระยะทาง 7.6 กิโลเมตร การขยายทางหลวงจาก 2 ช่องเป็น 4 ช่องจราจร และโครงการปรับปรุงช่องจราจรโดยเฉพาะสาย 2201 ที่จังหวัดศรีสะเกษ เพื่อเชื่อมโยงไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ขณะเดียวกันยังเห็นชอบในการพัฒนาโครงข่ายคมนาคมทางอากาศโดยเฉพาะโครงการยกรับดับสนามบินอุบลราชธานีเป็นศูนย์กลางของอินโดจีน เพื่อรองรับการเป็นประชาคมอาเซียนในปี 58

กรอ.เห็นชอบการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำทั้ง การผลักดันการก่อสร้างโครงการอ่างเก็บน้ำโป่งขุนเพชร จังหวัด ชัยภูมิให้แล้วเสร็จในปี 57 เพื่อเป็นแหล่งน้ำให้กับการใช้น้ำตามลำน้ำชี ซึ่งมีการเพาะปลูกเป็นจำนวนมากและเห็นชอบให้มีการเร่งรัดโครงการพัฒนาลุ่มน้ำชีตอนบนเขื่อนชีบน และเขื่อนยางนาดีจังหวัดชัยภูมิให้แล้วเสร็จโดยเร็วโดยผ่านการศึกษาผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมเสร็จเรียบร้อยแล้ว ซึ่งจะมีการพิจารณาทบทวนค่าเวรคืนที่ดินแก่ประชาชนในพื้นที่ที่เหมาะสมด้วย

รวมถึงเห็นชอบให้มีการสนับสนุนงบประมาณ จำนวน 20 ล้านบาท เพื่อศึกษาวิจัยโครงการนครราชสีมาเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจใหม่ในภูมิภาค โดยมอบหมายให้กรมโยธาธิการและผังเมืองศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการ พร้อมเตรียมให้มีการศึกษาความเป็นไปได้ในโครงการจัดตั้งเขตเศรพิเศษอุตสาหกรรมแปรรูปสินค้าเกษตรชายแดนที่อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ ให้การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ทำการศึกษาต่อไป

ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวข้างต้นที่ประชุมกรอ.เห็นชอบให้นำเสนอเข้าสู่ที่ประชุมครม.เพื่อให้มีมิตเห็นชอบในวันที่ 30 ก.ค.ต่อไป

ด้าน นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวเสริมว่า ที่ประชุมได้พิจารณาในส่วนของการส่งเสริมการค้าชายแดน ซึ่งเป็นเรื่องที่มีการพิจารณามาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อครั้งการประขุม กรอ.ครั้งที่ 5 ที่ จ.ชลบุรี โดยมีการเสนอให้ยกระดับจุดผ่อนปรนให้เป็นด่านชายแดนถาวร จำนวน 3 แห่ง ได้แก่ จุดผ่อนปรนช่องสายตะกู จ.บุรีรัมย์ เชื่อมต่อประเทศกัมพูชา จุดผ่อนปรนบ้านยักษ์คุ จ.อำนาจเจริญ เชื่อมต่อประเทศลาว และจุดผ่อนปรนช่องตาอู จ.อุบลราชธานี เชื่อมต่อประเทศลาว โดยที่ประชุมได้มอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศ และหน่วยงานความมั่นคงทำการศึกษารายละเอียดเพื่อนำเสนอเข้าสู่ที่ประชุม ครม.ต่อไป
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Tohoku_Line
3rd Class Pass
3rd Class Pass


Joined: 08/04/2010
Posts: 193
Location: Bangkok/Ubonratchathani

PostPosted: 30/07/2012 1:09 am    Post subject: Reply with quote

สาธุ ถ้าเร่งมือทำจริงนี่ดีเลย รถโดยสารเส้นทางนี้ก็เยอะพอสมควร
แถมบอกการศึกษาโครงการก่อสร้างก็ทำเรียบร้อยแล้ว ถ้ามีเงินทุนและตั้งใจจะทำจริงก็คงเริ่มได้ในอีกไม่นาน

อีกอย่างถ้า รฟท ทำทางคู่เสร็จก็น่าจะชักชวนผู้ประกอบการขนส่งในพื้นที่หันมาขนส่งทางรถไฟไปเลย ใช้ตัวจังหวัดหรือสถานีระดับอำเภอใหญ่ๆเป็นจุดรับ-ส่งกระจายสินค้า
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42785
Location: NECTEC

PostPosted: 01/08/2012 10:49 am    Post subject: Reply with quote

ผู้ว่าประชุมฟังแผน รถไฟรางคู่ นครปฐม – หัวหิน
ข่าว/ภาพ : คนอาสาฯ
ข่าวหัวหิน
วันพฤหัสบดีที่ 12 กรกฏาคม 2012 เวลา 15:40 น.
เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 11 ก.ค. ที่ผ่านมา นายวีระ ศรีวัฒนตระกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นประธานในการประชุมรับฟังสรุปแผนการก่อสร้างทางรถไฟรางคู่ นครปฐม – หัวหิน โดยมี 4 บริษัทที่รับเหมาเป็นผู้บรรยาย

การประชุมในครั้งนี้สืบเนื่องจากคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบด้านการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานของการรถไฟแห่งประเทศไทย ซึ่งแผนการลงทุนดังกล่าวได้รวมถึงการพัฒนาโครงข่ายระบบรถไฟรางคู่ (ระยะเร่งด่วน) สายนครปฐม – หัวหิน ดังนั้นทางด้านบริษัทผู้รับเหมาในด้านสำรวจและออกแบบจึงได้ลงพื้นที่เพื่อรับฟังคำแนะนำจากทุกภาคส่วนเพื่อเป็นแนวทางในการศึกษาความเหมาะสมและสามารถออกแบบเบื้องต้นระบบรถไฟรางคู่ เพื่อการขนส่งและการจัดการโลจิสติกส์ ระยะที่ 1 หลังจากสำรวจเสร็จเรียบร้อยแล้วก็จะสรุปรายงานส่งให้การรถไฟแห่งประเทศไทยต่อไป

สำหรับแผนการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานของการรถไฟแห่งประเทศไทย ระยะเร่งด่วย พ.ศ. 2553 – 2557 ได้ใช้งบประมาณถึง 176 ล้านบาทเศษ โดยได้จัดทำเป็นรถไฟรางคู่ ในหลายเส้นทาง และเส้นทาง นครปฐม – หัวหิน ก็เป็นอีก 1 เส้นทางที่ได้รับการอนุมัติให้ดำเนินการสำรวจแลก่อสร้าง คาดว่า จะใช้เวลาในการสำรวจประมาณ 6 เดือน หลังจากนั้นก็จะเสนอให้ก่อนสร้างเป็นลำดับต่อไป.
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44847
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 03/08/2012 10:38 am    Post subject: Reply with quote

รถไฟทางคู่เข้าบอร์ด 10 ส.ค.
หนังสือพิมพ์บ้านเมือง -- ศุกร์ที่ 3 สิงหาคม 2555 00:00:10 น.

นางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม และในฐานะประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยภายหลังจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติและผ่านการพิจารณาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) แล้ว ซึ่งขณะนี้ รฟท.อยู่ระหว่างจัดเตรียมเอกสารการประกวดราคาโครงการรถไฟทางคู่สายฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย ระยะทาง 106 กิโลเมตร วงเงิน 11,348 ล้านบาท โดยคาดว่าผู้บริหารของ รฟท.จะรายงานให้ที่ประชุมบอร์ด รฟท.รับทราบในวันที่ 10 ส.ค.นี้ หลังจากนั้นจึงจะสามารถดำเนินการตามขั้นตอนประกวดราคาต่อไป อย่างไรก็ตามจะใช้เวลาก่อสร้าง 3 ปี ทั้งนี้รถไฟทางคู่สายดังกล่าวจะเป็นเส้นทางที่เชื่อมต่อกับสายฉะเชิงเทรา-แหลมฉบังระยะทาง 79 กิโลเมตร ที่ก่อสร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยจะช่วยให้ภาคการขนส่งสินค้า และการให้บริการมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เนื่องจากจะสามารถใช้ความเร็วได้ถึง 100-120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เพราะไม่มีจุดตัด และการจอดเพื่อรอหลีกเหมือนในปัจจุบัน

สำหรับการโครงการรถไฟทางคู่ในเส้นทางต่างๆ นั้น หากก่อสร้างแล้วเสร็จก็จะช่วยแก้ไขปัญหาจุดตัดของรถไฟไปพร้อมกัน เนื่องจากมีการออกแบบให้สอดรับกลับการเดินทาง โดยรถไฟจะวิ่งได้โดยไม่มีจุดตัดหรือการรอหลีก ซึ่งจะปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ส่วนหัวรถจักรที่จะนำมาให้บริการหลังการก่อสร้างแล้วเสร็จ รฟท.ได้สั่งซื้อไปแล้ว จะส่งมอบในล็อตแรกได้ประมาณปลายปี 2556 โดยจะเอาไปใช้ในเส้นทางฉะเชิงเทรา-แหลมฉบังก่อน หลังจากนั้นก็จะทยอยนำไปให้บริการในเส้นทางอื่นๆ
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44847
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 03/08/2012 12:38 pm    Post subject: Reply with quote

ร.ฟ.ท.เร่งเปิดประมูลรถไฟทางคู่ฉะเชิงเทรา-แก่งคอย วงเงิน 11,348 ล้านบาท
ฐานเศรษฐกิจ วันศุกร์ที่ 03 สิงหาคม 2012 เวลา 11:01 น.

นางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม ในฐานะประธานคณะกรรมการ(บอร์ด) การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยว่า ในที่ประชุมบอร์ด ร.ฟ.ท. วันที่ 10 สิงหาคมนี้ คาดว่าจะมีการรายงานความคืบหน้าโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่สายชายฝั่งทะเลตะวันออก ช่วงฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย พร้อมทางคู่ เลี่ยงเมือง(Chord Lines) จำนวน 3 แห่ง ระยะทาง 106 กิโลเมตร วงเงิน11,348 ล้านบาท ซึ่ง ร.ฟ.ท.อยู่ระหว่างจัดเตรียมเอกสารการประกวดราคาโครงการ หลังจากได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี(ครม.) และผ่านการพิจารณาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) แล้ว โดยคาดว่าจะเปิดประกวดราคาได้เร็วๆ นี้ และตามแผนจะใช้เวลาก่อสร้าง 3 ปี

"การประกวดราคาคงจะเป็นในลักษณะเปิดให้รายเดียวดำเนินการทั้งหมด ส่วนแหล่งเงินลงทุนก็คงต้องให้กระทรวงการคลังเป็นผู้ค้ำ และสำนักงบประมาณเป็นผู้จัดหาแหล่งเงินให้ จึงไม่น่าเป็นห่วงในเรื่องของงบประมาณดำเนินโครงการ"นางสร้อยทิพย์กล่าว

สำหรับแนวเส้นทางรถไฟทางคู่ สายฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย จะเชื่อมต่อกับรถไฟทางคู่สายฉะเชิงเทรา-แหลมฉบัง ระยะทาง 79 กิโลเมตร ซึ่งขณะนี้ได้ดำเนินการก่อสร้างเสร็จแล้ว ซึ่งจะช่วยให้การขนส่งสินค้าและการให้บริการมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะจะใช้ความเร็วได้ประมาณ 100-120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เนื่องจากไม่มีจุดตัดกับถนน และไม่ต้องเสียเวลาจอดเพื่อรอสับหลีกกันเหมือนในปัจจุบัน

ส่วนการประกวดราคา จะเป็นในลักษณะเปิดคัดเลือกผู้รับเหมาเพียงรายเดียวดำเนินการทั้งหมด ส่วนแหล่งเงินลงทุนนั้นกระทรวงการคลังจะเป็นผู้จัดหาแหล่งเงินกู้และค้ำประกันเงินกู้ภายในประเทศให้ ร.ฟ.ท.สำหรับดำเนินโครงการทั้งในส่วนของค่าเวนคืนที่ดินและรื้อย้ายสิ่งปลูกสร้าง ค่าดำเนินการประกวดราคาค่าก่อสร้าง และค่าจ้างที่ปรึกษาควบคุมงานก่อสร้าง ดังนั้นในเรื่องงบประมาณสำหรับดำเนินโครงการนั้น ไม่น่าเป็นห่วง

สำหรับความคืบหน้าของสายประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร ระยะทาง 167 กิโลเมตรวงเงิน 17,000 ล้านบาทและสายถนนจิระ-ขอนแก่น ระยะทาง 185 กิโลเมตร วงเงิน13,010 ล้านบาท อยู่ระหว่างรอพิจารณาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม คาดว่าจะแล้วเสร็จใน 6 เดือน คาดจะประกวดราคาได้ประมาณต้นปี 2556 ซึ่งจะใช้เวลาก่อสร้าง 3 ปีเช่นเดียวกัน
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44847
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 03/08/2012 3:10 pm    Post subject: Reply with quote

ชาวอำเภอบ้านไผ่ ขอนำเสนอผลกระทบที่เกิดจากโครงการรถไฟรางคู่ จิระ - ขอนแก่น


เผยแพร่เมื่อ 2 ส.ค. 2012 โดย EminemshowNewlook
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 62, 63, 64 ... 390, 391, 392  Next
Page 63 of 392

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©